Summoner Master Forum
November 25, 2024, 07:04:53 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: [ Fan Fic ] บ้าง ว่างๆ Annedisonge & Odilon I  (Read 3238 times)
0 Members and 4 Guests are viewing this topic.
the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« on: August 30, 2008, 12:03:01 AM »

              " วันนี้มีพิธีมิสซาที่โบสถ์นี่ครับพี่..."

"พี่ก็ว่าเช่นนั้นจะนิโคลัส อย่างไรก็ดี วันนี้องค์หญิงอลาน่าและประชาชนก็จะไปร่วมพิธีด้วย
พี่คงจะต้องไปช่วยดูแลบ้าง ยังไงวันนี้นิโคลัสช่วยไปสักการะท่านเมอร์จฮีลด้วยนะจ้ะ"

"ครับพี่" ชายวัยรุ่นผู้หนึ่งเดินทางเลียบไปตามพื้นถนนสีขาวด้วยอาการสงบในช่วงเช้า
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขุมเยือกเย็น แต่ภายในก็อบอุ่นไปด้วยน้ำใจแห่งตระกูลผู้ซื่อสัตย์
แห่งแอนดิซองค์ ผู้คนที่เริ่มจัดตั้งแผงขายของและตื่นขึ้นมารับแสงอาทิตย์ยามเช้า
พร้อมที่จะทำมาค้าขายกันตามวิถี และใบหน้าที่อิ่มเอิบยิ้มแย้ม

"เพี๊ยยยยยยยะ!!" เสียงมือกระทบใบหน้าที่ดังมาตามด้วยเสียงแผงขายของที่พังลง

" ชั้นสั่งแกแล้วไง ทำไมถึงไม่ฟัง ถ้าแกฟังแกจะเรียงผลไม้ได้แย่อย่างนี้มั้ย!"
มุมหนึ่งของแผงขสยผลไม้ เสียงของผู้เป็นนายตวาดใส่เด็กอายุรุ่นราวคราว 10 - 11 ขวบ
ที่กำลังทำท่าจะร้องไห้กระซิกๆ พร้อมกับมือขวาที่กุมแก้มที่ถูกฉาดเสียงดังลั่น

"ผลไม้ดีๆทั้งนั้น ทำไมถึงไม่จับเบาๆ เรียงร่วงบ้าง เรียงผิดขนาดบ้าง ใครสั่งใครสอนแกหา?!
 นี่แกพึ่งอยู่กับชั้นได้ไม่นานก็ทำเรื่องเสียแล้ว แกนี่มันไร้ค่าจริงๆ! " ผู้เป็นนายตวาดด้วยอารมณ์โมโห...

คำพูดสุดท้ายสะกิดใจจอมเวทย์หนุ่มจนต้องหันมามองด้วยความสงสารอย่างหาที่สุดมิได้

...นี่ใครกันนะ ทำไมถึงได้ทำกับเด็กได้ขนาดนี้... จอมเวทย์หนุ่มคิดพลางกำลังเดินเข้าไปหา

ไม่ทันที่ฝีเท้าจะเข้าไปถึง เสียงฉาดหน้าก็ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เด็กผู้หญิงผู้เคราะห์ร้ายถึงกับ
ฝุบหน้าไปกับพื้นก่อนที่ผู้เป็นนายหญิงจะเดินกลับเข้าไปในบ้านที่พักด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

ยิ่งต้องรีบเร่งฝีเท้าไปยังเด็กคนนั้นด้วยความรีบร้อน...

"หนู...หนูจ้ะ เดี๋ยวจะรักษาแผลให้นะ" จอมเวทย์หนุ่มที่มีนัยน์ตาเป็นสีฟ้านำมือไปต้องหน้าเด็กหญิงน้อย

"ไม่เป็นไรค่ะ ... มะ... มะ...ไม่เป็นระ..ไร  จริงๆ ค่ะ "
เด็กหญิงน้อยรีบรุกขึ้นไปเรียบเรียงข้าวของบนแผงอย่างรวดเร็ว ทั้งน้ำตา...
"หนะ  หนะ  หนูไม่เป็นระ ระ ไร จริงๆค่ะ..." เสียงเด็กน้อยสะอื้น

