สมาคมเทพกรีก

[!~[D]~@/\/Ge|2ouS~X~! #[Evolution]#]

เนื่องจากบอร์ดเก่าโพสครบไปแล้ว ขอเริ่มต้นกับกระทู้ใหม่เลยละกันนะครับ

จากที่เห็นใน SMN ได้มีการ์ดประเภท Devas มาแล้วมากมาย ผมว่าจะมาสร้างการ์ด Devas ที่ยังไม่มีกันดีกว่า

Hera
Type Devas
Mp Cost 4 Pasted No (Inf) No Turn 0
ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายนำ Seal ทั้งหมดในมือเข้ามาในสนาม และ Seal ทั้งหมดในสนามอยู่ในท่า Double Combine 3 Turn
เมื่อ [ S ] ตก Shrine จากสนาม ผู้ควบคุมนำ Seal 1 ใบในมือ เข้ามาในสนามโดยไม่ต้องจ่าย Mp ค่าร่าย

ที่มาความสามารถ: Hera หรือ Juno คือราชินีเทพแห่งการแต่งงานและการให้กำเนิด ดังนั้น Ability คือการนำ Seal เข้ามาในสนาม ก็เหมือนกับท่านได้ให้กำเนิดลูกๆนั่นเอง

Hephaestus
Type Devas
Mp Cost 3 Pasted PA (Inf) No Turn 3
เลือก 1 อย่าง
- [Fire] ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At + 3 Df - 3 Mp + 1
- Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเราติด Last Dance Curse At + 3 / 3 Turn
- Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเราไม่สามารถเปลี่ยน Line ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ
เมื่อ [ S ] ตก Shrine จากกองการ์ด Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At + 2 / 2 Turn

ที่มาความสามารถ: Hephaestus หรือ Valcan เป็นเทพพระเจ้าแห่งเพลิง ดังนั้นความสามารถทั้งหมดส่วนใหญ่ก็คือการเพิ่มพลังโจมตี และมี Ability ที่ 3 ที่ป้องกันการติด Freeze Curse ดังนั้นต่อให้ใช้น้ำ ไฟก็ไม่ดับมอด

Demeter
Typer Devas
Mp Cost 4 Pasted PA (Inf) No Turn
Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเราเมื่อถูกโจมตี At + 1 Df + 1 Sp + 1
[Plant] ทุกใบในสนามฝ่ายเราอยู่ในท่า Double Combine At + 1 และสามารถใช้ Skill ได้โดยไม่ต้องตรงตามเงื่อนไขของการรวมร่าง และการกำหนด Line
ตราบเท่าที่มี [Plant] ในสนามมากกว่า 3 ใบขึ้นไป [ S ] ป้องกันการถูกทำลาย
เมื่อ [ S ] ตก Shrine กองการ์ด นำ [Plant] 1 ใบ ใน Shrine ฝ่ายเรากลับเข้ามาในสนาม

ที่มาความสามารถ: Demeter หรือ Ceres เป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเก็บเกี่ยว ดังนั้นความสามารถจึงเกี่ยวกับ Plant โดยส่วนใหญ่ การ Double Combine คือการเจริญเติบโตของพืชนั่นเอง

Dionysus
Type Devas
Mp Cost 3 Pasted No (Inf) Yes Turn 0
การ์ดทุกใบในสนามที่เป็น Inactive Seal กลายเป็น Active Seal อีกครั้ง
เมื่อ [ S ] ตก Shrine จากกองการ์ด เลือก Seal 1 ใบ Seal นั้นกลายเป็น Active Seal

ที่มาความสามารถ: Dionysus หรือ Baccus คือเทพแห่งการเฉลิมฉลองหรือเทพแห่งไวน์ Seal ที่เป็น Inactive Seal ซึ่งไม่ตื่นตัวเกียจคร้าน เมื่อได้เฉลิมฉลองก็จะกลับมาเป็น Active Seal กระฉับกระเฉงอีกครั้ง

Cornos
Type Devas
Mp Cost 3 Pasted No (Inf) Yes Turn 0
เลือก 1 อย่าง
- Seal ทุกใบในสนามนับว่าผ่านไป 1 Turn
- Seal ทุกใบในสนามย้อนกลับไปใน Turn ที่แล้ว
- Seal ทุกใบในสนามกลายเป็น Inactive Seal
เมื่อ [ S ] ตก Shrine จากกองการ์ด Seal ทุกใบในสนามนับว่าผ่านไป 1 Turn

