Summoner Master Forum
November 25, 2024, 12:38:24 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: @@ นิยายSMN Epi XIX Legendary of Rose Garden @@ (Fan Fic.)  (Read 2810 times)
0 Members and 3 Guests are viewing this topic.
:::: AD12ENaL!Ne ::::
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 179


Email
« on: October 12, 2008, 05:00:42 PM »

Prologue - ปฐมบทแห่งตำนาน
          ไกลออกไปยังผืนทวีปอันแสนกว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง   ที่ซึ่งได้ถูกเล่าขานเป็นตำนานแห่งผืนแผ่นดินและถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติว่า   ครั้งหนึ่งดินแดนแห่งนี้เคยเป็นที่ชุมนุมของแหล่งอารยะธรรมอันอบอวลไปด้วยมิตรภาพของผู้คนภายใต้วัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของผองชน และสืบสานวิทยาการ วิถีความเป็นอยู่ ศิลปวัฒนธรรมแห่งความนึกคิดจนถึงอุดมการณ์แห่งการดำรงชีวิต  จนกลายเป็นดินแดนแห่งอารยะธรรมที่หลากหลาย
          ความแตกต่างทางภูมิประเทศนี่เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความแตกต่างแห่งวิถีการดำเนินชีวิตโดยขีดเส้นแดนกั้นกลางไว้ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดถือตามเผ่าพันธุ์และได้ถูกก่อตั้งเป็นดินแดนน้อยใหญ่โดยมีอุดมการณ์ของแต่ละเผ่าชนเป็นอธิปไตยชี้นำทางให้ผู้คนในเผ่าได้ยึดถือและสืบทอดต่อกันมา  ดินแดนแห่งนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก  จนเป็นที่กล่าวขวัญถึงความกว้างใหญ่สุดประมาณ และได้ขนานนามทวีปแห่งนี้ว่า เมอริเซีย (Merrisia) อันแปลว่าผืนแผ่นดินอัน
          เมื่อ เมอริเซีย เปรียบดั่งผืนฟ้าอันกว้างใหญ่  บนฟากฟ้านั้นย่อมมีหมู่ดาวน้อยใหญ่ประดับประดาอยู่   ซึ่งดาวเหล่านั้น ก็เปรียบเสมือนดั่งเมืองน้อยใหญ่ที่รวมตัวกันจนกลายเป็นนครใหญ่ หรือเป็นเพียงเผ่าเล็กเผ่าน้อยกระจายไปทั่วแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์  เมอริเซียนี้เหมือนดั่งว่ามีชีวิตจิตใจ และความรู้สึกนึกคิด นี่เป็นเพราะดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์นี้มีสิ่งหนึ่งซึ่งเคลื่อนย้ายถ่ายเทพลังแห่งชีวิตหล่อเลี้ยงเมอริเซียอยู่  นั่นคือเหล่าธาตุแห่งธรรมชาติทั้ง 4  ดิน น้ำ ลม ไฟ อันเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง ที่ทำให้จิตวิญญาณแห่งเมอริเซียนี้ร้อนแรงประหนึ่งไฟ พริ้วไหวได้ดั่งลม นิ่งสงบดุจน้ำ และมั่นคงเสมอดิน  ด้วยเหตุนี้เมอริเซียจึงเป็นสถานที่ที่รวมทุกสรรพชีวิตไว้ด้วยกันทั้ง ทวยเทพ  มนุษย์ สิงห์สาราสัตว์ อสูรกาย แมลง หรือแม้แต่เครื่องจักรกล   ทุกสรรพสิ่งนี้ต่างก็มีกาย และวิญญาณ  แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันนั้นคือ มนุษย์ซึ่งมีความแตกต่างทางจิตใจ และอุดมการณ์โดยมีแสงสว่างและความมืดเป็นเครื่องชี้นำจิตใจ

Summoner Novel – Episode IIX Dividing of 4 Kingdoms – Chapter I เหตุแห่งเพลิง
Logged


:::: AD12ENaL!Ne ::::
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 179


Email
« Reply #1 on: October 12, 2008, 05:05:50 PM »

