Chapter : 3 ปาฏิหาริย์ และ ความสูญเสีย
ห่าฝนลูกธนู แล้วกองทัพม้าปีกดำ บุกเข้าโจมตี ขบวนรถม้าบินของราชอาณาจักร ฟิเลเซีย แม่ทัพโรน่าซึ่งสู้กันอย่างดุเดือดกับแม่ทัพราโชยู
"ตอนนี้แกมีสองทางเลือกนะ จะตายที่เคียวข้าหรือจะตายบนฟ้ากับขบวนรถม้านั่น"ราโชยูพูด แล้วยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
โรน่าสีหน้าตึงเครียด "ทำไม เราต้องมาเสียเวลา กับไอ้นี่ด้วย ภารกิจเราก็คือช่วยเหลือท่านเกรเกอรี่กลับ ฟิเลเซีย" เธอคิด "วี๊ดดดดดดดดดดดดดด" เธอพิวปากเสียงเบาๆ
ม้าบลูสกาย บินมาจาก เงามืดของเมฆอีกด้านหนึ่ง บินมา เหนือ วิหารฟรานเชสก้า โรน่าก็เทคตัวกระโดด ขึ้นขี่ม้าบลูสกาย
"ท่านราโชยู จะเอายังไงต่อครับ"ทหารกรงเล็บคนหนึ่งถาม แม่ทัพราโชยู
"เรื่องบนฟ้าข้าไม่ถนัด ต้องพึ่ง ฮาโบริม กับ แฮม่อน เท่านั้นล่ะ ป่ะ พวกเรา ลงไปรอข้างล่าง รอเก็บศพได้เลย ฮ่าๆ"ราโชยูหัวเราะออกมาอย่างดัง พร้อมกับสั่งทหารทุกคนลงจากวิหารฟรานเชสก้า
โรน่าควบม้าบลูสกายคู่ใจบินขึ้นไปหา ขบวนรถม้าบินอย่างว่องไว แต่ระหว่างทาง เจอสกัดบ้างแต่โรน่าก็ฟาดฟันผ่านมาได้หมด
แต่ก็ดูเหมือนว่า โรน่าจะมาทันเวลาพอดี ขบวนรถม้ายังไม่เสียหายไปมากเท่าไร
"ท่านโรน่า ให้ไปแจ้ง แม่ทัพชาร์ล หรือ กษัตริย์ซิกมันมาช่วยดีมั้ยครับ"ทหารม้าปีกไฟคนหนึ่งถาม
"ไม่ต้อง พวกเราต้องฝ่า ไอ้พวกนี้ออกไปให้ได้ ให้ ทหารม้าบลูสกายคุมกองหลัง คอยกันด้านหลังให้ และ ทหารม้าปีกไฟอยู่ ทางซ้ายและขวา บรูนิลด้า ข้า และเหล่าทหารม้าบินขนทอง จะอยู่กองหน้าเอง"โรน่าออกคำสั่ง
"บรูนิลด้า!!!"โรน่าตะโกน
"ค่ะ มีอะไรหรือท่านโรน่า"บรูนิลด้าพูด
"เจ้าขี่ม้าที่เร็วที่สุดในฟิเลเซียแล้ว คือม้าอูริก เจ้าจงนำจดหมายนี่มอบให้กษัตริย์ซิกมัน เจ้าไม่ต้องบินกลับมาอีกแล้ว " โรน่ายื่นจดหมายให้
"แล้วท่านโรน่าล่ะ"บรูนิลด้าถาม
"ไม่ต้องห่วง ข้าเชื่อว่า เมื่อกษัตริย์ซิกมันได้รับจดหมาย ท่านคงช่วยพวกเราแน่ เจ้าต้องถึงฟิเลเซียภายใน 15 นาที ไปๆ เจ้าออกไปได้แล้ว"โรน่าสั่ง
บรูนิลด้าควบม้าอูริก ไปทางทิศตะวันออก ฝ่างกองทัพม้าปีกดำ อย่าปลอดภัย ส่วนโรน่าค่อยๆเคลียร์ทางแต่ละส่วนให้ ขบวนรถม้าบินออกไปได้ ระหว่างที่ฝ่าออกไป ทหารม้าบินของโรน่าก็ล้มหายตายจากไปบ้าง ทีละ 1 ทีละ 2 นาย
