“ ที่เหลือพี่จัดการต่อเอง ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับที่ เด็กสาวผมสีทองอีกคนตกลงมาจากฟ้า ก่อนจะลงมายืนข้างๆเด็กหนุ่ม
ในมือของเธอ มีปืนพกกระบอกสีเทาตัดดำ สองกระบอก เธอสวมชุดซึ่งประกอบด้วยชุดเกราะเพียงบางส่วน
ที่เหลือเป็นเพียงชุด วันพีช สีชมพู ธรรมดาๆเท่านั้น เธอหันปากกระบอกไปยังฝูง มังกร
ในขณะที่ เหล่าแม่ทัพมังกรต่างพากัน หัวเราะด้วยความขบขัน
“ ฮ่าๆๆๆ นี่สาวน้อย เธอคิดจะใช้ไอ้นั่นมาสู้กับ ทัพมังกรอันเกรียงไกรของเราน่ะรึ กลับบ้านไปซะไป๊ ”
“ เป็นเด็กเป็นเล็ก อาวุธไม่ใช่ของเล่นซักหน่อย ฮ่าๆๆ ”
เสียงดูถูกเหยียดหยาม ดังขึ้นไม่หยุด ขณะที่เหล่าแม่ทัพมังกรต่างปักใจเชื่อว่า ชุดเกราะเกล็ดมังกรที่
เป็นเครื่องแบบของตน ไม่มีทางถูกกระสุนปืนธรรมดาเจาะเอาได้ง่ายๆ และมังกรของตนคงจะขยี้หนูน้อย
อย่างเธอได้สบายๆ ทว่า
“ Seraphic Pestol ”
เสียงทุ้มแหลงกังวานขึ้นจากตัวปืนของเธอก่อนที่ จะเกิดมวลแสงล่องลอยขึ้นในอากาศรอบๆตัวเธอนับ ร้อยลูก
และทันทีที่ เธอเหนี่ยวไก มวลแสงเหล่านั้นกลับกลายเป็นกระสุนแสงสีเขียว พุ่งตรงไป ด้วยที่เหล่า
ทัพมังกรนั้นประมาท ในความสามารถของเธอจึงไม่ทัน จะระวัง กระสุนแสง ทั้งร้อยที่ถูกยิงออกมาราวกับพายุ
ได้กวาดล้างทั้ง มังกรและทหารจนราบ พนาสูญ ในพริบตา ทิ้งไว้เพียงซากความเสียหาย
ที่เกินคณานับ กว่าที่ปืนพกสองกระบอก ธรรมดาๆ จะทำได้
“ เสียใจด้วยนะ ที่ปืนของฉันมันไม่ได้ยิงลูกกระสุน แต่มันเป็นประจุ อิออน น่ะ ”
เธอกล่าวเสียงเฉียบขณะที่ลดปืนลง
“ พวกเธอมาช่วยงั้นสินะ ดีล่ะงั้นพวกเราตรงไปยึดทำเนียบเลย ”
ผู้นำฝ่ายปฏิวัติ กล่าวน้ำเสียงฮึกเหิม ทว่าก่อนที่จะได้ทัน เคลื่อนเท้าออกไป กระสุนแสงก็พุ่งระเบิดพื้นตรง
หน้าพวกเขาเสียจนเกิดเป็นหลุม ขนาดใหญ่ ขณะที่เหล่าผู้ปฏิวัติทั้งคณะ ต้องล้มเข่าอ่อนด้วยความหวาดกลัว
“ พวกเราไม่ได้มาช่วยฝ่ายไหนทั้งนั้น แต่เรามาเพื่อขจัดความขัดแย้ง จงสั่งให้หยุดการปฏิวัติ และ
การใช้ความรุนแรงซะ หากฝ่ายไหนทำกระทำการรุนแรงก่อนเราจะไม่ปล่อยไว้ ”
เด็กสาว กล่าวเสียงเฉียบ ก่อนที่ ผู้นำคณะปฏิวัติ จะทันสังเกตว่า ทั้งสองมีหูและหางเยี่ยง สัตว์ป่า
โดยคนน้อง เป็นหมาป่า ส่วนคนพี่ เป็นแมวป่า
“ พ…พวกเธอเป็นใครกัน ”
ผู้นำคณะปฏิวัติกล่าวถาม น้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างหวั่นๆ
ขณะที่สองพี่น้อง เดินหันหลังจากไป
“ พวกเราคือ Valkyrier นักรบเทวทูต แห่ง Empyrean Adjust(ผู้แทนจากฟากฟ้า) สังกัดทีม Celestial Saber(คมดาบเบื้องฟ้าสูง) ”
สองพี่น้องตอบขึ้นพร้อมกัน ขณะที่เดินหายลับเข้าไป ในหมอกควันที่เกิดจากแรงระเบิด ที่ซัดลงพื้นเมื่อครู่
“ Empyrean Adjust งั้นเหรอ…. ”
เสียงสุดท้ายที่หลุดลอยออกมาของผู้นำคณะปฏิวัติดังไล่หลังไป ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว
…………….
