นั่งจับเข่าเล่าเรื่องผี!!!!!

[~NICO ROBIN~]

ขอโทษครับวันนี้เครียดมากเลยจิตไม่ค่อยปรกติ

อ่านครบทุกหน้ากระทู้นี้แล้วจิตจะปกติขึ้นมาครับ Confirm

คุณ ~NICO ROBIN~  โปรโมตกระทู้ได้ดีได้โล่ 

ผมตั้งกระทู้ ไม่มีอันไหนไม่ฮิต...(เอิ้กส์ๆ)
เนื่อจากการโปรโมตและดันนั่นเอง(ล้อเล่น)

Entertainer แห่งบอร์ด Genaral talk ต้องยกให้ผมครับ

เย้ๆๆๆ

เดี๋ยวเปิดเทอมผมจะเอาเรื่องผีมมาลงให้เยอะๆนะครับ

ปล.ผมเป็นนบ้ายอครับ

[boy]

^
^
รางวัลนักตั้งกระทู้เนื้อหาสร้างความบันเทิงดีเด่นได้แก่......................ตึ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คุณ ~NICO ROBIN~  ง้าบบบบบ   (แปะๆๆๆๆๆ)

[boy]

มีเรื่องจะมาเล่าเรื่องนึง.........
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ณ เกาะแห่งหนึ่งซึ่งมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์  เกาะแห่งนี้ถูกซื้อเอาไว้เป็นสถานที่ส่วนตัวของครอบครัวหนึ่ง

ในวันนี้เป็นวันรวมครอบครัวซึ่งทุกๆปี  ครอบครัวญาติๆทั้งหลายจะมารวมตัวกันเพื่อประชุมใหญ่  และ...ในปีนี้ก็จะมีการคุยกันเรื่องมรดกของครอบครัวด้วย

.............................

เรือสำราญได้มาจอดถึงเกาะเรียบร้อยแล้ว.... เนื่องจากเกาะนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ได้ เกาะนี้จึงมีนก พืชพันธุ์ต่างๆตามธรรมชาติ...

แต่ว่า......


















































กลับไม่มีเสียงนกนางนวลเลย  จะเรียกว่า เป็นลางร้ายรึเปล่านะ?  ฮี่ๆๆ

แล้วนำมาซึ่งตำนานแม่มดที่ไม่มีวันเลือนหายไปจากความทรงจำของคนบนเกาะนี้

------------------------------------------------

และแล้ว  เหล่าครอบครัวและคนใช้ร่วมประมาณ 18 ชีวิตบนเกาะก็ได้เริ่มโศกนาฏกรรมขึ้น...

เมื่อ 1 ในลูกชายเดินเข้ามาในคฤหาสถ์  สวนกุหลาบที่อยู่ตรงหน้าคือต้นตอของความวุ่นวายข้อแรก

เหล่าคนรับใช้และครอบครัวเตรียมรับประทานอาหารเที่ยงพร้อมกับผู้นำตระกูล...

ลูกชายคนหนึ่งเดินไปรอบๆระเบียงพร้อมพี่น้อง และเจอรูปภาพรูปหนึ่ง...รูปภาพของแม่มด

และแล้ว ภาพตรงหน้านั้นคือ...แม่มดแห่งเกาะ...

ลุกชายคนนั้นจึงเอารูปภาพจากผนังวางลงมาดู  ที่ด้านหลังนั้นคือ..
"ยามเมื่อเหล่าปลา"อายุ"แหวกว่ายในแม่น้ำสายที่มุ่งสู่บ้านเกิดที่หวนคำนึงถึง เมื่อนั้นเหล่าผู้ละโมบในทองคำจะพากันลงไป
เพื่อเสาะหากุญแจ หากลงไปในแม่น้ำ ในไม่ช้าจักถึงบ้านเกิด จงเสาะหาชายฝั่งตามคำกล่าวอ้างของบุคคลทั้ง 2 ณ ที่ซึ่งกุญแจสู่หมู่บ้านทองคำ
ได้หลับใหลอยู่  ผู้ถือครองกุญแจจักเข้าสู่หมู่บ้านแห่งทองคำตามพิธีกรรมบันทึกไว้ด้านล่าง..........

"พรากจาก"
"สังเวย"
"ฆ่าชำแหละ"

"คืนแรกสังเวยคนทั้งหกแด่กุญแจในฐานะผู้ถูกเลือก
คืนที่ 2 คู่รักจากกลุ่มคนที่เหลือจักต้องถูกพลัดพราก
คืนที่ 3 กลุ่มคนที่เหลืออยู่ จงสรรเสริญศรัทธาในนามของข้า
คืนที่ 4 ฆ่าชำแหละส่วนหัว
      5 อก
      6 ท้อง
      7 เข่า
      8 ขา"
+++++++++++++

ไว้ถ้ามีคนติดตามจะมาต่อครับ  แต่ถ้า no จะทิ้ง credit ไว้แล้วไม่ต่อครับ  

[~NICO ROBIN~]

วันเดียวเอาไป 1/3 เลยรึ

แล้ววันต่อมา ไม่อยากนึกถึงเลย

แถมอยู่บนเกาะอีก

นึกถึงเรื่อง Hikanjima เลยแฮะ

รอต่ออยู่น่ะ ให้โพสต์ให้จบ เราก็มีเรื่องมามาเล่าเหมือนกัน

[< The Sun~++>]