จอมเวทย์หนุ่มทำใจยอมรับกับสภาพสังคมของแอนดิซองค์ คนที่จนก็ต้องจนติดดิน
คนที่รวยก็รวยสุรุ่ยสุร่าย... ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าเด็กคนนี้คงจะเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่ถูกขาย
ให้กับนายจ้างหญิงด้วยฐานะของผู้ปกครอง และเด็กคนนี้คงจะต้องโดนบังคับข่มขู่ไว้อยู่แล้วว่าไม่ให้รับ
ความช่วยเหลือจากใคร ไม่อย่างนั้นก็คงจะโดนหนักกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้... เป็นแน่



   

Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #1 on: August 30, 2008, 12:25:10 AM »

โบสถ์ของเทวาอารักขาประจำตระกูล เมอร์จฮีล ยังอยู่อีกไกลนัก
บนเชิงเขาที่จะต้องแสงตะวันเป็นที่แรก แต่ในเดือนแอนดรูว์หมอกก็จะลงหนาด้วยเช่นกัน

ไม่ทันที่จะก้าวพ้นไปจากตัวเมือง

เสียงประตูแห่งบ้านหลังหนึ่งก็ดังขึ้น ปัง !!!

" แม่ไม่ต้องมายุ่ง ผมโตพอแล้วที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร!!" เด็กหนุ่มวัยอ่อนกว่าจอมเวทย์วารีเล็กน้อย
ปึงปังออกจากบ้านด้วยอาการฉุนเฉียวโดยมีผู้เป็นแม่ตามมาข้างหลัง

"แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นชาวบ้านเค้าลือกันทั่วเลยนะจ้ะ ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่เหลือดีแล้ว"

" แม่ไม่ต้องมาพูด ผมรู้ว่าผมจะทำอะไร ผมรักเค้า ผมอยากอยู่กับเค้า!"

" แต่ลูกจ้ะ ทำไมไม่ฟังแม่บ้าง ถ้าผู้หญิงคนนั้นดีจริง แม่จะห้ามทำไม ลูกคิดบ้างสิจ้ะ"

" แม่ก็เชื่อที่ชาวบ้านก็พูดสิ แม่ไม่ใช่ผมนี่ แม่อย่ามายุ่งดีกว่า แม่ไปไกลๆเลย!"
คำพูดที่กระทบกระทั่งเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงขั้วหัวใจของผู้เป็นมารดา เรียกน้ำตาได้ดีซะยิ่งกว่ากระไร

" ทำไมลูกถึงว่าแม่อย่างนี้ละ ลูกไม่รักแม่แล้วใช่มั้ย... ทำไมละลูก ทำไมลูกไม่คิด ลูกไม่ฟัง..."
ผู้เป็นแม่น้ำตาไหลพราก จอมเวทย์วารีนิโคลัสที่ยืนดูอยู่ห่างๆอยากจะเข้าไปช่วยเหลือเกิน
แต่ด้วยเรื่องภายในครอบครัว.. หากแต่ว่าถ้าสถานการณ์มันดีขึ้นกว่านี้เค้าคงไม่ต้องรีบเดินไปยังที่เกิดเหตุ...

เสียงทะเลาะกันที่ดังขึ้น นัยน์นทีของผู้เป็นแม่ที่ไหลลงหยดแล้วหยดเล่าเป็นสายธาร
หนสุดท้ายกับคำพูดของลูกชายที่ทิ่มแทงผู้เป็นแม่ที่สุด

" ผมว่าแม่ไปไกลๆผมเลยดีกว่า ! แม่ไม่ใช่เจ้าชีวิตผมนะ จะได้ออกคำสั่งได้ทุกอย่าง
 ก็ได้ ถ้เม่อยากให้ผมอยู่ ผมก็จะอยู่ แต่แม่จำไว้นะ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะพูดกัน!! "

แล้วเด็กชายก็เดินกลับเข้าบ้านไป... ตามด้วยแม่ที่น้ำตานองหน้า ทั้งเสียใจ ทั้งโมโห...

จอมเวทย์วารีหนุ่มกุมไม้เท้าแน่นมือ ...ทำไมกัน
เด็กคนนั้นไม่รู้จักบุญคุณคนเลยหรืออย่างไร...
... แม้แต่มารดาผู้ให้กำเนิด...

