หลักการในการครีเอทการ์ด โดย ศรี

[ศรี]

เนื่องจากว่า หลายๆคนในบอร์ดนี้ ยังไม่รู้หลักในการครีเอทการ์ด อีกทั้งไม่มีคนวิจารณ์การ์ดที่ครีเอทออกมาเลย จึงทำให้ไม่รู้หลักในการครีเอทการ์ดยิ่งขึ้นไปอีก ทางตัวเรานั้นก็อยากจะวิจารณ์การ์ดบางใบที่ท่านทั้งหลายครีเอทอยู่บ้าง แต่เนื่องด้วยความขี้เกียจ บวกกับการที่วิจารณ์แล้วจะกลายเป็นด่าเอา ทางเราจึงขอเสนอแนะแนวทางในการครีเอทการ์ด รบกวนพี่เซฟเอาไปตั้งเป็น topic ให้ด้วย

ตัวผมเองนั้น ก็อาจไม่ได้เก่งอะไรนักหนา ดังนั้น แนวคิดของผม อาจจะไม่ถูกต้องในบางส่วน ก็เชิญท่านทั้งหลาย พิจารณากันเอาเอง

หลักการในการครีเอทการ์ด ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนมาก ในครั้งนี้ จะขออธิบาย เกี่ยวกับเรื่อง "จุดประสงค์ในการครีเอทการ์ด" กันก่อน

หลักการในการครีเอทการ์ด

เริ่มแรก ก็ต้องมาดูที่จุดประสงค์กันก่อน การจะทำอะไรนั้น ย่อมต้องมีจุดประสงค์ก่อน การคิดการ์ดนั้น ก็ต้องมีจุดประสงค์เช่นกัน จุดประสงค์ที่คิดการ์ดใบโน้นใบนี้ออกมา พอจะแบ่งได้ดังนี้

1. ต้องการ ให้การ์ดใบนี้ อยู่ในเด็คประเภทใดบ้าง
 คุณอาจจำกัด ให้อยู่แค่ในเด็คเพียงแค่ไม่กี่ประเภท หรือให้เข้ากับเด้คประเภทไหนก็ได้  ซึ่งการจะจำกัดว่าให้อยู่ในเด็คประเภทใด ก็ทำโดยใช้ท่ารวมร่างเป็นการบังคับ หรืออบิลิตี้ ที่สนับสนุนเด็คประเภทนั้นๆ อะไรก็ว่าไป ซึ่งคุณเองก็ควรจะเข้าใจรูปแบบการเล่นของเด็คประเภทนั้นๆด้วย

2. ต้องการให้การ์ดใบนี้ มีหน้าที่อย่างไรในเด็ค
 ในเด็คหนึ่ง จะประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง อาทิเช่น ตัวยืน , ตัวรอง , ตัวทำเกม ฯลฯ
การ์ดที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ อย่างน้อย 2 ข้อ
1. ใช้เป็นตัวหลักได้
2. ใช้เป็นตัวรองได้
3. มี skill หรือ ability ที่สามารถส่งผลต่อรูปเกมได้

ในเรื่องจุดประสงค์ในการครีเอทการ์ดยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีก เช่น

1. ต้องการแก้ไขข้อบกพร่อง ของเด็คประเภทโน้นประเภทนี้ อย่างเช่น
เด็คไฟ ซึ่งขาดตัวรอง คุณอาจครีเอทการ์ดที่ค่าร่ายน้อย เลเวลน้อย เพื่อเอามาใช้เป็นตัวรอง หรือไม่ คุณก็ครีเอทการ์ด ซึ่งช่วยให้ไฟสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องรวมร่าง เป็นต้น
เด็คยูนิคอร์น ซึ่งล้มตัวใหญ่ยาก คุณอาจสร้างตัวที่ช่วยบวกพลังให้ เพื่อให้ล้มตัวใหญ่ง่ายขึ้น หรือสร้างตัวที่มัน + at ตามจำนวนม้าในสนาม , ใน shirne เป็นต้น

