วันนี้นำเรื่องพยาธิตัวตืด... ยืดๆ... ยาวๆ... มาฝากกันนะคับพี่น้อง......
ลักษณะทั่วไป
เป็นพยาธิตัวแบนคล้ายๆ แถบริบบิ้น แบ่งเป็นปล้อง ๆ ขนาดยาว 2-4 มม. พยาธิตัวตืดทั้งตัวเรียกว่า stwobila แบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ 3 ส่วน คือ
1. ส่วนหัว (scolex) มีอวัยวะสำหรับยึดเกาะเรียกว่า ขอ (sucker) บางชนิดจะมีขอเล็ก ๆ (hook) ด้วย
2. คอ (neck) เป็นบริเวณที่เจริญเติบโตกลายเป็นปล้อง
3. ปล้อง (segment หรือ proglottid) แบ่งเป็น
- ปล้องอ่อน (immature segment)
- ปล้องแก่ (mature segment)
- ปล้องสุก (gravid segment)
พยาธิตัวเต็มวัยจะพบในลำไส้ของคนและสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง เป็นกระเทย (hermaphtrodote) ไม่มีช่องว่างในลำตัว ไม่มีระบบทางเดินอาหาร แต่มีระบบขับถ่ายและระบบประสาท
ระบบสืบพันธุ์เจริญเติบโตสมบูรณ์ ในแต่ละปล้องจะมีอวัยวะสืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียอยู่ด้วยกัน

โดยทั่วไปแล้วพยาธิตัวตืดที่พบในคนมีจะมีมากกว่า 10 ชนิด คือ
โรคพยาธิตืดวัว (Taenia saginata)
พบได้ทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มประชากรที่นิยมรับประทานเนื้อวัว พบได้บ่อยในเม็กซิโก อเมริกาใต้ แอฟริกาตะวันออกและตะวันตก เยอรมัน ออสเตรเลีย
เบลเยี่ยม ฮอลแลนด์ อังกฤษ อิตาลี ลาว ฯลฯ ในประเทศไทยมีมากในภาคกลาง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การติดต่อ
การรับประทานถุงพยาธิตืดวัวที่มีตัวอ่อน (Cysticercus bovis) ที่ปนเปื้อนไปกับอาหารหรือ น้ำดื่ม หรือ รับประทานเนื้อวัวที่มีตัวอ่อนอยู่โดยไม่ทำให้สุกก่อน
อาการ
ตัวเต็มวัยในลำไส้เท่านั้นที่ทำให้เกิดโรค โดยพยาธิจะแย่งอาหารในลำไส้ ถ้ามีหลายตัวจะทำให้ปวดบริเวณลิ้นปี่ ไม่สบายท้อง อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน
บางครั้งมีอาการอุจจาระร่วง หรือท้องผูก น้ำหนักตัวอาจลดลง ปล้องสุกที่เคลื่อนตัวออกมาทางทวารหนักทำให้ผู้ป่วยเกิดความกังวล ปล้องสุกที่หลุดออกมาอาจจะเข้าไปไส้ติ่ง ทำให้เกิดการอักเสบได้
การวินิจฉัยโรค
- การตรวจด้วยตาเปล่า เป็นการดูลักษณะทั่ว ๆของอุจจาระ เช่น ดูสี ดูลักษณะว่า เป็นก้อนอ่อน เหลว หรือเป็นน้ำ ดูมูก กลิ่น เลือด และการพบปล้องสุกหรือไข่ในอุจจาระ
- การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อตรวจหาไข่หรือปล้องสุก และความรุนแรงของการติดเชื้อ
- นับจำนวนแขนงของมดลูกโดยการฉีด indian ink เข้าไปในมดลูกของพยาธิ หรือโดยการย้อมสี เพื่อแยกจากพยาธิตืดหมู
การักษา
ยาปราซิควอนเทล ขนาด 10-20 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ให้รับประทานครั้งเดียวก่อนนอน
โรคพยาธิตืดหมู (Taenia solium)
พบได้ทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มประชากรที่กินเนื้อหมูเป็นอาหาร พบได้บ่อยในประเทศเม็กซิโกและประเทศ ในอเมริกาใต้ จีน แมนจูเรีย ปากีสถาน อินเดีย
ในประเทศไทยพบได้ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ชอบกินเนื้อหมูดิบ ๆ สุก ๆ เป็นอาหาร
การติดต่อ
- กินถุงพยาธิตืดหมูที่มีตัวอ่อนหรือหมูสาคู (Cysticercus cellulosae)ที่ปนเปื้อนมากับอาหารหรือน้ำ
- รับประทานเนื้อหมูที่มีตัวอ่อนอยู่โดยไม่ทำให้สุกก่อน
อาการ
