ขอร้อง และข้อร้อง และก้มกราบงามๆ ขอร้องอีกทีครับ
แม้ท่านๆใดๆ จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับการถูกกระทำของโรงเรียนของผม
ช่วยกรุณาอ่านสิ่งที่พวกผมรู้สึก และไม่ได้รับความสนใจ สิ่งนี้เถิดครับ
และถ้าเป็นไปได้ หากจะส่งต่้อกันไป จะยิ่งขอบพระคุณอีกสักล้านครั้ง
ทุกๆคนคงเคยเรียนหนังสือกันใช่ไหมครับ?
ทุกๆคน คงจะรักสถาบันของคุณใช่ไหมครับ?
ทุกๆคน คงจะรักสนามบอลเยินๆ ห้องเรียนร้อนๆ ระเบียงที่เรานั่งเล่นกันก่อนเข้าคาบ ทางเดินที่เราเคยวิ่งหนี อ. เวลาตัดผม หรือกระทั่งกระดานดำ ที่เคยมีทั้งชื่อพ่อชื่อแม่ ชื่อเพื่อน หรือชื่อแฟนเพื่อน ละเลงกันอยู่อย่างสนุกสนาน ใช่ไหมครับ?
ช่วยด้วย ผู้ใหญ่ใจร้ายรังแกเด็กโยธิน
วันนี้ทนไม่ไหว ต้องออกมาเขียนสักหน่อย เรียกร้องความเป็นธรรม และความเห็นใจจากพ่อแม่พี่น้องทุกคน ช่วยเสียเวลาเข้ามาอ่าน แล้วก็ส่งต่อหน่อยคะ
ขอบอกก่อนว่า ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในโรงเรียนนี้ มีความประทับใจต่างๆมากมาย ตั้งแต่วันที่สมัครสอบด้วยซ้ำ มีนักเรียนในโรงเรียนเข้ามาช่วยพาไปยังห้องเพื่อสมัครสอบ อำนวยความสะดวกมากมาย หลังจากสอบติดที่โรงเรียนนี้ด้วยซ้ำ ก็มีการนำกระดาษใบเล็กๆ วาดเป็นรูปเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชาย สีชมพูน้ำเงินซึ่งเป็นสีของโรงเรียน พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า “Warm welcome” มอบให้ นั่นเป็นความประทับใจแรกๆที่เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียนแห่งนี้ เมื่อเวลาผ่านไป ก็เกิดเป็นความรักความผูกพันกับหลายๆอย่าง ทั้งเพื่อน ทั้งครูอาจารย์ ทั้งสถานที่ ทุกๆอย่างคือสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่อยากที่จะให้มันหายไป
หนูเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนโยธินบูรณะคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการย้ายรัฐสภา วันแรกที่รู้ข่าว คือมีเพื่อนจากต่างโรงเรียนมาถามว่า
“โรงเรียนเธอจะย้ายเหรอ” เกิดอาการงงอย่างยิ่ง เพราะไม่รู้ข่าวมาก่อน ทีแรกยังสงสัยว่าเพื่อนแกล้งด้วยซ้ำ แต่เพื่อนบอกว่ารู้มาจากข่าว ออกทางโทรทัศน์ ก็ได้แต่คิดในใจว่า ในวันสองวันนี้โรงเรียนคงจะมาประกาศให้นักเรียนรู้ ว่าข่าวนั้นเท็จจริงอย่างไร
เวลาผ่านไป ไม่มีคำอธิบายใดๆจากคณะครูหรือผู้บริหารโรงเรียนคนใดทั้งสิ้น มีแต่เสียงของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในโรงเรียนเท่านั้น ที่พูดถึงข่าวนี้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ชี้แจงกับนักเรียนและผู้ปกครองสักนิด เหมือนโดนปิดหูปิดตา หรือพยายามจะปิดข่าว