2. ต้องการแก้ทางการ์ดบางใบ หรือเด็คบางประเภท อย่างเช่น เด็คน้ำเคิร์ส แพ้ทางเด็คแคนเซิ้ลเคิร์สอย่างช่วยไม่ได้ ก็ออกตัวสำหรับทำลาย ability แคนเซิ้ลเคิร์สออกมา
การ์ดสำหรับแก้ทางนั้น ควรมีความสามารถอย่างอื่นด้วย อย่างเช่น ไวเปอร์มารา ซึ่งช่วยให้มอนส์เตอร์ ใช้สกิลจาก df line ได้ การมีความสามารถอย่างอื่นเพิ่มเข้ามานี้ ก็เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ได้ แม้จะไปเจอการ์ดหรือเด็คที่เราต้องการจะแก้ทาง

3. ต้องการต้องการเอามาทำคอมโบ คู่กับการ์ดบางใบ ที่มีอยู่แล้ว เนื่องจากการ์ดบางใบที่มีอยู่แล้ว อาจห่วยมากจนใช้งานไม่ได้ แต่คุณคิดว่าอยากจะให้การ์ดใบนี้ได้ใช้เหลือเกิน ก็ทำการ์ดที่ช่วยทำคอมโบกับการ์ดใบนั้นๆออกมา อย่างเช่น การ์ดใบหนึ่งใช้งานได้ดี เมื่ออยู่ในสถาณการณ์อย่างหนึ่ง เราก็สร้างการ์ด ที่ช่วยทำให้เกิดสถาณการณ์นั้นออกมา เป็นต้น

4. ต้องการทำให้เกิดรูปแบบการเล่นใหม่ๆ อาทิเช่น สารพัดม้าๆทั้งหลาย ซึ่งเกิดขึ้นในชุดเมอร์ 1 ก็ต้องคิดก่อนว่า รูปแบบการเล่นนั้น จะให้เป็นเช่นไรแล้วก็สร้างการ์ดที่มีความสามารถสอดครล้องกับรูปแบบการเล่นนั้นๆ

นอกจากนี้ การคิดการ์ด ยังอาจมีจุดประสงค์อื่น นอกเหนือจากนี้ ซึ่งทางเรา ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร จึงขอจบเรื่อง จุดประสงค์ในการครีเอทการ์ดไปเลยแล้วกัน

ต่อมา จะเป็นเรื่อง คอนเซ็ปของแต่ละธาตุ
การจะคิดว่า จะให้การ์ดที่เราคิดออกมา อยู่ในเด็คประเภทไหน ก็ต้องรูปคอนเซ็ปของเด็คประเภทนั้น และสิ่งที่ควรจะเข้าใจคือ คอนเซ็ปของแต่ละธาตุ

ไฟ

มาดูที่ค่าพลังกันก่อน
at มากกว่าปกติ
df น้อยกว่าปกติ
sp ปานกลาง

- เน้นไปที่การตัดจังหวะ ของฝ่ายตรงข้าม อาทิเช่น ลาวาวอร์ชาร์ค
- เน้นการทำลายการรวมร่าง เช่น เซอร์เร่ ฟอวคอน , มิโนทอร์
- เน้นการส่งเสริมค่า at หรือบางตัวก็ + at - df เช่น ฟีบีส , เนริมอร์ , Last Dance Curse
- การโจมตีที่รุนแรง เช่น อีวิลแชแมนเซนทอร์
- การตก shirne พวกนี้จะมี ability ที่ส่งผลเมื่อตก shirne เช่น เซอร์เร่ฟอวคอน , มิโนทอร์ , เรดไนท์อีวิล และยังมีซีลที่ช่วยให้การตายของซีลมีค่ามากยิ่งขึ้น อันได้แก่ ลาซาลซอร์เซอร์เรอร์ หรือซีลที่มีความสามารถพิเศษ ที่ต้อง sacrifice seal อื่น เช่น ซาโลมแอสซาซิน


ลม
ค่า at ปกติ
ค่า df ส่วนมากจะมากกว่าค่า at
ค่า sp ส่วนมากจะอยู่ที่ 3-5

- เน้นการส่งเสริมตัวเอง ให้ตั้งเกมได้เร็ว อาทิเช่น สารพัดของช่วยจั่วทั้งหลาย
- การเล่นกับค่า sp เช่น ฮาวาแคน , สตอร์ม่า , โฟเบรอส
- การเล่นกับการรวมร่าง เช่น ซิกมันด์โปรโมฯ อีกทั้งซีลขนาดเล็ก - กลางส่วนใหญ่ของธาตุลม ต้องรวมร่างก่อน จึงจะเก่ง
 

