Summoner Master Forum
October 09, 2024, 04:22:28 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: แถมอีกเรื่อง (- -) มีนิดเดียว เรื่อง ซามูไรญี่ปุ่น  (Read 1965 times)
0 Members and 2 Guests are viewing this topic.
!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« on: July 11, 2006, 06:09:31 AM »

   นิยายเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องราวของญี่ปุ่นในสมัยก่อน ที่เป็นสมัยของโอดะ สมัยที่ซามูไรรุ่งเรืองที่สุด ซึ่งผู้คนชาวบ้านในสมัยนั้น บ้างต่างต้องมีวิชาป้องกันตัวจากอันธพาลทั้งหลาย ที่รุ่งเรืองไม่แพ้กัน และเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของซามูไร นินจา กองโจร หรือแม้กระทั่งพระ หรือ พวกหมอผี และวิญญาณ สัตว์ร้าย และท้ายที่สุดก็กล่าวถึงเหล่าพลังเหนือธรรมชาติ หรือกระบวนท่าไม้ตายอันเกินจริงของเหล่าผู้คน

ตอนที่ ฮานาจิ

ในประเทศญี่ปุ่นปีค.ศ.1357 ในแคว้นโตเกียว มีเมืองหนึ่งชื่อ ฮานาจิ มีผู้ครองเมืองคือโชกุนนายหนึ่งมีชื่อว่า จินเซ โชกุนจะมีหน้าที่คอยคุ้มครองเมืองนั้นไว้ภายใต้อำนาจควบคุมใหญ่จากโอดะผู้ปกครองประเทศ

ในบ่ายวันพุธที่ 27 เดือน มีนาคม ที่ปราสาทของจินเซ

หลังจากที่เหล่าทหารซามูไรผู้ที่ทำหน้าที่เหมือนกับตำรวจ ซึ่งซามูไรจำพวกนี้จะขึ้นตรงต่อผู้นำของเขา ซึ่งไม่ใช่พวกซามูไรพเนจร ซามูไรทุกนายต่างก็ออกไปตรวจตราภายในเมือง และได้พักผ่อนกันตามปกติซึ่งซามูไรพวกนี้จะมีอยู่มากภายในเมือง จึงกระจายไปกันยังจุดต่างๆตามหน้าที่ของตน

“อ๊า อาซามะคุง” เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งเรียก ซามูไรหนุ่มวัย 20 ปีคนนั้นที่เพิ่งเดินออกมาจากประตูปราสาทจึงหันไปมอง
“ไง โยมิ” อาซามะทักทายกลับ
“วันนี้พี่อาซามะว่างมั้ย หนูจะชวนไปนั่งกินโอเด๊งที่ร้านเดิม” โยมิถาม
“อ่า ได้ซิ งั้นไปกัน” อาซามะตอบแล้วทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกัน

บนเส้นทางถนนดินธรรมดา อาซามะมองดูสองฝั่งข้างทาง ชาวบ้านที่ออกมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขกันทั่วไป แล้วเขาก็เหลือบไปเห็นสองพี่น้องฝาแฝดตระกูลคุโรซาว่าวัย 16 ปี ซาเอะและยาเอะที่กำลังเดินเล่นอยู่ ด้วยความน่ารักและงดงามของเธอทั้งสอง แต่ก็เป็นที่ต้องใจหนุ่มอาซามะเพียงแค่ยาเอะคนเดียว เขาแอบชอบเธอมานานแสนนานตั้งแต่มาที่นี่เพื่อรับราชการใหม่ๆ

โยมิเห็นว่าอาซามะกำลังใจลอยอยู่จึงดึงกระตุกแขนเสื้อเบาๆ แต่ก็ไม่ช่วยอะไร เธอกลับเริ่มเห็นรอยยิ้มที่จู่อาซามะก็ยิ้มขึ้นมา เธอจึงมองไปตามทางที่อาซามะมองไป เธอจึงรู้ว่าอาซามะกำลังมองดูฝาแฝดคุโรซาว่า แล้วโยมิก็เหลือบไปเห็นซาคุยะที่นั่งอยู่แถวนั้น เธอจึงวิ่งไปหา
“พี่ซาคุยะ ช่วยอะไรหน่อยซิ” โยมิบอกแล้วเธอกระซิบให้ซาคุยะฟัง แล้วซาคุยะก็มองไปที่อาซามะพร้อมกับยิ้มขึ้น
“ได้ซิ” ซาคุยะตอบ แล้วเธอก็ลุกควักยันต์แผ่นหนึ่งขึ้นมา แล้วก็ท่องคาถาบางอย่าง แล้วเธอก็สะบัดมือที่ถือยันต์ไปทางอาซามะ แล้วก็มีไฟลุกขึ้นที่จากางเกงของอาซามะ แต่เขาก็ยังใจลอยไม่สนใจไฟนั้น โยมิจึงตะโกนขึ้น

“พี่อาซามะ ไฟไหม้ขาค่ะ” เมื่อสิ้นเสียงของเด็กน้อย อาซามะก็ได้สติขึ้นมา แล้วเขาก็มองดูที่ขาตัวเองที่มีไฟลุก เขาจึงตกใจตะโกนลั่นรีบวิ่งหาน้ำมาดับ ทำให้ผู้คนในบริเวณต่างมองกันและหัวเราะขึ้น เมื่อเขาดับไฟได้ ผู้คนที่มามุงต่างก็หัวเราะ รวมทั้งฝาแฝดคุโรซาว่าด้วย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของยาเอะ ทำให้อาซามะยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง

“พี่อาซามะ เร็วลุกขึ้น ไปกันต่อเถอะ” โยมิวิ่งเข้ามาหา
“บอกซาคุยะด้วย แกล้งกันให้มันเบาๆหน่อย เล่นกับไฟมันอันตราย” อาซามะบอกแล้วก็ลุกขึ้น เมื่อเขาลุกขึ้นมาปัดฝุ่นเสร็จซาคุยะก็เดินมาหา
“ขอโทษด้วยนะสำหรับเมื่อกี๊ แต่ก็สนุกดี ไปก่อนละ” ซาคุยะพูดเสร็จก็เดินจากไป อาซามะจึงยืนนึกบางอย่างอยู่สักพักก่อนที่จะเดินไปต่อกับโยมิ

