Summoner Master Forum
November 27, 2024, 04:32:52 AM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: @@ นิยายSMN Chapter 23 การเผชิญหน้าของสองจอมทัพ @@  (Read 9858 times)
0 Members and 3 Guests are viewing this topic.
Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« on: January 26, 2004, 05:58:56 AM »

Chapter 23 การเผชิญหน้าของสองจอมทัพ


                            “เกิดอะไรขึ้น!”  เจ้าหญิงเรจิน่าถามขึ้นขณะก้าวผ่านประตูสู่ท้องพระโรง   เหล่าแม่ทัพแห่งฟีเลเซียล้วนอยู่กันพร้อมหน้าในชุดเกราะเต็มยศ   ทุกคนทำความเคารพเจ้าหญิงโดยพร้อมเพียบกัน   ทว่าสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมายังเธอนั่นเต็มไปด้วยความรู้สึกเคร่งเครียดและหวั่นวิตก   เรจิน่ามองไปยังซิกมันต์เป็นเชิงถาม   เธอขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะเคลื่อนสายตาไปยังบิชอปเกรเกอรี่ ชาร์ล และ อัศวินเปกาซัสอย่างต้องการคำตอบจากพวกเขา
                            “เราถูกโจมตี” ซิกมันต์ตอบด้วยสีหน้าเครียดขึง
                            “จากพวกไหนกัน” เรจิน่ากล่าวอย่างตื่นตระหนก   ความหวั่นวิตกที่เกิดขึ้นระหว่างทางมายังปราสาทเป็นจริงขึ้นมาแล้ว   เธอก้าวขึ้นที่ประทับอย่างรวดเร็ว  
                            “พวกซาโลมพะย่ะค่ะ”  อัศวินเปกาซัสตอบ  “ภายในวันเดียวพวกมันก็ทำลายล้างเมืองหน้าด่านจนราบเป็นหน้ากลองไปถึงสามเมือง   เมืองอาวีเลีย โครีธา และ คามินยาร์ดถูกพวกมันบุกอย่างรุนแรงและรวดเร็วมากจนไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน   ไม่มีทั้งสารท้ารบหรือการเตือนใดๆก่อนล่วงหน้าไม่ต่างกับสุนัขลอบกัด   ซ้ำพวกมันยังโหดร้ายขนาดฆ่าล้างเมืองจนไม่มีใครเหลือรอดเลยแม้แต่เพียงคนเดียว”
                            “ไอ้พวกชั้นต่ำไร้เกียรติพวกนี้   มันจะหยามศักดิ์ศรีฟีเลเซียกันเกินไปแล้ว” ซิกมันต์กัดกรามแน่น
                            “โหดเหี้ยมเหลือเกิน   แม้แต่ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ก็ไม่ละเว้น” บิชอปเกรเกอรี่กล่าวประณาม
                            “ต่ำช้านัก   ช่างเป็นการกระทำที่ขี้ขลาดและไร้ยางอายที่สุด” แม่ทัพใหญ่สบประมาท
                            “ด้วยเหตุนี้ท่านเจ้าเมืองฟอร์เรนเชียจึงมอบหมายให้ข้าพระองค์รีบนำความมาทูลฝ่าบาท   รวมทั้งขอกำลังเสริมเป็นการด่วน  มิฉะนั้นอีกไม่เกินสองวันเมืองฟอร์เรนเชียคงแตกและย่อยยับไม่ต่างกับเมืองหน้าด่านทั้งสามแน่พะย่ะค่ะ” อัศวินเปกาซัส กล่าวอย่างร้อนรน
                            “พวกมันยกทัพกันมากันมากน้อยแค่ไหน” แม่ทัพใหญ่ถาม
                            “คาดว่าคงหลายแสนครับท่านแม่ทัพ   แม้ข้าจะไม่ได้เห็นทั้งกองทัพของพวกมันทว่าจากกำลังเสริมที่หลั่งไหลเข้ามาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนั้นมากมายมหาศาลทีเดียว   อีกทั้งยังมีสัตว์ประหลาดมากมาย  สัตว์ใหญ่อย่างมังกรก็มีไม่น้อยเลย      ตามที่ข้าคิดหากพวกซาโลมยกกำลังพลมากมายถึงเพียงนี้   ข้าคิดว่าพวกมันคงไม่ได้ต้องการแค่บุกฟีเลเซียเป็นแน่”   อัศวินเปกาซัสตอบ
                            “หรือว่าพวกมันหมายจะยึดทั้งทวีปเมอรีเซียนี้   เฮอะ! พวกมักใหญ่ใฝ่สูง” แม่ทัพระดับสูงนายหนึ่งกล่าวเหยียดหยาม   ขณะที่แม่ทัพคนอื่นๆต่างแสดงสีหน้ารังเกียจต่อการกระทำของอาณาจักรคนเถื่อน
“การจัดทัพใหญ่คงต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร   เราจำเป็นต้องส่งกองทัพไปยันทัพของซาโลมไว้ก่อนเพื่อรอการแต่งทัพใหญ่”  ชาร์ลเอ่ยขึ้น  คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
                            “ข้าก็คิดเช่นนั้น   ข้าคิดจะส่งพลเปกาซัส(Pegasus Rider) นักรบมังกรแห่งฟีเลเซีย(Felasia Dragoon)และ พลมังกร (Dragon Rider)เป็นแนวหน้าล่วงหน้าไปยันกับพวกมันไว้ก่อน   แล้วให้เกณฑ์กำลังพลจากเมืองต่างๆเข้าร่วมทัพด้วย   ขณะเดียวกันท่านก็คุมทัพอัศวินเป็นทัพหน้าไปเสริมทางภาคพื้นดิน   ส่วนข้าเมื่อเตรียมทัพใหญ่เรียบร้อยแล้วจะรีบยกพลตามไปทันที   พวกท่านเห็นว่าอย่างไร?”  ซิกมันต์ถามความเห็นจากบรรดาแม่ทัพ   ซึ่งทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เห็นชอบด้วย   ซิกมันต์หันไปทางพี่สาวของตน
                            “ข้าแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้สำเร็จราชการแทนข้า   หากมีเรื่องด่วนอะไรข้าจะรีบส่งคนนำสารมาแจ้งทันที”  ซิกมันต์กล่าว   ซึ่งเรจิน่าพยักหน้ารับคำอย่างแข็งขัน
                            กษัตริย์แห่งฟีเลเซียลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว  ประกาศก้อง“สั่งระดมพลได้”
« Last Edit: February 20, 2004, 05:30:56 AM by Little Angel » Logged


Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« Reply #1 on: January 26, 2004, 06:00:34 AM »

                           ในเวลาอันรวดเร็ว อัศวินเปกาซัสจำนวน สามร้อยนาย  นักรบมังกรแห่งฟีเลเซีย ห้าร้อยนาย และพลมังกร เก้าร้อยนาย ก็ทะยานขึ้นเหนือน่านฟ้าฟีเลเซีย  จำนวนทัพเปกาซัสและทัพมังกรที่แหวกอากาศขึ้นไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆจนดูราวกับผ้าคลุมผืนใหญ่ที่ค่อยๆแผ่คลุมฟีเลเซียให้รอดพ้นจากความร้อนแรงของแสงอาทิตย์
                           ขณะที่ทัพเปกาซัส และทัพมังกรกำลังมุ่งสู่สมรภูมิ   ทัพภาคพื้นดินก็กำลังเร่งจัดแต่งทัพอย่างรวดเร็ว   ชาร์ล คลาแรนซ์ แม่ทัพใหญ่แห่งฟีเลเซีย ในชุดเกราะเต็มยศพร้อมดาบคู่กายยืนอยู่เหนือกำแพงปราสาทเพื่อตรวจตราความพร้อมของกองทัพ   พลันเสียงหมาดเล็กก็ดังขึ้นประกาศการเสด็จมาขององค์กษัตริย์   ชาร์ลรีบทำความเคารพทันทีเมื่อเห็น องค์ราชินีอลิเซีย กษัตริย์ซิกมันต์  เจ้าหญิงเรจิน่า  และบิชอปเกรเกอรี่ เข้ามาร่วมตรวจทัพ
                           “จวนพร้อมเคลื่อนทัพแล้วพะย่ะค่ะ”  ชาร์ลกล่าว
                           ซิกมันต์พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้   สายตามองไปยังกองทัพเบื้องล่าง  
                           “หม่อมฉันนำกำลังไปสองหมื่นเก้าพันเศษ  เป็นอัศวินแปดพันนาย  นักแม่นธนู(Felasia Archer) สองพันนาย  อัศวินเซนทอร์(Centaur Knight) สามพันนาย   ผู้ฝึกสัตว์(Beast Tamer)สามร้อยนาย  นกร็อคแดง(Red Roc) สามร้อยตัว  ซอร์กริฟฟิน(Soar Griffin)สามร้อยตัว   นกซอร์วิง(Soar Wing)หนึ่งพันตัว  ผู้ฝึกสัตว์ประหลาดแห่งฟีเลเซีย(Felasia Tamer)สามร้อยนาย   มังกรดิมมินูวเลี่ยน(Dimminuialion, the Wind Dragon)สามสิบตัว และ ทหารชั้นเลวอีกหนึ่งหมื่นสี่พันนาย”
                           “เมื่อประเมินสถานการณ์และกำลังของข้าศึกเรียบร้อยแล้วให้รีบแจ้งกับมาที่เมืองหลวงทันที” ซิกมันต์กล่าว
                           “พะย่ะค่ะ” ชาร์ลน้อมรับบัญชา
                           “หากการณ์นี้เป็นดังนิมิตของท่านบิชอป   คงต้องลำบากท่านแม่ทัพแล้ว” ราชินีอลิเซียกล่าวแก่แม่ทัพใหญ่ ดวงตาแฝงแววกังวลเล็กน้อย
 แม่ทัพใหญ่ยิ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท   เมื่อวันปฏิญาณตนนั้นหม่อมฉันได้กล่าวสัตย์ไว้ว่าหม่อมฉันจะเป็นโล่และดาบให้แห่งฟีเลเซีย   หม่อมฉันพร้อมยอมพลีหากนำมาซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศแห่งฟีเลเซีย”
                           ราชินีอลิเซียยิ้มอย่างพอใจ “เราขอบใจท่านมาก”
                           ทันใด เสียงแตรก้านยาวก็ดังก้องเป็นสัญญาณจากกองทัพเบื้องล่าง  
                           “พร้อมเคลื่อนทัพแล้วพะย่ะค่ะ   หม่อมฉันทูลลา” แม่ทัพกล่าวขอตัว
                           “ขอพระเจ้าโปรดประทานพระพรแก่ท่านและกองทัพให้ปลอดภัย  มีชัยเหนืออริราชศัตรู” เกรเกอรี่อำนวยพรให้แก่ชาร์ล คลาแรนซ์
                           “ขอพระเจ้าทรงนำหน้าท่านและกองทัพ” เรจิน่าอวยพร
                           “ขอพระเจ้าทรงคุ้มครอง” ซิกมันต์กล่าว
                           “ขอพระเจ้าทรงเมตตาท่านและกองทัพให้ปลอดภัย” ราชินีอลิเซียอวยพร
                           ชาร์ล คลาแรนซ์ทำความเคารพก่อนจะเดินไปขึ้นรถม้าของตนอย่างองอาจสมชายชาตินักรบ   รถม้าศึกสีน้ำตาลทองคันใหญ่ดูแข็งแรง   ม้าศึกสายพันธุ์ชั้นเลิศสีน้ำตาลแดงสี่ตัวที่ใช้เทียมรถม้าของชาร์ลนั้นล้วนแล้วแต่ถูกฝึกมาอย่างดีเยี่ยม   ฝีเท้านั้นรวดเร็ว ว่องไว และปราดเปรียว ทุกตัวนั้นหนุ่มแน่นและคึกคะนองสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดอาชา   แม่ทัพใหญ่ถือบังเหียนอย่างทะมัดทะแมง   เขานำกองทัพถวายความเคารพแด่องค์กษัตริย์อีกครั้งเสียงเรียบอาวุธดังก้องไปทั่วยังความฮึกเหิมมาสู่เหล่านักรบและประชาชนชาวฟีเลเซียที่มาคอยส่งยิ่งนัก   ขบวนนักบวชทั้งชายและหญิงหลายร้อยรูปออกเดินนำหน้ากองทัพแห่งฟีเลเซียอย่างสมภาคภูมิ   ครั้นถึงประตูเมืองบรรดานักบวชต่างยืนเรียงเป็นแถวยาวขนาบทั้งสองฝั่งถนน   แม่ทัพใหญ่กระฉับสายบังเหียนก่อนจะสะบัดแส้เหนือม้าศึกควบทะยานสู่สมรภูมิด้วยความห้าวหาญ
]
Logged


Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« Reply #2 on: January 26, 2004, 06:02:58 AM »

