เนื้อเรื่องย่อ ep 10

[Nihil]

                            เนื้อเรื่องใน episode 10 นี้ เป็นเนื้อเรื่องที่ต่อจาก episode ที่ 9 หรือภาค Ekklesia   หลังจากที่ 4 Nagas โดดไป episode 15 และ ชุด Merrisia ทั้ง 2 เป็นการกล่าวทั่วๆไปถึงโลกทัศน์ของทวีปเมอริเซีย    episode 10 นี้จะเป็นชุดปกติที่มีเรื่องราวจริงๆต่อจาก episode 9 ชุด Ekklesia เสียที   สงครามแบ่งแยก 4 อาณาจักรที่เริ่มตั้งแต่ episode ที่ 8 จะได้รับบทสรุปในภาคนี้   เนื้อเรื่องของ episode ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการต้องการขยายอำนาจของอาณาจักรซาโลมที่เป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นในทวีปเมอริเซีย  และหลังสงครามอันยาวนานบลาสเซจกลับยึดอำนาจขึ้นแทนด้วยการใช้เดมอนบลัดใส่แผลของกษัตริย์ซาดีน และให้แต่งตั้งตนเป็นจอมทัพและผู้สำเร็จราชกาลแทนก่อนที่จะสิ้นชีวิตลง  แต่พอภายหลังเนอริเมอร์รู้ความจริงก็เปิดฉากปะทะกับบลาสเซจ ระหว่างการต่อสู้อิสฮานมาช่วยด้วยด้วยการพยายามย้ายพลังของบลาสเซจมาที่ตนแต่ตนไม่สามารถรับได้ เนอร์ริเมอร์เห็นท่าไม่ดีจึงส่งบุตรของตนไปที่ปลอดภัยด้วยพลังของสมบัติโบราณ ส่วนตนมาแลกชีวิตกับบลาสเซจ แต่บลาสเซจ
                            กลับทำสัญญากับปีศาจและกลับมาในฐานะจักพรรดิมารปกครองซาโลมอย่างโหดเหี้ยม ส่วนนาริส สุไลมาน ก็ถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ทรยศต้องระเห็จระแหนไปอยู่ในทะเลทราย ทางฝ่ายอิสฮานไปรู้สึกตัวอีกทีที่ป่าในฟูดินันและได้รับการช่วยเหลือจากวานาอัน ส่วนฝ่ายแอนดิซองเจ้าหญิงอลาน่าประกาศสละราชสมบัติและออกบวชเป็นซิสเตอร์ในคณะของแม่ชีโรซาน่าเพื่อออกช่วยเหลือคนจากภัยสงคราม จังหวะเดียวกันนั้นเองวิโอเรียก็ร่วมมือกับสมาพันธ์พ่อค้าและทางศาสนจักร แต่งงานกับอองเดร และได้ประกาศตนเป็นรัชทายาทคนใหม่ของแอนดิซอง แอนดิซองประกาศเข้าร่วมสงครามร่วมกับฟีเลเซียเพื่อต่อต้านซาโลมกับการก่อตั้งทัพศาสนจักรนาม Ekklesia ขึ้นมาเพื่อเข้าร่วมในศึกสงครามครั้งใหญ่ที่มีปีศาจมาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้เทวดามิอาจนิ่งเฉยต้องมาร่วมในศึกครั้งนี้ด้วย

���                            ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเนื้อเรื่องที่ผ่านมาจนถึงภาค Ekklesia นั่นเองครับ สำหรับ episode 10 ที่มีชื่อว่า Neo prophet นี้เรื่องราวก็จะดำเนินต่อจากภาค Ekklesia แต่หัวใจสำคัญของภาคนี้จะอยู่ที่การเดินทางของ Ishan ในฐานะประกาศกหรือ Prophet ผู้นำความเชื่อใหม่ ศาสนาใหม่ และ แสงแห่งความหวังครั้งใหม่ที่จะไปสาดส่องในใจของคนทุกผู้โดยเฉพาะคนในประเทศของตน การเดินทางของอิสฮานเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีนิมิตหนึ่งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า คือ มีแกะมีปีกเป็นสีรุ้งบินผ่านจากท้องฟ้าด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง นาซาอีได้ทำนายถึงนิมิตนี้ว่เป็นสารที่บอกว่าจักมีดวงอาทิตย์ดวงใหม่ส่องสว่างขึ้นมาจากทิศตะวันออก คือ ทิศที่แกะนั้นมุ่งหน้าไป ซึ่งทิศนั้นเป็นทิศที่ตั้งของอาณาจักรลาซาลนั่นเอง