เมื่อมาถึงทางแยกขึ้นเขาไปยังวัดอาคุอินจิ ก็เจอหลวงพ่อเกนคิเดินลงมาพอดี พวกเขาจึงทักทายกันภาษาคนในเมือง แต่ที่ผิดสังเกตคือจู่ๆก็มีหญิงคนหนึ่งเดินสวนทางกับพวกอาซามะที่เดินมา ซึ่งเธอเป็นคนที่อาซามะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ทั้งๆที่เขาอยู่รับราชการที่นี่มา 4 ปี

“โยมิ เธอรู้จักหญิงคนนั้นมั้ย” อาซามะถาม
“ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย พี่อาซามะชอบเขาหรอ” โยมิตอบ
“ก็นิดๆนะ สวยดี แววตาของเธอคมดั่งอินทรี แววตาแบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน แถมอายุก็น่าจะยังน้อย ยังสาวอยู่เลย” อาซามะพูดขึ้น
“แล้วระหว่างเธอคนนี้กับยาเอะ พี่อาซามะจะเลือกใคร” โยมิแซวเล่นก่อนที่จะวิ่งหนีไปทันที

เมื่อผ่านจากเชิงเขาอาคุอินจิมาแล้ว ก็เข้าย่านชานเมือง ทั้งคู่ก็มาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง อาซามะสังเกตไปเห็นเจ๊กินายะ เจ้าของโรงเตี๊ยมกับหญิงสาวคนหนึ่งกำลังคุยกันอยู่ เขาจึงหยุดยืนมองเข้าไป

“วันนี้รับงานมั้ย ริน” กินะถาม
“ใคร และเท่าไหร่” รินถามกลับ
“จินจิ ฮิมูโระ ราคา 1000 อัต” กินะตอบ
“คนเดียวเหรอ” รินถามต่อ
“มี 2 งานเลือกเอา อีกงานจะได้ให้คนอื่น อีกราย คุโรซาว่า ยาเอะ ราคา 1500 อัต” กินายะตอบ รินจึงคว้ารูปของยาเอะจากในมือของกินะ
“ไม่เกินอาทิตย์นี้ ฉันต้องรู้ข้อมูลของเหยื่อก่อน” รินพูดเสร็จแล้วก็เดินออกไป แล้วอาซามะก็เห็นรูปยาเอะในมือของริน เขาจึงสงสัย สักพักกินะก็เดินตามออกมา
“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า” อาซามะถาม
“เจ๊ไม่มีเรื่องอันใดหรอก คนอย่างเจ๊ จะไปมีเรื่องกับใครได้” กินะตอบพร้อมกับให้ยิ้มหน้าตายเดินหนีไป
“มีอะไรหรอ พี่อาซามะ” โยมิถาม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่สงสัยมานานละ ว่าเด็กสาวคนนั้นเขามาคุยอะไรกับเจ๊กินะกันทุกวัน แล้วคุยกันลับๆด้วย ต้องมีอะไรซ่อนหรือปิดบังแน่” อาซามะตอบแล้วทั้งคู่ก็เดินไปต่อ

“อาซามะ รันมารุ ให้มาเรียก ที่ประตูแดง มีพวกแก๊งอันธพาลป่วนอยู่ อยากให้ไปช่วย พวกมันมาเยอะ ตอนนี้ฉันก็เลยกระจายข่าวให้ซามูไรอื่นๆรู้” จุนเปบอก แล้วเขาก็ขี่ม้าไปต่อทันที
“โยมิ สงสัยจะไปกับเธอไม่ได้แล้วละ มีงานด่วนต้องทำ” อาซามะพูดเสร็จก็รีบวิ่งตรงไปที่ประตูแดง (ประตูตะวันออกของเมือง)

“โยมิจัง ไปกับพี่ก็ได้” หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
“อ๊า พี่ซาคุยะ” โยมิแสดงอาการดีใจออกมาแล้วทั้งคู่ก็ไปเดินเล่นด้วยกัน

แนะตัวละคร

*** อาซามะ ซังกุนเซน –ซามูไรในราชการ (รับราชการ 4 ปี) –อายุ 20 ปี –ไม่มีญาติพี่น้อง –เป็นคนสนิทคนหนึ่งของโชกุนจินเซ –เก่งกาจในด้านต่อสู้ด้วยดาบ แต่ค่อนข้างใจลอย ทำตัวไม่เหมือนซามูไรผู้น่ากลัว และยังได้ชื่นชอบในตัวยาเอะเป็นอย่างมาก

*** โยมิ โอชิโร่ –เด็กสาวตัวน้อยๆวัย 8 ปี –มีพ่อที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร และแม่ที่มีฝีมือในด้านการทอผ้าเป็นอย่างมาก –เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของอาซามะ ค่อนข้างขี้เล่น ชอบสนุกไปวันๆ

*** ซาคุยะ ชินโกโนกุ –นักบวชหญิง (อิสระ) –อายุ 18 ปี –มีพี่ชาย 3 คน น้องชาย 1 คน และพ่อ 1 คน (ทุกคนเป็นนักบวชหมด โดยเฉพาะพ่อที่เป็นหัวหน้านักบวช) –มักเงียบเก็บตัวบ้าง จากที่พ่อได้ฝึกสอนมา แต่ก็ได้ใช้ชีวิตอันสนุกๆของเธออย่างอิสระ ไม่เหมือนพี่น้องคนอื่นที่เข้มงวดกับกฎของพ่อ

*** ริน เกอิกุ –นักฆ่ารับจ้างหญิงมืออาชีพ –อายุ 15 ปี –ไร้ญาติ นอกจากกินะที่เก็บเธอมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก –เงียบ ไม่ค่อยพูดกับใคร เก่งกาจในด้านการฆ่าคน และมักใช้นามตัวเองว่า จิ้งจอกราตรี เป็นฉายา และเธอถูกฝึกมาสำหรับเป็นนักฆ่าตั้งแต่เด็กโดยด่านอันโหดร้ายดั่งนรกของกินะ เพื่อฝึกให้รินนั้นได้เป็น ยอดนักฆ่า

