Summoner Master Forum
October 10, 2024, 05:26:46 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: 1 [2] 3 4 5  All
  Print  
Author Topic: เรามาสร้างกองทัพ annedisonge ให้บู้กะคนอื่นได้บ้างดีกว่า  (Read 39551 times)
0 Members and 18 Guests are viewing this topic.
Shirahime
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 75


Email
« Reply #30 on: September 03, 2004, 01:50:59 AM »

ต่อๆ

คืนนั้นทุกอย่างเงียบสงัดแผนการทั้งหมดถูกดำเนินการอย่างเงียบเชียบ แผนทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีทั้ง ฮิลเคเบี่ยน และ เรเมดิ พาพวกเขาลอบเข้าไปในพระราชวังได้อย่างเรียบร้อย ขณะนี้ทุกคนอยู่ที่ห้องโถงกลางแล้ว ทุกคนใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดในการจัดการทหารยามที่มีมากมายเหลือเชื่อ

ทันใดนั้นทุกคนก็ได้แว่วยินเสียงเพลงบางอย่างที่ไพเราะแต่ก็เศร้าสร้อยอยู่ด้วยกัน แผ่วเบาๆ อยู่บนฟ้า
"บทเพลงจันทร์โศก" เรเมดิเอ่ยออกมา ก่อนรูปวิ่งออกไปดูที่ลานด้านหน้า บนฟ้าปรากฏรูปของหญิงคนนึงผู้ถือพิณรูปจันทร์เสี้ยว
"ไซคี นักเล่นพิณแห่งแสงจันทร์" เมเรดิเอ่ย แล้วก้มลมคำนับ สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนยิ่งนัก

psyche,the moonlight harper
lv.2  4/1  water  musician/divine
at 7
df 9
sp 3
+water     ocean prelude     at 9 mp 1
+n(moonlight)     black moon rythum     at 11 mp 2

skill - เมื่อ dancer ฝ่ายเราถูกโจมตี sacrifice dancer ใบนั้น seal ที่โจมตี dancer ใบนั้นติด death curse int mp 5
ตราบเท่าที่ psyche อยู่ในสนาม seal ทุกใบที่ติด freeze curse ไม่สามารถ cancel death curse ได้
psyche cancel curse

"เธอมาให้พรเราพร้อมกับสวดส่งให้ศัตรูด้วย" เรเมดิเดินกลับมาพร้อมพูดขึ้น
"งั้นเราก็จะชนะวิโอเรียหน่ะสิ" ฟรอสต์ถาม
"ก็ไม่แน่ คืนนี้ชีวิตบางชีวิตจะจบสิ้นลงพร้อมกันหนี้อันยิ่งใหญ่ ใครบางคนในพวกเราต้องวตาย"เฟรย่าพูด
"นี่เธอ อย่าพูดงั้นสิ" แอลฟาเรียกล่าว แม้ทุกคนจะรู้ว่าเฟรย่าทายได้แม่นแค่ไหนก็ไม่อาจเชื่อได้
................................
"เอาเถอะตอนนี้ยังไงเราก็ควรที่จะเดินทางหาอังเดรต่อไปนะ"หมอพูด
"ใช่ ไปกันเถอะจ้ะ"องค์หญิงพูด
"เราคงไม่ต้องไปกันไกลแล้วหล่ะ"เอลด้าพูด

และเบื้องหน้าของทุกคนก็คือภาพของชายคนนึงซึ่งเกือบเปลือยเดินออกมาจากเงามืด
"อังเดร" ทุกคนพูดพร้อมกัน
แล้วอังเดรก็เริ่มโจมตีทุกคนอย่างบ้าคลั่ง ห่ากระสุนแล้วปืนสาดกระหน่ำใส่แต่อังเดรหาเป็นอะไรไม่ทั้งฟรอก แอลฟาเรีย และ เรเมดิก็ช่วยกันโจมตีประชิดตัวแต่ก็ไม่ได้ผล ดาบของอังเดรช่างแข็งแกร่งมันฟาดฟันไม่เคยพลาดเป้า แต่เรายังคงมีองค์หญิง ซิสเตอร์ และคุณหมออยู่ก็พอช่วยได้บ้าง
"พอแล้ว" เสียงนึงดังขึ้น วิโอเรียนั้นเอง
"ฮะ ชั่งสนุกจริง ที่ได้เล่นสนุกกับพวกนี้ ใช่มั๊ยจ้ะ อังเดร"เธอพูดและมองสายตาเย้ายวนไปทางอังเดร และสายตาอาฆาตต่อพวกเขาทุกๆคน
ปัง!
กระสุนลูกนึงพุ่งผ่านพวกองค์หญิงไปกระทบกับวิโอเรียที่กลายเป็นน้ำแข็งแตกลงพื้น และกลับมารวมกันใหม่ เอลด้ามองด้วยสายตาทึ่ง
"ไม่มีใครทำอะไรชั้นได้แล้ว ฮะฮะฮะฮะ" เธอหัวเราะแล้วสาบำพวกเขาทุกคนให้เป็นน้ำแข็ง
การต่อสุ้ดำเนินไปอย่างเนิ่นนานวิโอเรียและทหารชายมากมายสู้กับพวกเขาอย่างดุเดือด
"ย้ากส์!"
"อ้าก!"
"เอาไปกิน!"
"เอื้อก!"
ทุกคนสู้อย่างเต็มที่แต่มันเยอะเหลือเกิน ทั้งหมดล้มลงพร้อมกับเสียงใครคนนึง
"แม้เจ้าเป็นน้ำแข็งแต่หากข้าเป็นไฟ น้ำแข็งก้ไม่อาจต้านข้าได้" เนริเมอร์นั่นเอง วิโอเรียมองเธอ และเธอก็มองวิโอเรีย
เนริเมอร์โยนบางอย่างใส่พวกเขา ผ้าคลุมขนนกแดง
และพวกเขาก็หายไปจากตรงนั้น เหลือเพียง เนริเมอร์ วิโอเรียกับอังเดรและทหารของวิโอเรีย
"ในเมื่อข้ากำลังจะตายแล้ว ข้าก็จะต้องพาคนไปกับข้าด้วย แต่ไม่ใช่เพื่อนข้า แต่เป็นศัตรูข้า!" แล้วเธอก็ระเบิดเปลวไฟร้อนแรง แผดเผาทุกสรรพสิ่ง แห่งวังแอนดิซอง วิโอเรีย กรีดร้องโหยหวยอย่างหน้าสยดสยองและชีวิตของทุกคนในที่นี้ก็ได้ปิดฉากลงที่นี่
"อลาน่า ฝาก อิสฮานด้วยนะ"เนริเมอร์พูดครั้งสุดท้ายก่อนที่มัจจุราชจะพรากเอาลมหายใจของเธอ...จากไป

โปรดติดตามตอนต่อไป

Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #31 on: September 03, 2004, 02:01:42 AM »

ตัวต่อไปเป็น 4 จตุมารของราชินีวิโอเรีย
Gillotine,the Sinner
Lv 2 Mp2/1 dark evil
At 6
Df 6
Sp 3
+[water] Grinder At 9 Mp 2
+[evil] Holy Scarm At 10 Mp 3
Gillotine ต่อสู้กับ [light] Gillotine At +3
Skill:Seal 1 ใบที่มี Sp 2,3,4 ติด Poison Curse 1 Turn เมื่อ Gillotine รวมร่าง (mp 3)

Maya,the succubus queen
Lv.2 Mp2/1 dark evil
at 7
df 6
sp 3
+[water] Freeze Kiss At 9 Mp 2
+[dark][dark] VAMPIRE KISS At 11 Mp 3
Seal 1 ใบที่มี Sp2,3,4,5 ติด Charm Curse 2 Turnจากนั้นเลือก Seal 1 ใบติด Freeze Curse & Poison Curse 2 Turn เมื่อ Maya รวมร่าง (Mp 4)

Raven,the annedisonge Dread Knight
Lv.2 Mp 3/1 dark Knight
AT 7
Df 8
Sp 5
+[dark] Blood Sword At 9 Mp 2
+[dark][dark] Frenzie Clave At 11 Mp 3
Raven สามารถโจมตี Seal ใบรองได้
Raven สามารถโจมตีข้ามมายัง DF Line ได้ถ้า Seal ตัวนั้น Sp น้อยกว่า Raven

Grandson,the Dark Prison
Lv.4 Mp5/3 Dark Mage Evil
AT 10
Df 10
Sp 4
+[dark] Dark Smasher At 11 Mp 3
+[dark][dark] Black Hole At 13 Mp 4
+n[Vioria] Gravity Blast At 10(all) Mp 5
ทำลาย Seal 1 ใบในสนาม เมื่อ Grandson รวมร่าง (Mp 3)
Grandson ยกเลิก Skill และ Ability ของ [Light]

ที่บอกมาทั้งหมดคือ 4 จตุมาร สมุนเอกของราชินีวิโอเรีย นำโดย แกรนซอน,มายา,เรเวน,กิโยติน ที่คอยป้องกันราชินีวิโอเรียและคอยขัดขวางองค์หญิงอลาน่าด้วย มันเลยโหดตามความสามารถของมันเอง หุหุ
Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #32 on: September 03, 2004, 09:07:35 PM »

หลังจากการโจมตีของซิสเตอร์นอร์ริมอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่น่าจะหายไปพร้อมกับเปลงเพลิง ยังคงสภาพเช่นเดิม หากแต่มีกลุ่มควันจำนวนมากลอยอยู่มากมาย ณ สถานที่ต่อสู้ เมื่อครั้นควันเหล่านั้นค่อย ๆ จางหายไป ก็ปรากฎร่างกายที่ใหญ่โตกำยำ ใส่ชุดเกราะปีศาจเต็มยศยืนอยู่ข้างหน้า โดยมีหญิงสาวเอวบางคนหนึ่งนุ่งน้อยห่มน้อยหากใช่ราชินีวิโอเรียไม่ เพราะที่ศีรษะของหล่อนมีเขางอกออกมา ถัดไปด้านขวาเป็นชายใส่เสื้อคลุมปิดหน้ายืนอยู่ และขวาสุดเป็นอัศวินสวมเกราะหัวกะโหลก มีดาบ 2 เล่ม คาดอยู่ที่เอว พวกเค้าคือจตุรมารนั่นเอง ซึ่งก่อนที่การโจมตีของซิสเตอร์นอร์ริมอร์จะทำลายทุกอย่างนั้น แกรนซอนได้โผล่มาข้างหน้านอร์ริมอร์และโจมตีใส่ก่อน ซึ่งการโจมตีนั้นไม่ได้ทำลายปราสาทเลยแม้แต่น้อย หากแต่ทำลายแค่นอร์ริมอร์เท่านั้น

"ทำได้ดีมาก แกรนซอน มาย่า กิโยติน เรเวน ที่มาช่วยข้าได้ทันเวลา" วิโอเรียกล่าวอย่างโล่งใจที่ลอดชีวิตมาได้
"นี่ถ้าไม่ใช่องค์จักรพรรดิ (Emperor of Evil) สั่งมาข้าไม่มีทางลดตัวมาช่วยพวกมนุษย์หลอก" แกรนซอนหันไปพูดใส่วิโอเรีย
"พวกมนุษย์อ่อนแอ่ทั้งนั้น ข้าจะฆ่าให้หมด เหอะ ๆ ๆ " กิโยตินพูดด้วยน้ำเสียงแหบ ๆ
"แต่พวกมนุษย์ก็หลอกง่ายนะ ว้าย! ตายแล้วพอหนุ่มคนนี้หล่อจริง ๆ ข้าขอนะวิโอเรีย" มาย่าขออองเดรกับวิโอเรีย
"นี่ ๆ มาย่า จะเอาอะไรกะอีแค่มนุษย์ผู้ชายคนนี้" เรเวนถาม
"แหม ก็เค้าทั้งหล่อ ทั้งกำยำขนาดนี้ ใครจะอดไหวล่ะ โฮ่ ๆ ๆ "
"นี่พวกแก หมดธุระแล้วไปได้แล้ว" วิโอเรียกล่าวอย่างฉุนเฉียว
"นี่ ๆ องค์ราชินี นี่พวกข้าพึ่งจะช่วยชีวิตท่าน ไยท่านถึงไรพวกเราแบบนี้จะดีเหรอ" มาย่าเย้ยวิโอเรีย
"องค์จักรพรรดิใช้ให้พวกแกมาเป็นลูกน้องข้านะ ไม่ใช่เป็นนายข้า" วิโอเรียเริ่มโมโห
"พวกเราไปกันเถอะ" แกรนซอนพูด
"เชอะ" หลังสิ้นเสียงของมายากลุ่มจตุรมารก็หายตัวไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Emperor of Evil
Mp 5/3  Dark  Evil  Lv. 5 Rare
At 10
Df 12
Sp 5

Ability  
เมื่อ Emperor of Evil  ถูกโจมตี At+ ตามจำนวน Evil ในสนาม และ Seal ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่  Df Line  
เมื่อ Emperor of Evil เข้ามาในสนามนำ Seal 5 ใบแรก จากกองการ์ดลงมาในสนาม หาก Seal นั้นเป็น Evil
เมื่อ Seal ฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยน Line  จาก  At Line ไป  Df Line  Emperor of Evil  At+ตามจำนวน Seal ที่เปลี่ยน Line  Infinite Turn
Emperor of Evil  At-  ตามจำนวน N(God)
Emperor of Evil Cancel Mystic Cancel Death Curse Poison Cure Last Dance Cure จาก Evil Cancel Skill  และ  Ability  ของ Seal ฝ่ายตรงข้าม ที่ไม่มี N(God)   Seal ที่มีเป้าหมายโจมตีมาที่ Emperor of Evil ที่ไม่มี N(God) สูญเสีย Ability จนจบการต่อสู้
Evil ใบอื่นทุกใบในสนาม At+2
ในสนามไม่สามารถมี Emperor of Evil เกิน 1 ใบได้

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
ปัง! เสียงทุบโต๊ะดังขึ้น
"หนอย ไม่นึกเลยว่าราชินีวิโอเรียจะเก่งถึงเพียงนี้" ฟรอสซ์กล่าวอย่างหงุดหงิด
"ใจเย็น ๆ น่าฟรสซ์" แอฟาเรียเตือนฟรอสซ์
"ยังไงซะราชินีวิโอเรียก็ได้ตายไปแล้ว..."
"ข้าว่าไม่นะ.."ฮิลเคเบี่ยนแทรกขึ้น
"ดูนั่นซิพระราชวังยังอยู่เลย ถ้าดูจากพลังในการโจมตีครั้งสุดท้ายของซิสเตอร์นอร์ริมอร์แล้ว น่าจะทำลายได้โดยง่าย แต่ด้วยเหตุใดพระราชวังยังคงตั้งอยู่" ฮิลเคเบี่ยนกล่าวอย่างงุนงง
"ต้องเป็นการกระทำของพวกปีศาจแน่ ๆ " เฟรย่าพูดขึ้น
"คงเป็นจตุรมารขององค์ราชินีวิโอเรียเป็นแน่" สาวนิรนามพูดพร้อมเดินเข้ามาในที่พักกับ อัศวินหนุ่ม
"ท่านเป็นใครเหรอจ๊ะ" องค์หญิงอลาน่าถาม
"เธอผู้นี้คือแอนนา เป็นนักเต้นเหมือนหม่อมฉันเพค่ะ" เรเมดิตอบองค์หญิง
"หม่อมฉันแอนนา และที่สามีดิฉันคาลอสเพค่ะ" แอนนาแนะนำตัว (Anna, Dancer of Annedisonge) (Carlos, the Freedom Knight)
"กระหม่อมคาลอสเป็นอัศวินพเนจรพะยะค่ะ"
"พวกท่านมาที่นี่ทำไมเหรอ" ฟรอสซ์ถาม
"ข้าและภรรยาได้ข่าวว่าองค์หญิงอลาน่าจะคืนสู่บัลลังก์เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ข้าและภรรยาเดือดร้อนกับการปกครองขององค์ราชินีวิโอเรียมาก เมื่อทราบข่าวว่าท่านมา ข้าและภรรยาจึงมาเพื่อช่วยเหลือท่านให้คืนสู่บัลลังก์โดยเร็ว เพื่อความสุขของชาวบ้าน"

ในขณะที่คาลอสกำลังคุยกับพวกขององค์หญิง มีชายลึกลับกำลังซุ่มอยู่ไม่ไกลจากที่พักขององค์หญิง
"หึ ๆ เสร็จข้าแน่องค์หญิง"  เค้าคือซาฟิโร่มือสังหารขององค์ราชินีวิโอเรียนี่เอง (Zafiro,the Assasin Mercenary)
ซาฟิโร่กำลังใช้ปืนเก็บเสียงเล็งไปที่องค์หญิงอลาน่า
"บ๊าย บาย องค์หญิง"
พิ้ว !
แต่ขณะนั้นเองแอนนาได้เดินมาบังวิถีกระสุนโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ทันใดนั้นเอง คาลอสซึ่งมีปฎิกิริยาเสมอเมือแอนนาตกอยู่ในอันตราย ชักดาบรูปสายฟ้าออกมาปัดกระสุนไว้ได้
เคร้ง!
"ใครหน้าไหนที่คิดจะทำร้ายภรรยาข้าโผล่หัวออกมา" คาลอสตะโกนเรียกอย่างโมโห และเดินเข้าไปหาจากวิถีกระสุนอย่างระวัง
"ชิยัยตัวแสบดันเดินไปทางนั้นพอดี"
"โอ๊ะ โอ๋ คุณมือสังหารเค้าเรียกแล้วยังไม่ออกไปอีกหน้าด้านซะจริง จริ๊ง" ไรอาซึ่งมีความสามารถในการค้นหาและจับเป้าหมายอยู่แล้วเป็นฝ่ายเจอซาฟิโร่ก่อน
"โถ่! นึกว่าใครที่แท้ก็โจรกระจอกไรอานี่เอง" ซาฟิโร่พูดเย้ย
"อืม....ถ้าข้ากระจอกก็แสดงว่าเจ้ากระจอกกว่าข้านะซิ เพราะซึ่งเก่งกว่าข้า ถูกข้าหาเจอนะ" ไรอาพูดสวน
"หนอยปากดีนักนะงั้นตายซะ" ซาฟิโร่พูดพลางหันปากกระบอกปืนไปทางไรอา
ไรอาเห็นดังนั้นจึงกระโดดพุ่งเข้าหาซาฟิโร่ทันที
"ลองชิมนี่หน่อยเป็นไง ไรอา Kick"
พลัก!
"อุ๊บ.."
เท้าของไรอาโดนเข้าที่หน้าของซาฟิโร่เต็ม ๆ  ซาฟิโร่ถึงกลับกลิ้งไม่เป็นท่า ปืนก็กระเด็นไปอีกทาง
"เป็นไงเท้าฉันหอมดีม๊ะ"
"หนอยไอ้โจรกระจอก" ซาฟิโร่พุ่งเข้าหาหมายจะชกหน้าไรอา
ไรอาเห็นจึงเบี่ยงตัวหลบไปด้านซ้ายพร้อมขัดขาซาฟิโร่ ซึ่งทำให้ซาฟิโร่ล้มลงอีกครั้ง
"แหม ๆ คุณมือสังหารจัดกบได้กี่ตัวล่ะเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ "
"หนอยแกนะแก"
ซาฟิโร่ซึ่งเป็นมือสังหารถนัดในการใช้ปืน พูดถึงความแม่นยำแล้วพอ ๆ กับเอลด้าและอลิซาเบธเลยทีเดียว แต่เมื่อไม่มีปืนแล้วไรอาซึ่งคล่องแคล่วกว่าจึงเป็นฝ่ายกระทำอยู่ตลอด
"ไรอา..." ฟรอสซ์ซึ่งจมูกไวกับการต่อสู้รีบวิ่งมาหาไรอาทันที
จังหวะที่ไรอาหันไปมองฟรอสซ์แค่แวบเดียว ซาฟิโร่สบัดแขนขวาปืนที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็หล่นลงมาพร้อมหันปืนใส่ไรอาทันที
ไรอาเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าจู่โจมทันที แต่ปฏิกิริยาในการเหนี่ยวไกปืนของซาฟิโร่ไวพอ ๆ กับงูแลบลิ้น
ปัง! ลูกกระสุนทะลุหน้าอกด้านขวาของไรอาไป
"โอ้ย! "
"หึ ๆ เป็นยังไงหนูคราวนี้แกไม่รอดแน่" ซาฟิโร่หมายปลิดชีวิตของไรอาซึ่งหมดทางสู้
"ลาก่อน"
ปัง!   ปัง!
"อ้าก..."
ก่อนที่ซาฟิโร่จะปลิดชีวิตไรอา เอลด้าและอลิซาเบธได้ยิงปืนใส่ซาฟิโร่ที่ไม่รู้ตัวว่าตกเป็นเป้าอยู่ ซึ่งเอลด้ายิงทำลายปืนของซาฟิโร่จนแหลก แต่อลิซาเบธยิงตัดเส้นเอ็นที่ข้อมือของซาฟิโร่
"หนอยฝากไว้ก่อนเถอะ" ซาฟิโร่รีบหนีเอาชีวิตรอด
ฟรอสซ์วิ่งมาถึงเห็นไรอากำลังแย่จึงรีบอุ้มไรอากลับที่พัก
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
"คุณหมอนาธารค่ะ ไรอาเป็นยังไงบ้างค่ะ" องค์หญิงถามอาการไรอาอย่างเป็นห่วง
"อาการหนักมาก ตอนนี้ปลอดภัยแล้วแต่หมอว่าคงต้องพักซักระยะ"
"เฮ่อ...ค่อยโล่งอก"
"หนอยยัยองค์ราชินีวิโอเรีย กล้าส่งมือสังหารมาเลยเหรอ" ฟรอสซ์กล่าวอย่างโมโห
"แถวยังมีพวกจตุบ้าบออะไรอีกเราจะทำยังไงล่ะเนี่ย"
"ฟรอสซ์ใจเย็นก่อน ท่านเฟรย่าค่ะเราต้องรีบแล้วนะค่ะพอมีทางไหนที่จะช่วยอองเดรจากมนต์สะกดบ้างจ๊ะ" องค์หญิงถามอย่างใจร้อน
"มีแน่นอนเพค่ะองค์หญิงทางนั้นก็คือ....." (to be continue)

จากเรื่องตอนนี้เราคิดว่าไรอาน่าจะเก่งกว่า Annedisonge Kidnaper ทั่ว ๆ ไปจึงคิดการ์ดได้ดังนี้
Ri-a, the Annedisonge Kidnaper
Mp 3/1  Water  Bandit   Lv. 2
At 7
Df 7
Sp 5

N(Annedisonge)     Flash Attack     At 9 Mp 2
เมื่อ Ri-a เป็นเป้าหมายการโจมตี สามารถสั่งไรอาโจมตี Seal นั้น () Mp 3
Skill   เมื่อฝ่ายตรงข้ามสั่งการ Seal   Ri-a, the Annedisonge Kidnap สามารถ Steal Seal ใบนั้นได้ถ้า Seal ใบนั้นมี Sp น้อยกว่า Ri-a, the Annedisonge Kidnap
() Mp 3
« Last Edit: September 03, 2004, 09:11:04 PM by KingOfCups » Logged


lordhunya
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 483


Email
« Reply #33 on: September 03, 2004, 10:02:55 PM »

เก่งเวอร์กันทั้งนั้นเลย

แล้วไงมีธาตมืดมาปนอยู่ด้วยหละ
Logged


Shirahime
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 75


Email
« Reply #34 on: September 03, 2004, 11:23:33 PM »

คราวนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับแอนดิซองก็เถอะแต่ไหนๆมันจะเป็นสงครามสี่อาณาจักรแล้วหนิ(นี่ๆking of cup หน่ะน่าจะให้วังพังหรือบาดเจ็บปางตายก็ดีนะ น่าสงสารเจ๊แก่อุตส่าห์ช่วย)

