“ ความปรารถนาเหรอ.. ”
เฟนท์ เปรยขณะที่เงยหน้าขึ้นมอง เรกกะ
“ อืม ชั้นจะเสี่ยงกับความปรารถนา ของผู้คนที่เป็น Genesis ผลักดันไปสู่อนาคต ”
คำพูดสุดท้าย ที่เรกกะ ได้พูดออกมา นั้นคือส่วนสนับสนุนทั้งหมดของแผนการที่วางไว้
และเริ่มมาเนิ่นนาน ในที่สุดมันกำลังจะจบลงในไม่ช้านี้
................
......................
.............................
“ เรกกะ...นี่เป็นค่าตอบแทนที่นายต้องชดใช้ให้กับการ เหยียบย่ำจิตใจผู้อื่น.... ”
R2 เปรยออกมาเพียงลำพัง ในวิหารที่ไม่มีใครนี้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง แสงสว่างที่ทอดผ่านกระจกลงมา
“ ....นาย.... ”
น้ำตาที่ไหลรินออกมาพร้อมกับ คำพูด ในขณะที่ สัญลักษณ์ คาทราสโทฟี ของเธอ
ได้ปรากฏขึ้นบนร่างกายอีกครั้งก่อนที่มัน จะสลายหายไป ตอนนี้เธอได้คืนความเป็นอมตะ
ไปแล้ว
...............
“ คนที่พร้อมจะฟันก็ควรพร้อมที่จะถูกฟันด้วย ”
เรกกะ คิดขณะที่คมดาบของ เฟนท์ กำลังจะแทงเข้ามา
“ เฟนท์ นายจะกลายเป็นวีรบุรุษ กลายเป็น Dragoon ผู้กอบกู้โลกใบนี้
ช่วยทุกคนจาก ศัตรูของโลก จักพรรดิ์ ปีศาจ เรกกะ ไฮเดย์ คนนี้ ”
คำพูดสุดท้าย ที่เค้าได้พูดไว้กับ เฟนท์ ในตอนที่ มอบหน้าที่ให้สานต่อแทนเค้า
ดังขึ้นในหัวของ เฟนท์ ก่อนที่คมดาบจะทิ่มทะลุผ่านร่าง เข้าไป
“ เรกกะ... ”
เฟนท์ กระซิบขึ้นมาเบาๆ ภายใต้หน้ากากที่สวมอยู่ น้ำตาที่ไหลรินเพื่อเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว
ที่ร่วมทุกข์สุขกันมา พร้อมๆกับ โลหิตที่ ซึมออกมาบนเสื้อของ เรกกะ และดาบที่ฝังลึกจนมิดด้าม
ลงไปนั้น
“ นี่ก็เป็น..บทลงโทษสำหรับนาย..ด้วย ”
เรกกะ กระซิบด้วยเสียงอันแผ่วเบา ขณะที่เอามือกุมท้องที่ถูกฟันเอื้อมไปแตะที่หน้ากาก
ของ Dragoon
“ นายจะเป็นผู้พิทักษ์ ที่สวมหน้ากากนั่นไปชั่วชีวิต....ไม่สามารถกลับไปเป็น เฟนท์ นีโอเวล ได้อีก
นายจะต้อง....สละความสุขของตัวเอง...ทั้งหมดเพื่อ..ความสุขของ..ทุกคน..ชั่วนิรันด์ ”
เรกกะ กล่าวด้วยเสียงอันแผ่วเบา ขณะที่ไฟชีวิตค่อยๆมอดลง มือที่แตะหน้ากากของ Dragoon ได้ลื่นไหลงแนบตัวอย่างอ่อนแรง เลือดที่เปรอะมืออยู่นั้นจึงขีดลากไปบนหน้ากากด้วย
“ ชั้นยอมรับความปรารถนานี้.. ”
เฟนท์ กระซิบตอบ ก่อนจะชักเอาดาบออกจากร่างของ เรกกะ และเดินถอยออกไปด้านข้าง ในขณะที่ เรกกะ ซ฿่งกำลังจะหมดลมหายในนั้น ได้เซถลาไหลลงไปตามทางลาดของ คันรถ จนลงมากองอยู่ข้างๆ เซน่า
“ เรกกะ.. ”
เซน่า เปรยด้วยสีหน้าตกตะลึง ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปแตะร่างของ น้องชาย อย่างช้าๆ
เสี้ยววินาทีที่เธอสัมผัสกับตัวของ เรกกะ จี้ห้อยคอ รูปนาฬิกาทราย ที่ เรกกะ ห้อยเอาไว้ตลอด
ก็ เรืองแสงอ่อนออกมา เมื่อ เซน่า ได้จ้องมองไปที่แสงนั้นเธอจำได้ถึง นาฬิกา ห้อยคอตัวนี้
