Summoner Master Forum
October 09, 2024, 02:24:22 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: เนกิมะ ฉบับกระผม (- -) คนละอันกับอันก่อน  (Read 2385 times)
0 Members and 4 Guests are viewing this topic.
!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« on: July 11, 2006, 06:14:47 AM »

อันนั้นจะสิ้นสุดแค่วันงานโรงเรียน 3 วัน (- -) วันแรกก็ล่อไป 128 หน้า word แหละ 30 กว่าตอน (- -)
อันนี้คือช่วงหลังจากงานโรงเรียน

ตอนที่ 1 กลับสู่สภาพปกติ ที่ขาดบางสิ่ง จนไม่ปกติ

9.00 น. ที่ห้อง 3-A

“อรุณสวัสครับทุกคน” เนกิทักขึ้น แต่เขากลับเห็นสภาพนักเรียนหญิงในห้องของเขาง่วงนอน บ้างก็เหมือนเพิ่งตื่น บ้างก็หลับคาโต๊ะทันที
“แฮะๆ... สงสัยคงจะอยู่ดูพิธีปิดงานเมื่อวานกันซะดึกเลยนะครับ แถมยังมีฉลองส่งท้ายอีก” เนกิพูดขึ้น แล้วทาคามิจิก็เปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง นักเรียนในห้องจึงเงยหน้าขึ้นมามอง
“เอาล่ะ สาวๆ วันนี้ห้องเธอมีเรียนเลขใช่มั้ย” ทาคามิจิถาม
“ค่ะ” ยูนะตอบ
“พอดี อ.โยฮิมะ ที่สอนเลขเธอนั้นถูกย้ายไปประจำยังโรงเรียนอื่น วันนี้ก็เลยมีอาจารย์ท่านใหม่เข้ามาสอนเลขพวกเธอ ดูแลเขาดีๆละ อย่าทำให้เขาลำบากใจหรือเห็นว่าห้องเราแย่นะ” ทาคามิจิพูดเสร็จก็เดินออกไปทันที

“วันนี้จะมีอาจารย์ใหม่เหรอเนี่ย”
“จะเหมือนกับเนกิหรือเปล่านะ”
“เขาจะเป็นอาจารย์ผู้ชายหรือผู้หญิงนะ”
“วิชาเลขที่แสนน่าเบื่อ ใครมาสอนก็น่าเบื่อหมดแหละ”
“วิชาเลขนี่ต่อจากวิชาอังกฤษของเนกิคุงนี่”
นักเรียนในห้องต่างตื่นขึ้นมาพูดคุยกันทันที

“แฮะๆ ตื่นกันเร็วจัง *เอ๋ คุณเจ้าก็ไม่อยู่แล้ว ห้องนี้มันก็ดูเหงาๆไปเลยนะ หรือว่าเพราะซาลาเปาของคุณเจ้าถึงทำให้พวกเพื่อนๆในห้องมีแรงลุกขึ้นมาเรียนกัน*” เนกิหัวเราะนิดๆ
“*จะว่าไปนี่ก็คงจะกลับสู่สภาพปกติแล้วละซิ นอกจากที่ขาดคุณเจ้าที่หายไปจากห้อง แต่แม้กระทั่งคุณมานะที่คิดจะสู้กับคุณเซตซึนะ ตอนนี้ก็ยังคงกลับมาเป็นเพื่อนกันอย่างปกติแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในวันงานนั้นเหมือนกับว่ามันหายไปพร้อมกับงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายให้คุณเจ้าเลย*” เนกิมองดูนักเรียนในห้องของเขาอย่างดีใจ
“นี่นี่ เนกิคุง ที่ใต้โต๊ะคุณเจ้ามีจดหมายด้วย” มากิเอะที่สังเกตเห็นจึงหยิบขึ้นมาและเดินไปให้เนกิ
“ไหนๆ เปิดอ่านเลยซะ เนกิคุง” นักเรียนในห้องต่างเข้ามาล้อมดูกัน
“สงสัยจะไม่ได้ละครับ คุณเจ้าเขียนไว้ว่า ให้เปิดอ่านหลังจากจบวันงานไป 1 เดือน” เนกิบอกแล้วเพื่อนๆต่างก็ทำหน้าเซงกันไปตามๆกันแล้วพวกเธอก็กลับไปนั่งที่

“เอาล่ะครับ เรามาเริ่มเรียนกันเลยนะ” เนกิพูดขึ้น
“แหมเพิ่งจบงานวันแรกให้พวกเราพักเหนื่อยหน่อยซฺเนกิคุง” มิสะพูดแย้งขึ้น
“คงจะไม่ได้หรอกนะครับ ถ้าไม่เรียนรู้วิชานี้มากๆแล้ว ตอนสอบที่จะมีอีกไม่ถึงครึ่งปีข้างหน้าอาจจะเป็นห้องบ๊วยก็ได้นะครับ” เนกิบอก
“ก็นั่นผิดที่พวกติงต๊องเรนเจอร์ต่างหากค่ะ” มาโดกะพูดขึ้น
“ก็อย่าไปว่าเพื่อนๆแบบนั้นซิครับ และอีกอย่างตอนนี้คุณเจ้าก็ไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครมาช่วยดึงคะแนนห้องให้เพิ่มได้อีกแล้ว หากสอบปีนี้ยังเป็นบ๊วยก็คงจะเหมือนกับห้องอื่นปีที่แล้วที่ได้บ๊วย ถูกท่านผ.อ.ยุบห้อง” เนกิพูดขึ้นแล้วนักเรียนในห้องต่างก็เงียบกันทันที
“*สงสัยเธอนี่จะมีความสำคัญต่อห้องมากๆเลยนะ เจ้าหลินเฉิง*” มานะนึกขึ้น

“เอาครับ อย่าคิดเรื่องนั้นให้มันปวดหัวเลยนะครับ พักผ่อนก่อนสักครึ่งชั่วโมงก็ได้ครับ อีกครึ่งชั่วโมงหลังค่อยเรียน” เนกิพูดขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มให้

เย้...

จากอารมณ์เงียบๆของนักเรียนในห้องกลับกลายเป็นเสียงดีใจทันที

“*โถ่ ยัยพวกนี้อารมณ์เปลี่ยนไวเหลือเชื่อ เมื่อกี๊ยังเศร้าใจอยู่เลย*” จิซาเมะบ่นขึ้นในใจ

“*อั๊วคิกถึงลื๊อจังเลยเน๊อ เมื่อไหร่ลื๊อจะกลักมาน้า หรือลื๊อจะไม่กลักจริงๆอย่างที่ลื๊อบอก*” เฟยหันไปมองที่นอกหน้าต่างก็เห็นภาพเจ้าหลินเฉิงกำลังยิ้มให้ แล้วก็จางหายไป เฟยถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นทันที
“เฟย เป็นอะไรหรอเจ้าค่ะ” คาเอเดะถาม
“ฮึ๊ก... ฮึ๊ก... ม่ายหรอก อั๊วม่ายเป็งราย” เฟยตอบพร้อมกับก้มหน้าลงใต้โต๊ะ
“*ข้าพเจ้าและเพื่อนคนอื่นๆก็คิดถึงเหมือนกันเจ้าค่ะ*” คาเอเดะลูบหัวเฟยเบาๆพรางปลอบใจ

“สงสัยหนูเนกิคงจะยังคิดถึงเรื่องที่คุณเจ้าจากไปอยู่ให้ทุกข์ใจ” มานะพูดขึ้น
“ก็คงใช่นะ แต่การที่คุณเจ้าไปมันก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่มากๆเลยนะ” เซตซึนะพูดขึ้น
“หรือเธอยังคิดว่าเจ้าจังนั้นยังเป็นคนไม่ดีอยู่” มานะหันมาถาม
“ก็ไม่เชิงนะ ทั้งด้านดีของคุณเจ้าก็มีอยู่มาก แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะทำเรื่องบางเรื่องได้” เซตซึนะตอบ
“คงไม่หรอก การที่เจ้าจับและสกัดจอมเวทย์คนอื่นๆก็เพราะว่า เจ้านั้นต้องการที่จะกลับไปบ้านจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีเหล่าครูจอมเวทย์มาขวางไว้แน่เพราะเจ้ายังมีคดีติดอยู่ในโรงเรียนอยู่ที่ว่าเจ้าไปรู้เรื่องเกี่ยวกับเวทย์มนต์เข้า” มานะบอก
“นับจากนี้ไป หนูเนกิคงจะมีเรื่องทุกข์ใจเพิ่มเข้ามาอีก” มานะพูดขึ้นแล้วก็หลับตาลงเพื่อผ่อนคลายตัวเอง

“อาสึนะปล่อยให้เนกิคุงเข้าเป็นแบบนี้จะดีเหรอ” โคโนกะถาม พร้อมกับมองดูเนกิที่เดินไปอยู่ริมหน้าต่างหน้าห้อง
“ไม่รู้ซิ ก็คงต้องปล่อยไว้สักพักละ เพราะจะทำยังไงคุณเจ้าก็คงจะไม่กลับมาแล้วละ” อาสึนะตอบ
“แบบนี้ เนกิคุงจะไม่คิดมากเหรอ” โคโนกะถามอีก
“เห๊อ เจ้าหมอนี่ก็แบบนี้ละ เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เรื่องนิดเรื่องน้อย เก็บเอามาคิดมากอยู่ตลอด” อาสึนะตอบเสร็จก็ฟุบตัวหมอบลงไปนอนทันที

“*คุณเจ้าครับ*” เนกิหยิบภาพถ่ายในงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายให้กับเจ้าหลินเฉิงที่คาสึมิถ่ายเอาไว้ขึ้นมาดู
“*ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย*” เนกิเองนึกถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ที่เข้ามาสอนใหม่ๆเกี่ยวกับคุณเจ้า ทั้งเรื่องการเรียน เรื่องอาหาร เรื่องปลอบใจ เรื่องการสู้ เขานึกอยู่สักพักจนน้ำตาคลอเบ้าอีกคน แล้วจู่ๆก็มีลมพัดม่าใส่เขาจนรูปในมือลอยหลุดจากมือตกออกไปข้างหน้าอาคาร ซึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งอยู่ข้างล่าง เขาก็เก็บรูปนั้นขึ้นมาแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองที่หน้าต่างก็เห็นเนกิที่กำลังมองเขาอยู่ เขาจึงยิ้มให้ก่อนที่จะเดินเข้ามาในอาคาร...
Logged


!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #1 on: July 11, 2006, 06:15:16 AM »

ตอนที่ 2 อาจารย์ใหม่

“เอาล่ะครับ ประโยคนี้มีใครแปลได้มั้ยครับ” เนกิเอ่ยถามขึ้น แต่ก็ไม่มีนักเรียนคนไหนกล้าตอบขึ้นเลย
“*จริงซิ คุณเจ้าไม่อยู่แล้วนี่ เลยไม่มีใครตอบขึ้นมาได้เลย แบบนี้เราคงต้องสอนอย่างจริงจังมากขึ้นแล้วละซิ*” เนกิเกิดไฟขึ้นในใจ

กรี๊งงง...........