ทางด้าน เฟเลเชีย กองทัพทมิฬของ ซาโลมได้เริ่มบุกเข้าสู่ทางใต้ดินอย่างเงียบๆ ขณะนี้ห้องโถงของเฟเลเชีย คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ที่เห็นเด่นชัดสุดคือ องค์หญิงเรจิน่า และเจ้าชายแฮริสัน
"วันนี้ถือเป็นวันดี ที่สองอาณาจักรจะได้ร่วมมือกัน สร้างกองทัพใหม่ที่แข็งแกร่งกว่ากองทัพใดๆในโลกเมอริเซีย กองทัพนี้มิได้เพียงสร้างเพื่อสู้รบเท่านั้น แต่ยังสร้างเพื่อสานสัมพันธ์ของสองอาณาจักรด้วย ขอท่านพบกับ กองทัพ"พันธมิตรศิลาวายุ"ได้แล้ว" ราชินีอลิเซียพูดพลันแล้วเธอก็ผายมือไปทางลานกว้างหน้าพระราชวัง สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทุกคนคือเหล่าอัศวันยูนิคอน มากมายในชุดสีเงินเรืองรอง

โปรดติดตามตอนต่อไป
โทษทีนะวันนี้สั้นไปหน่อยมีธุระหน่ะบายจะ
Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #35 on: September 04, 2004, 07:24:46 AM »

เราคิดว่าน่าจะมีนักตีดาบบ้างนะ(สงสารกลุ่มขององค์หญิงอ่ะ)
Maximos,the Blacksmith
Lv.2 Mp 2/1 Merchant Scientist water
At 6
df 8
Sp 3
+Any Element Smithtly At 9 Mp 2
+Merchant Weapon Modify At 10 Mp 3
Skill : นำ Mystic ชนิด Relic จากบนมือมาติดยัง Seal ฝ่ายเรา 1 ใบในสนามโดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย [inf](Mp 0)
ตราบเท่าที่ Maximos อยู่ในสนาม ค่าร่าย Mystic ชนิด Relic Mp -1

แม็กซิมอส คือนักตีดาบที่เก่งที่สุดในเมอริเซียเขาได้ยื่นมือช่วยเหลือเจ้าหญิงอลาน่าและพวก โดยการทำอาวุธพิเศษ ให้กับพวกเขาแต่การทำอาวุธมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะจิ(เพราะ 4 จตุมารคอยก่อกวนตลอดนิ)
Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #36 on: September 04, 2004, 09:26:52 PM »

Quote
คราวนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับแอนดิซองก็เถอะแต่ไหนๆมันจะเป็นสงครามสี่อาณาจักรแล้วหนิ(นี่ๆking of cup หน่ะน่าจะให้วังพังหรือบาดเจ็บปางตายก็ดีนะ น่าสงสารเจ๊แก่อุตส่าห์ช่วย)

ก็ผมคิดว่าถ้าวิโอเรียปางตายหรือตายไปเลยมันจะงายป่ะอ่ะครับ คุณ Shirahime  เดี๋ยวมันจะซ้ำกับตอนเบลซเซจอ่ะ ต่อ ๆ ดีก่า

กลับมาทางด้านแอนดิซองค์ ขณะที่เฟรย่ากำลังจะบอกหนทางที่จะต่อสู้กับพวกปีศาจและช่วยอองเดรให้พ้นจากคำสาปของวิโอเรียนั่นเอง
"มีแน่นอนเพค่ะองค์หญิงทางนั้นก็คือ....."
"พวกท่านต้องใช้อาวุธที่มีพลังของเทพ ซึ่งในหมู่พวกเรานั้นมีเพียงคาลอสกับท่านฮิลเคเบี่ยนเท่านั้นที่มีสิ่งนั้นอยู่"
"ดาบสายฟ้าของคาลอสมีพลังของเทพสายฟ้าทอร์ดอยู่ ส่วนดาบหิมะของท่านฮิลเคเบี่ยนมีพลังของเทพเช่นกัน"
"ใครก็ได้ ช่วยข้าด้วย" เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น
"เอ๊ะ! นั่นเสียงใครร้องให้ช่วยน่ะ" องค์หญิงถามขึ้นด้วยความสงสัย
"เดี๋ยวข้าจะไปดูให้เอง" คาลอสอาสา
"ระวังตัวนะค่ะคุณ" แอนนาพูดอย่างเป็นห่วง
"ข้าไม่เป็นอะไรหลอก เดี๋ยวข้าก็กลับมา"
คาลอสรีบวิ่งไปหาต้นตอของเสียงขอความช่วยเหลือและได้พบกับ ชายผู้หนึ่งกำลังหนีจากการล่าของอามาดิลอน (Armadilon) ฝูงหนึ่ง
"ช่วยข้าด้วย" ชายผู้เคราะห์ร้ายพยายามหนี หากแต่สำพาระที่แบกมานั้นเป็นอุปสรรคมิใช่น้อย
คาลอสเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าช่วยชายผู้นั้นอย่างรวดเร็ว
"ช่วยด้วย...อุ๊บ" ด้วยความที่รีบเร่งทำให้ชายผู้เคราะห์ร้ายวิ่งสะดุดก้อนหิน ทันใดนั้นอามาดิลอนตัวนึงพุ่งเข้ามาหวังจะฆ่าชายผู้นั้น  คาลอสชักดาบออกอย่างรวดเร็ว และกระโดดเข้าฟันใส่เข้าที่กลางหัวของเจ้าอามาดิลอน ดาบที่ฟันลงไปนั้นช่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าที่ฟาดใส่อามาดิลอน การฟันในครั้งเดียวแยกร่างของอามาดิลอนออกเป็น 2 ซีก ทันที เหล่าอามาดิลอนเมื่อเห็นพรรคพวกตายต่อหน้าในการโจมตีครั้งเดียวถึงกับชะงักไป ถึงมันจะเป็นสัตว์แต่มันก็รับรู้ได้ถึงความเก่งกาจของคาลอส  หลังจากที่คาลอสได้สังหารอามาดิลอนตัวแรกไปแล้วก็ยืนตั้งท่าอย่างมั่นคง โดยดาบตั้งปลายดาบเฉียงขั้นไปทางซ้าย เหล่าอามาดิลอนสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรง ถ้าหากพวกตนจู่โจมเข้าไปคงต้องตายแน่ ๆ จึงตัดสินใจล่าถอยกลับไป
"ขอบคุณมากครับ คุณอัศวิน ที่ช่วยชีวิตผมไว้" ชายหนุ่มลุกขึ้นกล่าวขอบคุณกับคาลอส
"ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง ว่าแต่ทำไมพวกอามาดิลอนถึงตามทำร้ายท่านล่ะ แล้วท่านเป็นใครมาจากไหนและกำลังจะไปไหนล่ะ" คาลอสถามอย่างสงสัย
"ข้าชื่อ แม๊กซิมอส เป็นช่างทำอาวุธ เป็นคนแอนดิซองค์นี่ล่ะ ครอบครัวข้าตายด้วยโรคระบาท มีข้าเท่านั้นที่รอดมาได้ พอดีได้ช่างตีดาบคนนึงช่วยข้าไว้ ข้าจึงฝันตลอดว่าจะเป็นนักทำอาวุธที่เก่งที่สุด ข้าจึงเดินทางไปทั่วทวีปเมอร์ริเซียเพื่อฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะเป็นช่างทำอาวุธที่เก่งที่สุดน่ะ ข้าพึ่งกลับมาจากการฝึกวิชา เห็นซากอามาดิลอนเข้าจึงเข้าไปดูว่ามันเป็นอะไร และจากนั้นพวกของอามาดิลอนมาเห็นเข้าเลยนึกว่าข้าเป็นคนฆ่าพวกของมัน จึงไรตามฆ่าข้าน่ะ" แม๊กซิมอสเล่าความเป็นมาของตัวเอง
"เออคือ...ท่านหยั่งงั้นหยั่งงี้เลยนะ คือว่า....ข้ายังไม่มีที่พักเลยอ่ะ และไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วล่ะ ท่านพอจะช่วยข้าได้มั้ย"
"ได้ซิตามข้ามา"
"ขอบคุณท่านมาก ว่าแต่ท่านชื่ออะไรเหรอ"
"ข้าคาลอส เป็นอัศวินพเนจรน่ะ"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
"ง่ำ ๆ ๆ ๆ ...ขออีกชามครับ"
"แหม...เจริญอาหารจังนะค่ะ" องค์หญิงพูดหยอกแม๊ก
"แหม องค์หญิงก็ข้าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว แถมยังต้องมาวิ่งหนีเจ้าอามาดิลอนอีก มันก็หิวเป็นธรรมดาล่ะครับ" แม๊กพูดพร้อมกับเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก
"อุ๊ก....ติดคอช่วยข้าด้วย"
"เอาน้ำจ้า" เรเมดิส่งน้ำให้
"ขอ..ขอบคุณมาก"
"เฮ่อ....นึกว่าจะตายซะแล้ว"
"ฮึ ๆ ๆ "
"ไม่ได้เห็นองค์หญิงหัวเราะมานานแล้วนะเพค่ะ" ซิสเตอร์กล่าวอย่างดีใจ
"แหม...ซิสเตอร์โรซาน่าก็"
"ฮู่...อิ่มจัง"
"ท่านแม็กซิมอสถ้าไม่รังเกียจพักกับเราที่นี่ก็ได้นะจ๊ะ" องค์พูด
"แหม...ขอบพระทัยพะยะค่ะ แต่เพื่อเป็นการตอบแทน ข้ารู้ว่าพวกท่านต้องการอาวุธที่มีพลังของเทพ เรื่องนี้ข้าสามารถช่วยพวกท่านได้นะ"
"หา....จริงหรือเปล่า" ฟรอสซ์พูดอย่างตื่นเต้น
"ท่านช่วยพวกเราได้จริง ๆ เหรอ" ฟรอสซ์อยากรู้มากขึ้น
"แน่นอนท่านฟรอสซ์ ข้าได้เดินทางไปทั่วทวีปเมอร์ริเซีย มีความรู้มากมาย อย่าหาว่าข้าโม้เลยนะ ข้าว่าตอนนี้ข้าคือช่างตีอาวุธที่เก่งกาจที่สุดเชียวนา" แม๊กพูดอย่างมั่นใจ
"งั้นท่านก็ทำอาวุธให้พวกข้าเร็ว ๆ หน่อยซิข้าชักคันไม้คันมืออยากสู้เต็มที่แล้ว" ฟรอสซ์ที่ชอบการต่อสู้เริ่มคึกคักอีกครั้งทั้ง ๆ ที่พึ่งจะพ่ายแพ้ต่อราชินีวิโอเรียมา
"ทำน่ะทำให้ได้ แต่ต้องมีวัตถุดิบซะก่อนถึงจะทำได้"
"แล้วต้องใช้อะไรบ้างล่ะท่าน ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหนข้าจะไปเอามาให้ท่านเอง" ฮิลเคเบี่ยนเสนอตัว
"การที่จะตีอาวุธเทพได้นั้นต้องใช้สิ่งศักดิ์ในการตี วัตถุดิบก็มี น้ำศักดิ์สิทธิ์จากวิหาร Saint Laurence ที่มีมังกร Quelleiavas เฝ้าอยู่ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาในการนำมา ต่อมาก็เปลือกไข่ของ Nevaran, the Soul Wing Wyvern เพราะเปลือกไข่ได้รับพรจากเหล่าเทพทำให้มีพลังของเทพสถิตอยู่ด้วย อันนี้หายากพอดู ต่อมาก็แร่หินศักดิ์สิทธิ์อันนี้จำเป็นมาก ๆ หายากกว่า 2 สิ่ง ก่อนหน้านี้  และสุดท้ายอาจจะง่ายที่สุดหรืออาจยากที่สุดก็ได้นะ" แม๊กพูดอย่างกังวลนิดหน่อย
"เชิญท่านพูดมาเถิด ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ หรือต้องสู้กับมังกรยักษ์ยอร์มุนกันต์ ข้าก็ไม่หวั่น" ฮิลเคเบี่ยนให้คำมั่น
"สิ่งสุดท้ายนี่หายากมากหรือจ๊ะท่านแม๊กซิมอส" องค์หญิงถามอย่างกังวล
"สิ่งสุดท้ายก็คือ เขาของ พานิชูร่า ที่มีพลังกำจัดปีศาจแล้วก็ ดาบของ Nephele, the Goddess of Centaur"
2 สิ่งสุดท้ายทำให้ฮิลเคเบี่ยนถึงกับอึ้ง
"ทีนี้ท่านจะเอามาให้ข้าได้มั้ยล่ะท่านฮิลเคเบี่ยน"
ฮิลเคเบี่ยนได้แต่เงียบ
"ข้าว่านะกว่าท่านจะไปเอา 3 สิ่งแรกมาได้ แอนดิซองค์คงจะเต็มไปด้วยปีศาจแล้วล่ะ"
"ขอเพียงท่านบอกวิธีมาข้าพร้อมที่จะไปเอามาให้ท่าน"
"ว่าแต่ถ้าข้านำของเหล่านั้นมาได้แล้วท่านต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการตีอาวุธเทพล่ะ" ฮิลเคเบี่ยนถาม
"ข้าสามารถทำให้เสร็จได้ภายใน 3 วัน แต่ข้าว่า รอท่านกลับมาคงปีหน้าล่ะมั้ง ฮ่า ๆ ๆ " แม๊กซิมอสเย้ยฮิลเคเบี่ยนเนื่องจากไม่ค่อยชอบท่าทางของฮิลเคเบี่ยนที่มั่นใจเกินไป
"ถ้าท่านสามารถตีอาวุธเทพได้ภายใน 3 วัน ข้าก็จะไปนำของเหล่านั้นมาให้ได้ภายใน 3 วันเช่นกัน" ฮิลเคเบี่ยนก็ไม่ยอมแพ้กล่าวอย่างมั่นใจเช่นกัน
ทั้งฮิลเคเบี่ยนและแม๊กซิมอสต่างจ้องตากันต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
"หึ ๆ ๆ ข้าเห็นว่าท่านมีความมุ่งมั่นข้าจะบอกที่อยู่ของของ 2 สิ่งสุดท้าย...ท่านจงไปที่ภูเขาวาลฮาล ถ้าท่านผ่านเทพธิดาที่เฝ้าปากทางเข้าได้ล่ะก็ (Brigitte, the Valkirie) ท่านก็จะรู้เอง"
"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ" พูดจบฮิลเคเบี่ยนก็เดินจากไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮิลเคเบี่ยนได้มุ่งหน้าไปหาเพื่อนของเค้า นั่นคือ ฟราก้า (Fraga, the General of Annedisonge) และ ไรก้า (Sage of Annedisonge) เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งทั้ง 2 ก็ตกลง ด้วยขนนกร๊อกแดงของไรก้า (to be continue)
« Last Edit: September 04, 2004, 09:31:29 PM by KingOfCups » Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #37 on: September 05, 2004, 03:39:09 AM »

Quote
คราวนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับแอนดิซองก็เถอะแต่ไหนๆมันจะเป็นสงครามสี่อาณาจักรแล้วหนิ(นี่ๆking of cup หน่ะน่าจะให้วังพังหรือบาดเจ็บปางตายก็ดีนะ น่าสงสารเจ๊แก่อุตส่าห์ช่วย)

ก็ผมคิดว่าถ้าวิโอเรียปางตายหรือตายไปเลยมันจะงายป่ะอ่ะครับ คุณ Shirahime  เดี๋ยวมันจะซ้ำกับตอนเบลซเซจอ่ะ
เห็นด้วยอย่างแรงนะ King of cup  ไม่งั้นเรื่องมันก็จบเร็วขึ้นนะจิ(และ 4 จตุมารก็ไม่มีในเรื่อง หุหุ)
วันนี้เลยเปลี่ยนบรรยากาศเอาเป็นศราตราวุธละกัน
Terranigma,the goddess Gluntlet
Mp 2 inf Turn PS Relic
Pugilist ที่ Terranigma ติดอยู่ At +ตามจำนวนธาตุของ Seal ในสนาม และ เมื่อต่อสู้กับ [dark] At +3
ถ้า Seal ที่ติดคือ n[frost] หรือ n[elfaria] จะได้รับ "Skill: Seal 1 ใบ เปลี่ยนธาตุที่เลือก 2 Turn (mp 2)"และได้รับ Ability "Seal ฝ่ายตรงข้ามธาตุเดียวกันกับ n[frost] หรือ n[elfaria] ไม่สามารถโจมตีและใช้ Skill ใส่ n[frost] หรือ n[elfaria]" "สามารถโจมตีได้ 2 ครั้ง" และ "ยกเลิก Skill และ Abilty [dark]" ด้วย

Leonheart,the legendary Gunblade
Mp 2 inf turn PS Relic
Seal ที่ Leonheart ติด At +1 Df +1 Sp +1 และ เมื่อต่อสู้กับ [dark] At +3
หาก Seal ที่ติดคือ Eldar สามารถโจมตีจาก Df line และ โจมตีข้ามไปยัง Df Line ได้และได้รับ Alibity "เมื่อ Eldar โจมตี สามารถเลือกท่าโจมตีท่าใดก็ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย" สามารถโจมตี แบบ All ได้ และ ยกเลิก Skill และ Alibity [dark] ด้วย

เทียรานิกม่าและลีออนฮาร์ค เป็นอาวุธที่มีพลังของเทพทำให้กับ ฟรอส,เอลฟาเรีย และ เอลด้า
เอาแค่ 2 อันนี้ก่อน(ที่เหลือและรายละเอียดไว้คราวหน้า)
ต่อไปเป็นม้าวิเศษของ คาลอส
Grey Lighting ,Carlos's Horse
Lv.1 Mp1/1 Beast non-element
At 5
Df 4
Sp 5
ตราบที่ Grey Lighting เป็นตัวรองรวมร่าง Seal นั้น Sp=5
ตราบที่ Grey Lighting เป็นตัวรองรวมร่าง Carlos Carlos At +3 Df +2 สามารถโจมตีข้ามมายัง Df Line และ ยกเลิก Curse ฝ่ายตรงข้าม
ม้า เกร ไลติ้ง(หรือสีหมอก) เป็นม้าวิเศษของคาลอสที่สามารถบินได้

ต่อไปเป็น พาหนะคู่ใจของฮิลเคเบี่ยน
Tombren,Hukekbain's Horse
Lv.1 Mp1/1 Beast non-element
At 4
Df 4
Dp 5
ตราบที่ Tombren เป็นตัวรองรวมร่าง Seal นั้น Mp ค่าโจมตี -2
ตราบที่ Tombren เป็นตัวรองรวมร่าง Hukkebain Hukkebain At +3 Df +2 สามารถโจมตี 2 ครั้ง และ ยกเลิก Freeze Curse
ทอมเบรนเป็นม้าวิเศษคู่ใจของฮิลเคเบี่ยน ที่เดินทางได้ทุกสภาพอากาศ และข้ามอันตรายได้
« Last Edit: September 06, 2004, 01:31:50 AM by Sir Laguna » Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #38 on: September 06, 2004, 02:58:57 AM »

Quote
Leonheart,the legendary Gunblade
Mp 2 inf turn PS Relic
Seal ที่ Leonheart ติด At +1 Df +1 Sp +1 และ เมื่อต่อสู้กับ [dark] At +3
หาก Seal ที่ติดคือ Eldar สามารถโจมตีจาก Df line และ โจมตีข้ามไปยัง Df Line ได้และได้รับ Alibity "เมื่อ Eldar โจมตี สามารถเลือกท่าโจมตีท่าใดก็ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย" สามารถโจมตี แบบ All ได้ และ ยกเลิก Skill และ Alibity [dark] ด้วย

อันนี้ดาบของสควอล์ในไฟนอล 8 ป่ะเนี่ย = ="  แล้วความสามารถที่โจมตีท่าใดก็ได้โดยไม่จ่ายค่าร่าย มันโกงป่ะ ตีฟรีเลยเนี่ยนะ  (เข้าใจถูกป่ะ)

ต่อดีก่า....
หลังจากที่ฮิลเคเบี่ยนได้ข้อความช่วยเหลือจากฟราก้า และไรก้าแล้ว ทั้ง 3 รีบไปนำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่แม็กซิมอสต้องการ น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารเซนต์ลอเรนซ์ เปลือกไข่ของมังกรเนเวอเรน ทั้ง 2 สิ่งอยู่ที่ฟีลีเซีย ทั้ง 3 เดินทางด้วยขนนกร๊อกแดงของไรก้า ทั้ง 3 ได้ของครบแล้วเหลือแต่เขาของพานิชูล่าและดาบของเทพธิดาเซนทอร์ดเนเฟเร่
ณ ปากทางเข้าภูเขาวาลฮาล
"ที่นี่น่ะหรือภูเขาวาลฮาล" ฮิลเคเบี่ยนเอ่ยขึ้น
"ใช่! ข้าจำได้" ไรก้าพูด
"อย่ามัวแต่พูดกันเลยรีบเข้าเถอะ ชักช้าพวกปีศาจจะทำไรไปมั่งแล้วก็ไม่รู้" ฟราก้าพูด
ระหว่างที่ทั้ง 3 กำลังเดินเข้าไป
"นี่พวกท่านจะไปไหนกัน" เสียงหญิงสาวดังขึ้น
"ท่านเป็นใคร" ฮิลเคเบี่ยนถามขึ้น
จากนั้นเจ้าของเสียงก็ปรากฎกายขึ้น บริจริต นั่นเอง
"ข้าบริจริต ข้ามีหน้าที่เฝ้าปากทางเข้าภูเขาแห่งนี้ พวกท่านกำลังจะไปไหน"
"ข้าฮิลเคเบี่ยนเป็นราชองค์รักษ์ขององค์ราชาอองเดร ขณะนี้องค์ราชากำลังตกอยู่ในมนต์สะกดของปีศาจร้าย ข้าและสหายของข้าต้องการนำเขาของพานิชูล่ากับดาบของเทพธิดาเซนทอร์ดเนเฟเร่เพื่อนำไปสร้างอาวุธเทพ"
"ข้าฟราก้า พวกข้าจำเป็นต้องเข้าไป ขอโปรดท่านช่วยบอกท่านกับพวกข้าด้วยเถิด"
"ส่วนข้าไรก้า ได้โปรดท่านให้เราผ่านไปด้วยเถอะ พวกเราจำเป็นต้องรีบไปช่วยองค์ราชา"
"ข้าเข้าใจพวกท่านแต่ทางที่พวกท่านจะเข้าไปเป็นดินแดนสวรรค์ ข้าไม่สามารถให้พวกท่านผ่านไปได้"
"งั้นข้าต้องขอเสียมารยาทแล้ว" ฟราก้าพูดพร้อมชักดาบคู่ใจออกมาจู่โจมใส่บริจริต
บริจริตสามารถหลบการโจมตีได้ไม่ยากนั้น
"นี่พวกท่านจะทำอะไรน่ะ" บริจริตถาม
"เมื่อท่านไม่ให้เราผ่าน เราก็จำเป็นต้องใช้กำลังล่ะ" ฟราก้าตอบ
"หึ ๆ ๆ ถ้าพวกท่านสามารถทำให้ข้าเกิดบาดแผลได้ ข้าจะบอกทางให้" บริจริตท้าทาย
"ข้าขอล่วงเกินท่านแล้ว" ฮิลเคเบี่ยนชักดาบหิมะออกมา รังสีจากดาบที่เปล่งออกมานั้น สำหรับคนธรรมดาจะเห็นเป็นเพียงไอเย็นเท่านั้น หากแต่บริจริตเห็นเป็นพลังของเทพที่สถิตอยู่ในดาบนั้นมีพลังมหาศาลทีเดียว
ขณะนี่บริจริตถูกทั้ง 3 ล้อมไว้แล้ว หากแต่บริจริตมิได้เสียสามาธิแม้แต่น้อย ยังคงยืนอยู่อย่างสงบนิ่ง คอยดูการเคลื่อนไหวของพวกฮิลเคเบี่ยน
"ในนามแห่งข้าไรก้า จงออกมามังกรวารี" ทันทีที่ไรก้าร่ายคาถาจบ มังกรน้ำตัวมหึมาก็ปรากฏตัวขึ้น
"จัดการเลยมังกรวารี" สิ้นคำสั่งมังกรวารีร่างยักษ์ก็จู่โจมใส่บริจริตทันที
มังกรพ่นน้ำใส่บริจริต บริจริตตวัดดาบเพียงครั้งเดียวก็สลายการโจมตีของมังกรน้ำไปได้
"สมแล้วที่เป็นนางฟ้าเฝ้าปากทางเข้า" ไรก้าเอ่ยชม
"คราวนี้ข้าบ้าง ย้าก......ก"
ฟราก้ากระโดดขึ้นเหนือหัวของบริจริตพร้อมฟันดาบลงมาเต็มแรง บริจริตเบี่ยงตัวเพียงเล็กน้อยก็หลบการโจมตีนั้นได้ พร้อมหมุนตัวเตะสวนใส่ฟราก้าทันที
"หนอย ฮึบ.."
พลัก!
ถึงแม้ฟราก้าจะใช้ดาบป้องกันการเตะของบริจริต แต่ด้วยความแรงทำให้ฟราก้ากระเด็นไปเล็กน้อย
"เอ้าท่านฮิลเคเบี่ยน การมองนั้นไม่สามารถทำให้ข้าเกิดแผลได้หลอกนะ" บริจริตท้าทาย
ฮิลเคเบี่ยนยังคงตั้งท่าอย่างเยือกเย็นหมายเผด็จศึกในการโจมตีครั้งเดียวเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมาก
"ท่านฟราก้าเรามาโจมตีพร้อมกัน เพื่อเปิดช่องให้กับฮิลเคเบี่ยนดีกว่านะ"
"ตกลง"
"ไปเลยมังกรวารี"
"กรรร...."
"คราวนี้ล่ะ เพลงดาบแยกสมุทร...ย้ากก....ก"
บริจริตยังคงสามารถหลบการโจมตีได้อย่างคล่องแคล่ว
"Water Magic..." ไรก้าปล่อยพลังเวทฯ ใส่บริจริต
บริจริตตวัดดาบสลายพลังเวทฯ นั้นและจู่โจมใส่ไรก้าทันที สำหรับจอมเวทฯ แล้วการต่อสู้ในระยะประชิดจะเป็นการเสียเปรียบอย่างยิ่ง
"ดูซิว่าท่านจะรับดาบข้ายังไง"
บริจริตพุ่งเข้าหาไรก้าด้วยความเร็ว แต่มังกรวารีฟาดหางใส่บริจริตในจังหวะนั้นเช่นกัน
"ตึง..." บริจริตกระโดดหลบอย่างหวุดหวิด
"ท่านข้าสู้กับท่านตัวต่อตัวข้าคงพ่ายแพ้แก่ท่านแล้วนางฟ้าบริจริต"
บริจริตยังไม่ทันได้ตั้งหลักฟราก้าก็พุ่งเข้าหาบริจริตอีกครั้งจากด้านหลัง
เปรี้ยง!
บริจริตหันไปรับดาบของฟราก้า หวิดจะถูกฟัน
"ในที่สุดการโจมตีข้าก็ได้ผลบ้างล่ะ" ฟราก้ากล่าวอย่างมั่นใจ
"จังหวะนี่ล่ะมังกรวารี Water Breath"
"กรรร..."
ตูม!
มังกรวารีปล่อยพลังใส่บริจริตจากด้านหลังทันที
บริจริตกระโดดหลบได้ ทำให้พลังนั้นถูกฟราก้าแทน
"อ้าก..."
"ฟราก้าเป็นอะไรหรือเปล่า" ไรก้าตะโกนถามอย่างเป็นห่วง
จังหวะที่บริจริตกระโดดขึ้นไปนั้น ฮิลเคเบี่ยนจึงฉวยโอกาสนี้ทุ่มพลังทั้งหมดจู่โจมใส่บริจริตทันที โดยขว้างดาบหิมะใส่บริจริตทันที บริจริตซึ่งลอยตัวอยู่บนอากาศมิสามารถจะหลบได้จังได้แค่ปัดดาบของฮิลเคเบี่ยนไป และจังหวะพิฆาตของฮิลเคเบี่ยนก็มาถึง ฮิลเคเบี่ยนจับดาบหิมะอีกเล่มนึง โดยจับดาบกลับกับปกติ ปลายดาบหันไปข้างหลัง ฮิลเคเบี่ยนบิดตัวช่วงบนไปทางด้านขวาเต็มที่กระโดดเข้าหาบริจริตในจังหวะที่ปัดดาบแรกทิ้ง เมื่อบริจริตปัดดาบแรกทิ้ง ก็เจอฮิลเคเบี่ยนพุ่งเข้ามาพอดี บริจริตถึงกับตะลึ่ง เพราะไม่คาดคิดว่าฮิลเคเบี่ยนจะจู่โจมรวดเร็วเพียงนี้ ฮิลเคเบี่ยนบิดตัวฟาดดาบใส่บริจริตเต็มกำลัง ดาบหิมะฟาดใส่บริจริตเต็ม ๆ ถึงกับกระเด็นไปชนกับหินก้อนยักษ์อย่างแรง
ตูม!
"โอ้ย..." การโจมตีของฮิลเคเบี่ยนทำให้บริจริตบาดเจ็บมากพอสมควร
"แฮ่ก ๆ ๆ ๆ " ฮิลเคเบี่ยนลงสู่พื้นพร้อมตั้งท่าเตรียมจุ่โจมอีกครั้ง
"รู้ผลแล้วนะท่านนางฟ้า" ไรก้าพูดขึ้น
"พวกท่านฝีมือร้ายกาจมาก โดยเฉพาะท่านฮิลเคเบี่ยน" บริจริตประคองตัวลุกขั้นมา ถึงแม้การโจมตีเมื่อครู่ของฮิลเคเบี่ยนจะรุนแรง แต่จังหวะที่ฟาดดาบไปได้ลดพลังทำลายลง บริจริตจึงไม่บาดเจ็บมาก
"ขออภัยท่านนางฟ้า ข้าทำให้ท่านต้องบาดเจ็บ" ฮิลเคเบี่ยนกล่าวขออภัย
"ไม่เป็นไรหลอกท่าน อาการแค่นี้เดี๋ยวก็หายแล้ว ข้าจะบอกทางพวกท่านตามสัญญา"
"เมื่อท่านเดินผ่านตรงนี้ไปซักระยะจะเจอทางแยก 2 ทาง ทางซ้ายคือทางไปสู่ดินแดนของเทพและนางฟ้าต่าง ๆ เป็นที่อยู่ของเทพ....(*) ผู้เป็นนายของพานิชูล่า ส่วนทางขวาจะเป็นดินแดนของเทพมังกร เทพสัตว์ต่าง ๆ เทพธิดาเนเฟเร่อยู่ทางนี้ ท่านจงรีบไปเถิด"
"ขอบคุณท่านมากนางฟ้าบริจริต" ฮิลเคเบี่ยนกล่าวขอบคุณ พร้อมทั้งรีบเดินทางไปทันที
หลังจากที่พวกฮิลเคเบี่ยนจากไปซักระยะ ได้มีเงาดำถึง 4 ร่าง ปรากฏขึ้น บริจริตซึ่งบาดเจ็บอยู่จังไม่ทันสังเกตว่า จตุรมารได้มาถึงภูเขาวาลฮาลแล้ว (to be continue)

ป.ล. จำชื่อเทพที่สร้างพานิชูล่าไม่ได้แล้วอ่ะจึงใส่เป็น (*) เคยอ่านเจอในบอร์ดไหนไม่รู้หาไม่เจอล่ะ เป็นเทพที่คอยปราบเหล่าปีศาจ ซึ่งเมื่อเทพองค์นี้นอนหลับ พานิชูล่าจะคอยกำจัดปีศาจแทนอ่ะ ใครรู้ก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ
Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #39 on: September 06, 2004, 04:14:30 AM »

Quote
Leonheart,the legendary Gunblade
Mp 2 inf turn PS Relic
Seal ที่ Leonheart ติด At +1 Df +1 Sp +1 และ เมื่อต่อสู้กับ [dark] At +3
หาก Seal ที่ติดคือ Eldar สามารถโจมตีจาก Df line และ โจมตีข้ามไปยัง Df Line ได้และได้รับ Alibity "เมื่อ Eldar โจมตี สามารถเลือกท่าโจมตีท่าใดก็ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย" สามารถโจมตี แบบ All ได้ และ ยกเลิก Skill และ Alibity [dark] ด้วย

อันนี้ดาบของสควอล์ในไฟนอล 8 ป่ะเนี่ย = ="  แล้วความสามารถที่โจมตีท่าใดก็ได้โดยไม่จ่ายค่าร่าย มันโกงป่ะ ตีฟรีเลยเนี่ยนะ  (เข้าใจถูกป่ะ)


ถูกต้องนะคร้าบ  ส่วนชื่อของกันเบลดนี่มันคิดไม่ออกอ่ะเลยใส่ชื่อนี้แทน และถือว่าเป็นอาวุธสุดยอดของสควอล์ด้วย

งานนี้ขอคิดอัศวินเทพผู้คุ้มครององค์หญิงอลาน่าบ้างนะ

Milinando,the Wind Knight
Lv.2 Mp3/1 Light Knight Divine
At 7
Df 8
Sp 5
+[wind] Gale Slash At 9 Mp 1
+[light] Des Cut At 11 Mp 3
Milinando สามารถโจมตีมายัง Df Line
เมื่อ Milinando โจมตี เราสามารถจั่วการ์ด 1 ใบขึ้นมือ
เมื่อ n[alana] ตกเป็นเป้าหมายของ Skill นำ Milinando ลงมายังสนามแล้วย้ายเป้าหมายไปยัง Seal ตัวอื่นในสน
« Last Edit: September 06, 2004, 04:22:03 AM by Sir Laguna » Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #40 on: September 06, 2004, 08:29:58 PM »

Quote
งานนี้ขอคิดอัศวินเทพผู้คุ้มครององค์หญิงอลาน่าบ้างนะ

อัศวินนี้คงมิใช่องค์เดียวกันกับเทพอารักษ์ประจำองค์ขององค์หญิงอลาน่าหลอกนะ เพราะเทพอารักษ์ขององค์หญิงมีองค์เดียวนิ @_@"

 ต่อดีกว่า ความเดิมตอนที่แล้วพวกฮิลเคเบี่ยนได้ไปหาของศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เพื่อนำไปให้แม๊กซิมอสสร้างอาวุธเทพขึ้น ซึ่งได้เดินทางมาถึงภูเขาวาลฮาล พวกเค้าทั้ง 3 ได้พบกับนางฟ้าบริจริตผู้เฝ้าปากทางเข้า และได้ต่อสู้เพื่อที่จะผ่านเข้าไป เมื่อฮิลเคเบี่ยนสามารถเอาชนะนางฟ้าบริจริตได้ ก็ได้มุ่งหน้าต่อไป ซึ่งหลังจากที่พวกฮิลเคเบี่ยนมุ่งหน้าต่อไปนั้น ได้มีเงามืดปรากฏร่างขึ้นที่หน้าทางเข้า ซึ่งเงาทั้ง 4 นั่นคือ จตุรมากนั่นเอง....

"อืม...นี่นะหรือภูเขาวาลฮาล ช่างงดงาม สมกับเป็นทางเข้าดินแดนสวรรค์จริง ๆ " แกรนซอนพูดขึ้น
"ที่นี่จะต้องมีเทพหล่อ ๆ เต็มไปหมดแน่เลย โฮ่ ๆ ๆ ๆ ถ้าเจอข้าจะสะกดให้เป็นทาสของข้าตลอดไป โฮ่ ๆ ๆ ๆ" มาย่าหัวเราะอย่างดีใจ
"อย่ามัวชักช้าอยู่เลย อย่าลืมซิองค์จักรพรรดิ์สั่งให้เรามาทำอะไร" เรเวนผู้เคร่งครัดในคำสั่งเตือนมาย่า
"เอาเถอะพวกเราก็รีบเข้าไปกันได้แล้ว" แกรนซอนแทรกขึ้น
"ที่นี่เป็นทางเข้าดินแดนสวรรค์พวกปีศาจจงกลับไปยังที่ที่พวกเจ้ามาซะ"
"เจ้าเป็นใครคิดจะมาสั่งพวกข้า" มาย่าถามอย่างเย้ยหยัน
"ถ้าพวกเจ้าคิดจะล่วงล้ำเข้ามาล่ะก็ข้าก็จำเป็นจะต้องจัดการกับพวกเจ้า" บริจริตปรากฎร่างพร้อมทวนคู่ใจ
"ถ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำอะไรพวกข้าได้ก็ลองดูซิท่านนางฟ้า" แกรนซอนท้าทาย
"นักดาบก็ต้องสู้กับนักดาบซิ ให้ข้าจัดการเองแกรนซอน" เรเวนชักดาบคู่กายออกมา
"ได้ซิเรเวน เล่นสนุกับนางฟ้าซักหน่อยซิ"
"ขอบใจมาก งั้นข้าไม่เกรงใจล่ะนะ"
เรเวนพุ่งเข้าปะทะบริจริตด้วยความเร็วสูง บริจริตตั้งท่าพร้อมตั้งรับอยู่แล้ว ถึงกับกระเด็นไปเล็กน้อย
"ฝีมือดีพอตัวนิท่านนางฟ้า"
"แค่เนี่ยไม่เท่าไหร่หลอกเจ้าปีศาจ"
ทั้ง 2 พุ่งเข้าหากันอีกครั้ง คราวนี้ดาบของเรเวนปะทะกับทวนของบริจริตอย่างแรง  ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้อีกฝ่าย ยังคงประลองกำลังกันอยู่
"ดูเหมือนกำลังเราจะสูสีกันนะนางฟ้า"
"อาจจะใช่แต่เทคนิคใครจะดีกว่ากันล่ะ มาตัดสินกัน"
"ฮึบ" ทั้ง 2 แย่จากกับ ต่างตั้งท่าพร้อมจู่โจมอีกผ่าย โดยเรเวนแยกขา ตั้งดาบระดับใบหน้า โดยปลายดาบชี้ไปด้านหน้า ฝ่ายบริจริตแยกขายืนอย่างมั่นคง เองตัวไปด้านหลังเล็กน้อย จับทวนอยู่เหนือศีรษะ ปลายทวนชี้ไปด้านหน้าหมายทะลวงขั่วหัวใจ
คราวนี้บริจริตพุ่งเข้าหาก่อน บริจริตใช้ทวนพุ่งทะลวงไปที่หน้าอกของเรเวน
"จู่โจมง่ายไปมั่งนางฟ้า" เรเวนเบี่ยงตัวนิดเดียวก็สามารถหลบการโจมตีของบริจริตได้
"แน่ใจเหรอเจ้าปีศาจ" บริจริตฟาดทวนที่พลาดเป้าไปแล้วใส่เรเวนทันที
เคร้ง ๆ ๆ  ๆ ๆ !
เสียงดาบของเรเวนปะทะกับทวนของบริจริตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำให้ฝ่ายตรงข้าม
"ย้ากก..."
"ย้ากกก..."
เคร้ง ๆ ๆ ๆ ๆ!
ทั้งสองต่อสู้กันอยู่หลายนาที แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ ทางแกรนซอนจึงบอกเรเวนว่า
"เรเวนอย่ามัวแต่เล่นเอาจริงได้แล้ว"
"แหม! แกรนซอน ข้ากำลังสนุกเลย" เรเวนพูดไปพลางปัดป้องทวนของบริจริตไปพลาง
ทั้ง 2 แยกกันตั้งหลักอีกครั้ง และคราวนี้เรเวนทำท่าจะตัดสินกับบริจริตแล้ว
"ท่านนางฟ้าข้าสู้กับท่านแล้วรู้สึกสนุกมาก แต่หมดเวลาเล่นสนุกแล้ว ข้าจะตัดสินกับท่านในดาบนี้ล่ะ" สีหน้าของเรเวนดูเยือกเย็นและนิ่งมาก
"ดีเหมือนกันข้าก็ไม่อยากจะเล่นกับเจ้าแล้ว" บริจริตตั้งท่าหมายจัดการให้ได้ในการโจมตีครั้งนี้
บริจริตเป็นฝ่ายโจมตีก่อนอีกครั้ง บริจริตกระโดดขึ้นฟาดทวนลงพื้นอย่างแรง พื้นดินถึงกับแยกเป็นรอยแยกตรงไปหาเรเวน เรเวนกระโดดหลบอย่างง่ายดาย จังหวะที่เรเวนลอยตัวอยู่นั้นบริจริตฟาดหินก้อนใหญ่ลอยไปทางเรเวน แต่เรเวนก็จัดการหินก้อนยักษ์อย่างง่ายดาย เมื่อหินก้อนยักษ์แตกไปแล้ว ร่างของบริจริตก็โผล่อยู่ตรงหน้าเรเวนทันที ใช่แล้วนี่คือการจู่โจมแบบของฮิลเคเบี่ยนนั่นเอง  บริจริตพุ่งปลายทวนใส่เรเวนทันที
ฉึก...! ปลายทวนของบริจริตแทงถูกร่างของเรเวนอย่างจัง และร่วงสู่พื้นทันที
"ตึง! อ้ากก...หนอยแน่ะ"
ฝ่ายจตุรมารคิดไม่ถึงว่าเรเวนจะพ่ายแพ้เช่นนี้ ถึงกับอึ้งไป
ตูม!  แกรนซอนปล่อยพลังเวทฯ ถูกบริจริตซึ่งไม่ทันระวัง ถึงกับกระเด็นไปไกลทีเดียว
"อั๊ก...." บริจริตถึงกับกระอักเลือด
แกรนซอนโจมตีซ้ำทันที
"ตายซะเถอะนางฟ้าบริจริต"
ตูม! พลังเวทฯ ของแกรนซอนพุ่งเข้าหาบริจริตที่บาดเจ็บสาหัส
ก่อนที่พลังเวทฯ ของแกรนซอนจะโดยบริจริต อัศวินแห่งสวรรค์โผล่เข้ามาช่วยพอดี เฮเวนไนท์ ใช้หอกกระแทกพลังกลับไปหาแกรนซอนทันที แกรนซอนซึ่งคาดไม่ถึงว่าจะมีใครมาช่วยจึงไม่ทันจะป้องกันตัว....
"ด้วยพลังแห่งความชั่วร้ายแห่งองค์จักรพรรดิ์ ข้ากิโยตินขอบัญชา...จงออกมาโลห์อาคมดำ" กิโยตินร่ายคาถาช่วยแกรนซอนไว้ได้
เมื่อจตุรมารเห็นเฮเว่นไนท์ ปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้า จึงตัดสินใจล่าถอยกลับไป จากนั้นเฮเว่นไนท์ได้พาตัวบริจริตไปรักษาตัวทันที....

ป.ล. ตอนที่แล้วพลาดอย่างแรงเลย บริจริต ใช้ทวนนิ ดันพิมพ์ไปใช้ดาบซะงั้นอ่ะ = =" ข้าน้อยพลาดไปแล้วเหอะ ๆ ๆ และอีกอย่างนะ

Quote
ป.ล. จำชื่อเทพที่สร้างพานิชูล่าไม่ได้แล้วอ่ะจึงใส่เป็น (*) เคยอ่านเจอในบอร์ดไหนไม่รู้หาไม่เจอล่ะ เป็นเทพที่คอยปราบเหล่าปีศาจ ซึ่งเมื่อเทพองค์นี้นอนหลับ พานิชูล่าจะคอยกำจัดปีศาจแทนอ่ะ ใครรู้ก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ


ไม่มีผู้ใดช่วยข้าน้อยในเรื่องนี้ได้เลยกระนั้นหรือ...หรือจาเป็นว่าไม่มีคนอ่าน เหอะ ๆ ๆ ๆ อันนี้น่าจะเป็นไปได้มากกว่านะเหอะ ๆ ๆ ๆ .....T_T
Logged


Shirahime
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 75


Email
« Reply #41 on: September 06, 2004, 11:43:35 PM »

เอาน่าคิงออฟคับอย่างน้อยขอวังพังก็ยังดี(เชียร์ป้าเนอร์เต็มที่ โย่ว!)

ตูม! เกิดเสียงระเบิอดังกระหึ่ม และพื้นห้องโถงที่ยุบลงไป
"ว้าย!"
"โอ้ย!"
"ช่วยด้วย!"
ฉ้ง!เฉ้ง!เฉือก!เอื้อก!อ้าก!
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของประชาชนชาวเฟเลเชีย เหล่ากองทัพศิลาวายุก็ได้เข้าต่อสู้กับกองทัพทมิฬอย่างดุเดือด พร้อมกับเลือดที่ไหลลงบนพื้นพสุธา เลือดชาวเฟเลเชีย แม้ทัพศิลาวายุจะมีม้า แต่กองทัพทิมฬมีจำนวนมากกว่าแล้วพร้อมที่จะฆ่าตัวตายพร้อมกับทหารม้า

ท่ามกลางการต่อสู้นั้น องค์หญิงเรจิน่าก็ได้พบกับบุคคลที่เธอไม่อยากเจอที่สุด
"ราโชยู"เรจิน่าพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา และหันมองหาคนที่จะช่วยเหลือเธอได้ ไม่มี แม้แต่ชาลส์ และ ฮาริสันก็ยังคงติดพันกับการต่อสู้อย่างดุเดือด ดังนั้นเธอจึงค่อยๆดึงดาบออกจากฝัก ตั้งมันขึ้นตรงหน้า
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต่อสู้กับท่าน องค์หญิง"ราโชยูพูดด้วยน้ำเสียงนับถือ
"แต่ท่านต้องจำไว้อย่างนึงหน้าที่ของข้าคือฆ่าท่าน"ราโชยูกล่าวก่อนพุ่งเข้าหาเรจิน่าและเงื้อเคียวของเขาขึ้น

เป้ง!เสียงดาบของเรจิน่ากับเคียวของราโชยูประทะกัน เรจิน่าพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะดันมันออกไปแต่แรงของ ราโชยูช่างเยอะนักเธอพยายามกดแรงลงไปในดาบขมากขึ้นแต่ไม่ได้ผลเธอจึงถอนดาบออกและกระโดดถอยหลังหลบแรงเหวี่ยงมหาศาลของคมเคียวนั้น

ฝืบ!คมเคียวของราโชยูนั้นฟาดผ่านอากาศตรงที่ที่เรจิน่าเคยยืนอยู่
"ฝีมือไม่เลวหนิท่าน"ราโชยูเย้ย
"ยังไม่เท่าไหร่หรอก"เรจิน่าตอกกลับ ทำเอาราโชยูสีหน้าเครียดขึ้นมา
ท่านสองพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง เรจิน่าฟันซ้าย ราโชยูก็ฟังซ้าย เรจิน่าฟันล่าง ราโชยูก็ฟันล่าง
เรจิน่า จึงวิ่งไปหลบหลังเสา ตั้งหลัก แต่ราโชยูก็ฟันจนเสาหักลงมา เรจิน่าจึงวิ่งไปที่ม้าแต่ราโชยูก็เข้ามาฟันจนคอม้าขาด
"มันรู้ทุกกระบวนท่าของเรา"เรจิน่าคิดในใจ และคิดที่จะเลิกเป็นฝ่ายรุก แต่เธอจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายรับแทน เธอจึงนั่งลงวางดาบอยู่บนตัก

ราโชยูหยุดกึก
"องค์หญิงผู้นี้คิดจะทำการใดกันแน่"ราโชยูคิด แต่เขาก็ยังไม่กล้าทำการใดทั้งสิ้นเพราะคิดว่าองค์หญิงผู้นี้อาจจะมีบางอย่างซ่อนอยู่
เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน แต่ช่างยาวนานสำหรับราโชยู
"มันชักจะเกินไปแล้วองค์หญิง"ราโชยูเงื้อเคียวขึ้นก่อนฟาดลงอย่างแรง

เช้ง!เรจิน่ายกดาบขึ้นมาเหนือหัวกันเคียวอันนั้นได้อย่างเหมาะเจาะ
"เจ้าไม่มีวันทำอะไรข้าได้ ราโชยู ถ้าเจ้ายังไม่นิ่งพอ"เรจิน่าพูดเย้ย ทำเอาราโชยูอึ้งไปชั่วขณะ
เรจิน่ากระโดดพุ่งกลับออกไปข้างหลัง
"ดูถ้าเจ้าจะหมดมุขแล้วสินะถึงได้หนีหน่ะ"
ราโชยูกระโดดตาม แต่เรจิน่าเร็วกว่าเธอกระโดดข้ามหัวของราโชยู พร้อมกับเอาดาบแทงเข้าที่ข้างหลังของราโชยู
ฉึก!
"หมดยาก"เรจิน่าตอบ
เรจิน่าดึงดาบของเธอออกจากแผ่นหลังของราโชยู
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เก่งมากองค์หญิงที่ทำข้าได้มากถึงขณะนี้"ราโชยูหัวเราะ แล้วหันหลังกลับมาก่อนเงื้อเคียวขึ้นอีกครั้ง เรจิน่าผงะถอยหลัง
"นี่มันปีศาจชัดๆ ไม่เคยมีมนุษย์หน้าไหนที่รอดคมดาบข้าไปได้"เรจิน่าคิด
"องค์หญิงเรจิน่า"เสียงชาลส์ พร้อมกับเสียงของกองทัพม้าเป็นพันๆที่ซ่อนตัวอยู่วิ่งเข้ามาผ่านห้องโถงของพระราชวัง เรจิน่ามองราโชยู ราโชยูก็มองเรจิน่า พลันแล้วเรจิน่าก็เหนี่ยวคอของม้าที่พุ่งเข้ามาตัวนึงได้แล้วเหวี่ยงตัวขึ้นขี่ม้าตัวนั้น ส่วนราโชยูก็ถูกฝูงม้าวิ่งทับ
"เขายังไม่ตาย"เรจิน่าคิด

