เยื้องหาดฝั่งซ้ายของ รีสอร์ท สนธยา เวลา 13.07 น.
“ ครืดดดด…ทีมสำรวจตอบด้วย….ครืดดด…นี่หอควบคุม ถึงทีมสำรวจตอบ…ครืดดด…ด้วย ”
เสียง ติดต่อดังขึ้นมาจาก Note ของ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากในกลุ่มทั้งหมดที่มีด้วยกัน 4 คน
แต่ การติดต่อนั้นกลับไม่ได้รับการตอบกลับเพราะทั้ง 4 คนนั้นถูก กลบฝังด้วยทราย ไปแล้ว
“ ครืดดด…ถึงทีมสำรวจนี่หอควบ.. ”
เสียงติดต่อที่ยังคงดังอยู่ก่อนจะถูกกลบ หายไปกับ ทรายที่สุมขึ้นมาอีกจนเสียงลอดออกมาไม่ได้
“ น่ารำคาญซะจริง เอาเถอะอีกเดี๋ยวพวกแกก็จะได้ไปว่ายน้ำเล่นกันหมดแล้ว หึๆๆ ”
ชายสวมสูทสีดำ และแว่นกันแดด ซึ่งเป็น เครื่องแบบฟอร์มเดียวกับพวกที่มาบุกพิพิธภัณฑ์สัตว์
น้ำ Water Layer ในวันก่อนๆนั้น กล่าวขณะที่ ปูสีน้ำตาลตัวเขื่อง พอๆกับคน กำลัง
พัดทรายขึ้นไปสุมใส่พวก เจ้าหน้าที่ มันมีลายกระดองสีฟ้าตัดกับสีพื้นกระดองที่เป็นสีน้ำตาล
/Get Call/
เสียงดังขึ้นมาจาก Note ที่เปลี่ยนสภาพเป็นปลอกแขน สวมอยู่ที่แขนซ้าย ของเค้าดังขึ้นก่อนที่เสียง
ของ ควีน จิงค์ จะดังขึ้นจาก Note นั้น
“ เริ่มตามแผนได้ Cancer Magnus มาเร็นงอ(Marenngou) ”
เสียงสั่งของ ควีน ดังขึ้นก่อนที่ ชายผู้นั้นจะรับคำแล้วออกเดินฝ่า สายลมที่พัดกรรโชกนี้
เลาะไปตามขอบชายหาด มุ่งหน้าตรงไปยัง รีสอร์ท สนธยา
…………..
…………………
13.10 น. (อีก 23 นาทีก่อนคลื่นซึนามิ จะมาถึง)
“ ว้าย!! ”
“ แว้ก!! ”
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นทั่วบริเวณ หาดด้านหน้า รีสอร์ท ดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
เมื่อ ชายชุดดำ เดินเข้ามาพร้อม ให้เจ้า ปูยักษ์ สาดทรายไล่พวกนักเรียนคนอื่นๆออกไป
“ สาเหตุของเรื่องพวกนี้ก็คือแกเองสินะ ”
เคียว กล่าวพลางยก คาสเทเนต(Castanet) Note ของตนเองขึ้นมา
/ sich bereit halten /(ภาษาเยอรมัน=Get Set)
คาสเทเนต ส่งเสียงก่อนจะเปลี่ยนรูปเป็นโหมด สำหรับดวลหรือรูปแบบปลอกแขน
/approntare /(ภาษาเยอรมัน=Get Set)
เสียงดังขึ้นจาก รีคอดเดอร์(Recorder) Note ของอิส ขณธที่เค้าเดินเข้ามาขวางระหว่าง
เคียว กับ ชายชุดดำเอาไว้
“ งั้นผมจะเป็นคู่มือให้เอง ”
อิส กล่าวพลางเสียบสำรับของตนลงไปในช่องสำรับที่ Note
“ หาอ้าวเฮ้ย แย่งซีนกันแบบนี้เลยเรอะ ฉันท้าก่อนนะเฟ้ย ”
เคียว แย้ง ขึ้นมาด้วยทีท่า หงุดหงิดก่อนจะโดน อิส สวนกลับมาด้วยคำพูดที่เค้าโต้ไม่ออก
“ ไม่ได้ นี่เป็นคำสั่งของคนเขียน ตอนนี้ถึงตาผมออกโรง คุณเคียว รอต่อไปเถอะครับ ”
