“ เว้นแต่…เว้นแต่อะไร…. ”
ธนัท ตะคอกถามด้วยความอยากรู้
“ เรื่องนั้น ควีน น่าจะตอบให้เจ้าได้นะ ”
มาเร็นงอ กล่าวพลางชี้ไปที่ ควีนจิงค์
“ การทดสอบผู้ที่จะผ่านเข้าไปในวิหาร แซงชูรี่(Sanctuary) ที่อยู่ คิง
อยู่จะต้องผ่านการทดสอบการดวลกับStarter ทั้ง 12 และเหล่า Checkmate 5
ด้วยกฏระดับ Ruler แบบ Challange Mode ”
ควีนจิงค์ ตอบขณะที่ มาเร็นงอ เปลี่ยน note ของตนให้เป็นปลอกแขนสำหรับดวลแล้ว
“ Ruler แบบ Challenge Mode?..มันคืออะไร ”
ธนัท ถามอีกครั้งด้วยความสงสัย
“ เธอรู้ใช่ไหมว่า SMN แบ่งระดับการดวลเอาไว้ 3 ระดับ Caller กับ Summoner
น่ะจะแตกต่างกันที่จำนวนสูงสุดของ Mp Max และ Shirne Max แต่ในระดับ Ruler
จะมีการเพิ่มกฎพิเศษเข้าไปก่อนเริ่มการแข่ง ซึ่งกฎที่ว่าก็คือ Challenge Mode ”
ควีนจิงค์ อธิบายจบ มาเร็นงอ ก๋ต่อให้จนจบทันที
“ Challenge Mode จะเป็นการให้ผู้เล่นแต่ละฝ่าย กำหนดซีล 1 ใบใน
สำรับเป็น MD (Master Deck) ซึ่งถ้าซีลที่เป็น MD ถูกส่งไปยัง Shrine
ไม่ว่ากรณีใดๆ เจ้าของซีลนั้นจะเป็นฝ่ายแพ้ทันที แล้วก็ Shrine Max
ตั้งแต่ที่วิหาร นี้ไปจนกว่าจะถึง วิหารของ Checkmate 5 Shirne Max
จะมีได้แค่ 5 เท่านั้น ”
มาเร็นงอ กล่าวจบ ธนัท ก็ถึงกับหน้าถอดสีไปไม่น้อยเมื่อรู้ถึงกฎสุดเขี้ยวของ
บททดสอบที่ต้องผ่านไปให้ได้
“ หมายความว่า ตลอด 12 วิหารจะต้องดวลโดยที่ มี Shirne เต็มสุดแค่ 5 เท่านั้นและ
ซีลที่เป็น MD ก็ห้ามถูกทำลายด้วยงั้นเหรอ ”
ธนัท กล่าวซึ่ง มาเร็นงอ ก็รับคำว่าใช่ ทำเอา ธนัท คิดหนักไปทันที
“ ถึงจะยากยังไงก็ไม่มีทางเลือกแล้ว ตกลง MD ของชั้น
จะใช้ Salamandera the Fire Dragon ”
ธนัท กล่าวก่อนจะหยิบเอา ราชันย์มังกรอัคคีซารามันเดอร่า ขึ้นมาจากสำรับแสดง
ให้อีกฝ่ายดู
“ งั้นของ ข้าก็เอาเป็น Crab of Cancer ”
มาเร็นงอ กล่าวจบก็ แสดงไพ่ซีลรูป ปูยักสีฟ้า ตัวใหม่ ที่ธนัท ไม่เคยเห็นมาก่อนขึ้น
“ นั่นมันไพ่ อะไรกันน่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ”
ธนัท อุทานเมื่อได้เห็น ไพ่ที่อีกฝ่ายแสดง ขณะที่ ควีนจิงค์ นั้นแสดงออกถึง
ปฏิกริยาอย่างเห็นได้ชัด
“ ไพ่นั่น Zodiac นี่ท่านพี่ปลดผนึกมันแล้วยังงั้นหรือ….. ”
ควีนจิงค์ สบถด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา
“ ใช่แล้ว คิง ได้ปลดผนึกชุดไพ่ในตำนานทั้ง 24 ใบของชุด Zodiac มอบ
ให้แก่พวกเราในครั้งนี้เพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อได้ ไพ่ชุดนี้มา เสริมสำรับ
ของพวกเราทั้ง 12 คน ก็จะไร้เทียมทาน ”
มาเร็นงอ โอ้อวดสรรพคุณของ ซีลใหม่ที่ได้รับมา
“ อ้อเกือบลืมบอกไป ซีลที่เป็น MD จะต้องนำขึ้นมาอยู่บนมือ 1 ใบ
จากจำนวนไพ่ทั้งหมดที่จะถือในตอนแรก 7 ใบ ”
มาเร็นงอ กล่าวก่อนที่ พวกเค้า จะเริ่ม จั่วไพ่ จนครบตามจำนวน โดยที่บนมือทั้งสองฝ่ายต่างก็มี
MD อยู่ในมือแล้ว
“ Let’s Duel Level Ruler ”
สิ้นเสียงของทั้งสองฝ่าย การดวลก็เปิดฉากขึ้นทันที
…………………
……………………….