ลงอีกคับๆ

 

[~NICO ROBIN~]

นานไป เรามาเล่าก่อนล่ะกัน

เรื่อง ผีทวงเมรุ

เรื่องมีอยู่ว่า(คนเล่าขับแท็กซี่เป็นอาชีพ)
วันหนึ่งเขาขับแท็กซี่ไป ตอนนั้นดึกมาก มีพระคนหนึ่งโบก เขาเลยจอดรับ

เขาก็รับมา พระบอกให้เขาขับไปเรื่อยๆ สุดท้ายพระลงจากแท็กซี่

พร้อมกับได้ลืม ปี๊บไว้ 1 ใบ

เขาไม่เห็น พอขับไปสักพัก อ่าวว ปี้บใครหว่า จะคืนก็คงไม่ทัน
เขาเลยเก็บไว้ เขาเปิดดูปรากฏว่ามันคือ.....(อุบไว้ก่อน)

วันต่อมาเขาขี่รถแท็กซี่อย่างปกติ และแล้วก็ได้ยินเสียงคนโหย หวน จากข้างหลังเขา เรื่อยๆเลย
เขาจึงถามผู้โดยสาร ทุกคนก็ตอบว่า ไม่เห็นได้ยิน
บางทีก้ได้กลิ่นโชยๆด้วย
เป็นอย่างนี้ 3 วัน

วันหนึ่งเขาจะกลับบ้าน เดินมาถึงปากซอย ก้ได้ยินเสียงเอะอะ เหมือนใครคุยกันรอบๆตัวเขา
เขามองไปรอบๆ ก็พบกับเงาเป็นเงาคนประมาณ 30 เงา เขากลัวมาก

เลยรีบวิ่งกลับบ้านที่อยุ่ไม่ไกล พอเขามาถึงบ้านเสียงก็หายไปตรงประตูบ้าน
สุดท้าย เขาก็ได้ยินพวก ผีๆ คุยกันว่า รอมันที่หน้าบ้านนี่ล่ะ
เขากลัวสุดชีวิต เลยสงสัยกับปี้บ เขาจึงจะเอามันไปคืน
พอดีในปิ้บมีที่อยุ่วัดด้วย

พอเขาเอาไปคืน พระที่นั่นก็บอกว่า สายไปแล้วล่ะ

เจ้าอาวาสที่อมเงินน่ะผูกคอตายไปแล้ว

เงินนั่นเป็นเงินสร้างเมรุ

ยังมีศพมากมายรอเผาอีกอยู่

เขาก็รู้ทันทีว่า ผีเหล่านั้นต้องการเมรุนั่นเอง

(ปิ้บนั่นมีเงิน 2 ล้านบาทครับ)

[~!{B_KunG}!~]

เหอะๆ ก็สร้างเอง
แล้วเปงเจ้าภาพเลยดิ

[boy]

เวลาอ่านเรื่องผม... http://video.mthai.com/player.php?id=13M1204703324M0

ได้อารมณ์ดี  เห็นมันเข้ากับเนื้อเรื่องเลยเอามา 

ไว้เนื้อเรื่องจะมาอัพๆๆๆ

[~NICO ROBIN~]

เหอะๆ ก็สร้างเอง
แล้วเปงเจ้าภาพเลยดิ

หลังจากเอาเงินไปคืนก็ยังมีผีบางส่วนยังตามเขาอีก


เขาเลยเลิกขับแท็กซี่ แล้วไปบวชไม่สึก

[~!{B_KunG}!~]

เหอะๆ ก็สร้างเอง
แล้วเปงเจ้าภาพเลยดิ

หลังจากเอาเงินไปคืนก็ยังมีผีบางส่วนยังตามเขาอีก


เขาเลยเลิกขับแท็กซี่ แล้วไปบวชไม่สึก

รู้ได้ไงว่าเขาบวชอะ ตอนเจอเขายังขับแท็กซี่อยู่ไม่ใช่หรอ

[I_dont_know]

อ๊ะ น่ากลัวมากๆ

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสวิจัยบ้าๆ บอๆ ฉบับหนึ่ง ตีแผ่ความจริงเชิง”ฟิสิกส์”ของซานต้าคลอสเอาไว้ว่า



1) ไม่มีใครรู้จักกวางเรนเดียร์พันธุ์ไหนที่บินได้ มีสิ่งมีชีวิต 3 แสนชนิดที่เราจัดประเภทไว้ ส่วนมากเป็นแมลงและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำพวกพวกเชื้อ โรค แต่ในนั้นก็ไม่ได้บัญญัติไว้ชัดเจนนี่ว่า กวางเรนเดียร์ที่มีอยู่น่ะ บินไม่ได้ และซานต้าเท่านั้นแหล่ะที่เคยเห็นมันบิน
(สมมุติฐานนี้กล่าวว่า กวางเรนเดียร์บินได้มีอยู่จริง การที่เราไม่เคยเห็นกวางเรนเดียร์บิน เพราะมันอาจจะขี้เกียจบินให้เราเห็นก็ได้ การที่เราเห็นกวางเราเดียร์เดินบนดิน ไม่ได้หมายความว่า มันบินไม่ได้สักหน่อย)

2) ในโลกมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ประมาณ 2 พันล้านคน แต่ซานต้าไม่ต้องให้ของขวัญเด็กที่เกิดในศาสนาอิสลาม ฮินดู ยิว พุทธ ดังนั้น จึงมีเด็กที่ไม่ต้องให้ของขวัญ 378 ล้านคน (15%) และจากการประมาณ ครอบครัวหนึ่งมีบุตรเฉลี่ย 3.5 คน ซึ่งคิดเป็นจำนวนบ้านที่ซานต้าต้องไปส่งของขวัญ จำนวน 91.8 ล้านหลัง คาดไว้ว่าหนึ่งครอบครัวต้องมีเด็กดีสักคนอย่างน้อย (ซานต้าเอาของขวัญไปให้เฉพาะเด็กดี)

3) ซานต้ามีเวลาในการส่งของขวัญ 31 ชม เนื่องจากช่วงต่างของเวลาและการหมุนของโลก สมมุติให้ซานต้าเดินทางส่งของขวัญจากด้านทิศตะวันออก ไปตะวันตก ดังนั้นซานต้าต้องแวะส่งของขวัญด้วยอัตรา 822.6 ครั้งต่อวินาที (ของขวัญจะนอนสงบใต้ต้นคริสต์มาส และถุงเท้า เฉพาะคืนคริสต์มาสอีฟ)

บนสมมติฐานว่าแต่ละหลังมีเด็กดี 1 คน ซานตาต้องใช้เวลาภายใน 0.01 วินาทีในการทำเรื่องต่อไปนี้
- ลงจอดบนหลังคา
- ลงจากรถเลื่อน
- กระโดดลงปล่องไฟ
- ใส่ของขวัญในถุงเท้า
- วางของขวัญไว้ใต้ต้นคริสมาส์ต
- ทานของกินเล่น
- ปีนขึ้นปล่องไฟ
- ขึ้นไปนั่งบนรถเลื่อน และไปบ้านหลังถัดไป

หากสมมติว่ามีบ้าน 91.8 ล้านหลังที่ต้องส่งของขวัญทั่วโลก (ตัวเลขใช้ในการสมมติเท่านั้น) หากระยะทางจากบ้านแต่ละหลัง ห่างกัน 0.78 ไมล์ ซานตาจะใช้ระยะทางทั้งหมด 75.5 ล้านไมล์ ไม่นับการหยุดเพื่อทำธุระส่วนตัวภายในช่วงเวลา 31 ชั่วโมง เช่น ทานอาหาร, อื่นๆ

ดังนั้นรถเลื่อนจะต้องมีความเร็ว 650 ไมล์ต่อวินาที (3000 มัค) หากจะเปรียบเทียบแล้ว พาหนะที่เร็วที่สุดที่มนุษย์สร้างขึ้นคือ the Ulysses space probe เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 27.4 ไมล์ต่อวินาที
และกวางเรนเดียร์ทั่วไปมีความเร็วสูงสุด 15 ไมล์ต่อชั่วโมง

4) น้ำหนักของเลื่อนก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ สมมติให้เด็กแต่ละคนได้ของขวัญเป็นตัวต่อเลโก(กล่องข นาดกลาง 2 ปอนด์) เลื่อนจะต้องบรรทุกสิ่งของรวม 321,300 ตัน ไม่รวมซานต้าที่อ้วนเกินพอดี

เรนเดียร์ทั่วๆ ไปสามารถลากสิ่งของที่หนักไม่เกิน 300 ปอนด์ แม้ว่าเรนเดียร์ที่บินได้ (ในข้อ 1) จะสามารถลากสิ่งของได้ 10 เท่าของปกติก็ตาม เรายังต้องการเรนเดียร์ถึง 214,200 ตัว และนี่ก็จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ยังไม่ได้พูดถึงน้ำหนักเลื่อนอีก 353,430 ตัน น้ำหนักนี้หนักเป็น 4 เท่าของเรือเดินสมุทธ Queen Elizabeth.

5) พิจารณาที่มวล 353,000 ตัน วิ่งด้วยความเร็ว 650 ไมล์ต่อวินาที จะสร้างแรงต้านอากาศสูงมหาศาล จะทำให้เกิดความร้อนที่ตัวเรนเดียร์ในระดับเดียวกับย านอวกาศในขณะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ กวางเรนเดียร์คู่หน้าจะต้องทนรับพลังงาน 14.3 QUINTILLION (14.3 x 10^18) จูลส์ต่อวินาที

ในระยะสั้นพวกมันจะระเหิดเป็นไอทันที และเกิดลูกโซ่ต่อเรนเดียร์ตัวที่อยู่ข้างหลัง และทำให้เกิดโซนิคบูม เรนเดียร์ทั้งหมดจะระเหิดไปภายในเวลา 0.00426 วินาที ในขณะที่ซานต้าจะถูกแรงกระทำ 17,500.06 เท่าของแรง G ซานต้าที่น้ำหนักตัว 250 ปอนด์ (ค่อนข้างผอม)จะถูกผลักจนล้มไปบนเลื่อนด้วยน้ำหนัก 4,315,015 ปอนด์