น้ำ

at ต่ำกว่าปกติ
df ปกติ
sp ต่ำ

- การเล่นเคิร์ส เคิร์สของธาตุน้ำ ได้แก่ Freeze Curse , Poison Curse , Charm Curse
- การเล่นกับ mp โดยการเพิ่ม mp ตัวเอง หรือลด mp ค่าตี,ค่าใช้สกิล
- การถ่วงเกม อันได้แก่ ฟริมัสแคสเตอร์ , ฟรีซเคิร์ส
- การเล่นกับค่า df เช่น อิริค , ลูเซียน่า , เมอร์เมดวอร์ริเออร์

ดิน
at ต่ำกว่าปกติ
df สูงกว่าปกติมาก
sp ต่ำกว่าปกติ

- เน้นการตั้งรับอย่างเหนียวแน่น
- การถ่วงเกม อันได้แก่ อิสฮาน , สโตนเคิร์ส
- การส่งเสริมพลัง ด้านค่า df
- การต้านเคิร์ส

มืด
at ปกติ
df ปกติ
sp ปกติ

- การเล่นเคิร์ส รวมไปถึงสนับสนุนเคิร์ส
- การเล่นกับ shirne ได้ เช่น สกอร์เปี้ยนคิง , บริลแกรม , โซลกริฟฟิน
- ความสามารถที่เกิดผลเมื่อตาย เช่น อันเดอร์เอิร์ธเทล , เคิร์สเทอเรี่ยน
- การตายยากเย็น เช่น สการ์เล็ทรีปเปอร์
- การเล่นกับมิสติกได้ เช่น แมว , ไวส์วิซาร์ด , ซินิสเตอร์เซนทอร์
- การบั่นทอนทรัพยากรของฝ่ายตรงข้าม อันได้แก่ การตัด mp , การกำจัดตัวรองด้วยตุ๊กตา เป็นต้น

แสง
ค่าพลังต่างๆ อยู่ในระดับปกติ

- การต้านเคิร์ส
- การต้านมิสติกการ์ด
- การสนับสนุนธาตุอื่น
- การขุดของใน shirne

บางครั้ง การมั่วคอนเซ็ปของธาตุบ้างเล็กน้อยก็ไม่เสียหายอะไรมาก แต่ถ้ามั่วคอนซ็ปะตุมากเกินไปจะวิบัติเอา

[ศรี]

ทีนี้ ก็จะมีดูเรื่องค่าพลังเริ่มต้นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ตัวเลขเปลี่ยนไปแค่เพียงนิดเดียว ก็ทำให้ความสามารถเปลี่ยนไปมากได้ มาดูความเหมาะสมกัน

ธาตุไฟ

เลเวล 1
ค่าร่าย   1   at 4-6  df ไม่เกิน 4 sp ไม่เกิน 4

เลเวล 2
ค่าร่าย   2   at 5-7  df ไม่เกิน 6 sp ไม่เกิน 4
ค่าร่าย   3   at 7-9  df ไม่เกิน 6 sp ไม่เกิน 4

เลเวล 3 - 4
ค่าร่าย 3   at 9  df ไม่เกิน 7 sp ไม่เกิน 4
ค่าร่าย 4-5  at 9 -10 df ไม่เกิน 9  sp ไม่เกิน 4

ธาตุไฟ จะมี df 0 โผล่มาบ้างก็ไม่แปลก ตัวที่ df 0 ควรมีข้อดีอย่างอื่น เพื่อหักล้างกับข้อเสียนี้


ธาตุน้ำ
เลเวล 1
ค่าร่าย   1   at 3-5  df 4 - 6  sp ไม่เกิน 4
ค่าร่าย   2   at 5-6  df 5 - 7 sp ไม่เกิน 4

เลเวล 2
ค่าร่าย   2   at 5-7  df 6-8 sp ไม่เกิน 4
ค่าร่าย   3   at 7-8  df 7-9 sp ไม่เกิน 4
ค่าร่าย   4   at 8      df 8-10  sp ไม่เกิน 4

เลเวล 3 - 4
ค่าร่าย 4-5  at 8 -10 df 9-12  sp ไม่เกิน 4


ธาตุดิน
เลเวล 1
ค่าร่าย   1   at 0-4  df 5-7  sp ไม่เกิน 4
ค่าร่าย   2   at 4-6  df 5-7 sp ไม่เกิน 4