ที่มาความสามารถ: Cornos หรือ Saturn คือ เทพแห่งกาลเวลา ดังนั้นความสามารถจึงเล่นกับ Turn เป็นส่วนใหญ่แบบ Kuku Clock แต่นี่มีทั้งการไปอนาคต ย้อนกลับ และเวลาหยุดนิ่ง ด้วย

Hestia
Mp Cost 3 Pasted PS (Inf) Yes Turn
Seal ที่ [ S ] ติด ติด Charm Curse Mp - 1
ตราบเท่าที่ [ S ] อยู่ในสนาม Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรา Mp - 1
เมื่อ [ S ] ตก Shrine จากกองการ์ด Seal 1 ใบติด Charm Curse Turn (ผลของ Ability นี้ไม่อาจถูกยกเลิกได้)

ที่มาความสามารถ: Hestia หรือ Vesta คือ เทพีแห่งความรักและครัวเรือน ดังนั้นความสามารถก็คือ Charm Curse เหมือนกับ Aphrodite

Helious
Mp Cost 5 Pasted PA (Inf) No Turn
Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At + 1
ถ้าเรามี [Fire] อยู่ในสนามมากกว่า 3 ใบขึ้นไป Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At + 3 Df = 0
ตราบเท่าที่ [ S ] อยู่ใน Shrine เมื่อเข้าสู่ต้น Subturn โจมตีของผู้ควบคุม ผู้ควบคุมสามารถทิ้งการ์ด 1 ใบในมือ Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้าม At - 2 Df - 1 จนจบ Subturn

ที่มาความสามารถ: Helious หรือ Sol คือ สุริยะเทพ ดังนั้นจึงมีความสามารถส่งเสริมให้กับ Seal ธาตุ Fire โดยเฉพาะ และ ยังสามารถก่อกวนฝ่ายตรงข้ามได้แม้จะอยู่ใน Shrine ด้วยแรงไฟจากด้วงสุริยะทำให้ Fire ทุกใบแรงกล้า ส่วน Seal ที่ไม่ใช่ Fire ก็จะถูกแผดเผา

Cerena
Mp Cost 5 Pasted PA (Inf) No Turn
Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At + 1
ถ้าเรามี [Dark] อยู่ในสนามมากกว่า 3 ใบขึ้นไป Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At + 3 Df + 2 Sp - 1 และเมื่อมี Mystic Card ประเภท Tarot: The Moon เข้ามาในสนาม ผู้ควบคุม จั่วการ์ด 2 ใบ
เมื่อ [ S ] ตก Shrine จากกองการ์ด ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามทิ้ง Mystic Card และ Seal อย่างละ 1 ใบ ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่มี Seal ในมือ ฝ่ายตรงข้ามทิ้ง Mystic Card 2 ใบ ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่มี Mystic Card ในมือ ฝ่ายตรงข้าม ทิ้ง Seal 2 ใบ

ที่มาความสามารถ: Cerena หรือ Luna คือ เทพีแห่งจันทรา ความสามารถจึงเกี่ยวกับ Dark และ Tarot: The Moon

Nemasis
Mp Cost 3 Pasted No (Inf) Yes Turn 0
เลือก 1 อย่าง
- ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายทิ้ง Mystic Card ทั้งหมดในมือ และ Seal ทุกใบในสนามยกเลิก Skill และ Ability ของการ์ดทุกใบ
- ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายสลับกองการ์ด Seal จากนั้นนำ Seal 2 ใบบนสุดจากกองการ์ด Seal ไปยัง Shrine จากนั้นนำ Seal ในมือเข้ามาในสนาม
- ผู้เล่น1 คน Sacrifice Seal ที่รวมร่าง 1 ใบจากนั้นจั่ว Mystic Card 2 ใบ
- ผู้ควบคุมนำ Seal 1 ใบจาก Shrine เข้ามาในสนาม จากนั้น Seal นั้นติด Last Dance Curse At + 3 / 1 Subturn เมื่อจบ Subturn หาก Seal นั้นยังอยู่ในสนามนำลง Shrine
เมื่อ [ S ] ตก Shrine จากกองการ์ด ผู้เล่น 1 คน ไม่สามารถร่าย Seal ได้ใน Subturn ถัดไป