เมื่อพวกเรจิน่าออกมาจากเฟเลเชียได้ระยะนึงแล้ว เธอจึงเริ่มสังเกตถึงคนที่ขี่ม้ามาด้วยกัน
1.ชาลส์+เกรกอรี่
2.ซิกมันต์+ราชินีอลิเซีย
3.แฮริสัน
"ท่านองค์หญิงเราเหลือพลกองทัพไม่มาก เราคงกู้เฟเลเชียไม่ได้แล้ว แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะกำจัดพวกซาโลมได้ยังไง เราจะทำยังไงพะยะค่ะ"ชาลส์พูด
"ใช่สิเราจะทำยังไง" แฮริสันเสริม
"ยังมีกองทัพที่จะช่วยเราได้นะ"เรจิน่าพูด
"ท่านหมายถึงใครฟูดินันรึ"แฮริสันถาม
"ไม่หรอก การไปฟูดินันในตอนนี้เสี่ยงเกินไป แต่กองทัพที่จะช่วยเราเราได้นั้นคือ ทัพเงือก และทัพแอนดิซอง"เมื่อเรจน่าพูดจบ ทุกคนจึงมุ่งหน้าสู่แอนดิซองทันที
Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #42 on: September 07, 2004, 07:25:54 AM »

เทพอารักษ์กับเทพอัศวินมันคนละองค์กัน เทพอัศวินต้องมีคำสั่งจากสวรรค์ก่อนจึงจะสามารถช่วยเหลือคนที่ตกอยู่ในอันตราย

ต่อไปเป็นอาวุธเทพของ ฮิลเคเบี่ยน

Antactius,Twin Sword of Hyukebian
Mp 2 [inf] Turn PS Relic
Seal ที่ Antactius ติด At +2 Df +2 ยกเลิก Freeze Curse ถ้า Seal ที่ติดคือ Hyukebian สามารถโจมตี 2 ครั้งและได้รับ Ability Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้ามทุกคนไม่สามารถยกเลิก Freeze Curse ได้ , ในช่วง subturn โจมตีฝ่ายเราสามารถจ่าย Mp4 Freeze Curse (all) 1 Turn , Seal ที่ติด Freeze Curse กลายเป็น Inactive Seal และ Hyukebian + At ตามจำนวน Seal ที่ติด Freeze Curse ด้วย

แอนตาคติอัส เป็น ดาบที่มี พลังเทพมังกร แมนเทลลูม่าสถิตย์อยู่จึงทำให้มีความเยือกเย็นในตัวดาบ ผู้ที่เหมาะสมเท่านั้นจึงมีสิทธิ์ครอบครอง (นั่นก็คือ ฮิลเคเบี่ยน)

ดาบคู่หิมะเล่มนี้คงโหดไม่มากก็น้อย หุหุ

ตัวต่อไปเป็นนักเดินทางบ้าง
Ryugoh,the Wondering Dragon Knight
Lv.2 Mp 3/1 water Dragon-Knight
At 7
Df 8
Sp 4
+[water] Tritical Strike At 10 Mp 2
+[dragon] Dragon Spirit At 11 Mp 2
เมื่อ Ryugoh ต่อสู้กับ Seal ที่มี Sp น้อยกว่า Ryugoh At +2
Ryugoh สามารถโจมตีข้าม Df Line ได้
Ryugoh สามารถโจมตี Seal ใบรองได้ เมื่อ Ryugoh รวมร่างกับ Dragon

ริวโก เป็นนักดาบพเนจรที่มีสายเลือดทายาทอัศวินมังกร ได้เดินทางมายังแอนดิซอง เพื่อมาพบเพื่อนที่อยู่ที่นั่น แต่กลับเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อเมืองที่เขามาแทบจะมีแต่คนยากจนและผู้ลี้ภัยสงครามที่มีมากมายจนเขาแทบจะเบียดเสียดไป จึงได้ถามชาวบ้านจึงได้รู้ว่าราชินีวิโอเรียได้ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จเมื่อได้ยินดังนั้นแล้วจึงตามหาเพื่อนพร้อมกับปราบราชินีวิโอเรียด้วย(ส่วนเพื่อนที่เขาตามหาก็ช่วยคิดทีนะ)
ริวโก มีดาบ 1 เล่มเป็นแบบของกัสในเรื่องเบอร์เซริคแต่ดาบนั้นเบาคล่องตัวแต่คมกริบดั่งเขี้ยวมังกร

ปล.ปืนคอสโม่ของอลิซาเบธมันคงซ้ำกับควาสามารถของเธออ่ะ เดี๋ยวโมใหม่ละกัน
Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #43 on: September 07, 2004, 08:31:06 PM »

เพื่อนริวโกเป็นแบบนี้ดีม๊ะ พลังต้องใกล้เคียงกันหน่อย
Zeres, the Commander of Dragon
Mp 3/1  Water   Knight/Tamer  Lv. 2

At 7
Df 9
Sp 4

(Water)                        Flash  Scythe              At 10                Mp 2
(Dragon)                      Scythe on Dragon       At 11                Mp 2
(Dragon) (Element)       Breath of Dragon        At 10  Df 12     Mp 2

เมื่อ  เข้ามาในสนามนำการ์ด Seal ใบบนสุดลงมาในสนามหาก Seal ใบนั้นไม่ใช่ Dragon นำกลับไปวางไว้ที่เดิม
Skill หา Dragon 1 ใบ จากกองการ์ดเข้ามาในสนาม   Mp 3
Skill เมื่อ Seal ฝ่ายเราตกเป็นเป้าหมายการโจมตี ให้ย้ายการโจมตีนั้นมาที่ Zeres เมื่อ รวมร่าง () Mp 3

เด็คมังกรจาได้รุ่ง ๆ เหอะ ๆ ๆ ๆ

ต่อนะ
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า ไรอาซึ่งบาดเจ็บจากการต่อสู้กับซาฟิโร่ อาการได้หายเป็นปกติแล้ว
"เย้! ในที่สุดข้าก็หายซักที เอาแต่นอนอยู่บนเตียงนี่เซ็งจริง ๆ "
"แหม! ไรอาพอฟื้นขึ้นมา ก็อาละวาดเชียวนะ" ซิสเตอร์โรซาน่าหยอกไรอา
"แหม! ซิสเตอร์อุตส่าห์หายทั้งทีก็ต้องขออาละวาดหน่อยล่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
"มีข่าวด่วนพะยะค่ะองค์หญิง" อาร์คนักส่งสารหนุ่มกลับมาจากการสืบข่าว
"มีเรื่องอะไรด่วนหรือจ๊ะอาร์ค" องค์หญิงถามขึ้น
"ขณะนี้ฟีลีเซียได้แตกแล้วพะยะค่ะ องค์หญิงเรจิน่าและทหารต่าง ๆ กำลังมุ่งหน้ามาแอนดิซองค์เพื่อขอความช่วยเหลือพะยะค่ะ"
"แย่แล้วถ้าพวกองค์หญิงเรจิน่าเข้าไปในวังจะเป็นอันตรายได้นะ" องค์หญิงทรงเป็นห่วงเรจิน่า
"นี่ก็พึ่งวันที่ 2 เอง ท่านฮิลเคเบี่ยนก็ยังไม่กลับมาเลย" ฟรอสซ์พูดขึ้น
"คราวนี้ก็คงจะถึงซีนข้าออกโรงบ้างแล้วล่ะนะ" ไรอาพูดขึ้น
"เจ้าจะทำยังไงล่ะไรอา" แอลฟาเรียถาม
"ไม่เห็นจะยากข้าก็แค่ไปดักรอองค์หญิงเรจิน่าและพรรคพวก เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง แล้วก็พามาที่นี่ยังไล่ล่ะ"
"แต่ที่นี่ไม่ใช่ปราสาทราชวังที่ไหนนะ นี่เป็นแค่ที่พักเล็ก ๆ เท่านั้น แล้วเราจะให้พวกเค้าอยู่ที่ไหนกันล่ะ" เอลด้าแย้งขึ้น
"อืม....เรื่องนี้คงต้องยกให้กับพวกหนุ่ม ๆ ที่นี่แล้วล่ะ ช่วยกันสร้างที่พักชั่วคราวให้พวกองค์หญิงเรจิน่าและคนอื่น ๆ ด้วย" ซิสเตอร์โรซาน่าเสนอ
"เป็นความคิดที่ดีนะจ๊ะซิสเตอร์" องค์หญิงเห็นด้วย
"พวกท่านเห็นเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ" องค์หญิงถามความเห็น
"ข้าแล้วแต่องค์หญิงจะบัญชามา ต่อให้บุกน้ำ ลุยไฟ ข้าก็ทำให้ท่านได้" คาลอสพูด
"ข้าก็เห็นด้วย" ฟรอสซ์พูด
"ดีงั้นตกลงตามนี่ข้าไปก่อนะล่ะนะ...." ขณะที่ไรอากำลังจะไปนั้น
"เดี๋ยวก่อนไรอา ถ้าขากลับเจออะไรแปลก ๆ ก็เก็บกลับมาด้วยนะ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ เพราะสิ่งนั้นอาจช่วยท่านอองเดรได้" เฟเรย่าพูดกับไรอา
"ได้เลยท่านยาย" พอพูดจบไรอาก็รีบไปดักรอองค์หญิงเรจิน่าทันที
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านองค์หญิงเรจิน่า
"แอนดิซองค์อยู่ข้าหน้าเราแล้วพะยะค่ะ" ชาร์ลบอกกับองค์หญิง
"เนี่ยนะเหรอแอนดิซองค์ ทำไมดูแย่แบบนี้ล่ะ" เรจิน่าเห็นภาพที่ประชาชนอดอยาก นอนระเนระนาดตามพื้นเต็มไปหมด
"นี่เราคิดผิดหรือเปล่านี่ ที่จะมาพึ่งกำลังของแอนดิซองค์" แฮริสันพูดขึ้น
"ท่านพี่เรือเทียบท่าแล้ว เรารีบไปที่พระราชวังกันเถอะ" ซิกมันต์พูด
"จ๊ะ"
"ท่านผู้นั่นใช่องค์หญิงเรจิน่าหรือเปล่า"  ชายแปลกหน้าผู้หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับตัวประหลาดที่ถูกชายแปลกหน้าจับไว้
"เจ้าเป็นใครรู้จักองค์หญิงเรจิน่าได้อย่างไร" ชาร์ลถาม มือจับดาบพร้อมที่จะสังหารชายแปลกหน้าได้ทุกเมื่อ
"แล้วท่านเป็นใครล่ะ มีมารยาทหรือเปล่าก่อนจะถามชื่อผู้อื่นน่ะควรบอกชื่อตนเองก่อนนะ"
"ข้าชาร์ล คาเรน แม่ทัพใหญ่แห่งฟีลีเซีย แล้วเจ้าล่ะ"
"ข้าไรอา เป็นคนขององค์หญิงอลาน่า มาที่นี่เพื่อพบกับองค์หญิงเรจิน่า"
"อยากพบข้ามีเรื่องอะไรรึ ท่านไรอา"
"แหม! องค์หญิงเรียกชื่อข้าไรอาเฉย ๆ จะดีกว่า เรียกท่านแล้วมันจั๊กกะจี้อ่ะ"
"เจ้ามีอะไรก็พูดมาอย่าโยกโย้" ชาร์ลพูดอย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก
"ได้ ๆ ท่านแม่ทัพไม่ต้องทำท่าน่ากลัวหยังงั้นก็ได้ ข้ามาที่นี่เพื่อจะบอกเรื่องสำคัญ..."
"ขณะนี่แอนดิซองค์ได้ถูกราชินีวิโอเรียยึดอำนาจไว้แล้ว ซึ่งเบื่องหลังข้าคิดว่าน่าจะมีพวกปีศาจอยู่ จึงมาเตือนท่านว่าอย่าไปที่พระราชวัง"
"เป็นไปได้ยังไง แล้วกษัตริย์แห่งแอนดิซองค์ไปไหนซะล่ะ ถึงปล่อยให้เมืองเป็นแบบนี้" แฮริสั่นถาม
"องค์ราชาอองเดรขณะนี้ถูกมนต์สะกดของราชินีวิโอเรีย ซึ่งพวกเรากำลังหาทางช่วยอยู่"
"ข้าว่าพวกท่านอย่าพึ่งถามเลย ไปกับข้าก่อนดีกว่า ข้าจะพาพวกท่านไปหาองค์หญิงอลาน่า"
"แล้วพวกข้าจะไว้ใจเจ้าได้ยังไงล่ะ ท่านไรอา จอมโจรลักพาตัวผู้มีชื่อเสียง" ชาร์ลพูด
"แหม ๆ ๆ ท่านแม่ทัพนี่ความรู้กว้างขวางจริง ๆ นะ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านแม่ทัพแห่งฟีลีเซียรู้จักข้าเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ "
"แต่ท่านโปรดวางใจได้ ข้าไรอาบัดนี้เลิกเป็นโจรแล้ว ตอนนี้ข้าเป็นคนขององค์หญิงอลาน่า เพื่อช่วยองค์หญิงกู้บัลลังก์กลับคืนมา หากท่านไม่ไว้ใจข้าก็เชิญท่านสังหารข้าซะที่นี่" ไรอาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ได้ข้าจะเชื่อท่าน โปรดนำทางด้วย" เรจิน่าพูดกับไรอา
"แต่ว่าองค์หญิง..." ชาร์ลพยายามทักท้วง
"ช่างเถอะชาร์ล ลองเชื่อเค้าดู แต่ถ้าคิดแผนชั่วไว้ล่ะก็ ข้าจะสังหารเจ้าซะ" ซิกมันต์พูดขู่ไรอา
"เอาล่ะ พวกท่านโปรดตามข้ามาทางนี้"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
"ยินดีที่ได้พบท่านกษัตริย์แห่งฟีลีเซีย องค์หญิงเรจิน่า ท่านแฮริสัน และท่านแม่ทัพชาร์ค คาเรน ข้าอลาน่า มาเรีย ชาริเต้ ขอเชิญพวกท่านพักตามสบาย เราได้เตรียมที่พักไว้ให้พวกท่านแล้ว" องค์หญิงอลาน่าพูดอย่างน้อบน้อม
"ทางเราต้องรบกวนท่านแล้ว" เรจิน่าพูด
"พวกท่านเชิญทางนี้ค่ะ ข้าจะนำทางไปที่พักเอง" องค์หญิงอลาน่าอาสา
หลังจากที่พวกองค์หญิงเรจิน่าไปยังที่พักแล้ว
"นี่ ๆ ท่านยาย ข้าเจอสิ่งแปลก ๆ ที่ท่านยายพูดไว้นะ" ไรอาพูดพลางจับสิ่งนั้นมาให้ดู
เฟรย่ามองแล้วพิจารณาไปเรื่อย ๆ
"ข้าเห็นมันเดินวนไปวนมาอยู่กับที่ พอข้าเดินเข้าไปดู มันก็เดินเป๊ไปเป๊มา ดูบ้า ๆ บอ ๆ ยังไงชอบกล เลยคิดว่าไอ้ตัวนี้หล่ะประหลาดสุด ๆ "
"สิ่งนี้ล่ะที่จะช่วยท่านอองเดรได้" เฟรย่าพูดขึ้นเสียงดัง
"เหวอ.....ท่านยายข้าตกใจหมด มันเป็นตัวอะไรเหรอท่านยาย"
"มันคือหมอโรคจิต (Pysco Doctor) มันเป็นเครื่องจักรบ้า ๆ บอ ๆ อย่างที่เจ้าเห็นน่ะหล่ะ ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่มันสามารถแก้คำสาปได้ทุกชนิดเชียวนะ และตัวมันเองก็ไม่โดนคำสาปด้วย"
"งั้นเราก็มีหวังแล้วซิท่านยาย เย้!" ไรอาดีใจจนลืมตัวกระโดดกอดเฟรย่าทันที
"โอ้ย ๆ ๆ ไรอาเบา ๆ ข้ามันแก่แล้วนะ อย่าเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ หน่อยเลยน่า"
"แหม! ท่านยายก็ข้าดีใจนิ เย้ ๆ ๆ ๆ "
"ที่เหลือก็รอแค่ท่านฮิลเคเบี่ยนกลับมาเท่านั้นแล้ว"

ขณะนี้แสงแห่งความหวังเริ่มส่องสว่างขึ้นทีละน้อยแล้ว (to be continue)
Logged


3o'คนไม่สำคัญ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 606


Email
« Reply #44 on: September 07, 2004, 08:56:12 PM »

บริจาก นางอัปสรของผมให้ อลาน่าคนนึงละกัน
 เนื่องจากเห็นความดี ผมเลยส่ง นางอัปสรไปช่วย เป็นรางวัล จากบุรพทวีป และรางวัล โนเบล สาชา มนุษยธรรม อีก 1
ใครจพ นันทาเทวี ได้บ้าง
  ที Gabriela ยังมาหา Ishan ได้เลย

Nandadevi, Alana's Follower
2/1 ลม Dancer Lv.2
At:5
Df:6
Sp:4
+แสง    Visuddha Raksha  At:8Mp2
+ น้ำ     Visuddha Pani        At:7mp1

Dancing At line
 Mp เรา +2 เมื่อ Nandadevi รวมร่างกับ น้ำ
รักษา Curse ให้ Seal 2ใบในสนาม เมื่อ Nandadevi รวมร่างกับแสง
 Nandadevi cancel Curse

จริงก็ ให้ นางอัปสร 9นาง กับ อสูร ทั้งหมด ให้เป็น Gardian Angel ของ Alana ให้หมดเลยดีกว่า ^^
« Last Edit: September 07, 2004, 08:59:26 PM by 3o'เจ้าชายศศิธรินทร์ ขี่ม้าขาว » Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #45 on: September 08, 2004, 05:01:44 PM »

ขอบคุณมากสำหรับนางอัปสร

ต่อไปก็เวียนเรื่องของริวโกแทน
ในขณะเดียวกัน...
ริวโกเมื่อมายังแอนดิซองแล้วเขาเดินทางตามหาเซเรสแต่ระหว่างทางริวโกได้ยินเสียงนี้"ใครก็ได้ช่วยด้วย"ริวโกได้ยินดังนั้นเขาจึงรีบไปยังต้นตอของเสียง ภาพที่เขาเห็นคือทหารของแอนดิซองกำลังทำลายข้าวของของชาวบ้านพร้อมทั้ฉุดเด็กสาวเนื่องจากชาวบ้านไม่มีเงินพอที่จะจ่ายภาษีให้กับรูฟัส(ตอนนี้นอกจากดำรงตำแหน่งสภาพ่อค้าวานิชแบบเบ็ดเสร็จแล้วยังได้รับตำแหน่งจากราชินีวิโอเรียให้เป็นนายภาษีอีกด้วย) ริวโกได้เห็นดังนั้นเขาจึงชักดาบออกจากเป้พร้อมเข้าไปหยุดทหาร จึงมีการต่อสู้แบบตะลุมบอน ริวโกถือดาบที่ใหญ่แต่เบาคล่องตัวพร้อมกับท่าการโจมตีที่รวดเร็วและสวยงามโจมตีเข้าใส่ทหารพวกนั้น แต่กลับไม่ได้สังหารผู้ใดไม่เขาเพียงแค่ปลดอาวุธของพวกทหารเท่านั้นเอง พวกทหารได้เห็นอย่างนั้นแล้วพวกเขารู้เลยว่ากำลังต่อกรกับมังกรอยู่จึงได้ล่าถอยออกไป พวกชาวบ้านเข้ามาขอบคุณกับริวโก "ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือพวกเรา ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ของเราได้รักษามาเท่าชีวิตเกือบถูกทำลายแล้ว" ชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งอวุโสกว่าใครเข้ามาขอบคุณ
"ไม่เป็นไรมันเป็นหน้าที่ที่เราต้องปกป้องผู้บริสุทธิ์ขอรับ"ริวโกพูดกับชาวบ้านอย่างนอบน้อม
"แล้วท่านมาที่นี่เพื่อ..."ชาวบ้านอีกคนหนึ่งได้ถามกับริวโก
"เรามาหาเพื่อนชื่อว่าเซเรส รู้จักเขาไหม"ริวโกตอบกลับ
"เซเรสเป็นเพื่อนของพวกเราเดี๋ยวเราจะพาไปพบเขา"เมื่อชาวบ้านพูดจบก็พาริวโกไปพบกับเซเรส
ที่พักของเซเรส
"ริวโก!!!"เซเรสอุทานออกมาเมื่อเขาได้พบกับเพื่อนเก่า
"ไม่ได้เจอกันซะนาน เรารู้ว่านายได้มาอยู่ที่นี่เลยออกตามหา"ริวโกพูดพร้อมกับยืนพิงที่เสา
"เห็นว่านายกำลังเหนื่อยๆ ข้าว่าน่าจะพักก่อนดีกว่า"เซเรสเอ่ยปากชวน
"ได้สิ เรามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย"ริวโกพูดก่อนที่จะเซเรสพาไปยังห้องนั่งเล่น
สักพักหนึ่ง
"ฟิเลเซียถูกตีแตกแล้ว"ริวโกพูดด้วยเสียงเบา
"แย่จริง  ขนาดกองทัพศิลาวายุที่ว่าแข็งแกร่งพอๆกันกับกองกำลังแห่งศาสนจักรเอ็กเคิลเซีย"เซเรสพูดอย่างขมขื่นปนเจ็บใจพร้อมกับหารือกับริวโกที่มีสีหน้าไม่แพ้กัน
"แล้วจะทำยังไงต่อไป ตอนนี้สงครามเริ่มปะทุขึ้นมาอย่างน่ากลัวแบบนี้"คำพูดเช่นนี้ทำให้ริวโกฉุกคิดได้
"เราว่าควรจะหาเพื่อนที่รู้ใจเพื่อปราบต้นตอแห่งความหายนะที่นี่"ริวโกพูดแบบนี้ทำให้เซเรสถึงกับอึ้งเพราะเขารู้ดีว่าริวโกกำลังทำอะไรที่เสี่ยงเป็นแน่แต่ยังคุมสติไว้ได้แล้วพูดสวนออกมา
"แต่พวกเรายังไม่รู้จักใครเลยในที่นี่อีกอย่างราชินีวิโอเรียก็มีลูกสมุนที่น่ากลัวคอยอารักขาอยู่"
"มันจะแน่สักแค่ไหนกัน"เมื่อริวโกพูดจบพร้อมกับชักดาบขึ้นสู่ฟ้า
"อืมใช่...เรารู้จักกลุ่มกองกำลังขนาดเล็กที่อยู่ในที่พักขององค์หญิงอลาน่า"เซเรสแนะนำริวโก
"แล้วนายรู้จักนานไหม"ริวโกพูดเสริม
"เราเองแค่รู้จักกันในสมยานามเท่านั้น...อีกอย่างเราเองก็เข้ามาได้ไม่นานจึงไม่รู้จักทางที่ไปยังที่นั่นได้"เซเรสพูดอย่างหมดหวังเล็กๆ
"เราก็ถามชาวบ้านดูสิ...เผื่อเราจะได้รู้ที่อยู่ของพวกเขา"ริวโกเสนอความคิดขึ้น
"เอ๊ะ...ความคิดดีนี่"เซเรสเห็นด้วย
"งั้นดีล่ะ...เราเตรียมของจำเป็นไปยังที่หมายนั่นเถอะ"เมื่อริวโกพูดจบทั้งสองคนจึงได้เตรียมข้าวของพร้อมเดินทางไปยังที่พักขององค์หญิงอลาน่า

