Summoner Master Forum
October 02, 2024, 06:24:28 AM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: [ประกวด] เรื่องของอองเดร  (Read 6046 times)
0 Members and 8 Guests are viewing this topic.
ХeЯхe$-КunG АррЯeйтiсЕ $Аiйт
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1816


« on: July 05, 2007, 11:19:54 PM »

 
♫~เรื่องของอองเดร~♫


          ชายแก่นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ในลานกว้างในงานเทศกาลช่วงฤดูหนาว ภายในงานถูกประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าสีฟ้าครามแพรวพราวสาดส่องแสงไปทั่วเมืองที่ลานกว้างเด็กๆร้องรำทำเพลงกันอย่างมีความสุข “มาสิเด็กเด็ก วันนี้ข้าจะเล่านิทานให้ฟัง..” เสียงแหบต่ำของชายแก่ร้องเรียกเด็กๆให้มาหา เด็กๆที่ฟังอยู่ต่างวิ่งกันมาหาชายแก่ด้วยความตื่นเต้น “วันนี้ท่านจะเล่าเรื่องอะไรหลอค่ะ” เด็กสาวหน้ากลมคนหนึ่ง ชายแก่หันมายิ้มให้แล้วค่อยๆตอบช้าๆ “กษัตริย์แห่งแอนดิซอง....อองเดร ออเนอเร่” เด็กทุกคนยิ้มปากกว้างชายแก่หัวเราะชอบใจ

          “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วทางตอนใต้ของทวีปเมอร์ริเซียอันอุดมสมบูรณ์ แผ่นดินนั้นปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งกว่าครึ่งประเทศ มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน คือ เมืองท่า และ เมืองแผ่นดินใหญ่ อันเป็นที่ประทับของ กษัตริย์เอ็ททิเอ็น (King Etienne) และ ราชินีคอรัลลี่ (Queen Coralie) ที่นี่คืออาณาจักรที่มั่งคั่งที่สุดในทวีปเมอร์ริเซีย “แอนดิซอง (Annedisonge)”

          เรื่องเริ่มขึ้นที่เช้าวันอควอ เดือนอันดรูว์ แสงอาทิตย์สาดส่องทาทาบหิมะสีเงินเป็นประกายสวยงาม แต่แล้วเมฆดำก็เข้าบดบัดแสงสุริยันอันอบอุ่น พายุหิมะอันรุนแรงโหมพัดกระหน่ำ ช่วงเวลานั้นอากาศหนาวเย็นจนแทบจะทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นน้ำแข็งได้ในพริบตา มีเพียงหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มเด็กทารกเดินออกมาข้างนอกอย่างเดียวดายแล้วหยุดที่หน้าบ้านหลังโตโอฬาร “ลูกรัก...แม่ไม่อยากทำแบบนี้จริงๆแต่เพราะพ่อของเจ้าแท้ๆที่ทำให้เราต้องพรากจากกัน”เธอกล่าวด้วยวาจาอันสั่นเครือ น้ำตาเย็นๆอาบแก้มทั้งสองข้างไม่ขาดสาย เธอค่อยๆบรรจงวางลูกของเธอบนหิมะอันเย็นยะเยือก แล้วจากไปด้วยอาลัยรัก เด็กน้อยผู้ถูกทอดทิ้งแผดเสียงร้องดังลั่นจนคนในบ้านหลังใหญ่ได้ยินเข้า ประตูบานใหญ่ที่ถูกตกแต่งสลักลายถ้วยแก้วถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจของหญิงวัยกลางคน เธอทอดสายตามาที่เด็กทารกผู้ถูกทอดทิ้งบนหิมะอันเย็นจัด หญิงสาวตัดสินใจอุ้มเด็กคนนั้นขึ้นมาแล้วนำเข้าบ้านของตนอย่างเร่งด่วน ชายวัยกลางคนที่มองดูอยู่ในบ้านก็ตกตลึงช่วยประคองเด็กคนนั้น “เด็กคนนี้?” ชายวัยกลางคนกล่าวถามหญิงสาวด้วยความสงสัย “ฉันเจอหน้าบ้านของเรา...สงสัยจะถูกทิ้งจะเอาไงล่ะ” หญิงสาวตอบพลางค้นตัวเด็กน้อย ชายวัยกลางคนสังเกตเห็นจดหมายที่ถูกซ่อนไว้ เขาหยิบมันออกมาอ่านทันที “โปรดช่วยดูแลเด็กคนนี้...แล้วโปรดตั้งชื่อเขาว่า อองเดร ออเนอเร่ (Andre Honore`)” ชายวัยกลางคนอ่านด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แล้วเขากลับสัมผัสถูกสิ่งหนึ่งที่ซ่อนไว้ในจดหมาย มันคือเหรียญทองออเรียสค่อยๆร่วงลงมานับไม่ถ้วน ทั้งสองคนถึงกับผงะในสิ่งที่เห็นเหรียญออเรียสจำนวนมากไหลออกมาไม่หยุดราวกับมีเวทย์มนต์คอยควบคุม “โอ...นี่มันมีค่าเกินร้อยล้านเหรียญออเรียสแน่ๆ” ชายวัยกลางคนครางกับภรรยา ผู้เป็นภรรยามองเห็นจดหมายเล็กๆอีกฉบับ “ถ้าพวกท่านตกลงที่จะรับเลี้ยงลูกของเราเงินพวกนี้จะเป็นของท่านทันที...แต่หากท่านปฏิเสธทุกสิ่งจะกลายเป็นเพียงภาพลวงตา” ทั้งสองพยักหน้าให้กันแล้วโปรยเงินกันอย่างมีความสุข