เย้.....

เสียงกระดิ่งสวรรค์ที่ทำให้นักเรียนห้อง 3-A ผ่านพ้นชั่วโมงอันน่าพิศวงของพวกเธอไปได้
“เอาล่ะ วันนี้ผมไปละนะครับ วันพรุ่งนี้ผมจะพยายามสอนทุกคนให้เข้าใจมากขึ้นกว่านี้นะครับ” เนกิยิ้มให้ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
จากกลุ่มนักเรียนที่เพิ่งโศกเศร้าเสียใจที่เพื่อนของพวกเธอคนหนึ่งต้องจากไป พวกเธอในตอนนี้ก็กลับมามีรอยยิ้มแจ่มใสได้ดั่งเดิมแล้ว

เฟือบบบ..........

เสียงบานประตูถูกเลื่อนออก แล้วก็มีชายหนุ่มใส่แว่นคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง นักเรียนทุกคนต่างมองเป็นสายตาเดียวกัน

“โอ๊ะ ผมเข้าห้องผิดเหรอ” ชายหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นแล้วก็รีบวิ่งออกไปดูป้ายหน้าห้อง

อาจารย์ใหม่มาแล้ว กลับที่นั่งเร็ว...

“นึกว่าผิดห้อง เอาล่ะครับ อรุณสวัสนักเรียนห้อง 3-A ครับ” ชายคนนั้นทักทายขึ้น
“อรุณสวัสค่ะ” นักเรียนในห้อง 3-A ต่างกล่าวคำทักทาย แล้วชายคนนั้นก็เขียนชื่อตัวเองบนกระดาน
“ผมชื่อ เรียว แกรนเดีย เดชิโนะ รีส หรือชื่อย่อ เรียว จี.ดี. รัส หรือชื่อเล่น เรียว หรือจะเรียก อ.รีส ก็ได้นะครับ ผมเป็นอาจารย์ที่จะมาสอนเลขแทนอาจารย์โยฮิมะ ผมเพิ่งสำเร็จการฝึกเป็นครูมาใหม่ๆ การสอนครั้งแรกของผมก็ช่วยๆหน่อยแล้วกันนะครับ” เรียวแนะนำตัวเอง
“มีใครจะถามอะไรมั้ยครับ” เรียวเปิดโอกาสให้นักเรียนในห้องได้พูดคุยกับเขาก่อนการสอน

“อาจารย์อายุเท่าไหร่ค่ะ” ยูนะลุกขึ้นถาม
“22 ปีครับ” เรียวตอบ
“ก่อนจะมาเป็นครู อาจารย์เป็นอะไรมาก่อนค่ะ” ซากุระโกะลุกขึ้นถาม
“เอ่อ... ว่างงานครับ เรียนจบมาก็ไม่ได้มีงานทำเลย” เรียวตอบ
“อาจารย์ชอบอะไรค่ะ” ฮารุนะถาม
“ก็หลายอย่างครับ ถ้าชอบมากกว่าอันอื่นก็คงจะ... การที่เห็นคนมีความสุขละมังครับ” เรียวตอบ
“อาจารย์ถนัดอะไรมากที่สุดค่ะ” มากิเอะถาม
“การคำนวณครับ” เรียวตอบ
“อาจารย์พักอยู่ที่นี่ค่ะ” คาสึมิถาม
“ไม่รู้เหมือนกันครับ เพิ่งมาเมืองนี้เป็นวันแรก” เรียวตอบ
“*เหมือนตอนที่เนกิคุงมานี่ใหม่ๆเลยน๊อ*” นักเรียนในห้องเริ่มกระซิบคุยกัน
“อาจารย์มีแฟนยังค่ะ” ฟูกะถาม เพื่อนๆได้ยินแต่ก็ฮือฮาขึ้นมาทันที
“แฮะๆ ยังไม่มีหรอกครับ” เรียวตอบ
“*อาสึนะนี่ไงลุงหนวดเฟิ้มมาดเท่ v.2 ของเธอ*” มิสะยื่นหน้ามากระซิบบอก
“ไม่ได้ชอบสักหน่อย ยัยบ้าพวกนี้นี่” อาสึนะผลักมิสะเด้งกลับไปโขกหัวกับมาโดกะจนมึนทั้งคู่

“*สงสัย อาจารย์คนนี้จะเป็นธรรมดาทั่วๆไปนะ ไม่ใช่คนพิเศษอะไร*” มานะพูดขึ้น
“*อือ ก็คงไม่ต้องห่วงอะไรมาก อาจารย์คนนี้คงจะมาสอนปกติ ไม่ใช่อาจารย์จอมเวทย์ที่ผ.อ.จ้างมา*” เซตซึนะบอก

“เอ๋ อ.ทาคาฮาตะบอกว่าห้องนี้มี 31 คนนี่ แล้วหายไปไหนคนหรอครับ” เรียวเอ่ยถามขึ้น
“ย้ายโรงเรียนค่ะ” ยูนะลุกขึ้นตอบทันที
“อ๋อ ครับ งั้นมาเริ่มเรียนกันเลยดีมั้ยครับ” เรียวถามอีกครั้งพร้อมกับคว้าชอล์กขึ้นมา
“อาจารย์ขา วันแรกเนี่ย งดสอนไม่ได้เหรอคะ” ฮารุนะพูดขึ้น
“ก็ได้ครับ” เรียวตอบ นักเรียนในห้องต่างก็ดีใจขึ้นมาทันที
“แต่ผมจะสอบนะครับ เป็นแบบทดสอบ จะดูว่าอาจารย์โยฮิมะสอนพวกเธอไปถึงไหนกันบ้าง ใครที่มีคะแนนต่ำกว่า 30% เปอเซนตอนเย็นต้องอยู่กับผมนะครับ ผมจะสอนเร่งให้ทันเพื่อนๆเป็นการพิเศษ” เรียวพูดเสร็จนักเรียนในห้องก็แข็งเป็นหินกันทันทีในขณะที่พวกเธอกำลังกระโดดโลดเต้นดีใจกัน

30 นาทีต่อมา
“เอาล่ะครับ ส่งหมดทุกคนแล้วนะครับ งั้นผมนั่งตรวจเลยนะครับ” เรียวรับข้อสอบกลับคืนมาหมดแล้วเขาก็นั่งตรวจทันที

10 นาทีต่อมา
“คนไหนหัวหน้าห้องครับ” เรียวถาม
“ดิฉันค่ะ” อายากะลุกขึ้นตอบ
“ครับ งั้นช่วยแจกแบบทดสอบชุดนี้คืนเพื่อนๆด้วยนะครับ แล้วใครที่คะแนนไม่ถึง 10 ตอนเย็นช่วยอยู่รอที่ห้องด้วยนะครับ ผมจะมาสอนพิเศษให้” เรียวยื่นกระดาษข้อสอบคืนให้อายากะ

กรี๊งงง.............

“ผมไปก่อนนะครับ” เรียวยิ้มให้ก่อนที่หอบข้าวของที่เพิ่งมาถึงออกจากห้องไป

โอ๊ะ.... นักเรียนในห้องต่างตกใจกับผลข้อสอบของตัวเอง

“ทำไมถึงได้เยอะขนาดนี้ โอ้ สวรรค์…”
Logged


!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #2 on: July 11, 2006, 06:15:43 AM »

ตอนที่ 3 วันแรกกับอาจารย์รีส

เมื่อถึงพักเที่ยงเรียวก็พักงานจากห้องพักครู
“อ่า เรียว มาวันแรกก็ขยันจังเลยนะ” ทาคามิจิที่เดินเข้ามาก็พูดขึ้น
“ครับ” เรียวก็ยิ้มให้
“แล้วนักเรียนในห้อง 3-A ละเป็นไงบ้าง” ทาคามิจิถาม
“ก็ดีครับ นั่งกันเรียบร้อย” เรียวตอบ
“ฮ่าๆๆๆ ดีแล้วละ อ่ะ นี่รายชื่อนักเรียนห้อง 3-A เก็บเอาไว้นะ” ทาคามิจิยื่นสมุดรายชื่อให้ เรียวก็รับไว้ทันที
“อ่า ทาคามิจิคุง เรียวคุง ท่านผ.อ.เรียกพบค่ะ” อ.ชิซึนะเดินเข้ามาเรียก
“ครับ” เรียวรีบลุกขึ้นแล้วก็แบกของเดินตามทาคามิจิไปทันที

“มีอะไรเหรอครับ” ทาคามิจิถาม
“อ่า นี่อาจารย์ใหม่เธอ 2 คนคงรู้จักกันแล้วนะ” อาจารย์ใหญ่ถาม
“ครับ” เรียวตอบ

ปึง...

