“ แต่ที่ไม่เข้าใจเลย ทำไมคนอื่นออกเยอะแยะ ต้องเป็นชั้นด้วยก็ไม่รู้ ”
เฟนท์ ยังคงบ่นอย่างไม่พอใจ ที่ต้องไปทำอะไรที่ตัวเองไม่ถนัด เพราะเค้านั้นไม่ชอบ ความรุนแรงเป็นที่สุด
(แกเป็น Valkyrier ได้ไงหว้า ฆ่าคนไปกี่หมื่นแล้วน่ะห๊า)
“ เอ่อ ชั้นว่าคงเพราะ ไอ้นี่ล่ะมั้ง ”
ก่อนจะ ควัก เอา เศษกระดาษ จากกระเป๋ากางเกง ขึ้นมา คลี่ออกบนโต๊ะ ซึ่งมันเป็นใบปลิว
ที่เขียนรายละเอียด ของการแข่งประลองยุทธ ที่ชมรม ศิลปะการต่อสู้ จะจัดขึ้นในงานโรงเรียน
ซึ่ง เฟนท์ ทันทีที่ อ่าน รายละเอียด ภายใน ใบปลิว ที่เรกกะ เก็บมา ก็ถึงกับเข่าทรุด
“ ผู้เข้าแข่งขันทุกคน เป็นชายหน้าตาดี พร้อมจะมาประชันกันบนสังเวียน เชิญสาวๆทั้งหลายมากันให้ได้นะ ”
เรกกะ อ่านรายละเอียด ที่บรรทัดล่างสุด ซึ่งพิมพ์ ไว้เล็กๆ
“ บางทีนายก็ดูเอ๋อเกินกว่าหน้าตานะเนี่ย เฟนท์ ”
เรกกะ กล่าวพลางตีสีหน้า เอือมๆ ขณะที่เฟนท์ น้ำตาไหลพราก เป็นสาย ก่อนจะวิ่ง ออกจากห้องไป
“ เจ้า ไรด์ บ้า ออกมาเดี๋ยวนี้น้า ”
เสียงตะโกนเรียกของ เฟนท์ ดังแว่ว มาเรื่อยๆก่อนจะเงียบไป
“ เฮ้อ เอวัง…ขอให้ไปดีนะ เฟนท์…ต่อไปก็ชมรมเราจะจัดงานไรดีเนี่ย เฟนท์ ก็คงอยู่ช่วยงานไม่ได้แล้ว.... ”
เรกกะ บ่นไปพลางเดินคิดไปเรื่อยๆหลังจากที่ ลุกจาก เก้าอี้ เพื่อออกจากห้องย้ายไปหาที่คิดเงียบๆ
ก่อนจะต้องชะงักไป เม ื่อเห็น ใครบางคนที่ไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่
“ หมอนั่น…คุณพ่อ เอ๊ย..ลอว์เรนซ์ นี่…ตายล่ะหว่า แล้วมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ”
เรกกะ อุทานในใจ ทันทีที่เห็น ลอว์เรนซ์ เดินลอยชาย อยู่แถวลานพักผ่อน ของ โรงเรียน
“ ห๊ะ..เจ้าเบื้อกนั่น มันอยู่นี่เรอะ ดีเลยเราไปอัดมันเลยดีกว่าม้าง เรกกะ ปล่อยไว้ก็ไม่รู้จะมาทำอะไร
รึเปล่า เดี๋ยวชั้นจัดการเอง ”
เสียงของ ทาลิคนัส ดังขึ้นในหัว
“ ไม่ได้นะ ทาลิคนัส นายเงียบไปเหอะ เดี๋ยวชั้นจัดการเอง ”
เรกกะ ตะคอกกับตัวเอง ก่อนจะ รีบเดินลงบันได ไปที่ลาน เพื่อไปหยุดลอว์เรนซ์
………………
“ เอ๋ ทำข้าวกล่องเหรอ ”
ไอ เปรยเสียงเรียบด้วยความสงสัย ขณะที่นั่งอยู่กับ โคเว็ท และ มิมิ บนโต๊ะหินอ่อน ในลานพักผ่อน
“ ใช่แล้ว งานโรงเรียนคราวนี้ ไอ เธอจะต้องทำข้าวกล่องให้ เฟนท์ เพื่อมัดใจเค้า ขอเรียกแผนนี้ว่าปฏิบัติการ
ข้าวกล่องคว้าหัวใจ เจ้าค่า ”
มิมิ กล่าวเสียงระรื่น
“ ท..ทำข้าวกล่องเหรอ ”
ไอ ตอบเสียงตะกุกตะกัก ด้วยความไม่แน่ใจ กับแผนของเพื่อสาวร่างท้วมของเธอ
“ ใช่แล้วล่ะ ฉันศึกษามาแล้ว การทำข้าวกล่องให้ผู้ชายที่เราชอบเป็นการแสดง
ถึงความเป็นแม่ศรีเรือนให้ อีกฝ่ายเห็นและจะทำให้เค้าเกิดความไว้วางใจ
ในตัวเราได้ด้วย รับรองชัวร์ไม่มั่วนิ่มเพราะ