          “เพล้งงง!!!” เสียงจานแตกดังไปลั่นบ้าน มันร่วงมาจากมือที่สั่นเทาของอองเดรเด็กน้อยวัย 6 ปี นั่นเอง หญิงสาวผู้เป็นแม่เลี้ยงรีบวิ่งมาด้วยความฉุนเฉียว “อีกแล้ว! อองเดร นี่แกทำจานแตกเป็นพันใบแล้วนะ!” แม่เลี้ยงโกรธจนหน้าแดงกร่ำ เธอวิ่งเข้าไปดึงคอเสื้ออองเดรแล้วตบอองเดรร่วงลงกับพื้นอย่างแรงด้วยอารมณ์โทสะ “ท่าน...แม่” เด็กน้อยพยุงตัวขึ้นทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้มช้าๆ แม่เลี้ยงชี้หน้าด่าทอไม่หยุดหย่อนผ่อนโทษ เด็กน้อยวิ่งออกจากบ้านไปด้วยความรู้สึกสุดระทมขมขื่น ฝ่ายผู้เป็นพอเลี้ยงที่ดูอยู่ห่างๆก็ตกใจวิ่งไปหาผู้เป็นแม่เลี้ยงทันที แม่เลี้ยงหันไปสบตาพ่อเลี้ยงด้วยแววตาอันแข็งกร้าวแล้วตะโกนสุดเสียง“อย่าให้มันหนีไปได้!!!” ผู้เป็นพ่อเลี้ยงจึงวิ่งออกไปตามลากตัวอองเดรทันที จนในที่สุดอองเดรก็ถูกพาตัวกลับมา แม่เลี้ยงเห็นดังนั้นจึงบอกแก่พ่อเลี้ยงไม่รอช้า “ลงโทษมันซะ” พ่อเลี้ยงพยักหน้าตอบรับแล้วลากตัวอองเดรไปยัง“ห้องฝึกทหาร”ที่มีอยู่ในบ้านอันใหญ่โตหลังนี้ “ไหนแกลองทวนเป้าหมายในชีวิตของแกซิ” พ่อเลี้ยงโยนตัวอองเดรไปข้างหน้า เด็กน้อยได้แต่ก้มหน้าคุกเข่าอยู่บนพื้น “จงรักภักดีต่อประเทศชาติและราชวงศ์”      “ใช่...ถูกต้อง นอกจากนี้แกยังต้องรักษากฎระเบียบของบ้านหลังนี้อีกด้วย แกมีหน้าที่ทำตามอย่างเดียวจำไว้ซะ...ยังไม่หยุดบีบน้ำตาอีก!” อองเดรสะดุ้งโหยงแล้วกลั้นน้ำตาด้วยความกลัว “วันนี้อยู่ฝึกที่นี่ไม่ต้องกินข้าวเย็น” จิตใจของเด็กน้อยดั่งถูกมีดกรีดแทงบาดลึกเข้าไปทุกวัน ประสบการณ์ที่แทรกแซงเข้ามาในชีวิตยิ่งนานวันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันบีบคั้นหัวใจของเขาเสมอจนเขาไม่มีวันที่จะลืมมันไปจากใจได้เลย

          กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป 6 ปี เขาถูกฝึกมาอย่างเข้มงวดและถูกฝากให้ฝึกทหารตั้งแต่ยังเยาว์วัย โดยปกติแล้วไม่มีเด็กคนใดเป็นทหารตั้งแต่เด็กเช่นเขา แต่ด้วยยศของผู้เป็นพ่อเลี้ยงจึงฝากฝังให้ฝึกอย่างหนักตั้งแต่ยังเด็กได้สำเร็จ เด็กน้อยวัย12 ปีเดินตามผู้เป็นพ่อเลี้ยงจนมาถึงสถานที่ฝึก ก้าวแรกที่เปิดประตูเข้าไป ทางเดินตรงมุ่งสู่ใจกลางของสถานที่ฝึกทหารแห่งนี้ ระหว่างทางมีดอกไม้สีน้ำเงินมากมายเบ่งบานรับแสงแดดอันอบอุ่น ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปตลอดทางเดิน จนทั้งคู่มาถึงยังสถานที่ที่ต้องการ แล้วผู้เป็นพ่อเลี้ยงก็ผลักอองเดรแล้วเดินจากไป “เจ้าสินะ...อองเดร ออเนอเร่” ครูฝึกกล่าวทักเด็กน้อยพยักหน้าตอบ “ทำไมเจ้าถึงอยากเป็นทหารล่ะ” ครูฝึกซักต่อ “ไม่รู้เหมือนกัน” คำตอบของอองเดรทำให้ครูฝึกนิ่งเงียบไปชั่วขณะแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรครูฝึกชี้นิ้วไปทางสถานที่ฝึกที่อยู่ตรงหน้า สายตาอองเดรทอดไปตามมือที่ชี้ไป เขามองเห็นศาสตราอาวุธมากมายถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยที่คลังอาวุธ ที่สนามหญ้ามีเพียงนักเรียนทหารอายุมากกว่าเขาทั้งนั้น ทุกคนตั้งใจฝึกเต็มที่เพื่อที่จะได้เป็นทหาร “ที่นี่คือที่ฝึกของเจ้า และที่นี่...คือบ้านของเจ้า” อองเดรพยักหน้าตอบรับด้วยสายตาเศร้าๆ เมื่อเริ่มฝึกใหม่ๆด้วยอองเดรทำการฝึกฝนก้าวหน้าได้เหนือคนอื่นๆจึงทำให้เป็นที่รังเกียจของคนที่มาก่อน เขาจึงไม่มีเพื่อนเลยซักคน แม้คนที่จะคุยด้วยได้ก็ไม่มี อองเดรใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังจน6ปีผ่านไปความเย็นชาก็หล่อหลอมเขาให้แข็งแกร่งขึ้นจนกำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็นทหารราบ แต่คนเก่าๆที่มาก่อนอองเดรนั้นกลับไม่ได้เป็นเหมือนดังเช่นอองเดรได้ทุกคน ความอิจฉาริษยาที่สุมไว้ดั่งเปลวไฟบรรลัยกัลป์ก่อให้เกิดจิตสำนึกอันชั่วร้ายขึ้นแก่นักเรียนทหารคนเก่าๆจึงวางแผนที่จะสังหารอองเดรเพื่อสนองความต้องการอันไม่มีวันสิ้นสุดของตน ท้องฟ้ามืดสลัวเข้าสู่พลบค่ำอันเหน็บหนาว เหล่านักเรียนทหารที่ถูกฝึกพิเศษมาอย่างหนักถูกปล่อยตัวให้เข้าที่พักตามสบายเป็นพิเศษเฉพาะวันนี้ อองเดรล้มตัวก้มหน้าหอบด้วยความเหนื่อยล้าจากการฝึกจน เขารู้สึกว่ามีสายตาจ้องมองเขาอยู่จึงแหงนหน้าขึ้น สิ่งที่เขาได้เห็นคือพวกนักเรียนทหารคนอื่นๆนับ 10 คน ยืนล้อมเขาอยู่ “มีธุระอะไร” อองเดรถามเสียงเรียบอย่างแปลกใจ เหล่านักเรียนทหารพุ่งเข้ามาพร้อมกัน ด้วยอาวุธที่ปลิดชีวิตเขาได้ทุกเมื่อ อองเดรถีบตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด แล้วหยิบดาบฝึกของตนตวัดสวนกลับไปแต่ตนเสียหลักล้มลงไปบนพื้น หนึ่งในเหล่านักเรียนทหารพุ่งเข้ามาฟาดดาบไปเต็มแรงแต่ดาบกับร่วงลงพื้นอย่างรวดเร็ว อองเดรปาดเหงื่อลุกขึ้นมาด้วยแววตาอันมั่นคง นักเรียนทหารอีกคนฟาดดาบไปอย่างรุนแรง แต่อองเดรโค้งตัวหลบได้ง่ายๆ ในขณะที่อีกคนหนึ่งกระโดดขึ้นโจมตีต่อเนื่อง ว่าที่นายทหารหน้าใหม่ก็กระโดดถอยหลังหลบได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ถึงอย่างไรการหลบการโจมตีของทั้ง10คนพร้อมกันนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก จนในที่สุดอองเดรก็ถึงขีดจำกัด เขาล้มลงไปอย่างผู้แพ้ด้วยความเหนื่อยล้า พวกนักเรียนทหารปรึกษาว่าจะทำไงกับอองเดรที่ไม่รู้ว่าสลบหรือตายไปแล้วในนี้จนในที่สุดจึงตกลงที่จะจับอองเดรลอยแพไปเพื่อหนีความผิด อองเดรถูกจับลอยแพ้ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างหยาบๆเพื่อให้จมลงกลางน้ำ จนในที่สุดแพก็แตกลงกลางทะเลอันเวิ้งว้างวังเวงในยามรัตติกาลแห่งแอนดิซอง ร่างของว่าที่นายทหารอองเดรร่วงลงสู่ทะเลอันมืดมิด ไม่มีสิ่งใดจะทำให้เขารอดชีวิตได้อีกแล้ว แต่แล้วเรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ปรากฏตัวขึ้น สิ่งนั้นว่ายเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนมองเห็นรูปร่างอันใหญ่โตได้ชัดเจน ลำตัวที่ทอดยาวจนมองไม่เห็น เกล็ดสีฟ้าคราม มังกรน้ำจอร์มันกาน์ด(Jormungand)มันคือมังกรยักษ์เพียงตัวเดียวที่สามารถรอดจากการถูกสะกดโดยแม่มดน้ำแข็งประจำราชวงศ์อย่างไม่น่าเชื่อ มันกำลังจะเข้าสู่การจำศีลในถ้ำใต้ทะเลอันเย็นยะเยือกแห่งนี้ ร่างของอองเดรถูกมังกรยักษ์พามาด้วยมันไม่ทำอันตรายอองเดรเลยแม้แต่น้อย จนมาถึงถ้ำใต้ทะเลอันเงียบสงัด น้ำจากทะเลไม่สามารถทะลักเข้ามาในถ้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ ภายในถ้ำมีแสงสะท้อนสีน้ำเงินวิจิตรตระการตาจากคริสตัลสีครามที่กระทบกับแสงจากใต้ท้องทะเลเป็นประกายเจิดจรัสสาดส่องไปทั่วบริเวณ อองเดรค่อยๆฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์เขาสามารถรอดตายได้อย่างไม่น่าเชื่อแต่ร่างกายของเขากลับบอบช้ำจนแทบไม่มีแรงเหลือเลย เขาทอดสายตาอันไร้จุดหมายมองไปทั่วถ้ำอันอัศจรรย์นี้จนสังเกตแลเห็นบางสิ่งที่กลางถ้ำ มันส่องแสงออกมาต้องตาต้องใจอองเดรนักราวกับมีเวทย์มนต์สะกดให้เขาเข้าไปหา อองเดรคลานไปหาสิ่งนั้นช้าช้าอย่างตั้งใจโดยไม่สามารถวางตาจากสิ่งนั้นได้เลย