*** ยาเอะ คุโรซาว่า –ศิลปกรสาวน้อยวัย 16 ปี –ฝาแฝดกับซาเอะ และมีพ่ออีกคน –เป็นลูกคนรวย พ่อเป็นเศรษฐีในเมืองนี้ ซึ่งญาติของเธอนั้นมีเพียงฝาแฝดกับพ่อของเธอ ที่เหลือคือเหล่าคนใช้และทหาร –นิสัยเธอค่อนข้างเรียบร้อย ร่าเริงแจ่มใสเมื่อได้อยู่กับฝาแฝดของเธอ และยิ่งได้เดินเล่นนอกบ้านที่ไม่มีแต่กฎค่อนข้างเข้มงวดแล้วนั้น เธอยิ่งชอบใจมาก

*** ซาเอะ คุโรซาว่า –ศิลปกรสาวน้อยวัย 16 ปี –ฝาแฝดกับยาเอะ และมีพ่ออีกคน –เป็นนักวาดภาพคู่กับยาเอะ ผลงานของพวกเธอนั้นค่อนข้างโด่งดังไปทั่วด้วยลายภาพที่สวยงามมาก โดยเฉพาะภาพที่เธอสองคนได้วาดร่วมกัน –มักมีนิสัยคล้ายๆกับยาเอะ และทั้งคู่มักชอบคิดอะไรสนุกๆขึ้นมาเล่นตลอดเวลา

*** หลวงพ่อเกนคิ –เจ้าอาวาส –อายุ 57 ปี –มีน้องสาวคือ กินะ –มักมีอารมณ์ขัน สร้างสีสันให้กับคนภายในเมืองและสร้างเสียงหัวเราะได้บ้าง ไม่ค่อยถูกคอกับกินะนักเพราะเธอมักชอบทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ และซาคุยะมักมาให้หลวงพ่อเกนคิคอยสอนเรื่องบางอย่างให้อยู่บ่อยๆ

*** จินเซ มาเอดะ –โชกุน (เจ้าเมือง) –อายุ 52 ปี –มีพี่ชายเป็นโชกุนอยู่ที่เมือง ซากายะ ที่เกาะฮอกไกโด -มีความฉลาดปราดเปรื่อง คอยตัดสินปัญหาต่างๆให้กับคนในเมือง และวางแผนการรบและการปกครองเมืองให้อยู่ในความสงบได้ดี และมีอารมณ์ขัน ขี้เล่น และมีเหล่าซามูไร ที่เป็นชายรู้ใจด้วยกันอยู่ไม่กี่คนที่เขาสนิทด้วย หนึ่งในนั้นคือ อาซามะ

*** กินะ มินานิ –เจ้าของโรงเตี๊ยม –อายุ 49 ปี –มีพี่ชายคือ หลวงพ่อเกนคิ –มีความเจ้าเล่ห์สูง วางแผนต่างๆอย่างรอบคอบ และเก็บความลับและปิดบังหลายๆอย่างได้ดี และเป็นศูนย์รวมรับงานจากผู้ว่าจ้างให้เด็กๆของเธอคอยทำงานรับจ้างฆ่าให้ หนึ่งในนั้นคือ ริน เด็กที่เธอเก็บมาเลี้ยงเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

*** รันมารุ ริคิกาว่า –ซามูไรในราชการ –อายุ 21 ปี –มีพ่อแม่อยู่ที่บ้านซึ่งช่วยกันทำอาชีพค้าขาย –รักในกฎ ค่อนข้างเข้มงวด ไม่ค่อยปลดปล่อยอารมณ์ที่เขาต้องการออกมา บังหน้าด้วยด้านซามูไร เพื่อให้เขานั้นดูน่ากลัวดั่งซามูไรที่แท้จริง

*** จุนเป เทอิคาริ –หน่วยม้าเร็วคอยส่งข่าว –อายุ 20 ปี –มีแม่คนเดียวที่เป็นญาติเหลืออยู่ –อารมณ์ดี ไม่ค่อยเข้มงวดกับกฎ มักชอบแหกกฎซะด้วยซ้ำ เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของ อาซามะ

*** จินจิ ฮิมูโระ –หมอหนุ่มรักษาโรคคนภายในเมือง –อายุ 22 ปี –เป็นญาติห่างๆกับโยมิ –อารมณ์ดี ขี้เล่น และซุ่มซ่าม และชอบลืมในบางเรื่องง่าย และค่อนข้างดูเหมือนเป็นคนที่เย็นชาในจิตใจมาก และสุภาพเรียบร้อย
Logged


!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #1 on: July 11, 2006, 06:10:08 AM »

ตอนที่ 2 ความผิดพลาดของจิ้งจอกราตรี

เช้าวันต่อมา นักฆ่าสาวน้อยริน มายืนอยู่แถวๆกำแพงฝั่งตรงข้ามบ้านคุโรซาว่า ซาคุยะที่เดินผ่านมาเห็นจึงสงสัยและเดินเข้าไปหา
“ริน เธอมารอใครเหรอ” ซาคุยะถาม รินจึงมองแต่ก็ไม่ตอบอะไร แล้วซาคุยะก็เห็นสายตาของรินที่มองมายังเธอนั้น เหลือบไปมองที่อื่นทางด้านหลังของเธอ ซาคุยะจึงหันกลับไปก็เห็นฝาแฝดคุโรซาว่าเดินออกมาจากบ้าน
“เธอมารอ 2 พี่น้องคนนั้นเหรอ” ซาคุยะจึงหันกลับมาถามแต่ก็ไม่เจอรินแล้ว ซาคุยะจึงยิ่งสงสัยขึ้น เธอจึงหันกลับวิ่งตามฝาแฝดคุโรซาว่าไป
“ยาเอะ ซาเอะ พวกเธอนัดกับรินไว้หรือเปล่า เห็นรินมารอหน้าบ้านเธอตั้งแต่เช้าแล้ว” ซาคุยะถาม
“ไม่มีนี่” ยาเอะตอบ
“ริน หญิงที่ใส่ชุดสีแดงๆเหรอ นั่นฉันพอจำได้ว่าเคยเห็นนะ แต่ไม่เคยได้คุยกันเลยสักครั้ง” ซาเอะพูดขึ้น
“มีอะไรหรอ” ยาเอะถาม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่สงสัย พวกเธอจะไปไหนกัน” ซาคุยะพูดขึ้น
“จะไปรับชุดที่คุณนายเอริจ้ะ” ยาเอะตอบ
“งั้นฉันขอไปด้วยแล้วกัน พอดีจะไปหาโยมิด้วยพอดี” ซาคุยะบอกแล้วทั้ง 3 ก็เดินพูดคุยกันไปตามปกติไปตามทาง ในคู่สายตาของเพชฌฆาตที่เฝ้ามองอยู่และคอยสะกดรอยตาม ซึ่งซาคุยะก็พอรู้ตัวว่ารินกำลังสะกดรอยตามอยู่

