สามวันต่อมา ณ ทุ่งหญ้าโล่งกลางป่าใหญ่ เสียงตะโกนกู่ก้องประกาศว่า ณ บัดนี้ สงครามระหว่างอาณาจักรทั้งสองได้เข้าสู่สถานะสงครามแล้วดังไปทั่วป่า กองทัพของแมลงอันประกอบไปด้วยเหล่าด้วงชนิดต่างๆและทัพแมลงปอกลางเวหาซึ่งแม้จะได้เปรียบในเรื่องของความแข็งแรงในด้านร่างกายแต่ก็เทียบไม่ได้กับความรวดเร็วและการโจมตีที่ว่องไวของทัพครุฑอันทรงพลัง เป็นเหตุให้ต้องถอยทัพก่อนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งแน่นอนในฐานะกษัตริย์ผู้ควบคุมกองทัพแมลงขนาดใหญ่นั้นต้องไม่พอใจเป็นแน่ จึงต้องวางแผนการรบใหม่ทั้งหมด การประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ซึ่งผลที่ได้มาคือ สนามรบแห่งใหม่ที่จะใช้ในการรบครั้งต่อไปนั่นคือ ป่าทมิฬ
การเตรียมตัวของทหารในอาณาจักรแมลงนั้นวุ่นวายเอาเสียมากๆ ตั้งแต่การเตรียมเสบียง การวางกับดับหรือแม้แต่การซ่อมแซมอาวุธที่เสียหายไปจากการรบครั้งก่อน ซึ่งในครั้งนี้ องค์กษัตริย์แห่งแมลงก็ได้เข้าร่วมรบด้วย ยามเย็นเริ่มย่างใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ฉาบพื้นบริเวณนั้นจนเป็นสีเลือด ทัพของอาณาจักรครุฑเริ่มเคลื่อนทัพเข้ามาในป่าอย่างไม่คิด ราวกับเสือที่กำลังย่างเท้าเข้าสู่กับดักที่นายพรานตั้งเอาไว้
สิ้นสุดเวลาที่แสงยามเย็นส่อง ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นมืดจนมองทางแทบไม่เห็น ทัพครุฑซึ่งมีทัพหน้าคือพลหอกครุฑนับพันนายเริ่มบินซอกซอนเข้าไปในป่าทมิฬอย่างไม่ทันระวังตัว นี่มันอะไรกัน พลครุฑนายหนึ่งตะโกนลั่นหลังจากที่ร่างของมันได้ไปเกาะติดกับใยบางที่มองไม่เห็นพลันร่างของผู้นั้นก็หายไปกับความมืดในชั่วพริบตา จนทำให้ทัพครุฑต้องงถอยออกมาจากเขตป่าลึกและบินขึ้นสู่ท้องฟ้าแทน คราวนี้ทัพครุฑได้แต่ยิงลูกดอกลงสู่พื้นป่าโดยไม่มีเป้าหมาย หากแต่ก็ไม่มีสิ่งใดปรากฏขึ้นมาตอบ ท่านแม่ทัพ คราวนี้เราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ พลครุฑนายหนึ่งถามอีกาด้านข้าง รอดูอีกสักพักก่อน ดูซิว่ามันจะมีลูกเล่นอะไรขึ้นมาอีก มันตอบ
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง จนนายทหารทุกคนเริ่มแน่ใจว่า สงครามครั้งนี้ยุติลงแล้ว แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็พลันบังเกิดขึ้น ฝูงธนูห่าใหญ่นับพันดอกถูกยิงขึ้นมาจากใต้ร่มป่า ทำเอาครุฑหลายร้อยตัวที่ไม่ทันระวังร่วงลงสู่ผืนป่าอันดำมืด ส่วนครุฑที่เหลือก็ตอบโต้ด้วยการยิงลูกดอกสวนลงไปตามต้นทาง ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้นับว่าเป็นการดวลธนูกันเลยก็ว่าได้ ภายใต้ความเงียบกริบของร่มใบใต้ป่าทมิฬ เสียงออกคำสั่งของแมลงขนาดใหญ่เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมาจากรถม้าที่ถูกซ่อนไว้ใต้ร่มไม้ จัดการเจ้าอีกาที่บินอยู่เบื้องบนนั่น