เมื่อเปรียบเทียบกับตัวนิโคลัสเองแล้ว ที่ต้องเติบโตมากับพี่สาว
ต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ทิ่มแทงใจตนเองเช่นนี้ ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดมิใช่น้อย...

ไม่พ้นที่จะเดินก้าวออกจากส่วนหมู่บ้าน

เสียงผู้หญิง 2 คนที่ทะเลาะกันก็ดังขึ้น ...
 
เสียงสบถถ้อยคำหยาบคายกับการกระทำที่ไร้สติผ่านเข้ามาในหูและสายตาของนิโคลัสเรื่อยๆ

ทั้ง จิก  ทั้งตบ  ด่าทอกัน...  ทำไมนะ  พูดจากันดีๆไม่เป็นหรอ


ไม่นานที่เดินพ้นจากเหตุการณ์มา สิ่งที่เค้าเห็นตอกย้ำความทรงจำในวัยเด็ก...

"โธ่ ไอ้ลูกแหง่ แค่แย่งของนิดหน่อยต้องไปฟ้องแม่เลย!" เด็กคนหนึ่งในกลุ่มพูดพร้อมกับผลักเด็กอีกคนลงกับพื้น

" แต่นายแย่งเราทำไมละ เราบอกแล้วว่าของๆเรานี่" เด็กคนที่ถูกผลักล้มพูดพร้อมกับปัดฝุ่นตามตัว

" เฮ้ย! พวกเรา ว่าเจ้านี่มันลูกแหง่นี่หว่า เนอะ ยังไงถ้าไม่มีแม่ก็ทำอะไรไม่ได้" เด็กอีกคนพูด

" แบร่ๆ ลูกแหง่ ๆ แบร่ๆ ฮ่าๆๆ" เด็กทั้งกลุ่มหัวเราะเด็กที่ถูกผลักล้มลงไป

เด็กที่ถูกกลั่นแกล้งได้เพียงแต่กลั้นน้ำตาและอารมณ์ ... พร้อมกับถูกพูดจาถากถางไปเรื่อยๆ ได้แค่อดทน

 

Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #2 on: August 30, 2008, 12:43:59 AM »

ไม่ถึงเสี้ยววินาทีที่จอมเวทย์จะก้าวเท้าเข้าไปช่วยเหลือ
สัมผัสของชายหนุ่มก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของสายตา...
สายตาที่มองดูอย่างสะใจ

ทันที่เหลือบไปเห็นพ่อค้า 2 คนกำลังมองดูเด็กผู้ถุกรุมทำร้ายอย่างสะใจ สายตาเหยียดหยามที่มองมา...
ความคุ่นเขืองก็เพิ่มขึ้นในใจของชายหนุ่ม
การแต่งตัวและฐานะนั้นมีชาติตระกูลแน่นอน แต่ทำไมถึงไม่เข้าไปช่วยกันละ...
ทำไมถึงยืนดูด้วยท่าทางเช่นนั้น คนพวกนี้จิตใจทำด้วยอะไรกัน !!

ไม่ทันที่จอมเวทย์จะคิดอะไรไปมากกว่านี้

เสียงทะเลาะกันของลูกค้ากับแม่ค้าที่แผงขายของก็ดังขึ้นอีก และก็ดังขึ้นเรื่อยๆ...

จอมเวทย์ที่กุมไม้เท้าแน่น... บัดนี้จิตใจเริ่มขุ่นมัว...

...ไม่ได้นะ การไปสักการะท่านเมิร์จฮีลต้งทำใจให้บริสุทธิ์..
ห้ามัวหมอง... วันนี้เป็นวันที่จะกล่าวขอบคุณท่าน วันนี้เป็นวันมิสซา....
เราต้องไม่ใช้อารมณ์! เราต้องระงับให้ได้ !!....

...วันนี้เป็นวินมิสซานะ ! ทำไมถึงได้มีแต่เรื่องอย่างนี้กัน... ชายหนุ่มคิด

แม้สายน้ำจะสงบนิ่งเงียบ เมื่อถูกกระทบเรือยๆก็หวั่นไหวเป็นระรอกคลื่นได้

จอมเวทย์รีบเร่งฝีเท้าให้ออกห่างจากสถานการณ์ให้มากที่สุด เร่งไปเรื่อยๆ
เดินไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เข้าสู่เขตหมอกเมฆ นั่นแสดงว่าใกล้ถึงวิหารแล้ว...