อิส กล่าวเสียงเรียบ ขณะที่ เคียว เถียงไม่ออก
“ แหะๆ คำสั่งคนเขียนบท อ่ะน้า ช่วยไม่ได้ ”
โคทาโร่ กล่าวแกมหัวเราะเพื่อปลอบใจ เคียว ที่ตอนนี้หมดเรี่ยวแรงกลิ้งไปตามแรงลมมา
ติดที่ปลายเท้าของเขา
“ จะใครก็ได้ทั้งนั้น เดี๋ยว Magnus Cancer แห่ง 12 zodiac magnus ผู้คุมวิหาร
ปูยักษ์ คนนี้จะจัดการเอง ”
ชายชุดดำ กล่าวโต่กลับไปอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะเรียกให้ ปูยักษ์ ของเค้ากลับเข้าสำรับ
“ Let’s Duel Summonner Level(mp8) ”
สิ้นคำการดวลก็เริ่มขึ้นท่าามกลางกระแสลมพายุที่พัดอย่างบ้าคลั่งบนหาดนี้
โดยมีเสียงกระชิก ของ เคียว ที่ดังมาเป็นระยะๆ
“ แล้วเมื่อไหร่ ฉันจะมีบทบ้างงงงง! ”
...................................
..........................................
ถ้ำผานางแอ่น
“ อูยยย นี่ฉันตกลงมาถึงไหนกันเนี่ยแล้วทำไม พื้นมันถึงไม่แข็งนะ แถมยังรู้สึกนุ่มๆอีก ”
ชุติการ เปรยขณะที่หันลงไปมอง แล้วเธอก็ต้องตกใจร้องออกมาอีกครั้ง เพราะ เธอ
นั่งทับตัวของ ธนัท
อีกแล้ว
“ ท...ทำ..ทำไมนายถึงไปอยู่ตรงนั้นได้เนี่ย เมื่อเช้าก็ทีแล้ว... ”
ชุติการ โวยวายด้วยความร้อนตัวบวกความตื่นเต้นและความเขินอาย
ที่เธอนั่งกดทับ ธนัท มาถึงสองรอบในวันเดียว
“ ก็ขอ..ตอบเหมือนเดิมล่ะ...เรื่องแบบนี้...ไม่เกิดขึ้น..บ่อย...อ่อก ”
ธนัท เปรยขณะที่ยันตัวขึ้นนั่ง ก่อนจะหันไปสำลักเพราะความจุก
“ ว้ายนี่เป็นอะไรรึเปล่า...อุ... ”
ชุติการ ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่ทันทีที่เธอขยับข้อเท้าซ้ายของเธอก็ปวดขึ้นมา
จนเธอต้องล้มลงแล้วรีบเอามือไปกุมข้อเท้า มันแพลงซะแล้ว
“ แย่ล่ะสิ ขาซ้ายแพลงแบบนี้...แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ ”
ชุติการ คิดขณะที่มองขึ้นไปยังยอดเนินของ ผาที่พวกเค้าตกลงมา มันสูงและชัน
ไม่ใช่น้อยแม้จะพอมี ทางเดินให้ปีนขึ้นไปบ้างก็ตาม
“ แย่ล่ะสิ... ”
ธนัท เปรยขึ้นทำเอาเธอตกใจนึกไปว่า เค้ารู้เรื่องที่เธอข้อเท้าแพลงแล้ว
“ ม...ไม่เป็นไร...ฉ..ฉัน ”
“ ฟ้ามืดแบบนี้อีกเดี๋ยวพายุคงจะมาแน่เลย ต้องรีบออกจากที่นี่แล้วกลับไปที่รีสอร์ทแล้วล่ะ
แอน ก็ยังรออยู่ตรงนั้นด้วย ”
ชุติการ ที่จะรีบออกปากไม่ให้ธนัท เป็นก็แป้วไปเพราะที่ ธนัท ห่วงคือสภาพอากาศตอนนี้
“ ถึงจะชันไปหน่อย แต่ก็พอมีทางให้ปีนได้บ้าง เรารีบขึ้นก่อนดีกว่า อากาศก็เริ่มจะเย็นลงแล้วด้วย ”
ธนัท กล่าวพลางมองหาเส้นทางที่จะปีนขึ้นไป