เธอเป็นคนที่มอบมันให้ เรกกะ มนวันที่เค้าถูกสร้างขึ้น ก่อนจะถูกปลูกความทรงจำและคิดว่ามัน
เป็นของ ลอว์เรนซ์ ที่เป็นพ่อของเขา
“ นี่..หรือว่า ”
เซน่า เปรบก่อนจะย้ายไปจับที่ นาฬิกานั้น ความทรงจำทั้งหมดที่ เรกกะ คุยถึงแผนการ Dragoon Requiem
กับเฟนท์ ก็ได้ผุดขึ้นมา ในหัวของเธอ
“ ไม่จริง...ตลอดเวลา...เรกกะ น้อง.... ”
เซน่า เปรยด้วยเสียงอันสั่นเทา ขณธที่มองดวงตาของ น้องชายที่ค่อยๆริบหรี่ลง
“ เรกกะ...พี่เองก็รักน้อง..มากนะ น้องเป็นน้องของพี่จริงๆ... ”
เซน่า กล่าวออกมาด้วย้ำเสียงที่สั่นเครือ ขณธที่ เรกกะ ซึ่งกำลังจะหมดลมหายใจได้ ชายตามามองเธอเป็นครั้งสุดท้าย
“ ผม...ทำลาย..โลก ”
เสียงอันแผ่วเบาของ เรกกะ ที่หลุดลอยออกมา ขณะที่ภาพความหลังทั้งหมดค่อยๆปรากฏขึ้นในหัวของเขา
ช่วงเวลาทั้งหมดที่ได้มีชีวิตมา กำลังหลั่งไหลขึ้นมาในจิตใจ
“ และ...ผม..สร้าง...โลก... ”
สิ้นคำ ดวงตาของ เรกกะ ก็ปิดสนิทไม่มีสุรเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาอีก
“ ไม่นะ...เรกกะ..ลืมตาขึ้นมาสิ..เรกกะ! ”
เซน่า กล่าวน้ำเสียงสั่นเทา ขณะที่น้ำตาของเธอไหลรินรดลงบนใบหน้าของ เรกกะ ผู้เป็นน้อง
“ ปีศาจร้าย เรกกะ ได้สิ้นใจลงแล้ว พวกเราออกไปช่วยตัวประกันทั้งหมดเร็ว ”
เสียงของ เอมิล ดังขึ้นจากที่หน้าอาคาร พร้อมกับที่ ซาน ไรด์ ไอ ได้ออกจากอาคารตรงไปยังขบวนรถ
ขณะที่ บรรดาผู้มาร่วมงาน ก็พากันเข้าก่อเหตุชิงตัวประกันออกมา กันอย่างพร้อมเพรียง
“ แย่ล่ะ ถอยก่อน ”
ลอว์เรนซ์ สั่งจบ Gazor ทั้ง3 เครื่องก็พา เค้าหนีขึ้นฟ้าหายลับไป
“ จบซะทีสินะ ”
เสียงของ เรโค่ ดังขึ้นจาก Gazor ที่ ลอว์เรนซ์ เกาะอยู่ที่ไหล่
“ จะได้กลับบ้านกันซักที ”
เซโร่ บ่นออกมาจาก Gazor อีกเครื่องที่อยู่ข้างๆ
“ เอาน่าไม่ต้องบ่นไปหรอก...อีกเดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้วล่ะ.. ”
เสียงของ อิจิกิ ก็ดังจากอีกตัวเช่นกัน พวกเซโร่ ทั้งสามคนนั้น ได้ขับอยู่ใน Gazor แต่ล่ะตัว ตั้งแต่แรกแล้ว
(มิน่าถึงยิงยังไงก็ยิงไม่โดน)
“ ไม่ยุติธรรมเลย...ทั้งที่พี่แค่ได้อยู่กับน้องก็มีความสุขแล้ว..แต่ทำไม..พี่จะอยู่ได้ยังไง
ในอนาคตของเรกกะ ที่ไม่มีเรกกะ อยู่ด้วย...ไม่นะ..เรกกะ.. ”
เสียงของ เซน่า ดังขึ้นอย่างสั่นเทา ขณะที่เธอทำได้เพียงแค่กุมมือที่ เย็นเชียบของ น้องชายเอาไว้เท่านั้น
ด้าน Dragoon เฟนท์ ก็ได้ยกดาบสะบัดเอาเลือดของ เรกกะ ออกท่ามกลางเสียงโห่ร้องอย่างยินดีของผู้คนทั่วทั้งท้องถนน
“ Dragoon! ” “ Dragoon!! ” “ Dragoon!!! ” “ Dragoon!!!! ”
เสียงเรียกชื่อสรรเสริญ ดังขึ้นทั่วทั้งท้องถนนตัดกับเสียงกรัดร้อง ที่ขมขื่นของ เซน่า ที่ดังก้องระงม
ท่ามกลางเวลาของยุค สมัยที่ได้เปลี่ยนไปแล้ว
.......................