เมื่อสายตาของอองเดรค่อยค่อยคุ้นเคยกับแสงอันสว่างจ้าจนมองเห็นสิ่งนั้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นมันคือดาบที่ปักอยู่บนแท่นคริสตัล แสงสะท้อนผนังคริสตัลของถ้ำนี้นั่นเองที่ทำให้ดาบเล่มนั้นดูสว่างขึ้นราวดาบศักดิ์สิทธิ์ อังเดรพยายามยืนขึ้นแล้วดึงดาบออกจากแท่นคริสตัล แสงประกายจากดาบคริสตัลก็ดับลงเผยให้เห็นรูปร่างอันชัดเจน ตัวดาบเป็นคริสตัลสีคราม ด้ามจับถูกทำขึ้นมาอย่างดี ช่วงเวลาที่ดาบอยู่ในมืออองเดรแสงประกายสีรุ้งทั้ง7สาดส่องไปทั่วตัวดาบอย่างรวดเร็วแล้วส่งเสียงกระดิ่งดังระรัว (Cristalarme, the Sword of Andre) คนใกล้ตายอย่างเขาได้รับพลังมหาศาลจากดาบอย่างท่วมท้นดาบส่องประกายแรงขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดก็ดับลง ด้วยพลังของดาบศักดิ์สิทธิ์ทำให้เขากลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง บาดแผลทั้งหมดหายสนิท เขาตัดสินใจกลับขึ้นสู่แผ่นดินแอนดิซองที่คุ้นเคย ระหว่างทางฝูงปลา สัตว์น้ำ มากมายต่างไม่กล้าแตะต้องอองเดรด้วยพลังของดาบศักดิ์สิทธิ์ จนในที่สุดอองเดรก็กลับมาได้สำเร็จ เขามุ่งหน้าสู่สถานที่ฝึกทันทีคนร้ายที่เห็นเขาต่างพากันวิ่งหนีหายไปเหลือเพียงครูฝึก “เจ้าหายไปไหนมาอองเดร! เจ้ารู้รึเปล่าเพราะการหายไปของเจ้ามันอาจทำให้เจ้าโดนถอดถอนได้!” ครูฝึกตวาดเสียงดัง แต่อองเดรก็ยังฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย ครูฝึกได้แต่ถอนหายใจแล้วทำงานต่อ อองเดรสลบลงกับพื้น ครูฝึกหันมามองอย่างเป็นห่วงแล้วยกร่างอองเดรไปสถานพยาบาลทันที อองเดรสลบไปถึง2วันเต็มแล้วตื่นขึ้นมาควานหาดาบคริสตัล “อ้าว อองเดรเจ้าฟื้นแล้วสินะ...ไม่ต้องเป็นห่วงดาบของเจ้าข้าเก็บไว้ให้แล้วตามมาสิ” อองเดรถอนหายใจแล้วเดินตามครูฝึกไปทันที “นี่...ของเจ้า”ครูฝึกส่งดาบให้ “เจ้าสังเกตใช่ไม๊ในสถานพยาบาลมีคนเยอะผิดปกติ...ตามข้ามาเร็ว!” ครูฝึกวิ่งนำไปอย่างเร่งรีบ อองเดรตามไปโดยไม่ลืมที่จะหยิบดาบคู่ใจของเขาไป “ฆ่ามันซะ....สัตว์ประหลาดอมาดิลลอน(Armadillon) ภารกิจแรกของทหารใหม่ หากศึกแรกได้รับชัยชนะนั่นหมายถึงการสอบผ่านการเป็นนักรบที่แท้จริง   แต่หากได้รับความพ่ายแพ้ นั่นย่อมหมายถึงความล้มเหลวแห่งการฝึกฝนอันยาวนาน ทั้งหมดนี้เจ้ากำหนดเองแล้ว...