“ นี่ ฉันทำถูกแล้วหรือเปล่านะ ”
ชุติการ คิด ตอนนี้เธอกำลังประสานมือ สวดภาวนาอยู่ต่อหน้าแท่นแก้ว
ที่ตรงหน้าเธอซึ่ง วาง Seal Scroll เอาไว้บนแท่นแก้วนั้น และบริเวณฐาน
ของแท่นมีสายไฟ ระโยงระยางต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องประมวลผล
ต่างๆที่รายล้อมอยู่รอบห้อง โดยมีทีมนักวิจัย คอยสังเกตผลการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่จะเกิดขึ้น
“ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ ทั้ง โคทาโร่ แล้วก็ทุกคนก็จะต้องลำบากเพราะชั้น
นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว….ฉนตัดสินใจไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนี่ ”
ชุติการ คิดก่อนที่จะนึกย้อนไป ถึงตอนที่เธอคุยกับ โคทาโร่ ที่ โลกเทอร่า
หลังจากที่ บอย จากไปแล้ว
“ โคทาโร่ เธอแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มเพื่อที่จะจับตัวฉัน…ตั้งแต่แรกแล้วงั้นเหรอ… ”
ภาพความทรงจำที่เธอ ตะคอกถามใส่ โคทาโร่ ที่ก้มหน้ารับผิดทุกอย่างต่อหน้าเธอ
นั้นได้หวนย้อนกลับขึ้นมา
“ ที่จริงมันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก….เพียงแต่ฉันไม่นึกเลย….
ว่าองค์หญิงแห่งมังกรขาวจะเป็นเธอ…ฉันมารู้เอาก็ตอนที่เกิดเหตุ
ทัศนศึกษานั่นล่ะ ”
โคทาโร่ ตอบเสียงแผ่วขณะที่ เธอยังไม่อยากจะเชื่อว่า เค้าจะยอมรับออกมา
แบบนี้
“ หมายความว่าเธอจะพาตัวฉันกลับไปให้พวกมันใช่ไหม… ”
ชุติการ ถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ตอนนี้หัวใจของเธอ เต็มไปด้วยความสับสน
และกังวล
“ ไม่…ไม่ใช่นะ ฉันไม่มีวันทำแบบนั้น….เด็ดขาด….. ”
โคทาโร่ ปฏิเสธขึ้นทันควันอย่างรนราน ขณะที่ เธอมองเค้าด้วยสายตา
ที่ไม่อาจไว้ใจได้อีกแล้ว เค้าจึงเบือนหน้าหลบสายตาของเธอ ก่อนจะกล่าว
ต่อ ออกมาอย่างแผ่วเบา
“ ฉ…ฉัน….มาเข้าเรียนที่โรงเรียนมนต์วิทยา ก็เพื่อจะเข้ามาหา ไดสุเกะ
ที่ฉันได้ข่าวว่าเค้ามาเรียนอยู่ที่นี่ แต่ก็ดันมีเรื่อง ซีล นอกการควบคุมออก
มาอาละวาดซะก่อน ….ที่จริง ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าใครในองค์กรเยอะ
นักหรอกนะ เว้นแต่ คิง(King) ที่ช่วยฉันกับ URH เอาไว้ ”
โคทาโร่ ตอบโดยไม่สบตาเธอ ขณะที่เธอรู้สึกได้ว่า เค้าพูดความจริงและกำลัง
รู้สึกผิดต่อ เธอ และ เพื่อนๆมากมายเพียงใด
“ เดี๋ยวก่อนนะ เธอ กับ URH ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้วไม่ใช่เหรอ?... ”
ชุติการ ถามด้วยความสงสัยในคำพูดของเค้าเมื่อครู่
“ ที่จริงเรื่องที่ฉัน ถูกช่วยออกจาก URH นั่น เป็นเรื่องที่ฉันกุขึ้นมา….