พยาธิเพียงตัวเดียวในลำไส้เล็กมักทำให้เกิดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถ้ามีตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ในการเคลื่อนตัวจะเพิ่มโอกาสทำให้เกิดลำไส้ หรือไส้ติ่งอุดตัน หรืออาจเข้าไปท่อน้ำดีหรือท่อตับอ่อนได้
สารพิษจากพยาธิอาจถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการตามระบบได้ ถ้าเคลื่อนตัวมาที่ทวารหนักทำให้เกิดอาการคันรอบ ๆ ทวารหนัก
ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ทานอาหารมากขึ้น น้ำหนักลด ปวดศีรษะ ท้องผูก หรือท้องร่วงได้
บางครั้งพบอาการแพ้ เช่น ลมพิษ คันตามผิว พยาธิอาจทำให้เกิดการอุดตันของ
ไส้ติ่ง ท่อน้ำดี ท่อตับอ่อน ทำให้เกิดการปวดท้องอย่างเฉียบพลัน
การวินิจฉัยโรค
- การพบปล้องสุกหรือไข่สุกในอุจจาระ
- การตรวจด้วยตาเปล่าตามผิวหนังผู้ป่วยจะพบเป็นปุ่มเล็ก (nodule) คล้ายถั่ว ซึ่งสามารถผ่าตัดออกมาได้
- การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อตรวจหาไข่หรือปล้องสุก และความรุนแรงของการติดเชื้อ
- นับจำนวนแขนงของมดลูกโดยการฉีด indian ink เข้าไปในมดลูกของพยาธิ หรือโดยการย้อมสี เพื่อแยกจากพยาธิตืดวัว
- การตรวจน้ำไขสันหลังและการตรวจเลือด ผู้ป่วยที่มีถุงตัวอ่อนของพยาธิตืดหมูที่สมองจะมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำ
ไขสันหลัง น้ำตาลในน้ำไขสันหลังอาจปกติหรือต่ำได้
การรักษา
ยาปราซิควอนเทล ขนาด 10-20 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ให้รับประทานครั้งเดียวก่อนนอน
นอกจากนี้โรคพยาธิที่เกิดจากหมูอีกชนิดหนึ่ง คือ โรคถุงตัวตืด (Cysticercosis)
เป็นโรคที่เกิดจากมีถุงตัวอ่อนของพยาธิตืดหมู ในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
การติดต่อ
- กินไข่พยาธิตืดหมูที่ปนอยู่กับอุจจาระ อาหาร ผักสด
- จากการขย้อนปล้องแก่ของพยาธิตืดหมูที่อยู่ในลำไส้กลับขึ้นไปในกระเพาะอาหาร
อาการ
อาการของโรคที่เกิดจากถุงตัวอ่อนของพยาธิตืดหมูมีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวน อายุ และตำแหน่งของซีสต์ (cysts) โดยมีรายงานว่าถุงตัวอ่อนพยาธิตืดหมู
ที่พบในผู้ป่วยที่สมอง 60% ตา 3% และกล้ามเนื้อ 5% โดยเฉพาะทีกล้ามเนื้อจะพบได้บ่อยกว่าที่อื่น แต่ผู้ป่วยมักไม่มีอาการ
ที่สำคัญจึงไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ซีสต์ที่มีชีวิตจะก่อให้เกิดการอักเสบชนิด chronic lymphocytic และ granulomatous
และพยาธิสภาพอาจอยู่นานถึง 20 ปี ซีสต์ที่ตายแล้วจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ มีการตายของเนื้อเยื่อ ซีสต์ที่ตายอาจหายไปเองหรือมีหินปูนมาหุ้ม
และอยู่ในร่างกายได้นานหลายปี เมื่อมีหินปูนเกิดขึ้นอาการโรคต่าง ๆของผู้ป่วยจะลดลงจนหายไปในที่สุด
- พยาธิตืดหมูที่สมอง (Neurocysticercosis) ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการชัก ความดันในสมองสูง
- พยาธิที่ตา (Ocular cysticercosis) อาจพบถุงพยาธิตืดตัวอ่อนเกาะอยู่ใต้เรตินา ทำให้เกิดอาการบวม เลือดออก ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นมัว
- พยาธิที่กล้ามเนื้อ (Muscular cysticercosis) พบถุงพยาธิตือตัวอ่อนได้ในกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย รวมทั้งกระพุ้งแก้ม ลิ้น เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรงระหว่างติดพยาธิในระยะแรก