                         บริเวณทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ใกล้กับเมืองฟอร์เรนเชียขณะนี้ถูกแปรสภาพไปเป็นสนามรบของเหล่ากองทัพทั้งสองอาณาจักร   ทุ่งหญ้าที่เคยเขียวขจีเวลานี้ถูกชโลมไปด้วยเลือดแล้วซากศพ   ทัพเปกาซัสและทัพมังกรแห่งฟีเลเซียรวมกับกองทัพจากเมืองต่างๆในละแวกใกล้เคียงต่างเข้าโรมรันใส่ทัพหน้าของซาโลมอย่างรวดเร็วจนทัพฝ่ายซาโลมตั้งตัวแทบไม่ทันเพราะไม่คิดว่าจะมีกองทัพเปกาซัสและทัพมังกรออกมายันกับทัพของตน   จึงไม่ได้เตรียมรับมือกับการรบทางอากาศไว้   ทัพซาโลมจึงทำได้แต่ตรึงกำลังทัพอยู่ทางด้านนอกเขตเมืองฟอร์เรนเชียก่อนจะเร่งนำความไปแจ้งแก่ทัพใหญ่ที่ตั้งคอยท่าอยู่บริเวณเมืองโครีธา
]

                         ภายในค่ายทหารของซาโลม   เหล่าขุนศึกต่างอยู่กับพร้อมหน้า
                         “บ้าเอ้ย!  ไม่คิดว่าไอ้พวกฟีเลเซียมันจะส่งกองทัพมาต้านเราเร็วขนาดนี้” กษัตริย์แห่งซาโลมกล่าวด้วยความหงุดหงิดเมื่อถูกทัพเปกาซัสและทัพมังกรของฟีเลเซียเข้าขัดขวางการบุกเมือง
                         “คงเป็นเพราะเจ้าเมืองฟอร์เรนเชียส่งเปกาซัสไปแจ้งข่าวล่วงหน้า   ทางเมืองหลวงจึงส่งกองทัพที่บินได้เร่งมายันทัพกับเรา   อีกอย่าง...ทัพที่ส่งมายันกันเราในวันนี้ก็เป็นเพียงทัพที่ส่งมาถ่วงเวลาเราเท่านั้น   ทัพจริงคงจะมาถึงในเร็ววันนี้แน่” แบล็ค ไวเซอร์กล่าวน้ำเสียงแหบต่ำ  ดวงตาหรี่เล็กลงข้างหนึ่ง ขณะที่ใช้มือซ้ายลูบวิหคโลกันต์ที่คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง
                         “ทัพหลวงรึ?” ราโชยูถามน้ำเสียงนั้นแฝงความตื่นเต้นอยู่ในที
                         “หึ หึ ชักคันไม้คันมือแล้วใช่มั๊ยล่ะ” ซาดินกล่าวอย่างรู้ทัน  เพราะใจของเขาก็ฮึกเหิมมิต่างกัน
                         “กระหม่อมไม่คิดว่าฟีเลเซียจะเกณฑ์ทัพได้ทันในเวลาที่น้อยเช่นนี้   กระหม่อมได้ส่งหน่วยสอดแนมไปสังเกตการณ์แล้ว   คาดว่าอีกไม่นานก็คงจะได้ข่าวอะไรกลับมา” บลาส เซจออกความเห็น