ความจริงผู้นำองค์กร คนปัจจุบันตอนนี้ก็คือฉัน แต่เพราะกระแสต่อต้านทั่วโลก
ทำให้องค์กรเริ่มระสับระส่าย….คนที่เข้ามาช่วยฉันเอาไว้ก็คือ
คิงของ Paradiso da Regola เค้าสัญญาว่าจะช่วยเหลือดูแลชีวิตของ
DNA-Changer ที่ไม่มีที่ไปที่ยังเหลืออยู่ในองค์กร แลกกับที่ ฉันจะเข้าเป็น
สมาชิกของ Checkmate 5….. ”
โคทาโร่ อธิบายให้เธอฟังอย่างชัดถ้อยชัดคำ ขณะที่ฟังไปนั้น เธอก็เริ่มจะเข้าใจ
เรื่องทั้งหมด
“ ฉันไม่มีทางเลือก จึงรับข้อเสนอนั้นไป จากนั้นก็ย้ายมาอยู่ที่ ประเทศนี้ แล้ว
ก็ทำงานให้กับองค์กรอย่างลับๆ โดยมี ซากะ เป็นคนกลางคอยติดต่อระหว่าง
ฉันกับองค์กร…. ”
โคทาโร่ เล่าเรื่องทั้งหมดของเค้าให้เธฮฟังจนจบในที่สุดแล้ว เค้าก็ถอยออกห่างจากเธอ
“ นั่นนายจะไปไหนน่ะ ”
ชุติการ ถามพลางตามไปดึงแขนไว้ไม่ให้เค้าไป
“ ….ปล่อยฉันเถอะ…ฉันจะไปเอง….ฉันสัญญาว่าจะไม่โผล่หน้ามาให้เธอกับทุกคนเห็นอีก
….ถ้าฉันกลับไปแล้วจะขอร้องกับ คิง ให้ปล่อยเรื่องของพวกเธอไป…ฉันจะทำ…ทำเท่าที่ทำได้นะ ”
โคทาโร่ กล่าวน้ำเสียงสั่นเครือ โดยไม่หันมาสบตาเธอ
“ เดี๋ยวสิถ้าทำแบบนั้นแล้วเธอจะเป็นยังไงต่อล่ะ… ”
ชุติการ ถามขึ้นขณะที่พยายามรั้งตัวเค้าไว้อย่างเต็มกำลัง
/Master will deleted/(นายท่านจะถูกลบหายไปน่ะสิ)
เสียงมาราคัส note ของ โคทาโร่ ตอบขึ้นมาให้แทน คำตอบนั้นทำเอาเธออึ้งไปไม่น้อย
“ จ….จริงเหรอ….ถ้าหากว่าทำแบบนั้น นายก็จะ…. ”
ชุติการ ถามด้วยความรนราน เมื่อได้รู้คำตอบ
“ ฉัน…เตรียมใจไว้แล้ว….หลังจาก ซากะ กลับไปรายงานฉันก็จะถูกเรียก
ตัวไปจากนั้นก็คงจะเริ่มการไต่สวน….ฉันจะถูกกำจัดทิ้งหลังจากนั้น ฐานเป็นคนทรยศ ”
โคทาโร่ ตอบ ชุติการ ที่ได้ทราบเรื่องแล้ว ถึงกับหน้าถอดสีไป
ตอนนี้เธอสับสนไปหมดทุกอย่าง
“ หมายความว่า นาย….จะยอมสละตัวเองเพื่อพวกเรา…ทำไมล่ะ
…ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย.. ”
ชุติการ ถามขึ้นทั้งน้ำตาที่รินไหล ออกมาด้วยความสับสนและกังวลที่
บีบคั้นหัวใจของเธอในตอนนี้
“ เพราะ….เพราะอะไร….ตัวฉันเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันเพียงแต่….