...................................
นี่ เรกกะ หลังจากนั้น เทอร่าก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะ ความพยายามทั้งหมดที่เคยทุ่มให้กับสงคราม
ถูกนำมาใช้เพื่อการ บำรุงและฟื้นฟู ความยานแค้นของประชาชนแทนแล้วล่ะ
ความอาฆาตแค้นทั้งหมดมันถูกผลักให้เป็น ภาระของนายแทน...บางทีมันอาจ
จะง่ายกว่าที่จะจดจำ ชื่อของ คนๆหนึ่งมากกว่าระบบ ที่ชื่อ Valhala คงจะฟังดูเลิศเลอเกินไปสินะ
แต่มันเป็นความจริง บางทีตอนนี้ เธออาจจะนั่งยิ้มน้อยๆแล้วก็บอกว่าเป็นไปอย่างที่เธอคาดเอาไว้อยู่ก็ได้
เพราะนาย ทุกคนจึงไม่ยึดติดกับ อดีต และไม่ขังตัวเองเอาไว้กับเวลา สามารถที่จะไปยังอนาคตได้ โดยที่ไม่ลังเล
จริงสิ ฉันเกือบลืมแน่ะ พวกเรา เรียนจบมหาลัยกันแล้วนะ ฉันได้เป็นทนาย อย่างที่ฝันเอาไว้แล้วล่ะ
ไรด์ เองก็เปิดร้านขายของสะสมน่ะนะ ช่วงนี้ บาร์ซิงเซย์ เลยคึกคักยิ่งกว่าเดิมอีก เนอะว่างั้นไหมล่ะ
เอมิล เองก็เพิ่งเริ่มงานตุลาการได้ไม่นาน ฉัน เองก็ดีใจนะที่เวลาอยู่ในศาลจะได้ไม่ต้องเกร็งมาก
แต่กลับกันน่ะสิ ดู เอมิล จะเกร็งกว่าฉันซะอีกเนอะ ฮะๆๆ
ไอ เองก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ แล้วล่ะ อีก 3 วันข้างหน้านี่เธอจะแต่งงานแล้วนา...
เธอในชุดเจ้าสาวน่ะสวยมากๆเลย มิมิ กับ โคเว็ท เองก็จะมาร่วมงาน ด้วย
ฉันเองก็ อยากให้เธอกับ เฟนท์ ได้มารด้วยจริงๆมันคงดีไม่น้อยเลย เนอะ....
.................................................
Send
………..
Yes
…………………………
การบันทึกข้อความสมบูรณ์
…………………..
“ ซาน สายแล้วนาคณะลูกขุนเค้ามากันแล้ว ไม่รีบเดี๋ยวก็ไปไม่ทันหรอก ”
เสียงของ เอมิล ดังมาก่อนที่ ซานจะรีบ ปิด มือถือของตน แล้วรีบวิ่งตามไปสมทบ
“ แหมแล้ว เธอ เป็น ตุลาการยังอยู่ตรงนี้ ถึงฉันไปก็เปิดศาลไมม่ได้หรอกน่า ”
ซาน เถียงกลับขณะที่ พวกเค้า รีบวิ่งกันไปยัง อาคารศาลยุติธรรมแห่งเมอริเซีย
ในขณธที่ เหนือน่านฟ้านั้น มีประกายแสงบางอย่างที่พุ่งผ่านหายลับไป
..............