ฉันศึกษามาจาก การ์ตูนที่พึ่งดูจบไปสดๆเมื่อวานนี้เอง ”
มิมิ กล่าวจบ ก็ทำเอา สองสาวตีหน้าเซง ไปตามๆกัน
“ ทำเป็นพูดไป แล้วใครจะสอน ไอ ทำได้ยะ ก็รู้อยู่ว่า ไอ น่ะนอก
จากของหวานแล้ว ทำอะไรไม่เป็นเลย ”
โคเว็ท แย้งขึ้น ทำเอา มิมิ นิ่งไปด้วยเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
“ มิมิ นี่ถ้าเป็นเรื่องกินเนี่ย ไม่เคยปล่อยให้พ้นเลยนะ..ฮิๆ ”
ไอ กล่าวพลางหัวเราะขบขัน ไปพลาง ทำเอา มิมิ ถึงกับเขินอายไป
“ สาวน้อยที่กำลังมีความรัก งั้นหรือ…ถ้าคิดจะทำอาหารเพื่อไปสารภาพความในใจ นั้นเป็นนับวิธี
ที่ถูกต้องตามตำราเลยทีเดียว(เล่มไหนหว่า) ”
เสียงดังขึ้นด้านหลังกลุ่มของพวกเธอ ก่อนจะหันควับไปพร้อมกัน
“ นายเป็นใครเนี่ย ”
โคเว็ท ถามพลางกัน ไอ ให้ห่างออกจากเจ้าของเสียง
“ มาแอบฟังผู้หญิงคุยกันได้ไงยะ ไม่มีมารยาทเลย ”
มิมิ ด่าสวนกลับไป แต่อีกฝ่ายซึ่งก็คือ ลอว์เรนซ์ นั้นกลับหมุนตัว สะบัดไม้สะบัดมือ
โดยไม่ฟัง คำพูของ ทั้งสองแม้แต่น้อย
“ ใครงั้นเหรอ...ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยชั้นน่ะ เรื่องทำอาหาร ไม่เป็นรองใครเลย ”
ลอว์เรนซ์ กล่าวหลังจากที่ หมุนตัวแสดงลีลา ประหลาดๆ จบ
“ หา..จริงอ่ะงั้นนายก็สอนให้ ไอ ทำอาหารได้สิ ”
มิมิ กล่าวเสียงทุ้ม
“ มิมิ ..หมอนี่เป็นใคร เรายังไม่รู้จักเลยนะ จะให้ ไอ ไปเรียนด้วยได้ไง แถมเป็นพวกต้มตุ๋นรึเปล่าก็ไม่รู้ นักเรียนของ ที่นี่ก็ไม่ใช่ซักหน่อย เข้ามาได้ไงน่ะนาย ”
โคเว็ท แย้ง มิมิ ไว้ก่อนจะหันไป สวน ใส่ ลอว์เรนซ์ ทว่าก่อนที่ ลอว์เรนซ์ จะได้ทันตอบอะไร
เรกกะ ก็วิ่งเข้ามารวบตัวเค้า ทันที จนล้มลงไปทั้งคู่
“ นี่นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ”
เรกกะ กล่าวพลางรวบไว้ ไม่ให้ ลอว์เรน์ ดิ้นหนีหลุดไป เนื่องจากคราวก่อน
หลังจาก จัดการเรื่องต่างๆเสร็จ ยังไม่ทันที่ เรกกะ จะได้ถามถึงเรื่องราวจาก ลอว์เรนซ์
เค้าก็รีบชิ่งหนีหายไปซะก่อน ครั้งนี้ทำให้เค้าตัดสินใจรวบตัวไว้ทันที เพื่อไม่ให้หนีไปง่ายๆ
ต่อหน้าสามสาวที่มองดูทั้งสองด้วยความงุนงง
“ แล้วนี่นาย จะมา กดตัวชั้นไว้ทำไมเนี่ย ปล่อยนะ ”
ลอว์เรนซ์ ตะคอก พลางดิ้นไปมาเพื่อสลัดให้หลุดจาก เรกกะ
“ เอ่อ นี่เธอสองคนรู้จักกันเหรอ ”
โคเว็ท กล่าวถามด้วยความสงสัย ขณะที่ ทั้งสองยะงคงคลุกกันไปคลุกกันมาอยู่บนพื้น
“ อ๋อ หมอนี่น่ะ… ”
เรกกะ กล่าวยังไม่ทันจบ ลอว์เรนซ์ ก็สลัดหลุดจากตัวเค้าได้สำเร็จพลาง ลุกหนีทันที
ขณะที่ เรกกะ รีบลุกตามจะไปสกัดไว้ไม่ให้หนี แต่ ลอว์เรนซ์ ก็วิ่งไปซะแล้ว
แต่ไม่ทันไร มิมิ กลับเข้าไปรวบตัว ลอว์เรนซ์ ไว้หน้าตาเฉย สร้างความงุนงงให้
กับทั้งสองฝ่าย