เมื่อมาถึงร้านน้ำชาที่ซาคุยะมาประจำนั้น พวกเธอก็เดินผ่านไปอย่างประจำเว้นแต่ ริน ที่เดินตามมาห่างๆนั้น พอมาถึงก็มีนักเลงคนกลุ่มเดินเข้ามาขวาง
“ไงน้องสาวจะไปไหนจ๊ะ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น รินจึงมองไปยังซอกตึกที่อยู่ในซอยฝั่งเดียวกับซอยที่พวกซาคุยะเดินเลี้ยวเข้าไป รินจึงเดินเข้าไปในซอยนั้นโดยไม่สนใจพวกนักเลงเหล่านี้ นักเลงพวกนั้นจึงเดินตามเข้าไปทันที
“ต้องการอะไร” รินหยุดเดินเมื่อพวกเขาทั้งหมดอยู่ในซอยเปลี่ยวซอกตึก
“ต้องการน้องสาวมาเดินเล่นด้วยสักวัน” ชายคนเดิมพูดต่อ
“งั้นพอจะรู้จักคนนี้มั้ย” รินหยิบหน้ากากรูปจิ้งจอกคุเระขึ้นมาสวมพร้อมกับเอามือซ้ายจับด้ามดาบที่คล้องไว้ที่หลัง (คุเระ จิ้งจอกที่เป็นตำนานแห่งจิ้งจอกว่าเก่งกาจที่สุดถึงขนาดเพียงตัวเดียวฆ่าคนได้ทั้งเมือง)
“เอ๊ย จิ้งจอกราตรี ไม่ยักรู้ตัวจริงคือ เด็กสาวน้อยเนี่ยนะ” ชายพวกนั้นพูดขึ้น
“ที่ไม่มีใครรู้ เพราะคนที่รู้ จะไม่รอดไปบอกใครต่างหาก” รินชักดาบสั้นออกมาวิ่งเข้าโจมตีใส่ชายกลุ่มนั้นภายในพริบตาเดียวโดยที่พวกนั้นไม่ทันตั้งตัวได้ชักดาบออกมา แล้วรินก็ถอดหน้ากากออกแล้วเดินออกมาจากซอยนั้นอีกฝั่ง แล้วก็เห็นพวกฝาแฝดคุโรซาว่ากำลังยืนคุยกับจินจิ  แล้วพวกเธอก็เดินไปต่อ และจินจิก็เดินสวนผ่านมาทางนี้ แต่รินไม่ได้สนใจ จึงเดินตามพวกซาคุยะไปห่างๆ

ในระหว่างที่เดินสวนกลับจินจินั้น จินจิเกิดสะดุดบางอย่าง ทำให้เขานั้นล้มมาชนริน แต่เขาก็ทรงตัวได้ไม่ให้ล้ม
“ผมขอโทษด้วยครับ ไม่ได้ตั้งใจชน” จินจิกล่าวคำขอโทษก่อนที่จะเดินไป แล้วรินก็เดินตามไปต่อ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่า รูปยาเอะที่พกไว้นั้น หล่นออกมาจากในเสื้อของเธอ อาซามะที่เดินผ่านมาแถวนั้นเห็นรูปใบหนึ่งตกจึงหยิบขึ้นมา ซึ่งมันเป็นด้านหลัง เขาจึงอ่านขึ้น
“ยาเอะ คุโรซาว่า 1500 อัต ฆ่าซาเอะ เพิ่มเป็น 2500 อัต” อาซามะอ่านเสร็จก็ตกใจ แล้วก็พลิกรูปมาดูก็เห็นว่าเป็นรูปอันเดียวกับที่เห็นรูปของยาเอะที่รินถืออยู่
“ไม่ได้การละ ต้องไปบอกคุณอิบาคิ” อาซามะเก็บรูปนี้ไว้ในเสื้อและเดินไปยังบ้านคุโรซาว่า

ที่ร้านเสื้อโอชิโร่
“คุณนายเอริค่ะ อยู่มั้ย” ยาเอะที่เดินเข้ามาในร้านถามขึ้น
“อ้าวพี่ยาเอะ พี่ซาเอะก็มาด้วย มีอะไรหรอค่ะ” โยมิวิ่งออกมาจากหลังร้านทันที
“พี่มาเอาเสื้อที่คุณนายเอริตัดเย็บให้จ้ะ” ซาเอะตอบ
“พอดีคุณแม่ไม่อยู่ แต่คุณแม่บอกไว้ว่า ถ้าพี่ๆมาเอาก็ให้หนูไปหยิบมาให้ได้ค่ะ เสร็จไว้แล้ว” โยมิบอกแล้วก็วิ่งเข้าไปในหลังร้าน

ซาคุยะที่ยืนอยู่นอกร้านนั้นเฝ้าสังเกตมองไปรอบๆก็เห็นรินที่ยืนซุ้มมองอยู่ไกลๆ เธอจึงพอรู้ได้ว่า รินต้องการอะไรสักอย่างจากพี่น้องฝาแฝดคู่นี้