“ นี่ ธนัท...ทำหน้าเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ได้ด้วยเหรอ...ทั้งที่ปกติแล้วจะตีหน้าเซ่อ เหมือนเด็กๆแท้ๆ ”
ชุติการ คิดขณะที่จ้องหน้า ธนัท ไปพลางหน้าของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว
“ เอาล่ะตรงนี้น่าจะปีนได้นะ ระวัง หน่อยก็แล้วกัน ฉันจะขึ้นไปก่อน
เธอจับมือฉันแล้วปีนตามขึ้นมาก็แล้วกัน ”
ธนัท กล่าวจบก็ปีนขึ้นไปเชิงหินที่ยื่นออกมาเป็นชั้น ก่อนจะส่งมือลงให้ ชุติการ
แต่เธอกลับไม่ลุกขึ้นยืนมาจับมือเค้าแล้วปีนตาม
“ เป็นอะไรไป กลัวหรือไง ”
ธนัท กล่าวถามด้วยความสงสัยก่อนจะทัน สังเกตว่าเธอเอามือกุมข้อเท้าตัวเองอยู่
“ อ๊ะ...เอ่อ...ม....ไม่ใช่นะ ข้อเท้าฉันมัน...ว้าย ”
ชุติการ ที่รนจะแก้ตัวก็เลยเผลอพูดเรื่องเท้าออกไป ทำให้ ธนัท แน่ใจแล้วว่า
เธอได้รับบาดเจ็บตอนที่ ไถลตกลงมา จึงปีนกลับลงมาดู
“ ม..ไม่ใช่นะ..มันแค่ถลอกนิดหน่อยน่ะ เธอไปก่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะตามไป ”
ชุติการ กล่าวอย่างร้อนรนเพราะกลัว ว่าเธอจะทำให้ ธนัท เป็น กังวล
“ ไปก่อนเหรอ...เธอนี่นะ..ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ยังมัวแต่ห่วงคนอื่นอีก ”
ธนัท บ่นขณะที่ปีนลงมา แล้วเข้ามาปัดมือเธอ ออกเพื่อดูบาดแผล
ปรากฏว่าข้อเท้าเธอนั้นบวมขึ้นมาจนน่ากลัว
“ ไม่ไหว แบบนี้เดินไม่ได้แน่... ”
ธนัท เปรยด้วยความตกใจและความเป็นห่วง ขณะที่ ชุติการ ก็มองหน้าเค้าด้วยความเป็นกังวลว่า
เธอจะเป็นตัวถ่วงให้เค้ารึเปล่า ขณะที่เธอ เหม่อ อยู่นั้นเอง ธนัท ก็ยื่นหลังให้เธอ
“ เอะ...เอ๋ จะทำอะไรน่ะ ”
ชุติการ ถามด้วยความสงสัย
“ จะอะไรซะอีกล่ะ..ขาเธอเป็นแบบนั้น แล้วจะเดินไปได้ยังไงกัน ฉันจะแบกเธอไปเองขึ้นมาสิ ”
ธนัท ตะคอกเบาๆแกล้งทำเหมือนไม่พอใจ แต่จากอากับกริยาที่แสดงอยู่นั้น
เธอที่เป็นเพื่อนกับเค้ามานานนั้นรู้ดีว่า เค้าแกล้งพูดแก้เขินไปงั้นๆ แต่ใจจริงแล้วเค้าเป็นห่วง
ซะจนปล่อยไว้ไม่ได้
“ ต...แต่ฉันน่ะหนักไม่เบาเลยนะ ”
ชุติการ กล่าวทว่า ธนัท ก็แย้งขึ้นมา
“ เอาเถอะน่า เธอคนเดียวจะหนักขนาดไหนกัน ”
ธนัท กล่าวยืนยัน จะให้เธอขี่หลังเค้าขึ้นไป เมื่อไม่มีทางเลือก ชุติการ จึงยอมทำตาม
“ แต่ถ้ารู้สึกหนักเมื่อไหร่ต้องบอกฉันทันทีนะ ”
ชุติการ ยื่นข้อเสนอ ซึ่งธนัท ก็ผงกหัวให้เป็นสัญญาณ เธอจึงเดินไปขี่หลัง ธนัท
ก่อนที่เค้าจะเค้นแรงแบกเธอขึ้นมา และถึงเค้าจะไม่พูดออกมา แต่ท่าทางการออกแรงที่
แสดงออกมาก็ฟ้องอยู่ทนโท่ ว่าตัวเธอนั้นหนักไม่เบาเลยทีเดียว แต่ ธนัท ก็ยังกัดฟัน
แบกเธอปีนขึ้นไป
.....................
.......................
................................
หาดหน้า รีสอร์ท สนธยา เวลา 13.15 น. (อีก 18 นาทีก่อน ซึนามิ จะมาถึง)
“ ฉันเริ่มก่อน Cost mp 3 ร่าย คิงมาคแคนเซอร์(King Mask Cancer)ไว้ที่ df line ”
สิ้นคำของชายชุดดำ ไพ่ซีลบนมือก็ถูกส่งออกไปก่อนที่ เฟือง Dynamaze
จะเริ่มหมุนเพื่อสร้างละอองเวทย์
ไพ่ได้ดูดซับละอองเหล่านั้นเข้าไปก่อนจะกลายเป็น อสูร รูปร่างปูยักษ์ที่เค้าใช้ให้มัน
สาดทรายใส่พวกเจ้าหน้าที่และตอนที่เดินมา ออกมาอยู่ในแนวป้องกัน
“ จากนั้น Cost mp 2ร่าย ไวเปอร์แครบ (Viper Crub) ออกมา
สองใบไว้ที่ At line แล้วผ่าน ”
สิ้นคำไพ่อีกสองใบก็ถูกส่งออกมาก่อน จะปรากฏอสูรอัญเชิญครึ่งปูครึ่งงู
ออกมาสองตัวที่แนวโจมตี
“ รอบของผม Cost mp3 ร่าย เซริยาห์ มาวิน (Zechariah Marvin) ลงไปที่ At line ”
อิส กล่าว ก่อนจะส่งไพ่บนมือลงไป ก่อนที่ อสูรอัญเชิญ จอมเวทย์หนุ่มน้อยจะปรากฏตัวขึ้น
ที่แนวโจมตี
ของเค้า ซึ่งเป็นอสูรตัวเดียวกับที่เค้าเรียกออกสู้กับ แวมไพร์ ในคืนวันนั้นที่โรงเรียน
“ แล้ว Cost mp 2 ร่าย เนเชรัล สปิริตแฟรี่(Natural Spirit Fairy) ลงมาที่ At line ”
อิส กล่าวจบไพ่อีกใบก็ถูกร่ายลงมา ปรากฏร่างของ ภูตน้อยตัวจิ๋ว ขึ้นมาพร้อมกับ
ลูกบอล หกลูกซึ่งทั้งหกลูกมีสีต่างกันไปตามธาตุในตอนนี้
“ ให้ ability ของเนเชรัลสปิริตแฟรี่ ทำงานเมื่อเข้ามาสนามสามารถเลือกธาตุสังกัดให้แก่
มันได้ ผมขอเลือกธาตุไฟ ”
สิ้นคำของ อิส ภูตน้อยก็เปลี่ยนสีลูกบอลทั้งหกให้กลายเป็นสีแดงเพลิงไป
“ จากนั้นให้ ability ที่สองของ เนชเรัลสปิริตแฟรี่ ทำงาน เมื่อมี มาวิน อยู่ในสนามสามารถสั่ง
ซีลใบนี้เป็น ซีลรองให้กับมาวินได้ เริ่มทำการ Double Combination ”
สิ้นคำของ อิส แผงโฮโลแกรมสำหรับ ทำการรวมร่างของเค้าก็ปรากฏขึ้นก่อน
จะลากไพ่บนนั้นให้
ทำการรวมร่าง ทันทีที่การป้อนคำสั่งเสร็จสิ้น
ภูตน้อยก็เข้าไปสิงในไม้เท้าของ มาวิน ก่อนจะเกิด
เพลิงลุกโหมขึ้นที่ปลายไม้เท้า
“ cost mp ที่เหลืออยู่ 3 ให้ มาวิน โจมตีไปที่
ไวเปอร์แครบ Anger of Flame(ความพิโรธแห่งอัคคี) ”
สิ้นคำ มาวิน ก็โบกไม้เท้าในมือก่อนที่จะเกิดลำอัคคีพุ่งเข้าไปเผาร่างของ