ที่มาความสามารถ: Nemesis คือ เทพีแห่งความยุติธรรม โชคชะตา การลงทัณฑ์ และการล้างแค้น ดังนั้นจึงมีความสามารถอยู่ 4 อย่างด้วยกันนั่น ความสามารถแรก คือความยุติธรรม ผู้เล่นทั้งสองต้องทิ้งการ์ดในมือ และสูญเสียพลังทั้งจาก Ability ของ Mystic Card ของตัวเอง แล้วก็ผลของ Skill Seal อื่น จึงตบกันด้วย At อย่างเดียว ยุติธรรมไหมล่ะ ความสามารถที่สอง คือโชคชะตา เป็นการเสี่ยงดวงเอา Seal ลง Shrine ความาสามารถที่สามคือการลงทัณฑ์ Sacrifice ไปเลย ความสามารถที่สี่คือการล้างแค้น เอา Seal ที่อยู่ใน Shrine กลับมาใช้ใหม่ มาล้างแค้นนั่นเอง

Pan
Type Devas
Mp Cost 3 Pasted No (Inf) No Turn
[Beast] ทุกใบในสนาม At + 1 Df + 1 Sp + 1
ตราบเท่าที่ มี [Beast] มากกว่า 5 ใบขึ้นไปในสนาม [Beast] ทุกใบในสนาม At + 3 ด้วย
เมื่อ [ S ] ตก Shrine จากกองการ์ด ผู้ควบคุมนำ [Beast] ทุกใบในมือเข้ามาในสนาม

ที่มาความสามารถ: Pan คือเทพแห่งการเลี้ยงสัตว์ และฝูงสัตว์ ดังนั้นความสามารถจึงเกี่ยวกับ Beast และ ยิ่งในสนามมี Beast มากเท่าไรพวกมันก็จะบ้าพลังยิ่งขึ้น

[!~[D]~@/\/Ge|2ouS~X~! #[Evolution]#]

ผมจะแยกหมวด Seal กับ Mystic Card ดังนั้นขออนุญาติซ้อนนะครับ

Jupiter, the God of Universe
Type Divine Mp 5 / 4 Lv 5
At 11 Df 12 Sp 5 Element Light
+[Light] Jupiter Thunder At 13 Mp 4
+[Divine] Penalty of Heaven At 14 Mp 5
[ S ] + At ตามจำนวน Seal ในสนามฝ่ายเรา
[ S ] ยกเลิก Curse และ Mystic Card ของฝ่ายตรงข้าม
[ S ] ป้องกัน Skill และ Ability ของ [Dark] และ [Evil]

Juno, the Goddess of Birth
Type Divine Mp 4 / 3 Lv 3
At 10 Df 9 Sp 4 Element Light
+[Light] Auspicious of Birth At 12 Mp 4
+[Light] Penalty of Marriage At 13 Mp 4
ตราบเท่าที [ S ] อยู่ในสนาม Seal ทุกใบในมือเรา Mp ค่าร่าย - 1
เมื่อ [ S ] เข้ามาในสนามผู้ควบคุมสามารถร่าย Seal 1 ใบจากมือโดยไม่ต้องจ่าย Mp ค่าร่าย
[ S ] ยกเลิก Skill และ Ability ของ Seal ฝ่ายตรงข้าม

Mars, the God of War
Type Divine Mp 4 / 2 Lv 3
At 9 Df 11 Sp 5 Element Light
+[Light] Heaven Slaughter At 11 Mp 3
+[Light][Light] Heaven Battle At 12 Mp 4
เมื่อ [ S ] โจมตี ผู้ควบคุมสามารถนำ Mystic Card 1 ใบจากกอง Mystic Card ไปติดที [ S ]
[ S ] ป้องกันการถูกทำลายจากการโจมตี
[ S ] ยกเลิก Curse และ Mystic Card ประเภท [Relic] ของฝ่ายตรงข้าม