“ นี่นายทำอาหารเป็นใช่มะ งั้นช่วยสอนเพื่อชันหน่อยสิ ”
มิมิ กล่าวจบก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ลากตัว ลอว์เรนซ์ มาโดยไม่สนแรงฝืนของ อีกฝ่ายเลย
“ มิมิ ก็บอกแล้วไง.. ”
โคเว็ท กล่าวย้ำแต่ ว่า มิมิ ก็ยกมือขึ้นปรามไว้ก่อน
“ ก็เธอบอกเองนี่ โคเว็ท ว่าไม่ไว้ใจเค้าเพราะเป็นคนแปลกหน้า แต่นี่เค้าเป็นคนรู้จักของ
เรกกะ นี่เนอะงั้นก็ไม่ใชคนที่ไม่น่าไว้ใจ จริงไหม เรกกะ ”
มิมิ กล่าวรวบรัดตัดความพลางบีบแขน ของ ลอว์เรนซ์ ที่ขัดขืนซะจน ลอว์เรนซ์ ต้องยอมแพ้กับแรงช้างสาร
ของเธอไป ทำเอา เรกกะ สะดุ้งจนต้องพยักหน้าตอบไปแบบ ไม่กล้าปฏิเสธ
“ เอาเถอะ ถ้า เรกกะ ว่าอย่างนั้น งั้นให้เค้าเป็นอาจารย์สอนให้ ไอ ก็ได้งั้นพรุ่งนี้เย็นมาเจอกันที่นี่อีกทีนะ ”
โคเว็ท ยอมแพ้ในที่สุดแต่ก็เห็นดีด้วยที่จะให้ ลอว์เรนซ์ เป็นคนมาสอน เพราะนอกจากเค้าพวกเธอก็ไม่รู้จะไป
ขอให้ใครมาสอน ในช่วง งานโรงเรียน นี้ได้อยู่แล้ว เมื่อตกลงกัน ได้สามสาว ก็ขอตัวแยกกลับไปก่อน ทิ้ง ให้ ลอว์เรนซ์ กับ เรกกะ อยู่กันตามลำพัง
“ นี่..ว่าจะถามตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ พวกมังกรที่ นายผนึกมันลงในไพ่น่ะ มันมาจากไหนเหรอ แล้วส่ง
พวกมันไปที่ไหน แล้วยัง ยานบินยักษ์นั่นอีก..ถ้ายังไงจะช่วยตอบคำถามพวกนี้ทีได้ไหม ”
เรกกะ หันไปขอร้องทันที เมื่อเห็นว่า ลับตาผู้คนแล้ว เพราะนักเรียน คนอื่นๆก็ไปทำ กิจกรรม
ชมรมเตรียมงานโรงเรียนกันหมด
“ เรื่องพวกนั้นน่ะเหรอ…นี่นายลงทุนตะครุบ ตัวชั้นจนลงไปกลิ้งขนาดนี้เพื่อที่จะถามเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ ”
ลอว์เรนซ์ ถามพลางตีหน้าเบ้ ใส่ด้วยความแปลกใจ ซึ่ง เรกกะ ก็พยักหน้ารับว่าใช่
“ เฮ้อ…นายเนี่ยน้า…เอาเถอะเรื่องนั้นจะตอบคำถามให้ก็ได้ ”
ลอว์เรนซ์ กล่าวพลางถอนหายใจ อย่างรับไม่ได้
“ ชั้นน่ะมาจากอดีต เมื่อสองร้อยปีก่อน ด้วยยาน คอสมิก แสวน (Cosmic Swan) เพราะตัวชั้นในอนาคตขอร้องมา
ให้ช่วยปลดปล่อย เมอริเซีย และจัดการกับหายนะ ที่กำลังจะมาถึง ”
ลอว์เรนซ์ กล่าวตอบไปพลางนวดข้อมือข้างที่ถูก มิมิ บีบเพื่อบรรเทาอาการปวด
“ ปลดปล่อยเมอริเซีย…แล้วก็จัดการกับหายนะ…หายนะอะไร และปลดปล่อยอะไร
แล้วก็คนที่ส่งนายมาน่ะหรือว่าจะเป็น… ”
เรกกะ ยิงคำถามใส่ไม่หยุด ทว่ายังไม่ทันที่ ลอว์เรนซ์ จะได้ตอบ ก็เกิดแรงสะเทือน ขึ้นก่อนที่พื้นที่พวกเค้ายืนอยู่จะถล่มลงไป แต่ ลอว์เรนซ์ กระโจนตัวทันพร้อมกับ พา เรกกะ ออกมาจากตรงนั้น
“ นี่มัน อะไรกัน ”
ลอว์เรนซ์ สบถ ขณะที่ แผ่นดินยังคงสะเทือนอยู่เนือง ไม่นาน พื้นดินก็ถล่มลงเป็นจุดๆ จนเกิดหลุม
ขึ้นทั่ว ลานก่อนที่ นักรบมารในชุดเกราะเหล็กจะ โผล่ขึ้นมาจาก หลุมนับสิบทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“ ป…ปีศาจ ”
เรกกะ ร้องผวาด้วยความตกใจ กับสิ่งที่เห็น พวกเค้าถูก้อมรอบไปด้วย กองทัพ นักรบมาร
นับสิบที่โผล่มาจากใต้ดิน ซึ่งพวกมันนั้นเองที่เป็นต้นเหตุแห่งความสะเทือน ของแผ่นดินเมื่อครู่
“ ชิ โผล่กันมาจากไหนล่ะเนี่ย ”
ลอว์เรนซ์ สบถ พลางมองไปรอบๆเพื่อสังเกตท่าทีของพวกมัน
“ ต้องรีบแปลงร่างแล้ว ช่วยหน่อยนะ ทาลิค… อ๋อย ”
เรกกะ กล่าวได้ไม่ทันจะขาดคำ อยู่ๆก็ฟุบไปเอาเสียดื้อๆ
“ อ้าวเฮ้ย เป็นไรไปน่ะ ตื่นสิ ตื่น เฮ้ย ตอนนี้มีนายคนเดียวที่แปลงร่างได้นะ ตื่นเร็วสิ ”
ลอว์เรนซ์ กล่าวพร้อมกับพลิกตัว เรกกะ ขึ้นมาเขย่าให้ตื่นแต่ก็ไม่ได้ผล
“ ตายล่ะหว่า ทำไงดี…เอาก็เอาเป็นไงเป็นกัน อย่ามาถือโทษโกรธกันเลยนะ ”
ลอว์เรนซ์ กล่าวจบก็ตบมือลงที่ใบหน้าของ เรกกะ เต็มๆแรงเสีย หนึ่งฉาดเข้าให้
แต่ เรกกะ ก็ยังคงไม่ฟื้นอยู่ดี
“ หมอนี่ ดันขี้เซาซะอีก ทำไงดีล่ะเนี่ย ยูปี้ ก็ไม่อยู๋แถวนี้ซะด้วย ”
ลอว์เรนซ์ สบถตอนนี้สถานการณ์ เข้าขั้นวิกฤติ เต็มที่ เพราะ นักรบมาร ได้ขึ้นจากหลุมและบุกเข้ามารุมกินโต๊ะ
กันเรื่อยๆแล้ว
“ Charge Rider Water Blade ”
เสียงทุ้มกังวานดังขึ้นมาก่อนที่ นักรบมังกรหญิงเฟินร์กอลโลเอี่ยนแห่งราชวงศ์ จะกระโดดลงมากลางวงพร้อมกับ
ตวัด ดาบปลายคู่ในมือ ซึ่งที่คมดาบนั้น ถูกห่อหุ้ม ไว้ด้วยน้ำ เมื่อควงตวัดไป ก็ทำให้เกิดคลื่น
น้ำพุ่งออกไป ผ่าร่างของ เหล่านักรบมารจน หมดสิ้นในที่สุด
“ นี่เธอ… ”
ลอว์เรนซ์ ถามได้ไม่ทันจะขาดคำ นักรบหญิง ก็ปลดเข็มขัดติดกลไกออก ก่อนที่มันจะสลายไป พร้อมกับที่
นักรบหญิง ได้กลับคืนร่างเป็น ไอ ล้มหมดสติลง ทำเอา ลอว์เรนซ์ ทั้งอึ้ง และสับสนกันไปเลยทีเดียว
“ เด็กคนนี้ ที่อยู่กับสามสาวนั่นนี่ แล้วทำไม… ”
ลอว์เรนซ์ เองก็ถึงกับพูดไม่ออก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ ลอว์เรนซ์.. ”
เสียงหนึ่งดังก้องมาแต่ไกล ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น ยูปี้ มังกรภูตของ ลอว์เรนซ์ นั่นเอง
ที่ตะโกนเรียกชื่อเค้าพร้อมกับบิน เข้ามาหา
“ ทำไมถึงได้มาช้านักล่ะ ”
ลอว์เรนซ์ ตะคอกด้วยความไม่พอใจ
“ ขอโทษด้วยนะ เที่ยวเพลินไปหน่อย เลยกว่าจะ หาทางมาพบ ลอว์เรน์ ได้ก็เล่นเอานานเลยล่ะ ”
ยูปี้ กล่าวขอโทษ พลางก้มหัวแสดงความสำนึก
“ ช่างเถอะ ยังไงตอนนี้ช่วยกันแบบ ตัวสองคนนี้ ไปที่ปลอดภัยก่อนเถอะ ”
ลอว์เรนซ์ กล่าวจบก็ หามร่างไร้สติของ เรกกะ ขึ้นและพาเดินไปโดย มี ยูปี้
ใช้พลังของ ภูตมังกร เข้าช่วย เสกให้ ร่างของ ไอ ลอย ตามมาได้
พวกเค้าจึงพากันไปนั่งพัก ที่ม้านั่งใกล้ๆ
………………
……………………..