ฉันไม่อยากที่จะสูญเสีย พวกเธอไป ฉันเอง…ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกอย่างนั้น ”
โคทาโร่ ตอบน้ำเสียงสั่นเครือ ขณะที่ ชุติการ พึ่งสังเกตว่า ที่ข้างแก้มของเค้ามีหยาดน้ำ
อาบอยู่
“ เข้าใจแล้วล่ะ….ฉันจะไปกับนายเอง… ”
ชุติการ กล่าวจบก็ปล่อยแขนของโคทาโร่ ขณะที่ เค้าหันกลับมามองเธอด้วย
สีหน้าแปลกใจ
“ ฉันเอง…ก็ไม่อยากที่จะให้ใครต้องมาเจ็บเพราะฉันอีกแล้ว….ทั้งนาย ทั้งธนัท แล้วก็ทุกคน
ถ้าต้นเหตุ ทั้งหมดมันเกิดจากฉัน ….ฉันจะขอจบมันด้วยตัวเอง… ”
วาจาของ ชุติการ ที่ได้ลั่นออกไปในตอนนั้น คือการตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วของเธอ
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอ มาอยู่ที่นี่อย่างสมัครใจ
…………..
……………………..
“ รอบของ ฉัน… ”
ธนัท กล่าวก่อนจะหยุดไป โดยที่ยังไม่ได้ดึงไพ่ขึ้นมา
มาเร็นง
ส่วนสนามของฝ่าย มาเร็นงอ นั้นในแนวโจมตีมี
ไก่แห่งปี ระกา(Ji, the Rooster) 4 ตัวยืนขวางแนวนี้คอยป้องกัน
ปูยักษ์ที่เป็น MD ของ มาเร็นงอ เอาไว้
“ ระกาทั้ง 4 ใบมีสกิลที่จะสามารถโยกย้ายSton Curse จากซีลใบอื่นของเราได้
เมื่อมันรวมร่างกับซีลที่สังกัดธาตุดิน
ส่วน Crab of Cancer ก็มีความสามารถที่จะสร้าง Ston Curse หรือ
Freeze Curse ได้ทุกครั้งที่เข้าสู่ Sub-Turn ป้องกันของเราโดยจะเลือกสร้าง
Curse ให้แก่ซีลของเรา เท่ากับจำนวนเลเวลของซีลที่เราจะ สร้าง Curse ให้แก่มัน
จากนั้นเราก็ใช้สกิลของ ระกา ย้ายไปให้มันเท่านี้ ซีลของมันก็จะเป็นง่อยกันหมด
ขอแค่รอบหน้าเรารวมร่าง ระกา ได้
ทีนี้ก็สบายเรานี่ล่ะ คอบโบของสำรับ Cancer ที่ได้รับพลังเพิ่มจากชุด Zodiac ”
มาเร็นงอ คิดขณะที่ยิ้มเยาะด้วยความหยิ่งผยองอยู่ในใจ ที่แผนการของตนกำลัง
พร้อมที่จะใช้เล่นงาน ธนัท
“ เราต้องรีบเอาชนะให้เร็วที่สุด ซึ่งก็คือการจัดการกับ DM ของมันในรอบนี้ที่จริง
ก็มีวิธีอยู่หรอก แต่ดิมมิเนี่ยว ที่เราลงไปแล้วมีความสามารถหลังการ Growth
คือการจู่โจมข้ามไลน์ แต่ก็ดันลงไข่มังกรที่จะเอามา Growth หลังจากตอนที่เรา
ร่ายมันไปแล้วแทน บนมือก็ไม่มีซีลที่มีพลังพอจะจัดการทั้ง ไก่สี่ใบนั่นไปพร้อมๆ
กับ ปู นั่นได้เลย ”
ธนัท คิดตอนนี้เค้าไม่มีเวลาที่จะมานั่งเล่นให้ยืดยาวได้มากกว่านี้
แต่สถานการณ์ก็ไม่อำนวยเท่าใดนักเพราะ เค้าไม่สามารถที่จะสร้างซีล
สำหรับปิดเกมส์ในตอนนี้ได้
“ …สำรับนี่เป็นของพ่อ มันจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่หากนายรู้จักวิธีที่จะใช้มันอย่างถูกต้อง… ”
ในตอนนั้นเอง คำพูดที่ ศรีพูดเอาไว้กับเค้าก็แว่วขึ้นมาในหัว และทำให้เค้านึกอะไรขึ้นได้
“ จริงสิพี่บอกว่า สำรับนี้มีพลังที่แข็งแกร่งอยู่…ถ้าเรารู้จักวิธีที่จะใช้มัน
…หมายความว่ายังไง วิธีที่จะใช้….เดี๋ยวก่อนจำได้ว่า ไพ่ที่ได้มาใหม่มัน
มีคำว่า Regeneration อยู่ด้วย ไม่แน่บางที… ”
ธนัท คิด ขณะที่ยังคงข้างคาอยู่ที่ Check up Step ซึ่งเป็นช่วงเข้า รอบโจมตีของเค้า
“ เฮ้ รีบเข้า Draw Step ซักทีเซ่ มัวรอ อะไรอยู่ได้ ”