                            จากคำทำนายนี่เองการเดินทางของอิสฮานสู่ลาซาลจึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยอิสฮานได้ไปบอกเรื่องเจตนาของตนที่จะออกเดินทางในครั้งนี้กับทางฟีเลเซีย แต่เกรเกอรี่ก็ยังไม่อาจเชื่อใจอิสฮานได้เต็มที่เพราะยังไงพื้นเดิมของอิสฮานก็ยังเป็นคนของซาโลม เกรเกอรี่จึงขอให้หนึ่งในห้าอารักขเทวดาของตนให้ติดตามอิสฮานไปด้วย โดยอารักขเทวดาของเกรเกอรี่องค์นั้นก็แปลงร่างตนเป็นนักบวชหญิงและร่วมติดตามกับอิสฮานไปด้วยแต่อีกด้านหนึ่งก็คอยจับตาดูอิสฮานด้วยเช่นกันว่าจะกลับไปเข้ากับฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ ระหว่างการเดินทางของอิสฮานนั้น เขาได้มีส่วนในการช่วยเหลือผู้คนและได้เผยแพร่คำสั่งสอนใหม่ไปด้วย คำสอนนี้เป็นคำสอนที่เขาได้เรียนรู้มาจากคณะของซิสเตอร์อลาน่าระหว่างทางเขาได้มีโอกาสพบหัวหน้าของซาโลมเฮดแมนผู้ที่เคยได้รับความเมตตาจากซิสเตอร์โรซาน่าท่ามกลางไฟสงครามที่โหดร้าย จากชีวิตของเขาที่เติบโตมากับความรุนแรงและ ความยากลำบากตั้งแต่เด็ก เมื่อได้พบอิสฮานที่มีหัวใจแห่งความเมตตาโดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติศาสนาเช่นเดียวกับซิสเตอร์โรซาน่าที่เขาเคยได้รับความเมตตามาก่อน ใจของเขาก็เปิดขึ้นและได้กลับใจใหม่ได้มีโอกาสช่วยและร่วมเดินทางไปกับอิสฮานพร้อมๆกับคนอื่นๆที่เจอระหว่างทางรวมได้ทั้งหมด 15 คน

                            แต่การเดินทางนี้ก็ไม่ได้ง่ายนักเพราะทางฝ่ายบลาสเซจก็คอยส่งศัตรูมาขัดขวางด้วย แต่อิสฮานกับพวกก็สามารถฝ่าฝันไปได้ จนในที่สุดพวกเขาก็ล่องเรือมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือของลาซาล ลาซาลเป็นแคว้นที่มีเมืองท่าติดทะเล อีกด้านติดภูเขา ในขณะที่พื้นที่อีกด้านก็ติดกับทะเลทรายอันกว้างใหญ่ แคว้นลาซาลจึงมีความหลากหลายทางธาตุมากที่หนึ่งเพราะได้รับผลเกื้อหนุนจากธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่ต่างกันรอบ
แค้วนลาซาลพอรู้ข่าวว่าอิสฮานจะมาที่แคว้นของตนตอนแรกก็คิดว่าจะมาในฐานะการรุกรานด้วยกองทัพอันเกรียงไกร แต่ความเป็นจริงนั้นกลับผิดคาดเพราะพวกของอิสฮานที่มาด้วยกันเพียง 15 คนนั้นเล็กเกินกว่าจะเป็นกองทัพที่จะรุกรานอาณาจักรใดได้ และ ฐานะที่อิสฮานที่มากลับมาในฐานะประกาศกผู้จะมาสอนและนำแสงสว่างใหม่มาสู่ลาซาล อิสฮานภายหลังแสดงเจตจำนงอันแน่วแน่ของตนต่อเยซีฮานก็ได้รับการยอมรับจากเขา และที่ลาซาลนี่เองอิสฮานได้ทำการสั่งสอนผู้คนเกี่ยวกับความเชื่อ และ ศรัทธา สอนให้ทุกคนมีความเชื่อที่แน่วแน่ซึ่งหากมีแล้วไม่ว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ การสอนของอิสฮานเป็นการนำศาสนาใหม่ ความเชื่อใหม่ เข้ามายังดินแดนแห่งนี้ที่ผู้คนไม่เคยรู้จักมาก่อน ผู้คนได้รับการปลดปล่อยจากความเกลียดชัง และ จิตใจที่เคยมืดมนมานาน