สรุป
ถ้าซานตาเคยส่งของขวัญให้เด็กๆในคริสต์มาสปีก่อน ตอนนี้เขาตายแล้ว

ระวังนะครับ คริสต์มาสนี้คุณอาจจะเจอเค้าอีกก็ได้     

ตามกฎฟิสิกษ์ โซนิคบูม คือการที่ คลื่นเสียงเกิดจากอากาศถูกกดดัน โดยต้นกำเนิดของเสียง จะกดดันอากาศให้เกิดความไม่สม่ำเสมอกัน (ในกรณีที่เสียงเคลื่อนผ่านอากาศ) โดยความกดดันที่ไม่สม่ำเสมอ
นี้จะเคลื่อนตัวผ่านอากาศจนกระทั่งมากระทบหูของเรา ซึ่งเราสามารถ sense ความแตกต่างของความกดดันนี้ แล้วแปลออกมาเป็นเสียงในสมองของเรา

ซึ่งก็คือ ซานต้าต้องขับ เลื่อนแบบมั่วๆซั่วๆ เช่น การขับ ร่อนดิ่งสู่พื้น แล้วก็ เร่งขึ้นข้างบน อย่างรวดเร็ว

ถ้าอยางนั้น ซานต้า เป็นเด็กแว้นเหรอ  ขับมั่ว 



จากเรื่องนี้ทำให้รู้ว่า ซานต้า เป็น เด็กแว้น ครับ 

ไม่แน่นะ ซานต้าอาจไม่ขับมั่ว ตอนนี้ อาจยังไม่ตายก็ได้นะ

ฮ่าๆๆ หรือไม่ก็ใส่หมวกกันน็อค เลยไม่ดับ

[~!{B_KunG}!~]

อ๊ะ น่ากลัวมากๆ

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสวิจัยบ้าๆ บอๆ ฉบับหนึ่ง ตีแผ่ความจริงเชิง”ฟิสิกส์”ของซานต้าคลอสเอาไว้ว่า



1) ไม่มีใครรู้จักกวางเรนเดียร์พันธุ์ไหนที่บินได้ มีสิ่งมีชีวิต 3 แสนชนิดที่เราจัดประเภทไว้ ส่วนมากเป็นแมลงและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำพวกพวกเชื้อ โรค แต่ในนั้นก็ไม่ได้บัญญัติไว้ชัดเจนนี่ว่า กวางเรนเดียร์ที่มีอยู่น่ะ บินไม่ได้ และซานต้าเท่านั้นแหล่ะที่เคยเห็นมันบิน
(สมมุติฐานนี้กล่าวว่า กวางเรนเดียร์บินได้มีอยู่จริง การที่เราไม่เคยเห็นกวางเรนเดียร์บิน เพราะมันอาจจะขี้เกียจบินให้เราเห็นก็ได้ การที่เราเห็นกวางเราเดียร์เดินบนดิน ไม่ได้หมายความว่า มันบินไม่ได้สักหน่อย)

2) ในโลกมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ประมาณ 2 พันล้านคน แต่ซานต้าไม่ต้องให้ของขวัญเด็กที่เกิดในศาสนาอิสลาม ฮินดู ยิว พุทธ ดังนั้น จึงมีเด็กที่ไม่ต้องให้ของขวัญ 378 ล้านคน (15%) และจากการประมาณ ครอบครัวหนึ่งมีบุตรเฉลี่ย 3.5 คน ซึ่งคิดเป็นจำนวนบ้านที่ซานต้าต้องไปส่งของขวัญ จำนวน 91.8 ล้านหลัง คาดไว้ว่าหนึ่งครอบครัวต้องมีเด็กดีสักคนอย่างน้อย (ซานต้าเอาของขวัญไปให้เฉพาะเด็กดี)

3) ซานต้ามีเวลาในการส่งของขวัญ 31 ชม เนื่องจากช่วงต่างของเวลาและการหมุนของโลก สมมุติให้ซานต้าเดินทางส่งของขวัญจากด้านทิศตะวันออก ไปตะวันตก ดังนั้นซานต้าต้องแวะส่งของขวัญด้วยอัตรา 822.6 ครั้งต่อวินาที (ของขวัญจะนอนสงบใต้ต้นคริสต์มาส และถุงเท้า เฉพาะคืนคริสต์มาสอีฟ)

บนสมมติฐานว่าแต่ละหลังมีเด็กดี 1 คน ซานตาต้องใช้เวลาภายใน 0.01 วินาทีในการทำเรื่องต่อไปนี้
- ลงจอดบนหลังคา
- ลงจากรถเลื่อน
- กระโดดลงปล่องไฟ
- ใส่ของขวัญในถุงเท้า
- วางของขวัญไว้ใต้ต้นคริสมาส์ต
- ทานของกินเล่น
- ปีนขึ้นปล่องไฟ
- ขึ้นไปนั่งบนรถเลื่อน และไปบ้านหลังถัดไป

หากสมมติว่ามีบ้าน 91.8 ล้านหลังที่ต้องส่งของขวัญทั่วโลก (ตัวเลขใช้ในการสมมติเท่านั้น) หากระยะทางจากบ้านแต่ละหลัง ห่างกัน 0.78 ไมล์ ซานตาจะใช้ระยะทางทั้งหมด 75.5 ล้านไมล์ ไม่นับการหยุดเพื่อทำธุระส่วนตัวภายในช่วงเวลา 31 ชั่วโมง เช่น ทานอาหาร, อื่นๆ