“อ่า เนกิคุงมาพอดี นี่รู้จักกันไว้ซะอาจารย์ใหม่ เรียว แกรนเดีย เดชิโนะ รีส และนี่ เนกิ สปิงฟิลด์” อาจารย์ใหญ่แนะนำ
“ครับ คุณเรียว ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เนกิกับเรียวก็จับมือกัน
“ที่เรียกมาก็คือ ฉันจะให้เรียวเป็นพี่เลี้ยงเธอเนกิคุง คือฉันคิดนักเรียนในห้องเธอนั้น เธอคนเดียวคงจะเอาไม่อยู่ฉันก็เลยให้เรียวมาคอยช่วย” อาจารย์ใหญ่พูดขึ้น
“อ้าว แล้วคุณเรียวนี่ก็คงจะเป็น...” เนกิพูดขึ้น
“อาจารย์บรรจุใหม่ๆครั้งแรกเหมือนกับเธอไง เนกิคุง *เขาไม่ใช่พวกจอมเวทย์แบบเรา*” ทาคามิจิกระซิบให้ฟัง
“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก ทาคามิจิ” อาจารย์ใหญ่พูดขึ้น
“แฮะๆ สงสัยจะมองคนผิดซะละ” ทาคามิจิก็หัวเราะขึ้นนิดๆ
“เนกิมานี่หน่อยซิ ทาคามิจิ ช่วยพาเรียวออกไปสำรวจโรงเรียนซิ เขาจะได้รู้จักสถานที่ทั้งหมดในโรงเรียน” อาจารย์ใหญ่พูดเสร็จทาคามิจิกับเรียวก็เดินออกไปจากห้อง

“มีอะไรเหรอครับ” เนกิถาม
“ที่จริงแล้ว เรียวคนนั้น เขาเป็นคนปกติ” อาจารย์ใหญ่ตอบแล้วเนกิก็คว่ำทันที
“เรื่องแบบนี้แล้วจะบอกผมทำไมละครับ” เนกิลุกขึ้นมา
“ฮ่าๆๆ ก็กลัวเธอจะคิดอะไรกับเขาแปลกๆ รวมทั้งนักเรียนในห้องเธอด้วย” อาจารย์ใหญ่หัวเราะขึ้นนิดๆ
“แต่ผมดูเขาว่ามันแปลกๆนะครับ” เนกิบอก
“ใช่แล้วละ เมื่อก่อนเขาเป็นจอมเวทย์เหมือนกับเธอ แต่จู่ๆเขาก็ไปอยู่สายมืดจนโดนจับตัวได้ ก็เลยถูกล้างความจำแต่เกิดผิดพลาด การล้างความจำของเขาจากเพียงแค่ต้องการให้ลืมเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับสายมืด แต่มันกลับกลายเป็นว่าเขาลืมหมดทุกอย่างเกี่ยวกับเวทย์มนต์ เขาก็เลยกลายเป็นคนปกติอย่างในทุกวันนี้ กระทรวงเวทย์มนต์เลยถีบเขามาให้ฉันเนี่ยแหละ” อาจารย์ใหญ่พูดขึ้น
“น่ากลัวจัง การล้างความทรงจำเนี่ย” เนกิหน้าซีดทันที
“เอาล่ะ ก็อย่าไปเคร่งครัดกับเขามากนักละ เขาก็เป็นแบบเธอตอนที่มาใหม่ๆละ แค่ต่างกันที่วัยเท่านั้น” อาจารย์ใหญ่บอก
“ครับ” เนกิยิ้มให้แล้วก็เดินกลับออกไปจากห้อง

หลังชั่วโมงผ่านไป
“ฮ่าๆ ที่นี่มีแต่เรื่องสนุกทั้งนั้นละ” ทาคามิจิและเรียวเดินหัวเราะด้วยกันอย่างสนุกสนาน
“ฮึฮึ ขอบคุณครับที่พาสำรวจในโรงเรียน” เรียวกล่าวคำขอบคุณ
“ไม่เป็นไร เราเพื่อนกันแล้วนิ งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ” ทาคามิจิพูดเสร็จก็เดินกลับเข้าไปในอาคาร
“*จริงซิ นี่ก็ใกล้เวลาเลิกเรียนแล้ว ต้องรีบกลับไปที่ห้อง 3-A*” เรียวนึกขึ้นได้เขาก็แบกของเดินเข้าไปในอาคารตามทาคามิจิไป

โอ๊ะ...

เมื่อเรียวเดินเข้ามาในห้อง 3-A ก็เห็นนักเรียนนั่งกันอยู่เต็มห้อง
“นี่ตกกันหมดห้องเลยเหรอครับ” เรียวตกใจทันทีที่เดินเข้ามา
“ก็พวกเราเพิ่งเสร็จจากงานประจำปีแถมก่อนหน้านั้นก็ไม่ค่อยได้เรียนอะไร สมองมันก็เลยไม่ได้เรียนเลยค่ะ” ยูนะบอก
“ก็ไม่น่าลืมพวกพื้นฐานพวก บวก ลบ คูณ หาร ได้เลยนี่ครับ” เรียวบอก
“ก็แหมอาจารย์รีสผู้แสนใจดี งั้นถือว่าปล่อยผีสักครั้งเถอะนะคะ” ฮารุนะพูดขึ้นพรางยิ้มนิดๆ
“งั้นก็เอาอย่างนี้ดีกว่านะครับ ถือว่าเรามาเล่นอะไรสนุกๆกัน ผมจะตั้งคำถามขอเดียว แล้วก็ให้ช่วยกันตอบ ถ้าถูกทุกคนจะได้กลับบ้านพร้อมๆกัน” เรียวพูดขึ้นแล้วนักเรียนในห้องต่างก็ดีใจกัน
“ถามมาเลยค่ะ อาจารย์” มิสะบอก

“ครับ คำถามมีอยู่ว่า -มีอุโมงค์หนึ่งที่มืดมากๆ ซึ่งพวกเธอทั่วหมดเดินเข้าไป ซึ่งข้างในมีหลุมขนาดใหญ่มาก และภายในหลุมนั้นมีสิ่งของที่พวกเธอชอบมากที่สุดอยู่ข้างล่าง ซึ่งเป็นหลุมที่ลึก 50 ฟุต พวกเธอจะทำยังไงให้ขึ้นมาจากหลุมและผ่านออกมาได้ ?” เรียวเอ่ยถามขึ้นนักเรียนในห้องต่างก็อึ้งแข็งเป็นหินกันไปตามๆกัน
“อาจารย์รีสค่ะ นี่มันเกี่ยวยังไงกับการตกแบบทดสอบวิชาเลขเหรอค่ะ” ฟูกะถาม
“คำนวณไงครับ ผสมกับความร่วมมือของแต่ละคน นำสิ่งของที่พวกเธอชอบมารวมๆและคำนวณคิดกันขึ้นมาว่าจะทำยังไงให้ปีนหลุมที่ลึก 50 ฟุตขึ้นมาได้” เรียวอธิบายอีกครั้ง
“เอามาต่อๆแล้วก็ปีนขึ้นมาค่ะ” ซากุระโกะตอบ
“ยังไม่ใช่ครับ สิ่งที่พวกคุณชอบที่ 30 ชิ้นคงจะเอามาต่อกันไม่ถึง 50 เมตรหรอกครับ” เรียวบอก
“ถึงค่ะ ตุ๊กตาไดโนเสาร์ที่หนูชอบสูงตั้ง 10 เมตร น่าจะพอนะค่ะ” ฟูมิกะบอก
“ใช่ค่ะ ของหนูก็ด้วย” ฟูกะบอก
“หนูด้วยค่ะ”
“หนูด้วย...” นักเรียนในห้องต่างเริ่มพูดขึ้นมาเรื่อยๆ

5 นาทีต่อมา…
“เอ่... จะทำยังไงดีน๊อ” นักเรียนห้องต่างช่วยกันนั่งคิด
“*โนโดกะ ใช้หนังสือนั่นอ่านใจอาจารย์รีสเลยซิ*” ฮารุนะกระซิบบอก
“ค่ะ *อาเบอาร์ท*” โนโดกะเรียกหนังสือของเธออกมาและเปิดขึ้น

…นักเรียนพวกนี้มีความตั้งใจกันดีจัง รวมหัวกันปรึกษากัน ช่างสามัคคีกันดีจัง คำตอบที่จริงแล้วนั้นมันต้องคำนวณกันมากเลยละ แต่ถ้าการคำนวณที่รวมกัน 30 อย่าง มันก็น่าจะคำนวณได้เร็วขึ้น 30 เท่านี่ ว่าคำตอบคืออะไร แถมนี่ยังมีนักเรียนอ่านหนังสือหาข้อมูลอีกด้วย เอ หนังสือนั่นมันมีอะไรนะ...

“*ว๊าย อาจารย์รีสเริ่มสงสัยแล้ว*” โนโดกะบอก
“*จงหายไป*” โนโดกะรีบสลายหนังสือเวทย์มนต์นั้นทิ้งทันที
“อ่านอะไรกันเหรอจ๊ะ” เรียวถาม
“เปล่าค่ะ แค่หาข้อมูลจากในหนังสือ” ฮารุนะตอบแทนขึ้นทันที แล้วยูเอะกับโนโดกะก็พยักหน้าตาม
“อาจารย์ค่ะ เปลื้องผ้าแล้วก็เอามาผูกเป็นเชือกยาวๆ แล้วให้มานะใช้ปืนยิงขึ้นไปแล้วก็ปีน” คาสึมิตอบ
“แฮะๆ แน่ใจแล้วเหรอครับ...” เรียวเหงื่อตกทันที
“ค่ะ” คาสึมิพูดซ้ำอีกครั้งแล้วเพื่อนๆต่างก็มองเธอเป็นสายตาเดียวกัน
“เอ๋ ไม่ชอบความคิดนี้เหรอ” คาสึมิมองดูเพื่อนๆอย่างหวาดกลัว

10 นาทีต่อมา...
เรียวนั่งอยู่ที่หน้าห้องพร้อมกับหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านรอคำตอบจากนักเรียนในห้อง
“*ถ้าเป็นอั๊วนะ อั๊วกระโดดก็ข้ามละ หรือไม่ก็ใช้วิชาตัดระยะไป*” เฟยยิ้มขึ้นนิดๆ
“ยังคิดไม่ออกกันเลยเหรอครับ ผมมานั่งแบบนี้ก็เห็นใจเหมือนกันนะครับ งั้นเอาใหม่ดีกว่า เป็นตัวช่วย ผมจะเขียนคำตอบไว้แถวๆผม ให้มาอ่านกันเอา โดยที่ห้ามเลยเลยล้ำหน้าโต๊ะหน้ามา ถ้าผมจับได้จะต่อเวลาไปทุกๆ 5 นาทีต่อ 1 ครั้ง” เรียวพูดขึ้นแล้วเขาก็นั่งอ่านหนังสือต่อ
“อ่า แบบนี้เสร็จพวกอั๊วลย” เฟยพูดขึ้น
“เจ๊ ลุยเลย” ฟูกะบอก
“ใช่ เพื่อเพื่อน เอาเลยนะ” มาโดกะบอก
“เจ้าค่ะ จะพยายาม แต่ไม่รู้ว่าอาจารย์เขาซ่อนไว้ตรงไหน” คาเอเดะยิ้มให้
“วิชานินจาล่องหน” คาเอเดะสลายร่างตัวเองจนหายไปหมดโดยที่เรียวนั้นไม่ได้สนใจดู แล้วเธอก็ลุกจากเก้าอี้เดินไป

“*อาเบอาร์ท*” โนโดกะเอาหนังสือขึ้นมาอ่านอีกครั้ง

...เอ เสียงฝีเท้า ดังขึ้น ดังขึ้น แปลว่า มีใครกำลังเดินเข้ามาแน่เลย จากที่นั่งห่างจากโต๊ะหน้า 1 เมตร ถ้าระดับเสียงดังกว่านั้นละก็... ฮึฮึ... นักเรียนพวกนี้มีอะไรที่พิเศษไม่เหมือนห้องอื่นอย่างที่ทาคามิจิบอกไว้จริงด้วย...