เลเวล 2
ค่าร่าย   2   at 0-6  df 7-9 sp ไม่เกิน 4
ค่าร่าย   3   at 0-8  df 8-10 sp ไม่เกิน 4
ค่าร่าย   4   at 0-8  dt 9-10 sp ไม่เกิน 4

เลเวล 3 - 4
ค่าร่าย 4-5  at 0 -10 df 10-12  sp ไม่เกิน 4

ธาตุดินนั้น จะมี at 0 มาบ้างก็ไม่แปลก เพราะว่าดินเน้น df มากกว่า at


ธาตุลม
เลเวล 1
ค่าร่าย   1   at 4-5  df 4-6 sp 3-5
ค่าร่าย   2   at 5-6  df 5-7 sp 3-5

เลเวล 2
ค่าร่าย   2   at 5-6  df 5-7 sp 3-5
ค่าร่าย   3   at 6-8  df 7-8 sp 3-5
ค่าร่าย   4   at 8  dt 8-9 sp 3-5

เลเวล 3 - 4
ค่าร่าย 4-5  at 8 -10 df 9-11  sp 4-5


ธาตุมืด
เลเวล 1
ค่าร่าย   1   at 4-5  df 0-6 sp 0-5
ค่าร่าย   2   at 5-6  df 0-6 sp 0-5

เลเวล 2
ค่าร่าย   2   at 5-7  df 0-7 sp 0-5
ค่าร่าย   3   at 6-8  df 0-8 sp 0-5
ค่าร่าย   4   at 8  dt 0-9 sp 0-5

เลเวล 3 - 4
ค่าร่าย 4-5  at 8 -10 df 0-11  sp 0-5


ธาตุแสง
เลเวล 1
ค่าร่าย   1   at 4-5  df 5-6 sp 0-5
ค่าร่าย   2   at 5-6  df 5-6 sp 0-5

เลเวล 2
ค่าร่าย   2   at 5-7  df 6-7 sp 0-5
ค่าร่าย   3   at 6-8  df 7-8 sp 0-5
ค่าร่าย   4   at 8  dt 8-9 sp 0-5

เลเวล 3 - 4
ค่าร่าย 4-5  at 8 -10 df 9-11  sp 0-5


ตัวที่ sp ต่ำๆ ก็ให้ค่าพลังอย่างอื่นสูงกว่าปกติบ้าง ก็ไม่เสียหาย
ค่าพลังเริ่มต้นนี้ อาจแปรผันได้ หากซีลมีสกิลหรืออบิลิตี้แปลกประหลาด เช่น
ตัวที่มีอบิลิตี้ แบบเป็นข้อเสียสุดๆ เช่น วอลแคนิคคาเวอร์น่า จะมีค่าพลังเริ่มต้น มากกว่าปกติ
ตัวที่มีอบิลิตี้ แบบดีสุดๆ อย่างเช่น เซอร์เร่ฟอวคอน ควรมีค่าร่ายแพงกว่าปกติ

[Karn-Go!!]

ขอเสริมหน่อยแล้วกัน
จริงแล้วแม้แต่เผ่าก็มีผลต่อการครีเอทว่ารปแบจะเป็นไปแบบไหนโดยส่วนใหญควรจะถูกกำหนดหลังคิดว่าควรอยู่เผ่าใด ไม่ใช่ว่าเป็นไนท์แต่อยากให้ ฟรีสออลได้อะไรอย่างนั้น
และ
ในหัวข้อแรกน่าจะเสริมไปเลยถึงส่วนที่ว่าสามารถก่อให้เกิดแนวการเล่นแบบใหม่ได้ด้วยไม่ควรที่จะบีบตั้งแต่เริ่มว่าต้องการการ์ดที่เอาไปทำอย่างโน้นอย่างนี้แต่ควรคิดแนวการเล่นในใจก่อนว่าต้องการแบบไหนค่อยเริ่มครีเอท
หัวข้อที่2 การ์ดที่ดีไม่จำเป็นว่าต้องมี1-2หัวข้อเพียงแค่ดูหน้าที่ของมันแล้วคิดว่ามันทำหน้าที่ได้เหมาะสมรึยังน่าจะเพียงพอแล้วถ้ามันดีเกินไปก็ควรมีข้อเสียบ้าง
แล้วก็ส่วนที่ไม่ควรลืมหลังการคิดการ์ดก็คือเรื่องกฎและเท็ค ควรจะเขียนให้เคลียร์และไม่ขัดกับกฎถ้าจะยกเว้นควรจะมีการอธิบายให้ชัดเจน ส่วนนี้จริงๆแล้วก็สำคัญเพราะถ้าถ้าเขียนไม่ดีการตีความหมายที่ลำบากอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันได้ง่ายๆ
(ไม่รู้ไปยุ่งไม่เข้าท่ารึเปล่า)