                         ทันใด พลทหารนายหนึ่งก็เข้ามารายงานถึงการกลับมาของหน่วยสอดแนม   ซาดินจึงเรียกให้เข้าเฝ้าทันที   หน่วยสอดแนมซึ่งมีสภาพอิดโรยและเนื้อตัวมอมแมมอยู่ไม่น้อยเพราะต้องเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อเร่งกลับมาส่งข่าว   เขาก้าวเข้ามายืนต่อหน้าพระนั่งพลางทำความเคารพองค์กษัตริย์อย่างรวดเร็วก่อนจะรายงานข่าวที่ตนไปสืบมาด้วยเสียงอันดัง
                         “ฝ่าบาท   ขณะนี้กองทัพแห่งฟีเลเซียจำนวนหลายหมื่นกำลังมุ่งหน้าสู่เมืองฟอร์เรนเชียอย่างรวดเร็ว   คาดว่าคงเข้ากเขตเมืองตอนย่ำรุ่งวันพรุ่งนี้พะย่ะค่ะ   กองทัพนั้นมีทั้งนักแม่นธนู อัศวิน เซนทอร์  ผู้ฝึกสัตว์ป่า ผู้ฝึกสัตว์ประหลาด พลทหาร  แล้วยังมี มังกร  นกใหญ่และกริฟฟินอีกหลายพันตัวพะย่ะค่ะ”
                         “ใครเป็นผู้นำทัพ” บลาส เซจ ถาม
                         “เป็นแม่ทัพหนุ่มวัยฉกรรจ์ ท่าทางคล่องแคล่วชำนิชำนาญการศึกมิใช่น้อย   มีดาบขนาดใหญ่เป็นอาวุธ   เท่าที่เห็นดาบจากด้ามจับจรดปลายดูจะสูงเลยตัวเขาเองเสียอีก”
                         “ชาร์ล คลาแรนซ์ ยอดขุนพลแห่งฟีเลเซีย  ไม่ผิดแน่” แบล็คไวเซอร์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง“ตั้งแต่สมัยที่ข้ายังอยู่ในฟีเลเซียเชิงดาบของเขาก็เป็นที่เลื่องลือไปทั่วว่าเป็นหนึ่งในฟีเลเซีย   ฝ่าบาทไม่ควรประมาทบุคคลผู้นี้เป็นอันขาด”
                         “แต่ไหนแต่ไรมาฟีเลเซียนั้นก็ขึ้นชื่อนักว่าชำนาญการรบบนฟ้าไม่ต่างกับเชี่ยวชาญการศึกบนพื้นดิน   หากฝ่าบาทปล่อยให้ทัพนี้เข้าประตูเมืองไปได้   ข้าพระองค์เกรงว่าจะกลายเป็นการเสริมทัพศัตรูให้แข็งแกร่งและจะทำให้การยึดฟีเลเซียนี้ล่าช้าออกไปอีกนะพะย่ะค่ะ” บลาส เซจกล่าวเตือน
                         ซาดินพยักหน้าช้าๆก่อนจะหันไปถามความเห็นแม่ทัพคู่ใจ “เจ้าคิดว่าอย่างไร ราโชยู”
                         “สำหรับกระหม่อม   พวกมันจะเข้าเมืองได้หรือไม่นั้นไม่สำคัญ   เพราะถึงอย่างไรกระหม่อมก็ต้องขยี้มันให้ราบเป็นหน้ากลองอยู่ดี” ราโชยูกล่าวด้วยน้ำเสียงมาดมั่น ชูมือที่กำแน่นขึ้นต่อหน้าองค์กษัตริย์อันแสดงถึงความหมายมั่นและกระหายที่จะประยุทธ์กับจอมทัพแห่งฟีเลเซีย
« Last Edit: January 26, 2004, 06:08:04 AM by Little Angel » Logged


Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« Reply #3 on: January 26, 2004, 06:04:57 AM »

                        “หึ หึ เจ้าพูดได้ถูกใจข้าจริงๆ   แต่อย่างไรก็ให้แน่นอนไว้ก่อนเป็นดี   ข้าคิดจะให้ยกทัพไปสองกอง   กองหนึ่งให้บุกประชิดเมืองฟอร์เรนเชียโดยเน้นพวกที่โจมตีต่อต้านทางอากาศ   อีกกองหนึ่งแยกไปยันกับทัพที่ยกมาช่วยเหลือ” ซาดินหันหน้าไปทางแม่ทัพใหญ่  พูดอย่างสบายอารมณ์  “ข้ายกหน้าที่นี้ให้เจ้า   แสดงให้พวกมันเห็นถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของเจ้า   ข้าเองก็อยากจะรู้นักว่าฝีมือของจอมทัพฟีเลเซียคนนี้จะเก่งกาจสักแค่ไหน”
                        ซาดินยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม  ในขณะที่ราโชยูกระชับเคียวคู่กายอย่างแม่นมั่น  ฉับพลันทุกคนในห้องต่างก็รู้สึกได้ถึงความกระหายเลือดที่แผ่ออกมาจากเคียวนั้น
                        “ใจเย็นๆ  อีกไม่นานหรอก” รอยยิ้มจางๆผุดขึ้นบนใบหน้าของแม่ทัพใหญ่  เขาพูดปลอบพลางใช้มือลูบปลายแหลมของคมเคียวไม่ต่างกับลูบสัตว์เลี้ยงตัวโปรด
                        “ดี!” ซาดินกล่าวชอบใจ “เรามารบกันจริงๆจังๆเสียที   บลาสเซจ เจ้าเอาดวงตาแก้วให้ราโชยูติดตัวไปด้วย   ข้าอยากดูฝีมือแม่ทัพนั่น   เอาล่ะ!แยกย้ายกันไปจัดการได้”
                        ทุกคนต่างทำความเคารพโดยพร้อมเพรียงกันก่อนจะรีบแยกย้ายไปจัดการงานของตนทันที