“*อ่า แย่แล้ว อาจารย์รู้ตัวว่าคุณคาเอเดะกำลังเดินเข้าไป*” โนโดกะบอกกับฮารุนะและยูเอะ แล้วคาเอเดะก็เหยียบเท้าเลยโต๊ะหน้า
“ไหน คนเอ่ยที่ทำผิดกติกา” เรียวเงยหน้าขึ้นมาดูก็ประหลาดใจเพราะไม่เห็นนักเรียนคนไหนลุกออกจากโต๊ะเลย
“เอ๋ เมื่อกี๊ได้ยินเสียงคนเดินมานี่น่า” เรียวพูดขึ้น
“*มีหูไวนี่เองนะเจ้าค่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงต้องใช้วิชาตัวเบาแล้วซินะเจ้าค่ะ” คาเอเดะยิ้มให้นิดๆแล้วก็กระโดดไปเกาะที่กระดานแล้วก็มองดูรอบๆตัวของเรียว
“*ไม่มีอะไรเลยนี่*” คาเอเดะขยับตัวลงมาเหยียบพื้นเบาๆจนไม่มีเสียงเกิดขึ้นแล้วก้มมองดูค้นหารอบๆ

...นักเรียนพวกนี้เหลือร้ายจริงๆ เห๊อ วันนี้ตื่นมาแต่เช้าเลยง่วงแน่เลย...

เรียวเริ่มเกิดอาการง่วงจึงบิดขี้เกียจเหยียดแขนทั้งสองข้างออกไป
“*อ๊ะ*” คาเอเดะตกใจขึ้น แล้ววิชาล่องหนของเธอก็ถูกทำลายลงเมื่อมีคนถูกตัวเธอ
“อะไรนุ่มๆเนี่ย” เรียวเองก็แปลกใจ
แล้วนักเรียนในห้องก็ตกใจเมื่อเห็นเรียวที่ยืดแขนไปโดนเข้าที่หน้าอกของคาเอเดะ

อ๊า...

15 นาทีต่อมา...

“คิดออกละ ยูเอะ ฮารุนะ ยูนะ คาสึมิ มิโซระ ช่วยกันเลื่อนโต๊ะไปติดกระดานกัน แล้วทีนี้จะได้หาคำเฉลยนั้นเจอ” โนโดกะพูดขึ้น
“จริงด้วย โอ้พระแม่เจ้า โนโดกะนี่สุดยอดจริงๆ” ฮารุนะลุกขึ้นวิ่งเข้ามากอดด้วยความดีใจ แล้วพวกเธอก็เลื่อนโต๊ะไปติดกระดาน
“*ฉลาดไม่น้อยเลยนี่ นักเรียนพวกนี้ ใกล้จะหาคำตอบถูกแล้วซินะ*” เรียวนึกขึ้นแล้วก็ยิ้มอย่างดีใจ
“เอาล่ะ อาจารย์ทีนี้ได้เวลาปล่อยพวกเราแล้ว” ฮารุนะพูดขึ้นด้วยความดีใจ
แล้วพวกเธอก็ลุกขึ้นมาช่วยกันค้นช่วยกันหาทั้งในกระเป๋า ใต้โต๊ะ ทุกอย่างที่ใกล้ตัวอาจารย์รีสรวมทั้งค้นตัวอาจารย์ด้วย
“เห๊อ ไม่เห็นมีเลย อาจารย์โกงเปล่า” ยูนะถาม
“ไม่ครับ ผมเป็นอาจารย์จะโกงลูกศิษย์ได้ไงกัน ตอนนี้ผมเริ่มเห็นแล้วละว่าคำนั้น มันเขียนอยู่ทั่วห้องเลยละ” เรียวยิ้มให้
“เอ๋ หรือว่าอาจารย์ซ่อนไว้ตรงนั้น” มิสะพูดขึ้น
“เฮ้ย จะมามองอะไรของผม ไม่ใช่แบนั้น” เรียวรีบลุกขึ้นวิ่งหนีเข้ามุมห้องทันที แล้วรูปที่เขาเก็บได้จากที่เนกิทำตกนั้นก็หล่นออกมา
“นั่นไง คำตอบ” คาสึมิชี้แล้วพวกเธอก็วิ่งเข้ามาดูกัน
“นี่มันรูปพวกเราที่ถ่ายรูปกันไว้ในวันงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายคุณเจ้านี่” ซากุระโกะบอก

“ผมไม่รู้นะครับว่า พวกเธอจะรู้คำตอบมันหรือเปล่า แต่นั่นมันก็คือคำตอบอย่างหนึ่ง สิ่งที่พวกเธอมีกันในวันนั้นนั่นละคือคำตอบ ถ้าใครอยากคิดว่าคำตอบที่ได้ไปนั้น ทำยังไงถึงผ่านคำถามผมได้ นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง” เรียวพูดขึ้น
“ผมขอรูปนั้นได้มั้ยครับ” เรียวถาม
“ค่ะ” คาสึมิส่งคืนให้
“อ๋า เข้าใจละ คำตอบคือ ความสามัคคีใช่ไหมค่ะ” โคโนกะตอบ
“ยินดีด้วยนะครับที่รู้คำตอบ การที่จะทำสิ่งใดรร่วมกันนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามัคคี ผมดีใจมากเลยนะครับ ที่เห็นพวกเธอช่วยกันร่วมหัวคิดหาคำตอบกัน เอาล่ะ ทุกคนกลับบ้านกันได้ครับ” เรียวพูดขึ้น

เย้... นักเรียนในห้องต่างดีใจกันยิ่งนักที่จะได้ยินคำนี้ แล้วพวกเธอก็รีบคว้ากระเป๋าและแยกย้ายกันไปทันที

“ไง วันแรกสนุกมั้ย” ทาคามิจิเดินเข้ามาหลังจากที่นักเรียนในห้องไปกันหมดแล้ว
“ก็สนุกนะครับ นักเรียนในห้องนี้มีอะไรมากกว่าที่ผมคิดไว้อีก” เรียวตอบ
“ปะ สำรวจโรงเรียนแล้ว ฉันจะพาไปสำรวจในเมือง พาไปเลี้ยงข้าวเย็นด้วย” ทาคามิจิบอกแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปกัน
Logged


!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #3 on: July 11, 2006, 06:16:08 AM »

ตอนที่ 4 ใต้รอยยิ้ม...

หลายวันต่อมา การใช้ชีวิตอันแสนจะปกติก็ซ้ำๆกันอย่างเดิมๆเป็นทุกอาทิตย์ รอยยิ้มอันสดใสของเหล่านักเรียนห้อง 3-A นั้นเพิ่มขึ้นเมื่อมีเนกิและเรียวเข้ามาสอน ซึ่งในชั่วโมงนั้นทำให้พวกเธอสนุกกับการเรียนมากกว่าเครียดอย่างที่เคยเป็นมา

“*ไม่น่าเชื่อเลย ตั้งแต่มีคุณเรียวเข้ามาช่วยผมสอนนักเรียนในห้อง 3-A แล้ว ยังกลับซานตาคอสเอารอยยิ้มมาแจกนักเรียนในห้องเลย ผมอยากสอนเก่งแบบคุณเรียวบ้างจัง*” เนกิยืนดูเรียวที่กำลังสอนไปพรางหาเรื่องสนุกๆชวนหัวเราะพูดขึ้นให้นักเรียนในห้องหัวเราะสนุกสนานกันได้ทั้งชั่วโมง

เมื่อเขาสอนจนหมดชั่วโมงเสียงนักเรียนในห้องต่างก็ดีอกดีใจกันทั่วหน้า เรียวจึงเดินออกมาจากห้องพร้อมกับรอยยิ้ม ใต้ทันทีที่เขาออกมานั้น ใบหน้าที่ยิ้มแย้มกลับกลายเป็นเศร้าหมองลงทันที เนกิเห็นแล้วก็แปลกใจและอดเป็นห่วงไม่ได้
“*คุณเรียวต้องไม่สบายใจอะไรแน่เลย*” เนกิมองดูเรียวเดินลงบันไดไปจากอาคาร แล้วเขาก็ค่อยเดินกลับไปสอนในห้อง 3-A

“เนกิเขาเป็นอะไรของเขาน่ะ เห็นใจลอยเดินเข้ามาตั้งแต่หน้าประตูแหละ” อาสึนะพูดขึ้น
“คงจะมีเรื่องหนักใจเข้ามาอีกแล้วละ” โคโนกะบอก
“ทุกทีกับตาบ้านี่ คิดมากตลอด” อาสึนะพูดเสร็จก็ฟลุบหมอบนอนราบไปกับโต๊ะทันที

กริ๊งงง..........