Chapter I – การสอบคัดเลือก
          ณ ผืนแผ่นดินด้านทิศตะวันออกของทวีปเมอร์ริเซีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศเล็กๆที่ถูกขนานนามว่า “ประเทศแห่งกลีบกุหลาบ” ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นของกุหลาบนานาพันธุ์ ที่เรียงรายอยู่ริมทางเดินหินอ่อนสีขาวที่ทอดตัวยาวไปถึงปราสาทขนาดใหญ่มหึมา ซึ่งปราสาทหลังนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากโรงเรียนเวทย์มนต์และศาสตร์แขนงต่างๆแห่งโรเซตต้า
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
          “เฮ้อ...มาถึงสักที”เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าหวาน เจ้าของผมหยักโศกและนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มพูด พลางเงยหน้ามองตัวอักษรสีทองที่สลักอยู่ที่ซุ้มประตูโค้งหินอ่อนสีขาวสะอาด แล้วพึมพัมกับตัวเองเบาๆ“ ‘Odoris De Rosa Numquam Defluxus’ งั้นหรอ?...--”
          “กลิ่นของดอกกุหลาบจะไม่มีวันที่จะจางหายไง”เด็กหนุ่มร่างเล็กเปรย ขณะที่เอามือลูบผมสีดำขลับที่กำลังยุ่งเหยิง นัยน์ตาสีม่วงอันอ่อนโยนของเขากำลังเปล่งประกายเล่นกับแสงอาทิตย์ประดุจกับอัญมณี
          “เฮ้ย! โผล่มาตอนไหนเนี่ย ตกใจหมดเลย” คนที่มาถึงก่อนพูด
          “แหะๆ พอดีหายตัวมาจากประเทศนิโคอุหนะ ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ ฉันชื่อ ‘ฟูจิวาระ จิเคียว’ ยินดีที่ได้รู้จัก”เด็กหนุ่มอีกคนแนะนำตัวพร้อมกับโค้งคำนับแบบชาวนิโคอุอย่างสง่างาม
          “เออ...อันที่จริงไม่ต้องโค้งซะขนานนั้นก็ได้นะ ฉันชื่อ ‘โคลัส อินดิเจสทัส’ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน - -”
          ‘ประกาศ!! ขอให้ผู้ที่จะเข้ารับการคัดเลือกที่แซนต์ โรเซตต้า อะคาเดมี่ ทุกคนมารวมกันที่สนามใจกลางโรงเรียน ณ บัดนี้’ ~ เสียงประกาศดังก้องกังวาลไปทั่วทุกอาณาบริเวณของโรเซตต้า
          “ไปเร็ว เดี๋ยวจะไม่ทัน”โคลัสคว้าข้อมือของจิเคียวแล้วรีบวิ่งไปที่สนาม...
          ที่สนามใจกลางของแซนต์ โรเซตต้า อะคาเดมี่ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนทุกชนชั้นวรรณะตั้งแต่สามัญชน ไปจนถึงเชื้อสายกษัตริย์ นับหมื่นคนจากทั่วทุกสารทิศของเมอร์ริเซียกำลังคุยกันเสียงดังจอแจ
          “อะแฮ่ม!”ชายชราในชุดนักเวทย์สีขาว ผมหยิกสีเดียวกับชุดของเขายาวลงมาเกือบจะถึงเอว ดวงตาสีฟ้าซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตาแบบโบราณ แกล้งไอเบาๆ แต่ทุกคนในสนามกลับนิ่งเงียบและตั้งใจฟังราวกับถูกมนต์สะกด “ขอต้อนรับผู้สมัครทุกคนสู่แซนต์ โรเซตต้า อะคาเดมี่ วันนี้ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้คัดเลือกผู้ที่จะได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้ โดยการคัดเลือกจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ อย่าพูดพร่ำทำเพลงเลย มาเริ่มกันเลยดีกว่า ทุกคนโปรดตามผมมาทางนี้”
          ชายชราเดินนำกลุ่มผู้เข้าสมัครผ่านอุโมงที่ทั้งมืด ทั้งชื้น ทั้งแคบ จนกระทั่งมาหยุดที่โถงสลัวๆแห่งหนึ่งที่มีเพียงแสงริบหรี่จากคบเพลิงไม่กี่อันที่ริมผนัง ด้านในสุดมีประตูขนาดใหญ่ 2 บานสีขาวและดำ
          “รอบแรกจะเป็นการทดสอบภาคปฏิบัติ ซึ่งจะทดสอบความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และไหวพริบสติปัญญา ของพวกเธอ”เขาประกาศ “ผมจะขานชื่อผู้สมัครทีละคน เพื่อที่จะเดินเข้าไปในประตูบานใดบานหนึ่งที่เธอเลือก ภารกิจของพวกเธอคือค้นหาตราสัญลักษณ์ประจำโรงเรียนโรงเรียนที่อยู่ข้างในและกลับเข้ามาให้รวดเร็วที่สุด…”