มันเป็นตัวออกคำสั่งให้แก่กลุ่มทหารนั่น กษัตริย์แห่งแมลงสั่งพลางชี้นิ้วไปเบื้องบน รับทราบ แม่ทัพด้วงกว่างกล่าวตอบพลันกางปีกขนาดใหญ่และบินขึ้นไปบนท้องฟ้า พระองค์ทรงมองตามออกไปบนอากาศพลางคิดในใจว่า เมื่อไหร่สงครามครั้งนี้จะจบลงเสียที หากแต่สิ่งที่ปรากฏบนเบื้องหน้าของกษัตริย์กลับมิใช่ท้องฟ้าอันสุกสกาว กลับเป็นร่างในผ้าคลุมสีดำที่คุ้นเคย นั่นชายผู้นั้นนี่ พระองค์อุทานอย่างไม่เชื่อสายตา ถึงเวลาที่ท่านจะต้องชดใช้กับสิ่งที่ท่านทำแล้ว มันพูด แล้วจึงเปิดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นร่างแมลงอันอับลักษณ์ของมัน ล..ลูกข้า พระองค์กล่าวน้ำตาไหลคลอ แต่สายตาที่จับจ้องพระองค์กลับมิใช่ความอาลัย กลับแต่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ลาก่อน ท่านพ่อ มันพูดพลางสะบัดข้อมือผ่านใบหน้าของพระองค์ เลือดจำนวนมากสาดกระเซ็นออกมาจากร่างนั้น ข้าทำตามสัญญาแล้วนะ โลก้าเดสกล่าวออกมาแก่บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง บุคคลที่บังเอิญมาเห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ แม่ทัพออบซิเดียน
รุ่งเช้าสงครามได้ยุติลงเนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์แมลง ซึ่งเป็นที่สงสัยแก่บุคคลทั่วไปในเรื่องของสาเหตุการตายอันเป็นปริศนา การประชุมอันเนื่องมาจากการสิ้นพระชนม์ก็ได้เริ่มขึ้น ใครจะเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังค์นี้ต่อไปล่ะ แมลงอาวุโสตัวหนึ่งกล่าวขึ้นในที่ประชุม แทนที่ท่านจะมาห่วงเรื่องนี้เหตุใดท่านไม่ห่วงเรื่องสงครามเลยล่ะ ออบซิเดียนกล่าวทัก ใช่ ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่ว่าในสภาพที่เรายังไม่พร้อมเช่นนี้ ข้าคิดว่าเราควรที่จะขอสงบศึกลงก่อน ผู้หนึ่งให้ความเห็น จะไม่มีการสงบศึกใดใดทั้งสิ้น สงครามจะยังคงมีต่อไป และข้าจะเป็นผู้ที่ครองราชย์บัลลังค์แทนพระองค์เองเสียงเคร่งขรึมถูกเอ่ยขึ้นมาจากประตูที่ถูกแง้มเปิด ร่างของแมลงสาปตัวหนึ่งค่อยๆย่างก้าวเข้ามาในห้อง โอรส..ยังไม่ตายทุกคนอุทานขึ้นมาพร้อมกัน พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง สงครามที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มันจะได้อาจหาญมาทำสงครามกับเราโอรสกล่าว
ในห้องบรรทมของกษัตริย์องค์ใหม่ เศษกระดาษที่เต็มไปด้วยรอยขีดฆ่านั้นกระจัดระจายไปทั่วห้อง ร่างของกษัตริย์องค์ใหม่นอนครุ่นคิดถึงเรื่องส่วนตัวของตนเอง จนคล้อยหลับไป ลูกข้า ลูกข้า จงกลับมา เสียงๆหนึ่งดังก้องเข้าไปในหูของเขา เสียงนี้ดังซ้ำๆหลายรอบจนพระองค์แทบทนไม่ไหว แกเป็นใครน่ะ บังอาจมาส่งเสียงรบกวนในห้องของข้า พระองค์ตะโกนลั่นใส่บุคคลที่อยู่ในเงามืดเบื้องหน้า แต่แทนที่จะได้รับคำตอบ บุคคลผู้นั้นกลับเดินเข้ามาใกล้กับร่างของพระองค์เรื่อยๆ จนเมื่อถึงต่อหน้าเงานั้นก็พูดขึ้นมาด้วยคำที่น่าสะพรึงกลัว สมแล้ว ที่เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของข้า พลันร่างนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตาองค์กษัตริย์ แอ๊ด เสียงประตูห้องของกษัตริย์เปิดขึ้นจนพระองค์ต้องสะดุ้งอีกครั้ง ข้ากระหม่อมคิดไว้แล้วตั้งแต่พระองค์เกิดมา พระองค์มิใช่บุคคลธรรมดา แม่ม่ายดำตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพูดพลางกวาดสายตาไปรอบห้องบรรทม เจ้ารู้เรื่องที่ข้าเจอเมื่อครู่ด้วยหรือ พระองค์พูดอย่างแปลกใจ ใช่ ก็พระองค์น่ะเป็นผู้ที่เกิดมาจากคำสาปที่มิมีใครแก้มันได้ มันเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายจากผู้ๆหนึ่ง นางตอบพลางนั่งลงกับม้านั่งแกะสลัก ใครกัน พระองค์ถามด้วยท่า ทางสงสัย ท่านผู้นั้นก็คือ อสูรที่ชั่วร้ายนามว่า ซาตาน ยังไงล่ะ นางกล่าวเว้นเสียงเป็นจังหวะ ว่าแต่ตอนนี้องค์หญิงเดลิเซียเป็นอย่างไรบ้างล่ะ นางถามต่อพลางตะไบเล็บของตนกับม้านั่ง เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกันล่ะ พระองค์ยังไม่ต้องทราบหรอก ว่าแต่จะตอบข้าได้ไหมนางถามอีกครั้งหนึ่ง นางอยู่ในหอคอยกลางปราสาทนี้อย่างปลอดภัย พระองค์ตอบโดยที่สายตายังคงสงสัยในความรู้ที่มากเกินไปของนาง ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรล่ะ พระองค์ถามคำถามนี้ไปอย่างกล้าๆกลัวๆ อีกไม่นาน เจ้าก็จะพบกับข้าอีก เมื่อถึงเวลานั้น ท่านก็คงจะรู้จักข้าดีพอแล้วล่ะ นางเดินเข้ามาใกล้พระองค์จนเผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของราชินีก่อนจะหันหลังกลับมามองตากษัตริย์แล้วจึงไต่ออกไปทางหน้าต่าง เพล้ง เสียงอะไรสักอย่างแตกดังออกมาจากทางประตู ใครน่ะ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ พระองค์ตะโกนออกไปด้วยความหวั่นเกรงอะไรสักอย่าง เมี้ยวแมวตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากประตูแล้วจึงหนีไป ทำเอาเสียข้าตกใจหมด พระองค์พูดแล้วจึงสะบัดตัวกลับไปยังเตียงที่ประทับของตนเองนี่เป็นเรื่องจริงรึนี่ กษัตริย์โลก้าเดสเป็นผู้วางแผนสงครามครั้งนี้ขึ้นมาทั้งหมด เสียงเบาๆเสียงหนึ่งกำลังพูดกับตัวเอง องค์หญิงเดลิเซีย ข้าจะไปช่วยท่านเดี๋ยวนี้ล่ะผีเสื้อเพลิงพูดพลางสะบัดปีกบินขึ้นไปสู่หอคอยกลางปราสาท ซึ่งเป็นที่ใช้คุมขังนักโทษสำคัญๆเป็นสถานที่ที่มีการดูแลที่แน่นหนา แต่นั่นก็เป็นข้อยกเว้นให้แก่แม่ทัพผีเสื้อผู้นี้ เขาสามารถเข้าออกหอคอยได้อย่างอิสระ เพียงแต่ว่าเขาค้นหาองค์หญิงเท่าไรก็ไม่เจอ