Valcan, the God of Fire
Type Divine Mp 4 / 3 Lv 3
At 10 Df 9 Sp 4 Element Fire
+[Fire] Blaze of Light At 12 Mp 4
+[Light] Meteors Blaze At 10 (all) Mp 5
เมื่อ [ S ] โจมตี Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้าม At - 1 Df - 1 Sp - 1 และ สูญเสีย Ability 1 Turn
เมื่อ [ S ] เข้ามาในสนาม Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้ามที่มี Lv น้อยกว่าหรือเท่ากับ [ S ] แยกการรวมร่าง
[ S ] ป้องกัน Last Dance Curse และ Freeze Curse

Venus, the Goddess of Love
Type Divine Mp 4 / 2 Lv 3
At 8 Df 9 Sp 5 Element Light
+[Light] Holy Love At 11 Mp 3
+[Light][Light] Love Forever At 12 Mp 4
เมื่อ [ S ] เข้ามาในสนาม Seal 1 ใบในสนามฝ่ายตรงข้ามติด Charm Curse Turn (ผลของ Ability นี้ไม่สามารถถูกยกเลิกได้)
[ S ] ยกเลิก Curse และ Skill ของ Seal ฝ่ายตรงข้าม
Skill: Seal 1 ใบในสนามฝ่ายตรงข้ามติด Charm Curse 3 Turn (ผลของ Skill นี้ไม่สามารถถูกยกเลิกได้) (Df Line)(Mp 3)

Mercury, the Herald of God
Type Divine Messenger Mp 3 / 1 Lv 2
At 7 Df 9 Sp 5 Element Light
+[Light] Speed Light At 10 Mp 3
เมื่อเข้าสู่ Subturn โจมตีของเรา ผู้ควบคุมสามารถนำ Mystic Card 1 ใบในมือกลับเข้ากองการ์ดจากนั้นสลับกองการ์ด และจั่ว Mystic Card และ Seal อย่างละ 1 ใบ
Skill: ผู้ควบคุมนำ Seal 1 ใบเข้ามาในสนาม และนำ Mystic Card 1 ใบในสนามขึ้นมือ (Mp 2)

[Sak, the Inventor]

ผ่าน

ตรวจแค่ Mystic อย่างเดียว

edit : แก้ไขหมดแล้ว ผ่าน!!

[!~[D]~@/\/Ge|2ouS~X~! #[Evolution]#]

Ceres, the Goddess of Harvest
Type Divine Mp 3 / 1 Lv 2
At 7 Df 10 Sp 4 Element Earth
+[Earth] Rich Mature At 9 Mp 3
+[Plant] Exuberant World At 11 Mp 4
Shade of [Light]
ตราบเท่าที่ [ S ] อยู่ในสนาม [Plant] ทุกใบในสนามฝ่ายเรา ถือว่าอยู่ในท่า Double Combination
เมื่อ [ S ] ตก Shrine ผู้ควบคุมสามารถ Sacrifice [Plant] 1 ใบ จากนั้นนำ [ S ] เข้ามาในสนามจาก Shrine
Skill: เลือก [Plant] 1 ใบ ย้ายเป้าหมายของ Skill ที่มีเป้าหมายไปยัง [Plant] ที่เราเลือกมาที่ [ S ] [Plant] นั้นป้องกัน Skill จนจบ Subturn   (Mp 2)
[ S ] ยกเลิก Skill และ Curse

Neptune, Lords of the Oceans
Type Divine Mp 4 / 3 Lv 3
At 10 Df 12 Sp 3 Element Water
+[Water] Oceans Furious At 12 Mp 4
+[Water][Water] Great Undercurrent At 10 all Mp 5
เมื่อ [ S ] โจมตี Seal ที่อยู่ At Line ที่มี Sp น้อยกว่า [ S ] ย้ายไปอยู่ Df Line เมื่อมี [Water] อยู่ในสนาม
Seal ทุกใบใน Df Line ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ใช่ [Water] Df - 3
Seal ทุกใบใน Df Line ฝ่ายเราที่เป็น [Water] Df + 2
[ S ] ยกเลิก Freeze Curse และ Last Dance Curse

