Chap 1:ปฐมบทแห่งโชคชะตาณ จุดขุดค้นโบราณสถานในป่าลึกแห่งนึงบนโทร่า.....
"ศาสตราจารย์! ศาสตราจารย์! เราเจอของบางอย่างแล้วครับ! มาดูเร็ว"ชายหนุ่มผิวสีกาแฟตะโกนไปยังชายสูงวัยคนนึง สีหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
"อืม อืม เข้าใจแล้วมายิก เดี๋ยวรอฉันแป้ปนึงนะ"ชายสูงวัยคนนั้นกล่าว เขาและผู้ช่วยเดินไปหามายิกอย่างไม่เร่งรีบ กระเป๋าเครื่องมือสั่นส่งเสียงก้องแก้งเป็นระยะ
"มาดูนี่สิครับ"มายิกกล่าวพลางยื่นแผ่นศิลาจารึกขนาดเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่ไปให้ชายสูงวัย
"อืมๆ... ไหนดูซิ โอ้ นี่เป็นอักษรโบราณที่เก่าแก่มากทีเดียว ขอเวลาฉันกับซิลวาเอาไปตรวจสอบหน่อยนะ เดี๋ยว2-3วันนี้ถ้าฉันตีความได้จะบอกทุกๆคนเอง"ชายสูงวัยกล่าว เขาและผู้ช่วยเดินกลับไปยังกระโจมโดยที่มีศิลาจารึกดังกล่าวอยู่ในมือ
เช้าตรู่ของ4วันต่อมา ...
เอาล่ะทุกๆคนฉันมีข่าวดีจะมาบอกศาสตราจารย์กล่าวในช่วงเวลากินข้าวเช้า เขาและผู้ช่วยคนสนิทมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อยแต่มีความสุขดูราวกับเด็กที่เพิ่งต่อตัวต่ออันยากเย็นสำเร็จก็ไม่ปาน ภาษาโบราณบนศิลาจารึกที่เราเจอเมื่อเช้านั้นฉันกับซิลวาได้แปลความหมายได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันเป็นบันทึกที่เก่าแก่มากทีเดียว เพราะภาษาที่ใช้ในจารึกนี้มีใช้กันเมื่อ2000กว่าปีก่อนนู่น มันกล่าวไว้ว่าในอดีตกาลนั้น หลังจากข่ายมนต์คุมชะตาได้ถูกทำลายลง พลังที่เหลือจากข่ายมนต์ที่ไม่สามารถทำลายได้นั้นได้ถูกบรรดาเทพีแห่งชะตากรรมผนึกไว้ในสุดของเขาวงกตปริศนานามสิคารัส(Sicarus)ในรูปของกล่อง พวกนางได้วางอาคมแก่กล้าไว้มากมายเพื่อปกป้องกล่องใบนั้น ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะพลังของมัน แม้จะไม่สามารถคุมชะตาแห่งผืนแผ่นดินได้แบบข่ายมนต์ดั้งเดิม แต่ก็ทรงพลังพอที่จะทำให้ผู้ที่สามารถควบคุมมันสามารถควบคุมชะตาของตนเองได้
ข่ายมนต์คุมชะตางั้นเหรอ...ศาสตราจารย์ครับ หรือมันจะเกี่ยวกับนิทานปรัมปราสมัยโบราณที่เล่าว่าประเทศนี้ถูกปกครองโดยบรรดาผู้ชักนำชะตากรรม นักสำรวจคนนึงกล่าว
ถูกต้องแล้วริซาล ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงล่ะก็ เราอาจจะพิสูจน์ตำนานที่ว่าได้ก็ได้ ฉันเองก็ได้ส่งสารไปยังท่านพระราชาถึงการค้นพบของเราแล้วด้วย ชายสูงวัยตอบพลางยิ้มกริ่มโดยหารู้ไม่ว่าตัวเองได้ชักนำมรณะมาหาตัวเองแล้ว.....
คืนนั้น...
