Falsetta Nitingale , the Priestess of Pray
Type : Musician / Mage Mp 2/1 Lv 1
At 5 Df 7 Sp 4 Light
+[Wind] Aves Sanctuary At 8 Sp 5 Mp 2
+[Light][Musician] Healing Hymn At 10 Df 10 Sp Mp 2
Shade of N[Harpy] , [Monster]
ตราบที่ [ s ] มี N[Harpy] เป็น Seal ใบรองรวมร่าง N[Harpy] ที่อยู่ Line เดียวกับ [ S] ยกเลิก Curse
และ Curse ที่เกิดจาก Seal นั้น ไม่สามารถป้องกันได้
เมื่อมี Seal ฝ่ายตรงข้าม ตก Shrine จากกองการ์ด เราสามารถจ่าย Mp 2 จากนั้นนำ Seal นั้นกลับเข้ากองการ์ด
Skill :นำ Mystic Card ใบบนสุด X ใบจากกองการ์ดเราไปยัง Shrine ; สั่ง [ S ] ใช้สกิลของ
Monster 1 ใบในสนามฝ่ายเราที่มี Mp ค่าใช้ Skill X โดยไม่ตรงตามเงื่อนไขการกำหนด
Line และการรวมร่างเมื่อ [ S ] รวมร่าง (
) (Mp X)
Sacrifice Musician 1 ใบในสนาม ; Seal 1 ใบในสนามฝ่ายเราเปลี่ยน Line (
)(Mp 2)
ค่าพลังค่อนข้างต่ำเพราะเป็นซีลเลเวล 1 ไม่เหมาะจะนำมายืนที่ At Line
แต่ Ability ของเธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย เป็นตัวเสริมที่ Deck Harpy ควรจะมี
เมื่อเธอ Double Combination แล้ว ถึงจะ At แค่ 8 แต่ Sp ก็เต็มที่ แต่เมื่อเธอ Triple Combination แล้ว
ก็สามารถที่จะยืนได้ทั้งแนวหน้าแนวหลัง
เนื่องจากเธอเป็น Shade of N[Harpy] จีงเข้ากับเด๊กฮาร์ปี้ด้วยกันเองได้อยู่แล้ว
เมื่อเธอรวมร่างจะเกิด Ability ที่ส่งผลกับ Harpy ทั้ง Line ทำให้ไม่ต้องกลัว Doll เชือด โดด Freeze หรือ Curse อื่นๆ
แถมเวลา Hapy อื่นใช้ Skill ยังไม่ต้องกลัวโดนเด้งกลับอีกด้วย
Ability เด้ง Seal ที่ตก Shrine กลับเข้ากองถือว่ามีประโยชน์มากมายทีเดียว คอยที่จะหยุด Loop หรือ Combo
ที่จำเป็นต้องพึ่ง Ability ตก Shrine จากกองการ์ดได้ไม่ง่าย แถมจ่ายถูกอีกด้วย
Skill ของเธอจำเป็นต้องรวมร่างอีกแล้ว แต่ก็ได้ผลดีทีเดียว สกิลที่สามารถทำให้เป็นอินเตอร์เฟียได้ไม่เพียงแต่ฮาร์ปี้เท่า
นั้น แต่ยังทำให้มันสามารถใช้สกิลของมอนสเตอร์ทุกใบได้อย่างอินเตอร์เฟียอีกด้วยถือว่าแรงมากจริงๆ
อีกสกิลหนึ่งก็แรงไม่แพ้กัน แซคนักดนตรีสั่งซีลเปลี่ยนไลน์ ซึ่งในที่นี้เป็นการกำหนดไลน์นะครับ ดัง
นั้น นักเต้นก็จะวิ่งได้อย่างอิสระ เนื่องจากที่เมเด้นต้องโดนลดไป ก็ยังพอแทนได้ แถมยังย้ายได้ทุกใบในสนามฝ่ายเรา
ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเต้นอีกด้วย
ป.ล.ขอบคุณพี่ Chess Knight ที่ทักท้วงเรื่องเผ่าพันธุ์และปัญหาอีกมากมายมา
ฟอลเซททาห์ ไนทิงเกล เป็นฮาร์ปี้ไม่กี่ตัวที่พลัดจากป่าแถบฟูดินันมาเมื่อครั้งที่เนริมอร์แอบมาเผาป่า
ฮาร์ปี้น้อยที่ยังไม่รู้อะไร จำเป็นต้องพลัดพรากจากฝูงมาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสจากแผลไฟลวกบริเวณปีกทั้งสองข้าง
วันหนึ่งขณะที่เธอเดินทางตามหาฝูงอยู่นั้น ก็ได้พบลูกนกตัวหนึ่งที่ตกลงมาจากรัง ด้วยความหิวเธอจึงคิดที่จะจับทาน