ไม่นานก็ได้มีข่าวออกมาว่า อีกวันสองวันผอ.จะไปประชุมสภา และรับฟังคำชี้แจงจากที่สภา อย่างนี้ก็แปลว่า ข่าวที่ออกมาตอนแรก ประธานสภาพูดออกมา โดยที่ยังไม่ได้ถามความคิดเห็นจากโรงเรียน คณะครู นักเรียน หรือว่าชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่นั้นเลยสักคำ ทำถูกแล้วเหรอ
แต่หลังจากวันนั้น เรื่องทุกอย่างก็เงียบไปอีก หลังจากผอ.ไปประชุมที่รัฐสภาเสร็จ ก็ไม่ได้มาชี้แจงนักเรียนเลย อีกทั้งพอเริ่มมีข่าวการเคลื่อนไหวจากกลุ่มสภานักเรียน ก็ถูกสั่งเบรก
และยังขู่ด้วยว่าจะไล่ออกจากโรงเรียน หรือไม่ก็เขียนในใบจบการศึกษาว่า นักเรียนคนนั้น เป็นเด็กหัวรุนแรง ซึ่งมีเป้าหมายให้เด็กคนนั้น ได้รับปัญหาเมื่อต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย อยากจะถามว่าเราก็เป็นนักเรียน อีกหนึ่งกลายๆว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของโรงเรียนด้วยซ้ำ แต่ทำไมเราไม่มีสิทธิที่จะพูดอะไร หรือแสดงความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น ได้แต่พยายามปิดหูปิดตาพวกเรา ปิดกั้นสิทธิที่พวกเราควรจะทำได้ และยังข่มขู่พวกเราอีกด้วย บุคลากรในโรงเรียนกับนักเรียน
ก็เป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรอ ทำไมต้องมาข่มขู่กันอย่างนี้ด้วย
จนมาถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2551 นี้ หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ หนูก็เดินขึ้นห้องเรียนตามปกติ สักพักเพื่อนก็โทรศัพท์มาบอกว่าข้างล่างมีประท้วง เลยรีบวิ่งลงมา เพราะเหมือนใจก็รอคอยเวลานี้มานาน ก่อนหน้านี้ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะมีการประท้วง แต่เมื่อมีคนเริ่มเป็นผู้นำ เราก็รีบเข้าร่วม
ไม่ใช่เพราะคิดว่าน่าสนุกดี แต่เป็นเพราะ ความรู้สึกที่ไม่อยากให้โรงเรียนย้ายไปไหน ตอนแรก กลุ่มนักเรียนที่ประท้วง ออกันอยู่ที่หน้าประตูของโรงเรียน แต่อาจารย์ไม่ยอมให้เปิดประตู จึงย้ายกันไปที่สนามใหญ่ แต่แดดร้อนมาก จึงขึ้นไปนั่งบนแสตนซึ่งไม่โดดแดด พอนั่งก็มีอาจารย์มายืนข้างหน้า บอกให้เงียบเพื่อฟัง ก็ได้รู้ความจริงมากขึ้น ว่าจริงๆแล้วมีการเตรียมการประท้วงก่อนหน้านี้ มีการทำป้ายผ้าเพื่อคัดค้าน แต่ป้ายก็ถูกอาจารย์ยึดไป เหลืออยู่แค่2ป้ายเท่านั้น
มีอาจารย์ท่านหนึ่งตะโกนไปว่านักเรียนม.2ที่นั่งอยู่บนแสตนว่า “อยู่โรงเรียนมาแค่2ปี จะมารักโรงเรียนอะไรกันนักกันหนา” แล้วก็ไล่กลับขึ้นห้องเรียน