เมื่อหมดคาบเรียนสุดท้ายแล้วนักเรียนทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไป

“นี่เนกิ แกเป็นอะไร คิดมากอีกแล้ว” อาสึนะลุกเดินเข้ามาถาม
“ผมรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องคุณเรียว หลายวันที่ผ่านมาตั้งแต่เขาพ้นประตูห้องเรียนออกมา สีหน้าเขาจากรอยยิ้มกลายเป็นสีหน้าที่เศร้าหมองไปเลย เขาคงมีเรื่องอะไรที่ทุกข์ใจอยู่แน่เลย” เนกิตอบ
“อาการของคนเครียดจ้ะ ถ้าเครียดมาก เขาจะรู้สึกว่าหมดหวัง และยิ่งถ้าอยู่คนเดียวลำพัง เขาจะคิดว่าเขาขาดกำลังใจ และสุดท้ายก็อาจจะ ฆ่าตัวตาย ก็ได้นะ” โคโนกะบอก เนกิก็ตกใจทันที
“นี่เธอพูดอะไรของเธอ อาจารย์รีสเขาออกจะอารมณ์ดีไม่คิดบ้าๆแบบนั้นหรอก” อาสึนะดึงแก้มโคโนกะทันที
“ก็ไปถามกับเจ้าตัวเลยซิครับลูกพี่” คาโมบอก
“ก็ดีนะครับ” เนกิเดินออกไปจากห้อง
“แล้วจะไปหาอาจารย์ที่ไหนเหรอจ๊ะ ในเมื่อหมดสอนแล้ว” โคโนกะพูดขึ้น เนกิก็หยุดนิ่งทันที
“ทำอะไรไม่เคยจะคิดเลยหมอนี่ มาฉันจะช่วยตามหา” อาสึนะลากเนกิเดินออกจากอาคารไปพร้อมๆกัน

ระหว่างทางกลับบ้านนั้น
“อ้าว เนกิคุง กลับเย็นจังวันนี้” ทาคามิจิที่เดินผ่านมาเอ่ยถามขึ้น
“ผมกำลังตามหาคุณเรียวอยู่ครับ ช่วงนี้เห็นเขาไม่ค่อยสบายใจ” เนกิตอบ
“ไม่หรอก ฉันเห็นเขายิ้มตลอดเวลาเลยนะ” ทาคามิจิบอก
“แล้วอ.ทาคาฮาตะเห็นอาจารย์รีสบ้างมั้ยค่ะ” อาสึนะถาม
“เพิ่งแยกทางกันเมื่อกี๊ละ เห็นเขาบอกจะไปชมพระอาทิตย์บนยอดตึกที่กำลังก่อสร้างแถวเนินเขาใกล้ทะเล ก่อนจะจากกันเห็นเขาบอก อยากจะบินไปหา... ใครสักคนนี่ละ ฉันจำไม่ได้ละ แฮะๆ ขอโทษทีนะ” ทาคามิจิตอบ
“ขอบคุณมากครับ” เนกิกล่าวคำขอบคุณแล้วเขาก็รีบวิ่งไปที่นั่นกันทันที
“เนกิคุง ระวัง ห้ามใช้เวทย์มนต์ให้เขาเห็นละ ไม่ว่าจะสถานการณ์ให้อย่าใช้มัน ให้เขาได้ช่วยด้วยตนเอง” ทาคามิจิพูดเตือนทิ้งท้าย

ตึกใหม่ที่กำลังก่อสร้าง (เขตก่อสร้างห้ามเข้า)
“โอ้ โห สูงขนาดนี้เลยเหรอ” เนกิตะลึงกับความสูงของตึก
“ไป เนกิขึ้นไปข้างบนกัน” อาสึนะดึงแขนเนกิชวนวิ่งเข้าไป
“เดี๋ยวซิคุณอาสึนะ ผมว่าใช้ไม้เท้าลอยขึ้นไปจะไม่ดีกว่าเหรอ สูงขนาดนี้ผมวิ่งไม่ไหวหรอกครับ แถมเพิ่งก่อสร้างอันตรายจะตาย” เนกิบอก
“ก็ดีเหมือนกันนะ ว่ามั้ย อาสึนะ” โคโนกะบอก

แล้วพวกเขาก็ลอยขึ้นมายังชั้นบนสุด พวกเขาก็เห็นเรียวที่กำลังนั่งแกว่งขาเล่นอยู่ที่ฝั่ง
“*คุณอาสึนะกลับไปก่อนเถอะนะครับ*” เนกิพูดขึ้นเบาๆ
“*ทำไมละ ไหงมาถึงนี้แล้วมาไล่ให้กลับกันเลยเหรอ*” อาสึนะกระชากคอเสื้อเนกิขึ้นมาทันที
“*เปล่าครับ ผมคิดว่า บางเรื่องมันเรื่องของลูกผู้ชาย ผู้ชาย ผู้ชาย คุยกันจะดีกว่านะครับ*” เนกิบอก
“*จริงด้วยนะ กลับกันเถอะ อาสึนะ*” โคโนกะบอก
“*แล้วจะให้พวกฉันกลับกันยังไง ในเมื่อมาถึงข้างบนซะขนาดนี้*” อาสึนะถาม
“*ไม้เท้านี้ไงครับ มันจะพาคุณอาสึนะกับคุณโคโนกะกลับไปยังหอพักได้ คุณคาโมก็ด้วยนะครับ ผมขออยู่กับคุณเรียวตามลำพัง*” เนกิตอบ
“*เดี๋ยวซิลูกพี่*” คาโมพูดขึ้นแต่อาสึนะก็ดึงตัวไว้แล้วพวกเธอก็นั่งบนไม้เท้าของเนกิ แล้วมันก็ลอยตรงกลับไปทางหอพักทันที เนกิจึงหายใจลึกๆหนึ่งครั้งและตั้งสติ จากนั้นเขาก็เดินตรงเข้าไปหาเรียว

“คุณเรียวมานั่งอยู่ที่นี่เองเหรอครับ” เนกิถาม แล้วเรียวก็สะดุ้งขึ้น
“อ๊อ เนกิคุงเองเหรอ” เรียวหันมาทัก แล้วเนกิก็เดินเข้าไปนั่งข้างๆ
“ที่นี่ตอนพระอาทิตย์ตกก็สวยดีเหมือนกันนะครับ” เนกิพูดขึ้นพร้อมกับยิ้ม
“ผมคงจะไม่พ้นสายตาอันแหลมคมของเนกิคุงใช่ไหมครับ เนกิคุงคงรู้ว่าผมกำลังทุกข์ใจ” เรียวพูดขึ้น
“แล้วคุณเรียวทุกข์ใจเรื่องอะไรหรอครับ” เนกิถาม
“ที่นี่บนนี้ก็สูงจากพื้นราวๆ 300 เมตร หรือประมาณตึก 100 ชั้นได้ ทั้งเงียบ ทั้งลมเย็น ทั้งวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากทีเดียวเลย” เรียวพูดขึ้น
“ครับ” เนกิก็พูดไปตามนั้น แล้วทั้งคู่ก็เงียบกันไปสักพัก

เห๊อ...

เรียวถอนหายใจพร้อมกับมีสีหน้าที่ยังไม่ดีขึ้น
“มีอะไรที่พอจะให้ผมช่วย ก็บอกเลยนะครับ” เนกิบอก
“ผมเคยมีน้องชาย 1 คนซึ่งเหมือนกับเนกิคุงมากเลย เขาวัยพอๆกับเนกิคุง แถมยังร่าเริงเหมือนกัน” เรียวพูดขึ้น
“แล้วเขาไปไหนหรอครับ” เนกิถาม
“ตาย....” เรียวตอบสั้นๆ ทำให้เนกิตกใจกับคำพูด
“อ่า ผมไม่ได้ตั้งใจจะถามนะครับ อย่าคิดมาก ลืมเรื่องนั้นไปเถอะนะครับ” เนกิรีบพูดขึ้นทันที
“แต่ที่ผมยังคงเดินหน้าต่อไปนั้น เพราะน้องสาวผมอีกคน ซึ่งเธอไม่ใช่น้องสาวจริงๆของผมหรอก แต่ผมเคยสนิทกับเธอมากจนผูกพันกับคำว่า พี่ชาย น้องสาว” เรียวเล่าให้ฟัง
“แล้วน้องสาวไปไหนหรอครับ... อุ๊บ... อ๊า... ผมไม่ได้จะถามนะครับ ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ” เนกิถามขึ้นอีกครั้งด้วยความลืมตัว
“เธอยังคงอยู่ในวัยเรียน ซึ่งผมออกเดินทางตามหาไปทั่ว โดยแต่ละเมืองนั้น ผมจะรับทำงานไม่ซ้ำกันไป ทั้งภารโรง เด็กปั้ม เด็กเสิร์ฟ และมาเมืองนี้ก็เป็นครู ซึ่งปกติผมจะอยู่เมืองนั้นๆเพียงแค่ 1 เดือนก็ย้าย ผมคิดว่าอีกไม่กี่วันก็จะครบ 1 เดือนแล้ว” เรียวพูดขึ้น
“ที่จริงแล้วผมไม่ได้สายตาสั้นหรอกนะครับ แต่แว่นนี้ น้องสาวผมสร้างมันขึ้นมาไว้ให้ ผมก็เลยใส่มันตลอดเวลาเป็นเครื่องต่างหน้า” เรียวถอดแว่นตาออกมาเช็ด
“เนกิคุงนี่ดีกว่าผมอีกนะครับ ตามหาคุณพ่อมาตั้ง 6 ปีถึงจะยังไม่เจอ แต่ก็ยังคงตามหาต่อไป ผิดกับผมที่แค่จากกัน 2 ปี ผมก็เริ่มจะถอดใจที่จะตามหาแล้ว” เรียวบอก
“อ๊า คุณเรียวรู้เรื่องเกี่ยวกับพ่อผมด้วยเหรอครับ” เนกิถาม
“ครับ คุณทาคามิจิเล่าให้ฟัง คุณพ่อเนกิคุงนี่กล้าหาญมากเลยนะครับ เป็นสมาชิกในหน่วยงานช่วยเหลือโลก” เรียวตอบ
“*จริงด้วย อ่า นึกว่าทาคามิจิจะเล่าอะไรเกี่ยวกับเวทย์มนต์ให้ฟังซะอีก*” เนกิถอนหายใจทันที
“คุณเรียวต้องพยายามเข้าอีกนะครับ ผมจะเอาใจช่วยให้พบกับน้องสาวของคุณเรียวไวๆ ถ้าคุณเรียวถอดใจในวันนี้ก็อาจจะไม่ได้เจอน้องสาวอีกก็ได้นะครับ” เนกิพูดให้กำลังใจ เรียวที่กำลังซึมเศร้านั้นหันมาดูรอยยิ้มให้เด็กน้อยวัย 10 ขวบที่มีความมุ่งมั่นและความพยายามมากกว่าเขา
“เนกิคุง นี่ทั้งเรียนเก่ง ทั้งต่อสู้เก่ง ผมขอลองปะมือด้วยได้ไหมครับ เห็นคุณทาคามิจิเล่าให้ฟัง ถึงการต่อสู้ต่างๆนาๆ แถมเนกิคุงยังชนะคุณทาคามิจิได้อีก ถ้าไม่เห็นกับตา ผมคงจะปักหลักเชื่อยาก” เรียวถามขึ้น
“*อ๊ะ หรือว่าทาคามิจิจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับเวทย์มนต์ให้ฟังจริงๆ* ก็ได้ครับ” เนกิตอบรับด้วยรอยยิ้ม แล้วทั้งคู่ก็ลุกขึ้นมายืนคนละฝั่ง