“อ๊า ได้รับพี่ยาเอะ และนี่ของพี่ซาเอะ” โยมิวิ่งออกมาพร้อมชุดที่พับไว้อย่างดี
“สวยมากๆเลย ชุดกิโมโนสีแดงลายผีเสื้อ ฝากบอกคุณนายเอริด้วยนะว่า ชุดที่ตัดเย็บให้มันสวยมากๆ” ยาเอะบอกแล้วก็จ่ายเงินค่าเสื้อให้กับโยมิได้ 350 อัต เสร็จพวกเธอก็เดินออกไปจากร้าน
“จะกลับกันแล้วเหรอ” ซาคุยะถาม
“จ้ะ” ซาเอะตอบ
“งั้นไม่รบกวนละ เดี๋ยวจะพาโยมิไปเที่ยวต่อละกัน” ซาคุยะบอกแล้วก็เดินเข้าไปในร้าน แต่พอเดินผ่านหลังฝาแฝดคู่นี้ไป
“ระวัง ริน สาวน้อยเสื้อแดงด้วย เธอคงไม่คิดดีต่อพวกเธอแน่” ซาคุยะพูดทิ้งท้ายแล้วก็เดินเลยเข้าไปในร้าน สองพี่น้องฝาแฝดจึงเดินกลับบ้านไปอย่างระมัดระวังโดยเดินไปยังทางที่มีผู้คนเดินอยู่ชุก

ที่บ้านคุโรซาว่า
“คุณอิบาคิ ตอนนี้มีใครบางคนกำลังวางแผนลอบฆ่าลูกสาวฝาแฝดของท่าน” อาซามะบอก
“ใครกัน” อิบาคิถาม
“กระผมไม่รู้เช่นกัน แต่ค่ำคืนนี้มันคงลงมือแน่ กระผมบอกให้ซามูไรอีกไม่กี่นายได้มาเฝ้าที่บ้านนี้ไว้แล้ว และกระผมก็จะขออยู่เฝ้าจนกว่าจะเช้า” อาซามะตอบ
“ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่า คนที่คิดร้ายกับลูกสาวฉันมันมีฝีมือขนาดไหน แล้วจะรู้ได้ไงว่า พวกนายจะคุ้มครองลูกสาวฉันได้” อิบาคิถาม
“มั่นใจในฝีมือของซามูไรของจินเซเถอะครับ” อาซามะตอบ

“ท่านพ่อค่ะ ชุดใหม่ของหนูกับยาเอะสวยมั้ยค่ะ” ซาเอะเดินเข้ามาพร้อมกับสวมชุดกิโมโนใหม่ ทันทีที่ยาเอะเดินเข้ามา อาซามะก็ตะลึงกับความงามของเธอ
“ไงลูกทั้งสอง ชุดใหม่สวยมากๆ ท่านอาซามะคงจะรู้พวกเธอมาแล้วหรือยัง นี่ซาเอะและนี่ยาเอะ หยุดพักเรื่องนั้นก่อนแล้วกัน เอาเป็นว่า ท่านจงหาทุกวิถีทางไม่ให้มันเข้ามาในบ้านฉันได้” อิบาคิบอก ด้วยกฎของบ้านที่ค่อนข้างเข้มงวด ยาเอะและซาเอะจึงมิอาจจะพูดอะไรได้มากนอกจากนั่งยิ้มอยู่ข้างหลังพ่อของเธออย่างเขินอาย
“งั้นกระผมขอตัวลา” อาซามะบอกแล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินออกไป

เมื่อเดินออกมาถึงนอกบ้านแล้วอาซามะก็เจอซาคุยะที่กำลังรออยู่
“รู้แล้วใช่มั้ยว่าคนที่คิดร้ายกับพี่น้องฝาแฝดคู่นั้นคือ ริน” ซาคุยะถาม
“ใช่แน่นอน ฉันรู้แล้ว ว่าแต่แม่เด็กนั่นหายไปไหน” อาซามะตอบ
“จงอย่าประมาทในฝีมือของริน เธอมีอะไรหลายๆอย่างมากกว่านั้น เกินกว่าเด็กทั่วๆไป” ซาคุยะบอก
“แต่เด็กเพียงคนเดียวจะสามารถบุกทหารนับสิบกับซามูไรอีกเกือบสิบคนได้อย่างไร” อาซามะถาม
“อันนี้ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าหากนายคิดว่ารินนั้นด้อยฝีมือ นายอาจจะถูกเธอฆ่าเอาได้ และนี่เป็นจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาจากใครไม่รู้ แต่ส่งมาที่โยมิ แล้วเธอก็ฝากให้ฉันเอามาให้” ซาคุยะตอบแล้วก็ยื่นจดหมายฉบับนั้นให้
“ขอให้โชคดีละสำหรับคืนนี้” ซาคุยะพูดเสร็จก็เดินจากไป

อาซามะจึงเปิดจดหมายฉบับนั้น
“เนื้ออันหอมหวานอร่อยใช่ว่าจะมีผู้ล่าที่ได้กลิ่นมันเพียงหนึ่งแต่อาจจะเป็นสองหรือสาม ค่ำคืนนี้จะไม่ใช่มีเพียงแต่รินคนเดียว แต่จะมีผู้ล่าอีกคนที่จะเช่นกัน ซึ่งถ้าไม่สำหรับผู้ล่าคนที่สามก็จะออกล่าต่อ ด้วยความหวังดีจาก ชายปริศนา” อาซามะอ่านจดหมายฉบับนั้นก็พอจะรู้ได้ทันที เขาจึงรีบกลับไปยังปราสาทจินเซเพื่อหาจุนเปและรันมารุเพื่อให้มาช่วยในงานนี้ด้วย ทันทีที่เขาหันเดินออกไปตามทาง

กริ๊ง กริ๊ง...