ผ่านมา 5 นาที ขบวนรถม้าก็ถูกโจมตีเข้า ปีกซ้ายปีกขวาคุมไม่ไหว
"ข้าทำอะไรไม่ได้เลยเหรอเนี่ย ได้เพียงนั่งอยู่ในรถม้าแบบนี้"เกรเกอรี่บ่น
พอเขาพูดจบลูกธนูก็ทะลุเข้ามา เจาะกะโหลกแม่ของเด็กที่เพิ่งคลบอดเมื่อครู่ตาย
ชาวบ้านแถวนั้นตกใจ รูที่ทะลุ ก็เริ่มใหญ่ขึ้นเนื่องจากความดันของอากาศ ชาวบ้านก็แตกตื่นวิ่งกันรอบรถม้า "ทุกคนอยู่ในความสงบ เรามาช่วยสวตมนต์ให้สวรรค์ช่วยเถอะ"เกรกอรี่พูดกพร้อมเอามือประกบกันนั่งสวดมนตร์
เอลวินเด็กทารกเห็นกรเกอรี่ทำก็เลยทำตาม แต่ด้วยความดันอากาศ เขาจึงถูกอากาศพัดเขาออกจากรถม้าบินไป
ด้วยความสูง สองพันเมตรจากพื้นดิน เขาตกลงมาด้วยความเร็วสูงมา แต่ก็มีมือที่เต็มไปด้วยออร่าสีขาวทั้งตัว
เจ้าของมือมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเด็ก สวมชุดคลุมสีขาวสลับน้ำเงิน
"โอ๋ๆ เจ้าเด็กน้อยกำลังสวดมนตร์อยู่เหรอ"เขาพูดกับเด็ก
"นอกจากสวดมนตร์แล้วยังขอพรอีกนะเนี่ย เจ้าได้พรแล้วล่ะ"เขาพูดอีก
แสงส่องทะลุ เมฆสีดำ ออกมา กองทัพม้าบินของโรน่าเหลือเพียงไม่มากได้ แสงนั้นจึงตกใจอย่างมาก
ทางฝั่งซาโลมก็เช่นกัน
ชุดเกราะสีเงินระยิบระยับทั้งตัว ถือคอกยาว โดยมีรูปไม้กางเขนตรงปลายหอก ช่วงผมเป็นปีก ข้างหลังก็เป็นปีกเช่นกัน
แฮม่อนนักรบแห่งความตายเห็นจึงขี่ม้าบินคู่ใจเพื่อไปจัดการคนๆนี้
"แกเป็นใครกัน"แฮม่อนตะโกนถาม
"ข้าคือ อัศวินสวรรค์"พอเขาพูดจบปุ๊ป ก็ขว้างหอกไปหาแฮม่อน แฮม่อนหลบไม่ทัน ถูกหอกปักตาย ตัวแฮม่อนก็สลายไปตามอากาศ
แสงที่ออกมาจากการปรากฏตัวของอัศวินสวรรค์ นักรบปีศาจของซาโลมล้วน ถูกเผาสลายไปตามออกกาศหมด แม้แต่แม่ทัพฮาโบริมหรือกองพันม้าปีกดำ
แล้วอัศวินสวรรค์หายไป
ไม่ถึงครึ่งนาที ก็ทัพม้าบินแห่งฟิเลเซียอีกกองมุ่งมาหา โรน่า ผู้นำกองหน้าใส่ชุดเกราะสีเขียวประดับด้วยมรกตอันสวยงาม ขี่ม้าเพรูน ม้าที่เร็วที่สุดในทวีปเมอริเซีย แม้แต่ม้าอูริกเป็นรอง เขาไม่ใช่ใครที่ไหนคือ กษัตริย์ ซิกมันที่ สาม
เกรเกอรี่โผล่ออกมาดู ก็ดีใจ
แต่เมื่อเขาเช็คจำนวนชาวบ้านในรถม้า เด็กเอลวินกลับหายไป
"สงสัยจะต้องตายแล้วแน่ๆเลย ไม่น่าเลยนะ เอลวิน เกิดมาไม่ทันข้ามคืนก็จากไปเสียแล้ว"เกรเกอรี่พูด พร้อมกับโยนผ้าคลุดของเด็กออกไป กลางอากาศ "ไปสู่สุคตินะ ทุกคน"
ขอบคุณเว็ปตาหนูและ การ์ด ดาต้าเบส สำหรับภาพ