อองเดร” ครูฝึกที่บัดนี้เป็นนายกองของเขาพุ่งเข้าหาอมาดิลลอนฟาดฟันอย่างกล้าหาญ อองเดรยกดาบขึ้นด้วยสายตาที่มีประกายความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมเข้าฟาดฟันกลับอมาดิลลอนอีกตัว แต่โชคร้ายอองเดรลื่นล้มเสียหลักถูกผลึกน้ำแข็งของอมาดิลลอนเสียบทะลุสีข้าง อมาดิลลอนพุ่งเข้ามาหมายจะพิชิตศัตรูที่พลาดท่าอยู่ตรงหน้าแต่แล้วนายกองก็พุ่งเข้ามาใช้ดาบสังหารอมาดิลลอนตัวนั้นได้ทันเวลา เขามองมายังอองเดรด้วยสายตาที่เหยียดหยามโดยไม่สนใจใยดีอะไรในผู้พ่ายแพ้ที่ใกล้ตาย  อองเดรนอนจมกองเลือดแดงสดอย่างน่าสมเพชเขาใช้เรี่ยวแรงที่เหลือเพียงน้อยนิดพยุงตัวขึ้นนั่งพิงซากอมาดิลลอน ลมหายใจสุดท้ายของเขาใกล้จะมาถึงเต็มที อองเดรหลับตาเตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับความตาย เขาถูกทิ้งอย่างไร้ค่าท่ามกลางการสู้รบที่เป็นดั่งการทดสอบ สำหรับเขาแล้วแม้จะไม่อยากตายแต่ก็ไม่อยากร้องขอความช่วยเหลือในสภาพอันน่าสมเพช อองเดรเลือกที่จะตายอย่างทรนง วินาทีที่เขากำลังจะดับสิ้นเขากลับรู้สึกถึงบางสิ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่อองเดรลืมตาขึ้นหันไปมองทันที เขาถึงกับตกประหม่าในทันใดคนที่จ้องมองเขาด้วยสายตาอันอ่อนโยนคือเจ้าหญิงน้อยอลาน่า เจ้าหญิงน้อยอลาน่าช่วยรักษาอองเดร แม้อองเดรจะปฏิเสธแต่อย่างไรก็พ่ายแพ้ต่อความอ่อนโยนของเจ้าหญิง แต่ด้วยวัยเพียงหกชันษาจึงทำให้ใช้พลังรักษาอองเดรไม่ได้ดั่งใจหวัง ขณะนั้นเองซิสเตอร์โรซาน่าที่ตามหาตัวเจ้าหญิงผ่านเข้ามาเห็น เจ้าหญิงอลาน่าจึงขอให้ซิสเตอร์โรซาน่าช่วยอองเดรได้สำเร็จในที่สุด...” ชายแก่หยุดเล่าเรื่องราวไปชั่วขณะ พวกเด็กๆที่กำลังเพลินกับการรับฟังจ้องมองชายแก่อย่างสงสัย “ทำไมหยุดเล่าไปล่ะครับ ” เด็กชายตัวเล็กๆถามพลางเอามือเกาหัวหน้าฉงน “หลังจากนั้นอองเดรก็เปลี่ยนไป...เป้าหมายในชีวิตใหม่ของเขาได้จุดประกายขึ้นมาและ ค้นพบสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด เขาอยู่เพื่อเจ้าหญิงอลาน่า จากเด็กที่ถูกทิ้งในที่สุดด้วยความพยายามก็ผลักดันตัวเองจนกลายเป็นองครักษ์ของเจ้าหญิงอลาน่าได้สำเร็จ...” ชายแก่หยุดเล่าอีกครั้งลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้เก่าๆ เด็กๆต่างจ้องมองด้วยความสงสัย “แล้วทำไมอองเดรถึงกลายเป็นกษัตริย์ได้ล่ะค่ะ” สาวน้อยตาหวานถามงงๆ “เรื่องนั้นมีในบันทึกทั่วไปอยู่แล้ว...ข้าคงไม่จำเป็นต้องปริปากกระมัง” ชายแก่กล่าวไปขำไป กล่าวจบก็กลับหลังหันอย่างอารมณ์ดี แมวสีดำตัวเล็กบินมาจากท้องนภาอันมืดมิดพร้อมปีกค้างคาวที่ไม่น่าจะมีอยู่ในแมวทั่วไป มันทักทายผู้เป็นนาย “จะไปกันแล้วรึยัง”     “ทารอตโต้(Tarotto, the Dark Destiny) ” ชายแก่ลูบหัวแมวประหลาดยิ้มให้อย่างอ่อนโยน หันกลับมาโบกมือลาเด็กๆ “แล้วข้าจะกลับมาอีกครั้ง” แล้วทั้งคู่ก็หายตัวไปอย่างลึกลับท่ามกลางรัตติกาลอันหนาวเหน็บที่หิมะตกหนักจนเย็นยะเยือกภายในงานเทศกาลประจำปี
 