เสียงกระพรวนคู่หนึ่งถูกสั่นไปมาจนเกิดเสียง ซึ่งมีหญิงสาวที่อาซามะเจอที่เชิงเขาเมื่อวาน เธอกำลังเดินตรงเข้ามาหาอาซามะจากด้านหลัง อาซามะก็รู้ตัวดี แต่พอเขาหันกลับไปมองก็ไม่เจอหญิงคนนั้นอีกแล้ว
ทำอะไรต้องเงียบไว้บ้าง รินกำลังจับตามองนายอยู่ และคืนนี้รินจะทำไม่สำเร็จ และนายก็จะคุ้มครองไม่ได้ด้วย” เสียงของหญิงสาวคนนั้นกระซิบข้างๆหูอาซามะจากด้านหลังอีกฝั่งหนึ่ง อาซามะจึงรีบหันกลับไปอีกครั้งก็ไม่เจอแล้ว และรินที่แอบมองอาซามะอยู่ห่างนั้นก็เดินจากไป
Logged


!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #2 on: July 11, 2006, 06:10:37 AM »

ตอนที่ 3 ค่ายกลคุโรซาว่า

ในเย็นวันนี้ที่บ้านคุโรซาว่าเต็มไปด้วยเหล่าทหารและคนรับใช้ที่อยู่เต็มเน้น รวมทั้งซามูไรผู้เก่งกาจด้วย ฝาแฝดคุโรซาว่าจึงรู้แน่นอนว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านของเธอ แต่ไม่มีใครยอมบอกพวกเธอเลย ซึ่งพ่อของเธอนั้นพาเธอไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งภายในบ้านนั้นมีเพียงแต่เหล่าทหารและซามูไร เหมือนเป็นเพียงกับดักของคุโรซาว่าที่ล้อนักฆ่าเข้ามาติดกับ

ที่แม่น้ำกุรุ รินนั่งพายเรือมาจอดที่ท่าน้ำแถวๆนั้น ซึ่งเส้นทางนั้นค่อนข้างปลอดคนเธอจึงเลือกเส้นทางนี้ ในระหว่างที่เธอกำลังจะลงจากเรือนั้น เธอก็ได้ยินเสียงคนเดินมา เธอจึงรีบวิ่งไปหลบที่กำแพงข้างๆ
“ใครกันที่คิดจะปองร้ายคุณหนู พวกนายรู้มั้ย” ทหารคนใช้เหล่านั้นยืนคุยกันแถวนั้น
“ไม่รู้” ชายในกลุ่มต่างตอบเป็นเสียงเดียวกัน
“แต่ฉันรู้” รินที่กระโดดลงมาจากกำแพงนั้นใช้ดาบสั้นฟันทหารกลุ่มนั้นอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะตกถึงพื้น ชายกลุ่มนั้นก็ตายหมด
“ฉันนี่ไง” รินพูดทิ้งท้ายแล้วก็เดินตรงเข้าไป แล้วฟ้าก็เริ่มร้องทำท่าทีเหมือนฝนกำลังจะตก

ที่บนหลังคาบ้าน 3 ชั้นฝั่งตรงหญิงสาวชุดดำนั้น ยืนมองดูระเบียงคฤหาสน์คุโรซาว่าที่มีแต่เหล่าทหารและซามูไรรายล้อมไปหมด
“ริน” สาวชุดดำคนนั้นจึงใช้ตะขอเชือกข้ามไปยังหลังคาบ้านอีกฝั่ง แล้วก็กระโดดลงที่กำแพงหน้าคฤหาสน์และวิ่งอ้อมๆไปตามกำแพงและหลบหลังตามต้นไม้เพื่อไม่ให้ทหารเห็น

สองสาวน้อยนักฆ่าค่อยๆย่องเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับฆ่าเหล่าทหารที่เห็นพวกเธอไปตามทาง และเมื่อมาถึงคฤหาสน์ทั้งคู่เลือกที่จะไต่ขึ้นไปยังชั้นบนสุด โดยไม่เข้าประตูจากชั้นล่าง เพราะนั่นจะทำให้โดนรู้ตัวโดยง่าย

ที่ห้องชั้นบนสุด
“อาซามะ แน่ใจเหรอว่านั่นมันจริง” จุนเปถาม
“จะจริงไม่จริง ก็ต้องทำ เพราะถ้าไม่จริงก็ดีไป แต่ถ้าจริงมันจะเป็นอันตรายมากต่อครอบครัวคุโรซาว่า” อาซามะตอบ
“มีบางอย่างกำลังมา” รันมารุบอกแล้วทั้งสามที่อยู่ในห้องจึงเงียบลงทันที แล้วฝนก็เริ่มตกลงมาทันที

เมื่อสองสาวนักฆ่ามาถึงชั้นบนสุดก็เห็นซามูไรที่เดินอยู่ที่ระเบียง และทั้งคู่ก็เห็นพวกเขากันเองที่แอบอยู่คนละฝั่งจากคฤหาสน์ ทั้งคู่จึงกระโดดขึ้นไปยังหลังคาคฤหาสน์ที่มีขนาดใหญ่

 “เธอเป็นใคร” รินถาม
“ฉันมีหน้าที่มานำสิ่งของบางอย่างจากคุโรซาว่า” สาวชุดดำตอบ
“แต่ฉันก็มีหน้าที่มาฆ่าคุโรซาว่า เธอจงหลบไปซะ นี่มันงานของฉัน อย่ามาแย่ง” รินบอกแล้วก็ชักดาบสั้นออกมา
“ถ้าต้องการอย่างนั้นก็เอาซิ” สาวชุดดำชักมีดคู่ออกมา
ทั้งคู่ยืนจ้องมองกันนิ่ง จนฟ้าผ่าขึ้นเป็นสัญญาณ ทั้งคู่จึงวิ่งตรงเข้าโจมตีใส่กัน เสียงปะทะของดาบและมีดนั้น ถูกเสียงฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างแรงกลบหมดจนทำให้พวกอาซามะไม่ได้ยินเสียงอื่นใดนอกจากเสียงฝน