ไวเปอร์แครบ ก่อนที่มันจะถูกทำลายไป
“ หมดรอบเท่านี้ ”
อิส กล่าวขณธที่ ชายชุดดำ จั่วไพ่ ซีลและมิสติกขึ้นมาอย่างล่ะใบ
“ ซีลที่ไม่มี ธาตุ กับ ซีลที่สามารถเปลี่ยนแปลงธาตุของตัวเองได้
สำรับของแกคงเป็นรูปแบบการเล่นแร่แปรธาตุแบบหนึ่งสินะ ”
ชายชุดดำกล่าว ขณะที่เรียงไพ่บนมือใหม่
“ ก็คงยังงั้นล่ะมั้งครับ ว่าแต่ คิงมาคส์แคนเซอร์ มีแต่ท่ารวมร่างแบบ
ทริปเปิล เท่านั้น แต่ตอนนี้
ซีลในสนามไม่พอซะแล้วสินะครับ รอบต่อไปผมก็ยังใช้มาวิน บุกต่อ
ไปแบบนี้เรื่อยๆเกมมันจะจบเอาง่ายๆนะครับ ”
อิส กล่าวจบ ชายชุดดำก็หัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนจะเริ่มพูด
“ นับว่าเธอมีความสามารถในการวิเคราะห์ที่สูงมาก ที่สามารถตัดทางการ
รวมร่างของฉันแล้วยังหาทางรับมือในกรณีที่ฉันจะส่ง ซีลที่เก่งกว่าลงมา
ด้วยการใช่ซีลที่มีค่าพลังสูงขึ้นจาก
การรวมร่ามแบบรวดเร็วนั่น แต่นั่นสำหรับกรณีที่เป้าหมายของฉันเป็นการจู่โจมล่ะก็นะ ”
ชายชุดดำกล่าวจบเค้าก็ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เค้าสั่งรวมร่าง โดยให้ ไวเปอร์แครบ ที่มีค่า
พลังเมื่อรวมร่างแล้วน้อยกว่า เป็นซีลหลักทั้งๆอย่างนั้น
“ cost mp 2ใช้สกิลของ ไวเปอร์แครบ เมื่อมันรวมร่างโดยที่มีซีลรองรวมร่างเป็น ธาตุดิน
เลือกซีลในสนามที่มี sp 2- 4 1 ใบในสนาม เมื่อเข้าสู่ sub-turn
ถัดไปซีลนั้นจะติด ston curse 2 turn ”
ชายชุดดำกล่าวจบ ไวเปอร์แครบ ที่ขี่อยู่บนหลังของ คิงมาส์คแคนเซอร์ ก็พุ่งเข้าไป
โดยมี คิงมาส์คแคนเซอร์ ตามไป จับล็อคแขนทั้งสองข้างของ มาวิน
ไว้ด้วยก้ามอันทรงพลังของมัน
จนมาวิน ขยับไม่ได้ก่อนที่ ไวเปอร์แครบ จะตวัดก้ามหนีบของมันเฉือน เข้าที่ ขาของ
มาวิน จนเป็นรอยแผลบาดลงไป แต่เลือดกลับไม่ไหลออกมา แล้วพวกมันทั้งสองจึงถอยกลับไป
“ จากนั้น Cost mp 4 ร่าย ดีปบลูเรย์ (Deep Blue Ray) ลงไปที่ df line ”
สิ้นคำ หลังไพ่ถูกส่งออกมา ก็ปรากฏร่างของ อสูรกระเบนขนาดยักษ์ บินอยู่
เหนือหัวของพวกเค้าในแนว
ป้องกันของ ชายชุดดำ
“ จากนั้น cost mp 2 ร่าย เดสทรอยเมจิกทาวเวอร์ (Destroy Magic Tower)