ดังนั้นรถเลื่อนจะต้องมีความเร็ว 650 ไมล์ต่อวินาที (3000 มัค) หากจะเปรียบเทียบแล้ว พาหนะที่เร็วที่สุดที่มนุษย์สร้างขึ้นคือ the Ulysses space probe เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 27.4 ไมล์ต่อวินาที
และกวางเรนเดียร์ทั่วไปมีความเร็วสูงสุด 15 ไมล์ต่อชั่วโมง

4) น้ำหนักของเลื่อนก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ สมมติให้เด็กแต่ละคนได้ของขวัญเป็นตัวต่อเลโก(กล่องข นาดกลาง 2 ปอนด์) เลื่อนจะต้องบรรทุกสิ่งของรวม 321,300 ตัน ไม่รวมซานต้าที่อ้วนเกินพอดี

เรนเดียร์ทั่วๆ ไปสามารถลากสิ่งของที่หนักไม่เกิน 300 ปอนด์ แม้ว่าเรนเดียร์ที่บินได้ (ในข้อ 1) จะสามารถลากสิ่งของได้ 10 เท่าของปกติก็ตาม เรายังต้องการเรนเดียร์ถึง 214,200 ตัว และนี่ก็จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ยังไม่ได้พูดถึงน้ำหนักเลื่อนอีก 353,430 ตัน น้ำหนักนี้หนักเป็น 4 เท่าของเรือเดินสมุทธ Queen Elizabeth.

5) พิจารณาที่มวล 353,000 ตัน วิ่งด้วยความเร็ว 650 ไมล์ต่อวินาที จะสร้างแรงต้านอากาศสูงมหาศาล จะทำให้เกิดความร้อนที่ตัวเรนเดียร์ในระดับเดียวกับย านอวกาศในขณะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ กวางเรนเดียร์คู่หน้าจะต้องทนรับพลังงาน 14.3 QUINTILLION (14.3 x 10^18) จูลส์ต่อวินาที

ในระยะสั้นพวกมันจะระเหิดเป็นไอทันที และเกิดลูกโซ่ต่อเรนเดียร์ตัวที่อยู่ข้างหลัง และทำให้เกิดโซนิคบูม เรนเดียร์ทั้งหมดจะระเหิดไปภายในเวลา 0.00426 วินาที ในขณะที่ซานต้าจะถูกแรงกระทำ 17,500.06 เท่าของแรง G ซานต้าที่น้ำหนักตัว 250 ปอนด์ (ค่อนข้างผอม)จะถูกผลักจนล้มไปบนเลื่อนด้วยน้ำหนัก 4,315,015 ปอนด์


สรุป
ถ้าซานตาเคยส่งของขวัญให้เด็กๆในคริสต์มาสปีก่อน ตอนนี้เขาตายแล้ว

ระวังนะครับ คริสต์มาสนี้คุณอาจจะเจอเค้าอีกก็ได้     

ตามกฎฟิสิกษ์ โซนิคบูม คือการที่ คลื่นเสียงเกิดจากอากาศถูกกดดัน โดยต้นกำเนิดของเสียง จะกดดันอากาศให้เกิดความไม่สม่ำเสมอกัน (ในกรณีที่เสียงเคลื่อนผ่านอากาศ) โดยความกดดันที่ไม่สม่ำเสมอ
นี้จะเคลื่อนตัวผ่านอากาศจนกระทั่งมากระทบหูของเรา ซึ่งเราสามารถ sense ความแตกต่างของความกดดันนี้ แล้วแปลออกมาเป็นเสียงในสมองของเรา

ซึ่งก็คือ ซานต้าต้องขับ เลื่อนแบบมั่วๆซั่วๆ เช่น การขับ ร่อนดิ่งสู่พื้น แล้วก็ เร่งขึ้นข้างบน อย่างรวดเร็ว

ถ้าอยางนั้น ซานต้า เป็นเด็กแว้นเหรอ  ขับมั่ว 

อาจเปงคนซ้อนท้ายก็ได้นะ 55+

[~NICO ROBIN~]

เหอะๆ ก็สร้างเอง
แล้วเปงเจ้าภาพเลยดิ

หลังจากเอาเงินไปคืนก็ยังมีผีบางส่วนยังตามเขาอีก


เขาเลยเลิกขับแท็กซี่ แล้วไปบวชไม่สึก

รู้ได้ไงว่าเขาบวชอะ ตอนเจอเขายังขับแท็กซี่อยู่ไม่ใช่หรอ

ก็เมียเขามาเล่าให้พี่ป๋องฟังทีหลัง
เอามาจาก หนังสือพี่ป๋องน่ะ

อ๊ะ น่ากลัวมากๆ

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสวิจัยบ้าๆ บอๆ ฉบับหนึ่ง ตีแผ่ความจริงเชิง”ฟิสิกส์”ของซานต้าคลอสเอาไว้ว่า