มาเร็นงอ ตะคอกใส่ด้วยความไม่พอใจที่ ธนัท ค้างการเข้ารอบของตัวเองอยู่นาน
“ รอบนี้ก่อนเข้าสู่ช่วง Check up Step ซึ่งเป็นช่วงเข้า Sub-Turn
โจมตีของฉัน ขอสั่งเงื่อนไขพิเศษ ”
ธนัท กล่าวคำพูดของเค้าทำให้ ทั้ง มาเร็นงอ และ ควีนจิงค์ ถึงกับงงไปว่าเค้า
หมายถึงอะไร
“ ฉันให้ ดิมมิเนี่ยว อาริมาเทีย เบบี้ดราก้อน ทำการ Regeneration โดยใช้
ไข่มังกรบนหน้าผาเป็นวัตถุดิบ ” /Regeneration/
สิ้นคำของ ธนัท คอรัสก็ส่งเสียงกังวานขึ้น ก่อนที่
ลูกมังกรดิมมิเนี่ยว กับ ไข่มังกรสีขียว จะสลายกลายเป็นละออง
ก่อนจะมารวมกันที่ แนวป้องกัน ตรงจุดที่ ดิมมิเนี่ยว เคยยืนอยู่ และกลายเป็น
ไข่มังกรบนหินผาแทน จากนั้นเปลือกขอมันก็กะเทาะออกและ ลูกมังกรดิมมิเนี่ยว
ก็ฟักออกมา จากไข่พร้อมทั้งขนาดของมันที่ใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย
“ Regeneration นี่มัน….อะไรกันไม่เคยเห็นพลังแบบนี้มาก่อนเลย ”
มาเร็นงอ อุทานหลังจากที่ได้เห็น การใช้ความสามารถใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
นั้น ควีนจิงค์ เองก็งงไปตามๆกันด้วยขณะที่ดูการดวลของทั้งสอง
“ ทำได้แล้ว….เราทำได้จริงๆด้วย Regeneration เป็นการ Growth
ในสนามได้ ดดยไม่ต้องลงจากการร่าย ความสามารถของ เผ่ามังกรจาก ทวีปอาริมาเทีย ”
ธนัท เปรยด้วยความดีใจที่สิ่งที่เค้าคิดไว้นั้นถูกต้อง
“ ดีล่ะให้ ดิมมิเนี่ยว รวมร่างกับ ซาลามันเดอรี่ดอลแล้วย้ายไป At line
ด้วยความสามารหลังการ Regeneration ทำให้มันโจมตีข้ามไลน์ได้
Cost Mp 2 โจมตีไปที่ Crab of Cancer ” /Flying Flare/
สิ้นคำของ ธนัท คอรัส ก็ส่งเสียงก้องกังวาน ร่วมไปกับเค้าด้วย
ก่อนที่ลูกมังกรดิมมิเนี่ยว จะคว้าเอา ตุ๊กตาซาลามันเดอรี่ดอล เข้ามากอดเอาไว้ แล้วบิน
ข้ามหัวพวก ไก่ไป ก่อนจะทิ้ง ซาลามันเดอรี่ดอล ลงไปใส่ เจ้าปูยักษ์ ทันทีที่
ซาลามันเดอรี่ดอลร่วงลงไปกระแทกใส่กระดองของมันก็แตกออก พร้อมกับที่
ดิมมิเนี่ยว กระปือปีกของมัน
จนเกิดลมพายุเพลิงสีเขียว เข้าไปเผาผลาญร่างของมันจนสลายไปในที่สุด
“ ไม่จริงน่ะ นี่ข้าคนนี้แพ้ทั้งๆที่มีพลังของชุดไพ่ในตำนานอย่าง Zodiac เนี่ยนะ ”
มาเร็นงอ ร้องเสียงหลงด้วยความไม่อยากเชื่อ ขณะที่ล้มลงไปอย่างเข่าอ่อนเนื่องจากความ
ช๊อกที่แพ้ แบบไม่ทันตั้งตัว
“ ไพ่ที่ยอดเยี่ยม ก็ใช่ว่าจะทำให้ผู้เล่นยอดเยี่ยมตามนะ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงมันต้อง
อาศัยทั้งฝีมือ ความคิดและการตัดสินใจของผู้ใช้ด้วย การที่แกไม่ยอม ใช้ความสามารถของ
Crab of Cancer สะกดซีลที่มีแนวโน้มเป็นอันตรายเอาไว้ก่อน เพราะเสียดายเวลา
ในการที่จะทำคอบโบ ที่จะเกิดจาก ข้อแลกเปลี่ยนของความสามารถที่ Crab of Cancer มี
นั่นแหละ ที่ทำให้แกแพ้ ”
ควีนจิงค์ เทศใส่ ก่อนจะเดินตาม ธนัท ที่รีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นต่อไปก่อนแล้ว
“ คอยก่อนนะ ชุติ ฉันจะรีบไปช่วยเธอให้เดี๋ยวนี้ล่ะ ”
ธนัท คิดขณะที่ วิ่งขึ้นไปยังชั้น ต่อไป และเริ่มดวลกับผู้คุมของชั้นถัดไปทันที
……………….