อ้ากกก
ตูมมม
เสียงร้องและเสียงระเบิดดังระงมไปทั่วป่าบริเวณนั้น เปลวเพลิงสีแดงฉานเผาไหม้กลืนกินวัตถุโบราณอันประเมินค่ามิได้มากมาย บรรดานักสำรวจต่างถูกไล่ฆ่าอย่างไม่ปราณี หลายๆคนพยายามใช้อาวุธเบาสำหรับป้องกันตัวมาต่อสู้กับผู้บุกรุก แต่ดาบสั้นหรือจะสู้ปืนได้ นักโบราณคดีเพียง10กว่าคนที่ไม่มีอาวุธเพียงพอย่อมถูกผู้บุกรุกติดอาวุธครบมือกว่า30คนจัดการอย่างง่ายดาย
ศาตราจารย์! ศาสตราจารย์! ศาสตราจารย์ เป็นอะไรรึเปล่าครับ มายิกวิ่งเข้ามาช่วยชายสูงวัย แขนของเขามีรอยแผลถูกดาบฟันเป็นทางยาว แต่อาการของศาสตราจารย์นั้นร้ายแรงกว่ามาก เขาถูกปืนของผู้บุกรุกยิงเข้าหลายนัดและกำลังหายใจรวยรินเต็มที ซิลวาผู้ซึ่งหมดลมไปแล้วนอนตายอยู่ไม่ไกลจากศาสตราจารย์มากนัก ตามลำตัวมีรอยถูกดาบแทงหลายแผล ในมือกำมีดสั้นเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามต่อสู้กับผู้บุกรุกแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
มะมะ....มายิก.... ศาสตราจารย์กล่าวด้วยน้ำเสียงรวยริน คนอื่นๆละ...ล่ะ
มาดิ้บ ราสะ สิงห์กับอูถูกฆ่าตายไปแล้วครับ ส่วนริซาลกลับไปเอาบันทึกค้นคว้าที่เขาลืมไว้ที่จุดขุดค้นครับ เขาออกไป2ชั่วโมงก่อนเราจะถูกโจมตี เขาคงจะมีสิทธิ์รอดมากกว่าพวกเรา มายิกกล่าว ตาของเขาเริ่มพร่าและตัวเริ่มชาเพราะเสียเลือดมากเกินไป
งะ...งั้นหรือ งั้นก็ดีอย่างน้อยการค้นคว้าของพวกเราคะ....คงจะไม่สูญปละ....เอ่า...... ศาสตราจารย์กล่าวเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะสิ้นลมไป
ไม่ทันจะได้เศร้าเสียใจต่อการจากไปของศาสตราจารย์ ผู้บุกรุกคนนึงได้มาอยู่ข้างหลังมายิกแล้ว ปืนพกของเขาเล็งมาที่หัวของมายิก
ปัง!
มายิกรู้สึกเจ็บแปล้บตรงหน้าผาก ของเหลวอุ่นๆสีแดงไหลออกมาตัดกับผิวสีกาแฟของเขา เขาเหลือบไปเห็นตราบนปืนและชุดของผู้บุกรุก แม้ตาจะพร่าแต่เขามั่นใจว่ามันคือสิ่งที่เขาคิด หูของเขาเองก็ได้ยินเสียงเช่นกัน และเขามั่นใจว่าได้ยินมันได้ถูกต้อง ประโยคของผู้บุกรุกที่กล่าวว่า เตรียมระเบิดเพลิงด้วย เราะจะจัดฉากให้เดหมือนนักโบราณคดีพวกนี้ถูกไฟป่าคลอก!
ตรามังกรสองหัว...ตราของกองกำลังส่วนพระองค์ วางเพลิง จัดฉาก นี่มันหมายความว่ายังไง.... มายิกคิดได้เพียงเท่านี้ เพราะจู่ๆสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาก็มืดไปหมด
ไกลออกไป ริซาลมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ค่ายที่พักอย่างชัดเจน
ศาสตราจารย์ มายิก อู ทุกๆคน... ริซาลรำพึง ดวงตาเอ่อนองไปด้วยน้ำตาพอๆกับเนื้อตัวที่มอมแมมไปด้วยเหงื่อ บันทึกการค้นคว้าอยู่ในมือเขา
นี่ถ้าเขาไม่หลงป่าแล้วกลับมาที่ค่ายเร็วกว่านี้เขาคงตายไปแล้ว โชคกำลังเข้าข้างเขาอยู่งั้นรึ แต่ไม่น่าจะใช่ เพราะการมีชีวิตอยู่กับความทรงจำที่เจ็บปวดของการสูญเสียของคนรู้จักโดยที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้นั้น มันอาจจะน่ากลัวและทรมานเหนือกว่าความตายไม่รู้กี่เท่าก็เป็นได้
คณะเทพี่แห่งชะตากรรมเนเมซิส พวกท่านช่างโหดร้ายต่อข้าจริงๆนะ ริซาลกล่าวพร้อมน้ำตา ก่อนจะใช้ความมืดดุจโล่กำบังหนีออกไปจากบริเวณดังกล่าว
---------
เป็นไงครับ ตอนเเรก ช่วยติชมด้วยนะ