1) ไม่มีใครรู้จักกวางเรนเดียร์พันธุ์ไหนที่บินได้ มีสิ่งมีชีวิต 3 แสนชนิดที่เราจัดประเภทไว้ ส่วนมากเป็นแมลงและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำพวกพวกเชื้อ โรค แต่ในนั้นก็ไม่ได้บัญญัติไว้ชัดเจนนี่ว่า กวางเรนเดียร์ที่มีอยู่น่ะ บินไม่ได้ และซานต้าเท่านั้นแหล่ะที่เคยเห็นมันบิน
(สมมุติฐานนี้กล่าวว่า กวางเรนเดียร์บินได้มีอยู่จริง การที่เราไม่เคยเห็นกวางเรนเดียร์บิน เพราะมันอาจจะขี้เกียจบินให้เราเห็นก็ได้ การที่เราเห็นกวางเราเดียร์เดินบนดิน ไม่ได้หมายความว่า มันบินไม่ได้สักหน่อย)

2) ในโลกมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ประมาณ 2 พันล้านคน แต่ซานต้าไม่ต้องให้ของขวัญเด็กที่เกิดในศาสนาอิสลาม ฮินดู ยิว พุทธ ดังนั้น จึงมีเด็กที่ไม่ต้องให้ของขวัญ 378 ล้านคน (15%) และจากการประมาณ ครอบครัวหนึ่งมีบุตรเฉลี่ย 3.5 คน ซึ่งคิดเป็นจำนวนบ้านที่ซานต้าต้องไปส่งของขวัญ จำนวน 91.8 ล้านหลัง คาดไว้ว่าหนึ่งครอบครัวต้องมีเด็กดีสักคนอย่างน้อย (ซานต้าเอาของขวัญไปให้เฉพาะเด็กดี)

3) ซานต้ามีเวลาในการส่งของขวัญ 31 ชม เนื่องจากช่วงต่างของเวลาและการหมุนของโลก สมมุติให้ซานต้าเดินทางส่งของขวัญจากด้านทิศตะวันออก ไปตะวันตก ดังนั้นซานต้าต้องแวะส่งของขวัญด้วยอัตรา 822.6 ครั้งต่อวินาที (ของขวัญจะนอนสงบใต้ต้นคริสต์มาส และถุงเท้า เฉพาะคืนคริสต์มาสอีฟ)

บนสมมติฐานว่าแต่ละหลังมีเด็กดี 1 คน ซานตาต้องใช้เวลาภายใน 0.01 วินาทีในการทำเรื่องต่อไปนี้
- ลงจอดบนหลังคา
- ลงจากรถเลื่อน
- กระโดดลงปล่องไฟ
- ใส่ของขวัญในถุงเท้า
- วางของขวัญไว้ใต้ต้นคริสมาส์ต
- ทานของกินเล่น
- ปีนขึ้นปล่องไฟ
- ขึ้นไปนั่งบนรถเลื่อน และไปบ้านหลังถัดไป

หากสมมติว่ามีบ้าน 91.8 ล้านหลังที่ต้องส่งของขวัญทั่วโลก (ตัวเลขใช้ในการสมมติเท่านั้น) หากระยะทางจากบ้านแต่ละหลัง ห่างกัน 0.78 ไมล์ ซานตาจะใช้ระยะทางทั้งหมด 75.5 ล้านไมล์ ไม่นับการหยุดเพื่อทำธุระส่วนตัวภายในช่วงเวลา 31 ชั่วโมง เช่น ทานอาหาร, อื่นๆ

ดังนั้นรถเลื่อนจะต้องมีความเร็ว 650 ไมล์ต่อวินาที (3000 มัค) หากจะเปรียบเทียบแล้ว พาหนะที่เร็วที่สุดที่มนุษย์สร้างขึ้นคือ the Ulysses space probe เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 27.4 ไมล์ต่อวินาที
และกวางเรนเดียร์ทั่วไปมีความเร็วสูงสุด 15 ไมล์ต่อชั่วโมง

4) น้ำหนักของเลื่อนก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ สมมติให้เด็กแต่ละคนได้ของขวัญเป็นตัวต่อเลโก(กล่องข นาดกลาง 2 ปอนด์) เลื่อนจะต้องบรรทุกสิ่งของรวม 321,300 ตัน ไม่รวมซานต้าที่อ้วนเกินพอดี

เรนเดียร์ทั่วๆ ไปสามารถลากสิ่งของที่หนักไม่เกิน 300 ปอนด์ แม้ว่าเรนเดียร์ที่บินได้ (ในข้อ 1) จะสามารถลากสิ่งของได้ 10 เท่าของปกติก็ตาม เรายังต้องการเรนเดียร์ถึง 214,200 ตัว และนี่ก็จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ยังไม่ได้พูดถึงน้ำหนักเลื่อนอีก 353,430 ตัน น้ำหนักนี้หนักเป็น 4 เท่าของเรือเดินสมุทธ Queen Elizabeth.