ผลของมันจะทำให้อีกฝ่ายต้องสุ่มทิ้งไพ่มิสติกบนมือไปหนึ่งใบ ”
สิ้นคำ ก็ปรากฏ ภาพหอคอยลุกไฟ ค่อยๆถล่มลงมายังพื้นที่ด้านหลังของ อิส ก่อนที่จะจางหายไป
พร้อมกับที่ มิสติกบนมือหนึ่งใบนั้น ถูกละอองเวทย์ พุ่งเข้าไปรวมแล้ว ย้ายมันไปเก็บยังช่อง
ไชน์ที่ปลอกแขนของเค้า
“ ผ่าน mp ของฉันหมดแล้วในรอบนี้ ”
ชายชุดดำกล่าวจบ ก็ส่ง turn กลับไปให้อิส เล่น ทันทีที่ เข้าสู่ตาเล่นของ อิส ร่างของมาวิน
ก็ค่อยๆกลายเป็นหิน จนขยับไม่ได้ ซึ่งเป็นผลมาจากพิษที่ ไวเปอร์แครบ ฝากเอาไว้ในตาที่แล้ว
“ ยอมรับเลยว่าคุณทำให้ผม ตกใจเหมือนกันที่การคาดการณ์ของ ผม จะพลาดแบบนี้
....ก็อยากจะพูดแบบนั้นแต่ที่จริงแล้ว คุณน่ะเดินไปตามแผนที่ผมวางไว้แล้วต่างหาก ”
อิส กล่าวจบก็ จั่วไพ่ มิสติกขึ้นมาสองใบ
“ ว่าไงนะ.. ”
ชายชุดดำ อุทานด้วยความสงสัย ขณธที่ อิส เลือก ซีลขึ้นมาหนึ่งใบจากบนมือ
“ เรื่องที่คุณจะใช้สกิลถ่วงเวลาน่ะผมรู้อยู่แล้ว เพราะหาก มาวิน ที่เป็นซีลหลักเพียงตัวเดียวในตอนนี้ถูก ston curse ก็จะทำให้ แยกร่างแล้วก็เป็นซีลรองหรือทำอะไรต่อไม่ได้
การเดินเกมของผมก็จะลำบาก ดังนั้นผมจึงเตรียมใช้มันเป็นวัตถุดิบที่จะฝังคุณลงไปในรอบนี้ซะ ”
อิส กล่าวจบก็ยกปลอกแขนnote ของตัวเองขึ้นมาก่อนจะ ยื่นมือไปเลื่อน รังเพลิงส่วนที่อยู่
ด้านบนของปลอกแขนออก ซึ่งมันเป็นช่องให้ใส่ไพ่ลงไปได้
“ จริงสิ note ของแกใช้เซ้ตแบบ อิตาลี แสดงว่านั่นเป็นรุ่นดัดแปลงสินะ.. ”
ชายชุดดำสบถ ขณะที่ อิส ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ ถูกต้องนะคร้าบ ที่ รีคอดเดอร์ได้รับการปรับปรุงมาก็เพราะ สำรับของผมนั้นเป็นแบบเฉพาะที่มีอยู่
กันน้อย เดี๋ยวผมจะแสดง1ในความสามารถทั้งหมดของมันให้คุณดูเอง ”
อิส กล่าวขณะที่ ใส่ไพ่ซีลลงไปในช่องรังเพลิงนั้น ขณะที่ เคียว หันมามองเค้าอย่างสนใจ เช่นกัน กับ
โคทาโร่ และ ไดสุเกะ รวมไปถึงคนอื่นๆที่ยังอยู่บริเวณนี้แต่ก็เหลืออยู่สองสามคนเท่านั้น
/Ore-Sanjou /(ภาษาญี่ปุ่น = พระเอกมาแล้ว)
เสียงดังกังวานขึ้นมาจาก note ของอิส ทันทีที่ เค้าสับรังเพลิงกลับเพื่อให้ไพ่เข้าไปด้านใน
“ cost mp 3 ร่าย นักดาบมนตรา เซคาริยาห์ มาวิน