“ผมสู้คนไม่เก่งนะครับ แต่เห็นจากที่คุณทาคามิจิปราบพวกนักเลงนับสิบภายในพริบตาแล้ว มันทำให้ผมอยากเก่งบ้าง ก็เลยขอฝึกจากคุณทาคามิจิมาอาทิตย์กว่าแล้วครับ” เรียวพูดขึ้น
“ครับ *สงสัยจะดีขึ้นมาบ้างแล้วละ*” เนกิเห็นรอยยิ้มของเรียวที่ปริออกมาเล็กน้อย เขาเองก็สบายใจขึ้นและยิ้มออกมาเช่นกัน
“อย่าออมมือนะครับ ผมอยากให้เนกิคุง เอาจริงเหมือนคิดซะว่า ผมคือทาคามิจินะครับ เพราะผมเองก็ฝึกวิชามาจากทาคามิจิ คิดซะว่าผมคือตัวแทนของเขาละกัน” เรียวพูดท้าขึ้น
“ครับ” เนกิก็ตั้งท่าตามฉบับที่เรียนมาจากปรมาจารย์เฟย
Logged


!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #4 on: July 11, 2006, 06:16:34 AM »

ตอนที่ 5 การต่อสู้ของลูกผู้ชาย ความหวังสุดท้ายของพี่ชาย (การช่วยเหลืออีกครั้ง)

“เอาล่ะนะครับ” เนกิใช้วิชาตัดระยะพุ่งเข้าไปหาแล้วก็สกัดขาพร้อมกับใช้หมัดทั้งสองข้างอัดใส่ จนร่างของเรียวกระเด็นออกไปนอกขอบตึก เนกิจึงรีบวิ่งเข้าไปดึงคอเสื้อลากกลับเข้ามา
“ขอบคุณเนกิคุงมากนะครับ ไม่น่าเชื่อ เป็นไปได้ยังไง จู่ๆก็มาโผล่ที่ข้างหน้าผมและซัดผมซะลอยไปไกล” เรียวถามขึ้น
“สมแล้วที่ชนะคุณทาคามิจิได้ ผมเห็นคุณทาคามิจิแล้ว ไม่คิดว่าเนกิคุงจะเก่งกว่าขนาดนี้” เรียวพูดขึ้น
“ผมฝึกวิชาเหล่านี้จากนักเรียนในห้อง 3-A เลขที่ 12 คู เฟย ครับ เธอเป็นปรมาจารย์เกี่ยวกับวิชากังฟูเลยละครับ” เนกิตอบ
“ครับ งั้นต่อเลยละกัน” เรียวพูดเสร็จเขาก็วิ่งเข้ามาหาเนกิด้วยความเร็วของคนปกติ

อ๋า...

เรียวออกหมัดโจมตีใส่เนกิ แต่เนกิก็ใช้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วหลบออกมาด้านข้าง และใช้แขนสอดจากใต้แขนของเรียวไปพาดที่คอและทุ่มแขนลง เรียวที่จุกจากการโดนโจมตี เขาก็หายใจแรงขึ้นเพื่อลดเหนื่อย
“เธอนี่เก่งกว่าที่คิดอีกนะ ผมนึกว่าเนกิคุงจะเป็นแค่เด็กธรรมดา ที่เล่นๆกับทาคามิจิ” เรียวบอก
“ไม่หรอกครับ ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะผมฝึกฝนอย่างหนักมาหลายเดือน ถ้าคุณเรียวฝึกหลายเดือน เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเองอย่างแน่นอนครับ” เนกิยื่นมือให้ เรียวจึงดึงมือเนกิลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“คราวนี้ผม ไม่ออมมือละนะครับ” เรียวกระโดดออกห่างทันที
“ครับ” เนกิยิ้มให้
“นี่เป็นวิชาแรกที่คุณทาคามิจิสอนให้ผม นอกจากการฝึกฝนร่างกายแล้ว วิชาหมัดอิไอ” เรียวใช้หมัดทั้งสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงทันที
“*ห๊ะ อะไรกัน คุณเรียวฝึกวิชาของทาคามิจิได้ภายในอาทิตย์เดียวเหรอเนี่ย*” เนกิเองก็ตกใจขึ้นมานิดๆ

ฟุ่บ...

เรียวชักหมัดข้างซ้ายออกมาและออกหมัดไปทางเนกิ แล้วเนกิก็กระเด็นออกไป
“*ใช่จริงด้วย ไม่น่าเชื่อจะฝึกฝนได้รวดเร็วขนาดนี้ แต่ความเร็วในการทำนั้นช้ากว่าของทาคามิจิมากจนเราเห็นทุกขั้นตอนของท่านี้แล้ว ที่แท้ก็เป็นการชักหมัดออกมาต่อยเร็วๆโดยตั้งแต่การชักหมัดออกมานั้น รวบรวมลมไว้ทั้งหมดที่แขน และออกหมัด ทำให้เกิดแรงอัดอากาศพุ่งตรงไปทางที่ออกหมัด อย่างนี้นี่เอง*” เนกิก็ยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อไขปริศนาท่าลึกลับของทาคามิจิได้
“ผมลุยบ้างนะครับ” เนกิพูดเสร็จก็ใช้วิชาตัดระยะเข้ามาอยู่ด้านหลัง แล้วเขาก็ใช้ศอกกระแทกใส่ แต่เรียวกลับกระโดดพลิกตัวกลับมาใช้ขาเตะพาดไปที่บ่าของเนกิจนกระเด็นออกไป
“*ใช้การควบคุมของแขนกับขาได้ดีกว่าทาคามิจิอีก ถ้าเป็นทาคามิจิแล้ว ถ้าจะใช้หมัดก็คือหมัด ถ้าจะใช้ขาก็คือขา*” เนกิพลิกตัวกลับมาตั้งหลัก แล้วเขาก็เห็นแรงอัดอากาศพุ่งตรงมาเขาวิ่งหลบออกข้างทันที

เนกิก็หลบหมัดอิไอนั้นไปรอบๆ ซึ่งทุกครั้งที่แรงอัดอากาศโจมตีพลาดไปโดนเหล็กนั้น ทำให้น๊อตที่ยึดตึกไว้หลุดจนในที่สุด...

ตูม... ฟึบบบ... เปร๊ง..... เปร๊ง....

คานเหล็กตรงจุดที่เนกิยืนอยู่นั้นหลุดพังลง เรียวจึงกระโดดพุ่งตัวเข้าไปจับแขนเนกิไว้ทันที

“พี่ครับ ปล่อยผมเถอะครับ”

จู๋ๆภาพในความทรงจำของเรียวก็แล่นผ่านเข้ามาซึ่งเนกิเองก็รับรู้สึกถึงเช่นกัน

*ที่หน้าผาหุบเหวแห่งหนึ่ง
“เรอิ อย่าปล่อยมือพี่นะ” เรียวที่จับมือน้องชายเขาไว้แน่น
“ปล่อยผมเถอะครับ ร่างกายของผมที่บาดเจ็บถึงรอดไปก็คงจะตายในเวลาต่อมา ปล่อยผมและรีบไปช่วยหลินเถอะนะครับ” น้องชายของเรียวพูดขึ้น
“ไม่ มันยังมีโอกาสรอด อย่าเพิ่งปล่อยมือพี่นะ” เรียวกวาดตาไปรอบๆมองหาคนช่วยแต่ก็ไร้ซึ่งผู้คน
“พี่ครับ” เรอิพูดขึ้น เรียวจึงหันกลับมาดู
“ผมขอโทษครับพี่ หากยังเป็นแบบนี้ พี่อาจต้องตกมาพร้อมกับผมด้วย” เรอิบอก
“ไม่ เรอิ ไม่...” เรียวพูดห้ามขึ้น แต่ก็สายไป เรอิน้องชายสุดแสนที่รักของเขาหลุดลอยจากไป

เรอิ.................................

“*ห๊ะ อย่างนี้นี่เอง*” เนกิเห็นภาพความหลังของเรียวแล้วเขาก็ตกใจขึ้นเล็กๆและมองดูเรียวที่จับแขนเนกิไว้แน่นพร้อมกับน้ำตาคลอแล้วเขาก็หลับตาลง

“พี่ครับ ปล่อยผมเถอะนะครับ ให้ผมได้เป็นอิสระ เถอะนะครับ” เรียวที่ลืมตาขึ้นมาเห็นคนที่เขาจับแขนไว้เป็นน้องชายของเขาอีกครั้ง
“คุณเรียว อย่าปล่อยมือเด็ดขาดเลยนะครับ มันยังมีหนทางที่จะช่วยน้องคุณอีกมาก พยายามเข้านะครับ” เสียงของเนกิดังขึ้น
“*เนกิคุง*” เรียวเองก็ประหลาดใจ
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ดีกับผมมาตลอด ถึงเวลาแล้ว ที่ผมต้องจากไป ปล่อยผมเถอะนะครับ” เรอิเงยหน้าขึ้นมาบอก
“ไม่นะครับ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามปล่อยมือเด็ดขาด เป็นพี่ชาย สิ่งสำคัญก็คือชีวิตของน้องๆ” เสียงของเนกิดังขึ้น
แล้วคานเหล็กที่เรียวอยู่นั้นก็ถล่มลง พวกเขาทั้งคู่ก็ตกลงไปทันที

“ผมที่ตายไปแล้ว กับหลินที่ยังคงรอพี่อยู่ พี่จะทิ้งหลินได้ลงคอเหรอครับ” เรอิพูดขึ้นในอ้อมกอดของเรียวที่แน่น
“ตอนนี้มันคงจะไม่มีอะไรสำคัญกว่าน้องของพี่แล้ว ถึงจะตายก็ขอให้ตายด้วยกันเถอะ” เรียวพูดขึ้น แล้วแว่นของเขาก็โดนแรงลมพัดจนหลุดออกมา

แล้วเขาก็เห็นหลินที่กำลังตกลงไป
“พี่ไปช่วยหลินเถอะนะครับ” เรียวหันมามองน้องเขาอีกลอยหยุดนิ่ง ซึ่งในโลกความจริงแล้วเนกิคว้าเชือกเส้นหนึ่งไว้ได้
“อือ...” เรียวพูดอย่างมุ่งมั่นแล้วเขาก็ปล่อยตัวจากเนกิทิ้งดิ่งตามหลิน(แว่นตาของเขา)ไป จนเขาคว้ามันไว้ เขาก็ดีดตัวจากตามคานเหล็กกลับขึ้นไปยังชั้นบนสุดอีกครั้งพร้อมกับเนกิ