อยากจะถามว่า อยู่มา2ปีแล้วจะรักโรงเรียน จะผูกพันกับโรงเรียนไม่ได้เหรอค่ะ แล้วอาจารย์ล่ะคะ อยู่มาเป็นสิบปี ไม่รักโรงเรียนบ้างเลยเหรอคะ หลังจากนั้นก็มีเสียงกระซิบต่อๆกันมาว่า ถ้าประตูเปิด ให้วิ่งออกไปเลย สักพักก็มีกระซิบอีกครั้งว่าเปิดประตูโรงเรียนแล้ว แล้วก็มีรุ่นพี่ เรียกนักเรียนชายให้ลงจากแสตนก่อน ระหว่างนั้นผอ.กำลังพูดอยู่ แล้วคนอื่นๆก็เริ่มลุกตามแล้ววิ่งกันออกไปที่นอกโรงเรียน เพื่อที่จะเดินไปที่รัฐสภา
ระหว่างทาง ผู้คนในชุมชน พ่อค้าแม่ค้าก็ตกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นเด็กนักเรียนมากมายเดินมา แต่พอรู้ว่าต้องการที่จะไปรัฐสภาเพื่อประท้วง ทุกๆคนก็ใจดีกับนักเรียนทุกคนอย่างมาก แทบจะไม่คิดเงินค่าน้ำค่าขนมที่พวกเราซื้อระหว่างทางด้วยซ้ำ ชาวบ้านทุกคนบอกให้สู้ๆ สนับสนุนนักเรียน แล้วอย่างนี้เรียกว่าชาวบ้านพวกนี้เขาอยากย้ายเหรอคะ
นักเรียนเดินไปเรื่อยๆ มีส่งเสียง “โยธิน ไม่ย้าย” เป็นระยะๆ สลับกับการร้องเพลงโรงเรียน จนไปถึงรัฐสภา คาดว่ามีคงมีคนไปบอกที่สภาแล้ว จึงเปิดให้นักเรียนเข้าไปนั่งด้านใน เพื่อรับฟังและสอบถามปัญหาเกี่ยวกับการย้ายโรงเรียนครั้งนี้ โดยที่ระหว่างนั้นก็ได้ติดต่อกับเพื่อนที่อยู่ที่โรงเรียนเป็นระยะๆ และก็ได้ทราบว่าไม่มีการเรียนการสอนในคาบที่ขาดไปเลย
แล้วก็ได้รู้ความจริงเพิ่มขึ้นอีกอย่างคือในบ่ายวันนั้นจะมีการลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ระหว่างรัฐสภากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผอ.ของโรงเรียนก็จะต้องเข้าร่วมในการลงนามครั้งนี้ด้วย เรื่องอย่างนี้ทำไมนักเรียนส่วนมากเพิ่งจะได้รับรู้ล่ะคะ ไม่ใช่ว่าเขาปิดข่าวเหรอคะ
ไม่เข้าใจว่าทำไมเราไม่มีสิทธิรับรู้ความเป็นไปของ “บ้าน” ของพวกเราเลย
พอรุ่นพี่ที่เป็นศิษย์เก่าถามคุณอภิวันท์ว่า “วันนี้จะมีการเซ็นสัญญาจริงหรือไม่” คุณอภิวันท์ตอบว่า “เรื่องเซ็นอาจจะไม่แน่ แต่วันนี้มีประชุมเรื่องนี้ และจะเอาคำเรียกร้องของนักเรียนในวันนี้ไปพูดในที่ประชุมด้วย แต่กว่าโรงเรียนจะย้ายก็อีก2ปี ไม่ได้ย้ายใน2เดือนนี้แน่นอน” รุ่นพี่คนเดิมจึงถามอีกครั้งว่า “แต่อีกสองปีที่ย้าย ก็ตัดสินใจวันนี้ไม่ใช่หรอค่ะ”
คุณอภิวันท์มีอาการอ้ำอึ้ง แล้วก็พยักหน้า และขยับปากว่าใช่ วันนี้จะตกลงเซ็นสัญญากันอยู่แล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้รับความยินยอมเห็นชอบจากเสียงเล็กๆ ที่จำนวนไม่น้อยเลยด้วยซ้ำ ทำไมต้องทำอะไรเหมือนปกปิด รีบจะเซ็นเร็วๆ มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงรึเปล่าค่ะ