ขณะเดียวกัน ที่ สหราชอาณาจักร ซีรา ซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้ารกร้าง ในทวีป เลาดิเชีย
สหราชอาณาจักร ซีรา แห่งนี้ ปกครองอยู่ในระบอบ ศาสนจักร ทว่าเมื่อกว่าร้อยปี ที่แล้ว ได้เกิดเหตุพิพาท จนเกิดการ
แบ่งแยกทางศาสนา ขึ้นเป็นสองฝ่ายและสงครามศาสนา ก็เริ่มขึ้นผู้คนถูกหลอกให้เชื่อในคำสอนที่ผิด และเข้าต่อสู้กัน
ด้วยแรง ศรัทธา ที่มีอย่างล้นเหลือ จึงนำมาซึ่งการนองเลือด อย่างเหี้ยมโหดที่สุดเพราะต่างก็เชื่ออย่างมุ่งมั่นว่า
สิ่งที่ตนทำนั้นถูกแล้ว ควรแล้ว
“ จงสละชีวิต เพื่อพระองค์แล้วจะได้ไปยังสวรรค์ ”
“ จงเป็นแรงพลังแก่พระองค์เพื่อโค่นล้างพวกคนบาปให้สิ้นไป ”
“ เราจะสละชีพเพื่อพระองค์ จะใช้ค้อนเหล็กแห่งแห่งคุณธรรมพิพากษาพวกนอกรีต ”
ด้วยคำสอนจอมปลอม ที่ยั่วยุให้มนุษย์ทำร้ายกันเอง นั้นสงครามจึงดำเนินมาอย่างช้านาน
อยู่หลายปีโดยที่ไม่มีฝ่ายใดยอมซึ่งกันและกัน แม้แต่ เด็กๆเองก็ยังต้องจับอาวุธขึ้นสู้รบเยี่ยงทหารทั่วไป
ต้องสละตนสังเวยเป็นระเบิดพลีชีพเพื่อสังหารศัตรู ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยความสมัครใจของเหล่าเด็กๆที่ถูกหลอก
ใช้ด้วยคำพูดอันสวยหรูของพวกผู้หวังผลประโยชน์ในสงคราม และอำนาจทางการเมือง ทำให้ประชาชนตาดำๆ
ต้องตกเป็นเครื่องมือ เพื่อประโยชน์ส่วนตนของพวกนักการเมือง ที่เห็นแก่ได้
เด็กชายทุกคนเมื่ออยู่ในวัยเรียนรู้ก็จะถูกสอนให้ยึดมั่นในคำสอน และจากนั้นเมื่อพร้อมจะต่อสู้ก็จะถูกฝึกให้เป็นทหาร ซึ่งกองทัพหลักของทั้งสองฝ่ายนั้น แม้แต่เด็กอายุเพียง 10 ปีก็ต้องจับอาวุธขึ้นสู้ อย่างไม่กลัวตายแล้ว
ท่ามกลางการปะทะยังคงมีอย่างต่อเนื่องนั้น โดยบังคับบัญชาของนายทหารชั้นสูง
ที่จะคอยเคี่ยวเข็ญ ให้เหล่านักรบเยาวชน เหล่านี้ ออกไปสู้รบ
“ จงรุกไปข้างหน้าทวงเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ที่พระองค์มอบให้แก่เราคืนมา ”
“ จงทำลายพวกคนบาปเหล่านั้นให้สิ้น ”
เสียงประกาศที่ดังกึกก้องในสนามรบเพื่อปลุกใจเหล่าทหารเยาวชน
ให้สู้อย่างไม่กลัวตายดังอยู่เนืองๆตลอดเวลา
“ Reflexion ”
เสียงทุ้มแหลมกังวานดังขึ้นที่กลางสนามรบก่อนที่จะเกิดกำแพงใสปรากฏขึ้นขั้นกลางสนามรบ