...บทเพลงสายฝน จิ้งจอกราตรีนิ่งสงบ เงาดำเริ่มจางหาย การต่อสู้ของสองคนนี้จะไม่มีทางจบ ด้วยเพียงก้อนหินเล็กๆ 2 ก้อนนี้...
ชายคนหนึ่งที่นั่งดูการต่อสู้ของสองคนนี้บนกิ่งไม้ต้นโคโมะ (ต้นม่อนขนาดใหญ่ที่มีความสูงเต็มที่เท่าตึก 5 ชั้น) และการต่อสู้ของสองคนนี้ก็ค่อนข้างสูสีไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ จนทั้งคู่ตั้งหลักแล้วกระโจนเพื่อแลกคมศาสตราของแต่ละฝ่าย ชายที่นั่งดูอยู่นั้นจึงดีดก้อนหินเล็กๆ 2 ก้อนไปทันที ก้อนแรกนั้นโดนเข้าที่ข้อเท้าขอสาวชุดดำจนทำให้เธอเสียหลัก รินจึงฉวยโอกาสใช้เท้าเหยียบไปที่แขนเพื่อให้ตนนั้นอยู่สูงกว่า (หลักการต่อสู้ทุกชนิด ใครอยู่ที่สูงกว่าจะได้เปรียบ) แล้วเธอก็ใช้ดาบสั้นฟัน แต่ก้อนหินลูกที่สองนั้นพุ่งเข้าโดนที่ข้อมือของริน จนทำให้มือของเธอนั้นเจ็บจนปล่อยดาบสั้นกระเด็นหลุดออกไป เธอจึงดีดตัวหลบออกมา

“ก้อนหินหรอ” สาวชุดดำหยิบก้อนหินที่ตกอยู่แถวเท้าเธอขึ้นมา
“เอาเป็นว่า งานนี้ใครได้ก่อน คนนั้นก็ได้ไป” สาวชุดดำพูดเสร็จก็กระโดดลงไปจากหลังคา
“ไม่มีทางหรอก” รินจึงกระโดดตามไป แต่เมื่อเธอเปิดประตูชั้นบนสุดเข้ามาก็เจอกับอาซามะและพองเพื่อน
“ริน ว่าแล้วต้องเป็นเธอ หยุดให้ยอมจับกุมซะ แล้วโทษจะลดลง” อาซามะบอก รินจึงเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ เธอยืนนึกอยู่สักพัก แล้วซามูไรนายหนึ่งที่ย่องเข้ามาทางด้านหลังเธอนั้นก็ใช้ดาบฟัน แต่รินไหวตัวทันหลบพร้อมกับชักดาบสั้นของเธอออกมาแทงเข้าที่ซอกคอซามูไรนายนั้นจนมิดด้าม อาซามะและเพื่อนๆจึงเห็นความโหดและความเก่งกาจของเธอ พวกเขาจึงชักดาบออกมา
“จะมีความหมายอะไรถ้าฉันมอบตัว ใครๆก็จะมองฉันว่าเป็นยังไงนายเองก็น่าจะรู้ วิธีเดียวที่จะช่วยฉันได้คือต้องฆ่าพวกนายพวกที่รู้เรื่องของฉัน” รินบอก แล้วประตูอีกฝั่งหนึ่งก็เปิดเบาๆ ซึ่งสาวชุดดำนั้นย่องเข้ามาอีกฝั่งและลงบันไดไปยังชั้นล่างต่อไป

แล้วจู่ๆก็มีเสียงบางอย่างหมุนอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียงที่อาซามะได้ยิน จนมันดังขึ้นเรื่อยๆเขาจึงรู้ว่าเป็นเสียงของกงจักร เขาจึงดึงพวกเพื่อนๆก้มหลบ แล้วที่ประตูด้านหลังเขานั้นก็มีกงจักรขนาดใหญ่ร่อนทะลุเข้ามาและทะลุออกประตูอีกฝั่งไป (กงล้อขนาดใหญ่ที่มีดาบปักอยู่ที่ปลายทั้ง 8 ด้าน) เมื่ออาซามะลุกขึ้นมาได้ก็ไม่เห็นรินแล้ว เขาจึงมองไปที่บันไดทางลงก็เห็นเงาของรินวิ่งผ่านลงไป พวกเขาจึงรีบลุกขึ้นวิ่งตามไปทันที

เมื่อสาวชุดดำลงมาถึงชั้นล่างโดยไม่มีใครรู้ เธอก็มาถึงประตูห้องของพี่น้องฝาแฝด แต่พอเปิดประตูเขาไปแล้วนั้น ในห้องกลับไม่มีคนอยู่เลย แล้วเธอก็เห็นปริศนาบางอย่างที่ตู้ของๆห้อง ซึ่งต้องนำเหรียญมาใส่ซึ่งมีอยู่ 4 ชิ้นคือ เหรียญตราประจำตระกูลหัวหน้าคนรับใช้ 4 คนในบ้าน ซึ่งเธอได้ขโมยมาแล้ว 3 อันจากในช่วงกลางวัน เธอจึงเอาเหรียญทั้ง 3 ใส่แล้วก็ออกจากห้องไปหาเหรียญชิ้นสุดท้าย

“ริน หยุดเดี๋ยวนี้” อาซามะวิ่งไล่ตามไปติดๆ จนเธอมาสุดทางเดินซึ่งเป็นทางตัน
“ไม่มีทางหนีแล้ว มอบตัวซะ” รันมารุบอก แล้วรินก็เห็นสาวชุดดำที่วิ่งขึ้นบันไดมาซึ่งอยู่ด้านหลังพวกอาซามะ สาวชุดดำเห็นเหตุการณ์แล้วเธอจึงยิ้มให้ก่อนที่จะวิ่งจากไป
“ยังเด็กอยู่เลย ใช่แน่เหรอ อาซามะ” จุนเปถาม
“ใช่แน่นอน พวกเราคนเดียวอาจจะสู้เธอไม่ได้แน่ ต้องรุมเว้ย” อาซามะตอบ ในช่วงที่พวกอาซามะกำลังจ้องมองที่รินไม่คาดสายตากลัวว่าเธอจะเล่นทีเผลอ แต่แล้ว รินกลับมีสีหน้าที่เศร้าซึมลงและเก็บดาบสั้นของตน พวกอาซามะจึงประหลาดใจขึ้นมาทันที แล้วรินก็ดึงผ้าที่พันตรงเอวออก จนทำให้เสื้อผ้าทุกส่วนมันหลวม พวกอาซามะจึงตกใจทันที
“นี่เธอจะทำอะไร” อาซามะถาม
“หนูหมดหนทางสู้แล้ว จะทำอะไรหนูก็เชิญ” รินพูดด้วยเสียงอ่อนหวานค่อยเอามือของเธอนั้นดึงเสื้อออกอย่างช้าๆ
“ไม่ๆ พวกเรามาจับ ไม่ใช่มาทำอะไรเธอ” อาซามะบอกแล้วพวกเขาก็รีบปิดตาทันที
“เจ้าพวกโง่” รินพูดเสียงแข็งขึ้นมาทันที พอพวกอาซามะลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นเธอแล้ว
“โดนหลอกอีกแล้วเหรอเนี่ย” รันมารุเจ็บใจกับตัวเอง
“ก็แกโง่ไง ไปปิดตาเอง” จุนเปบอก
“ทั้งหมดแหละอย่าโทษกัน โง่พอๆกันละ” อาซามะบอก
“ไม่ ฉันแอบดูนิดๆ เด็กนั่นขาวสุดยอด ถ้าไม่ใช่พวกนักฆ่านะ จะขอแต่งงานเลย” จุนเปหัวเราะขึ้นเล็กๆ
“เอาละ พวกเราตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอหนีไปไหน งั้นแยกกันตามหา ฉันจะไปแถวห้องพี่น้องฝาแฝด จุนเปนายไปสวนหลังบ้าน เธออาจจะหนีไป รันมารุนายดูทั่วๆชั้น 2 นะ เธออาจจะหลบซ่อนที่ใดสักแห่งในบ้านหลังนี้” อาซามะแบ่งงานเสร็จพวกเขาก็แยกย้ายกันไป