(Zechariah Marvin, the Swords Magician) แล้วทำการ
Growth มาวิน ที่อยู่ในสนามเพื่อให้ได้ความสามารถใน Growth Box ”
อิส กล่าวจบร่างของ มาวิน ที่แข็งเป็นหินนั้นก็กะเทาะ ผิวหินออก ก่อนที่เนเชรัลสปิริตแฟรี่
จะออกมาจากไม้เท้า
แล้ว แล้วเปลี่ยนตัวเองเป็นชุดเกราะสีแดงเพลิง แล้วสวมให้กับร่างของ มาวิน
ส่วนไม้เท้านั้นก็กลายเป็น
ดาบขนาดเล็กฝังลงไปที่ข้อแขนขวาของ มาวิน ตอนนี้ มาวิน ได้เปลี่ยนอาชีพ
เป็น นักดาบเวทมนต์ แล้ว
“ การ Growth แบบพิเศษที่ใช้การเปลี่ยนอาชีพงั้นเหรอ ”
โคทาโร่ กล่าวขึ้นมาอย่างสนใจ ก่อนที่ เค้าจะต้องอึ้ง กับสิ่งที่กำลังจะเกิดต่อไป
“ ฉันจะจัดไคล์แมกซ์ให้ตั้งแต่ต้นจนจบเลย ”
อิส กล่าวน้ำเสียงของเค้าเปลี่ยนไป อีกทั้งท่าทางก็ยังเปลี่ยนราวกับเป็นคนละคนไปด้วย
“ แว้ก!!!!นั่นอะไรน่ะ ”
โคทาโร่ อุทานด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา ที่บุคลิคของ อิส นั้นจะเปลี่ยนพลิกจาก
หน้ามือเป็นหลังเท้าได้ขนาดนี้ จากที่ดูเก็บอาการกริยาท่าทางและดูเป็นคนนอบน้อม กลับ
กลายเป็นคนใจร้อน ฉุนเฉียวและทำอะไรไม่ยั้งคิด ไป
“ อ่า...นั่นล่ะมันมาแล้วไง...ผลการฝึกจากประธาน เมื่อ อิส แปลงร่างให้กับมาวิน
อารมณ์กับบุคลิคก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามธาตุนั้นๆด้วย ”
เคียว กล่าวด้วยสีหน้าเอือมกับความสามารถที่แถมมากับพลังของ
อิส ที่ได้รับมาจากการฝึกของ มาริน่า
“ โม้ป่าว..แบบนี้ใครดวลด้วยปวดหัวตายชัก ”
โคทาโร่ ถามเพื่อขอคำยืนยันอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ ขณะที่หันไปมองท่าทีของ อิส ที่เปลี่ยนไป
จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
“ Cost mp 1 ออกมาเลยเจ้า มาวินจิ๋ว ”
สิ้นคำ ของ อิส ที่เปลี่ยนบุคลิคไปแล้ว มาวิน เวอร์ชั่น in memory
(Zechariah Marvin In Memory) ก็ถูกเรียกออกมาที่แนวโจมตี
“ cost mp 1ให้นักดาบเวทย์โจมตี ใช้ท่าไม้ตายย่างสดมันเป็นซีฟู้ด ทะเลซะเลย ”
สิ้นคำของ อิส นักดาบเวทย์มาวิน ก็เสกดาบ ออกมาด้วยพลังของ ไม้เท้าที่กลายเป็นดาบขนาด
เล็กซึ่งติดอยู่ที่ข้อแขนขวา โดยเสกออกมาล้อมเป็นวงจำนวน สิบเล่มด้วยกัน