แต่ภาพต่างๆที่เค้าได้เห็นก็ยังสะทอนขึ้นมท่ามกลางหมอกเมฆไม่ซ้ำภาพ...

ทั้งภาพการทำร้ายแม่ การทำร้ายมนุษย์ด้วยกันเอง การถูกกลั่นแกล้ง การถูกเหยียดหยาม

จอมเวทย์ที่เริ่มได้แต่งงงวย ทำอะไรไม่ถูก พยายามจะควบคุมสติตนเอง...

แต่ถาพต่างๆก็ไม่ได้ลบเลือนจางหายไปเลย ... หนำซ้ำกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ


ทำไมถึงลืมไม่ได้ ...  ทำไม ...
จอมเวทย์หนุ่มนำมือข้างหนึ่งกุมศีรษะ และหลับตาลง
ความรู้สึกคือเหมือนกับโลกทั้งโกลหมุนไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ มือที่เริ่มสั่นระรัว

...ทำไมอากาศถึงได้หนาวแบบนี้ นี่เราเป็รอะไรไป ทำไมถึงได้มึนงงแบบนี้ ... ทำไม ...

ความคิดที่เริ่มสับสนของจอมเวทย์เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้นจะหลับตา
แต่ภาพก็ยังสามารถขึ้นมาในมโนจิตได้เป็นฉากๆอย่างแม่นยำ...

...ทำไม   ทำไม...  เราจะทำยังไงดี ...

จิตใจจอมเวทย์ที่เริ่มขุ่นมัว ฟุ้งซ่าน .... ไม่สามารถจะหาทางออกได้ ...

ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ ต้องทำร้ายกันด้วย ! ทำไมถึงไม่รู้จักคุยกันดีๆ !

คำพูดต่างๆผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าที่เค้าจะคิดได้เอง เร็วเกินไป อารมณ์เคาเริ่มแปรปรวน

" แกนี่มันไร้ค่าจริงๆ ! " " แต่แม่จำไว้นะ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะพูดกัน "
" แบร่ๆ ไอ้ลูกแหง่ " " แกไม่มีแม่แกก็ทำอะไรไม่ได้!  "

ภาพทุกอย่างซ้ำไปซ้ำมา เป็นการวนเวียนไปเรื่อยๆ ทุกฉาก ทุกคำพูด...

" แกนี่มันไร้ค่าจริงๆ ! " " แต่แม่จำไว้นะ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะพูดกัน "
" แบร่ๆ ไอ้ลูกแหง่ " " แกไม่มีแม่แกก็ทำอะไรไม่ได้!  "










 
Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #3 on: August 30, 2008, 01:06:49 AM »

" มนุษย์เราก็เปรียบเสมือนถ้วยแก้วที่รองรับพระพรจากพระเป็นเจ้า
เมื่อถ้วยแก้วนั้นเต็มแล้ว น้ำก็ย่อมล้นไปสู่ที่อื่นๆ แก้วอื่นๆ จ้ะ นิโคลัส
เช่นไรก็เช่นนั้น ศรัทธาที่มนุษย์มีต่อพระเป็นเจ้า เมื่อศรัทธาของผู้นั้นรับจนเต็มเปี่ยมแล้ว
เค้าผู้นั้นก็จะแผ่ขยายความรักของพระผู้เป็นเจ้าไปสู่บุคคลอื่นๆด้วยเช่นกัน
พระองค์ทรงวางแบบแผนไว้ให้เราทุกคนแล้วจ้ะ นิโคลัส..."

คำพูดด้วยเสียงที่ไพเราะของอค์หญิงแห่งแอนดิซองปรากฎขึ้นแทนภาพทุกภาพ

สิ่งที่ฝังอยู่ใต้สำนึก คำเทศนาแห่งองค์หญิงผู้งามทั้งกายและใจ...
ช่วยเหลือจอมเวทย์ผู้ทรงวารีเดชแห่งตระกูลโอดิลอน จาก...

... เกรเซียลิส กราเทีย...