“ ไรด์ ไปไหนกันล่ะเนี่ย ยิ่งเวลาแบบนี้ด้วย ”
เฟนท์ ที่ยังคงตามหา ไรด์ เพื่อที่จะเฉ่งเรื่องมาหลอกให้ ตัวเขาไปช่วยงานชมรม
“ หาใครอยู่น่ะ...แล้วนี่นายลืม ที่ชั้นนัดไว้แล้วรึไง ”
เสียงดังขึ้นจากด้านหลังทำเอา เฟนท์ สะดุ้งหันควับกลับด้วยความตกใจ ก่อนจะ
ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อรู้ว่าเป็น เอมิล และก็นึกขึ้นได้ว่า เอมิล นัดเขาไว้ เมื่อเช้า
“ โทษที ลืมซะสนิท เลย ”
เฟนท์ กล่าวขอโทษ พลางตีหน้าซื่อๆ
“ เฮ้อเอา เถอะเข้าเรื่องเลยละกัน ”
เอมิล ถอนหายใจด้วยความหน่ายเหนื่อย ก่อนจะปรับ อารมณ์ ให้จริงจังขึ้น
ทำเอา เฟนท์ เองพลอยสงสัยไปด้วยว่าเรื่องที่ เอมิล จะพูดกับเค้าคืออะไร (คงไม่ใช่สารภาพรักหรอกนะ - -)
“ ชั้นขอถามนายตรงๆไม่อ้อมค้อมเลยละกันนะ...นาย กับ ไอ โอดิลอน(Ai, The Successor of Lemuria)
มีความสัมพันธุ์ แบบไหนอยู่กันแน่ ”
เอมิล ถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งคำถามของเค้าก็ทำเอา เฟนท์ อึ้งไปซักพัก
“ หมายถึง ไอ น่ะเหรอ..ชั้นกับเค้าเราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นเอง ”
เฟนท์ ตอบเสียงเรียบ พลางตีหน้าซื่อๆ
“ แน่ใจนะ..ว่าแค่นั้นน่ะ ”
เอมิล ย้ำถามอีกครั้ง ซึ่ง เฟนท์ ก็พยักหน้าตอบกลับ เมื่อเหน็ดังนั้น เอมิล จึงตัดสินใจบางอย่าง
“ งั้นก็ดีแล้ว ..แต่ขอเตือนอะไรไว้อย่างหนึ่ง นายอย่ามีความสัมพันธ์ เกินเลยกับเธอไปมากกว่านี้เลยนะ ”
เอมิล กล่าว พลางเดินเข้าไป คว้า เอา Terminal Crisis ของ เฟนท์ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของ เฟนท์
“ อย่าลืมซะล่ะ นายน่ะเป็น Valkyrier เป็นผู้ที่เลือกจะเสียสละตนเองให้กับ เทอร่า
นี้แล้ว จากนี้ไปนายจะต้องทำให้คนอีกหลายคนต้องเสียใจแน่
เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อเธอแล้ว ก็อย่าให้เธอต้องมา
เสี่ยงด้วยเลย เพราะฐานะของ นายในตอนนี้ไม่อาจเลือกทางเดินภายใต้แสงสว่างได้หรอก .... ”
เอมิล กล่าวพลางยื่น Crisis Terminal คืนให้กับ เฟนท์ ก่อนจะเดินจากไป โดยไม่หันกลับมามอง
ทิ้งให้ เฟนท์ ครุ่นคิดกับคำพูดของเค้าตามลำพัง
...................
.......................