กระสุนและอาวุธที่ทั้งสองฝ่ายยิงเข้าใส่กัน นั้นเมื่อกระทบกับกำแพงก็สะท้อนกลับไปหาฝ่ายตนเอง
ทั้งหมด ทั้งสองฝ่ายต่างหยุดยิง กันเพื่อไม่ให้ทำร้ายกันเอง ท่ามกลางฝุ่น ควันที่ฝุ้งกระจาย นั้นเงาของเด็กหนุ่มสองคน ซึ่ง นั่งอยู่บนกำแพงใส นั้นได้ปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคน
“ เรียกหา พระเจ้าอยู่ใช่ไหม พวกเรานี่แหล่ะ ผู้แทนจากพระองค์ พวกเรานำสารจากพระองค์มามอบแก่พวกเจ้าแล้ว
ในฐานะ Valkyrier แห่ง Empyrean Adjust สังกัดแห่งทีม Celestial Saber และสารจากพระองค์คือจง
หยุดสู้รบกันซะมิฉะนั้น เราจะลงทัณฑ์ พวกเจ้าในนามของพระองค์ ”
เสียงนั้นดังกึกก้อง ไปทั่วเหล่านักรบเยาวชน ต่างพากันทิ้งอาวุธ ลงด้วยเชื่อว่าพวกเขาคือ เทวทูต จากสวรรค์ จริงๆ
จากการได้เห็นถึงอำนาจที่ถูกสำแดงออกมาของพวกเขาทั้งสอง
“ อ..อะไรกันอย่าไปเชื่อที่พวกมันพูด นี่เป็นกล ลวงของพวกคนบาป ”
นายทหารที่ คอยบงการทัพนักรบเยาวชน ของทั้งสองฝ่ายกล่าวขึ้นก่อนจะต้องชะงักไป
เมื่อ มีบุคคลสองคน ถูกโยนลงมายังฝั่งของแต่ละฝ่าย ซึ่งบุคคลเหล่านั้น สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ทั้ง
สนามรบเป็นอันมาก
“ ท..ท่านมหาสังฆราช ซาเอล ที่14 แห่งจักรวรรดิ ลาเดีย ”
“ แล้วก็ท่าน มหาสังฆราช มาเวล ที่13 แห่งจักรวรรดิ มาอิล ”
เสียงของ ทหารแต่ละฝ่ายต่างเรียกชื่อผู้ปกครองจักรวรรดิ ของตนด้วยความตกตะลึงเมื่อ
ผู้ปกครองจักรวรรดิ ของตน ได้มาอยู่กลางสนามรบ
“ เอ้าจะยิงก็ยิงมาเลย แต่สองคนนี้โดนลูกหลงไปด้วยสงครามก็จบอยู่ดี เอ้าไงพวกเจ้าทั้งสองคนจะให้พวกเราเจี๋ยนเอง หรือจะพวกตัวเองเจี๋ยนเอา ”
เสียงของนักรบแห่ง Empyrean Adjust ดังขึ้นโดยที่ฝุ่นควันที่คละคลุ้งนั้นยังคงปกปิดร่างของพวกเขาไว้
“ หรืออีกทางหนึ่ง สงบศึกซะ ศาสนาจอมปลอมของพวกแกน่ะ ไม่มีใครที่ไหนใน เทอร่า ยอมรับหรอก…. ”
………………………
……………………………..
“ แผนต่อไปกระจายแถลงการณ์ของเราออกไปให้สาธารณะชนรับรู้ ”
ผู้บัญชาการสาวสั่งลูกเรือทั้งหมดที่อยู่ในห้องควบคุมของ Sky Cruiser
“ รับทราบ ”
เสียงตอบรับคำสั่งจากลูกเรือทั้งหมดดังขึ้น ก่อนแผนการขั้นถัดไปจะเริ่ม
………………..
………………………..