                        ขบวนกองทัพแห่งฟีเลเซียนำโดย ชาร์ล คลาแรนซ์ เคลื่อนพลผ่านเมืองต่างๆอย่างรวดเร็ว   เหล่าอัศวินและนักรบจากเมืองต่างๆที่กองทัพเคลื่อนผ่านต่างก็ทยอยกันเข้ามาเสริมกำลังทัพของชาร์ลให้ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
                        ใกล้รุ่งสางแล้วขณะที่ทัพฟีเลเซียหยุดเคลื่อนทัพชั่วคราวเพื่อเปลี่ยนม้าเทียมรถศึกและพักให้น้ำแก่ม้าศึกทั้งหลาย   ผู้ฝึกสัตว์ป่าสังกัดหน่วยสอดแนมนายหนึ่งก็รีบรุดเข้าพบแม่ทัพใหญ่เพื่อรายงานสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของทัพซาโลม   ผู้ฝึกสัตว์ป่าผู้มีรอยบากเป็นรอยใหญ่อยู่ที่ดวงตาข้างขวาพร้อมนกซอร์วิงคู่ใจ   ขนสีครีมมันเงาที่เกาะอยู่บนไหล่ขวา   เขาก้าวเข้ามายืนต่อหน้าแม่ทัพใหญ่อย่างรวดเร็ว  ก่อนจะทำความเคารพอย่างกระฉับกระเฉง  
                        “ผู้ฝึกสัตว์ป่า ฟอล์คเนอร์ (Falkner, the Beast Tamer) สังกัดหน่วยสอดแนมรายงานตัวครับ” ฟอล์คเนอร์รายงานตัวเสียงหนักแน่นสมกันที่เป็นมือดีที่สุดของหน่วยสอดแนมฟีเลเซีย   นกซอร์วิงของเขาสามารถเข้าไปในค่ายศัตรูและสืบข่าวได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และ เงียบเชียบที่สุด   เขาจึงมักได้รับความไว้วางใจให้สืบข่าวสำคัญๆเสมอ
                        “สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” ชาร์ลถามขึ้น  เขานั่งอยู่บนกองหินใต้ต้นไม้ใหญ่ร่วมกับแม่ทัพนายกองเพื่อวางแผนการรบ
                        “กองทัพซาโลมแบ่งกำลังเป็นสามส่วน   ส่วนแรกเป็นทัพใหญ่คุมเชิงอยู่บริเวณชานเมืองอาวีเลีย   มีทหารตั้งค่ายประจำการณ์อยู่หลายแสนนายนำทัพโดยกษัตริย์ซาดิน   ส่วนอีกสองทัพเป็นทัพย่อย   ทัพหนึ่งมุ่งหน้าไปทางเมืองฟอร์เรนเชีย   กำลังพลส่วนใหญ่เป็นมังกรไฟ   คาดว่าเพื่อต่อกรกับทัพเปกาซัสและทัพมังกร   อีกทัพหนึ่งมีกำลังพลประมาณสามหมื่น   ตั้งมั่นคอยท่าเราอยู่บริเวณที่ราบนอกเขตเมืองฟอร์เรนเชีย   นำทัพโดยราโชยู แม่ทัพใหญ่ของซาโลมครับ”  
                        แม่ทัพฟีเลเซียยิ้มออกมาทันที “หึ หึ  นึกแล้วไม่มีผิด   พวกสัญชาติงูร้ายเกิดกลัวขึ้นมาแล้วละสิ”  ชาร์ลลุกขึ้นจากก้อนหินใหญ่  “เอาล่ะ! พวกป่าเถื่อนก็ยังรู้ธรรมเนียม   ในเมื่อแม่ทัพใหญ่แห่งซาโลมอุตส่าห์ให้เกียรติออกมาต้อนรับพวกเรา...  พวกเราก็ไม่ควรจะทำให้เขาผิดหวังจริงไหม” แม่ทัพใหญ่ทอดสายตาไปยังทิศทางเบื้องหน้า  ยิ้มน้อยๆที่มุมปาก พลางออกคำสั่งเสียงเฉียบ “สั่งพลธนู และทัพนกให้เตรียมพร้อม   เราจะบุกอย่างรวดเร็วชนิดที่พวกมันไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต”





Logged


Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« Reply #4 on: December 19, 2004, 04:24:01 AM »

มาเม้าส์กันต่อที่นี่เลยจ๊า~~~~~~~~~~~~~~~~~

http://www.smnforum.com/yabb/index.php?board=2;action=display;threadid=4704
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.072 seconds with 22 queries.