สภาความมั่นคง สูงสุดแห่งนิคโคอุ() ประเทศนิคโคอุ
ภายในห้องรับรองซึ่งปูด้วยเสื่อผืนใหญ่ มีเบาะรองนั่ง 7 เบาะด้วยกันและมีผู้นำ 7 ตระกูลใหญ่ แห่งนิคโคอุ
นั่งกันอยู่พร้อมเพรียง โดยที่ ข้างหน้า เหล่าผู้นำทั้ง 7 นั้น เป็นเด็กสาวสวมชุดกิโมโน นางดูเหมือนจะเป็น
ผู้มีศักดิ์สูงที่สุดในบรรดา ผู้ที่เข้าประชุมในห้อง เพราะนาง นั่งที่เบาะ ซึ่งอยู่ข้างหน้าเหล่าผู้นำทั้ง 7
“ ท่านหญิง คางุยะ (Kanguyai) การมอบ Rider System ที่เสร็จสมบรูณ์แล้ว ให้กับเธอคนนั้นมันจะดีหรือขอรับ ”
ชายแก่คน ใน 7 ตระกูล ใหญ่ กล่าวถามเธอ
“ แน่นอนค่ะ ท่าน รินกุมาอิ(Ringumai) ดิฉันคิดว่า ไอ จะต้องทำสำเร็จแน่ เธอจะจัดการ เหล่า อาคูม่า ทั้งหมดได้แน่ ”
คางุยะ ตอบด้วยท่าทีสงบ
“ แล้วตอนนี้ การประชุม สากล ที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ เรื่องความร่วมมือในการจัดการกับ Empyrean Adjust ล่ะ ทางเราจะทำเช่นไรดีคะ ”
หญิงวัยกลางคน ที่เป็น หนึ่งในผู้นำ 7 ตระกูลใหญ่ ก็แย้งถามขึ้นมาอีกเรื่อง
“ ไม่ต้องห่วงค่ะ ตอนนี้คุณ อุชิมารุ(Ushimaru) กำลังติดต่อไปทาง บริทเทเนอร์ โดยสิทธิ์ ในการตัดสินใจ
อยู่ที่ท่านพี่ เซโร่ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ ดิฉันคงไม่สามารถให้คำตอบได้ ”
คางุยะ ตอบคำถามของนางจบ เธอก็ลุกขึ้นเดิน ออกจากที่ประชุมไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทาน จากบรรดา ผู้นำตระกูลทั้งหมด
“ ท่านพี่ เซโร่ มัวไปทำอะไรอยู่ที่ บริทเทเนอร์นะ แถม Rider System ก็ยังเอาไปให้ ไอ ใช้อีก
ถึงจะบอกว่าให้ เรโค่ ใช้ Genesis ให้เธอจัดการกับ อาคูม่า ตามคำสั่งแล้วก็เถอะ ”
คางุยะ คิดขณะที่เดินไปตามระเบียงที่มืด สลัว
...............
.......................
“ ที่นี่มัน.... ”
เรกกะ เปรยขณะที่ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆเพื่อปรับแสง
ก่อนจะลุกพรวด ขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับ มองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบใครเลย
“ หาใครอยู่เหรอ ถ้าเป็น ยัยหนูนั่น กับ เจ้าเบื๊อกตัวปลอมล่ะก็ กลับกันไปแล้วล่ะ ”
เสียงของ ทาลิคนัส ดังก้องขึ้นมา ก่อนที่ เรกกะ จะเอามือ กดบริเวญ กระหม่อม
เพื่อระงับความปวด เค้าพยายามจะนึกให้ออกว่าเกิดอะไรขึ้น
“ ว่าแต่นี่มันอะไรกัน ความรู้สึกเมื่อกี้..มัน...อุบ ”
เรกกะ เปรยเงียบๆก่อนจะ ต้องย้ายมือมาปิดปากด้วยความสำลัก ไม่นานในหัวก็มีภาพหลั่งไหล
เข้ามา อย่างรวดเร็ว ทั้งบุคคลที่เค้าไม่รู้จัก ภาพสถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นสีแดงไปหมด
ทุกอย่างได้ผ่านเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ เค้าจะรู้สึกตัวอีกที ก็กลับจำสิ่งที่เห็นผ่าน
เข้ามาทั้งแทบไม่ได้
“ นั่นมัน..อะไรกัน ”
เรกกะ คิดขณะที่ตัวเค้าล้มทรุดลงไปจากม้านั่ง ด้วยความอ่อนแรงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทั่วทั้งร่าง
“ เฮ้ยเป็นไรไปน่ะ เรกกะ ...เรกกะ ”
เสียงของ ทาลิคนัส ดังขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ ถ้าไม่ไหว ก็เข้ามาพักก่อนก็ได้ ข้าจะออกไปแทนเอง ”
เสียงของ ทาโซรอส ดังขึ้นบ้างพร้อมกับ เสนอที่จะเป็นคน ออกไปคุมร่างในตอนนี้
“ หรือถ้ายังไงจะให้เรา จัดการแทนก็ได้นะ ”
เสียงของ ทาลูคัส ดังขึ้นบ้าง ตอนนี้เสียงของทั้ง สาม บุคลิคนั้นต่างก็ก้องไปหมดในหัวของ เขาจนเริ่มรู้สึกวิงเวียน
ก่อนจะฟุบไปในที่สุด แต่ทว่าไม่ทันไร เค้าก็ลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง และตีสีหน้าเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ เย้..ได้ออกมาข้างนอกแล้ว...จะไปหาพี่สาวล่ะ ”
เรกกะ กล่าวน้ำเสียงไม่เหมือนทุกครั้ง ก่อนจะเดินไปเขย่งกระโดดไป เหมือนเด็กๆ
“ นี่ มาอีกแล้วเหรอ... ”
เสียงของ บุคลิค ทั้งสามดังขึ้นแทบจะพร้อมๆกัน
เมื่อ บุคลิค ที่4 ได้ปรากฏขึ้นในตอนนี้
………………........................
........................................................