ตลาดท่าเรือ บาร์ซิงเซย์ (Barsingsei) ประเทศ โลกอส
ตลาดร้านค้า ซึ่งตั้งอยู่บนสะพานไม้ ที่ต่อทอดยาวออกไปในอ่าว ซึ่งนี่เป็นเมืองท่า ที่มีเรือสินค้า
มาเทียบมากมายที่สุดในเขต ทวีป อาริมาเทีย ซึ่งแต่เดิมโลกอส เป็นประเทศที่ไม่มีพื้นที่ติดกับทะเล
หากแต่ชายฝั่งทะเลนั้น อยู่ไกลออกจากชายแดนไปเล็กน้อย ด้วยพระปรีชาของ องค์หญิง มาเรียลูส
ที่ทรงให้ทำการขุดคลองกว้าง ต่อไปยังอ่าวทะเล จากนั้นทรงพัฒนา ต่อให้กลายเป็น เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดใน อาริมาเทีย
เนื่องจากอาณาเขต ไม่ติดทะเลเกินไปจนยากแก่การขยายพื้นที่ ซึ่งระยะเวลาในการดำเนิน พระราชกรณีกิจ ของ
พระองค์นั้นใช้เวลาเพียงช่วงสั้นๆก็สัมฤทธิ์ผล ได้เพราะเมื่อครั้งที่พระองค์ เสด็จมายัง ประเทศนี้ พระองค์ทรงเป็นผู้นำความหวังมาให้แก่ ประเทศ ที่ยากไร้ ซึ่งมีเพียง พื้นดิน ที่รกร้าง และมังกรร้ายอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนมากจะเป็น เชลยศึกที่หนีจากสงคราม มา เมื่อครั้งเสด็จมาเยือนเป็นครั้งแรก พระองค์ก็ได้ทรงวางแผน พัฒนาให้ประเทศนี้ เป็นที่ตั้งถิ่นฐานแก่ผู้ลี้ภัยสงคราม ซึ่งจากอุดมการณ์นี้ของพระองค์เอง ทำให้ผู้อพยพลี้ภัย
มานั้น ยอมให้ความช่วยเหลือแก่พระองค์ เนื่องด้วย อาริมาเทีย นั้นเป็นทวีป ที่มีการศึกษาวิจัย ทางมังกรศาสตร์
เป็นอันดับต้นของโลกอยู่แล้ว อีกทั้งในบรรดาผู้ลี้ภัย ยังมีส่วนมากเคยเป็น พลนักรบมังกร ซึ่งส่วนใหญ่มาจากทวีป
เมอริเซีย ซึ่งมีวิธีการกำราบและสยบ มังกรร้ายให้อยู่ใต้บัญชา ได้อย่างหลากหลายเพราะเมอริเซีย ต้องเผชิญกับสงครามมาแทบนับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งผสานเข้ากับวิทยาการของ อาริมาเทีย จึงทำให้การ ควบคุมเหล่ามังกรร้าย เพื่อมา
ช่วยงาน พัฒนา ประเทศ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย การขุดลอกคลองเพื่อสร้างท่าเรือนั้น จึงมีกำลังอันมหาศาลของ มังกรเข้าช่วย ทำให้งานเสร็จได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการนำมังกรไปเป็นแรงงานในการพัฒนา ประเทศ จนในที่สุด โลกอส กลายเป็น ประเทศที่ มนุษย์ กับ มังกร จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันจากประเทศ ทุรกันดาร กลับถูกดลบัลดาลให้กลายเป็น
ประเทศที่มีวิทยาการ ล้ำหน้าที่สุดไปเลยทีเดียว ทำให้เสียงตอบรับของ เหล่าประชาชนที่มีต่อ องค์หญิง มาเรียลูส
นั้นยิ่งทวีมากขึ้น
และจากการที่เป็นเมืองท่าที่ยิ่งใหญ่ ทำให้มีสินค้ามากมายจากทุกนานา ประเทศมาลงที่นี่
จนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าไปในที่สุด
บรรดาร้านค้า ที่ตั้งแผงลอยไว้บน สะพานนั้น มีมากมาย เสียจนแทบจะพูดได้เลยว่า นี่คือตลาดการค้า
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเช่นกัน