รุ่งเช้าของวันที่จะเต็มไปด้วยสงครามได้เริ่มขึ้นด้วยท้องฟ้าสีหม่นแทนที่จะเป็นแสงยามเช้าอ่อนๆ ทัพทั้งสองได้มาพร้อมหน้ากัน ณ ทุ่งดอกไม้กลางป่าหน้ามหาพฤกษายักษ์ แต่ในคราวนี้กษัตริย์ของอาณาจักรทั้งสองได้เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ด้วย เสียงกลองสงครามดังระงมไปทั่วผืนป่าแห่งนี้ แต่แล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ใบสีเงินของอิกดราซิลที่อยู่บนพื้นดินได้เริ่มหมุนลอยขึ้นกลางอากาศเกิดเป็นพายุขนาดยักษ์ท่ามกลางสมรภูมิรบ แต่แทนองค์กษัตริย์ผู้นำทัพแมลงจะเป็นกังวล ใบหน้าของพระองค์กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มราวกับว่าพระองค์เป็นผู้สร้างพายุนั้นเอง ซึ่งตรงกันข้ามกับทัพของอาณาจักรครุฑซึ่งแพ้ทางลมพายุที่รุนแรงเช่นนี้ ลมพายุเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนแม้แต่แมลงที่มีน้ำหนักมากบางตัวก็ยังปลิวไปกับลมพายุนั่น จนถึงจุดนี้กษัตริย์แมลงเริ่มกังวลเสียแล้วในเมื่อทัพของตนสูญเสียกำลังคนไปจำนวนมากขนาดนี้ พลันก็เหลือบไปเห็นสาเหตุของพายุครั้งนี้ มหาพฤกษาอิกดราซิล!ท่านนี่มันช่างยุ่งกับเรื่องของคนอื่นเหลือเกิน กษัตริย์แมลงพูดกับมหาพฤกษา แต่มามีเสียงใดๆตอบกลับไม่ แต่ลมพายุก็ยิ่งพัดแรงขึ้นเรื่อยๆหุบปากของท่านลงเดี๋ยวนี้ พระองค์พูดพลางฟาดดาบในมือไปทางอิกดราซิล แรงดาบของพระองค์ถึงขนาดทำให้เปลือกไม้ขนาดใหญ่ปริแตกไปส่วนหนึ่ง เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นมาทันที เปลือกไม้เริ่มแตกแยกออกมาเผยให้เห็นร่างของมังกรขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง มังกรผู้พิทักษ์เทพอิกดราซิลในตำนาน มารัคงั้นรึ กษัตริย์แมลงพูดด้วยวาจาเย้ยหยั่น พลางสะบัดดาบในมือขึ้นอีกที นี่รึ ผู้ปกป้องเทพผู้ยิ่งใหญ่ แรงดาบครั้งนี้ถึงกับทำให้ป่าที่อยู่ในรัศมีดาบนั้นราบเป็นหน้ากลองไปพร้อมกับร่างมังกรผู้พิทักษ์ จะไม่มีผู้ใด ยุติสงครามครั้งนี้ลงได้ นอกจากชัยชนะของข้าผู้เดียว กษัตริย์หนุ่มกล่าวด้วยท่าทางดั่งปีศาจ ดวงตาชั่วร้ายสีแดงสดฉายไปทางทัพครุฑ
เสียงเพลงนี้มัน ขององค์หญิงมิใช่หรือ ผีเสื้อหนุ่มผู้กำลังค้นหาองค์หญิงเดลิเซียบังเอิญได้ยินเสียงอันไพเราะของนาง จึงตามเสียงนั้นเข้าไปจนไปถึงห้องที่อยู่บนชั้นบนสุด เมื่อเข้าไปถึงเขาก็พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นในเวลานี้ ร่างของอสูรที่ชั่วร้ายที่สุดในนรกกำลังสะบัดข้อมือขององค์หญิงเข้าไปในอุโมงค์สีดำมืด ซาตาน ผีเสื้อเพลิงกล่าวอย่างไม่เชื่อสายตา รู้ชื่อข้าด้วยหรือ ว่าแต่เจ้ากำลังมาช่วยนางนี้ใช่ไหมล่ะ ซาตานกล่าวด้วยสายตาชั่วร้าย จนผีเสื้อเพลิงได้แต่พยักหน้าตอบไป แต่เสียใจด้วยนะ เพราะข้าต้องขอตัวนางไปก่อน หากเจ้าอยากช่วยนางจริงๆ จงนำชิ้นส่วนจิตวิญญาณของข้ามาแลกแล้วกัน แล้วข้าจะรอ พูดจบก็นำตัวนางกระโดดลงไปในอุโมงค์หายไปและหายวับไปกับตา องค์หญิงรอก่อนนะ ผีเสื้อเพลิงพูดกับตัวเอง
