เมื่อประเมินสถานการณ์แล้วทุกคนจึงตกลงใจที่จะให้กษัตริย์ซิกมันด์ล่วงหน้าไปก่อนโดยที่พวกทหารที่เหลือจะเป็นผู้ต้านมังกรสวรรค์ถ่วงเวลาไว้ แต่สำหรับกษัตริย์ซิกมันด์แล้วเรื่องที่เหมือนกับการหนีเอาตัวรอดเช่นนี้ทำลายความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของพระองค์อย่างมาก กว่าที่พระองค์จะทรงยอมก็ต้องเสียทหารไปอีกถึงสองนาย
กษัตริย์ซิกมันด์ทรงจากสมรภูมิย่อยมุ่งหน้าต่อไปด้วยความอับอายและกริ้วโกรธเป็นกำลัง เกียรติและศักดิ์ศรีของพระองค์ดูจะถูกกระทำย่ำยีมากขึ้น ๆ ทุกวัน ทรงอดคิดไม่ได้ว่าพระองค์เป็นกษัตริย์ที่ต่ำต้อยและน่าสมเพชที่สุดของราชวงศ์อรีธา ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเคืองเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ทำให้พระองค์ยังคงมุ่งหน้าต่อไปในเวลานี้คือความกริ้วโกรธและศักดิ์ศรีเท่านั้น
พระองค์ทรงเดินไต่ยอดเขาขึ้นไปเรื่อย ๆ อีกเป็นเวลานาน นานจนพระองค์เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ไม่มีสรรพเสียงใด ๆ ให้ได้ยินนอกจากเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าที่ดังชัดขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็ช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจของกษัตริย์ซิกมันด์เมื่อทรงนึกว่าพระองค์เข้าใกล้นกธันเดอร์ริคแล้วนั่นเอง
จนกระทั่งพระองค์ทรงเดินมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่กว้างขวางทว่าเต็มไปด้วยหินขนาดมหึมาวางกองระเกะระกะ พระองค์ทรงก้าวลึกเข้าไปเรื่อย ๆ พยายามมองหาสัญญาณใด ๆ ของสิ่งมีชีวิตแต่ก็ไม่พบแม้แต่แมลงสักตัว เมื่อทรงเดินต่อมาอีกครู่หนึ่งก็ทรงพบกับแท่นหินสลักขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายบัลลังก์สีขาวสะอาดตา ตัวบัลลังก์นั้นมองดูให้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งและน่าเกรงขามอยู่ในที บัลลังก์นี้ต้องเป็นของธอร์อย่างแน่นอนพระองค์ทรงมาถูกทางแล้ว ตาแก่ประหลาดนั่นไม่ได้โกหก พระองค์เดินเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ภายในใจก็เริ่มมีความรู้สึกว่าอยากจะลองนั่งบนบัลลังก์ขาวนี้สักครั้ง ก็ใครเล่าจะเหมาะสมที่จะนั่งบนบัลลังก์นี้นอกจากพระองค์เอง คิดแล้วก็ทรงประทับนั่งลงบนบัลลังก์ในทันที ความรู้สึกเมื่อประทับอยู่บนบัลลังก์นั้นช่างหอมหวานและทวีความเห่อเหิมให้กับพระองค์มากยิ่งขึ้น
ธอร์! พระองค์ทรงตะโกนเรียกจนสุดเสียง ธอร์! เจ้าอยู่ที่ไหน? ข้าอุตส่าห์เดินทางมาหาเจ้าด้วยความยากลำบาก จงออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้