5) พิจารณาที่มวล 353,000 ตัน วิ่งด้วยความเร็ว 650 ไมล์ต่อวินาที จะสร้างแรงต้านอากาศสูงมหาศาล จะทำให้เกิดความร้อนที่ตัวเรนเดียร์ในระดับเดียวกับย านอวกาศในขณะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ กวางเรนเดียร์คู่หน้าจะต้องทนรับพลังงาน 14.3 QUINTILLION (14.3 x 10^18) จูลส์ต่อวินาที

ในระยะสั้นพวกมันจะระเหิดเป็นไอทันที และเกิดลูกโซ่ต่อเรนเดียร์ตัวที่อยู่ข้างหลัง และทำให้เกิดโซนิคบูม เรนเดียร์ทั้งหมดจะระเหิดไปภายในเวลา 0.00426 วินาที ในขณะที่ซานต้าจะถูกแรงกระทำ 17,500.06 เท่าของแรง G ซานต้าที่น้ำหนักตัว 250 ปอนด์ (ค่อนข้างผอม)จะถูกผลักจนล้มไปบนเลื่อนด้วยน้ำหนัก 4,315,015 ปอนด์


สรุป
ถ้าซานตาเคยส่งของขวัญให้เด็กๆในคริสต์มาสปีก่อน ตอนนี้เขาตายแล้ว

ระวังนะครับ คริสต์มาสนี้คุณอาจจะเจอเค้าอีกก็ได้     

ตามกฎฟิสิกษ์ โซนิคบูม คือการที่ คลื่นเสียงเกิดจากอากาศถูกกดดัน โดยต้นกำเนิดของเสียง จะกดดันอากาศให้เกิดความไม่สม่ำเสมอกัน (ในกรณีที่เสียงเคลื่อนผ่านอากาศ) โดยความกดดันที่ไม่สม่ำเสมอ
นี้จะเคลื่อนตัวผ่านอากาศจนกระทั่งมากระทบหูของเรา ซึ่งเราสามารถ sense ความแตกต่างของความกดดันนี้ แล้วแปลออกมาเป็นเสียงในสมองของเรา

ซึ่งก็คือ ซานต้าต้องขับ เลื่อนแบบมั่วๆซั่วๆ เช่น การขับ ร่อนดิ่งสู่พื้น แล้วก็ เร่งขึ้นข้างบน อย่างรวดเร็ว

ถ้าอยางนั้น ซานต้า เป็นเด็กแว้นเหรอ  ขับมั่ว 

อาจเปงคนซ้อนท้ายก็ได้นะ 55+

โคตรซิ่งนะ..

[EL Corazont]

สวัสดี...

[~NICO ROBIN~]

สวัสดี...

จนกระทุ้ตกหน้าแล้วจ้า

เพราะไม่มาปล่อยเรื่องซาดิสม์เลย

[EL Corazont]

มาปล่อยแล้วคร้าบ ดองไว้เป้นชาติ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

ณ หมู่บ้านอันแสนอบอุ่นในหุบเขา มีครอบครัวครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่
"นี่ ลูกเคน(เคนจิโร่ หมัดดาวเหนือไง55+)จ๋า"
"ค่ะ(!) แม่" เสียงใสๆขานรับมาจากนอกบ้าน
"คุณยายไม่สบายแน่ะ ท่านส่งจดหมายมาเมื่อเช้า เอาผลไม้ไปเยี่ยมท่านหน่อยสิ"
"แต่บ้านคุณยายมันอยู่ไกลมากนะ แม่ขาหนูขี้เกียจเดินไปอ่ะ วันหลังนะแม่นะ" เด็กหญิงหมัดอุดรเทวะ ออดอ้อนแม่
"ไม่ได้นะลูกเคนขา คุณยายป่วยหนักมากเลย ตัวเงี้ยร้อน วรนุชๆ เลย"
"ไปก็ได้ แต่หนูขอใส่หมวกสีแดงของหนูนะ" "ตามใจจ้ะ"


ออกเดินทาง "โชคดีนะลูกเคน" แม่กล่าวอำลา

เด็กหญิงเดินทอดน่องออกจากหมู่บ้านไปเรื่อยๆด้วยอารมณ์ที่ร่าเริง จนกระทั่งมาถึงไร่ข้าวโพด....
"ต้นข้าวโพดหน้ากลัวจัง" เด็กหญิงคิดจะเดินอ้อมไร่ไป แต่ก็อยากให้ถึงบ้านคุณยายก่อนมืด ดังนั้นหล่อนจึงอาศัยการกระจัด กลั้นใจเดินฝ่าไร่ข้าวโพดไป

เด็กหญิงหมวกแดงเดินลัดต้นข้าวโพดที่สูงกว่าเธอเท่าตัวอย่างหวาดหวั่น ในหัวจินตนาการไปถึงสิ่งต่างๆนาๆ

ไร่ข้าวโพดชอบมีผี
ไร่ข้าวโพดมีฆาตกรโรคจิตแน่ๆ
ไร่ข้าวโพดมันอาจจะมี......."หวัดดี"
 
เด็กหญิงแทบเป็นลม ตกใจกับการปรากฎตัวของเด็กชาย ที่มายืนประชันหน้ากับเธอ
"หวะ หวะ หวัดดี"เคนจิโร่ ตอบ "เธอ.."
"เราหลงทาง"เด็กชายตอบ
"จริงหรอ!หลงมากี่ ชม. แล้วเนี่ยคงเหนื่อยแย่เลยสิ" เด็กหญิงถามด้วยความห่วงใย
"เราหิว" ขอกินหน่อย
“เรามีส้มอยู่ลูกนึง กินซะสิ”
“เราอยากิน....หนูต่างหากล่ะ”    พริบตาอากาศก็วิบปริตทันที ฝนกระหน่ำตกลงมา ดวงจันทร์มาแทนที่ดวงสุริยา เด็กชายเบื้องหน้าก็กลายร่างเป็นหม่าป่าขนาดใหญ่ “แฮ่~~” เสียงครวญของหมาป่าเบื้องหน้าเด็กหญิง