…………………………
“ ผู้คุ้มกันวิหารแห่งราศีปู แพ้ไปแล้ว…มีคนกำลังบุกเข้ามา ”
โคทาโร่ กล่าวขณะที่เดินเข้าไปหา ชุติการ ที่ยืนมองแท่นแก้วที่บัดนี้
ไม่มีสายไฟต่อระโยงระยางค์อีกแล้ว
Seal Scroll ที่เคยวางไว้ก็ถูกนำออกไปแล้วเช่นกัน
ทีมงานและคนอื่นๆที่เคยอยู่ภายในห้องตอนนี้ ก็ออกกันไปหมดแล้ว
จึงเหลือเพียงเค้าและเธอเท่านั้น
“ เหรอ…. ”
ชุติการ กล่าวเสียงเรียบ เธอดูจะไม่ใส่ใจซักเท่าไหร่กับสิ่งที่เค้าพูด
“ คนที่บุกเข้ามา ก็คือ ควีน ที่หนีไปก่อนจะออกคำสั่งเริ่มแผนการ แล้วก็อีกคนที่มาด้วยคือ….ธนัท ”
โคทาโร่ กล่าวต่อไปเรื่อยๆจนมาถึงชื่อ ของธนัท ก็ทำให้ ชุติการ สะดุ้งขึ้นมา
ก่อนที่เธอจะรีบเก็บอาการทันที
“ ไม่ต้องฝืนหรอก…ถ้าเธออยากจะโกรธจะเกลียดฉัน ก็ไม่เป็นไร …
ฉันไม่ว่าอะไรหรอก เพราะฉันเลยทำให้เธอต้องมาทำอะไรแบบนี้ไปด้วย ”
โคทาโร่ กล่าวด้วยความรู้สึกที่อยากจะขอโทษเธอ แต่เธอก็เอาแต่ฟัง
เค้าเงียบๆโดยไม่ตอบอะไรแต่อย่างใด เมื่อไม่มีอะไรจะพูดต่ออีก เค้าก็หันกลับ
และจะเดินจากออกไป ทว่า
“ นี่ โคทาโร่ เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการที่ฉันยอมมากับเธอ….