เปรี้ยง!! เสียงฟ้าผ่าดังสั่นเลื่อนลั่นไปทั่วทั้งผืนฟ้าเหนือพระองค์ก่อนที่สายฟ้าขนาดใหญ่จะฟาดตรงลงมายังบัลลังก์ที่ประทับ ด้วยความฉับไหวเพียงเสี้ยววินาทีกษัตริย์แห่งสายลมก็รีบดีดตัวพ้นจากบัลลังก์ได้อย่างหวุดหวิดแต่ผ้าคลุมของพระองค์ก็ต้องขาดวิ่นและไหม้เกรียม พระองค์หมอบซบหน้าลงกับพื้นหูยังอื้อกับเสียงฟ้าผ่าที่ดังก้อง ร่างกายสั่นชาและยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของสายฟ้าที่ฟาดผ่าลงมา
เจ้าเป็นใครจึงบังอาจมานั่งบนบัลลังก์ของข้าและเรียกร้องข้าด้วยกริยาและวาจาสามหาวเช่นนี้ เสียงของเทพธอร์ประกาศก้องราวกับเสียงฟ้าผ่าแผดกังวานอย่างดุดัน
กษัตริย์แห่งสายลมรีบยันตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หัวใจยังคงเต้นเร็วรัวจากเหตุการณ์เฉียดตายเมื่อสักครู่ หากไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาโต้ตอบที่ฉับไวของพระองค์ป่านนี้พระองค์คงตายไปแล้ว กษัตริย์ซิกมันด์ค่อย ๆ หันหน้าไปเผชิญกับเทพธอร์อย่างระมัดระวัง เทพเจ้าธอร์นั้นมีร่างกายใหญ่โตกำยำและสูงใหญ่กว่ามนุษย์ธรรมดาถึงสองเท่า ใบหน้าขตัวเองตึงและมีดวงตาเป็นประกายกล้า พระองค์ยังคงจ้องมองพิจารณาเทพเจ้าธอร์อยู่อย่างนั้น เพราะไม่เคยเห็นเทพเจ้าโบราณมาก่อน นับตั้งแต่อาณาจักรฟิเลเซียเริ่มหันมานับถือพระเจ้าสูงสุดเมื่อหลายร้อยปีก่อน เทพเจ้าโบราณอย่างเทพเจ้าธอร์ก็เริ่มถูกลืมหายไปจากกาลเวลา ดังนั้นเมื่อกษัตริย์ซิกมันด์ผู้ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าโบราณเพียงน้อยนิดจึงอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจ
ข้าถามเจ้าไม่ได้ยินหรืออย่างไร? เจ้ามนุษย์ เทพเจ้าธอร์เปล่งเสียงราวฟ้าคำราม
กษัตริย์ซิกมันด์ผู้ไม่เคยชินกับการถูกสั่งก็ทรงเริ่มมีอาการขึงโกรธทันที ข้าคือกษัตริย์ซิกมันด์ที่ 3 แห่งฟีเลเซีย ผู้เป็นเจ้าของดินแดนฝั่งตะวันตกทั้งหมดของทวีปเมอริเซียนี้รวมถึงเนินเขาวาฮาลนี้ด้วย
ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! เสียงหัวเราะดังราวกับสายฟ้าฟาดสะท้อนไปทั้งยอดเขา น่าขำ สำหรับข้า เจ้ามันก็แค่มนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น บอกข้ามาสิเจ้ามาล่วงเกินข้าถึงที่พำนักของข้าด้วยเหตุอันใด กษัตริย์แห่งฟีเลเซีย