มีนักเรียนถามถึงเหตุผลที่ต้องย้ายรัฐสภา คุณอภิวันท์ก็กล่าวว่า รัฐสภาชื่อได้ว่าเป็นหน้าตาของประเทศชาติ และจะต้องตั้งอยู่ที่เมืองหลวงของประเทศ แต่ถามว่ามันคุ้มค่าหรอคะ แค่ค่าสร้างรัฐสภาก็ เกือบ2หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมค่ารื้อถอนอาคารในสถานที่เดิม ค่าปลูกสร้างอาคาร บ้านพักอาศัย และเงินค่าชดเชยต่างๆด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆไม่น่าจะต่ำกว่า5หมื่นล้านบาท อยากจะถามว่า สร้างรัฐสภาใหม่แล้วมันแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนได้หรอค่ะ รัฐสภาใหม่จะช่วยให้คนไทยที่แตกแยกกันอยู่ตอนนี้ สามัคคีมากขึ้นหรอค่ะ รัฐสภาใหม่มันแก้ไขปัญหายาเสพติดได้หรอค่ะ งบประมาณที่เตรียมจะลงทุนไปมากมายกับรัฐสภาใหม่
เอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ดีกว่าหรอค่ะ อีกประเด็นคือคุณอภิวันท์ได้กล่าวว่า เมื่อรัฐสภาสร้างเสร็จ ก็จะมีการจารึกชื่อของชาวบ้านในชุมชน และนักเรียน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดรัฐสภาแห่งนี้ อย่างนี้ก็ต้องขอเสนอให้จารึกไว้ด้วยสิว่า “รัฐสภาแห่งนี้ สร้างขึ้นจากความเดือดร้อนและความไม่เห็นด้วยของประชาชน มองข้ามความเป็นประชาธิปไตย จนเกิดเป็นรัฐสภาได้”
และที่เห็นด้วยที่สุด คือคำพูดของรุ่นพี่ม.6คนหนึ่ง ซึ่งได้ถามว่า
“แล้วย้ายโรงเรียนไป ก่อสร้างอาคารใหม่ให้สวยกว่าเดิม ให้หรูกว่าเดิม แล้วมันเอาความทรงจำของหนูกลับมาได้ไหมค่ะ” อาคารเรียนที่เพียบพร้อม แต่มันไร้ความหมายไปเลย สำหรับนักเรียน70กว่ารุ่นที่ได้ชื่อว่าจบจากโรงเรียนโยธินบูรณะแห่งนี้ วันต่อไปข้างหน้าเมื่อเราจบจากโรงเรียนแห่งนี้ไปแล้ว รุ่นน้องที่รู้จักจบไปแล้ว อาจารย์ที่เคยสอนเกษียณไปแล้ว แล้วเราจะเหลืออะไรให้จดจำล่ะค่ะ
ยังมีอีกหลายประเด็นมากมายที่ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าให้เขียนหมดก็คงไม่ไหว
หลังจากนั้น ก็ได้มีการตกลงกันว่า จะให้ตัวแทนนักเรียน20คน เข้าประชุมในรัฐสภาตอนเย็นด้วย พร้อมทั้งไล่นักเรียนที่เหลือออกไปข้างนอกสภาให้กลับไปที่โรงเรียน นักเรียนส่วนมากก็ยังไม่ได้กลับทันที ส่วนมากจะเดินไปทางพระบรมรูปทรงม้ากัน
หนูกลับก่อน เนื่องจากเพื่อนที่ห้องบอกว่า คาบบ่ายอาจารย์จะสอน จึงกลับไปทำหน้าที่ของนักเรียน ซึ่งเพื่อนของหนูที่ตามกลับมาทีหลังก็บอกว่า บุคลากรท่านหนึ่งของโรงเรียน หาว่าเด็กนักเรียนที่มาประท้วงกันในวันนี้ จริงๆก็ไม่เดือดร้อนหรือมีผลกระทบอะไรอยู่แล้ว แต่ที่มา เพราะโดนชาวบ้านใช้เป็นเครื่องมือให้มาประท้วง ทั้งยังมีการรับเงิน และผลประโยชน์อีกด้วย
