Chapter13 ผ้าคลุมขนนกแดง
ณ ห้องรับรองในเขตพระราชฐานชั้นใน เนริมอร์กำลังเดินกลับไปกลับมาอย่างกระวนกระวายใจยิ่งนัก ใบหน้าของนางดูหมองคล้ำอิดโรย
ท่านมหาอำมาตย์นาริส ขอเข้าเฝ้า เสียงประกาศของทหารยามหน้าประตูดังขึ้น
อำมาตย์เฒ่าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วพลางโค้งคำนับ
ทรงเรียกให้เข้าเฝ้าเป็นการด่วน...
ท่านนาริส จริงรึที่ว่าซาดินบุกถ้ำวงกตนั่นสำเร็จแล้วและกำลังขนสมบัติทั้งหมดกลับมา เนริมอร์รีบเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
พ่ะย่ะค่ะ
หมายความว่า... เนริมอร์สีหน้าตื่นตระหนกไม่กล้าแม้จะเอ่ยคำพูดนั้นออกมา
หม่อมฉันพยายามประวิงเวลาอย่างที่สุดแล้วพระนาง และคงมิอาจประวิงเวลาต่อไปได้อีกแล้ว
ไม่นะ! อิสฮานยังไม่แปดขวบดีเลยด้วยซ้ำ จะให้ข้าทิ้งลูกไปได้อย่างไรกัน ท่านนาริสโปรดประวิงเวลาต่อไปอีกสักหน่อยเถิด ขอให้ข้าได้มีเวลาอยู่กับลูกอีกสักนิด...
อำมาตย์เฒ่าได้แต่ส่ายหน้า
ท่านนาริส ลูกชายข้าช่างอาภัพนัก มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้ากษัตริย์ผู้คนต่างเคารพรักยกย่องสรรเสริญกันทั่วหล้า ทรัพย์สมบัติต่างๆก็มีมากกว่าเด็กในวัยเดียวกันเหลือคณานับ แต่ความรักที่เรียบง่ายและอบอุ่นที่สุดเขากลับได้รับเพียงครึ่งเดียว มีพ่อก็เหมือนไม่มี ข้ารู้ดีว่าท่านก็รักอิสฮานราวกับเป็นลูกเป็นหลานของท่านคนหนึ่ง ท่านทนเห็นอิสฮานที่น่าสงสารต้องขาดแม่ไปอีกคนได้เชียวหรือ บิดาเปรียบดั่งผืนฟ้า มารดาเปรียบดั่งแผ่นดิน แม้ฟ้าจะดับชีวิตก็ยังคงดำรงอยู่ได้ แต่หากแผ่นดินม้วยแล้ว ชีวิตจะยังคงดำรงอยู่ได้อย่างไร ท่านอย่าให้ลูกข้าต้องขาดแม่ไปอีกคนเลย
พระนาง มิใช่ว่าข้าจะใจจืดใจดำไม่ช่วยเหลือท่าน หากแต่ว่าข้าได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว
แต่มันยังไม่ดีพอ ท่านเป็นถึงมหาอำมาตย์ใหญ่...
ท่านเนริมอร์ การตระเตรียมการในส่วนต่างๆนั้นพร้อมสรรพจนแทบจะเกินความจำเป็นแล้วเสียด้วยซ้ำ จะเหลือก็แต่สมบัติที่จะนำมาซื้ออาวุธและเสบียงเท่านั้น ท่านเองก็ทราบดีมิใช่หรือ
เนริมอร์กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อคลอขึ้น ข้ามีเวลาเหลืออีกเท่าไหร่
หลังจากที่ฝ่าบาทกลับมาอย่างน้อยสองอาทิตย์ อย่างมากก็ไม่ถึงหนึ่งเดือน
ไม่!! มันเร็วเกินไป เนอริเมอร์ดวงตาเบิกกว้าง นางแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
ไม่มากไปกว่านี้แล้วพระองค์
หึหึ ท่านหยอกข้าเล่นใช่หรือไม่ เนริมอร์พยายามเค้นเสียงหัวเราะกลบเกลื่อนความตะหนก แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของอำมาตย์แล้ว รอยยิ้มของนางก็ค่อยๆเลือนหายไป เนริมอร์ส่ายหน้าช้าๆดวงตาเบิกกว้าง ปากขยับเหมือนจะพูดแต่กลับไม่มีเสียงใดๆเล็ดรอดออกมา
ลูกแม่... พูดได้เพียงเท่านั้นเนริมอร์ก็รีบวิ่งถลาไปผลักประตูห้องรับรองออกอย่างรวดเร็ว พระโอรสอยู่ที่ไหน รีบนำตัวพระโอรสมาหาเราเดี๋ยวนี้!!
ณ อุทยานกลางพระราชวังแห่งซาโลม พระโอรสองค์น้อยกำลังเดินไปตามทางที่ปูด้วยแผ่นหินลวดลายแปลกตาอยู่พระองค์เดียว สีหน้าดูซึมเศร้าหงอยเหงา อิสฮานกัดริมฝีปากล่างแน่น ดวงตาคมคู่น้อยจ้องมองแต่ปลายเท้าตนเองที่ย่างก้าวกึ่งกระโดดไปตามลวดลายของแผ่นหิน เด็กน้อยมองไปยังอุทยานอีกฟากก็ทันได้เห็นทหารยามสองนายเดินลาดตระเวนอยู่ไกลๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว
พวกเจ้า มาเล่นกับเราหน่อยสิ
ทหารทั้งสองสะดุ้งสุดตัว ต่างมองหน้ากันไปมา พระอาญามิพ้นเกล้า ข้าพระองค์มิบังอาจ
โอรสน้อยยิ้มให้อย่างมีความหวัง ดวงตาคมพราวระยับ
มาเถิด ไม่เป็นไร เราไม่ว่าอะไรพวกเจ้าหรอก อยู่เป็นเพื่อนเล่นกับเราก่อนนะ ไม่มีใครเล่นกับเราเลย
ทหารทั้งสองมองหน้ากันอีกครั้ง สีหน้าเริ่มตึงเครียด ฝ่าบาทได้โปรดเถิด พวกข้าพระองค์มีหน้าที่ต้องเดินเวรยาม หากไม่รีบกลับไปรายงานตัวกับนายทวารใหญ่แล้ว...