Minerva, the Goddess of Wisdom
Type Divine Mp 4 / 2 Lv 2
At 8 Df 10 Sp 5 Element Light
+[Divine] Punishment of Goddess At 11 Mp 3
Seal ทุกใบในสนามที่ไม่ใช่ [Divine] ยกเลิก Ability ของ Seal ใบอื่นที่ไม่ใช่ของ [ S ]
เมื่อ [ S ] โจมตี ผู้ควบคุมสามารถประกาศชื่อ Mystic Card 1 ใบ จากกองการ์ดจากนั้นนำการ์ดใบนั้นมาติดที่ [ S ] และ Mystic Card นั้นป้องกันจากการถูกทำลายจากผลของ Mystic Card ใบอื่น (ยกเลิก Ability นี้เมื่อไม่มีการ์ดที่ประกาศในกองการ์ด)
Skill: Sacrifice Mystic Card ที่ติดอยู่บน Seal 1 ใบ: ทำลาย Mystic Card 1 ใบในสนาม (Mp 2)
[ S ] ป้องกัน Curse และ Mystic Card ของฝ่ายตรงข้าม

Apollo, the God of Music
Type Divine Mp 4 / 2 Lv 3
At 9 Df 9 Sp 5 Element Light
+[Divine] Lyric Touch At 10 Mp 2
+[Musician] Lyric of Sunshine At 11 Mp 3
เมื่อ [Musician] ใช้ Skill สำเร็จ ผู้ควบคุมสามารถร่าย [Musician] 1 ใบในมือโดยไม่ต้องจ่าย Mp ค่าร่าย
เมื่อ [Musician] ถูกโจมตี Seal 1 ใบ ได้รับ 2 Charge Counter
Skill: นำ [Musician] 1 ใบในสนามขึ้นมือ Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้ามกลายเป็น Inactive Seal จากนั้นผู้ควบคุมนำ Apollo ใน Shrine เข้ามาในสนาม เมื่อครบ 3 Turn นำ Apollo ลง Shrine (Df Line)(Mp 4)
[ S ] ยกเลิก Skill และ Charm Curse

Diana, Goddess of the Hunt
Type Divine Mp 3 / 1 Lv 2
At 7 Df 8 Sp 3 Element Light
+[Light] Moon Hunt Rabbit At 10 Mp 2
+[Divine] Heaven Hunt Lion At 11 Mp 3
เมื่อ [ S ] ตกเป็นเป้าหมายของ Mystic Card ผู้ควบคุมสามารถจ่าย Mp 1 จากนั้นทำลาย Mystic Card ใบนั้น
Skill: ผู้ควบคุมทิ้ง Mystic Card X ใบ: ทำลาย Seal 1 ใบที่ไม่ได้รวมร่างและมี Mp ค่าร่ายเท่ากับ X จากนั้นผู้ควบคุมจั่ว Mystic Card ตาม Mp ค่าโจมตีของ Seal ที่ถุกทำลาย เมื่อ [ S ] รวมร่างกับ [Divine] (Mp 5)
[ S ] ป้องกันการโจมตีจาก [Dark] และ [Evil]

Saturn, the God of Time
Type Divine Mp 3 / 2 Lv 2
At 8 Df 6 Sp 5 Element Light
+[Machine] Wirl of Time At 10 Mp 3
+[Divine][Light] Morning & Nighttime At 11 Mp 3
เมื่อ [ S ] เข้ามาในสนาม Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรานับว่าผ่านไป 1 Turn
เมื่อ [ S ] ตก Shrine Seal ทุกใบในสนามนับว่าผ่านไป 1 Turn
Skill: Seal 1 ใบ นับว่าผ่านไป 1 Turn (Mp 1)

[Les aventures de TinTin]

   เท่าที่ดูโดยรวมๆก็ดีนะครับ  ตอนแรกสร้างเป็น mystic อยู่ดีๆ  แล้วก็เปลี่ยนเป็น seal ซะอย่างนั้น  แต่ก็โอเคครับ  ผมก็ชอบพวกเทพเจ้าในเทวตำนานเหมือนกัน  (หลังๆดูจะไม่ใช่เทพกรีกอย่างเดียวซะละมั้งครับ  มันจะเป็นเทพโรมันซะเยอะนะผมว่า...)