                            อิสฮานทำการสั่งสอนผู้คนอยู่ในลาซาลได้ร่วมสามเดือนก็เดินทางสู่ซาโลม ที่นั่นเขาทำอย่างเดียวกันคือสั่งสอนผู้คนนำแสงสว่างไปมอบให้แก่พวกเขา ผู้คนจำนวนมากได้รับการปลดปล่อยทางจิตวิญญาณ และคนจำนวนมากเชื่อและศรัทธาในเขามากยิ่งขึ้น จนมีการชุมนุมครั้งใหญ่ที่จัตุรัสของซาโลมที่ซึ่งผู้คนทั่วซาโลมหลั่งไหลมาหาอิสฮาน
                            ทางบลาสเซจก็ส่งทหารไปขัดขวางแต่ทหารเหล่านั้นก็ถูกฝูงชนกันไว้หมดทำให้ไม่สามารถเข้าถึงตัวอิสฮานได้ บัดนี้ประชาชนทั้งหมดมาอยู่ฝ่ายอิสฮานแล้ว แม้บลาสเซจจะครองประเทศได้จริงแต่เขาไม่เคยเข้าถึงจิตใจของประชาชนได้เลย ที่เขาได้มีเพียงพื้นที่เปล่าๆที่ประชาชนไม่เคยมีความศรัทธาต่อเขาเลย ประเทศที่ไร้ประชาชนก็ไม่ใช่ประเทศ ซึ่งอิสฮานได้แสดงความจริงข้อนี้ให้บลาสเซจประจักษ์แล้ว

���                            แต่กระนั้นก็ดีความมักใหญ่ใฝ่สูงของบลาสเซจหาได้ลดน้อยลงไปไม่ บลาสเซจยังดื้อดึงไม่ยอมแพ้ ด้วยความต้องการที่จะเป็นใหญ่ และ เป็นนายเหนือทุกคน ซึ่งเป็นช่องว่างที่ดีที่ทำให้ปีศาจในตัวบลาสเซจหลอกใช้เขาได้ง่าย ในบรรดาปีศาจที่บลาสเซจเรียกมานั้นมี sin หรือ บาป จากขุมนรกอยู่ด้วยกัน 10 ประการ เป็นปีศาจแห่งบาปทั้ง 10    และตัวบลาสเซจเองนี่แหละที่เป็นบาปประการที่ 9   ปีศาจไม่เคยคิดจะเชื่อฟังมนุษย์อยู่แต่แรกแล้ว และสิ่งที่พวกมันต้องการไม่มีอะไรไปมากกว่าการมอบความวิบัติให้แก่มนุษย์ บลาสเซจที่คิดว่าตนควบคุมปีศาจได้กลับเป็นตัวเขาเองที่ถูกปีศาจหลอกใช้ทั้งหมดให้ทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง ในที่สุดบลาสเซจก็ค่อยๆสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปกับอำนาจปีศาจในตัวของเขาที่ค่อยๆกลืนกินเขามากขึ้นเรื่อยๆ