ทั้งหมดไม่เป็นความจริงค่ะ ที่เราไปประท้วง เพราะไม่ต้องการให้โรงเรียนโยธินบูรณะย้าย และก็ไม่ได้รับเงินสนับสนุนใดๆทั้งสิ้น อย่างที่บอกว่านักเรียนส่วนมาไม่รู้มาก่อนด้วยว่าจะประท้วงวันนี้ แต่เมื่อเห็นคนนำขึ้นมา ก็เข้าร่วมด้วย เพราะไม่อยากย้ายโรงเรียนเหมือนกัน บางคนก็รีบมาร่วม โดยที่ไม่ได้หยิบแม้แต่กระเป๋าสตางค์ด้วยซ้ำ ทำไมต้องมาใส่ร้ายเด็กนักเรียนด้วยหรอ หรือว่ามองว่าเด็กนักเรียนพวกนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนแล้ว
ทำไมต้องกล่าวหาว่าหนูรับเงินมา ทั้งๆที่ไม่ได้เงินสักบาท ที่เดินไป เดินไปด้วยใจที่รักโรงเรียน ไม่อยากให้โรงเรียนย้าย ทำไมต้องกล่าวหาว่าพวกหนูเป็นเด็กหัวรุนแรง ทั้งๆที่คุณยังไม่ยอมให้เราเสนอความคิดเห็นด้วยพูดจาแบบดีๆด้วยซ้ำ เราอาจจะดื้อรั้น และหัวแข็งบ้าง แต่เราก็มีหัวคิด มีจิตใจนะ เคยถามพวกหนูสักคำไหมคะ ว่าอยากย้ายรึเปล่า
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้เสื่อมความรักความศรัทธาในตัวของผอ. และบุคลากรหลายท่านมากจริงๆ ขอความเห็นใจ และความเป็นธรรมให้กับพวกเราชาวโยธินบูรณะด้วยค่ะ
---------------------------------
ขอนำเรื่องที่รุ่นพี่คนหนึ่งได้ลงไว้ในเว็บเด็กดีมาให้อ่านกันนะค่ะ
พี่อยากจะขอกำลังให้กับแนวหน้าในวันนี้ทุกคน
ทุกคนเหนื่อยและท้อมากในตอนนี้
พี่อยากจะเล่าเรื่องในวันนี้ให้น้องๆๆๆและพวกที่ไม่ได้อยู่ถึงจบได้เข้าใจ
และมาช่วยกันอย่างเดิม
วันนี้จากที่เราได้เข้าไปในรัฐสภา เราก็ได้คุยกะเค้าไป
จนถึงช่วงหนึ่งที่พวกเราบอกว่าให้เลื่อนวันประชุมได้ไหม เค้าได้บอกมาว่าเลื่อนประชุมไม่ได้
แต่ถ้าเลื่อนการเซ็นเลื่อนได้ ใช่ไหม
พี่ว่าพี่ได้ยินเต็ม2รูหูนะ
แล้วเค้าให้เราส่งตัวแทนไป20คน เพื่อไปเข้าร่วมการประชุมของเค้า
ซึ่งเค้าบอกกับตัวแทนของเราว่า4โมงเย็น มีการประชุม
เค้าเปิดห้องให้เราห้องหนึ่งเพื่อคุยกันเอง...ย้ำคุยกันเอง
ตอนแรกพี่แอบคิดเออ มันก็ดีนะ ให้เราวางแผนกันก่อน เราจะได้ตกลงกันว่าเราควรจะไปแนวไหน
จนเวลาผ่านไป พวกพี่ได้แยกกันเป็นกลุ่มๆๆ เพื่อไปออกThai PBS (itv) เก่าอะนะ
เค้าก็คุยเพื่อนพี่มาเล่าว่า(พี่ไม่ได้ดูพี่อยู่ที่รัฐสภา) เค้าพูดออกรายการไม่เหมือนกันที่พูดกับพวกเราเลย
พวกที่ไปก็เข้าใจนะว่านักเรียน จะให้ไปเถียงตอนเค้าพูดมันก็ไม่ใช่อะนะ
พวกเราเลยแพ้เค้าไป1ยก
จนพวกที่ออกรายการกลับมา รวมกับพวกที่อยู่รัฐสภา
รอกันจนถึง4โมง พวกที่อยู่จ้างในโทรมาบอกว่า เค้าเซ็นไปแล้ว แล้วที่พูดไปที่พี่ย้ำว่าได้ยินกับหูตัวเองนี่มันคืออะไร
เลื่อนประชุมไม่ได้แต่เลื่อนเซ็นได้
แล้วจะให้ตัวแทน20คนเข้าไปร่วม
โกหกชัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แถมปิดไม่ให้พวกพี่เข้าไปในรัฐสภา (ตอนแรกพี่นั่งฝั่งตรงข้าง ด้านเขาดิน)
มันโกหกเราทุกอย่าง หน้าด้านมาบอกว่าไม่ได้พูดอีกตางหาก
เรารวมกันอยู่จนถึง5 โมงกว่าได้ ตกลงประชุมทำความเข้าใจกันเรียบร้อย มีอาจารย์ของโรงเรียนเรามาแค่ไม่กี่คน (ไม่ถึง5คน)
ผอ.ซึ่งอยู่ในสภา ไม่ยอมออกมาปรากฏตัว จนเราเริ่มแยกย้าย เกือบหมด
มันพึ่งโผล่มา ดูมันทำ
ถ้ามันเกษียณเร็วกว่านี้2เดือน จะเป็นพระคุณมาก
ที่พี่เขียนมามันเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่พี่เก็บรายละเอียดมาได้ ให้คนที่ไม่ได้อยู่จนจบได้เค้าใจ สันดานเลวๆๆๆๆ
ก็....วันนี้โยธินของเราทำดีมากๆๆๆๆ ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคน
และอยากจะขอกำลังใจให้แนวหน้าทุกคนด้วย ........
ทั้งรุ่นปัจจุบันและที่จบไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น คุณพี่เสื้อเหลือง(จริงๆเป็นคุณลุงอะนะ)ที่ออกมาพูดแต่เเรกเลย เจ้าของวิเศษไก่ย่างนั่นแหละ
พี่ฟ้า พี่หนิง และเพื่อนๆๆๆๆ ที่เราไม่รู้จักชื่อ
พี่ศิษย์เก่าโยธินจบไป20กว่าปี เสื้อสีเทา
แระศิษย์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นบอม์ม หมวย อูม อาร์ม น้องประธานนักเรียน ทีมกิจการนักเรียนทั้งปัจจุบันแระรุ่นม.6
ขอบคุณทุกๆคนที่ให้ความร่วมมือ น้องๆที่อยู่กันจนจบจนพี่ๆกลับกัน
สุดท้ายๆๆพี่ขอกำลังใจให้พวกที่เป็นแกนนำหน่อย
ขอความคิดกับการที่เราต้องย้ายโรงเรียน
และๆๆๆขอความร่วมมือว่าถ้ามีอะไรที่ขอให้ช่วยเหลือขอร้องช่วยพวกพี่หน่อย เล็กๆๆน้อยก็ยังดี มันเป็นกำลังใจได้จริงๆๆๆ
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆขอบคุณทุกคนที่รักโรงเรียนค่ะ
อ่านแล้วอาจจะงงหน่อยนะ พึ่งกลับถึงบ้านเหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
จากเว็บเด็กดี
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1143655 ช่วยกันส่งต่อหน่อยนะ
===================================================================
ผมองก็เป็นหนึ่งในเหล่านักเรียน ที่จำต้องออกมาเคลื่อนไหว เพื่อปกป้องสิ่งที่เป็นที่รักของพวกผมทุกๆคน
สิ่งที่จะถูกคนเจตนาไม่เปิดเผยบางกลุ่ม มาช่วงชิงไปดื้อๆ ต่อหน้าต่อตา
ช่วยเป็นกำลังให้พวกผมด้วยเถิดครับ
นิดหนึ่ง ก็ยังดี
ผมไม่ได้กำลังขอให้ทุกๆท่าน สิ่งผ้าห่มหมอนมุ้ง หรือเครื่องกระป๋องไปยังชีพใคร
แต่ช่วยรับรู้ และประมวลสารนี้อย่างพินิจพิเคราะห์ และแสดงความรู้สึกของท่าน ต่อสาธารณชนเถิดครับ
อีกเพียงหนึ่งความคิดของท่าน ย่อมมีส่วนให้อะไรๆดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้า่ครับ