(to be conclude)
ตัวต่อไปเป็นหัวขโมยที่ริวโกพบระหว่างทางไปยังที่พักของเจ้าหญิงอลาน่า
Fatima,the annedisonge high bandit
Lv.2 Mp2/1 water gunner-bandit
At 6
Df 6
Sp 4
+[water] Ice Shot At 8 Mp 2
+n[annedisonge] Reflection Shoot At 10 Mp 3
Skill:ดูการ์ดในมือฝ่ายตรงข้าม จากนั้น Steal การ์ดใบนั้น ถ้าการ์ดใบนั้นเป็น Mystic ประเภท Relic นำการ์ดนั้นมาติดที่ Seal 1 ใบในสนามโดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย แล้วMp ฝ่ายเรา +ตามค่าร่ายของ Mystic Card ใบนั้น (Mp0)

ฟาติมาเป็นหัวขโมยสาวที่ถูกตามล่าโดยทหารของรูฟัสเพราะไปขโมยของที่ยึดได้จากชาวบ้าน ขณะเดียวกันริวโกได้เห็นฟาติมาถูกตามล่าจึงได้เข้าไปช่วยเหลือเธอ เมื่อเธอปลอดภัยจึงขอร้องให้พาเธอไปด้วย(ฟาติมาเองก็รู้จักไรอาในหมู่แวดวงหัวขโมย)
Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #46 on: September 08, 2004, 08:40:38 PM »

ทางด้านฮิลเคเบี่ยน
"นี่ก็จะหมดวันที่ 2 แล้ว เรายังไม่เจอทางแยกนั่นเลยนะ ฮิลเคเบี่ยน" ฟราก้าถามขึ้น
"นั่นซิ.....นั่นไงทางแยก" ฮิลเคเบี่ยนพูด
"แล้วเราจะไปทางไหนก่อนดีล่ะ" ฟราก้าถามอีกครั้ง
"ข้าว่าเราควรจะแยกกันไปนะ" ฮิลเคเบี่ยนเสนอ
"งั้นข้าจะไปกับฟราก้าไปหาเทพ.....(*)  เองส่วนท่าน ไปหาเทพธิดาเซนทอร์ดเถอะ" ไรก้าเสนอ
"ถ้าเป็นเช่นนั้นเราต้องกลับมาที่ทางแยกนี้ภายในวันพรุ่งนี้นะ"ฮิลเคเบี่ยนพูด
"งั้นตกลงตามนี้ ขอให้โชคดีนะฮิลเคเบี่ยน" ฟราก้าอวยพรเพื่อนรัก
หลังจากนั้นทั้ง 3 จึงต้องแยกทางกัน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านริวโก ซึ่งกำลังเดินทางไปร่วมมือกับองค์หญิงอลาน่าจากคำบอกของชาวบ้าน ซึ่งที่พักขององค์หญิงอยู่นอกเมือง ระหว่างทางได้ผ่านคฤหาส์ตของรูฟัส ทั้ง 2 เดินทางพ้นคฤหาส์ตของรูฟัสได้ซักพักก็เกิดเรื่องขึ้น
"หยุดนะเจ้าหัวขโมย" เสียงดังนี้ดังไล่หลังพวกริวโกมา
"หนอยพวกนี้ตื้อจริง ๆ "
สาวน้อยผู้ถูกตามล่า พยายามหนีอย่างไม่ลดละ จนมาพบริวโกและเซเรส
"ท่านทั้ง 2 ช่วยข้าด้วย แฮ่ก ๆ ๆ"
"สาวน้อยเจ้าเป็นอะไรหรือ หนีใครมาเหรอ" ริวโกถามอย่างเป็นห่วง
"แฮ่ก ๆ ๆ ข้า ๆ แฮ่ก ๆ ๆ ข้าถูกตามล่ามาน่ะ แฮ่ก ๆ ๆ"
"ใครกันที่กำลังตามล่าเจ้า" ริวโกถาม
"หยุดนะ! เจ้าหัวขโมย (เฮ่อ...ไวยังกะปรอท)"
"โอ๊ะ! พอดีเลย เจ้าจงส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้พวกข้า มันเป็นหัวขโมย ข้าจะจับมันไปตัดมือซะ" หัวหน้ากลุ่มพูด
"นี่เจ้าเป็นขโมยงั้นหรือ" ริวโกถาม
"ใช่! ก็ตอนนี้อะไร ๆ ก็แพง แถมเจ้าอ้วนรูฟัสมันก็เก็บภาษีแพง ทำให้บ้านข้าและชาวบ้านไม่มีอะไรจะกินแล้ว พวกข้าแค้นไอ้หมูตอนนั่นมาก จึงเข้าไปขโมยน่ะ" สาวน้อยเล่าถึงความเป็นมา
"นี่ไอ้หนุ่มจะส่งนังหัวขโมยมาให้เราดี ๆ หรืออยากเจ็บตัวฮ่ะ" หัวหน้ากลุ่มพูดด้วยหน้าตาชวนหาเรื่อง
"ถ้าข้าบอกว่าจะไม่ส่งผู้หญิงคนนี้ให้กับเจ้าจะมีปัญหาอะไรมั้ย" ริวโกพูดด้วยน้ำเสียงกร้าว...
"งั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้าด้วย...พวกเราลุย" หัวหน้าสั่งลูกน้องที่เหลือกว่า 10 คน ลุยเข้าไป
"เจ้าหลบไปก่อน เดี๋ยวข้าขอเวลาซัก 1 นาทีนะ" ริวโกพูดพร้อมชักดาบทันที
"พวกแกตาย......"
"ในนามแห่งข้า...อัศวินมังกรริวโก อัญเชิญสายฟ้า มาสถิตที่ดาบของข้า"
เปรี้ยง! ทันใดนั้นสายฟ้าได้ผ่าลงมาที่ดาบของริวโก ทำให้พวกที่ตามล่ามาตกใจไม่น้อย
"พวกเราหลบกันก่อนเถอะ ท่านั้นของริวโกอันตรายนะ" เซเรนพาสาวน้อยหลบไปในที่ปลอดภัย
"หึ ๆ ๆ ไม่ต้องห่วงข้าไม่ทำให้พวกเจ้าถึงตายหลอก....กีก้าแสลส..." ริวโกพุ่งผ่านกลุ่มผู้ตามล่า ราวกับแสงพุ่งผ่านไป
ทันทีที่แสงนั้นพุ่งผ่านไปกลุ่มผู้ตามล่าทั้งหมดได้นอนกองอยู่ที่พื้นแล้ว จากนั้นริวโกก็เดินไปหาเซเรน
"นี่พวกเข้าจะตายมั้ยเนี่ยริวโก" เซเรนถาม
"ไม่หลอกพวกเค้าแค่สลบไปซัก 2 - 3 วันเท่านั้นเอง" ริวโกตอบ
"ขอบคุณพวกท่านมากนะ ที่ช่วยข้าไว้ ข้าจะตอบแทนท่านยังไงดีค่ะ"
"ไม่เป็นไรหลอก ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรล่ะ ข้าริวโก ส่วนเพื่อนข้าเซเรส"
"ข้าชื่อ ฟาติมาค่ะ พวกท่านไม่ใช่คนแอนดิซองค์ใช่มั้ยค่ะ แล้วพวกท่านกำลังจะไปไหนเหรอ ข้าพาไปได้ทุกที่เลยนะ"
"ข้าเป็นชาวฟีลีเซีย ตอนนี้พวกข้ากำลังเดินทางไปหาองค์หญิงอลาน่าน่ะ" ริวโกตอบ
"งั้นข้าอาสาพาพวกท่านไปเองนะ ข้ารู้จักทางดีรับรองได้ไม่หลงแน่"
หลังจากนั้นทั้ง 3 ก็เดินทางไป ริวโกและฟาติมาคุยกันอย่างสนิทสนม ซึ่งริวโกเริ่มชอบฟาติมาเข้าแล้ว
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า ขณะที่ทั้ง 3 จะเดินเข้าที่พักนั้นเอง
"ช้าก่อนพวกเจ้าจะเข้าไปทำอะไรในที่พักขององค์หญิงอลาน่า" ไรอาโผล่มาถามจุดประสงค์ของผู้มา
"พี่ไรอา ดีใจจังเลยที่ได้พบพี่อีก" ฟาติมาวิ่งเข้าไปกอดไรอาทันทีที่ได้พบ
"อ้าว! ฟาติมาเองเหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เป็นไงวิชาฉกของข้าฝึกไปถึงไหนแล้วล่ะ" ไรอากอดตอบพลางถามสารทุกข์สุขดิบไปด้วย
"แล้วพวกเค้าเป็นใครกันล่ะฟาติมา" ไรอาถามถึงชายแปลกหน้าที่มากับฟาติมา
"อ้อ...พี่ไรอา นี่ริวโก และนี่ เซเรสจ๊ะพี่ ทั้ง 2 ช่วยข้าจากคนของรูฟัสน่ะ"
"ข้าริวโกเป็นอัศวินมังกรและนี่เพื่อนสนิทของข้าเซเรส" ทั้ง 2 โค้งให้ไรอา
"แหม ๆ ไม่ต้องทำความเคารพข้าก็ได้ ข้าไรอา อดีตจอมโจรลักพาตัวผู้มีชื่อเสียงและมีฝีมือที่สุด ตอนนี้ข้าเป็นผู้ติดตามองค์หญิงอลาน่าเพื่อช่วยองค์หญิงให้คืนสู่บัลลังก์"
"ไรอาจ๊ะ ใครมาเหรอ" องค์หญิงผ่านมาพอดี
"อ้อ...พอดีเลยองค์หญิง นี่ริวโก และเซเรสเพื่อนของเขา พวกเค้าทั้ง 2 อยากจะช่วยองค์หญิงน่ะพะยะค่ะ"
"ขอบใจมากนะจ๊ะ เราคงต้องรบกวนพวกท่านแล้วล่ะ" องค์หญิงกล่าวขอบคุณอย่างน้อบน้อม
"ไม่เป็นไรมิได้พะยะค่ะ พวกเราทั้ง 2 ยินดีช่วยองค์หญิงอย่างเต็มที่" ริวโกและเซเรสคุกเข่าให้องค์หญิง
"พวกท่านลุกขึ้นเถิดจ๊ะ ไม่ต้องคุกเข่าหลอกจ๊ะ เดี๋ยวเราจะพาท่านทั้ง 2 ทำความรู้จักกับพวกเรานะ อ้อ! จริงซิ องค์หญิงเรจิน่า และกษัตริย์ซิกมันต์ ก็อยู่ที่นี่นะจ๊ะ"
"จริงเหรอพะยะค่ะ" ริวโกกล่าวอย่างประหลาดใจ
"เชิญทางนี้เลยจ๊ะ"
บัดนี้กลุ่มขององค์หญิงอลาน่าได้ผู้มีฝีมือเพิ่มขึ้นอีก 2 คนแล้ว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านฟราก้าและไรก้า
"แล้วจุดหมายที่เราจะไปนั้นอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย" ฟราก้ากล่าวอย่างงง ๆ
"ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงต้องมุ่งหน้าต่อไปล่ะ" ไรก้าพูด
"แหม! ช่างเป็นคำตอบที่ให้กำลังใจกับเหลือเกินนะไรก้า"
"หรือจะให้ข้าตอบว่า เดินไปเถอะน่า ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เดิน ๆ เข้าไปเถอะ หยั่งงั้นหรือฟราก้า"
"เหอะ ๆ ๆ ข้าล่ะซึ้งเจ้าจริง ๆ นะไรก้า"
"หึ ๆ ๆ"
"ท่านทั้ง 2 เข้าได้รับบัญชาจากเทพ (*) ให้มารับพวกท่าน ให้ไปพบ" นางฟ้าองค์หนึ่งปรากฎตัวขึ้น
แม้ทั้งฟราก้าและไรก้าจะยังงง ๆ แต่ก็ตามนางฟ้าองค์นั้นไป
"ข้าได้พาเค้าทั้ง 2 มาแล้วค่ะท่านเทพ (*) "
"ขอบใจมากนะ ไปได้แล้วล่ะ"
"ค่ะ"
"ท่านคือ...." ฟราก้าถามขึ้น
"ใช่แล้ว...ข้าคือเทพ (*) ที่พวกเจ้ากำลังตามหาอยู่ไงล่ะ"
ทั้งทำความเคารพเทพ (*) ทันที
"ไม่เป็นไรลุกขึ้นเถอะ ข้ารู้จุดประสงค์ของพวกเจ้าดี ตอนนี้แอนดิซองค์กำลังเดือดร้อน จะให้ข้าซึ่งเป็นเทพนิ่งเฉยได้อย่างไร ข้าจะมอบเขาของพานิชูล่าให้กับเจ้า" หลังจากนั้นเทพ (*) ก็ประทานเขาของพานิชุล่าให้กับ ฟราก้าและไรก้า
"ข้าขอขอบคุณมากท่านเทพแทนราชาของเราด้วย (*)" ฟราก้ากล่าว
"พวกเจ้ารีบไปเถอะจะครบกำหนด 3 วันแล้ว ข้าจะส่งเจ้าไปที่ทางแยกที่นัดกับเพื่อนของเจ้าไว้"
เทพ (*) ร่ายมนต์ส่งฟราก้าและไรก้าไปยังทางแยกนั้น
ในขณะเดียวกันทางฮิลเคเบี่ยนก็ได้พบกับเทพธิดาเนเฟเร่แล้ว
"ได้โปรดเถิดท่านเทพ ข้าต้องการดาบของท่านจริง ๆ " ฮิลเคเบี่ยนขอร้อง
หากแต่เนเฟเร่ยังคงนิ่งเงียบ
"ได้โปรดเถอะท่าน ขณะนี่องค์ราชากำลังแย่ องค์หญิงต้องการให้องค์ราชาช่วย ได้โปรดเถอะท่านขอดาบให้ข้าด้วยเถิด"
"ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะไม่นำดาบของข้าไปทำร้ายผู้อื่น"
"หากท่านไม่มั่นใจในตัวข้าข้าจะสาบานกับท่าน"
"ข้าฮิลเคเบี่ยนขอสาบานด้วยเกียรติในกายของข้า หากข้านำอาวุธเทพที่สร้างขึ้นจากดาบของเทพธิดาเซนทอร์ดเนเฟเร่ไปทำร้ายผู้บริสุทธิ์แล้วล่ะก็ ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ข้าทันที" ฮิลเคเบี่ยนสาบานด้วยความมุ่งมั่น
เมื่อเนเฟเร่เห็นดังนั้นแล้วจึงตอบไปว่า
"หากเจ้าสาบานเช่นนี้ ข้าก็เบาใจเชื่อเจ้าได้ ยื่นมือเจ้ามาข้าหน้าซิ"
ที่มือของฮิลเคเบี่ยนได้เกิดแสงสว่างจ้าขึ้น เมื่อแสงค่อย ๆ จางลงในมือของฮิลเคเบี่ยนก็มีดาบเล่นหนึ่งอยู่ในมือแล้ว
"ข้าขอขอบคุณท่านมาก ข้าจะทำตามคำสาบานที่ให้กับท่านไว้" ฮิลเคเบี่ยนคุกเข่าให้เนเฟเร่
"เอาล่ะ ๆ เจ้าจงรีบไปเถิดนี่ก็จะครบกำหนด 3 วันแล้ว"
"ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
ทันทีที่ฮิลเคเบี่ยนหันหลังเดินไปก็เกิดแสงสว่างขึ้นอีกครั้ง เมื่อแสงค่อย ๆ จางลงฮิลเคเบี่ยนก็ยืนอยู่ตรงหน้าฟราก้าและไรก้า ซึ่งทั้ง 3 มาถึงที่หมายพร้อมกันพอดี
"เป็นไงบ้างฮิลเคเบี่ยนได้ดาบมามั้ย ทางข้าได้เขาของพานิชูล่ามาแล้ว" ฟราก้าถาม พลางชูเขาของพานิชูล่าขึ้น
"หึ ๆ ๆ ทางข้าก็ได้เหมือนกัน" ฮิลเคเบี่ยนชูดาบของเนเฟเร่ขึ้น
ของทั้ง 2 สิ่งส่องประกายแสงเจิดจ้าราวกับจะแข่งกัน
"เรารีบไปกันเถอะองค์หญิงรอการกลับมาของพวกเราอยู่นะ" ไรก้าพูดขึ้น
"คราวนี้ล่ะเจ้าพวกปีศาจ"
และแล้วทั้ง 3 ก็ทำสำเร็จ สามารถหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครบทุกอย่างแล้วภายในเวลา 3 วัน ก็เดินทางกลับด้วยขนนกร๊อกแดงของไรก้า
(to be continue)


อีกครั้งสำหรับเรื่องนี้
Quote
ป.ล. จำชื่อเทพที่สร้างพานิชูล่าไม่ได้แล้วอ่ะจึงใส่เป็น (*) เคยอ่านเจอในบอร์ดไหนไม่รู้หาไม่เจอล่ะ เป็นเทพที่คอยปราบเหล่าปีศาจ ซึ่งเมื่อเทพองค์นี้นอนหลับ พานิชูล่าจะคอยกำจัดปีศาจแทนอ่ะ ใครรู้ก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ  


ขอบคุณมากครับ
 






Logged


3o'คนไม่สำคัญ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 606


Email
« Reply #47 on: September 08, 2004, 08:48:43 PM »

ขอบทให้ นางอัปสร Gurdian Angelsของอลาน่าด้วยนะ ^^ ช่วยกันฉุด วิโอเวียสุดสวยลงจากบัลลังค์กันต่อปาย เหอๆ
Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #48 on: September 09, 2004, 04:44:14 AM »

ตัวต่อไปเป็นสปายของราชินีวิโอเรียบ้าง

Frey,Vioria's Spy
Lv.1 Mp2/1 water bandit-messenger
At 5
Df 4
Sp 4
+[bandit] loose news At 9 Mp 1
+[water][any element] I serve Vioria At 10 Mp 2
Skill: steal การ์ด 1 ใบในสนามฝ่ายเรา เมื่อเข้า Subturn ป้องกันฝ่ายเรา เราสามารถดูมือฝ่ายตรงข้าม 1 คน เมื่อ Frey รวมร่าง (Mp 3)

เฟรเป็นสปายสุดสวยของราชินีวิโอเรีย ที่ทำทีเข้าไปร่วมมือกับเจ้าหญิงอลาน่าเพื่อส่งข่าวให้จตุรมารเข้าไปขัดขวางการทำอาวุธเทพของแม็กซิมอส(เธอผู้นี้มารยา 100 เล่มเกวียน เกือบทำให้ฟรอสแยกทางกับแอลฟาเรีย)

ต่อดีกว่าชักมันซะละ

ที่วังแอนดิซอง
"พวกเจ้าแย่มาก...แย่ที่สุด"สิ้นคำพูดของวิโอเรียได้ขว้างแก้วไวน์เข้าใส่จตุรมาร
"ข้าขอร้องกับองค์จักรพรรดิ์สั่งพวกเจ้าไปขัดขวางพวกมันแต่ดันล่าถอยกลับมาอย่างสุนัขขี้แพ้"วิโอเรียกล่าวซ้ำเติมจนทำให้มาย่าแทบเก็บอารมณ์ไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายนางแต่แกรนซอนขวางไว้
"ท่านวิโอเรียเราทำอย่างที่สั่งแต่กลับมี กขค. มาขวางไง้"กิโยตินพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
"เราได้ต่อสู้กับนางฟ้าบริจิตและเฮเว่นไนท์ เราแพ้กลับมาอย่างที่เห็นเรเวนเองก็บาดเจ็บสาหัสจนทำให้เราต้องถอยออกมา"แกรนซอนกล่าวสรุปออกมา
"ตอนนี้พวกมันได้ของดังกล่าวแล้วพวกเจ้าจะทำยังไง"วิโอเรียพูดอย่างหัวเสียสุดๆ
"เรากำลังหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราขอตัว"แกรนซอนพูดจบก็พาพรรคพวกไปประชุมแผน
หลังจากนั้นไม่นาน
"ท่านราชินี เราขอเสนอแผนนี้แก่ท่าน"แกรนซอนพูดจบพลางส่งสัญญานกับซาฟิโร่
"เราจะส่งสปายเข้าไปร่วมมือกับองค์หญิงอลาน่า แล้วรอฟังผลซักระยะจากนั้นเมื่อมีการทำอาวุธเทพเราจะได้ขัดขวางโดยจะให้พวกจตุรมารและทหารฝีมือดีเข้าไปโจมตีพวกขององค์หญิงและทำลายของที่ได้มาทั้งหมดซะ ส่วนข้าพเจ้าจะใช้ในช่วงชุลมุนอยู่ส่องลำกล้องไปยังองค์หญิงเพื่อปลิดชีพด้วยมือของข้าเองพะยะค่ะ"ซาฟิโร่ได้บอกแผนการดังกล่าวก็ทำให้ราชินีวิโอเรียพอใจในแผนการนี้
"ดี...ดีเยี่ยมแล้วเราจะลงมือเมื่อไร"วิโอเรียกล่าวอย่างตื่นเต้น
"วันนี้ยิ่งดีขอรับท่านราชินี เราขอเสนอสปายของพวกเรา"แกรนซอนพูดจบพลางส่งสัญญาณให้กับสปายให้ปรากฏตัวต่อหน้าราชินีวิโอเรียเธอคือ เฟร สปายสาวที่ล่ำลือว่าการส่งข่าวไม่มีคำว่าพลาดและการปลอมตัวได้แนบเนียนที่สุด
"เอาล่ะมัวช้าอยู่ได้อย่างไร รีบจัดการซะ"วิโอเรียพูดจบพวกจตุรมารไปทำตามแผนการที่เตรียมไว้
"ฮ่า ๆ ๆ ยัยอลาน่าครั้งนี้แกจะไม่มีวันที่จะได้บังลังค์อย่างแน่นอน ตลอดไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ"วิโอเรียหัวเราะอย่างสะใจที่ได้รอวันนั้นคือวันที่องค์หญิงถูกสังหาร แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำของพวกเธอ บุรุษลึกลับได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว...