แต่แล้วเธอก็ได้สังเกตเห็นแม่นกที่อยู่บนรังฟร้อมกับลูกๆอีกหลายตัวของเธอร้องกันระงม เธอจึงคิดได้ว่า
นกเหล่านี้ไม่สมควรจะเป็นอาหารเรา เราที่ตกลงมาจากรังจำต้องพลัดพรากจากพ่อแม่พี่น้องเช่นเดียวกับเรา
เหตุใดเรายังต้องซ้ำเติมเค้าอีก ยิ่งดูแล้วเหมือนมองตนเอง เธอจึงตัดสินใจที่จะช่วยลูกนกตัวนั้นขึ้นไปที่รัง
แม้ว่าปีกของเธอจะใช้การได้ไม่ดีก็ตาม คืนนั้นเธอยังคงต้องทนหิวต่อไป จนสุดท้ายต้องผลอยหลับไป
และเห็นนิมิตถึงเทวาองค์น้อยมีรัศมีสีทองเจิดจรัสอยู่ กล่าวว่า จิตของเจ้าที่จะช่วยถูกชำระล้างให้บริสุทธิได้
เจ้าจงลงไปตามแนวชายป่าด้านขวาของตะวันรุ่ง จนถึงแนวชายหาด ที่นั่น เจ้าจะพบเหล่าคณะนักบวชทั้งหลาย
เจ้าจงส่งเสียงร้องที่ไพเราะที่สุดและสวดมนต์ภาวนาตามชนเหล่านั้นไป รุ่งขึ้น ฮาร์ปี้น้อยก็ได้ออกเดินทางตามที่เทวาเด็กบอก การเดินทางใช้เวลายาวนานกินเวลาอยู่แรมเดือน จนที่สุดเธอก็พบกับแรวชายฝั่ง ที่นั่นเป็นเพียงหมู่บ้านๆเล็กๆแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่ที่สะดุดตาที่สุดคือตึกรูปทรงประหลาดสีขาวผ่องประดับด้วยไพลินสีน้ำเงินพร้อมกับเสียงเพลงอันไพเราะที่ดังออกมา เธอจึงตัดสินใจที่จะงลหลักปักฐานอยู่ ณ บริเวณชายป่าแถบนั้น ทุกวันๆที่เธอได้ยินเสียงเพลงภาวนาจากสิ่งก่อสร้าง เธอพยายามที่จะขับร้องตาม ไม่นานก็เป็นผล เนื่องจากความเป็นครึ่งวิหคของเธอ เสียงของเธอจึงสามารถสะท้อนกังวาลและไพเราะกว่าเสียงอื่นๆ เธอจะขับร้องเพลงตามเสียงทุกวันๆ จนวันหนึ่ง เหล่าคณะนักบวชที่สงสัยในเสียงอันไพเราะมานาน ได้ออกเดินทางตามหาต้นเสียง แน่นอนว่าฮาร์ปี้ตัวนั้น ไม่หลีกหนีไปไหนและยอมให้พบตัวโดยง่าย
เหล่าคณะนักบวชจึงเชิญชวนให้ฮาร์ปี้ตัวนั้นไปอยู่ด้วยกันที่โบสถ์ในฐานะนักบวชคนหนึ่งเช่นกัน แต่เรื่องก็ไม่จบง่ายๆเมื่อ มีประชาชนบางส่วนไม่พอใจที่จะนำสัตว์ประหลาดเข้ามาอาศัยอยูด้วยกัน ด้วยเสียงอันไพเราะของฮาร์ปั้จึงเป็นที่น่าเสียดายของเหล่านักบวชมากหากต้องขับไล่เธออกไป ฮาร์ปี้และเหล่าคณะนักบวชจึงสวดมนต์ภาวนาอ้อนวอนขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า ฮาร์ปี้นางนี้กลับกลายเป็นเช่นชนสามัญด้วย เหมือนดั่งนิยาย แสงสีทองจากฟ้าส่องผ่านกระจกโบสถ์โบสถ์ลงมาพร้อมด้วยเสียงอันเมตตา นี่คือพระประสงค์ของพระองค์ที่จะให้ตามปรารถนา เนื่องในความดีงามของเจ้า แต่จงจำไว้ เมื่อถึงเวลาอันควร เจ้าจำเป็นจะต้องเผยกายที่แท้จริงของเจ้า ฮาร์ปี้กลับกลายร่างเป็นมนุษย์นางหนึ่ง มีนัยน์ตาสีเป็นทองคำ ผิวสีเนื่ออ่อน ปีกที่ถูกเพลิงทำร้ายกลับกลายเป็นแขนอันสวยงาม ปอยผมที่มีสีอร่ามเหลือง
เหล่านักบวชจึงขนานนามให้เธอใหม่ว่า "Falsetta Nitingale" แต่เรื่องนี้ก็ยังต้องปิดเป็นความลับ จึงมีการแพร่ข่าวเรื่องอของการถูกขับไล่จองฮาร์ปี้สาวและนักบวชหญิงคนใหม่จากทางเหนือออกไป
และนั่นคือสาเหตุทำไมเธอถึงเป็น Shade of N[Harpy] และ [Monster] - -*
^^" จบละครับ ถ้ายาวไปผมขอโทษด้วยครับ