“ผมเสียใจด้วยนะครับ เกี่ยวกับเรื่องน้องของคุณเรียว” เนกิเดินเข้ามาปลอบใจ
“ผมมันเป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่องจริงๆเลยนะครับ น้องที่กำลังจะตายทั้ง 2 คน คนหนึ่งที่รู้ว่าต้องตายอยู่แล้ว กับอีกคนที่กำลังจะตาย ผมกลับเลือกที่จะช่วยคนที่ตายอยู่แล้วไว้ สุดท้ายผมก็ต้องเสียน้องทั้ง 2 คนไป” เรียวยืนมองดูแว่นตาของเขาที่แตก
“แม้แต่ของชิ้นสำคัญที่เป็นตัวแทนของน้อง ผมยังเก็บรักษามันไว้ไม่ได้ ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว” เรียวพูดทั้งน้ำตาไหลออกมา
“ไม่ใช่หรอกครับ คุณเรียวทำหน้าที่พี่ได้ดีที่สุดแล้วครับ คุณเรียวไม่เห็นเหรอครับว่า ครั้งที่ 2 คุณเรียวช่วยน้องไว้ได้ทั้ง 2 คน” เนกิบอก
“ครับ ผมเข้าใจแล้วละครับ ในเมื่อผมทำหน้าที่พี่ชายเสร็จสิ้นแล้ว ผมก็คงไม่ต้องกังวลอะไรแล้วใช่มั้ยครับ” เรียวถามขึ้นแล้วเขาก็หยิบรูปภายถ่ายงานเลี้ยงฉลอง 3-A ขึ้นมา
“ครับ น้องของคุณเรียวได้มีความสุขอย่างที่พวกเขาต้องการแล้วละครับ” เนกิยิ้มให้
“งั้น เนกิคุง ฝากดูแล หลินต่อจากผมด้วยนะครับ ถ้าเจอเธอ ฝากบอกด้วยว่า ผมคิดถึงเขามากๆ และจะไปรออยู่กับเรอิ...” เมื่อสิ้นเสียงของเรียวแล้ว เขาก็ปล่อยทั้งรูปถ่ายและแว่นตานั้น แล้วเขาก็หันมายิ้มให้เนกิ
“ไม่นะครับ คุณเรียวต้องเป็นคนบอกกับเขาตรงๆ ไม่ใช่ฝากผมบอก” เนกิพูดขึ้น
“งั้นก็ดีเลยนะครับ เนกิคุง เธอเป็นคนที่ดีที่สุดที่ให้ฉันได้ระบายความในใจ ลาก่อน... เนกิคุง...” เรียวทิ้งตัวหงายหลังและดีดตัวออกห่างจากตึกทันที เนกิจึงรีบวิ่งกระโดดตามไปทันที ซึ่งข้างล่างพวกเขานั้น คือ พื้นผิวทะเลที่ลึกกว่า 100 เมตร

“เนกิคุง จะตามผมมาทำไม” เรียวถาม
“ทำไมคุณเรียวถึงถอดใจเอาง่ายๆแบบนี้ละครับ” เนกิถาม
“เพื่อฆ่าพี่ชายที่แสนจะอ่อนแอให้หมดไปจากใจ” เรียวตอบ
“เอ๋...” เนกิเกิดสงสัย
“ขอโทษด้วยนะเนกิคุง เธอลองมองกลับขึ้นไปซิ” เรียวบอก เนกิจึงหันกลับขึ้นไปมองก็เห็น เรียวที่นั่งแกว่งขาอยู่ขอบตึก
“เฮ้ย แล้วคุณเรียวคนนี้ก็...” เนกิตกใจทันที
“จิตร่างหนึ่งของผมที่อ่อนแอ ความอ่อนแอไม่ช่วยอะไรขึ้นมาได้ ถ้าความอ่อนแอของผมตายไป มันก็คงจะจบ” แล้วร่างของเรียวนั้นก็จางหายไปทันที
“แว๊ก แล้วอย่างนี้ผมมาตายเองเหรอเนี่ย” เนกิมองดูพื้นน้ำที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

แล้วไม้เท้าคู่ใจของเขาก็มารับไว้ทันที
“ลูกพี่คิดจะทำบ้าอะไรเนี่ย ถึงกระโดดตึกลงมาได้” คาโมถาม
“ผมเห็นคุณเรียวกระโดดตึกลงมานี่” เนกิตอบ
“กระโดดบ้าอะไร แกมันบ้า เจ้าบ้าเนกิ ถ้าแกตายไปรู้มั้ยคนอื่นเขาจะลำบากกันแค่ไหน” อาสึนะบ่นขึ้นทันที
“ครับ ขอโทษครับ” เนกิยิ้มให้
“แล้วอาจารย์รีสละ เขาเป็นยังไงบ้าง” อาสึนะถาม
“ก็ดีขึ้นมาแล้วละครับ เขาเข้มแข็งขึ้นโดยไร้ซึ่งความอ่อนแอแล้วครับ” เนกิตอบ
“กลับกันเถอะ พี่สาวโคโนกะคงทำอาหารเย็นเสร็จรอพวกเราไว้แล้ว” คาโมบอก แล้วพวกเขาก็ขี่ไม้เท้ากลับหอพักกัน

“*ขอให้เจอน้องสาวไวๆนะครับ*” เนกิหันไปดูเรียวครั้งสุดท้ายกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาที่ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอย่างสุขใจ
Logged


!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #5 on: July 11, 2006, 06:17:00 AM »

ตอนที่ 6 จดหมายถูกเปิดอ่าน

“เนกิ เดี๋ยวหน้าระรื่นเชียวนะ” โคทาโร่วิ่งเข้ามาหา
“ครับ ก็ตอนนี้ไม่มีเรื่องทุกข์ใจอะไรแล้ว” เนกิบอก
“ตอนนี้ว่างปะ” โคทาโร่ถาม
“ก็พอว่างครับ” เนกิตอบ
“ดีเลย งั้นไปเดินเล่นกับฉันหน่อยซิ” โคทาโร่บอก
“เดินเล่นแถวนี้ไม่ได้เหรอครับ ผมเองก็ไม่ได้ว่างมากขนาดนั้น แค่ตอนนี้ว่างอยู่นิดหน่อย” เนกิลั้งแขนไว้
“หรือว่านายมีนัดอะไรกับสาว” โคทาโร่หันมาถาม
“เปล่าครับ ผมไม่ได้มีนัดอะไร แต่คุณเรียวเขาอยากดูเทปบันทึกในงานประลอง ผมก็จะพาไปที่ศาลเจ้า ให้คุณมานะช่วยเปิดเทปให้ดูครับ” เนกิบอก
“อ๊อ งั้นตามสบายละกัน ฉันไปละ” โคทาโร่พูดเสร็จก็วิ่งจากไป

“อ่า เนกิคุงรอนานมั้ย ขอโทษด้วยที่ช้า” เรียวที่ว่ามาถึงก็ทักทายขึ้น
“ไม่เป็นไรครับ ผมก็เพิ่งมารอ” เนกิยิ้มให้แล้วทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกัน
“นี่ เนกิคุง ทำไมนักเรียนในห้องต่างชื่นชมและชื่นชอบเธอเป็นพิเศษจัง พวกนักเรียนพูดให้ผมฟังอยู่เรื่อย” เรียวเอ่ยถามขึ้น
“เหรอครับ ก็คงเพราะผมยังเด็กก็เลยดูน่ารักนักเรียนในห้องก็เลยชอบ” เนกิตอบ
“ทั้งน่ารัก ทั้งเก่ง นี่คงเป็นเหตุผลซินะ อยากเป็นแบบเธอบ้างจัง” เรียวพูดขึ้น
ทั้งคู่เดินคุยกันไปจนถึงศาลเจ้าทัตซึมิยะ

“อ้าวคุณครูเนกิมาที่นี่มีธุระอะไรเหรอค่ะ” มานะเดินออกมาต้อนรับ
“คุณเรียวต้องการที่อยากจะดูเทปบันทึกการประลองในงานเทศกาลมาโฮระครับ” เนกิบอก
“ค่ะ งั้นเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะ” มานะยิ้มให้แล้วพวกเขาก็เดินเข้ามาด้านในศาลเจ้า
“ที่นี่กว้างใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ แล้วสถานที่แข่งขันก็คือที่นี่ด้วยซินะ” เรียวตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น
“ครับ มันกว้างมากเลยละ” เนกิบอก

“อาจารย์รีสเชิญตามผู้หญิงคนนั้นไปทางโน้นได้เลยค่ะ” มานะบอก
“ครับ” เรียวก็เดินตามผู้หญิงคนหนึ่งไปทางห้อง

“แล้วนี่จะเอายังไงต่อ จะให้อาจารย์คนนั้นรู้เหรอว่า หนูเนกิ มีพลังเวทย์” มานะพูดขึ้น
“เขาคงไม่คิดอะไรขนาดนั้นหรอกก็ได้ครับ แถมก่อนที่จะเผยแพร่เทปบันทึกม้วนนั้น คุณมานะเองก็ต้องตัดต่อออกไปบ้างไม่ใช่เหรอครับ” เนกิบอก
“จ๊ะ” มานะยิ้มให้

“นี่มันก็ครบ 1 เดือนแล้ว อะไรๆมันก็เหมือนเก่าไปหมด ไม่มีงานอะไรตื่นเต้นให้ทำเลย” มานะบ่นขึ้น
“*อ๊ะ จริงซิ*” เนกิตกใจขึ้นแล้วก็ควักจดหมายของเจ้าที่เก็บไว้ในกระเป๋าขึ้นมา
“นั่นอะไรเหรอ” มานะถาม
“จดหมายจากคุณเจ้าครับ ที่ได้มาจากหลังวันงาน คุณเจ้าบอกให้เปิดอ่านหลังจากวันงาน 1 เดือน” เนกิตอบ
“เปิดอ่านเลยซิ” มานะบอก แล้วทั้งคู่ก็ดูจดหมายนั้น

...ไง หนูเนกิคุงและเพื่อนๆทุกคน ถ้าได้อ่านจดหมายนี้แล้ว แสดงว่าอั๊วถึงบ้านนานแล้ว อั๊วมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเพื่อนๆในห้อง แต่อั๊วก็ไม่อาจจะถึงบ้านเกิดได้ อั๊วไปไม่นานหรอก เสร็จงานที่บ้านเกิดแล้วอั๊วก็จะกลับไป ที่จริงอั๊วก็อยากให้พวกลื๊อได้อ่านกันตั้งแต่วันที่อั๊วไป อั๊วอยากจะบอกกับทุกคนเลย เริ่มตั้งแต่