“ เฮ้อ อุตส่าห์ ถ่อมาจนถึง บาร์ซิงเซย์ แท้ๆ แต่ดันหมดไปก่อนซะได้นี่ ฟิคเกอร์ไพทอน กับการ์ด Rat Dragoranger ที่วางขายชุดแรก ที่ซื้อครบชุดจะมีแถม อัลตร้าแรร์ สุดหายากที่ผลิต ออกมาแค่ 1000 ใบแท้ๆ ”
เรกกะ บ่นอย่างเซ็งๆที่ ตนมาซื้อของเล่นสะสมไม่ทัน นั่งหน้าบูดอยู่บนม้านั่ง ในสวนสาธารณะที่
อยู่ ห่างจาก ท่าเรือไม่มากนัก ด้านหลังเขานั้น มีอาคารบ้านเรือน ซึ่งล้วนแต่เป็นสถานที่ประกอบกิจการการค้า
แทบทั้งสิ้น ซึ่งอาคารที่อยู่ถัดจากสวนสาธารณะนั้น มีจอ ภาพขนาดใหญ่ ตั้งเอาไว้ บนอาคาร เพื่อโฆษณาสินค้า
ต่างๆ
“ สวัสดีเหล่ามวลมนุษย์ในเทอร่า ทุกท่าน…. ”
เสียงที่ดังกึกก้องขึ้นจากทุกๆแห่งใน บริเวณนั้น เสียงทั้งหมดดังขึ้นจาก เครื่องรับสัญญาณภาพและเสียง ที่มีไว้เพื่อรับชมความบันเทิง ซึ่งมีตั้งอยู่เกือบจะทุกร้านค้า และกระทั่ง จอโฆษณาขนาดใหญ่ของอาคาร ที่อยู่ด้านหลัง เรกกะ
เองก็เช่นกัน ทุกจอภาพ ฉายภาพเดียวกันและส่งเสียงเดียวกันออกอากาศไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ไม่ใช่แค่ใน
เขตของเมืองเท่านั้นแต่ บัดนี้ทั่วโลกกำลัง ออกอากาศแถลงการณ์นี้
“ กระผมคือ อดีตผู้ปกครองอาณาจักรซาโลม แห่งเมอริเซีย ที่ล่มสลายไปเมื่อนานมาแล้ว….. ”
เสียงกล่าวสุนทรพจน์ ของชายผมหยิกหยักศกสีน้ำตาล เขาสวมอาภรณ์สีขาวแต่งตัวคล้ายกับนักบวช
แน่นอน สำหรับชาวเมอริเซีย ที่มีบรรพบุรุษเป็น ชาวซาโลม คงจะจำเขาได้เป็นแน่ เขาคือ กษัตริย์แห่งจักรวรรดิเพลิง
อิสฮาน นั่นเอง
“ บัดนี้ทุกๆท่านคงได้ประจักษ์กับสิ่งที่ เกิดขึ้นไปแล้ว สงครามที่ทำให้ประเทศแผ่นดินเกิดของ กระผม
และชาวเมอริเซีย ต้องล่มสลายและย่อยยับไป นั้น จนถึงบัดนี้ พวกท่านก็ยังเมินเฉย ต่อผลที่จะเกิดขึ้นจากการ
ทำสงคราม ยังคงสร้างความขัดแย้งไปเรื่อย ด้วยเหตุนี้กระผมจึงก่อตั้งองค์กรติดอาวุธ เอกชนขึ้นมา
อุดมการณ์ของพวกเรามีเพียงหนึ่งเดียว……….. ”
เสียงกล่าวสุนทรพจน์ ที่ดังกึกก้องขึ้นทั่ว ทั้ง เทอร่า เพื่อที่จะให้มวลมนุษย์ทั้งหมด
ได้รับรู้ ถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง
“ พวกเราคือผู้นำสารแห่งสวรรค์มาสู่ ผืนพิภพ Empyrean Adjust และจากนี้ไปพวกเราจะเข้าทำการแทรกแซงความขัดแย้งทั้งหมดใน เทอร่า นี้ และสงบมันลงด้วยกำลังอาวุธของ เหล่า Valkyrier ทั้ง 12 พวกเราจะพิพากษา
เทอร่า นี้ในนามของพระผู้เป็นเจ้า…. ”
สิ้นเสียง นั้นการออกอากาศทั้งหมดก็ได้หยุดลงและกลับคืนสู่สภาวะปกติ รายการบันเทิง ข่าวสาร สาระ
ที่ถูกแทรกแซงไปได้กลับมาออกอากาศเช่นเดิม
“ ขจัดสงครามด้วยสงครามงั้นเหรอ…. ”
เรกกะ เปรยขึ้น สายตายังคงจดจ่อ อยู่ที่จอภาพ ซึ่งการแถลงการณ์ณ์ได้ยุติไปแล้ว ทว่าเสียง
นั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของเขา
………………….