[ศรี]

ใครจะมาเสนอแนะ ก็ไม่ว่าอะไร อาจจะดีก็ได้

มาว่ากันต่อ ทีนี้ เราจะมาพูดถึง"ท่ารวมร่าง" กัน

"ท่ารวมร่าง" มีมีผลอย่างไรต่อซีลใบหนึ่งบ้าง มาลองดูกัน

1. เป็นการจำกัดว่า ซีลนั้น จะอยู่ในเด็คประเภทใดได้บ้าง การ์ดส่วนมาก จะใช้งานได้ มักจะต้องรวมร่างก่อน ถ้าหากว่า มันไม่สามารถจะรวมกับตัวอะไรก็ตาม ในเด็คได้เลย ก็คงใช้ประโยชน์ได้ไม่มากเท่าที่ควร
     การจำกัดว่า ให้อยู่ในเด็คประเภทใดได้บ้าง ความสามารถก็ต้องสนับสนุนเด็คประเภทนั้นๆด้วย
     ท่ารวมร่างนั้นจะแทบไม่เกี่ยวข้องเลย กับการที่ว่าอยู่ในเด็คประเภทใดได้บ้าง หากซีลนั้น มีท่ารวมร่างเป็นรวมกับธาตุอะไรก็ได้ เช่น เดอะการ์เดี้ยนออฟเอเลเมน์ หรือซีลที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ตัวมันเองไม่ต้องรวมร่าง เช่น เงือกครีบฟ้า , ตุ๊กตา เป็นต้น

2. การรวมร่าง เป็นการทำให้ซีลมีความสามารถเพิ่มขึ้น แน่นอนละ! รวมร่างแล้วก็ต้องมีความสามารถเพิ่มขึ้น อย่างเช่นค่าพลัง ซึ่งมากขึ้น และสกิลหรืออบิลิตี้ ที่ระบุว่า "ต้องรวมร่างก่อน จึงจะส่งผล" เราเองก็ต้องดูด้วยว่า ความสามารถที่เพิ่มขึ้นนั้น เหมาะสมกับท่ารวมร่างนั้นหรือไม่
ความสามารถ ที่ไม่ได้ส่งผลต่อรูปเกมได้มากนัก ควรใช้ได้ แม้จะไม่ต้องรวมร่าง
ความสามารถที่ส่งผลต่อรูปเกมได้มาก ควรจะต้องรวมร่างก่อน จึงจะใช้ความสามารถนั้นได้

[Les aventures de TinTin]

ขอบคุณครับ  ได้ความรู้ดีจัง

[T-CoSoVo-Wulfer]

เค้าทำ Earth วิบัดแล้วอ่า
ขอโต๊ดนะทำ Plant วิบัดด้วยง่า
At 12 แน่ะ Lv 1 อีกตะหาก
***แต่มันตีไม่ได้อะ คิดว่าวิบัดป่าวอะ

[Felasia General]

Jeson, The Buddy Of  Sigmund        type  Knight
mp 3/3      element light Lv3
At 9
Df 9
Sp 4
+Light Sword of   Love At12 Mp4
+(Sigmund)   Sword  of Knight  At12 Sp5 Mp4
Ability  ใบนี้แคนเซิ่ล เมทติคฝ่ายตรงข้าม  ใบนี้ยกเลิกเคิส
เมื่อมี(Sigmund) ยุในสนาม ใบนี้ค่าร่าย-1
Skill  นำ(Sigmund) 1 ใบในกองการ์ดขึ้นมือ  (Mp3)
ใบนี้โจมตีเข้ากองการด์ฝ่ายตรงข้ามกองใดก้ได้ (MP4)
อย่างนี้ใช้ได้ไหมคับ