วันต่อมา หลังพักเที่ยง ของ St. Mugnus Academy
“ เฮ้อ เพราะเมื่อวาน มีใหม่มาอีกคน เลยทำเอาวุ่นไปกันหมดเลย ดีนะที่ความไม่แตกน่ะ ”
เรกกะ บ่นด้วยสีหน้าหน่ายๆ ขณะที่ เดิน เข้ามายังห้องเรียน
พร้อมกับในมือถือ แฟ้มงาน ซึ่งมีแผนงานของ ชมรมสัตว์เลี้ยง ที่เค้านั่งวางแผนงานมาทั้งคืน จะมาแจ้ง
เพื่อเริ่มงานในวันนี้ ก่อนที่เค้าจะนั่งลงหลังจากวาง ของต่างๆลงบนโต๊ะเรียนของตนเรียบร้อย ก็ต้อง
ชายตาไปมองด้วยความสนใจ เมื่อเห็น เฟนท์ นั่งซึมอยู่คนเดียว
โดยที่วันนี้ไม่เห็น ไอ เข้ามคุยด้วยเหมือนทุกครั้ง
และเมื่อมอง ไปที่โต๊ะของ ไอ ก็ไม่มีใครนั่งอยู่
“ หรือว่าเพราะเรื่องเมื่อวานที่ ทาลิคนัส เล่าให้ฟังรึเปล่านะ หรือว่า ไอ จะเป็นอะไรไป ”
เรกกะ คิดในใจ ก่อนจะล้มตัวลงนั่งกับเก้าอี้
“ อีกอย่าง อัศวินมังกรน้ำคนนั้น คือ ไอ จริงน่ะเหรอ...จะปฏิเสธยังไงก็เถอะ แต่ตอนนั้นเราเองก็เห็นกับตาเลยนี่ ”
เรกกะ คิดพลางนึกย้อนถึงตอนที่ โรงเรียนถูกกลุ่มก่อการร้ายเข้ายึด
“ .....ถ้ายังไงก็อย่าให้เธอต้องเสี่ยง เข้ามาพัวพันกับเรื่องของพวกเราเลยจะดีกว่า....ตัวนายในตอนนี้น่ะ ไม่อาจ
ก้าวเดินไปในแสงสว่างได้หรอกนะ.... ”
คำพูดของ เอมิล นั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของ เฟนท์ ตั้งแต่เมื่อวานเย็น จนถึงตอนนี้เค้าก็ยังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่
เอมิล ต้องการจะสื่อเลย ครั้นจะไปถาม เอมิล ก็กลับลาหยุดในวันนี้ โดยไม่ทราบสาเหตุอีกเช่นกัน
ส่วนไรด์ หลังจากที่เค้าบอก ปฏิเสธ เรื่องไปช่วยงานที่ชมรมของ ไรด์ ไปเมื่อวานแล้ววันนี้
เป็นวันเตรียมงานก่อนถึงวันงาน ชั่วโมงเรียนคาบบ่ายทั้งหมดจึงถูกยกเลิก เพื่อให้นักเรียนได้ เตรียมงานกัน
ไรด์ จึงออกไปจัดการงานชมรม และไม่ได้เข้ามาที่ห้องเรียนเลย รวม ไปถึงพี่สาวของเค้า ซาน เอง
ก็ง่วนอยู่กับงานชมรมจนไม่ได้กลับมาที่บ้านแต่ค้างคืน ที่ห้องชมรมเลย ทำให้ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากนั้น เค้าก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย เช่นกันกับตอนนี้ ที่ในห้องนั้น ไม่มีนักเรียนอยู่ในห้อง นอกจาก เค้ากับ เรกกะ เท่านั้น
“ นี่ เฟนท์ นายไปบอกเลิกงานช่วยชมรมของ ไรด์ หรือยัง.... ”
เรกกะ เข้ามาถาม เฟนท์ ทว่าคำพูดของ เค้านั้น ทำให้
เฟนท์ ชะงักไปชั่วขณะ
“ บอกเลิก...ถ้า เอมิล ว่าอย่างนั้นล่ะก็ชั้นว่านาย บอกเลิก กับ ไอ ไปซะจะดีกว่า...... ”
จากคำพูดของ เรกกะ ทำให้ เฟนท์ ย้อนนึกถึงบทสนทนาที่เค้าเล่าเรื่องที่ เอมิล พูดกับเขาให้
ไรด์ ฟังหลังจากที่ขอยกเลิกการไปช่วยงานชมรม
“ บอกเลิกงั้นเหรอ..แต่ชั้นยังไม่ได้เป็นอะไรกับเค้าจริงจังเลยนะ ”
“ ก็นั่นล่ะ..ถึงตอนนี้ตัวนายจะไม่ได้คิดจริงจังกับเธอ แต่ไม่ลองคิดดูบ้างเหรอ
ว่า เธอรู้สึกยังไงกับนายบ้างน่ะ ”
บทสนทนาต่างๆนั้นทำให้เค้าต้องมาทบทวนถึงเรื่องที่ เอมิล พูดไป ครั้งแล้วครั้งเล่า