………………………….
หลังจากการ แถลงการณ์ของ Empyrean Adjust ที่ราวกับจะเป็นคำเตือนก่อนเวลาแห่งการสิ้นสุดจะมาถึง
ได้สร้างความตื่นตระหนกขึ้นทั่วทั้ง เทอร่า สำนักข่าวต่างๆทั่ว เทอร่า ต้องทำงานกันเป็นประวิง
หลังจากที่ ข่าวการแทรกแซงของ เหล่า Valkyrier ได้ถูกออกอากาศ และรับทราบกันอย่างทั่วถึง
ในเวลาต่อมา
“ ว่ายังไงนะพึ่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปได้แค่ สามชั่วโมง ทาง ดิสอาปจูร่า สั่งยกเลิกแล้วงั้นเรอะ ”
“ สงครามความขัดแย้งทางศาสนา ที่สหราชอาณาจักร ซีรา แห่งทวีป เลาดิเชีย ตอนนี้ประกาศสงบศึกกันแล้วครับ ”
“ เห็นว่ากองทัพอันเกรียงไกร ถูกโค่นล้มด้วยนักรบของพวกที่อ้างว่าเป็น Valkyrier แห่ง Empyrean Adjust แค่สี่คนเข้าล้มล้างทั้งกองทัพในเวลาไม่ถึงสามสิบนาทีครับ ”
“ นี่พวกมันคิดจะขจัดความขัดแย้งทั้งโลกจริงๆอย่างนั้นน่ะเหรอ Empyrean Adjust ”
เสียงโหวกเหวก โวยวายของ บรรดาสื่อทั้งหลายที่ดังอึกทึกไปทั่วนั้น คือเครื่องยืนยันอย่างดี ว่าบัดนี้ โลกได้เปลี่ยไปแล้ว
……………
………………….
“ หลังจากสงครามใน เมอริเซีย ยุติลง ตราทั้ง 7 ก็ถูกแกะออกเรื่อยมา จนถึงตราที่ 6 แล้ว ”
เสียงหนึ่ง ดังขึ้นภายในห้องซึ่งเต็มไปด้วยจอภาพ ที่ฉายความสับสนอลหม่าน ทั่วทั้ง เทอร่า ไว้
ที่กลางห้อง มีเด็กหนุ่มกับ เด็กสาว ยืนมองความสับสนอลหม่านเหล่านั้น ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงจากจอภาพเหล่านั้นให้ความสว่าง
“ ค่ะ เริ่มจากตราที่ 1 สงครามในเมอริเซีย ยุติลง ปรากฏม้าสีขาว ผู้ขี่มันถือธนูและได้รับ มงกุฎ เขาขี่ม้าออกไปด้วยท่าทางแห่งชัยชนะ เมอริเซีย ยุติสงคราม ชัยชนะของเหล่ามวลมนุษย์ที่สามารถลามือจากสงครามได้ ”
เด็กสาวกล่าวตอบ ทันทีที่เธอกล่าวจบเด็กชายก็ยื่นมือ ออกไป ในมือของเด็กชายมีเหรียญอยู่ 7 เหรียญ เขาทิ้งมันลงไปหนึ่งเหรียญ
“ จากนั้นตราที่ 2 ก็ถูกแกะออก แล้วม้าสีแดงสดกับผู้ขี่ ก็นำสันติออกจาก แผ่นดินเขาได้รับดาบใหญ่เล่มหนึ่ง ”
เด็กชายกล่าว ด้วยน้ำเสียงระรื่น ก่อนจะทิ้งเหรียญลงไปอีกหนึ่งเหรียญ
“ สันติสูญสิ้น ทั้ง เทอร่า ทำสงครามกัน อย่างยิ่งใหญ่ เท่ากับความยิ่งใหญ่ของดาบที่ เขาได้รับ จากนั้นตราที่ 3 ก็ถูกแกะออก มีม้าสีดำออกมา พร้อมกับความวิบัติทางเศรษฐกิจ ข้าวสารีทะนานละ 1 เดนาริอัน ข้าวบาร์ลี ทะนาน ต่อ 1 เดนาริอัน แต่น้ำมัน และน้ำองุ่น ไม่ได้รับผลกระทบ ”