To be conclude
Logged


Shirahime
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 75


Email
« Reply #49 on: September 09, 2004, 02:10:14 PM »

นี่ๆ เฟรย่าชั้นหน่ะเพิ่ง 18เองนะ เรียกซะแก่เชียว
ต้องรีบไปก่อนเรียนอยู่
Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #50 on: September 09, 2004, 06:13:13 PM »

Quote
นี่ๆ เฟรย่าชั้นหน่ะเพิ่ง 18เองนะ เรียกซะแก่เชียว

เหอะ ๆ ๆ อันนี้ข้าน้อยมิรู้ว่าอายุ 18 - -"  ขออภัย ๆ ก็ม่ายรุนิ ส่วนนางอัปสรตอนนี้คิดบทห้ายแว้วว่าจะให้โผล่มาตอนที่จตุรมารกับพวกทหารของวิโอเรียบุกที่พักขององค์หญิงอลาน่า แต่จำชื่อมิได้ซักคน ไงซะถ้าได้เป็นภาษาไทยก็จะดีนะ + อสูรด้วยนะ

ต่อ ๆ ๆ
ณ ที่พักองค์หญิงอลาน่า หลังจากที่พวกฮิลเคเบี่ยนได้นำสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลับมาแล้ว แม๊กซิมอสก็ลงมือตีอาวุธเทพทันทีโดยไม่ได้พักผ่อน...
"ท่านแม๊กคะ ท่านน่าจะพักบ้างนะจ๊ะ" องค์หญิงอลาน่ากล่าวอย่างเป็นห่วง
"ไม่ได้หลอกพะยะค่ะองค์หญิง เมื่อข้าพูดแล้วว่าสามารถตีอาวุธเทพได้ภายใน 3 วัน ข้าก็ต้องทำให้ได้ภายใน 3 วัน มิเช่นนั้นท่านฮิลเคเบี่ยนจะหัวเราะเยอะข้าได้"
"แหม! แต่ท่านก็น่าจะพักบ้างนะคะ"
"องค์หญิงข้ากลับมาแล้ว" ไรอารีบวิ่งเข้ามาหาองค์หญิง
"มีอะไรหรือจ๊ะไรอา" องค์หญิงถามด้วยท่าทางสงสัย
"แฮ่ก ๆ ๆ องค์หญิงเรียกพวกเราประชุมกันก่อนเถอะพะยะค่ะ แฮ่ก ๆ ๆ เดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟัง"
ณ กระโจมใหญ่
"พวกเรามากับพร้อมแล้วไรอา มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอจ๊ะ" องค์หญิงถามอีกครั้ง
"คือว่าเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนนี้ข้าลอบเข้าไปในพระราชวัง....."
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ พระราชวังแอนดิซองค์
"แหม! เฟรย่าเนี่ย นึกว่าจะเก่งแต่ทำนายอย่างเดียว วางแผนเก่งซะด้วย ว่าแต่ท่านอองเดรอยู่ไหนล่ะเนี่ย"
"ท่านราชินี เราขอเสนอแผนนี้แก่ท่าน"แกรนซอนพูดจบพลางส่งสัญญานกับซาฟิโร่
"เอ๊ะ...นั่นพวกจตุรมารกับราชินีวิโอเรียนิกำลังวางแผนอะไรอยู่นะ" ไรอาพูดพลางแอบฟังแผนของจตุรมาร
"เราจะส่งสปายเข้าไปร่วมมือกับองค์หญิงอลาน่า แล้วรอฟังผลซักระยะจากนั้นเมื่อมีการทำอาวุธเทพเราจะได้ขัดขวางโดยจะให้พวกจตุรมารและทหารฝีมือดีเข้าไปโจมตีพวกขององค์หญิงและทำลายของที่ได้มาทั้งหมดซะ ส่วนข้าพเจ้าจะใช้ในช่วงชุลมุนอยู่ส่องลำกล้องไปยังองค์หญิงเพื่อปลิดชีพด้วยมือของข้าเองพะยะค่ะ"ซาฟิโร่ได้บอกแผนการดังกล่าวก็ทำให้ราชินีวิโอเรียพอใจในแผนการนี้
"ดี...ดีเยี่ยมแล้วเราจะลงมือเมื่อไร"วิโอเรียกล่าวอย่างตื่นเต้น
"วันนี้ยิ่งดีขอรับท่านราชินี เราขอเสนอสปายของพวกเรา"แกรนซอนพูดจบพลางส่งสัญญาณให้กับสปายให้ปรากฏตัวต่อหน้าราชินีวิโอเรียเธอคือ เฟร สปายสาวที่ล่ำลือว่าการส่งข่าวไม่มีคำว่าพลาดและการปลอมตัวได้แนบเนียนที่สุด
"เอาล่ะมัวช้าอยู่ได้อย่างไร รีบจัดการซะ"วิโอเรียพูดจบพวกจตุรมารไปทำตามแผนการที่เตรียมไว้
"ฮ่า ๆ ๆ ยัยอลาน่าครั้งนี้แกจะไม่มีวันที่จะได้บังลังค์อย่างแน่นอน ตลอดไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ"วิโอเรียหัวเราะอย่างสะใจที่ได้รอวันนั้นคือวันที่องค์หญิงถูกสังหาร
"แย่แล้วองค์หญิงกำลังตกอยู่ในอันตราย ต้องรีบตามหาท่านอองเดรแล้ว" ไรอาเมื่อได้ฟังแผนแล้วก็รีบตามหาอองเดรอีกครั้ง
"นี่เราเดินหามาก็นานแล้วนะ แล้วไอ้คุกใต้ดินมันอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย ฮึ้ย...เจอแล้ว...."
ไรอาค่อย ๆ ลอบเข้าไปในคุกใต้ดินจนกระทั่งพออองเดร
"ท่านอองเดร! ท่านอองเดร! " ไรอาเรียกอองเดรหากแต่มีเสียงตอบจากอองเดรไม่
"ไอ้โง่ ก็เค้าโดยมนต์สะกดอยู่จะตอบเจ้าได้ยังไงล่ะ" เสียงใครผู้หนึ่งพูดขึ้นทำเอาไรอาตกใจรีบหันหาต้นตอของเสียงนั้น
"ใครกันออกมาเดี๋ยวนี้นะ" ไรอาพูดพลางมองหารอบ ๆ คุก
"เจ้าทึ่ม! มองหาสวรรค์วิมารชั้นไหนอยู่เนี่ย ข้าอยู่นี่"
ไรอาก้มลงมองแล้วก็พบว่าเสียงนั้นคือหมอโรคจิตที่เค้าเอามาด้วยนั่นเอง
"เฮ้ย! แกพูดได้ด้วยหรือเนี่ยไอ้หุ่นกระป๋อง" ไรอาจ้องมองและถามด้วยความสงสัย
"ข้าคงพูดไม่ได้มั้ง แล้วที่คุยกับแกอยู่เนี่ยเค้าเรียกว่าพูดมั้ยล่ะ งี่เง่าชะมัด"
"หน่อยไอ้หุ่นปากเสีย อยากถูกถอดชิ้นส่วนใช่มั้ย"
"อย่านะ ๆ แหมพอรูปหล่อ นิสัยดี๊ดี แถมฉลาดอีกต่างหาก อย่าทำข้าเลยนะ มีอะไรให้ข้าช่วยก็บอกได้นะ แต่อย่าถอดชิ้นส่วนข้านะขอร้อง"
"หนอยแกนี่มันกะล่อนซะจริง ๆ ได้ถ้าไม่อยากถูกถอดชิ้นส่วนล่ะก็ รีบแก้คำสาปให้ผู้ชายคนนั้นเดี๋ยวนี้"
"แหมรับรองผลงานได้เลย แต่ข้าจะเข้าไปในกรงขังได้ยังไงล่ะ"
"ไม่เห็นจะยากเลย" ไรอาหยิบเหล็กแหลมอันเล็ก ๆ ออกมา และไขกุญแจออก
"แหมท่านนี่เก่งจริง ๆ "
"ก็ไม่เท่าไหร่หลอก รีบ ๆ เข้าไปได้แล้ว" ไรอาเตะไซโครด๊อกเตอร์เข้าไปทันที
พลัก!
"โอ้ย! ถึงข้าจะเป็นหุ่นยนต์ข้าก็เจ็บเป็นนะปัดโถ่"
"นี่อย่าบ่นน่ารีบ ๆ เข้าข้าต้องรีบกลับไปบอกแผนของพวกปีศาจให้องค์หญิงรู้นะ"
"เออน่า ดูเฉย ๆ เถอะ 1 นาทีเท่านั้น" ไซโครด๊อกเตอร์หยิบเข็มฉีดยากระบอกใหญ่ออกมา และฉีดไปที่แขนของอองเดร
"นี่แกเก็บเข็มใหญ่ขนาดนั้นไว้ตรงไหนในตัวแกเนี่ย - -" บอกข้าหน่อยซิ" ไรอาถามด้วยความแปลกใจ เพราะเข็มฉีดยามีขนาดใหญ่กว่าตัวไซโครด๊อกเตอร์มากนัก
"ช่างฉันเถอะน่า"
อองเดรหลังจากได้รับการฉีดยาจากไซโครด๊อกเตอร์แล้วก็เริ่มรู้สึกตัว
"อุ๊บ...นี่ข้าเป็นอะไรไปเนี่ยปวดหัวจริง ๆ "
"ท่านอองเดร ท่านอองเดร ฟื้นแล้ว เยส..." ไรอาดีใจมากที่เห็นอองเดรฟื้นคืนสติ
"เห็นมั้ยข้าบอกแล้วรับรองผมได้" หมอโรคจิตพอใจในผลงานของตนมาก
"อู้ย....นี่เจ้าเป็นใครกัน แล้วข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" อองเดรถามไรอาทันทีที่เห็น
"ท่านอองเดร ข้าชื่อไรอา เป็นคนขององค์หญิงอลาน่ามาที่นี่เพื่อช่วยท่าน"
"องค์หญิง ๆ อยู่ที่ไหน เจ้าบอกข้ามานะ อุ๊บ..." อองเดรถามอย่างรีบร้อนแต่ร่างกายยังไม่แข็งแรงนัก
"เฮ่ ๆ ไอ้หุ่นกระป๋อง ทำไมท่านอองเดรดูเพลีย ๆ งั้นล่ะ"
"แหม! ก็ธรรมดาพึ่งฟื้นจากคำสาปก็ต้องอ่อนเพลียเป็นธรรมดานั่นล่ะ พักซักหน่อยก็หายแล้ว"
"นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เล่าเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟังทีซิ"
ไรอาเล่าเรื่องทั้งหมดให้อองเดรฟังทุกอย่างรวมถึงความหวังสุดท้ายที่จะกำจัดพวกปีศาจ นั่นคือ การให้อองเดรบังคับมัลเทลลูม่า เพื่อปราบมารร้าย
"นี่ ๆ ไรอาข้าว่านะ ไหน ๆ ท่านอองเดรก็ฟื้นแล้วเรารีบเผ่นกันดีกว่านะ" ไซโครด๊อกเตอร์พูด
"หนีน่ะหนีได้แต่เราจะพาท่านอองเดรไปได้ยังในสภาพแบบนี้"
"งั้นถ้าท่านอองเดรแข็งแรงก็หมดเรื่องใช่มั้ย" ไซโครด๊อกเตอร์หยิบเข็มฉีดยายักษ์ออกมาอีกครั้ง
"เฮ้ย...นี่แกจะเอาอะไรฉีดท่านอองเดรอีกเนี่ย"
"ก็ยาฟื้นพลังไง ฉีดปุ๊มแข็งแรงปั๊บ"
โป๊ก!
"โอ้ย! เจ็บนะนี่เจ้าจะมาเขกหัวข้าทำไมเนี่ย -*-"
"อยากรู้ใช่มั้ยเอาไปอีกทีนี่"
โป๊ก!
"โอ้ย! เจ็บนะเขกอยู่ได้ เดี๋ยวข้าก็เอายาพิษฉีดแกให้ตายเลยนิ"
"มันน่ามั้ยล่ะแกมียาดีแบบนี้ทำไมไม่ฉีดแต่แรกเล่า -*-"
"ยานี่มันฉีดพล่ำเพลือได้ที่ไหนเล่า"
"อ้าวเหรอ ^^" แฮ่ะ ๆ ๆ ข้าผิดปายแล้ว Y_Y"
"ทนเจ็บหน่อยนะท่านอองเดร"
"อืม....อุ๊บ"
"อ้าก....."
"นี่แกฉีดยาผิดหรือเปล่า"
"ไม่หลอกมันเป็นแบบนี้ล่ะ พอฉีดยาเข้าไปแล้วจะเจ็บปวดอย่างรุนแรง แต่แค่แป๊บเดียวนะดูซิ"
"อืม....เรี่ยวแรงกลับมาแล้ว"
"งั้นเรารีบไปกับเถอะท่านอองเดร" ไรอาพูด
"ดีงั้นรีบไปกันเถอะ" อองเดรพูด
หลังจากนั้นพวกเราก็หนีออกมาจากพระราชวัง แต่ระหว่างทางนั้นท่านอองเดรขอแยกตัวขึ้นเขา เพื่อเรียกเทพมังกรน่ะ เพราะท่านอองเดรบอกข้าว่า...
"ไรอา ข้านะไม่มีเชื้อสายของกษัตริย์แห่งแอนดิซองค์เลย ที่ข้าได้เป็นกษัตริย์ก็เพราะแต่งงานกับวิโอเรีย เพื่อที่จะนำกำลังไปสงบศึก เพื่อที่องค์หญิงจะได้กลับมา เพราะฉะนั้นข้าจึงไม่มีความสามารถที่จะควบคุมเทพได้หลอก แล้วก็...." อองเดรยังไม่ทันจะพูดจบไรอาก็พูดขึ้นว่า
"ท่านไม่ต้องกังวลหลอก ถึงท่านจะไม่ได้สืบเชื้อสายกษัตริย์ แต่ท่านก็เป็นคนดี ข้าเชื่อว่าเทพมังกรต้องฟังท่านแน่" ไรอาพูดอย่างมั่นใจ
"ได้ถ้างั้นข้าจะขึ้นเขาที่สูงที่สุดในแอนดิซองค์เพื่อเรียกเทพมังกร ช่วยบอกองค์หญิงว่า เมื่อข้าสามารถควบคุมเทพมังกรได้แล้วข้าจะรีบไปหาองค์หญิงทันที" อองเดรพูดจบก็แยกทางกับไรอาและไซโครด๊อกเตอร์ทันที
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"เรื่องมันก็เป็นแบบนี้หล่ะครับองค์หญิง" ไรอาเล่าเรื่องจนจบ
"อองเดร! ขึ้นเขาไปคนเดียวอันตรายมากนะ ใครก็ได้ไปช่วยอองเดรทีซิ" องค์หญิงพูดอย่างเป็นห่วง
"ไม่ได้นะเพคะองค์หญิง นี่เป็นบททดสอบอย่างนึงของท่านอองเดรว่าจะมีคุณสมบัติที่จะมาชดเชยกับสิ่งที่เค้าไม่มีคือเชื้อสายกษัตริย์ ได้หรือไม่ ฉะนั้นเราควรรอท่านออกเดรอยู่ที่นี่ คอยรับมือพวกปีศาจด้วยกำลังของเราเสียก่อน" เฟรย่าพูดขึ้น
"เราก็คิดเช่นนั้นน่ะองค์หญิงอลาน่า" เรจิน่ากล่าว
"องค์หญิงเรจิน่า"
"ระหว่างนี้เราต้องทำตัวตามปกติแกล้งทำเป็นว่าเราตกหลุมแผนของมัน เมื่อสปายแฝงตัวเข้ามาจงติดตามอย่าให้คลาดสายตาได้ หน้าที่นี้ข้าว่าไรอาเหมาะสมที่สุด" ซิกมันต์เสนอแผน
"ขะข้าเหรอ...."
"ใช่แล้วในหมู่พวกเราเจ้ามีความสามารถที่จะคอยติดตามคนได้ดีที่สุด" ซิกมันต์ให้เหตุผล
"ลำบากท่านแล้วนะท่านจอมโจรไรอาผู้โด่งดัง" ชาร์ลหยอกไรอา
"ในเมื่อทุกท่านลงความเห็นแบบนี้หน้าที่นี้ข้าจะทำให้ดีที่สุด" ไรอาให้คำมั่น
และตกเย็นของวันที่ 2 หลังจากที่แม๊กซิมอสเริ่มตีอาวุธเทพ เฟรสปายสาวก็ได้เข้ามาอยู่ ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่าเรียบร้อยแล้ว (to be continue)
Logged


3o'คนไม่สำคัญ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 606


Email
« Reply #51 on: September 09, 2004, 07:41:19 PM »

Chandradevi, the Apsra  จันทราเทวี  ปกป้องแสงจันทร์
3/1 แสง Divine Lv.2
At:6
Df:6
Sp:3
+แสง    Shanti Ratri  At:8mp3
+แสง แสง  Prabhasa Chandra  At:9mp3
Skill นำ Mystic Card 1ใบใน Shrine ออกจากเกม(mp2)


Taravati, the Apsra  ดาราวดี, ปกป้อง แสงดาว
2/1 แสง Divine Mage Lv.2
At:6
Df:5
Sp:2
+ แสง  Shubha Tara  At:9mp2
Skill- Seal 1ใบติด Dimension Curse 1 Turn เมื่อ Taravati, the Apsra รวมร่าง At line (Mp2)
Skill- ผู้เล่นทุกคนไม่สามารถทำSeal เข้ามาในสนาม ไม่ว่ากรณีใดๆ จนจบ Turn ( ไม่สามาถใช้ Skill นี้ได้หากฝ่ายตรงข้ามมี Sealน้อยกว่า 3ใบ) (mp3) (At line)

Rajtadevi, the Apsra  รัชตาเทวี เทพีแห่งศาสตรา เหล็กกล้าและเครื่องเงิน
3/1 แสง Divine Knight Lv.2
At:8
Df:7
Sp:3
+ Knight    Rajta Shastra  At:10mp2
+ Knight Divine  Deva Shastra At:12mp4
Rajtadevi, the Apsra Mp- ตามจำนวน Sealที่ติด Dimension Curse ในสนาม
เมื่อ Rajtadevi โจมตีสำเร็จนำ Mystic ชนิด Relic 1ใบในShrine ขึ้นมือ


Samudrakumari, the Apsra  สมุทรกุมารี ควบคุมเกรียวคลื่นและลมทะเล
2/1 น้ำ Divine  Lv.2
At:5
DF:7
Sp:2
+ น้ำ    Virodha Samudra At:8mp2
Skill นำ Samudrakumari, the Apsra จากมือลงมาในสนาม จากนั้น Sealทุกใบของฝ่ายตรงข้ามที่ Df ต่ำกว่า Samudrakumari ติด Freeze Curse 1 turn(mp3)()

Padmavati, the Apsra  ปัทมาวดี  นางฟ้าแห่งดอกบัว
2/1 น้ำ Divine Lv.2
At:5
Df:8
Sp:3
+ น้ำ    Padmavudh  At:8mp2
+น้ำ แสง  Shveta Padma At:10mp3
* Skill เลือก Seal1ใบ หาก Sealใบนั้นโจมตีสำเร็จ เรา Mp+2
(mp0)
Padmavatim, the Apsra ยกเลิก Freeze Curse


Vanadevi, the Apsra   วนาเทวี  เทพีแห่งป่าเขาและ ต้นไม้
3/1 ดิน Divine Plant Lv.2
At:6
Df:7
Sp:2
+ ดิน  Velumantra  At:7mp2
+ Plant  Bodhimantra  At:9mp3
* Skill Seal Sp.1,2,3,4, 1ใบ ติด Charm Curse และ Poison Curse 2Turns เมื่อ Vanadevi, the Apsra รวมร่าง (At Line)(mp3)
Vanadevi, the Apsra cancels Stone Curse


Nandadevi, the Apsra  นันทาเทวีเทพีแห่งความรื่นเริง แบ่งภาคลงมาช่วยอลาน่า
3/1 ลม Divine Dancer Lv.2
At:6
Df:6
Sp:5
+ ลม    Nanda Natha  At:8mp2
+ Musician  Nanda Gita At:10mp3
Dancing At line
นำ Seal 1ใบไปยัง Df line และนำ Seal1ใบไปยัง At line
Nandadevi cancel curse


Chitravati, the Apsra          จิตราวดี  เทพีแห่งหายลมและพายุ
3/2 ลม Divine Knight Lv.2
At:7
Df:8
Sp:5
+ ลม    Vayachitra    At:9mp3
+ลม ลม  Men Vayu Kumari Hun  At:11mp3
เมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่ร่าย Seal ใน Sub-turn โจมตี เมื่อเข้าสู้ Sub Turn โจมตี ของเรา เราสามารถสั่ง Chitravati, the Apsra ให้โจมตีขึ้นมือฝ่ายตรงข้ามได้


Ravindradevi, the Apsra   รวินทราเทวี เทวีแห่งแสงสุริยะ
3/1 ไฟ Divine Mage Lv.2
At:8
Df:5
Sp:4
+ ไฟ      Garam  Chakra  At:9mp3
+ไฟ ไฟ  Suriya Chakra  At:9(All)(mp4)
Skill  นำ Seal 1ใบใน Df line ไปยัง At line (mp1)

พิเศษ

Vedadhita, the Apsra   เวทธิดา ไม่มีจ๊อบอะไร เป็นแค่รูปสลักนางอัปสรในตำนาน
3/2 No Element Divine Lv.2
At:0
Df:9
Sp:0
+ ดิน  Deva Raksha      Df:11    mp2
+ไฟ    Agsunipata Shara At:10  mp2
+ลม    Vayu Bala            At:9sp5mp2
+น้ำ    Saroja Mangala    At:9      mp1
* Skill ทำลาย Mystic Card 1ใบในสนาม (mp2)(Atline) ()










Logged


3o'คนไม่สำคัญ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 606


Email
« Reply #52 on: September 09, 2004, 07:48:08 PM »

Shashidharago    ศศิธรโค
4/2 แสง  Monster Lv.3
At:8
Df:9
Sp:3
+ แสง            Chandrarashmi  At11mp3
+ Divine แสง Maha Devaratri  At:13mp4
Skill นำ Shashidharago เข้ามาในสนาม จากนั้นสั่งนำ Mystic การ์ด1ใบใน shrine กลับขึ้นมือ(mp2)
ตราบเท่าที่มี Chandradevi, the Apsra  อยู่ในสนาม Shashidharago At+2Sp+1



ต่อไปแกะ ของนาง  ดาราวดี

Shvetamesha      เศวตเมษะ
3/2  แสง Beast Lv.2
At:6
Df:7
Sp:2
+แสง    Tara Bala  At:9mp2
+ Beast แสง  Dhavaliman Tara At:11mp3
Skill* Remove Seal1ใบที่ติด Dimension Curse (mp2) ( At Line)
Skill* Seal 1ใบCancel Mystic Card จนจบ Sub turn (mp2) (At line)
ตราบเท่าที่ Taravati, the Apsraอยู่ในสนาม Shvetamesha cancel Mystic Card ของฝ่ายตรงข้าม



ต่อไปช้าง ของนาง รัชตาเทวี

Svargahastin  สวรรคหัสติน
5/3 แสง Monster Lv.3
At:9
Df:9
Sp:3
+ แสง  Karabhabala  At:11mp3
+แสง แสง Pavanadanta At:12mp4
ตราบเท่าที่ Rajtadevi, the Apsra อยู่ในสนาม เมื่อ Svargahastin โจมตี สำเร็จ เราสามารถเลือก Seal2ใบในสนามขางฝ่ายตรงข้ามและให้ Seal2ใบนั้นติด Dimension Curse จนจบ Sub turn

ต่อมา ปลา ของนาง  สมุทรกุมารี

Marakatamatsya   มรกตมัตสยา ( มะ-ระ-กะ-ตะ มัตสยา)
3/2 น้ำ Monster Lv.2
At:6
Df:7
Sp:3
+ น้ำ    Marakatapucchare  At:9Sp:4Mp3
+น้ำ น้ำ  Marakatamaya      At:11Sp:5Mp:4
ตราบเท่าที่ Marakatamatsya รวมร่างอยุ่ในสนาม Sealฝ่ายตรงข้ามทุกใบที่มีSp ต่ำกว่าMarakatamatsya Df-2
Sealฝ่ายเราทุกใบ At+1
เมื่อมี Samudrakumari, the Apsra อยู่ในสนาม Maraskatamatsya Sp+1 Mp -1



ต่อมา ผึ้งทำน้ำหวานของนาง ปัทมาวดี

Madhukara  มธุกร ( มะ-ธุ- กะ-ระ)
2/1 Insect น้ำ Lv.1
At:5
Df:6
Sp:3
+ดิน  Madhupadma  At:6mp2
+ Incect Visuddha Madhvapata  At:7mp3
Skill*  ผู้ควบคุม แสดง การ์ด X ใบ Seal 1ใบ At+X 1 turn(mp2)

ตราบเท่าที่ Padmavati, the Apsra อยู่ในสนาม Madhukara At+ตามจำนวน Insect ในสนาม

ต่อมา ผีเสื้อของนาง วนาเทวี

Varikshasalabha   วฤกษสลภา
2/1 ดินInsect Plant Lv.1
At:6
Df:7
Sp:1
+ Insect  Nidra Keshara At:7mp2
Skill- Seal1ใบกลายเป็น Inactive Seal
1 Turn เมื่อ Varikshasalabha รวม่ราง (mp2)(At line)
ตราบเท่าที่ Vanadevi, the Apsra อยู่ในสนาม Varikshasalabha สามารถใช้ Skill จาก Df line ได้

ต่อมา ยักษ์ของนาง นันทาเทวี

Manindravana   มณินทราวณ
4/3 แสง Titan Lv.3
At:9
Df:10
Sp:3
+แสง  Vajra Dhala  At:10Df:13mp4
* Charging 2 Turns
Skill  Dancer ทุกใบฝ่ายเราป้องกันการโจมตี 1 Turn (mp2)( Df line )
ตราบเท่าที่ Nandadevi, the Apsra อยู่ในสนาม Manindravarna สามารถใช้ค่า Df โจมตีจาก Df line ได้


ต่อมา นก อินทรีของนาง จิตราวดี

Masarasuparna     มสรสุบรรณ
3/2 ลม Beast  Lv.2
At:6
Df:7
Sp:5
+ลม    Maha Vayakash    At:8mp3
+ลม ลม Masara Vipaksha  At:11mp3
ค่าร่าย Seal ทุกใบบนมือของฝ่ายตรงข้าม +1 เมื่อ  Masarauparna รวมร่าง
ตราบเท่าที่  Chitravati, the Apsra อยู่ในสนาม  Masarasuparna ได้รับ Ability
เมื่อมี beast ตก Shrine จากสนาม ฝ่ายตรงข้าม1คนจั่ว Seal1ใบ