          “อย่างนี้มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรอ กะอีแค่หาตราสัญลักษณ์ธรรมดาๆ”เด็กชายคนหนึ่งถาม ทำให้เกิดเสียงวิภาควิจารณ์อื้ออึงไปทั่วทั้งห้องโถง
          “เดี๋ยวพอเธอเดินเข้าไปในนั้นเธอก็จะรู้เองแหละว่าง่ายหรือยาก”เขาพูดอย่างลับลมคมใน “เอาหละมาเริ่มที่คนแรกเลยดีกว่า ‘โคลัส อินดิเจสทัส!!!’” ชายชราขานชื่อคนที่กำลังนั่งเมาท์แตกอยู่ด้านหลังห้อง ทำเอาเจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งเฮือก ก่อนที่จะเดินไปเผชิญหน้ากับประตูบานสีดำอย่างกล้าๆกลัวๆ...
          ทันทีที่โคลัสก้าวเข้ามาหลังประตูสีดำ ความหนาวเย็นยะเยือกก็แผ่ซ่านทุกอณูของผิวหนัง ไอหมอกสีขาวจางๆของอาคมที่อยู่ในห้องนี้ปกคลุมรอบๆตัวของเขา เด็กหนุ่มค่อยๆเดินตรงไปเรื่อยๆอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งมีบางสิ่งบางอย่างกำลังพุ่งมาทางเขา...
          ฉึก! ธนูลูกหนึ่งพุ่งออกมาจากทางใดทางหนึ่ง เฉียดหัวของเขาเพียงนิดเดียว
          ฉึก! ฉึก! ฉึก! ... ธนูนับพันพุ่งออกมาจากกำแพงทั่วทุกทิศทุกทางราวกับห่าฝน
          “เฮ้ย! นี่จะทดสอบหรือจะฆ่ากันวะเนี่ย ทำไงดี ทำไงดี เอาไงเอากันวะ ย้าก !!!” เขาตะโกนก่อนที่จะถอยหลัง 2-3 ก้าวแล้วกระโจนตัวเข้าไปในคมของลูกธนูเพื่อนที่จะข้ามไปยังอีกฟากหนึ่ง เสียงลูกธนูแหวกผ่านอากาศมาที่ตัวของเขาดังกึกก้องไปทั่วโสตประสาท
          ฉึก! ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้าไปปักเข้าที่แขนของโคลัสระหว่างที่เขากำลังจะฝ่ามันออกไป เลือดสีแดงค่อยๆไหลซึมออกมาอย่างช้าๆ
          “Furious Flame!!!”ลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่ลูกธนูอย่างบ้าคลั่ง จนลูกธนูทั้งหมดมอดไหม้กลายเป็นจุล
          “เป็นอะไรมั้ย? โชคดีนะที่ฉันเดินตามหลังมาทางนี้พอดี”เด็หนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีแทน ผมสีดำขลับของเขาถูกรวบขึ้นไปด้วยผ้าโผกหัวสีขาวที่มีตราของ...ราชวงศ์อิบริจแห่งซาโลม!!! นัยน์ตาดีดำสนิทของเขาจ้องมองคนที่นั่งฟุบอยู่ที่พื้นอย่างนิ่งสงบ
           เด็กชายคนนั้นค่อยๆลดตัวลงแล้วดึงลูกธนูออกจากแขนโคลัสอย่างนุ่มนวล “อ่ะ กดแผลไว้เลือดจะได้หยุดไหล” เขาถอดผ้าที่โผกหัวออกแล้วยื่นให้โคลัสที่นั่งอึ้งกับพลังเวทย์มนต์ที่ตนเพิ่งจะเห็นกับตาเมื่อครู่ ก่อนที่จะเดินหายไปในไอหมอกอาคม
          “เดี๋ยว...”โคลัสตะโกนเรียกเขาแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา เขาจึงหยิบผ้าโผกหัวนั้นมาพันแผล แล้วค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อเดินต่อไป
          ในเวลาไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็เดินมาถึงทางแยก ซึ่งดูผิวเผินแล้วไม่มีทางรู้ได้เลยว่าทางไหนจะมีตราสัญลักษณ์แอบซ่อนอยู่ แต่ขณะที่โคลัสกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเอง แสงสีขาวก็ค่อยๆส่องประกายมาจากทางข้างหน้า เขาจึงค่อยๆเดินตามแสงนั้นไปอย่างช้าๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น จนกระทั่งรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ใน โคลนดูด!!
          “เฮ้ย...”เขาพยายามดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากพัธนาการของโคลนโคลนดูด แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งจมลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างของเขาก็ถูกดูดกลืนหายไปในความมืดมิดใต้พื้นพิภพ
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
« Last Edit: October 12, 2008, 05:07:48 PM by Heaven~Nice » Logged