.สัญญากับฉันเรื่องหนึ่งได้ไหม ”
ชุติการ กล่าวขึ้นขณะที่ โคทาโร่ กำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องไป
เค้าจึงหยุดเพื่อฟังคำขอร้องของเธอ
“ ได้สิ… ”
โคทาโร่ ตอบระหว่างที่รอฟังคำขอของเธอ
“ ช่วยเชื่อใจ…เชื่อใจในตัวของ ธนัท เชื่อใจในตัวเพื่อนๆของนาย
…อย่าคิดเสียสละตัวเองอีก เพราะคนที่ต้องเจ็บปวดก็คือพวกเค้า ”
ชุติการ กล่าวจบ เธอก็เดินเข้ามาหาเค้า ก่อนจะส่งไพ่ใบหนึ่งให้แก่เค้า
ซึ่ง โคทาโร่ ก็รับมาด้วยความแปลกใจ
……………
……………………………
“ แฮ่ก…แฮ่ก…นี่ชั้นที่เท่าไหร่แล้ว ”
ธนัท กล่าวไปหอบไปพลางขณะที่ เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นถัดไปหลังจากเอาชนะ
ผู้คุมชั้นที่แล้วๆมาได้ เค้าก็เริ่มที่จะหมดแรงลงเรื่อยๆ
“ เราผ่าน วิหาร ราศี ปู มีน มังกร วัว และ แพะ มาแล้ว เหลืออีก 7 ชั้น กับ
ห้องของ Checkmate 5 ก็จะถึงห้องของคิง แล้วล่ะ ฉันว่าเธอพักซัก
หน่อยเถอะ นี่เธอก็ฝืนดวลมามากแล้วนะ Starter แต่ละคนก็จะเขี้ยว
ขึ้นเรื่อยๆไปอีก ”
ควีน จิงค์ ตอบพลางเข้าไปช่วยพยุง ธนัท ที่กำลังจะล้มลง
“ ม..ไม่มีเวลามานั่งพักแล้ว ชุติ กำลัง…แฮ่ก..กำลังรอฉันอยู่ ”
ธนัท กล่าวก่อนจะฝืนลุกขึ้นเดินต่อ จนมาถึงชั้นถัดมาซึ่งผู้คุมของชั้นนี้ก็มา
รอพวกเค้าอยู่ก่อนแล้ว
“ ยืนดีต้องรับสู่ วิหาร ตราชั่ง ฉัน Starter แห่ง Libra เป็นผู้คุมชั้นนี้ ”
หญิงสาวสวมชุดคลุมหัวสีดำกล่าวขณะที่ยก ปลอกแขนขึ้นเตรียมทำการ ดวล
“ เข้ามา…เลย ”
ธนัท กล่าวอย่างกระอักกระอ่วน ขณะที่เดิน โซเซเข้าไป แต่ยังไม่ทันที่จะเริ่ม
เค้าก็ทรุดล้มลงไปด้วยความอ่อนแรงซะก่อน
“ บ้าเอ้ย…ทั้งที่ตอนนี้…ตอนนี้มีแค่ฉันเท่านั้น…ฉันคนเดียวทำอะไรไม่ได้เลยรึไงกัน… ”
ธนัท สบถด้วยความเจ็บใจขณะที่พยายามฝืนจะลุกขึ้นดวลแต่ร่างกายของเค้า ก็ล้าเกินกว่า
จะดวลไหว
“ นายไม่จำเป็นต้องสู้เพียงลำพังหรอกน่า พวกเราจะช่วยนายเอง ”
เสียงหนึ่งซึ่งฟังดูคุ้นหูดังขึ้น ก่อนที่เค้าจะหันไปมอง มีกลุ่มคนกำลังเดินขึ้นบันได
ตามพวกเค้าขึ้นมายังชั้นนี้
“ ใช่แล้วหลา ธนัท เธอยางมีพวกเราอยู่หนา มายเฟรนด์(Mt Friend) ของเธอไงหลา ”
สำเนียงเหน่อๆของ แอน ดังขึ้นพร้อมกับที่กลุ่มคนที่ตามขึ้นมาทั้งหมดได้ปรากฏตัว
ขึ้นต่อหน้าพวกเค้า
“ เคียว แอน อิส ไดสุเกะ ประธาน พี่ แล้วก็ทุกคน!! ”
ธนัท อุทานด้วยความประหลาดใจที่ได้เห็น ทุกคนในชมรม
โผล่มาอยู่ตรงหน้า ในตอนนี้
“ เจ้าหนูอย่าทำเป็นเก่งหน่อยเลย เล่นบุกมาคนเดียวแบบนี้คิดอะไรของแกอยู่น่ะห๊า ”
มาริน่า กล่าวขณะที่เดินเข้ามาหาเค้า ก่อนยื่นเอา วิโอริน หุ่นกระบอกที่เป็น Note
ขอเธอ เข้าไปใกล้ ธนัท ไม่นานละอองพลังเวทย์ ก็พุ่งออกมาจากปากของมัน
อาบใส่ร่าง ธนัท
“ หวา ทำอะไรเนี่ย.. ”
ธนัท ร้องด้วยความผวาพลางสะบัดมือปัดละอองออก ทว่าอยู่ๆเค้ากลับรู้สึกโล่ง
และหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งในทันที