เรกกะ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยเข้าใจเลยว่าเธอคิดอะไร ทำอะไร มาตอนนี้ฉันถึงได้เข้าใจ
ในความหมายที่เธอพูดแล้วล่ะ บางทีทุกสิ่งอาจไม่เปลี่ยนแปลง หากไม่กล้าที่จะก้าวออกไป
ตอนนี้ถึงตาฉันที่จะก้าวออกไปบ้างแล้วล่ะ การเจรจาเพื่อเชื่อมพันธไมตรีกับ เมอริเซีย ที่บูรณะขึ้นใหม่
ฉันเองยังกังวลนิดหน่อยตอนที่ได้พบกับ ท่านมหาราชินี เซน่า ไฮเดย์ แต่ว่า ท่าน ใจดีมากเลย
ดูแล้วสมภูมิกับความเป็น มหารานี ของ เมอริเซีย เลยนะว่าไหม
.............
สนามบินท่าอากาศยานหลัก โลกอส
“ เป็นอะไรไปน่ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะ มาเรีย..กำลังคิดถึงใครอยู่เหรอ ”
เสียงขอ ลูเทเซีย ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้เธอ สะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะหันกลับไป
ยิ้มให้พี่ชายเธอ
“ นิดหน่อยน่ะค่ะ..แหะๆ..อ..อ้าว ”
มาเรียลูส แก้ตัวด้วยความเขอะเขิน ก่อนจะอุทานเมื่อเห็น สุซาคุ กับ เฟรเซีย กำลัง
จดๆจ้องๆ กันด้วยการชายตา ทว่าใบหน้าที่แดงรเรื่อ ของพวกเค้าทั้งก็บ่งบอกอยู่เป็นนัย
“ นี่แล้ว สุซาคุ กับ เฟรเซีย น่ะเมื่อไหร่จะได้ำตอบกันซักทีล่ะ แบบนี้มันอึดอัดคนดูนะรู้ไหม ”
มาเรีย ลูส กล่าวหยอกใส่ ทำเอาทั้งสอง เลิกลั่กรีบแก้ตัวกันเป็นการใหญ่
“ ค..คำตอบอะไรกัน ครับ/คะ ”
ทั้งคู่รีบออกปากขึ้นแทบจะพร้อมกัน ก่อนจะหยุดกึกหันมามองหน้ากันซักพักแต่ก็กลั้นความ
ตื่นเต้นไม่ไหวจน ต้องหันหน้าแยกกันอีกรอบ ทำ เอาคู่พพี่น้อง อดที่จะหัวเราะไม่ได้
เลยยิ่งทำให้ ทั้งสองหน้าแดงขึ้นไปอีก
“ อ้าวนั่น ท่านมหารานี เซน่า เสด็จมาแล้ว เราอย่าให้ท่านรอเลย ”
ลูเทเซีย กล่าวเมื่อเห็น คณะของ เซน่า ที่มาพร้อมกับ Dragoonเฟนท์ ชารี่ ซิกนัม เอลิต้า
หลีเมย่ หลง ผิง ฮายาเตะ และ โครโน่ ซึ่งเป็นคณะทูตของ เมอริเซียในตอนนี้
เซน่า ที่ตอนนี้เธอดูสง่างามในฉลองพระองค์ อันงดงามสมเกรียติ และใบหน้าอันคมคายของเธอที่ทำให้ดูเป็นคนสุขุม
“ เรกกะ โลกที่น้องสร้างขึ้นมานี้ ถึงคราวของพี่บ้างที่จะรักษามันเอาไว้ให้ได้ คอยดูพี่ให้ดีนะ ”
เซน่า คิดขณะที่แหงนเงยหน้ามองขึ้น ฟ้า ซึ่งได้มีประกายแสง บางอย่างพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
.......................