ไหนล่ะ ผู้ใดมันจะมาประลองกับข้า กษัตริย์แมลงเอ่ยวาจาเย้ยทุกผู้ที่อยู่ในที่นั้น แต่ก็หามีผู้ใดเอ่ยตอบไม่ มีแต่ผู้คนที่กำลังวิ่งหนีกันอย่างอลหม่าน พายุเริ่มสงบลงอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้หมอกสีดำกลับเคลื่อนเข้ามาบดบังแสงอาทิตย์แทน ลูกข้า จงกลับมาสู่ร่างของข้า เสียงๆหนึ่งดังก้องในหัวของพระองค์อีกครั้ง เจ้าเป็นใครกันแน่ พระองค์พูดกับตัวเองพลางกุมหัวด้วยความเจ็บปวด ข้าคือบุคคลเดียวกับเจ้า ไม่สิเจ้าคือข้า เสียงนั้นดังขึ้นอีกที แต่คราวนี้ ต้นเสียงนั้นดังจากเงาเบื้องหน้าพระองค์ ท่านคือ.. พระองค์กล่าวด้วยความตะลึงเมื่อบุคคลเบื้องหน้าคือ ชายในผ้าคลุมที่มีปีกทั้ง4คู่ ซาตาน ใช่เจ้าคือส่วนหนึ่งของข้า จงกลับมาเถิดกลับมาสู่ร่างอันเป็นที่รักของข้า อสูรกายตัวนั้นเอ่ยวาจาชักชวนพลางสะบัดปีกทั้ง4คู่ ไม่มีวัน ข้าจะไม่กลับไปเป็นส่วนหนึ่งของผู้ใดทั้งนั้น พระองค์กล่าวด้วยความกริ้วพลันสายฟ้าก็ฟาดลงไปยังจุดที่ซาตานอยู่เมื่อครู่ แสงของสายฟ้าเผยให้เห็นร่างที่ถูกปกปิดไว้ ท่านแม่ พระองค์อุทานอย่างไม่เชื่อสายตาแล้วเราจะได้เห็นดีกัน สิ้นคำเงาด้านหลังก็กลับรวมตัวกันจนเป็นหลุมสีดำมืด หลุมดำนั้นก็ดูดร่างขององค์ชายเข้าไปภายในนั้นอย่างรวดเร็ว เหตุใดท่านแม่จึงทำกับข้าเช่นนี้เล่า พระองค์กล่าวในขณะที่ร่างกำลังถูกดูดลงไปในหลุมดำ ชั่วพริบตานั้นเอง มือของแมลงตัวหนึ่งก็คว้ามาจับข้อมือของพระองค์ไว้ได้ พระองค์จับมือข้าไว้ดีๆนะ ร่างของเบลเลอร์พูดขึ้น อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาพูดด้วยแรงเฮือกสุดท้าย ก่อนที่จะได้ยินเสียงคมดาบแหวกอากาศตัดไปที่แขนขวาของพระองค์ ไม่นะ ผีเสื้อพูดพลางหันไปดูหน้าของบุคคลที่ทำเยี่ยงนั้น ข้าอุตสาห์นำมาให้เจ้าเองแท้ๆ ยังจะตกใจสิ่งใดไปเล่า ซาตานยื่นแขนนั้นมาให้แก่ผีเสื้อเพลิงซึ่งกำลังมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง นี้ไง องค์หญิงเดลิเซียที่ข้าสัญญาไว้น่ะ มันพูดพลางส่งนางให้แก่เขาท่านจะไม่มีวันได้แขนชิ้นนี้ไปแน่นอน เบลเลอร์นำแขนของกษัตริย์ยื่นเข้าใกล้ปีกของตน สิ้นสุดกันเสียที ความชั่วร้ายครั้งนี้ เขาเอ่ยขึ้นพร้อมจ้องมองแขนที่กำลังเผาไหม้ไปพร้อมกับร่างของซาตานที่กำลังลุกโชน เพียงไม่กี่นาทีต่อมา มันก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปเสียแล้ว
หลังจากสงครามสิ้นสุดลง อาณาจักรทั้งสองก็ได้ฟื้นฟูประเทศของตนเองอย่างรวดเร็วจนในไม่ช้า สภาพของสงครามก็กลับเป็นเช่นเดิม หากแต่เมื่อจบสงครามไปแล้ว ก็ไม่มีใครพบกับเบลเลอร์และเดลิเซียเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสร้างความโกรธเคืองให้แก่อาณาจักรครุฑจนอาณาจักรทั้งสองเป็นปรปักษ์กันมาจนถึงทุกวันนี้
จบแล้ว หัวหมุนตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ ช่วยติชมด้วยนะครับ
ปล.ช่วยติอีกครั้งนะครับ