นอกจากนี้การอักเสบ อาจพบรอบ ๆ ซีสต์ด้วย ทำให้กล้ามเนื้อบวม ต่อมากล้ามเนื้อจะฝ่อเกิดซีสต์ที่มีเนื้อเส้นใยอย่างผิดปกติ และมักมีหินปูนมาหุ้ม
การวินิจฉัยโรค
พบถุงพยาธิตืดหมู หรือหมูสาคู (Cysticercus cellulosae) ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายเป็นปุ่มเล็ก (nodule) คล้ายถั่ว ซึ่งสามารถผ่าออกมาได้
การรักษา
- ใช้ยาปราซิควอนเทล ขนาด 30-50 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อวันแบ่งกินวันละ 3 ครั้ง นาน 1-2 สัปดาห์
- ใช้การผ่าตัดเอาถุงพยาธิออก ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของถุงพยาธิและอาการของผู้ป่วย
Echinococcus granulosus โรคถุงน้ำ hydatid
พบได้ทั่วโลก โดยเฉพาะถิ่นที่มีการเลี้ยงแกะ วัว ควาย ในอเมริกาใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ บราซิล ยุโรปตอนใต้และตะวันออก มองโกเลีย จีน ญี่ปุ่นตอนใต้
เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อิรัค ฯลฯ ในประเทศไทย มีรายงานการพบพยาธินี้ในปอดผู้ป่วยในโรงพยาบาลโรคทรวงอก โดยทวีทอง กออนันตกูล และ คณะในปี ค.ศ .1991 (พ.ศ 2533)
การติดต่อ
กินไข่ที่ปนกับอุจจาระสุนัขหรือไข่ปนเปื้อนกับอาหาร
อาการ
ปกติผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคหลังจากติดเชื้อนาน 5-20 ปี หรือเมื่อถุงน้ำ (hydatid cyst) มีขนาดใหญ่ขึ้น ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ติดเชื้อ
การติดเชื้อของพยาธินี้พบได้ทั่วร่างกาย แต่ 80-90% พบที่ตับและปอด เนื้อเยื่อที่อยู่รอบซีสต์ จะเกิดการอักเสบ ต่อมาจะมี fibrous tissue มาหุ้ม ในที่สุดเนื้อเยื่อจะฝ่อและตาย
ถ้าติดเชื้อที่ตับจะไปกดท่อน้ำดีทำให้ท่อน้ำดีอุดตัน ถ้าเกิดการติดเชื้อในกระดูกจะทำให้กระดูกผุกร่อน นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการแพ้เป็นผื่นแดงและคัน
การวินิจฉัยโรค
- ตรวจเลือดเพื่อดู eosinophil ซึ่งสูงถึง 20-25%
- ตรวจทางรังสีวิทยา
- ตรวจหา hydatid cyst ในอวัยวะต่าง ๆ
- ตรวจทางน้ำเหลือง (serology)
- ทำ skin test โดยใช้น้ำจาก hydatid cyst จากคนหรือสัตว์ทำให้ปราศจากจุลชีพโดยการกรองก่อน
การรักษา
- การผ่าตัด
- กำลังอยู่ระหว่างศึกษายาอัลเบนตาโซล และมีเบนดาโซลในการรักษาผู้ป่วย
โรคพยาธิตืดแคระ (Hymenolepis nana)
พบได้ทั่วโลกและพบได้บ่อยในเขตหนาวในทวีปยุโรปตอนใต้ รัสเซีย อินเดีย ตอนใต้ของอเมริกา ลาตินอเมริกา หมู่เกาะฮาวาย เกาะกวม ในประเทศไทยพบได้ไม่มากนัก
ประยงค์ ระดมยศ เคยตรวจพบในเด็กที่สถานสงเคราะห์เด็กในกรุงเทพฯ 20%
การติดต่อ
- กินไข่หรือกินพยาธิตัวอ่อนในระยะติดต่อ (cysticercoid)
อาการ
- ถ้ามีพยาธิจำนวนน้อยจะไม่มีอาการ แต่ถ้ามีจำนวนมากจะเกิดการระคายเคืองเยื่อบุผนังลำไส้มาก ทำให้มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
การดูดซึมอาหารผิดปกติ น้ำหนักลด ทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ
การวินิจฉัยโรค
- ตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ
- อาจพบตัวพยาธิ ให้ตรวจดูลักษณะหัวและปล้องของพยาธิ
การรักษา
เช่นเดียวกันกับการรักษาโรคพยาธิตืดวัว ได้แก่ ยาปราซิควอนเทล ขนาด 10 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม กินครั้งเดียวก่อนนอน
โรคพยาธิตืดหนู (Hymenolepis diminuta)