:::: AD12ENaL!Ne ::::
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 179


Email
« Reply #2 on: October 12, 2008, 05:10:58 PM »

          'โอ๊ย...’ โคลัสเริ่มรู้สึกตัว ร่างกายของเขาเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด เขาค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า หมอกอาคมที่เคยรายล้อมรอบๆเขาอยู่ได้สลายหายไปหมดแล้ว รวมถึงห้องสอบคัดเลือกก็เช่นเดียวกัน
          ‘ที่นี่มันที่ไหนกันแน่? หรือว่าเป็นที่ของคนที่ตายแล้ว?...’โคลัสคิดพลางมองไปรอบๆตัว
          ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงใครสักคนกำลังกระซิบเรียกชื่อของเขาด้วยเสียงอันแหบพร่า โคลัสรู้สึกเย็นวาบ เมื่อรู้ตัวว่าเสียงนั้นดังมาจากด้านหลังของเขานี่เอง เขาค่อยๆหันหลังกลับไปมองหาต้นเสียงนั้น แต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากความว่างเปล่าเช่นเคย เพียงครู่เดียวแสงสว่างสีขาวก็ค่อยๆปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า แสงสว่างนั้นคล้ายกับที่เขาเคยเห็นมาก่อน ใช่แล้ว...มันเป็นแสงเดียวกันกับที่พาเขาไปหาโคลนดูด ก่อนที่เขาจะจมลงไป
          “อ่า...โคลัส อินดิเจสทัส เพียงแค่ข้าอยู่ใกล้เจ้าข้าก็รู้สึกถึงพลังอำนาจอันเอ่อล้น เจ้าช่างมีค่าดุจโลหะชิ้นงามที่รอการตีขึ้นเป็นดาบอันแข็งแกร่ง”เสียงใครคนหนึ่งดังออกมาจากแสงสว่างนั้น
          “จะ...เจ้าเป็นใครกัน ละ...แล้วเจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร”โคลัสถามอย่างหวาดๆ
          “นามของข้าคือ อิคนอแรนเทีย (Pecca Ignorantia, the Sin of Ignorance)” และแล้วเบื้องหลังแสงสว่างสีขาวก็ค่อยๆปรากฏเป็นร่างของปีศาจสาว ใบหน้าผิดแปลกใบจากมนุษย์ มือทั้งสองของมันมีอุรคเลื้อยพันรอบอยู่ หลังของมันมีปีกที่มีขนสีขาวงอกออกมาคล้ายกับปีกของเทวฑูต โคลัสรีบก้าวถอยห่างจากปีศาจด้วยความสะพรึงกลัว
          “ไม่ต้องกลัว ข้ามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้า”ปีศาจกล่าวพลางเคลื่อนที่มาใกล้ๆโคลัสอย่างช้า “ข้าเพียงแค่อยากจะขอสร้อยคอที่เจ้าใส่อยู่ตอนนี้”
          โคลัสก้มลงมองสร้อยคอที่ทำจากอัญมณีสีแดงสด ขดล้อมรอบด้วยมังกรที่ทำจากโลหะเงิน ที่ตัวเองใส่มาตั้งแต่เด็กๆก่อนที่จะพูดว่า “ข้าขอโทษจริงๆแต่ข้าให้ท่านไม่ได้หรอก เพราะมันเป็นของชิ้นเดียวที่พ่อและแม่ของข้าได้ให้ไว้ก่อนที่ท่านจะจากไป”
          “แต่ถ้าสร้อยคอนั้นมันจะทำให้คนหลายๆคนสมปารถนาหละ พ่อแม่ของเจ้าจะไม่มีความสุขมากกว่านี้หรอ เจ้าลองคิดดูดีๆนะ”ปีศาจสาวพยายามโน้มน้าวใจโคลัส ทำให้เขานิ่งไปชั่วขณะเพื่อครุ่นคิด
          “ข้าสัญญาว่าจะนำสร้อยนี้ไปใช้เป็นประโยชน์ พ่อแม่ของเจ้าก็จะได้ดีใจ แล้วเจ้าก็จะได้สบายใจว่าข้าจะนำมันไปใช้ในทางที่ดี” คำพูดโน้มน้าวใจของอิคนอเรีนเธีย ทำให้โคลัสหลงเชื่อ เขาค่อยๆปลดสร้อยคออย่างบอบบางแล้วส่งให้กับปีศาจ
          “ถ้า...ไม่มีธุระอะไรแล้ว ช่วยส่งข้ากลับไปยังที่เดิมด้วย”โคลัสพูด
          “อ้อ! ได้สิ”สิ้นสุดคำพูดของปีศาจ มันก็ตวัดมือหนึ่งครั้งกลางอากาศ บังเกิดเป็นประตูมิติเวลา ดูดกลืนร่างของโคลัสเข้าไป...
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
Logged


:::: AD12ENaL!Ne ::::
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 179


Email
« Reply #3 on: October 12, 2008, 05:14:44 PM »