ข้าไม่ได้มาล่วงเกินเจ้า ข้ามีธุระกับเจ้าต่างหาก กษัตริย์ซิกมันด์ตรัสด้วยความหยิ่งผยอง ข้าจะมาขอยืมนกสายฟ้าจากเจ้า เวลานี้อาณาจักรฟีเลเซียกำลังมีภัยจำเป็นจะต้องมีกำลังเสริมที่แข็งแกร่งมาช่วยเสริมทัพ ดังนั้นเจ้าควรจะรีบส่งนกสายฟ้ามาให้ข้าแต่โดยดี มิฉะนั้นหากศัตรูบุกเข้ามาได้ แม้แต่เนินเขาวาฮาลหรือเทพเจ้าโบราณอย่างเจ้าก็อาจจะอยู่ไม่ได้
สามหาว! พลันสายฟ้าถึงสามสายก็ฟาดเปรี้ยงไปรอบตัวกษัตริย์แห่งสายลม
เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดจาจองหองอวดดีกับข้าเยี่ยงนี้ แม้แต่บรรดาทูตสวรรค์ของพระเจ้าที่เจ้านับถือยังให้เกียรติข้า แล้วเจ้ามนุษย์กระจ้อยร่อยเหมือนมดปลวกอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งข้า ฟ้าแลบแปลบปลาบและมีลมกรรโชกแรงยิ่งขึ้น เมื่อเทพเจ้าธอร์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับค้อนยักษ์ในมือด้วยความเกรี้ยวกราด เห็นทีข้าจะต้องสั่งสอนมนุษย์จองหองอย่างเจ้าให้รู้สำนึกเสียแล้ว
ในทันทีที่เทพเจ้าสายฟ้าฟาดค้อนลงมา สายฟ้านับสิบก็ผ่าเปรี้ยงลงมารอบตัวกษัตริย์ซิกมันด์และกลายเป็นกรงสายฟ้าล้อมกรอบพระองค์ไว้ พระองค์ได้แต่ตกตะลึงจนตาค้างทำอะไรไม่ถูกเป็นครู่ใหญ่
เจ้า...เจ้า...เจ้าทำอย่างนี้กับข้าไม่ได้นะ ข้าเป็นถึงกษัตริย์แห่งฟีเลเซีย และข้ามีหน้าที่ต้องปกป้องบ้านเมืองจากพวกคนเถื่อน เจ้าขังข้าไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ กษัตริย์ซิกมันด์ทรงขว้างโล่ใส่กรงสายฟ้าเต็มแรง ก่อนที่โล่ซึ่งกระแทกเข้าใส่สายฟ้าอย่างแรงจนเกิดประกายไฟระเบิดขึ้นส่งให้โล่พุ่งกลับไปกระแทกใส่กษัตริย์ซิกมันด์เข้าเต็มแรงจนทรงล้มลงไปนอนกับพื้น
จงนั่งอยู่ในนั้นแล้วสำนึกตนซะ! เทพเจ้าธอร์สั่งด้วยกังวานเสียงดุจดังสายฟ้าพร้อม ๆ กับร่างที่กลายเป็นสายฟ้าพุ่งทะยานเข้าไปในกลีบเมฆ
ปล่อยข้าออกไป ! ปล่อยข้าออกไป ! เสียงร้องตะโกนที่สิ้นหวังของกษัตริย์แห่งฟีเลเซียดังก้องไปทั่วบริเวณ
s
เขาคิดว่าฉันเป็นใบ้เพราะไม่ได้ยินเสียงร้องอย่างแมวจากฉันเนี่ยนะ เจ้าสัตว์ตัวสีม่วงบ่นทำเสียงฟุดฟิดขึ้นจมูก ฉันจะร้องได้ยังไง? ก็ฉันไม่ใช่แมว
เจ้าคิดว่าพ่อหนุ่มน้อยนั่นจะทำสำเร็จไหม? ทารอตโต้(Tarotto) ชายแก่ก้มหน้าลงคุยกับสัตว์เลี้ยงในอ้อมแขน
ไม่สำเร็จอยู่แล้ว นิสัยที่เย่อหยิ่งของเขาได้กำหนดโชคชะตาของเขาแล้ว ทารอตโต้เงยหน้าขึ้นตอบถูศีรษะกับอกเสื้อของชายแก่อย่างเอาใจพลางบิดตัวอย่างขี้เกียจจนผ้าคลุมเลื่อนหลุดจากตัวเผยให้เห็นปีกค้างคาวสีม่วงโผล่พ้นผ้าคลุมออกมา หางยาวอย่างนากกวัดแกว่งไปมาอย่างสบายอารมณ์ ชายแก่จึงต้องจับผ้าคลุมขึ้นมาคลุมให้ใหม่
เราลงไปรอคนที่กำลังจะมากันดีกว่า ชายแก่พูดอย่างอารมณ์ดีพลางเดินมุ่งตรงไปยังเนินเขาเบื้องล่าง