« Last Edit: August 12, 2007, 02:41:06 PM by ◄~X€12x€$_KunG~► » Logged


singer
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1256


Email
« Reply #1 on: July 05, 2007, 11:39:43 PM »

ตาลายมากขอบอก
* singer_of_element รู้ซึ้งเลยว่า แต่ก่อนเราพิมพ์ฟิค ยาวพรดแบบนี้มันอ่านยากยังไง
Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #2 on: July 05, 2007, 11:44:54 PM »

ตาลายมากขอบอก
* singer_of_element รู้ซึ้งเลยว่า แต่ก่อนเราพิมพ์ฟิค ยาวพรดแบบนี้มันอ่านยากยังไง
ตาลายเช่นกัน

เนื้อเรื่องสนุกดีครับ ถ้ามีการเว้นบรรทัดให้มันดูสบายตาขึ้นหน่อยจะดีมาก
Logged


mantellumarydoll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 643


Email
« Reply #3 on: July 06, 2007, 12:06:32 AM »

ตาลายเช่นกันครับ  แต่สนุกดีคับ  อยากให้บางคำลดปริมาณลงมาหน่อย  อ่านยากจริงๆ 
Logged


Nihil
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 12423


Email
« Reply #4 on: July 06, 2007, 02:30:53 PM »

เว้นบรรทัดจัดหน้าบ้างก็ได้นะครับ เพราะไม่เกิน 7 หน้านี่ ผมแยกเรื่องการเว้นบรรทัดด้วยครับ
Logged


ХeЯхe$-КunG АррЯeйтiсЕ $Аiйт
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1816


« Reply #5 on: July 06, 2007, 08:47:03 PM »

ดีขึ้นไม๊หว่า ขอบคุณทุกคนครับ 
Logged


mantellumarydoll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 643


Email
« Reply #6 on: July 06, 2007, 08:56:56 PM »

very  good     อ่านง่ายขึ้นเยอะเลย  เดี๋ยวลองมั่งนะครับ
Logged


singer
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1256


Email
« Reply #7 on: July 07, 2007, 12:23:37 AM »

ดีครับ อ่านง่ายขึ้น

สนุกดี แต่ว่า ตัวละครค่อนข้างจะเยอะครับ

ส่วนอื่นๆ no comment
Logged


Suchan.poloplow
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1232


Email
« Reply #8 on: July 07, 2007, 03:49:51 AM »

เว้นบรรทัดจัดหน้าบ้างก็ได้นะครับ เพราะไม่เกิน 7 หน้านี่ ผมแยกเรื่องการเว้นบรรทัดด้วยครับ
หมายความว่าการเว้นบรรทัดจะไม่นำมาคิดรวมกับขอบเขตของ 7 หน้าใช่รึเปล่าครับ?
Logged


Nihil
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 12423


Email
« Reply #9 on: July 08, 2007, 05:40:44 PM »

ครับ หากการเกิน 7 หน้ามาจากการเว้นบรรทัดเยอะเพื่อความสละสลวยของการนำเสนอเนื้อหา และความสะดวกในการอ่านจะถือว่าไม่เกิน 7 หน้าครับ หากไม่เกินมากเกินไป
Logged


ХeЯхe$-КunG АррЯeйтiсЕ $Аiйт
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1816


« Reply #10 on: August 11, 2007, 05:55:41 PM »