          “โคลัส!...โคลัส!!...โคลัส อินดิเจสทัส!!!”จิเคียวตะโกนเรียกชื่อ พลางเขย่าร่างของโคลัส ที่นอนอยู่บนพื้นของห้องทดสอบ
          “หือ...ที่นี่ที่ไหนอีกหละ?”โคลัสค่อยๆลุกขึ้นอย่างสลึมสลือ “โอ๊ย!! อย่านะเจ็บ หยิกแก้มเค้าทำไมเนี่ย”
          “ตื่นได้แล้ว นี่มันห้องทดสอบเข้า เซนต์ โรเซตต้า อะคาเดมี่ มั่วแต่เพ้อเจ้ออยู่นั้นแหละเดี๋ยวก็ไม่ทันชาวบ้านชาวช่องกันพอดี เค้าไปไหนกันหมดแล้วรู้ไหมเนี่ย”จิเคียวดุเสียงเข้ม
          “ฮ่าๆๆ...เวลานายดุนิตลกดีเนอะ”โคลัสหัวเราะร่าอย่างไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดของจิเคียว “ช่วยพยุงไปหน่อยสิเจ็บแขนอ่ะ”โคลัสชี้ที่ผ้าโผกหัวที่เขาเอามาพันแผลที่แขนตัวเองตอนที่โดนลูกธนูยิงใส่
          “แขนเจ็บไม่ได้ขาเจ็บ ลุกเองไม่ได้ก็ไม่ต้องไป”จิเคียวพูดก่อนเดินจากไป
          “ชิ! คนใจดำ”โคลัสพ่นลมหายใจเป็นเชิงบ่น ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินตามจิเคียวไป “นิแล้วนายยังหาตราสัญลักษณ์อะไรนั้นของลุงคนนั้นไม่เจออีกหรอ?”
          “หาตั้งนานแล้วยังไม่เจอเลย ไหนเอาแขนข้างที่เจ็บมาให้ดูหน่อยสิ”โคลัสค่อยๆยื่นแขนข้างที่มีผ้าพันแผลไว้ให้จิเคียว “ผ้านี้มัน...”
          “ของราชวงศ์อิบริจที่หายสาปสูญไปของซาโลม”โคลัสต่อให้ ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้จิเคียวฟัง
          “น่าแปลก...ทำไมอยู่ๆปีศาจถึงต้องการสร้อยคอของพ่อแม่นาย มันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ๆเลย”จิเคียวพูดอย่างสงสัย “อยู่นิ่งๆได้มั้ยจะได้ช่วยรักษาให้” จิเคียวค่อยๆเอามือแตะที่แผลของโคลัสก่อนที่จะหลับตาและเริ่มร่ายมนต์เบาๆ แสงสีแสดสว่างขึ้นที่มือของเขา โคลัสรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาในบาดแผล ทันทีที่แสงสว่างจางลงจิเคียวก็ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วปล่อยมือของโคลัสลงช้าๆ
          “ทำได้ไงเนี่ย!!!... สุดยอดไปเลย”โคลัสจ้องมองแผลที่หายสนิทราวกับไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย “รีบไปกันเถอะ...”
          ทั้งสองเดินตรงไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ความเหน็ดเหนื่อยเริ่มทวีคูณมากขึ้นทุกๆครั้งที่ก้าวเท้า
          “ไม่ไหวแล้ว!! นายไปต่อเถอะ เค้าเดินต่อไม่ไหวแล้ว”ในที่สุดโคลัสก็ตะโกนออกมาแล้วทรุดลงไปนั้งอยู่ที่พื้น