[pom-rak-mint]

   เท่าที่ดูโดยรวมๆก็ดีนะครับ  ตอนแรกสร้างเป็น mystic อยู่ดีๆ  แล้วก็เปลี่ยนเป็น seal ซะอย่างนั้น  แต่ก็โอเคครับ  ผมก็ชอบพวกเทพเจ้าในเทวตำนานเหมือนกัน  (หลังๆดูจะไม่ใช่เทพกรีกอย่างเดียวซะละมั้งครับ  มันจะเป็นเทพโรมันซะเยอะนะผมว่า...)

คือว่านะครับ เทพกรีกกับโรมันเองเนี่ย เมื่อโรมันยึดครองกรีกได้เขาก็รับวัฒนธรรมของกรีกมาแล้วนำมาเปลี่ยนชื่อ อย่างที่ซุสมีอีกชื่อว่าจูปิเตอร์ไงครับ
อ่า ผมก็ชอบนะครับเรื่องกรีกเนี่ย มันสนุกดี ขอให้ทำเยอะๆครับ
ลองทำเป็นหลายๆ ภาคนะ ต่อให้มีซุสแล้ว ก็รีทำใหม่เรื่อยๆ ขนาดยังมีเมอ3เลย มีเทพกรีก-โรมัน3บ้างสิเนอะ

Atlas,the Titan God
mp 5/3 earth type Divine
At 10 DF 12 Sp 0
เมื่อเข้ามาในสนาม ติด Stone Curse อินฟินิตี้เทิร์น
เมื่อเข้ามาในสนาม seal ฝ่ายเราป้องกัน curse mystic card ability และ skill 2 เทิร์น
เมื่ออยู่ในสนาม ซีลทุกใบ AT-3 DF+3 ถ้าซีลนั้นเป็นดินเปลี่ยนเป็น At+1 DF+2 แทน
[skill] นำขึ้นมือจากสนาม และซีล 1 ใบติดstone curse 3 เทิร์น ถ้าครบ 3 เทิร์นแล้วถ้ายังอยู่ในมือให้นำซีลลงมาในสนาม MP 4


เนื่องจากแอตลาสเป็นเทพไททันที่ถูกลงโทษให้แบกพื้นโลก สปีด 0 และติดสโตนเคิส เนื่องจากเป็นพื้นโลกจึงน่าจะมีพลังเสริมธาตุดิน และต้นกำเนิดของสกิลมีอยู่ว่า
        "วันหนึ่งแอตลาสได้พบเพอร์ซีอุสมาตามหาไร่ผลไม้ของแอตลาส แอตลาสจึงบอกว่าจะให้และหลอกเพอร์ซีอุสให้มาแบกโลกแทนตน เพอร์ซีอุสหลงเชื่อจึงมาแบกจริงๆ แต่หลังจากนั้นไม่นานเพอร์ซ๊อุสก็ออกมาได้และให้แอตลาสไปแบกต่อ"
 นั่นจึงทำให้ซีล 1 ใบติดสโตนเคิสแทน 3 เทิร์น

[Les aventures de TinTin]

วันหนึ่งแอตลาสได้พบเพอร์ซีอุสมาตามหาไร่ผลไม้ของแอตลาส แอตลาสจึงบอกว่าจะให้และหลอกเพอร์ซีอุสให้มาแบกโลกแทนตน เพอร์ซีอุสหลงเชื่อจึงมาแบกจริงๆ แต่หลังจากนั้นไม่นานเพอร์ซ๊อุสก็ออกมาได้และให้แอตลาสไปแบกต่อ

   ตำนานเรื่องนี้เป็นของเฮอร์คิวลิสต่างหากครับ  ไม่ใช่เพอร์ซีอุสนะ  ลองไปตรวจสอบดูใหม่นะครับ  ผมคิดว่ามีแต่เฮอร์คิวลิสเท่านั้นแหละที่จะมีพลังขนาดแบกโลกได้น่ะครับ

[farid333]

สุดยอดมาก เขียนได้เยอะจริง  :o 
ขอโฆษนากระทู้ wishlist นารุโตะของผมหน่อยตามลิ้ง http://www.santoninogame.com/yabb/index.php?topic=32013.msg352849#msg352849