“ ..ไม่รู้ทำไมถึงต้องมาเยี่ยมด้วยน้าไม่ใช่เวลาของเราซักหน่อย ”
เซโร่ ที่เอาแต่บ่นอยู่บน ยาน คอสมิกแสวนซึ่งตอนนี้จอดอยู่บนหน้าผาแห่งหนึ่งในเขตภูเขา คีรีบันดา
ที่บัดนี้คืนความสวยงานทั้งป่าไม้และธารน้ำ ทะเลสาบนีรันด้ากลับมาใสสะอาดดังเดิม
และ ราชอาณาจักร ฟูดินันที่ บูรณะขึ้นใหม่ ไปจนถึง มิราบิลิส ฟีเลเซีย ซาโลม
ลาซาล แอนดิซอง และ เมืองหลักการปกครองใหม่ของ ทวีป เมกกะโทโปลิส ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็น
ตัวแทนการปกครองทวีป เมอริเซีย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น เมื่อ ลอว์เรนซ์ ได้ข้ามกาลเวลากลับมาเพื่อชื่นชม
มันอีกครั้งโดยคราวนี้เค้าพา เจนัส ลากูน่า นีน่า มาด้วย
“ หึ..อนาคตนี่มันก็ไม่เลวไปซะทีเดียวเนอะ ”
เจนัส หันไปกล่าวกับ เรกกะ ขณะที่ เค้ามองยิ้มๆตอบกลับมา
“ หวาอย่า ผลักสิ พี่นีน่า มันสูงนะ ”
“ อ้าว ลากุจัง กลัวความสูงเหรอ ฮิๆ ”
ด้าน นีน่า กับ ลากูน่า ก็กำลังหนอกกันเหมือนพี่น้องเช่นเคย
โดยมี อิจิกิ กับ เรโค่ ยืน ดูอยู่ตรงบันได ยาน ที่ เซโร่ นอนหน้าบึ้งหน้าบูดอยู่
ขณะที่ ลอว์เรนซ์ แหงนหน้ามองท้องฟ้า ก็มีประกายแสงอะไรบางอย่างแบบเดียวกับที่ พุ่งผ่าน ท่าอากาศยานโลกอส บินผ่านไปหายลับไปอย่างรวดเร็ว
...................
นอกเขตชั้นบรรยากาศ ห่างออกไปจาก เทอร่า 92ล้าน กิโลเมตร
ใกล้รัศมี บรรยากาศของ ดวงอาทิตย์ Valhala ได้ลอยเข้ามาใกล้พระอาทิตย์ ไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดก็ถูกความร้อนของดวงอาทิตย์ แผดเผาทำลายไปพร้อมๆกับ God Send ทั้ง12 ชิ้น
เป็นอันคืน ของวิเศษ 12 สิ่งจากพระองค์คืนสู่พระองค์ บัญญัติแห่งการล้างโลก ทั้ง 21 ประการ
ตราบาป 7 ตรา
แตรสวรรค์ 7 คัน
ขันชำระบาป 7 ใบ
บัดนี้ เทอร่า ไม่อาจตกเป็นของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว หากแต่เป็นส่วนหนึ่งที่พระองค์ต้อง
คอยจับตาดูต่อไป เมื่ออำนาจของ พระองค์ ไม่อาจตัดสิน เทอร่า นี้ได้
.............................
ประกายแสงที่พุ่งแหวกท้องนภา ไปทั่ว ผืนแผ่นดิน ที่เกิดใหม่นี้ ได้คอยจับตาดูความเป็นไปของ เทอร่า
ที่เกิดขึ้นใหหม่ นั้นคือ ยาน รูปร่างมังกรจักรกลเทียม ไซเบอริก้าดราก้อน
“ นี่ มาธิอัส ”
“ อะไรอีกล่ะ ถ้าจะกิน แอปเปิลล่ะก็ปอกเองสิ ชั้นขับยานอยู่ไม่เห็นรึไง ”
“ เปล่าไม่ใช่เรื่องนั้น..แค่จะถามดูน่ะ...ไอ้การใช้ชีวิตเนี่ย มันต้องทำยังไบ้างพอจะรู้ไหม ”
“ อะไรเล่าเรื่องแบบนี้เธอยังต้องมาถามอีกเหรอ ”
“ ก็แหมที่แล้วมาฉันไม่เคยสนนี่นา
ว่าเวลามันจะผ่านไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่น่ะสิ อุ้ย ”
“ อ้าวเป็นอะไรอีกล่ะ ”
“ แค่มีดบาดน่ะ ”
“ ไม่ได้นะ R2 เอ้านี่ พลาสเตอร์ยา ปิดปากแผลไว้ก่อนสิ ”
“ ปล่อยไว้เดี๋ยวมันก็หายเองล่ะน่า ”
“ ไม่ได้นะ เธอไม่ได้เป็น อมตะแล้วนะอย่าลืมสิ มานี่มาทำแผลก่อน ”
“ หึๆ..ให้ตายสินายเนี่ยน้า อันไหนเป็นหน้ากาก อันไหนเป็นหน้าจริง
ฉันชักจะสับสนกับนายแล้วนะ ....เรกกะ.... ”
........................................................................