ต่อมาของนาง รวินทราเทวี อันนี้มาแปลกที่สุด เพราะเป็นเครื่องจักร

Atilohita Vimana   อติโลหิตะ วิมานะ ( เครื่องบินรบคล้ายเรื่อง Beat-X)
3/2 ไฟ Machine Lv.3
At:9
Df:9
Sp:3
+ไฟ    Yanta Aggi    At:11mp3
+ไฟ ไฟ  Vinasha Agani At:12mp4
+ ไฟ แสง  Bambharali Sagni  At:11Sp4mp3
Skill* Sacrifice Sealรองรวมร่างของ Atilohita Vimana1ใบ ทำลาย Seal 1ใบที่ At น้อยกว่า Atilohita Vimana ที่กำลังถูกสั่งการ 1ใบ ()( Mp3)(At line)
ตราบเท่าที่ Ravindradevi, the Apsra อยู่ในสนาม  Atilohita Vimana  cancel Mystic การ์ด

Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #53 on: September 10, 2004, 03:12:25 AM »

นางอัปสรเยอะจังเลย งานนี้สนุกแน่ อิอิ

ต่อไปเป็นทหารระดับกลางทางด้านราชินีวิโอเรีย

Nightmare Rider
Lv.2 Mp3/1 Dark Knight-Evil
At 8
Df 7
Sp 5
+[dark] Dark dream slash At 10 Mp 2
+n[Nightmare] Thanathos Omen At 11 Mp 3
สั่ง Nightmare Rider รวมร่าง [inf] (Mp2)
Nightmare Rider ตกลง Shine จากสนามหรือกองการ์ด Death Curse ให้กับ Seal 1 ใบในสนามของฝ่ายตรงข้าม
ตราบเท่าที่มี Dark Soul Nightmare เป็นใบรองให้กับ Nightmare Rider At+2 และยกเลิก Death Curse

โหดไปนิด(แน่ละเป็นทหารของราชินีวิโอเรียนี่นา)

ต่อเลยละกัน
ตกเย็นทางด้านกระโจมของพวกริวโก
"เซเรส นายมาที่แอนดิซองเพื่อจุดประสงค์ใดนี่"ฟาติมาถามเพราะสงสัย
"ที่เรามาอยู่ที่นี่เพื่อมาพบกับมังกรเทพแมนเทลลูม่าในตำนานนะสิ"เซเรสพูดออกมาแต่ทางด้านริวโกได้รู้สึกความไม่ชอบมาพากลของที่นี่
"ริวโกเป็นอะไรไป"ฟาติมาพูดด้วยความเป็นห่วง
"ข้ารู้สึกอะไรบางอย่าง ที่เลวร้าย"พอริวโกพูดจบพลางชี้ไปยังเทือกเขาทางด้านหน้าของตัวเขาก็พบ อัศวินขี่ม้าแต่หาใช่เป็นม้าไม่สิ่งที่ฟาติมาเห็นก็ทำให้ตกใจไม่แพ้กัน
"อะ...อัศวินไนท์แมร์(Nightmare Rider)"ฟาติมาอุทาน
ริวโกหยิบกล้องทางไกลส่องดูก็พบว่ามีธงของแอนดิซองอยู่ในตัวของอัศวินนรกด้วย
"มันจะโจมตีตอนนี้ไหม"ฟาติมาพูดด้วยความเป็นห่วงชีวิตของทุกคน
"ไม่....มันคงรออะไรซักอย่าง"ริวโกประเมินสถานการณ์
"แล้วจะทำไงดีล่ะ"ฟาติมาพูดพร้อมนำกล้องของริวโกมาส่องดู
"อยู่นิ่งๆเตรียมรับมือไว้เป็นดีที่สุด"ริวโกพูดพร้อมกับนำกล้องจากมือของฟาติมาแล้วพาเธอกลับยังกระโจมที่พัก
แล้วจากนั้นริวโกได้ทำจดหมายสังเกตุการณ์ไปให้กษัตริย์ซิกมันเพื่อนำไปประชุมแผนการรบต่อไป

To be conclude
Logged


lordhunya
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 483


Email
« Reply #54 on: September 11, 2004, 03:05:04 PM »

Andisonge ตรงไหนเนี่ย
Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #55 on: September 12, 2004, 02:34:37 AM »

Quote
Andisonge ตรงไหนเนี่ย

ก็เป็น Annedisonge ในตอนแรก ๆ ตอนนี้ก็เป็น Annedisonge อยู่นะ แค่มีอย่างอื่นปนเท่านั้นเอง

ต่อ ๆ
หลังจากที่ริวโกส่งผลการสังเกตุการณ์ไปให้ซิกมันต์แล้ว ซิกมันต์จึงนำเรื่องนี้เข้าปรึกษากับทุกคนเพื่อหาทางรับมือ
"อัศวินไนท์แมร์ เป็นอัศวินจากนรกที่น่ากลัวมาก เราจะรับมือกับมันยังไงดี" ซิกมันต์พูด
"ตัวมันมีคำสาปที่น่ากลัว เพราะเมื่อมันตาย คำสาปในตัวมันจะทำให้คนตายได้เลยทีเดียว เป็นคำสาปที่น่ากลัวมาก" ริวโกพูด
"แล้วนี่เราจะจัดการกับมันยังไงดีล่ะ" องค์หญิงอลาน่าถาม
"เรื่องนั้นองค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วง" แม๊กซิมอสเดินเข้ามาในสภาพที่เหงื่อท่วมตัว เนื้อตัวมอมแมมไปหมด
"ท่านมีวิธีเหรอจ๊ะท่านแม๊ก" องค์หญิงถามอย่างมีความหวัง
"มีซิองค์หญิง...ก็อาวุธเทพที่ข้าตียังไงล่ะ ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว" แม๊กซิมอสพูดพร้อมนำอาวุธเทพเข้ามาให้ทุกคนดู
"โห...เจ๋งมากเลยท่านแม๊ก เหมาะกับข้าจริง ๆ " ฟรอสซ์ลองใส่ทันที
"เป็นไงแอลฟาเรียข้าใส่แล้วดูเท่ห์ขึ้นเยอะมั้ย"
"จ้า ๆ เท่ห์จ๊ะ"
"อาวุธเทพนี่สามารถปกป้องผู้ใช้จากคำสาปของพวกปีศาจได้ คราวนี้เราก็ไม่ต้องไปกลัวไอ้อัศวินไนท์แมร์กิ๊กก๊อกนั่นแล้วล่ะ" แม๊กซิมอสพูด
"งั้นข้ากับเอลด้าขอตัวไปทำความคุ้นเคยกับอาวุธใหม่ก่อนนะ ขอกระสุนให้พวกข้าหน่อยซิท่านแม๊กซิมอส" อลิซาเบธพูด
"ปืน 2 กระบอกนั่นไม่จำเป็นต้องใช้กระสุนหลอก เพราะตราบใดที่ผู้ถือคิดดีทำดีแล้วล่ะก็จะสามารถยิงกระสุนศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ พูดง่าย ๆ ก็คือพวกปีศาจหรือคนชั่วไม่สามารถใช้อาวุธเทพได้นั่นเอง" แม๊กซิมอสอธิบาย
"คราวนี้ข้าจะลุยพวกมันให้เละเลยคอยดูซิ" ฟรอสซ์คึกคักขึ้นมาทันที
"แต่อาวุธเทพตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์นะ ต้องได้รับแสงแรกจากดวงอาทิตย์ซะก่อน" แม็กซิมอสพูด
"เพราะฉะนั้นตอนนี้อาวุธนี้ยังเป็นเพียงอาวุธธรรมดาอยู่ แต่เหนือกว่าอาวุธทั่ว ๆ ไปของมนุษย์เท่านั้นเอง"
"จากตอนนี้ก็อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเช้า ถ้าพวกมันบุกเข้ามาตอนนี้เราจะลำบากนะ" องค์หญิงกล่าวอย่างกังวล
"องค์หญิงอลาน่าทรงอย่างกังวลไปเลย ตราบใดที่ข้าฮิลเคเบี่ยนผู้นี้ยังอยู่ข้าจะไม่ให้ปีศาจตนใดทำร้ายองค์หญิงได้เป็นอันขาด" ฮิลเคเบี่ยนให้คำมั่น
"ข้าคาลอสก็จะถวายชีวิตเพื่อองค์หญิงเช่นกัน"
"ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหลอกนะ เห็นมั้ยว่าพวกของท่านยินดีปกป้องท่านอย่างเต็มที่" องค์หญิงเรจิน่าพูดปลอบ
"คือข้าไม่ได้กลัวว่าข้าจะเป็นอะไรไป แต่ข้ากลัวว่าพวกท่านจะเป็นอันตรายน่ะ" องค์หญิงอลาน่าพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
"องค์หญิงไม่ต้องห่วงหลอกพะยะค่ะ ข้าเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาท่านอองเดรต้องมาทันเวลาอย่างแน่นอน" ไรอาพูด
"ข้าเองก็หวังว่าอองเดรจะปลอดภัยกลับมา"
จังหวะที่ไรอาเผลอ และทุกคนกำลังประชุมกันอยู่เฟรก็ได้แอบออกมาส่งข่าวให้จตุรมารรู้
"รีบไปซะกากอยน้อย(Unholy Gargoy)   รีบไปหาท่านแกรนซอนนะ" หลังจากเฟรส่งข่าวแล้วก็เดินกลับเข้ามา
"นี่เจ้าไปไหนมาน่ะ" ไรอาดึงเฟรมาถามทันทีที่เห็นเฟรเดินเข้ามา
"โอ้ย! ข้าเจ็บนะนี่ท่านจะทำอะไรน่ะ" เฟรถามอย่างหงุดหงิด
"เจ้าไปไหนมา บอกข้ามานะ" ไรอาตะคอกถาม
"ข้าก็แค่ออกไปเดินเล่นข้างนอกก็เท่านั้นเอง"
"แต่ข้าเห็นกากอยบินออกไปจากที่พักนี่ มันไม่จะมีปีศาจอยู่ที่นี่ได้ ไหนลองตอบข้ามาซิ"
"ท่านพูดเรื่องอะไรข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย"
"ก็เรื่องที่เจ้าเป็นสปายคอยสอดแนมเรื่องของพวกเราไง เจ้าจะว่ายังไงล่ะ"
"ใช่! ข้าเป็นสปาย ท่านจะทำอะไรข้าได้ล่ะ ท่านจอมโจรไรอาผู้โด่งดัง แต่ไรความสามารถปล่อยให้ข้าส่งข่าวได้ ฮ่า ๆ " เฟรเย้ยไรอา
"หึ ๆ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
"ท่านหัวเราะอะไรของท่านน่ะ"
"ข้าน่ะหรือปล่อยให้เจ้าไปส่งข่าว ข้าจงใจปล่อยเจ้าต่างหากล่ะ คราวนี้เจ้าก็ยอมรับออกมาแล้ว เจ้าไม่รอดแน่"
แกว๊ก! ๆ ๆ ๆ
"นี่ใช่มั้ยกากอยของเจ้า" ฟรอสซ์พูดพลางจับกากอยให้เฟรดู
"นี่พวกท่านรู้อยู่แล้วหรือ" เฟรถึงกับอึ้ง
"แน่นอน! มีเหรอที่ข้าไรอา จอมโจรลักพาตัวอันเลื่องชื่อ จะพลาดท่าให้กับโจรกระจอกอย่างเจ้าได้น่ะ ถ้ารู้แผนของพวกเจ้าหมดแล้ว"
"ฮึ่ม! ในเมื่อข้าเสียทีให้กับพวกท่านแล้วจะทำอะไรก็เชิญ"
"พวกเราไม่ทำอะไรเจ้าหลอกจ๊ะ แค่อยากจะให้เจ้ากลับตัวซะนะจ๊ะ"
"หึ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีหลอก เจ้าก็ดีแต่แกล้งทำความดีบังหน้า แท้จริงแล้วก็อยากได้สมบัติคืนน่ะซิ"
"หนอยเจ้า...." ไรอาทำท่าจะเอาเรื่อง
"อย่านะจ๊ะไรอา" องค์หญิงอลาน่าห้ามไว้
"เราต้องใช้เห็นผลซิจ๊ะ"
"พะยะค่ะองค์หญิง"
"จริงอยู่ที่ข้าอยากได้สมบัติคืน แต่นั่นเพาะข้าต้องการใช้สมบัติเหล่านั้นช่วยราษฎรให้อยู่กันอย่างมีความสุข เจ้าลองคิดดูนะ วิโอเรียทำให้ชาวแอนดิซองค์ต้องลำบาก ซ้ำยังร่วมมือกับพวกปีศาจ แล้วเจ้ายังจะช่วยเค้าอีกหรือจ๊ะ ลองคิดดูให้ดี ๆ นะ"
เฟรได้แต่เงียบไม่โต้ตอบ และเริ่มคิดได้
"ข้าผิดไปแล้ว คืนนี้พวกปีศาจจะบุกมา ข้าต้องถูกฆ่าแน่ ๆ เพราะไม่ส่งข่าวกลับไป ข้ายังไม่อยากตาย" เฟรกลัวอำนาจของจตุรมารมาก
"เจ้าไม่ต้องกลัวนะ ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่นี่เจ้าจะปลอดภัยนะจ๊ะ พวกเราจะคุ้มครองเจ้าเองจ๊ะ" องค์หญิงยิ้มให้เฟร
"ขอพระทัยองค์หญิงมากเพค่ะ" เฟรร้องไห้และสำนึกกับความผิดที่ได้ทำ
"ไม่ต้องร้องไห้นะจ๊ะ คนเราก็ทำผิดกันได้ ไปพักผ่อนเถอะนะ" องค์หญิงปลอบเฟร
"เพค่ะ"
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปเตรียมพร้อมกันอย่างเต็มที่ โดยที่พึ่งสำคัญตอนนี้ก็คงมีแค่ฮิลเคเบี่ยนกับคาลอสเท่านั้นที่มีอาวุธเทพ ส่วนคนอื่น ๆ ต้องรอแสงอาทิตย์แรกอาวุธเทพจึงจะสมบูรณ์ ส่วนทางด้านอองเดรตอนนี้ยังคงมุ่งหน้าขึ้นไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดในแอนดิซองค์อย่างไม่ลดละยิ่งสูงอากาศก็ยิ่งหนาว แต่เค้าก็ยังพยายามต่อไปเพื่อเรียกเทพมังกรมัลเทลลูม่า (to be continue)
Logged


Laguna Nambu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 208


« Reply #56 on: September 12, 2004, 05:42:50 AM »

ต่อทันทีทันใด

ทางด้านหน้าแผนประชุมการรบของพวกจตุรมาร แกรนซอนกำลังรอข่าวสารที่เฟรจะส่งมา แต่พอถึงเวลากลับไร้ร่องรอยของข่าวเลย
ทางด้านพวกจตุรมารที่เหลือกับซาฟิโร่กำลังประชุมแผน
"เราได้เตรียมพวกทหารเลว,อัศวินนรก,กลุ่มของซัคคิวบัสและอีกมากที่พร้อมโจมตีค่ายขององค์หญิงอลาน่า"ซาฟิโร่ได้บอกถึงกำลังทหารที่มากพอจะทำลายค่ายขององค์หญิงอลาน่าได้อย่างง่ายดาย
"แต่เราต้องแบ่งออกเพื่อพวกมันจะสวนเรากลับมา"กิโยตินเสนอ
"แล้วแต่ท่านแล้วใครจะคุมกองทัพที่จะไปรบล่ะ"มาย่าพูดอย่างสงสัย
"ถ้างั้นข้าจะไปเอง"เรเวนออกข้อคิดเห็น
"แต่เจ้ายังไม่หายดีเมื่อตอนไปที่ภูเขาวาฮาล"กิโยตินค้าน
"เจ้าไม่รู้เลยเรอะว่าข้าคุมกองทัพปิศาจได้ดีที่สุดของท่านจักรพรรดิ์แล้วทำไมเจ้าถึงต้องค้านทั้งๆที่ข้าพร้อมต่อกรได้ตลอดเวลา"เรเวนให้เหตุผลและค่อนข้างที่จะผิดหวังในตัวของกิโยติน
"ที่ข้าค้านเพราะไม่อยากให้เจ้าไปคุมกำลังรบทั้งที่กำลัง..."ขณะที่กิโยตินพูดอยู่นั้น
"รึว่าเจ้าอยากคุมแทนล่ะสิ ก็ได้นายคุมเองเลยเพราะมีกองกำลังอยู่ที่นี่แล้วนี่"เรเวนเสนอให้กิโยตินทำซะเอง
"แต่แผนนี้ถ้าพลาดนายก็เป็นคนผิดเองทั้งหมด"เรเวนพูดอย่างประชด
"ได้ แล้วได้เห็นกัน"กิโยตินเองก็ไม่แพ้กันทำให้มาย่าเห็นว่าท่าทางจะไม่ค่อยดีเพราะเรเวนกับกิโยตินไม่ค่อยจะกินเส้นแต่ไหนแต่ไรแล้ว
"พอเถอะน่าทั้งคู่ ไหนๆก็ให้เจ้ากิโยตินคุมกองทัพไปรบแล้วนี่ไม่เห็นต้องปะทะคารมกันเลยนี่"มาย่าเข้าไปห้าม
ในขณะเดียวกันแกรนซอนก็เข้ามาพอดี
"ได้ข่าวที่ส่งมาไหม"มาย่าถาม
"ไม่ ข้าไม่เห็นร่องรอยของข่าวเธอเลย"แกรนซอนพูดอย่างผิหวังเล็กๆ
"นางทรยศพวกเราข้าจะไปฆ่านางด้วยมือของข้าเอง"ซาฟิโร่แค้นมากที่เฟรผิดคำพูด
"ป่านนี้พวกมันคงได้อาวุธเทพไปแล้วล่ะ"มาย่าพูดอย่างเจ็บใจสุดขีด
"แล้วเราจะบุกเลยไหม"เรเวนเสนอ
"บุกทันทีตอนนี้ยิ่งดี"แกรนซอนพูด
"กิโยตินอย่าให้พวกเราผิดหวังล่ะ"มาย่าพูด
"ได้"กิโยตินให้สัญญาแก่นาง
"เอาล่ะ พวกเราจงไปสู้กับพวกที่ขัดขวางแอนดิซองด้วยเกียรติ์และศักดิ์ศรีเพื่อท่านราชินีวิโอเรีย"กิโยตินตะโกนเพื่อปลุกระดมทหาร
"เพื่อราชินี โฮ่ว"ทหารขานรับเสียงเมื่อสิ้นเสียงกิโยตินสั่งให้พวกทหารเคลื่อนพลไปรบกับพวกของเจ้าหญิงอลาน่าโดยที่ตัวเองไม่รู้ว่าชีวิตของตนเองกำลังจะถึงฆาต

To be conclude

กองทัพปิศาจแอนดิซองค์ที่ไปรบกับพวกขององค์หญิงอลาน่ามีทหารดังนี้
1.พวกทหารเลว
2.ทหารม้าแอนดิซอง
3.อัศวินนรก
4.ซัคคิวบัส
ผู้คุมทัพ กิโยติน แม่ทัพ ซาฟิโร่
Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #57 on: September 13, 2004, 01:52:16 AM »