เสียงที่ไพเราะเสนาะหูประดุจเสียงร้องเพลงในโบสถ์ดังขึ้นภายหลังผู้วิเศษหนุ่ม

ธารน้ำแข็งใสกระจายไปรอบๆพื้นที่ทั่วทุกทิศทาง หมอกควัน สลายไปชั่วพริบตา

เผยให้เห็นของสิ่งที่มีรูปลักษณ์ที่หน้าเกลียดอัปลักษณ์
ร่างกายสีดำทมิฬ พร้อมด้วยท่าทีดุร้าย ดังผุดขึ้นมาจากขุมนรก
บนศีรษะของสิ่งประหลาดมีเขาสองเขา ร่างกายที่ดำมืดไร้และหน้าตาไร้แววตาที่สะท้อนจิตใจออกมาได้ !!

ไม่นานทีธารน้ำแข็งจะเข้าประชิดปีศาจนี้แต่ก็มิอาจกระทำอันใดได้มากด้วยความร้อนรอบกาย
พื้นที่หญ้าสีเขียว กลับถูกไหม้ไปสิ้นเป็นเพียงเศษทรายแห้งๆ

"บาปแห่งความโกรธเกี้ยวโกรธา อิรา !!"
เด็กหนุ่มตกตะลึงไม่ทราบว่าที่ต้องผจญอยู่ภายหน้าคือบาปผู้ชักนำมนุษย์สู่ขุมนรก
เนื่องจากความโกรธ ซึ่งตนเองก็เกือบพลั้งเผลอไปแล้ว ...

...อย่างนี้นี่เอง ที่วันนี้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ที่วันนี้ทุกคนเป็นอะไรกันหมด ....

"วังวนอัศจรรย์ ! "

คาถาที่เปล่งแสงออกจากปลายคทาสีฟ้าของชายหนุ่มเริ่มสำแดงผล
แสงจรัสสีขาวพร้อมด้วยละอองที่ถูกรวบรวมปลาบคทาหมุนวนรอบปลายคทา
ก่อนที่จะกระจายไปสู่เป้าหมายคือปีศาจนั่นเอง

แต่หาได้ผลไม่... ปีศาจไม่แม้แต่จะออกกายขยับเขยื้อน

"...เวทย์มนตร์พื้นฐานทำอะไรไม่ได้สินะ"

" ห่วงโซ่ยะเยือกธารา !! " สายน้ำจากปลายคทากระจายล้อมรอบตัวผู้ร่ายคาถา
แล้วกลายเป็นไอน้ำแข็งมุ่งเข้าสู่ปีศาจอีกครั้ง แต่คราวนี้ผลที่ได้รับก็เช่นเดิม...
แต่ทว่าอาจจะหนักกว่าเสียด้วย เมื่อห่วงโซ่นั้น กลับกลายเป็นมหาวังวนทมิฬสีครึ้มมืด
สะท้อนกลับมายังตัวนิโคลัสเอง

"เวทย์วารีคุมธาร!!" เวทย์มนตร์ที่ใช้ควบคุมเวทย์มนตร์สายน้ำของจอมเวทย์
บัดนี้ไม่อาจใช้ได้กลับวังวนเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามา

วังวนทมิฬที่ใกล้เข้ามากระเซ็นสู่ตัวนิโคลัสตนได้รับบาดเจ็บพอสมควร

แต่ความมืดก็ใช่ว่าจะโจมตีได้ทั้งหมด ปีกสีรุ้งฟ้าชมพูอ่อนที่กำบังเวทย์มนตร์มืดไว้ส่วนหนึ่ง

" ท่านเทพอารักขา เมอร์จฮีล ! " เด็กหนุ่มตะโกนออกมา

แต่ท่านเทพอารักขาก็ยังสงบนิ่ง ไม่ไหวติงต่อสิ่งใด

"ท่านต้องช่วยเรา ได้โปรด บาปตัวนี้จะเป็นภัยต่อมนุษย์ทั้งมวล ! "

แต่ท่านเมอร์จฮีลก็ยังคงลอยอยู่เบื่องหลังด้วยท่าทางสง่างาม ไม่เคลื่อนไหวใดๆ
 
« Last Edit: September 01, 2008, 12:31:06 AM by SaintofAmara » Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #4 on: August 30, 2008, 01:26:22 AM »

...ข้าแต่ท่านเทพีอารักขาประจำตระกูลโอดิลอน
หากท่านคือพระประสงค์แหง่ผู้ที่เราศรัทธา ท่านโปรดช่วยเหลือเราด้วย...