          “ไม่นึกเลยนะว่านายจะเป็นคนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆอย่างนี้”จิเคียวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ถ้านายยอมแพ้ตอนนี้มันก็เท่ากับที่นายอุส่าห์ทำมาก็เท่ากับศูนย์ คิดดูสิบางทีเราอาจจะใกล้เจอมันแล้วก็ได้”
          “นั่นสิ...บางทีมันอาจจะอยู่ข้างหน้าเรานี่ก็ได้”โคลัสเริ่มมีกำลังใจและลุกขึ้นเพือที่จะเดินต่อ แต่ทันใดนั้นเอง บางสิ่งบางอย่างก็เข้าจู่โจมพวกเขาทันทีโดยไม่รู้ตัว
          มังกรขนาดใหญ่ที่กำลังโมโหเกรี้ยวกราดปรากฏเบื้องหน้าทั้งคู่  เกล็ดของมันเป็นสีดำมันวาว หางยาวเรียวประดุจแส่ที่พร้อมที่จะฟาดฟันทุกสิ่งทุกอย่างที่ขว้างทาง กรงเล็บอันใหญ่ของมันจิกเสื้อของจิเคียวแล้วยกขึ้นประจัญหน้ากับมัน
          “โคลัส!!! ทำอะไรสักอย่างสิ ฉันอยู่ข้างบนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย”จิเคียวตะโกน
          “จะให้ทำยังไงดีหละ? ในเมื่อฉันเวทย์มนต์ก็ไม่มี วิทยายุทธก็อ่อนหัด”โคลัสตะโกนตอบ
          “ไม่จริงหรอก คนๆนึงอย่างน้อยก็ต้องมีอะไรดีสักอย่าง ลองนึกดูดีๆนะว่านายมีพลังอำนาจด้านใดเด่น แล้วนายก็เอาอำนาจนั้นแหละ - - ”จิเคียวไม่ทันพูดจบเสื้อที่แขวนอยู่กับปลายกรงเล็บของมังกรก็ขาดดัง แครก! แล้วร่างของชายหนุ่มก็ค่อยๆร่วงหล่นเข้าไปในปากของมังกรอย่างช้าๆ
          “ไม่!!!!” โคลัสตะโกน ในขณะนั้นเองพายุฝนฟ้าคะนองก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สายฟ้ากระหน่ำฟาดมาที่ตัวของมังกรอย่างไม่ยั้ง ร่างของจิเคียวถูกลมพายุหอบมาอยู่ที่พื้นอย่างปลอดภัย
          “เห็นมั้ยบอกแล้วว่านายต้องทำได้”จิเคียวบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “นู้น...ดูสินั่นมันตราสัญลักษณ์นิ”เขาชี้ไปที่ตรารูปดอกกุหลาบสีเงินที่ถูกพันด้วยคำขวัญประจำโรงเรียนที่ร่างอันนิ่งสงบของมังกรนอนถือไว้อยู่
          “แล้ว...นายไม่ไปเอามาหละ มันเป็นของนายไม่ใช่หรอ นายเกือบจะต้องเสียชีวิตไปแล้วนะ นายสมควรที่จะได้มันมากกว่า”โคลัสชี้แจง
          “อะไรกันนี่ดูดีๆ ฉันได้มาตั้งนานแล้ว”จิเคียวโชว์ตราสัญลักษณ์ของตัวเอง “นายนั่นแหละไปเอามาก่อนที่มังกรจะตื่น เร็วๆ”
          “ชิ!ไหนบอกยังไม่มีไง โกหกกันนิ”โคลัสพูดก่อนที่จะเดินไปหยิบตราสัญลักษณ์
          “คนอุส่าห์มาช่วยนะ ยังมาว่าอีก ทีหลังไม่มาช่วยแล้ว”...
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
Logged