“ เฟนท์ได้ยินรึเปล่า เฟนท์ ”
เรกกะ ยังคงเรียกต่อไป เมื่อเห้นว่า เค้านิ่งไปอยู่นาน
“ ห..โทษที......มีอะไรเหรอ.. ”
เฟนท์ กล่าวตอบด้วยความสะดุ้ง
“ นายไม่สบายรึเปล่าเนี่ย..เอ้อช่างเถอะ มาถามว่านาย ยกเลิกเรื่องที่ไปช่วยงานชมรมของ ไรด์ แล้วใช่ไหม..จะให้ช่วยงานหน่อยน่ะ ”
เรกกะ กล่าวถามพลางวาง แฟ้มงานลงบนโต๊ะ
“ ยกเลิกเรียบร้อยไปแล้วล่ะ ว่าแต่จะให้ช่วยอะไรเหรอ ”
เฟนท์ ถามพร้อมกับ รับเอา แฟ้มงานมาเปิด
“ นายช่วย เอางานพวกนี้ไปแจกแจงให้ ทุกคนที่ชมรมทีนะ รายละเอียดงานชั้นเขียนเอาไว้แล้วล่ะ ฝากจัดการที่เหลือด้วยล่ะ ”
เรกกะ กล่าวพลางชี้นิ้วไปที่กระดาษที่เค้าบันทึกรายละเอียด การทำงานต่างๆไว้หมดแล้ว
ให้ดู
“ ได้สิ ว่าแต่แล้วนายจะไม่ไปคุมงานหน่อยเหรอ ”
เฟนท์ หันไปถามขณะที่ เก็บแฟ้ม เพื่อเตรียมที่จะลงไปที่ห้องชมรม
“ คือชั้นมีธุระที่จะต้องไปทำ ก่อนน่ะเรื่องสำคัญมากๆเลยด้วย..คงจะกลับมาช่วยงานวันนี้ไม่ได้ล่ะ ”
เรกกะ กล่าวจบก็ โบกมือลง พลางก้าวเดินออกจากห้องไป
ทันทีที่ พ้นสายตาของ เฟนท์ แล้ว เค้าก็ควักเอาเศษกระดาษในกระเป๋าเสื้อออกมาคลี่ดู
ซึ่งในนั้นเขียนไว้ว่า
[เรกกะ จาก R2 นะ เรื่องการแทรกแซงทวีปโทร่า ของ Empyrean Adjust ที่ว่าเรื่องนี้มันแปลกๆอยู่ก็เลยออกตามสืบดู ตอนนี้เลยทำให้รู้ว่า กำลังจะมีการจัดประชุมสากล จาากทุกประเทศ มรวมกันเพื่อหาทางรับมือกับ Empyrean Adjust ฉันคิดว่าพวก Valkyrier คงไม่ปล่อยไว้แน่ พวกเราก็เลยล่วงหน้ามาก่อน การกระทำของพวกนั้นเริ่มไม่น่าไว้วางใจแล้ว ถ้ายังไงฉันก็อยากจะให้เธอมาช่วยทางนี้ที เพราะฉันคนเดียวคงรับมือพวกนั้นไม่ไหวแน่ การประชุมจะจัดขึ้นที่สถาทูต โลกอส ในคืนวันพรุ่งนี้]
เนื้อความในจดหมายนั้นถูกเขียนขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา ก่อนจะถูกนำมาส่งให้กับ เรกกะ โดย แมกกี้
“ มิตรภาพมันพังทลายลงได้ง่ายๆแบบนี้เลยงั้นเหรอ… ”
เรกกะ คิดขณะที่ขยำเศษกระดาษในมือแล้วเก็บซุกเข้าไปในกระเป๋าอีกครั้ง
พลางเดินไปพิงกำแพงยืนคิดเรื่องราวต่างๆเพื่อรอ อะไรบางอย่าง ก่อนจะนึกย้อนไปถึง
หลายวันก่อนที่ ข่าวการสูญหายของ ทวีป โทร่า บานปลายขึ้นมา
“ นี่มันหมายความว่ายังไงกัน พวก นั้นบ้าไปแล้วเหรอถึงได้ทำลายทวีป ทำลายชีวิตไปนับแสนชีวิตน่ะ ”
เรกกะ ที่ได้ฟังข่าวที่ออกอากาศ ไปยังทุกประเทศ ได้ขึ้นมา ถก กับ R2 และ มาธิอัส
บนยาน ไซเบอริก้า ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ประดั่งถูกหักหลังก็ไม่ปาน
“ ที่จริง ชั้นก็เองก็ไม่ได้เห็นด้วย กับการใช้กำลังอาวุธ มนการขจัดความขัดแย้งอยู่ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
แต่เพราะนายเองไม่ใช่เหรอที่บอกให้พวกเรา สนับสนุนการกระทำของ เพื่อนนายน่ะ ”
มาธิอัส กล่าวโดยยังคงวุ่นอยู่กับแผงควบคุมและไม่หันมามอง เค้าเลยแม้แต่น้อย