จอมเวทย์หนุ่มภาวนา... แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด...

เมื่อมิอาจพึ่งพาบารมีของเทพีอารักขาได้จอมเวทย์จำเป็นต้องตัดสินใจที่จะสู้ด้สยตนเอง

ปีศาจตนนั้นก็ยังคงยืนอยู่ ไม่ไหวติงใดๆเฉกเข่นเมอร์จฮีล...

" วารีโลกันตร์อัศจรรย์ !" แสงสีฟ้าขาวที่เริ่มก่อตัวที่ปลายคทาของชายหนุ่ม
และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายได้พุ่งเป้าหมายไปที่ ปีศาจ บาปแห่งความโกนธ...

แต่ผลก็ยังเป็นเช่นเดิม ไม่มีผลกระทบใดๆ ... หนำซ้ำยังสะท้อนมาสู่ผู้ร่ายเองอีกด้วย ...

จากลูกกลมเวทย์วารียักษ์กลายเป็นจิตวิญญาณเพลิงทมิฬที่เกรี้ยวโกรธได้พุ่งเข้ามาสู่จอมเวทย์เอง

 .................ฟู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เสียงลูกไฟกระจายไปทั่วทิศทาง จอมเวทย์หนุ่มถึงกับต้องใช้ไม่เท้าหนุนตนเองขึ้นมา

"ท่านเทพีอ่ารักขา
..."         จอมเวทย์หันกลับไปมองด้านหลังอีกครั้ง แต่เทพีก็ยังไม่ไหวติงใดๆ

จอมเวทย์ยิ่งบาดเจ็บก็ยิ่งกระหน่ำซ้ำเวทย์วารีที่ตนถนัดใส่ปีศาจร้าย...

ยิ่งร่ายมาก ตนก็ยิ่งอ่อนแอลง ยิ่งร่ายมาก ยิ่งสะท้อนกลับมามาก ก็ยิ่งบาดเจ็บมาก...

" ทำไมกัน ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย !!" นิโคลัสตวาดออกมา

ไม่ทันที่จะได้พูดกันต่อไป เจ้าปีศาจร้ายอิรา พูดภาษาที่นิโคลัสนั้นไม่สามารถฟังรู้เรื่อง
ความมืดมิดมหาศาลดังผุดมาจากขุมนรกถูกนิรมิตขึ้นมารอบๆตัว
และดูเหมือนว่า ความมืดนั้น กำลังคืบคลานเข้ามาหาทางนิโคลัสเองด้วย...

นิโคลัสผู้อ่อนแอ ณ ตอนนี้ ไม่สามารถจะร่ายเวทย์ใดๆต้านทานพลังมารได้อีก ...
...ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า... หากพระองค์ทรงวางแผนใดมาให้ลูก ขอท่านโปรดบอกลูกด้วย..."
คำภาวนาสุดท้ายของนิโคลัสก่อนที่จะล้มลงไปแต่ก็ยังมีสติอยู่ ระลึกได้ถึงพระเป็นเจ้า

ความมืดทมิฬที่กล้ำกรายเข้ามาสู่นิโคลัสได้ผลาญกลืนทุกอย่างรอบๆตัวเสียสิ้น!

แต่ไม่ใช่ตัวนิโคลัส ... ไอเย็นบางอย่างล้อมรอบตัวเค้าไว้...

เทพีเมอร์จฮีลได้กางปีกสีรุ้งชมพูฟ้าของตนป้องทางมืด เปล่งแสงกันความมืดไปเสียหมด...
พร้อมกับหลับตากุมมือภาวนา ยิ่งเทพีสงบเท่าไหร่
ความมืดที่เร่าร้อนจะดูดกลืนทุกสิ่งรอบๆก็ดูยิ่งเย็นลงมากเท่านั้น...
ความมืดรอบๆมิอาจจะกระทำอันตรายใดๆต่อเทพีและนิโคลัสบัดนี้ได้เลย...