-ไอซากะ ซาโยะจัง ถึงอั๊วจะเคยคิดสร้างปืนงี่เง่ามาเพื่อจัดการกับลื๊อ แต่ที่นั่นอั๊วก็ขอโทษด้วยละกัน
-อาคาชิ ยูนะ อั๊วเป็นหนึ่งในลูกค้าประจำที่อุดหนุนซาลาเปาอั๊ว เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง อั๊วบอกสูตรเด็ดให้ซัตจังไปแล้ว
-อาซากุระ คาสึมิ อั๊วต้องขอบใจลื๊อมากที่ช่วยอั๊วในช่วงวันงาน ทำให้อั๊วได้รับข่าวสารต่างๆโดยไม่ต้องไปหาเองให้ลำบาก
-อายาเซะ ยูเอะ ถึงลื๊อจะอยู่กับพวกหนูเนกิก็ขอให้มุ่งมั่นช่วยเหลือและต่อสู้กับหนูเนกิต่อไปนะ
-อิซึมิ อาโกะ อั๊วก็อยากจะบอกว่าขอบใจตั้งหลายครั้งที่อั๊วบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆที่ลื๊อช่วยรักษาแผลให้
-โอโคอุจิ อากิระ ต้องขอบใจจากการที่ลื๊อทำตัวเป็นแบบอย่างให้อั๊ว ทำให้อั๊วนั้นเป็นคนใจเย็นขึ้น
-มิสะ ซากุระโกะ และมาโดกะ อั๊วต้องขอบใจที่พวกลื๊อยังคอยเชียร์และให้กำลังใจอั๊วมาตลอด
-คากุระซากะ อาสึนะ ถึงลื๊อจะไม่ชอบขี้หน้าอั๊วในช่วงวันงานแต่อั๊วก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก และขอให้ลื๊อดูแลหนูเนกิให้ดีละ ในเมื่ออั๊วไม่อยู่แล้ว เพราะอั๊วเป็นห่วงหนูเนกิ
-คาซึกะ มิโซระ ลื๊อเป็นคนหนึ่งที่สอนให้อั๊วนั้นเข้าใจในหลายๆสิ่ง
-คาราคุริ ชาช่ามารุ ถึงอั๊วไม่ใช่คนสร้างลื๊อขึ้นมาแต่เป็นได้แค่ผู้ช่วย แต่อั๊วก็ภูมิใจมากที่ได้สร้างลื๊อขึ้นมาสำเร็จ และเห็นลื๊อคอยช่วยเหลือพวกอั๊วมาตลอด
-คูจัง ตั้งแต่วันแรกที่อั๊วเข้ามา อั๊วดีใจมากที่ได้เพื่อนอย่างลื๊อ เพื่อนจากเมืองเดียวกัน อั๊วเองก็ไม่อยากจะจากเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆอย่างลื๊อหรอก แต่ไม่ต้องห่วง โคโนกะ ลื๊อช่างใจดีเอามากๆ ไม่ว่าจะยังไงลื๊อก็ดูดีตลอดเวลา เหมาะสมแล้วที่จะคอยช่วยดูแลหนูเนกิ
-ซาโอโตเมะ ฮารุนะ หนังสือที่อั๊วยืมลื๊อไปนั้น ขอโทษด้วยที่ไม่ได้เอาคืน แต่ได้ฝากซัตจังแล้ว ไปเอาได้เลยนะ
-ซากุระซากิ เซตซึนะ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ลื๊อต้องมามัวแต่นั่งคิดเกี่ยวกับเรื่องของอั๊ว ทั้งๆที่ในวันงานลื๊อน่าจะได้ไปเดินเล่นสนุก แต่กลับต้องมาหมกมุ่นกับเรื่องของอั๊ว
-ซาซากิ มากิเอะ การแสดงของลื๊อ อั๊วประทับใจมาก ถ้าอั๊วได้เรียนแบบนั้นได้ อั๊วจะได้คิดค้นวิชาต่อสู้ใหม่ๆได้แน่ ถ้าถึงวันนั้น อั๊วขอเป็นลูกศิษย์ลื๊อสักคน
-ทัตซึมิยะ มานะ อ่า ไม่มีอั๊วแล้ว ลื๊อคงหมดงานสนุกๆทำละซิ แต่ก็ขอบใจมากนะที่ช่วยอั๊วในวันงานมาทั้งๆที่ในใจลื๊ออยากจะช่วยหนูเนกิมากกว่า
-นางาเซะ คาเอเดะ วิชานินจาสุดยอดของลื๊อ อั๊วก็อยากได้เหมือนกัน ว่างๆก็ช่วยสอนอั๊วด้วยคนน๊า ถ้าอั๊วกลับไปเมื่อไหร่ ถึงตอนสู้กันนั้น อั๊วรู้สึกได้เลยว่าลื๊อเป็นคนหนึ่งในห้องที่เก่งเอามากๆ เก่งกว่าอั๊วซะอีก แต่อั๊วก็รอดมาได้เพราะสิ่งประดิษฐ์จากมันสมองของอั๊วเอง อั๊วขอโทษด้วยที่ใช้ของมาช่วยเล่นขี้โกงไม่ซื่อแบบนั้น
-นาบะ ชิซุรุ ลื๊อช่างเป็นเสมือนพี่ใหญ่ในห้องเลย ลื๊อทั้งคอยแนะนำให้คำปรึกษาต่างๆที่ดีมาก
-ฟูกะ ฟูมิกะ ลื๊อ 2 คนช่างสร้างสีสันให้กับห้องได้ดีมาก ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ลื๊อก็จงทำมันต่อไปนะ ถ้าขาดพวกลื๊อแล้ว ห้องอาจจะเหงาไปยิ่งกว่าขาดอั๊วซะอีก
-ซาคาเซะ ซาโตมิ อั๊วยินดีด้วยอีกครั้งที่ได้ร่วมมือกับลื๊อในการสร้างอะไรต่างๆ ลื๊อเป็นคนที่ขยันยิ่งกว่าอั๊วซะอีก มุ่งมั่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนอั๊วได้เป็นถึงด๊อกเตอร์ แต่อั๊วก็ขอหยุดเป็นผู้ช่วยลื๊อดีกว่า และหันมาเป็นผู้ช่วยเพื่อนคนอื่นๆ ลื๊อคงไม่โกรธกันนะ
-ฮาเซกาว่า จิซาเมะ ในใจของลื๊อมีแต่ความเครียดแค้นกับห้องนี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของลื๊อหรอก พวกอั๊วเองที่ทำตัวติงต๊องให้ลื๊อต้องหนักใจ หัวโจกอย่างอั๊วไม่อยู่แล้ว ลื๊อคงสบายใจขึ้นนะ
-เอวาจัง ยินดีที่ได้ลื๊อมาช่วยงานอั๊ว ถ้าเทียบกันจริงลื๊อช่างเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดในห้องเลย อั๊วนับถือ และของขวัญอะไรนั้น อั๊วก็ไม่มีอะไรจะให้นอกจากให้ ชาช่ามารุ แล้วกัน อย่าลืมละว่า อั๊วกับซาโตมิเป็นคนสร้าง
-มิยาซากิ โนโดกะ ลื๊อก็ขยันไม่แพ้ซาโตมิ เพื่อให้ได้ฉลาดแบบอั๊ว จงพยายามต่อไปละ อั๊วไม่อยู่ ลื๊อต้องทำให้ได้
-มุราคามิ นึตซึมิ การแสดงของลื๊อ อั๊วแทบไม่รู้เลยว่าลื๊อคนไหน ลื๊อช่างปลอมตัวได้เก่ง ว่างๆก็ช่วยสอนให้อั๊วบ้าง อั๊วจะได้ปลอมตัวเป็นใครสักคนหนึ่ง
-ยูกิฮิโระ อายากะ ว่าไง หัวหน้าห้อง ลื๊อช่างดุดันและเข้มแข็งมากและอั๊วนับถือในความพยายามและความอดทนที่ลื๊อกล้าและสามารถคุมห้องนี้เอาอยู่จนได้ ซึ่งห้องเรานี้ ถ้าให้อั๊วเป็นหัวหน้าห้อง วันแรกอั๊วก็คงอกแตกตายเหมือนครูหลายๆคนละ
-ซัตจัง ร้านอาหารเจ้าเปาฉีของอั๊วที่ช่วยกันสร้างกับลื๊อนั้น อั๊วยกให้ลื๊อเป็นคนดำเนินกิจการทุกอย่างเลย สูตรอะไรทั้งหมดอั๊วก็ได้บอกลื๊อไปหมดแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่ลื๊อต้องพยายามให้มากยิ่งขึ้นนะ
-ซาซี ถึงอั๊วจะไม่ค่อยสนิทกับลื๊อ แต่ลื๊อก็เป็นคนที่ไม่สร้างปัญหาอะไรให้กับใครเหมือนอย่างอั๊วเลย

-หนูเนกิ ถ้าไม่มีลื๊อในห้องแล้ว อั๊วแทบไม่หนักใจในการจากไปครั้งนี้เลย อั๊วเป็นห่วงลื๊อมากๆ เพราะลื๊อยังเด็กนัก แต่ในวันงานลื๊อก็พิสูจน์ให้อั๊วเห็นแล้วว่า ลื๊อทั้งฉลาดและเก่งกาจกว่าที่อั๊วคิดไว้ ลื๊อจงเก่งกาจขึ้นมากกว่านี้ให้ได้นะ สักวันอั๊วจะขอทดสอบฝีมือกับลื๊อใหม่ แม้อั๊วจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในห้องก็ตาม

เมื่ออ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ขอให้พวกลื๊อทุกๆคนมีความสุขตลอดไปนะ ด้วยน้ำหมึกแสนสุขที่อั๊ว สร้างขึ้น ^_^ แล้วพบกันใหม่...

“คุณเจ้า” เนกิน้ำตาคลอขึ้นทันทีแล้วมานะก็ลูบหัวเบาๆ
“เจ้าจัง ฮือๆๆๆ” นักเรียนในห้อง 3-A ต่างก็ร้องไห้กัน เนกิจึงหันกลับไปมองด้วยความตกใจ
“อ่า ทุกคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” เนกิถาม
“เนกิคุงจะมาอ่านจดหมายของเจ้าคนเดียวได้ไงกัน พวกเราก็เลยตามมาด้วย” มากิเอะตอบ
“*เจ้า เธอเองก็ทำเอาเพื่อนๆเป็นห่วงเอามากๆเลยนะ*” มานะพูดขึ้นในใจ
“คุณครูเนกิ เชิญตามทางนี้ค่ะ” มานะบอก
“ครับ” เนกิเดินตามไปทันที สักพักพวกเพื่อนๆในห้องต่างก็สะกดรอยตามไป
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.101 seconds with 21 queries.