รินสวมใส่เสื้อผ้าจนเสร็จเธอก็เดินไปต่อ ซึ่งในห้องข้างๆที่เธอเข้ามาหลบซ่อนนั้นมีเสียงคนพูดคุยอยู่ เธอจึงไปแอบฟัง
“โอซาก้า แกอยากฉลาดเหมือนท่านอิบาคิมั้ย ที่คิดวางแผนวางค่ายกลทุกอย่างไว้ดี แถมยังเอาตัวเองและคุณหนูไปหลบในห้องใต้ดินซึ่งมีทางลงเดียวที่ในทางลับห้องคุณหนู” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“เออ ใช่ ถ้าฉลาดได้ขนาดนั้น พวกเราคงรวยเป็นมหาเศรษฐีแล้วละ” โอซาก้ากระดกเหล้าขึ้นดื่ม
“แถมประตูห้องลับนั่นยังต้องใช้เหรียญ 4 อัน ของพวกเราไปใส่ประตูถึงจะเปิด ตอนนี้ในบ้านหลังนี้ก็มีแค่เรา 2 คนมีกันคนละเหรียญ ส่วน คิริว กับ ทาจิบานะ ก็ไปนอกเมือง พวกนั้นไม่มีทางเข้าประตูนั้นได้แน่นอน” ชายคนเดิมพูด
“โอย ปวด ไม่อยากอั้น เดี๋ยวมาละ” โอซาก้ารีบลุกขึ้นแล้วก็เดินออกไปจากห้องทันที เมื่อโอซาก้าออกมา สาวชุดดำที่ใช้ตระขอเกาะที่เพดานนั้นเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและได้ยินที่พวกเขาคุย และที่เอวของโอซาก้านั้นมีเหรียญแขวนอยู่ สาวชุดดำจึงเดินตามไปอย่างช้าๆ แต่พอพ้นทางโค้งไปนั้น ซึ่งเป็นห้องที่รินอยู่ รินใช้ดาบสั้นตัดเชือกที่ผูกเหรียญนั้นไว้ แล้วเธอก็เอามันมา พอสาวชุดดำไป รินจึงออกมาจากห้องและรีบวิ่งไปยังห้องพี่น้องฝาแฝดทันที พอสาวชุดดำตามโอซาก้าไปสักพักเธอก็เริ่มรู้ว่าเหรียญไม่อยู่กับตัวโอซาก้าแล้ว เธอจึงนึกถึงรินและรีบวิ่งกลับไปยังพี่น้องฝาแฝด

เมื่อมาถึงห้องพี่น้องฝาแฝด รินก็เห็นอาซามะที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น เธอจึงเดินเข้าไปพร้อมกับชักดาบสั้นออกมาจ่อที่ของอาซามะเพื่อดูว่าเขานั้นแกล้งหลับหรือเปล่า แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น รินจึงเก็บดาบแล้วก็เตะอาซามะไป 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะเดินไปผนังกำแพงเพื่อเอาเหรียญใส่ ทันทีที่ใส่สาวชุดดำก็โผล่เข้ามา ทั้งคู่ได้เจอกันอีกครั้ง แต่แล้วพื้นห้องทั้งหมดก็เปิดทำให้พวกเขาทั้ง 3 ล่วงลงไปข้างล่าง แล้วก็มีลูกดอกยาพิษมากมายยิงใส่พวกเธอจนทำให้พวกเธอนั้นสลบไป

“ค่ายกลของท่านอิบาคินี่ฉลาดล้ำลึก เหรียญนั่นมันมีอยู่ 4 จริง แต่ที่ฉันนั้นมันของปลอมหากใส่เข้าไปมันจะกลายเป็นกับดักแทนเปิดประตู ของจริงท่านอิบาคิเก็บกับตัวต่างหาก” ชายที่นั่งคุยกับโอซาก้านั้นเดินมาดูก่อนที่จะเดินออกไป

*****
*** โอซาก้า ซานิกาว่า – 1 ใน 4 หัวหน้าพ่อบ้านประจำบ้านคุโรซาว่า –อายุ 38 ปี –กับกฎของบ้านที่เข้มงวด พ่อบ้านทุกคนจะทำตัวเรียบร้อย แต่สำหรับเขายามลับหลัง อิบาคิ หรือ พี่น้องฝาแฝดแล้ว เขาจะค่อนข้างทำตามใจตัวเอง ทำตามอิสระ และเขาชอบดื่มเหล้ามากๆ
Logged


SuperJong
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3322


« Reply #3 on: July 11, 2006, 10:19:58 AM »

ทำไมขยันแต่งจังง  :D
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.08 seconds with 20 queries.