เพราะไม่อาจสมดังปรารถนาได้ทั้งหมด มนุษย์จึงต้องขวนขวายอนาคต
นั่นคือคำตอบที่ เวลา ไม่อาจหยุดเดินลงได้
........................................................................
Legend Thaliwilya of Arimathea จบบริบูรณ์
.........................................................................
Next Chapter
ผม Daisuke Niwa อายุ 14 ปี ในวันครบรอบวันเกิดของผม ก็อกหักจาการถูกปฏิเสธรักแรก
โลกที่เหมือนจะแตกดับสลายไปเลยในขณะนั้น กลับมีเรื่องวุ่นมายุ่งให้ป่วนซะอีก อะไรน่ะเหรอไม่อยากจะพูดถึงมันเล้ย...
และแล้วก็จบกันไปแล้วกับ อีกบทนึงของ ตำนานที่ไม่นึกว่าจะลงเอยแบบนี้
สุดท้ายพอได้ดูตอนนี้ทุกคนคงพอจะเข้าใจแล้วสินะ ว่า เรกกะ ทำทั้งหมดไป
เพื่ออะไร ที่จริงฉากซึ้งที่สุดน่าจะเป็นตอน เรกกะ บอกลา พี่สาวตัวเองตอนรับ
อามาเกดดอน มานั่นล่ะครับ หมดทิชชู่ไปหลาย... แล้วผู้อ่านคิดว่าไงบ้างครับกับฉากนั้น
ที่จริงตอนจบแบบนี้อาจไม่ค่อยดีเท่าไหร่(มั้งนะ) เพราะมันเหมือนกับว่า ทั้ง โลกโดน
เรกกะ ต้มซะเปื่อยเลย (คนอ่านก็โดนเสียน้ำตาไปกี่เม็ดจ้ะ)
การุรุม่อน:~ แล้วตกลง เรกกะ ตายไม่ตายเนี่ย คำพูดที่ ป้าแกพูดมันมีแต่บทพูดอ่ะไม่มีบรรยาย เลยไม่รู้ป้าแก พูดกะมาธิอัส หรือ เรกกะ กันแน่
ปิโยม่อน: นิยายบทนี้สอนให้รู้ว่า เกิดเป็นมนุษย์นั้น ยากหนักหนาขนาดไหน
ไม่เชื่อดูสิ กว่า เรกกะ จะเปลี่ยนจาก อานิม่า มาเป็นมนุษย์ได้ยังแทบตาย
ดังนั้นท่านที่อ่านแล้ว พึงสังวรไว้ก็ดีนะคะ ว่าเป็นคนน่ะดีแล้ว มีเวลาที่จำกัดดีกว่ามี
ไม่มีวันให้หยุดนะ(ฉันพูดอะไรอยู่เนี่ย งง ไปกะเค้า)
ก็นะ เรกะ ตายไม่ตายแล้วแต่ ท่านผู้อ่านจะคิดจะวิเคราะห์ เน้อส่วน ภาคสามรอต่อไป ไม่รู้จาเสดวันไหน
เหนื่อยกะซีรี่ย์นี้จริงๆ หลั่งน้ำตาตัวเองเป็นว่าเล่น ตาแห้งมา 3 วันแล้วเนี่ย
.......................
Thank for ....
Story by Greamon
Art & Graphic by Cocka-C(Garurumon),War Garurumon ,ginn(Tentomon)
Check Word & Web Server by Piyomon
Card picture by Database Phenomenon,SED4Musician By
Zero
............................