คราวนี้จะตั้งใจให้มากกว่าทุกครั้ง เหอะ ๆ ๆ ๆ

ขณะนี้กองทัพเฉียดแสนของกิโยตินได้เคลื่อนพลหมายถล่มที่พักขององค์หญิงอลาน่าให้ย่อยยับ เสียงของการเคลื่นทัพที่สะเทือนไปถึงที่พักขององค์หญิงอลาน่าบ่งบอกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพได้เป็นอย่างดี ศึกครานี้ซาฟิโร่หมายจะแก้แค้นอลิซาเบธที่ทำให้แขนขวาของเค้าต้องกลายเป็นตะขอ...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านองค์หญิงอลาน่า ซึ่งบัดนี้ทุกคนพร้อมที่จะทำศึกแล้ว โดยมีซิกมันต์เป็นแม่ทัพใหญ่และมีชาล์ คาเรนซ์ เป็นแม่ทัพรอง ทั้งยังมีองค์หญิงเรจิน่า แฮริสั่น ที่เชี่ยวชาญการศึกเป็นผู้นำทัพ
"ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้เราคงไม่สามารถจะเอาชนะพวกปีศาจได้ เพราะด้วยจำนวนฝ่ายตรงข้ามที่มีมากกว่า ทั้งอาวุธเทพยังต้องรอรับแสงอรุณแรกอีก ทำให้เราเสียเปรียบในทุกด้าน ความหวังของเราตอนนี้มีอยู่ 2 สิ่ง คือ 1. ยันพวกมันให้ได้จนถึงเช้า นับจากตอนนี้ก็อีกประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องที่ลำบากไม่ใช่น้อยเลย ที่กำลังเพียงไม่กี่ร้อยของเราจะไปต้านทัพที่มีกำลังนับแสนได้..." ซิกมันต์พูด
"แล้วความหวังที่ 2 ล่ะ ท่านซิกมันต์" ฟรอสซ์ถาม
"ความหวังที่ 2 นี้ องค์หญิงอลาน่าและเกอกอรี่จะสวดมนต์ภาวนาขอให้เหล่าเทพลงมาช่วยพวกเรา"
"ข้าจะพยายามสวดมนต์ขอร้องกับพระผู้เป็นเจ้า เพื่อพวกเรา" เกอกอรี่พูด
"ส่วนเรากับซิสเตอร์ทั้งหลายก็จะสวดมนต์ขอพรเช่นกันจ๊ะ" องค์หญิงอลาน่าพูด
"เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพวกข้าก็จะพยายามถ่วงเวลารอจนกว่าจะเช้าหรือเทพจะมาก็แล้วกัน" ฟรอสซ์พูด
"ดี! งั้นพวกเราแบ่งกำลังออกเป็น 3 ทัพ ทัพแรกข้า ชาล์ ท่านพี่เรจิน่า เจ้าชายแฮริสันจะเป็นทัพหน้าออกไปสู้กับมันเอง ส่วนทัพที่ 2 ให้คาลอส ฮิลเคเบี่ยน ไรก้า ฟราก้า นำกำลังไปคอยซุ่มอยู่ด้านข้าง พอพวกมันบุกปะทะกับทัพแรกแล้ว ให้ทัพ 2 จู่โจมจากด้านข้างทันทีอย่าให้พวกมันตั้งตัวติด ส่วนทัพที่ 3 ให้ ฟรอสซ์ แอลฟาเรีย ริวโก เซเรส ไรอา คอยคุ้มกันที่มั่นของเราให้ดี ส่วนอลิซาเบธกับเอลด้าคอยซุ่มโจมตีจากด้านหลังหากเห็นใครพลาดพลั้ง ทหารจากฟีลีเซียทุกคนจะแยกกันไปอยู่กับทัพต่าง ๆ เท่า ๆ กัน มีใครสงสัยอะไรมั้ย" ซิกมันต์ถามเพื่อความมั่นใจ
"ข้าสงสัยท่านซิกมันต์" ฟรอสซ์ถาม
"ฟรอสซ์เจ้ามีอะไรพูดมา"
"ข้าสงสัยว่าทำไมข้าต้องอยู่คอยรักษาที่มั่นด้วย ข้าต้องการออกรบ"
"เพราะว่า เจ้าถนัดการต่อสู้แบบประชิดตัวโดยใช้มือเปล่า หากแต่ข้าศึกนั้นใช้อาวุธและที่สำคัญหากไม่มีใครปกป้องที่มั่นแล้ว องค์หญิงกับเกอกอรี่จะสวดมนต์ได้อย่างไร" ซิกมันต์ให้เหตุผล
"แต่ว่าข้า..."
"ฟรอสซ์! ไม่เอาน่าทำตามนี้เถอะ" แอลฟาเรียเข้าปรามไว้
"ได้ ๆ ข้ายอมแล้ว"
"ดี! งั้นพวกเราเพื่อขจัดมารร้าย เพื่อเกียรติแห่งพวกเรา ฆ่ามันให้หมด"
โอ้ว......
หลังจากนั้นซิกมันต์และคนอื่น ๆ ต่างแยกกันตามแผนที่ได้วางเอาไว้ ทางองค์หญิงอลาน่า เกอกอรี่และซิสเตอร์ต่าง ๆ ก็เริ่มสวดมนต์ของพรจากพระผู้เป็นเจ้ากันแล้ว หากแต่ในใจขององค์หญิงอลาน่ายังคิดว่ามีความหวังอีกสิ่งหนึ่งนั่นก็คืออองเดร....
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านอองเดร ซึ่งขณะนี้ได้ถึงยอดเข้าที่สูงที่สุดในแอนดิซองค์แล้ว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะเรียกเทพมังกรได้ จึงได้แต่ตะโกนเรียกชื่อเท่านั้น...
"ท่านเทพมังกรมัลเทลลูม่า ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย ได้โปรดช่วยองค์หญิงของข้าด้วย ท่านเทพมังกร..." อองเดรตะโกนอยู่นาน หากแต่การปีนเขาที่ทั้งสูง ทั้งหนาวเย็น ทำให้แรงของอองเดรค่อย ๆ ลดลง แค่พยุงร่างไว้ก็แทบจะเต็มทนแล้ว ถึงกระนั้นอองเดรก็ยังคงตะโกนต่อไปทั้งที่ไม่มีวี่แววของเทพมังกรเลยแม้แต่น้อย.....
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านกิโยตินขณะนี้ได้นำทัพมาใกล้ที่พักขององค์หญิงอลาน่าแล้วก็ได้พบกับทัพแรกซึ่งนำโดยซิกมันต์นั่นเอง
"หึ ๆ ๆ พวกมดปลวก พวกเราฆ่ามัน..." กิโยตินตะโกนสั่งทหารทุกคนให้รบทันที เสียงแตรศึกได้ดังขึ้นแล้ว ส่วนทางซิกมันต์เองก็บุกเช่นกัน
"พวกเราเพื่อโลกของเรา ฆ่ามัน...." ซิกมันต์ประกาศโจมตี พร้อมเสียงโห่ร้องที่ดังกึกก้อง แม้จะมีกำลังมากกว่า แต่หากเทียบฝีมือกันแล้ว ทางซิกมันต์มีความสามารถมากกว่าอย่างไม่อาจเทียบกันได้.... ทันทีที่ทั้ง 2 ได้เข้าประจันบานกันนั้น ทัพที่ 2 ที่ซุ่มอยู่ก็ก็ได้บุกเข้าโจมตีเข้าที่กลางทัพใหญ่ของพวกปีศาจทันที
"พวกเราฆ่ามัน สู้จนกว่าตัวจะตาย...." ฟราก้าตะโกนสั่งโจมตีทันที
ฝ่ายกิโยตินที่คิดว่ามีแต่ทัพหน้า จึงโดยทัพที่ 2 โจมตีจากกึ่งกลาง เสียทหารไปมากทีเดียว
"หนอย! พวกมันเล่นสกปรกหรือนี่ แอบซุ่มอยู่หยั่งงั้นรึ" กิโยตินเจ็บใจที่ตกหลุ่มพลางของซิกมันต์
ขณะกองทัพของซิกมันต์ได้จู่โจมฆ่าทหารของกิโยตินไปมาก แต่ทหารที่ฆ่าไปนั้นเป็นเพียงแค่ทหารเลวเท่านั้น ซึ่งความน่ากลัวของทัพกิโยตินอยู่ที่อัศวินไนท์แมร์และซัคคิวบัส ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าทหารเลวมากนัก และตอนนี้ทั้ง 2 ก็ได้โจมตีกลับทำให้ทัพของซิกมันต์และฟราก้าเสียหายไม่น้อยทีเดียว
"ชิ! เจ้าพวกอัศวินไนท์แมร์มันใช้คำสาปฆ่าทหารของเราไปมากเลยนะพระองค์" ชารล์พูดกับซิกมันต์ด้วยความกังวล
"แต่ข้าว่านะชาล์ นอกจากกิโยตินและซาฟิโร่แล้ว มันต้องมีหัวหน้าของพวกไนท์แมร์กับซัคคิวบัสอีกแน่" ซิกมันต์พูด ไปสู้ไป
"ถ้าเป็นเช่นนั้นให้เป็นหน้าที่ของกระหม่อมเองพระองค์" พูดจบชาร์ลก็เพิ่มความเร็วจู่โจมเข้ากลุ่มอัศวินไนท์แมร์เพื่อหาหัวหน้ากลุ่ม
ชารล์สบัดดาบคู่ใจอย่างรวดเร็วราวกับแสงที่พุ่งผ่านก้อนเมฆ ที่ใดที่แสงนี้ผ่านจะมีศพนอนอยู่ข้างหลังตลอดทาง ทางฟราก้าเองซึ่งมีศักดิ์เป็นถึงแม่ทัพเช่นชาร์ล ก็ไม่น้อยหน้าจัดการศัตรู 10 คน ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ซึ่งทุกครั้งที่ฟราก้าโจมตีจะมีไรก้าและฮิลเคเบี่ยนค่อยระวังหลังให้เสมอ ส่วนแฮริสันใช้การโจมตีคู่กับเรจิน่า ทำให้ศัตรูเริ่มแตกพ่ายไป
เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง พวกซิกมันต์เริ่มจนมุมแล้ว เพราะทหารเลวกว่า 5 หมื่นได้ตายจนหมดสิ้น ซึ่งตอนนี้เหลือแต่เพียงเหล่าอัศวินไนท์แมร์ ซัคคิวบัส กิโยตินและซาฟิโร่เท่านั้น ขณะนี้ทัพแรกของซิกมันต์และทัพที่ 2 ของ ฮิลเคเบี่ยนได้มารวมตัวกันแล้ว
"ท่านซิกมันต์คราวนี้จะเอาไงดีล่ะ เหลือแต่พวกปีศาจแล้ว ยังเหลือเวลาอีกตั้ 2 ชั่วโมงกว่าฟ้าจะสาง" แฮริสันถาม
"ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะจัดการกับคำสาปของพวกมันยังไงดี" ซิกมันต์กล่าวอย่างกังวลอย่างมาก
"ให้ข้า 2 คน จัดการเองท่านแฮริสัน" ฮิลเคเบี่ยนและคาลอส อาสารับหน้าที่นี้
"ท่านทั้ง 2 จะไหวเหรอ 2 ต่อครึ่งแสนนะท่าน" ซิกมันต์พูด
"ข้า 2 คนเท่านั้นที่มีอาวุธเทพ" ฮิลเคเบี่ยนพูด
"ไงซะพวกข้าไม่ยอมตายง่ายหลอก" คาลอสพูด
"งั้นข้าจะช่วยพวกท่านเอง" ชาร์ลแทรกขึ้น
"แต่ท่านจะโดนคำสาปนะ" คาลอสพูด
"ไม่เป็นไรข้ามีเครื่องลาง ของท่านเกอกอรี่คำสาปทำอะไรข้าไม่ได้หลอก"
"นี่พวกเจ้าปรึกษากันเสร็จหรือยัง มาสู้กันดีกว่าน่า" พวกปีศาจท้าทาย
"คราวนี้พวกแกไม่รอดแน่เจ้าพวกปีศาจ ย้ากกกก...." คาลอสกระโดดขึ้นชูปลายดาบขึ้นฟ้า ทันใดนั้น สายฟ้าได้ฟาดลงมาที่ดาบของคาลอส แล้วพาดลงมากลางกองทัพของพวกอัศวินกับซัคคิวบัส พวกที่หลบทันก็รอดตายส่วนพวกที่หลบไม่ทันร่างกายก็สลายไป...
"หึ ๆ ๆ เป็นไงล่ะพวกแก" คาลอสเย้ย
"หนอย! นึกไม่ถึงว่าพลังมันจะมหาศาลถึงเพียงนี้" กิโยตินหลบได้อย่างหวุดหวิด
"คราวนี้ข้าบ้างจะน้อยหน้าท่านไม่ได้แล้ว ย้าก....." ฮิลเคเบี่ยน รวมพลังไว้ที่ดาบคู่ จากนั้นปักดาบทั้ง 2 ลงพื้น ทำให้เกิดรอยแยกตรงไปยังทัพไนท์แมร์ จากนั้นพลังมหาศาลได้พุ่งขึ้นมาฆ่าอัศวินไนท์แมร์เป็นจำนวนมาก เมื่ออัศวินไนท์แมร์ได้ถูกทำลายคำสาปในตัวก็ปรากฏเป็นรูปหัวกระโหลกพุ่งเข้าหาฮิลเคเบี่ยนและคาลอสทันที แต่ทั้งใช้ดาบที่มีพลังของเทพทำลายคำสาปไปได้...
"ฝีมือท่านทั้ง 2 ยอดเยี่ยมมาก คราวนี้ขอข้าแสดงฝีมือบ้าง" ชาร์ลตั้งดาบระดับใบหน้าพร้อมลุยทันที...
"ย้าก......." ชาร์ลซึ่งไม่มีพลังของอาวุธเทพ จึงพุ่งเข้าหาอัศวินไนท์แมร์อย่างไม่คิดชีวิต
(to be continue)
Logged


Shirahime
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 75


Email
« Reply #58 on: September 13, 2004, 05:06:40 PM »

ขอโทษนะคะไม่ได้เข้ามานานมากเพราะคอมที่บ้านเล่นเน็ตไม่ได้ต้องยืมคอมร.ร.เอา(ซึ่งกว่าจะได้เล่นก็ไม่บ่อยนักหรอกค่ะ)ต่อๆ

ฉึก! ดาบของชาลส์ปักลงตรงกลางร่างอัศวินไนท์แมร์ ถึงกับทำให้อัศวินไนท์แมร์นั้นกระอักเลือด พร้อมกับฮิลเคเบี่ยนชูนิ้วโป้งให้
"เก่งเหมือนกันหนิ ท่านแม่ทัพ"ฮิลเคเบี่ยนตะโกน
"ไม่เท่าไหร่หรอก"ชาลส์ตะโกนกลับ แล้วจึงกลับไปฟันคอของอัศวินไนท์แมร์ต่อ

อ้ายยยยยยต่อให้หน่อยนะ อาจารย์มาแล้ววววววววววววววววววววว
Logged


KingOfCups
Member
*****
Offline Offline

Posts: 81


« Reply #59 on: September 13, 2004, 10:29:54 PM »

ต่อ ๆ
ถึงแม้ทั้ง 3 จะมีฝีมือเหนือกว่าอัศวินไนท์แมร์ทุกตัว แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ตอนนี้ทั้ง 3 เริ่มเพลี่ยงพล้ำให้กับอัศวินไนท์แมร์แล้ว คาลอสและฮิลเคเบี่ยนพลาดท่าถูกคำสาปแต่ไม่ถึงกับตายเพราะมีดาบสายฟ้าคอยระงับพิษของคำสาปไว้ ส่วนชาร์ลถึงแม้จะไม่ถูกคำสาปเพราะเครื่องลางของเกอกอรี่แต่ก็มีบาดแผลทั่วร่าง ทำให้ไม่รวดเร็วเหมือนเดิมแล้ว
"หึ ๆ ๆ สุดท้ายพวกแกก็ต้องตาย ฮ่า ๆ ๆ ๆ " หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์บัดนี้ได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว
"คราวนี้ข้าจะเริ่มจากใครก่อนดีนะ อืม...."
"ท่านหัวหน้าข้าว่าเลือกแม่ทัพแห่งฟีลีเซียก่อนดีกว่านะท่านเพราะคำสาปของพวกเราทำอะไรมันไม่ได้เลย" อัศวินไนท์แมร์ตนหนึ่งเสนอ
"ดี! งั้นข้าจะสังหารเจ้าก่อนก็แล้วกันท่านแม่ทัพแห่งฟีลีเซีย"
ทันทีที่หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์เงื้อดาบจะสังหารชาร์ลนั่นเอง ได้มีแสงจากท้องฟ้าส่องลงมาที่หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์
"โอ้ย...นั่นแสงอะไรน่ะ" หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์รู้สึกไม่ชอบใจกับแสงนี้เลย
"พวกปีศาจจงหายไปซะ" มีคลื่นพลังขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากลำแสงนั้น คลื่นพลังนั้นพุ่งเข้าหากองทัพไนท์แมร์ทันที
"พวกเราหลบเร็ว" หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์ตะโกนบอกลูกน้องทันที แต่ไม่ทันซะแล้ว คลื่นพลังนั้นได้ทำลายกองทัพไนท์แมร์เกือบทั้งหมด
ตูม!....
"ใครมาช่วยพวกเรา..." ชาร์ลซึ่งตอนนี้แทบจะหมดสภาพที่จะสู้ ได้แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและได้พบกับนางอัปสรทั้ง 9
"โอ้....สวรรค์ส่งนางฟ้ามาช่วยพวกเราแล้ว" ชาร์ลพูด
"พวกเราช่วยกันขจัดมารร้าย" นางฟ้าเวธิดาพี่ใหญ่ของกลุ่มนางฟ้าสั่งการแล้วพวกน้อง ๆ โจมตีพวกปีศาจทันที
"พวกปีศาจจงสลายไปซะ ไปเลยเหล่าอสูรพิทักษ์ของข้า" นางฟ้าอัปสรทั้ง 9 สั่งอสูรพิทักษ์ของตนโจมตีพวกปีศาจทันที
ช้างสารที่ทรงพลังพุ่งเข้าโจมตีอัศวินไนท์แมร์ทันที งวงอันทรงพลังฟาดไปแต่ละครั้งทำเอาเหล่าอัศวินไนท์แมร์กระเด็นไปคนละทิศละทาง พวกที่หลบไม่ทันก็ถูกเหยียบร่างแตกสลายไป คำสาปที่ปรากฏขึ้นเมื่ออัศวินไนท์แมร์ตายไปไม่สามารถทำอะไรอสูรพิทักษ์ได้เลยแม้แต่น้อย ทางด้านผึ้งและผีเสื้อถึงแม้จะมีรูปร่างที่เล็ก แต่ก็มีความเร็วบินผ่านหน้าอัศวินไนท์แมร์ไปมา ทำให้เหล่าอัศวินเกิดความรำคาญ ต่างไล่ฟันเป็นการใหญ่ จนติดกับของแมลงทั้ง 2 ทำให้การโจมตีพลาดเป้าไปโจมตีกันเอง สร้างความวุ่นวายให้เหล่าอัศวินไนท์แมร์เป็นอันมาก ทางด้านนกอินทรย์และปลาไม่ใช่หน่วยโจมตี แต่เป็นหน่วยสนับสนุน ได้ใช้พลังทำให้พวกซัคคิวบัส มีการเคลื่อนไหวที่ช้าลงมาก ทั้งร่างกายยังรู้สึกหนักขึ้นทำให้สูญเสียพลังไปอย่างเปล่าประโยชน์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับ อติโลหิตะ วิมานะ ( เครื่องบินรบคล้ายเรื่อง Beat-X) ใช้การโจมตีจากทางอากาศทำลายทัพซัคคิวบัสไปกว่าครึ่งแล้ว ทางด้านแกะจะจู่โจมพร้อมกับนางฟ้าดาราวดี โดยนางฟ้าจะร่ายเวทมนต์ทำให้พวกปีศาจถูกคำสาป และแกะก็จะทำหน้าที่ส่งพวกปีศาจไปยังอีกมิติหนึ่งทันที ทางด้านหัวหน้าอัศวินไนท์แมร์และหัวหน้าของซัคคิวบัส ต่างหลบการโจมตีของอสูรพิทักษ์อย่างจ้าละหวั่นทำให้พลาดท่าถูกยักษ์ของนางฟ้านันทาเทวีจัดกิน ทางด้านซาฟิโร่เห็นท่าทางไม่ดีที่กองทัพนับแสนต้องมาพินาจจึงรีบหนีเอาตัวรอดทันที
"หนอยเจ้าซาฟิโร่จะไปไหน..." กิโยตินเห็นซาฟิโร่คิดหนีจึงโจมตีใส่ซาฟิโร่ แต่จังหวะที่จะโจมตีนั้นอลิซาเบธฉวยโอกาสลั่นไกใส่กิโยตินทันที กระสุนพุ่งทะลุหัวของกิโยตินทันที ทำให้การโจมตีของกิโยตินชะงักไป การโจมตีนี้หาได้ทำให้กิโยตินบาดเจ็บไม่ แต่มันทำให้กิโยตินโกรธอย่างมาก กิโยตินได้ระเบิดพลังทั้งหมดออกมา พลังความชั่วร้ายแผ่กระจายอยู่รอบตัวกิโยติน พลังนี้ทำให้กิโยตินมีพลังเพิ่มมากขึ้น กิโยตินพุ่งเข้าจู่โจมเหล่าอสูรพิทักษ์ทันที เริ่มจากจัดการไล่ตั้งแต่ตัวใหญ่ยันตัวเล็ก ซึ่งอสูรพิทักษ์ไม่มีตนไหนจะรับมือกับกิโยตินในตอนนี้ได้ ต่างพ่ายแพ้แก่กิโยตินทั้งหมด..
"หนอยไอ้ปีศาจบังอาจทำร้ายอสูรพิทักษ์ของข้า" นางจันทราเทวีพุ่งเข้าจู่โจมกิโยตินทันที
"หึ ๆ ๆ เจ้านางฟ้าโง่คิดหรือว่าเจ้าคนเดียวจะทำอะไรข้าได้" กิโยตินร่ายมนต์ดำโจมตีใส่จันทราเทวีเต็ม ๆ ทำเอาจันทราเทวีกระเด็นไปไกลทีเดียว
"หนอยไอ้ปีศาจ..." บัดนี้นางฟ้าจันทราเทวีไม่สามารถจะต่อสู้ได้อีกแล้ว เมื่อนางฟ้าที่เหลือเห็นดังนั้นจึงรวมพลังกันโจมตีใส่กิโยตินทันที
"ไอ้ปีศาจบังอาจทำร้ายน้องข้าจงตายซะเถอะ พลัง 8 นางฟ้า โจมตี" คลื่นพลังพุ่งเข้าใส่กิโยตินทันที หากแต่กิโยตินร่ายมนต์ดำสร้างโลห์แห่งความมืดสะท้อนการโจมตีกลับไปถูก 8 นางฟ้าบาดเจ็บอย่างมาก กิโยตินในตอนนี้มิได้ตั้งใจจะโจมตีนางอัปสรทั้ง 9 ไม่ แต่เป้าหมายอยู่ที่อลิซาเบธ ที่ทำให้หัวของกิโยตินเป็นแผล
"แก! นังมนุษย์โง่ แกบังอาจทำให้หัวของท่านกิโยตินผู้นี้บาดเจ็บ แกต้องตาย" กิโยตินย่าง 3 ขุม เข้าหาอลิซาเบธทันที....
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านซาฟิโร่ที่ทุกคนคิดว่าหนีไปแล้วกลับอ้อมมาซุ่มโจมตีองค์หญิงอลาน่าในที่พัก ซึ่งกำลังสวดมนต์อยู่นั่นเอง....
"คราวนี้ท่านไม่รอดแน่องค์หญิงอลาน่า" ซาฟิโร่เล็งเป้าไปที่องค์หญิงอลาน่าซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกซาฟิโร่จ้องทำร้ายอยู่
"ตายซะเถอะ..."
พิ้ว! ลูกกระสุนที่ถูกเก็บเสียงแล้วพุ่งเข้าหาองค์หญิงอลาน่าทันที ขณะที่ลูกปืนจะถูกองค์หญิงลูกปืนได้แปรเปลี่ยนเป็นดอกไม้หลอนอยู่ข้าง ๆ กายขององค์หญิง มิลินอันโด้ กับ แกดเดส อัศวินแห่งสวรรค์ที่ได้รับบัญชาให้คุ้มครององค์หญิงอลาน่าได้เปลี่ยนลูกกระสุนให้กลายเป็นดอกไม้
ปรากฏการณ์นี้ทำเอาซาฟิโร่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จึงหันลำกล้องไปที่องค์หญิงอลาน่าอีกครั้ง
"ดูซิคราวนี้จะมีปาฎิหารย์อีกมั้ย"
พิ้ว! ลูกกระสุนพุ่งเข้าหาองค์หญิงอลาน่าอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกกระสุนได้แปรเปลี่ยนเป็นดอกไม้อีกครั้ง
"นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย คราวนี้เจอกระสุนปีศาจหน่อยดูซิคราวนี้จะรอดอีกมั้ย"
ทันใดนั้นเองฟรอสซ์ซึ่งออกตรวจรอบ ๆ ได้พบซาฟิโร่เข้าพอดี จึงค่อย ๆ แอบเข้าไปหาซาฟิโร่ เพราะเกรงเสียงที่ดังจะรบกวนการสวดมนต์ขององค์หญิง ซาฟิโร่ที่กำลังบรรจุกระสุนอยู่ไม่คาดคิดว่าจะมีใครมาเห็นจึงไม่ทันระวัง ฟรอสซ์อาศัยจังหวะพุ่งเข้าล๊อกซาฟิโร่จากข้างหลังเอามือปิดปากและลากซาฟิโร่ไปในที่ลับตาคน แต่เผอิญแอลฟาเรียเห็นเข้าจึงแอบตามฟรอสซ์ไป
ตุบ! ฟรอสซ์เหวี่ยงซาฟิโร่กระเด็นไป
"คราวที่แล้วแกทำกับไรอาไว้คราวนี้ข้าจะแก้แค้นแทนไรอาเอง" ฟรอสซ์ตั้งท่าพร้อมจู่โจมทันที
"เชอะ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเข้ามาเล..." ซาฟิโร่ยังพูดไม่ทันจบ ฟรอสซ์พุ่งเข้าไปชกหน้าซาฟิโร่อย่างรวดเร็ว ซาฟิโร่ถึงกับหน้าหันกลิ้งไม่เป็นท่า
"หนอยไอ้เด็กเวร"  ซาฟิโร่รีบลุกขึ้นทันที
พลัก!
"โอ้ก...." ฟรอสซ์ไม่ปลอยให้ซาฟิโร่ได้ตั้งตัวเตะเข้าที่ลำตัว ซาฟิโร่ถึงกับตัวงอเลยทีเดียว
"โ...อ้ย...กะ แก..."
ตูม! ฟรอสซ์อัปเปอร์คัตเข้าปลายคางอย่างจัง ซาฟิโร่ถึงกับตัวลอยขึ้นสูงทีเดียว
ตุบ!
"โอ้..โอ้ย..แก...คราวนะ..นี้..."
ผั่ว! ๆ ๆ ฟรอสซ์ไม่พูดพล่ำทำเพลงจู่โจมซาฟิโร่อย่างต่อเนื่องแบบไม่เปิดโอกาสให้ซาฟิโร่ได้ตั้งตัวเลย
พลัก! ๆ ๆ ๆ
"แก ๆ ๆ ตายซะเถอะ...." ฟรอสซ์กระหน่ำทุกกระบวนท่าที่เคยได้ร่ำเรียนมาทั้งหมดโจมตีเข้า0ใส่ซาฟิโร่ จนตอนนี้เปรียบเสมือนกระสอบทรายให้ฟรอสซ์ซ้อมก็ไม่ปาน..
ผัว ๆ
"โอ๊ะ ๆ "
พลัก ๆ ๆ
"อั่ว ๆ ๆ "
"จบสิ้นซะทีไอ้สาระเลว ย้าก....."
ตูม!.....ฟรอสซ์ชกเข้าที่ศีรษะซาฟิโร่เต็ม ๆ ถึงกับกระโหลกร้าวกระเด็นไปกระแทกหินก้อนใหญ่อย่างแรง
"โอ้กก....." สภาพซาฟิโร่ตอนนี้กระดูกทั่วร่างแทบจะแหลกละเอียดหมดแล้ว เลือดออกเป็นจำนวนมาก ซ้ำยังกระอักเลือดกองโตอีก...
"เชิญเจ้านอนรอความตายอยู่ตรงนั้นแหล่ะ.." ฟรอสซ์หันหลังเดินกลับไปยังที่พักทันที
จังหวะที่ฟรอสซ์หันหลังเดินไปนั้น ซาฟิโร่ใช้แรงฮึดสุดท้ายก่อนจะหมดลมใช้ปืนที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อยิ่งใส่ฟรอสซ์ทันที
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ในที่สุดข้าก็เป็นผู้ชนะฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ"
ปัง!
เมื่อสิ้นเสียงปืนชีวิตของซาฟิโร่ก็ดับลง พร้อมกับลูกกระสุนที่กำลังพุ่งเข้าหาฟรอสซ์ ซึ่งหันมาไม่อาจปัดป้องอะไรได้เลย....
(to be continue)
Logged


Pages: 1 [2] 3 4 5  All
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.172 seconds with 21 queries.