แต่ฝ่ายปีศาจก็ไม่ได้หยุดหย่อน สร้างขุมนรกทมิฬเพลิงนิรมิตมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ นิโคลัสเองก็คงคิดว่า
หากไร้ซึ่งปีกแห่งเทพธิดาผู้พิทักษ์ตระกูลแล้ว ตนก็คงไม่รอด...

"...นิโคลัสเอ๋ย จงร่วมภาวนากับเรา..." เสียงอันไพเราะดังขึ้นอีกครั้งเบื้องหลังของจอมเวทย์วารี

"...ท่านเทพธิดา..." นิโคลัสพูด ถึงกับตกตะลึงที่ในที่สุดท่านก็ยอมเอ่ยแล้ว...

"...นิโคลัสเอ๋ย เจ้านั้นยังอ่อนแอ มิใช่อ่อนแอต่อศรัทธาแห่งพระเป็นเจ้า
 แต่เจ้านั้นอ่อนแอแต่จิตและใจของเจ้าเอง...
สายธารที่ไหลเชี่ยวกราดไม่เพียงแต่จะแค่ทำลายไฟ แต่มันยังทำลายทุกสิ่งที่ชะลอมันไว้...
นิโคลัสเอ๋ย... เจ้าจงสวดภาวนาต่อพระเป็นเจ้า เจ้าจงสักการะต่อพระเป็นเจ้า
เจ้าจงอธิษฐานต่อพระเป็นเจ้า... เจ้าจงเป็นประดุจถ้วยน้ำแห่งพระเป็นเจ้า...
ที่ซึ่งมนุษย์เท่านั้นจะได้รับรินจากมันไป ... ที่ซึ่งทนุษย์เท่านั้นที่จะทำให้น้ำในแก้วไหวติง..."
« Last Edit: September 01, 2008, 12:37:14 AM by SaintofAmara » Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #5 on: August 30, 2008, 01:51:35 AM »

" ถ้วยน้ำแห่งพระเป็นเจ้า..."  บัดนี้นิโคลัสเข้าใจทุกสิ่งดีแล้ว

จอมเวทย์สงบนิ่ง นึกถึงเพียงแต่พระเป็นเจ้า โบกคทาแห่งจอมเวทย์ไปข้างหน้า
แสงสีฟ้าอ่อนเริ่มเปล่งกระกายออกมา

" มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่จะทำให้น้ำในแก้วไหวติง..."

แสงสีฟ้าอ่อนเริ่มก่อตัวมากขึ้น

" น้ำในแก้วนั้นคือจิตใจของมนุษย์เราทั้งหมดทั้งมวล..."

แสงสีฟ้าอ่อนเริ่มเปล่งแสงประกายออกมา

" เหล่าบาปทั้งหลายไม่สามารถจะควบคุมเราได้ แต่ทำได้แค่ครอบงำ..."

" จิตใจที่ยืดหยัดอยู่ในศรัทธาแห่งพระเป็นเจ้า จะนำทางสว่างเราสู่แดนแห่งพระองค์..."

" บาปแห่งความโกรธ ดำรงอยู่ได้ก็ด้วยจิตใจมนุษย์ที่ยังอ่อนไหว ไหวติง ไม่แน่นอน..."

แสงสีฟ้าอ่อนที่ปลายคทาขยายรัศมีวงกว้างใหญ่เกือบเท่าร่างกายของนิโคลัสเอง...

" การเอาชนะบาปแห่งความโกรธ คือการชนะจิตใจของเราเอง..."

" จิตใจที่ตั้งมั่น ศรัทธาในพระองค์ ... "

บัดนี้แสงสีฟ้าเปล่งประกายเจิดจรัสไปทั่วทุกทาง เปลวไฟนรกได้ดับวูบลง
แต่ปีศาจยังคง คร่ำครวญด้วยภาษาที่ฟังไม่ออกเพื่อที่จะสร้างมันขึ้นมาอีก

" ข้าเข้าใจแล้วท่านเมอร์จฮีล... ที่ท่านยืนนิ่งไม่ไหวติง เพราะท่านอยู่ในอาการสงบ
 ไม่โกรธ ไม่เกลียด ความมืดจากขุมนรกจึงทำอันใดท่านไม่ได้ แต่เพราะความเคืองในใจข้า
 มันถึงเป็นเชื่อเพลิงให้อิรามีพลังอยู่ต่อไป ... แต่ตอนนี้ไม่อีกแล้ว..."