แล้วในที่สุดก็แก้มันทั้งเรื่อง ;D ติชมหน่อยค้าบ

ปล. ถ้าส่งเมลล์นี้ต่องส่งเมลล์ไปบอกว่าแก้เรื่องเปล่าครับ
Logged


==I{}*A*timazo *S*word >>>
Member
*****
Offline Offline

Posts: 283


« Reply #11 on: August 11, 2007, 07:18:41 PM »

ผมยังอ่านเรื่องไม่จบหรอกนะ

คือ เรื่องการเว้นวรรคอ่ะครับ พลาดเยอะพอสมควร

ตัวอย่างนะครับ

“ลูกรักข้าไม่อยากทำแบบนี้จริงๆแต่เพราะพ่อของเจ้าแท้ๆที่ทำให้เราต้องพรากจากกัน”

คนอ่านจะอ่านติดต่อกันไปเลย หลังจากอ่านได้สักพักผมเริ่มมึน ต้องแบ่งประโยคเอง ซึ่งในประโยคนี้ควรจะเป็น

“ลูกรัก..ข้าไม่อยากทำแบบนี้จริงๆ แต่เพราะพ่อของเจ้าแท้ๆที่ทำให้เราต้องพรากจากกัน”



ผมแค่แนะนำนะครับ ถ้ายังไงแก้แล้วผมจะกลับมาอ่านอีกที 
Logged


ХeЯхe$-КunG АррЯeйтiсЕ $Аiйт
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1816


« Reply #12 on: August 11, 2007, 07:56:07 PM »

อ่อขอบคุณมากครับจะรีบแก้

edit แก้แล้ว น่าจะดีขึ้น(มั๊ง)^^
« Last Edit: August 11, 2007, 08:03:42 PM by ◄~X€12x€$_KunG~► » Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #13 on: August 12, 2007, 01:48:29 AM »

เรื่องใหม่ดีขึ้นนะครับ แต่ฟอนต์ไม่ต้องใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ก็ได้มั้ง
Logged


Wonder~Tanu
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1526


Email
« Reply #14 on: August 12, 2007, 04:22:49 AM »

ความจริง เวลาเปลี่ยนคนพูด การเว้นวรรคจะช่วยให้อ่านง่ายขึ้นน่ะฮะ
เช่น

“จงรักภักดีต่อประเทศชาติและราชวงศ์” “ใช่...ถูกต้อง นอกจากนี้แกยังต้องรักษากฎระเบียบของบ้านหลังนี้อีกด้วย แกมีหน้าที่ทำตามอย่างเดียวจำไว้ซะ...ยังไม่หยุดบีบน้ำตาอีก!”

ถ้าอ่านผ่านๆอาจจะคิดว่าเป็นคนเดียวพูด แต่จริงๆแล้วมันมี2คนพูดใช่ไหมล่ะ
Logged


ХeЯхe$-КunG АррЯeйтiсЕ $Аiйт
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1816


« Reply #15 on: August 12, 2007, 02:44:51 PM »

ขอบคุณมากครับ คิดไว้เหมือนกันว่ามันแปลกๆ

ส่วนฟอนต์ใหญ่เนี่ยถ้ามันเป็นฟอนต์เล็กมันจะตาลาย (เผื่อคนสายตาไม่ดีมาอ่านจะได้อ่านง่ายๆ) เพราะถ้าเว้นวรรคเรื่องมันก็ไม่ต่อกันอีก -*-

ตอนนี้ไม่หวังรางวัลอะไรและปลงเรามันอ่อน เรื่องนี้แต่งเล่นๆเอาประสบการ์ณ 
Logged


ryukendo
Member
*****
Offline Offline

Posts: 26


« Reply #16 on: April 27, 2008, 03:41:06 PM »

ไม่จริง ออวเดร ทำไมเป็นอย่างนั้น
อองเดร ต้องแกร่งสิ ฮื่อ ๆๆ ๆ
แต่กะนั้น ดาบ? ( ดาบเล่นนี้ได้ตอนที่อาลาน่าจากไปหนิ? ใช่มะ)
อาวุธอองเดรประหลาดอ่ะ ใช้ไรไม่ใช้ใช้แก้ว( แถวบ้านผมเรียก อังเดร
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.194 seconds with 21 queries.