หลังจากสิ้นคำของเด็กสาว เด็กชายก็กล่าวต่อท้ายให้ในทันที
“ ข้าวยากหมากแพงเกิดจากสงคราม แต่สิ่งที่ชโลม ใจเหล่ามนุษย์ให้มุ่งมั่นทำสงครามต่อไปคือ บาป อันเป็นนิรัน
น้ำมัน คือเชื้อไฟแห่งสงคราม และน้ำองุ่น คือบาปที่มนุษย์ไม่อาจละทิ้ง ”
สิ้นคำของเด็กชาย เหรียญที่ สามก็ถูกทิ้งลงจากมือ
“ แล้วตราที่ 4 ก็ถูกแกะออก ม้าสีเขียวแกมเหลืองออกมาผู้ขี่มัน มีชื่อว่าความตายและนำแดนคนตายติดตามมาด้วย
เทอร่า 1 ใน 4 ถูกทำลายด้วยความอดอยากและโรคระบาด สัตว์ร้ายแห่งแผ่นดิน ค่ะ ”
เด็กสาวต่อคำในทันทีที่เหรียญตกถึงพื้น
“ ผลจากสงคราม เมอริเซีย ต้องย่อย ยับและสิ้นสลาย เทอร่าสูญเสีย แผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ไปเสีย 1 จาก 7 แต่ดินแดนอื่นก็ได้รับความเสียหาย จนบัดนี้ เทอร่า สูญเสียแล้วทั้งสิ้น 1 ใน 4 สินะ ”
สิ้นคำเด็กชาย เหรียญที่ สี่ก็ถูกทิ้งลง
“ ค่ะและตราที่ 5 ก็ถูกแกะออก คนที่ตายเพราะความศรัทธาในพระเจ้าได้รับ
การกำชับให้รอจนกว่าผู้ตายเพราะความเชื่อจะมีครบจำนวนก่อน การพิพากษา ”
เด็กสาว รับคำต่ออย่างรวดเร็ว พร้อมกับเหรียญที่ ห้า ถูกทิ้งลงจากมือของเด็กชาย
“ สงครามยังคงดำเนินต่อไปอยู่เรื่อยมาแม้ จะทำสัญญาสงบศึกแต่ชาวเมอริเซีย ผู้บริสุทธิ์ กลับถูกลืมเลือน เพราะไม่มี
ผู้นำที่จะเข้าร่วมประชุมสัญญา การพิพากษาสิทธิธรรม แก่ชาวเมอริเซีย จึงไม่เกิด และแล้ว ตราที่ 6 พึ่งจะถูกแกะออกไป ในวันนี้ ”
สิ้นคำของเด็กชาย เหรียญ ที่หก ก็ถูกทิ้งลงไป
“ ตราที่ 6 ครั้นเมื่อแกะแล้วไซร้ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ดวงอาทิตย์มืดดำ ลงดวงจันทร์กลายเป็นสีเลือด ดวงดาวบนฟ้าตกลงบนพื้นดิน บรรดามนุษย์ซ่อนตัว ”
เมื่อเด็กสาวกล่าวจบ เด็กชายก็ชักมือกลับ โดยเหลือเหรียญในมือไว้เพียงเหรียญ
เดียวซึ่งคือเหรียญ สุดท้ายเหรียญที่ 7
“ แผ่นดินไหวคือความสั่นสะเทือนที่ เทอร่า ได้รับจากการแทรกแซงของเรา ดวงอาทิตย์ดำมืด อันบ่งบอกถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงได้มาถึง พระจันทร์สีเลือด หมายถึงสันติจะได้มาด้วยสงคราม ดวงดาวที่ตกลงไปคือ พวกเรา ผู้นำสารจากพระผู้เป็นเจ้า Empyrean Adjust และจากนี้ไป คือลำนา แห่งตราที่ 7 ซึ่งกำลังจะถูกแกะออกในไม่ช้า และการนั้นพวกมนุษย์ที่ สร้างสงครามก็จะพากันหัวหด ไม่กล้าก่อสงคราม หรือ ตราที่ 7 จะถูกแกะออกก่อนกัน เธอคิดว่าไงล่ะ