:::: AD12ENaL!Ne ::::
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 179


Email
« Reply #4 on: October 12, 2008, 05:17:12 PM »

          “ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกๆคนที่ผ่านการทดสอบรอบแรกไปได้ แต่...ยังเหลือการทดสอบอีกหนึ่งรอบ นั่นก็คือการสัมภาษณ์ อีกสักครู่ศาสตราจารย์มาทิลด้าจะแจกใบให้พวกเธอกรอก ข้อมูลให้ละเอียด แล้วรอฟังประกาศชื่อ”เมื่อชายชราคนเดิมพูดจบ หญิงสาวร่างเล็กวัยประมาณสามสิบต้นๆ ผมหยิกฟูสีชมพูแปร๊ด ด้านหลังแว่นตาพลาสติกสีดำหนาเตอะคือตัวตากลมโต เธอเดินหอบเอกสารกองใหญ่มาในชุดเปรี้ยวปริ๊สสสสสีเดียวกับผมของเธอ
          “เอาหละมารับเอกสารทีละคน ไม่ต้องแย่งกันนะ ได้ทุกคน”เธอวางเอกสารไว้บนโต๊ะ แล้วประกาศ
          “แค่นี้ก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ยังจะมาสัมภาษณ์กันอีกเนอะ”โคลัสบ่นกับจิเคียวหลังจากที่รับแบบสอบถามแล้ว
          “เขียนๆไปเหอะจะเข้ามั้ยหละโรงเรียนหนะ”จิเคียวดุ “เอ่อ...ว่าแต่นายจะเลือกเรียนวิชาพิเศษอะไรหละ”
          “ไม่รุเหมือนกันสิ อาจจะเลือกอะไรที่มันง่ายๆไว้ก่อน เพราะเราไม่ได้เก่งเหมือนนายนิ”โคลัสพูดอย่างตำหนิตัวเอง “งั้นเอาอันนี้ดีกว่าศาสตร์การชักจูงจิตใจ กับ พยากรณ์ศาสตร์ น่าสนุกดี ฮ่าๆ”
          “ฟูจิวาระ จิเคียว เชิญเข้าห้องสัมภาษณ์ได้แล้วค่า...”ศาสตราจารย์มาทิลด้าตะโกนเรียกชื่อ
          “จะเลือกอันนั้นก็ได้ สู้ๆเข้า ไปก่อนหละบายๆ”จิเคียวพูดทิ้งท้ายก่อนเดินหายเข้าไปในห้องสอบสัมภาษณ์
          พอจิเคียวหายเข้าไปในห้องโคลัสก็ตั้งหน้าตั้งตากรอกใบสมัครต่อ จนกระทั่งศาสตราจารย์มาทิลด้าขานชื่อเขา เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วสูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้งก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องสอบสัมภาษณ์อย่างมั่นใจ
          “ยินดีต้อนรับ โคลัส อินดิเจสทัส”ชายชราพูดอย่างเป็นกันเอง “เป็นยังไงบ้างกับการทดสอบรอบแรกหละ?”
          “ก็...ดีนะครับ แต่ว่ากว่าจะผ่านออกมาได้ก็ถือว่ายากเลยทีเดียว”โคลัสตอบ