 " Eternity Faithhhhh ..... ศรัทธานิรันดรรรรรรร์"
ทันทีที่จอมเวทย์ร่ายมนตร์ด้วยอาการสงบ
วงกลมรัศมีสีขาวได้กระจายออกทั่วทุกทาง ทั่วทุกทิศ พร้อมกับธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์จากทางด้านหลัง
งามยิ่งกว่าเพชรได้ในแอนดิซอง งามยิ่งกว่าเพชรใดในเมอริเซีย...
ที่ได้ไหลไปตามแสงศักดิ์สิทธ์นั้น...

" มนุษย์ทุกคนในโลกล้วนมีความโกรธ ล้วนมีความเกลียดเป็นกำลัง...
นั่นคือถ่านไฟอย่างดีในการดำรงอยู่ของพวกซินบาปทั้งหลาย
หากแต่ทุกคนจะขจัดมันไปได้ คงจะเป็นไปได้ยาก... แต่สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้คือ
ศรัทธาที่ไม่มีวันจะถูกครอบงำหรือควบคุมไปได้..."

ทันที่กล่าววจนะจบ แสงสีขาวได้ดับวูบลง ธารน้ำแข็งได้หายไป
พร้อมด้วยอารักขาเทพธิดาประจำตระกูลเช่นกัน

เบื่องหลังนี่เอง คือโบสถ์ที่สถิตย์แห่ง เมอร์จฮีล อัครเทพธิดา แห่งตระกูลโอดิลอน!
แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านมาถึงใบหน้าของชายหนุ่ม ...

" อรุณรุ่งแห่งวันนี้ ช่างสว่างไพโรจน์ มิอาจจะสว่างเท่าวันใดได้แล้ว ฮ่าๆ "

นิโคลัส โอดิลิน จอมเวทย์หนุ่มพูด ยิ้มและหัวเราะ พร้อมกับเดินเข้าไปในโบสถ์วิหาร
เพื่อทำรสักการะ เทพธิดา ต่อไป ...


...บัดนี้จิตใตของเจ้าสงบลงแล้ว นิโคลัส ...
ข้าเพียงแต่บอกชี้ทางแห่งศรัทธาในพระเจ้าให้แกตระกูลนี้ตามบัญชาเท่านั้น...
...จิตใจมนุษย์ยังมิอาจจะบริสุทธิ์ได้ด้วยเพียงศรัทธา
แต่ศรัทธาคือจุดเริ่มต้นแห่งความบริสุทธิ์ทั้งมวล และเป็นสิ่งเดียวที่บาปทั้งหลาย
...มิอาจจะทำลายไปให้สิ้นได้ เพราะผู้เป็นเจ้า ได้ปลูกฝังสิ่งเหล่านั้นมากับจิตใจของมนุษย์แล้ว...

เทพธิดาอารักขาเมอร์จฮีลตรองและแลดูนิโคลัสอยู่โบสถ์แห่งนั้น และยังจะคงคุ้มครองตระกูลโอดิลอนต่อไป...









เย้ จบแล้ว มีอะไรแนะนำด้วยน้าครับ ~~                                           

อนึ่งขออนุญาตใช้ Emo เยอะ เพราะเหนื่อย แต่งจบเลยดีใจ ^^

« Last Edit: September 01, 2008, 12:42:38 AM by SaintofAmara » Logged


Prinberly, the Great Oracle
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 39


Email
« Reply #6 on: August 31, 2008, 12:26:57 AM »

สนุกดีค่ะ

^  ^
ชอบๆๆๆๆ

อยากให้มีคนชอบเด็คตระกูลแล้วแต่ง Side Story กันเยอะๆจัง
*+*

แต่ขอแย้งนิดนึงนะคะ
บาปแห่งความโกรธมัน Pecca Ira นะคะ - -
Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #7 on: September 01, 2008, 12:25:45 AM »

ทำไม

ถึงได้ ไม่ยอมงดสปายนะ

อุตส่าห์เข้าพรรษาแล้ว

ขอบคุณครับแม่หมอที่ช่วยแย้ง เดี๋ยวว่างๆจะแต่งให้นะครับ ^^
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.072 seconds with 20 queries.