ฮายาเตะ(Hayatei) ”
เด็กชายหันไปมองหน้าเด็กสาว ซึ่งสีหน้าของเธอนั้นไร้ซึ่งอารมณ์ ราวกับเป็นเพียงหุ่นเชิด เด็กชาย เอาเหรียญ ที่ เจ็ดขึ้นมาตั้งบน นิ้ว ก่อนจะดีดมันขึ้นไป เหรียญนั้นหมุนควงอยู่กลางอากาศ จนขึ้นไปสูงสุดก่อนจะค่อยๆร่วง
ลงมา
“ ภารกิจของพวกเรา คือการสยบสงครามและเพื่อการนั้น God Send (ของขวัญจากพระผู้เป็นเจ้า) ทั้ง 12 ที่เหล่า Valkyrie เคยปกปักษ์รักษาจะต้องถูกรวบรวม เพื่อแกะตราที่ 7 ออก จากนั้นลำนำแห่งการชำระก็จะเดินหน้าต่อไป ”
เด็กสาวกล่าวจบ เหรียญก็ตกถึงพื้นพอดี ซึ่งเหรียญไม่ได้คว่ำหน้าใดไว้หากแต่ ยืนตั้ง อยู่บนพื้นโดยไม่มีที่ท่าว่า จะเอนเอียงล้มไปทางใด ราวกับจะบอกว่ายังไม่ถึงเวลาแห่งการตัดสิน
…………………
โปรดติดตามตอนต่อไป
Next Saga
หลังการแทรกแซงของ Empyrean Adjust โลกก็เริ่มเปลี่ยนแปลง และแล้ว อันตรายก็คืบคลานเข้ามายังประเทศ
ซึ่งห่างไกลสงคราม
“ องค์หญิง ไม่ควรจะเสด็จออกมาตามลำพังอย่างนี้นะเพคะ องค์หญิง”
“ เราบอกเจ้าแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าหากออกมากันแค่เราสองคนเจ้าไม่ต้องใช้ราชาศัพท์กับเราและให้เรียกชื่อเราตามปกติก็พอ อีกอย่างหากเราออกมาโดยมีขบวนเสด็จด้วย มันจะทำให้ประชาชนแตกตื่น และเราก็จะไม่ได้เห็นความเป็นอยู่และวิถีชีวิต จริงของพวกเขาน่ะสิ เราแค่ะอยากจะรู้ว่าประชาชนของเรา อยู่ดีเป็นสุขหรือไม่โดยไม่ต้องเสแสร้งต่อหน้าเรา ”
“ แต่ตอนนี้ บ้านเมืองกำลังอยู่ในความระสับระส่ายนะ เพคะ เพราะ Empyrean Adjust ทำให้บรรดานานาประเทศตั้งข้อสงสัยมาที่ โลกอส ซึ่งมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สุดอยู่ในขณะนี้ อาจจะมีพวกที่ไม่ยอมฟังเหตุผลแล้ว ก็เข้ามาก่อการจลาจลได้ทุกเมื่อนะเพคะ ”
การแทรกแซง ของเหล่าเทวทูต นำมาซึ่งความไม่สงบ การก่อการร้าย ที่เกิดขึ้นทำให้สิ่งที่สวรรค์เตรียมการมา กว่า ศตวรรษได้เริ่มตื่นขึ้น
“ จงถ่างหูและฟังให้ดีๆ บัดนี้องค์ชายเสด็จแล้ว…. ”
อัศวิน ผู้แข็งแกร่งซึ่งจิตไม่สมประกอบหรือไร ลำนำบทถัดไปคือสิ่งใด Next Saga 04 องค์ชายเสด็จแล้ว!
…………………………………
มหาสงคราม Delantion กำลังจะอุบัติขึ้นอีกครั้ง
ปิโยม่อน เปลี่ยนร่างเบิทดราม่อน ค่า