เด็กน้อยรู้แล้วว่า ไร่ข้าวโพดไม่มีอะไรหรอก แต่ “หนูน้อยหมวกแดง” นั้นต่างหากที่ต้องมีหมาป่าและคุณยาย.....
เด็กน้อยรู้ดีว่า หนีไปก็หนีไม่พ้น สู้เผชิญหน้ากับมันเลยดีกว่า คุณยายสอนว่าอย่าหนีปํญหาจงเผชิญหน้ากับมัน ซึ่งการสู้กับมนุษย์หมาป่านั้น มันไม่ตรงตามตำรับของนิทานเลย 

“โฮ่ จะสู้หรือเด็กน้อย เจ้าไม่มีอะไรเลยนะ และจะไม่มีนายพรานมาช่วยด้วย”
“ไม่เป็นไร” สิ้นเสียงเด็กน้อยคว้าฝักข้าวโพดมาปักตาของหมาป่าทั้งสองข้าง แล้ว คว้าก้อนหินแถวนั้นมายัดใส่ปากหมาป่าที่ล้มลง จากนั้นก็กระทืบก้อนหินทำซึ่งให้กรามขอมมันหลุดออก ยังไม่สาแก่ใจ เด็กน้อยยกก้อนหินออกมาแล้วทุบไปที่ท้องของมัน ทุบๆๆๆๆๆๆ จนเละ แล้วเอาเครื่องในมันออกมา เคี้ยวหยับๆ พร้อมกับหัวเราะชอบใจในความมันส์ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมา......


บ้านคุณยาย
“หวัดดีค่ะคุณยาย” เด็กหญิงทักทาย
“อ้าวไปทำอะไรมา ทำไมตัวปีกโชกเลย อ๊ะ นั้นมันเลือดนี่นา ไปทำอะไรมาเนี่ย”
“ฆ่าหมาป่า” เด็กหญิงตอบเรียบๆ...

[EL Corazont]

แป้กอะครับ ขอโทษ

วันหลังจะเอาแบบ คุณภาพ มาเลย ด้วยเกียรติ
ขอโทษคร้าบ

[abeabeabe]

เด็กโหด 

[~!{B_KunG}!~]

เด็กโหด 

ลายเซ็นใหม่ได้ใจมากเลย

[boy]

กรี๊ดดดดด  เด็กกินเครื่องใน 

[< The Sun~++>]

ในที่่สุดก็มาลงแล้ววว

หลังจากรอคอยมานานแสนนานนนนนนนน

 

[~NICO ROBIN~]

สมกับเป็นเคนชิโร่ ไม่ทิ้งลายเลยจริงๆ

[Ijiraku naruto]

ฆาตกร

[~NICO ROBIN~]

ฆาตกร

เขาแค่ทำตามความต้องการเฉยๆ



ปล.อยากอ่านเรื่องต่อไปอีกครับ แบบสดๆ สาดๆ น่ะครับ 

[EL Corazont]

ในที่่สุดก็มาลงแล้ววว

หลังจากรอคอยมานานแสนนานนนนนนนน

 

มะ มะ มีคนรอด้วย
ดีใจมากๆเลยครับ ขอบคุณจริงๆ

ใครท่เคยอ่านเรื่องของผมแล้ว คิดว่าเป็นไงครับ? ถามเล่นๆนะ

[Ijiraku naruto]

 ::017::ใครมีเรื่องแนวนี้มาโพสกันแยอะๆนะฉะใด้อ่านที่นี่มิต้องไปซื้อหนังสือ

[boy]

ในที่่สุดก็มาลงแล้ววว

หลังจากรอคอยมานานแสนนานนนนนนนน

 

มะ มะ มีคนรอด้วย
ดีใจมากๆเลยครับ ขอบคุณจริงๆ

ใครท่เคยอ่านเรื่องของผมแล้ว คิดว่าเป็นไงครับ? ถามเล่นๆนะ

กร๊ากๆ  หลังจากอ่านเรื่องพวกนี้แล้วไปดูแว่วเสียงเรไร,แว่วเสียงนกนางนวล รู้สึกชอบแนวกุโระแฮะ  สะใจดี กร๊ากกกก

จะรอตอนต่อไปครับ~

[Hi~ba~Ri~KyO~Y~A]

อ่านตะกี้ 15 หน้า หลอนจิงๆๆ

[abeabeabe]

อ่านตะกี้ 15 หน้า หลอนจิงๆๆ

fit จังเลยครับ รวดเดียว 15 หน้า 

[EL Corazont]

ในที่่สุดก็มาลงแล้ววว

หลังจากรอคอยมานานแสนนานนนนนนนน

 

มะ มะ มีคนรอด้วย
ดีใจมากๆเลยครับ ขอบคุณจริงๆ

ใครท่เคยอ่านเรื่องของผมแล้ว คิดว่าเป็นไงครับ? ถามเล่นๆนะ

กร๊ากๆ  หลังจากอ่านเรื่องพวกนี้แล้วไปดูแว่วเสียงเรไร,แว่วเสียงนกนางนวล รู้สึกชอบแนวกุโระแฮะ  สะใจดี กร๊ากกกก

จะรอตอนต่อไปครับ~

อ่าน berserk สิ