          “งั้นหรอ แล้วทำไมเธอถึงคิดที่จะมาสมัครที่โรงเรียนนี้หละ ในเมื่อในเมอร์ริเซียก็มีโรงเรียนอีกตั้งหลายที่?”ชายชรายิงคำถามซะยาวเหยียดจนคนตอบถึงกับอึ้ง
          “คือว่าผมอยากจะลองค้นหาพลังของตนเองดูหนะครับ ผมเชื่อว่า ‘คนๆนึงอย่างน้อยก็ต้องมีอะไรดีสักอย่าง’”โคลัสตอบ พลางนึกขำตัวเองที่เอาคำพูดของจิเคียวที่บ่นตัวเองมาใช้
          ชายชรานั่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่จะถามต่อว่า “แล้วพลังอะไรในตัวเธอที่เธออยากที่จะค้นหามันหละ?”
          “อ่อ...ยังไม่รู้สิครับ เพราะว่าผมเองก็ไม่ได้เก่งด้านไหนเลย ฮ่าๆๆ”โคลัสหัวเราะร่า “แต่ว่าตอนที่อยู่ในห้องทดสอบผมสามารถเรียกเมฆฝนได้นะครับ แต่ผมไม่รู้วิธีที่จะควบคุมมัน”
          “งั้นรึ...ถ้าอย่างนั้นสิ่งนี้อาจจะช่วยให้เธอควบคุมมันก็ได้”ชายชรายื่นกุญแจให้กับโคลัส
          “หมายความว่า...”
          “เธอผ่านการทดสอบทั้งหมดแล้ว เธอได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนของ เซนต์ โรเซตต้า       อะคาเดมี่”ชายชรากล่าว “นี่คือกุญแจห้องพักของเธอรับไว้สิ”
          โคลัสรับกุญแจจากชายชราแล้วเดินออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...
          “ไง! ยิ้มหน้าบานมาเชียว”จิเคียวทักหลังจากเห็นโคลัสเดินออกมาจากห้องสัมภาษณ์
          “ผ่านฉลุย!!!”โคลัสพูดพร้อมกับโชว์กุญแจให้จิเคียวดู”เพราะจำคำพูดของนายจากห้องทดสอบรอบแรกได้นะเนี่ยถึงผ่านมาได้”
          “คำพูดอะไรหรอ?”จิเคียวถามอย่างงงๆ
          “คนๆนึงอย่างน้อยก็ต้องมีอะไรดีสักอย่าง”โคลัสเลียนเสียงจิเคียวแล้วทำท่าบ่น
          “นิล้อเค้าหรอ มานี่เลย จะหนีไปไหน”จิเคียววิ่งไล่จับโคลัสที่วิ่งแผ่นแนบไปแล้ว…
*~*~*~*~*~ End Of Chapter I *~*~*~*~*~ 2 B Continued *~*~*~*~*~
Logged


:::: AD12ENaL!Ne ::::
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 179


Email
« Reply #5 on: October 12, 2008, 05:22:26 PM »

โฟ่แตกกานที่ http://www.santoninogame.com/yabb/index.php?topic=44946.msg500819#msg500819 ได้เรยจร้า
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.073 seconds with 20 queries.