/Magic Sword/
เสียงดังกังวานขึ้นมาจาก รีคอร์ดเดอร์ ก่อนที่ดาบเล่มหนึ่งจะพุ่ง ออกไปจากจำนวนสิบเล่ม
“ ให้ ability ของ มาวินจิ๋ว ทำงาน เมื่อ ซีลที่มีชื่อ มาวิน
ติดอยู่ต่อสู้สามารถเลือกท่าโจมตีแบบ ดับเบิลคอมฯได้1ท่าจากนั้นใช้ท่านั้นโจมตี
แล้วก็ให้ ability ของ นักดาบเวทย์มาวิน
ทำงานเมื่อโจมตีนำ มิสติกชนิดPS(Paste on Seal) 1ใบจาก ไชน์ มาแปะได้
เอา แมกม่าเทีย จาก ไชน์มาแปะ ค่าพลังของซีลที่ติดมันจะเพิ่มขึ้น 2 ทุกครั้งที่โจมตี
ดังนั้นท่าไม้ตายนี้มีพลัง 11 หน่วยเฟ้ย ”
อิส กล่าวขณะที่ มิสติกที่อยู่ใน ไชน์ แมกม่าเทีย ที่ คิระ เคยใช้ ซึ่งถูกทิ้งไป
ในตาที่แล้วจากผลของ
เดสทรอยเมจิคทาวเวอร์ จะปรากฏขึ้นบนสนามและกลายเป็นคฑาให้
นักดาบเวทย์มาวิน ถือเป็นอาวุธ
เสกเปลวเพลิง เข้าไปครอบ ดาบที่ พุ่งออกไป ทันทีที่ ดาบพุ่งผ่านร่างของ
ไวเปอร์แครบ ร่างของมันก็ถูกครอกด้วยเพลิงบรรลัยกันต์ ก่อนจะลามมายัง
คิงมาส์คแคนเซอร์ แล้วจึงแตกสลายไปทั้งคู่
“ ยังไม่จบนะเฟ้ย cost mp1 ร่ายAngel of Wand ไปติดอีกใบ ทำให้สามารถโจมตีได้อีกรอบเฟ้ย ”
อิส กล่าวจบ ดาบอีกเล่มจากที่เหลืออยู่ 9 เล่ม ก็พุ่งออกไปโดยคราวนี้ไฟ ที่เสกออกมาจาก
แมกม่าเทียนั้น รุนแรงกว่าเดิม เพราะค่าพลังที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่โจมตีทำให้การ
โจมตีนี้มีความรุนแรง 13 หน่วย
เพียงแค่ดาบพุ่งผ่านไปทีเดียว กระเบนยักษ์ดีปบลูเรย์ ก็กลายเป็นกระเบนย่างในทันที
ก่อนจะสลายลงไชน์ ตามไปอีกใบ
“ จากนั้น cost mp อีก1 ให้ เจ้าจิ๋วนี่โจมตีไปสอยซีลมันมาซะ ”
อิส กล่าวจบ มาวินin memory ก็เข้าไปฟาดไม้เท้าใส่ ทว่า ไพ่ซีลที่เป็นเป้าหมายของ อิส
บนมืออีกฝ่ายก็ออกมาเป็นเกราะป้องกันให้ก่อนจะถูกส่งไปยัง ไชน์ ซึ่งมันคือ ดีปบูลเรย์ อีกใบ
“ น...นี่มัน...อะไรกันเนี่ย... ”
ชายชุดดำกล่าวด้วยความตกตะลึงที่ตอนนี้เค้าโดนไล่ต้อนจน ซีลหมดสนาม
แถมยังถูกต้อนจนเสียซีลไปอีกใบบนมือ จนตอนนี้ ไชน์ของเค้าแทบจะเต็มปรี่ในทีเดียว
กับการจู่โจมต่อเนื่องที่ อิส กระหน่ำมา
“ บอกแล้วไง ว่าจะจัดไคล์แมกซ์ให้ตั้งกะต้นยันจบเลย ”
อิส กล่าวพลางหักนิ้วไปมาด้วยความสะใจ
อิ