                            จนในที่สุดอิสฮานก็ได้ใช้ผ้าคลุมขนนกแดงไปปรากฏตัวต่อหน้าบลาสเซจ เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างอิสฮานกับปีศาจที่บัดนี้มีอำนาจครอบงำเหนือบลาสเซจแทบจะสมบูรณ์แล้ว หลังการเผชิญหน้ากันการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น แต่การต่อสู้นี้หาใช้การต่อสู้ทางกายไม่ หากเป็นการต่อสู้ทางจิตใจ การต่อสู้ด้วยคำพูด และศรัทธา
                            อิสฮานได้เทศน์และใช้คำสอนของตนเป็นเครื่องมือในการแทงทะลุเข้าไปในจิตใจที่เย็นชาของบลาสเซจ และหลังการสั่งสอนอันยาวนานของอิสฮานในที่สุดบลาสเซจก็ยอมรับกลับตัวกลับใจได้และร่างกายของบลาสเซจก็ได้ตายลงเผยปีศาจที่แท้จริงในตัวบลาสเซจออกมา ซึ่งปีศาจบาปที่ 9 นี่แหละคือตัวการที่แท้จริงทั้งหมด และการต่อสู้ที่แท้จริงของอิสฮานกับปีศาจจึงเริ่มต้นขึ้น

���                            หลังการต่อสู้อันยาวนานอิสฮานก็สามารถปราบปีศาจบาปทั้งหมดลงได้ ในเมื่อไม่มีบลาสเซจแล้ว และ ซาดีนกับเนอริเมอร์ก็ไม่อยู่แล้ว หรือแม้แต่มหาอุปราชย์คนสำคัญอย่างนาริส สุไลมานก็เสียชีวิตไปกับการต่อสู้กับบลาสเซจ   อิสฮานจึงจำต้องครองราชย์ปกครองซาโลมต่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อิสฮานขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ กษัตริย์ที่ชนะจิตใจคนทั้งประเทศ และชนะใจผู้คนแม้แต่แคว้นน้อยใหญ่รอบๆอย่างลาซาล ซึ่งแม้แต่ตัวเยซีฮานก็ยังยอมรับและยินดีกับอิสฮานเป็นอย่างยิ่ง อิสฮานก็ได้เป็นดวงอาทิตย์ที่ยิ่งใหญ่ ดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงอรุณใหม่ ความหวังใหม่แก่ผู้คนดั่งคำทำนายของนาซาอี และเขาก็ปกครองประเทศอย่างสงบสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สงครามอันยาวนานตั้งแต่เริ่มการแบ่งแยก 4 อาณาจักรก็ได้ยุติลงในที่สุด


                            ทั้งหมดนี้แหละครับคือเนื้อเรื่องย่อของ episode 10 Neo Prophet ซึ่งกำหนดการจริงๆคงอีกพักหนึ่งกว่าจะได้วางตลาด ภาคนี้เป็นเหมือนการปิดฉากเนื้อเรื่องตั้งแต่เริ่มแรก episode 8 Dividing of 4 Kingdoms ที่ดำเนินมาจนถึง Ekklesia ลงอย่างสมบูรณ์
ส่วนเนื้อเรื่องที่จะมีต่อไป อิสฮานเป็นกษัตริย์แล้ว แล้ววานาอันละ ทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร แอนดิซองจะยอมรับได้หรือที่สงครามยุติลงแบบนั้น ทั้งหมดนี้ก็เป็นเนื้อเรื่องที่จะต่อไปอีกใน episode 11 ซึ่งก็เป็นเรื่องของอนาคตข้างหน้าอีก สุดท้ายนี้หวังว่าเรื่องย่อ episode 10 Neo Prophet นี้คงให้ความกระจ่างถึงภาพรวม และ ปูพื้นสำหรับเนื้อเรื่องในชุดต่อไปนี้ต่อเพื่อนๆได้นะครับ