พยาธิตืดหนู เป็นปรสิตในลำไส้เล็กของหนูและสุนัข ในคนพบได้ทั่วโลก เช่น เบลเยี่ยม อิตาลี รัสเซีย ญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ อินเดีย แอฟริกา
อาร์เจนตินา คิวบา อเมริกา ฯลฯ ในประเทศไทยพบได้ประปราย
การติดต่อ
กินพยาธิตัวอ่อนในระยะติดต่อ (cysticercoid)
อาการ
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการ เนื่องจากการติดเชื้อมีพยาธิจำนวนน้อย ถ้ามีพยาธิจำนวนมากจะมีอาการเช่นเดียวกับพยาธิตืดแคระ
การวินิจฉัยโรค
- ตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ
- ตรวจดูตัวพยาธิซึ่งอาจจะได้จากผู้ป่วย
การรักษา
เช่นเดียวกับการรักษาโรคพยาธิตืดวัว ได้แก่ยาปราซิควอนเทล ขนาด 10 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม กินครั้งเดียวก่อนนอน
เราอาจจะเห็นตืดชนิดนี้ได้จากสัตว์เลี้ยงตามบ้านของเราเองนะคับ เพราะว่าสุนัขหรือแมวนั้นส่วนใหญ่ชอบจับหนูเล่นเมื่อพวกมันเล่นเสร็จมันก็จะกินหนูที่จับได้นั้น ทำให้ตัวตืดหนูเข้าสู่ร่างกายได้
Raillietina siriraji
เป็นพยาธิตืดในหนู ในประเทศไทยพบครั้งแรกในเด็กกรุงเทพ โดย Leuckart ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434) ต่อมาใน ค.ส. 1957 (พ.ศ.2500)
Chandler และศาสตราจารย์อานนท์ ประทัตสุนทรสาร ได้รายงานผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย และต่อมาได้รายงานเพิ่มไว้อีกหลายราย ในปี ค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) ปรีชา เจริญลาภ และประยงค์ ระดมยศ ได้รายงานเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งได้รายงานไว้ในคน และหนูในปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513)
วงจรชีวิต
มีหนูเป็นโฮสต์จำเพาะในธรรมชาติ วง จารชีวิตที่แน่นอนยังไม่ทราบ แต่สันนิษฐานว่าแมลงสาปเป็นโฮสต์ กึ่งกลาง เพราะจากรายงานการพบพยาธินี้ในเด็ก 9 ราย โดยศาสตราจารย์อานนท์ ประทัตสุนทรสาร พบว่าสองราย เคยกินแมลงสาป
การติดต่อ
- กินตัวอ่อนพยาธิในระยะติดต่อ (cysticercoid)
- พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็ก ๆ มักจะกินไม่เลือก
อาการ
คนที่เป็นพยาธิชนิดนี้ไม่ปรากฏว่ามีอาการหรือพยาธิสภาพแต่อย่างใด
การวินิจฉัยโรค
ตรวจพบปล้องสุกปนออกมากับอุจจาระ
การรักษา
ยาปราซิควอนเทล ขนาด 10 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม กินครั้งเดียวก่อนนอน
พยาธิตืดปลา (Diphyllobothrium latum)
เป็นปรสิตที่พบได้บ่อยในลำไส้ของคน พบได้ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ใกล้ทะเลสาปในตอนเหนือของ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน รัสเซีย สวีเดน เกาหลี ไต้หวัน
ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ฯลฯ ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานการพบพยาธินี้
การติดต่อ
กินตัวอ่อนที่อยู่ในระยะติดต่อ
อาการ
ทำให้เกิดภาวะซีดและอาการทางระบบประสาทจากการขาดวิตามิน บี12 พยาธิตัวเดียวก็อาจทำให้เกิดลำไส้อุดตันได้ พยาธิในลำไส้เล็กส่วนกลาง และส่วนต้นทำให้การดูดซึมวิตามิน บี 12 ลดลง เหนื่อยง่าย ชาตามปลายมือปลายเท้า ถ่ายเหลว บางรายมีปวดท้องใต้ลิ้นปี่และมีไข้
การวินิจฉัยโรค
- ตรวจหาไข่ในอุจจาระ
- ตรวจดูปล้องซึ่งอาจจะหลุดออกมากับอุจจาระ
การรักษา
ยาปราซิควอนเทล ขนาด 10 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม กินครั้งเดียว ก่อนนอน
จากคุณ : justic แห่งพันทิปครับ