Chapter 6 เตรียมการรบ
เป็นเวลาโพล้เพล้แล้วเมื่อ ซาดิน กลับจากการออกว่าราชการและกำลังอยู่ในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนฉลองพระองค์ เหล่านางกำนัลต่างก็ช่วยกันเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เจ้าเหนือหัว บัดนี้กษัตริย์แห่งซาโลมอยู่ในชุดเสื้อขาวแขนยาวเนื้อดีที่ปล่อยชายยาวเกือบจรดพื้น มีผ้าแพรสีดำนิลขลิบทองเป็นลวดลายสวยงามคาดเอวอยู่ ที่ศีรษะมีผ้าโพกหัวสีดำประดับด้วยอัญมณีสีแดงสดอยู่ตรงกลางดูสง่าน่าเกรงขาม
ขณะที่ซาดินกำลังสวมเสื้อคลุมสีดำดิ้นทองอยู่ ก็เป็นเวลาเดียวกับที่ทหารองครักษ์เข้ามาทูลว่า นาริส สุไลมาน กำลังรออยู่ที่ห้องรับรองชั้นในเพื่อขอเข้าเฝ้า กษัตริย์หนุ่มออกจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ นาริส ขอเข้าเฝ้าในยามนี้ หากแต่ก็ทรงออกไปพบแต่โดยดี
ณ ห้องรับรองชั้นใน มหาอำมาตย์ใหญ่กำลังยืนมองแผนที่ของจักรวรรดิซาโลมที่แขวนไว้บนผนังด้านหนึ่งด้วยสีหน้าครุ่นคิดอยู่ เสียงทหารยามก็ประกาศการมาถึงของ ซาดิน นาริส โค้งตัวลงคำนับระหว่างที่ ซาดิน เดินเข้ามาในห้อง
ตามสบาย ท่าน นาริส ซาดิน กล่าวพลางนั่งลงบนเก้าอี้ทองคำ
ขอบพระทัยฝ่าบาท
เมื่อ นาริส สุไลมาน เงยหน้าขึ้นก็เห็นเครื่องแต่งกาย ซาดิน ซึ่งบ่งบอกว่ากษัตริย์หนุ่มกำลังจะไปหาความสำราญในฮาเล็มนั้นเอง นาริส จึงโค้งอีกครั้งกล่าวว่า ขอประทานอภัยฝ่าบาท ที่มาเข้าเฝ้าในเวลาที่พระองค์จะไปผ่อนคลายอิริยาบถเช่นนี้
ไม่เป็นไร ท่านนาริส วันนี้ข้าไปที่นั้นเร็วกว่าเวลาปรกติอยู่สักหน่อย ว่าแต่ท่านมีกิจด่วนสำคัญอันใดจึงมาพบข้ากะทันหันเช่นนี้หรือ
หม่อมฉันมีเรื่องจะกราบทูล หากแต่มิใคร่สะดวกที่จะกราบทูลในท้องพระโรง จึงต้องมาขอเข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์
เรื่องอะไรหรือ
เกี่ยวกับ พระนางเนริมอร์ ฝ่าบาท
พระองค์ทรงทราบปฏิกิริยาของพระนางแล้ว?
ใช่ ข้ารู้แล้ว ซาดินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
มหาอำมาตย์หยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสร้งสงสัย ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่พระนางแต่งงานกับพระองค์ด้วยวัยเพียง 10 ชันษา พระนางก็มิเคยขัดคำสั่งพระองค์แม้เพียงสักครั้งมิใช่หรือ หน้าที่การงานต่างๆพระนางก็มิเคยบกพร่อง ครั้งนี้คงถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดา
ซาดินยิ้มเล็กน้อย มองมายังมหาอำมาตย์ผู้เป็นเสมือนญาติสนิทคนเดียวที่เหลืออยู่ กล่าวตอบเหมือนรู้ความนัย
ท่านมีอะไรก็พูดมาเถอะ ท่านนาริส ข้าเห็นท่านมาตั้งแต่จำความได้ น้ำเสียงกับสีหน้าแบบนั้นมันแปลว่าท่านเริ่มจะวาดลีลาวาทศิลป์ให้ข้าเวียนหัวอีกแล้วนะ
..หึหึ
นาริส สุไลมาน ยิ้ม ก็เหมือนกับที่หม่อมฉันทราบว่าที่จริงท่านก็กังวลเรื่องของพระนางอยู่ไม่น้อย แต่กลับเงียบเฉยเสีย
ซาดินหรี่ตา และพยักหน้าเล็กน้อยท่านรีบเข้าเรื่องของท่านเถอะ นาริส
ฝ่าบาทเองก็ทราบดีว่าหม่อมฉันจะพูดอะไร พระนางเนริมอร์ มีสิ่งสำคัญในชีวิตของพระนางอยู่ และเป็นสิ่งเดียวที่นางจะยอมไม่ได้ที่จะเสียมันไปแม้วินาที หม่อมฉันยังจำได้ ในงานถวายราชบรรณาการของแคว้น มาชฮา ทางตะวันตก ที่ได้ขึ้นชื่อเรื่องเพชรนิลจินดาและแพรพรรณอันงดงาม แม้แต่นางสนมกำนัล เพียงได้เห็นก็นัยน์ตาลุกวาวตื่นเต้นตามประสาอิสตรี แต่ พระนางเนริมอร์ กลับหันหน้าไปทางห้องบรรทมของพระโอรสตลอดเวลา และยังเสด็จออกจากงานไปหาพระโอรสถึง 3 ครั้ง ซ้ำยังเสด็จออกไปก่อนงานจะจบลง ในชีวิตหม่อมฉัน หม่อมฉันพบเห็นความรักของแม่และลูกมามาก แต่ พระนางเนริมอร์ นั้นใครที่เห็นก็คงอดตื้นตันไม่ได้
ความอ่อนไหวเกินกว่าเหตุของอิสตรี ซาดิน กล่าวพลางทอดสายตาออกไปไกลนอกหน้าต่าง ท่านจะให้ข้ายึดเอาเรื่องอันไร้สาระนี้เป็นสิ่งร่วมในการตัดสินใจการศึกงั้นหรือ
ฝ่าบาท
..
ซาดิน ยกมือห้าม พอเถอะ ท่านนาริส ไว้คุยเรื่องนี้ทีหลังแล้วกัน ท่านกำลังจะทำให้ข้าหมดอารมณ์กับความสำราญในฮาเร็ม