Summoner Master Forum
October 09, 2024, 06:18:12 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: 1 [2]  All
  Print  
Author Topic: นิยายแต่งเองเรื่องนึง (- -) หลายตอน สำหรับคนขยันอ่าน (เนกิมะ) (เวอร์ชั่น กระผม)  (Read 10606 times)
0 Members and 4 Guests are viewing this topic.
!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #30 on: July 11, 2006, 05:44:28 AM »

ตอนที่ 30 ความจริงระหว่าง เจ้า กับ แบงค์

“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญนักกีฬาคู่ต่อไป เข้ามาในสนามได้เลยค่า...”

เมื่อสิ้นเสียงประกาศประตูใหญ่ก็เปิดออก เต้ และ เซตซึนะ ต่างเดินออกมาพร้อมกัน

“ถุงมือนั่น” เจ้าประหลาดใจขึ้นทันทีเมื่อเห็นถุงมือข้างซ้ายของเต้

การต่อสู้รอบก่อนรองชนะเลิศคู่ที่ 4 เริ่มได้เลยค่า...

เต้เกร็งพลังปราณที่มือซ้ายทันที
“*ถึงจะหมัดต่อหมัด แต่เราถนัดวิชาดาบมากกว่า ค่อนข้างเสียเปรียบ*” เซตซึนะตั้งท่าสู้
“*เราถนัดหมัดมากกว่าเตะ เราต้องเป็นตัวของตัวเอง เราต้องเก่งกว่าแบงค์ให้ได้*” เต้พุ่งคิดอย่างมุ่งมั่นจากนั้นก็ออกวิ่งตรงเข้ามา
“*เสียงฝีเท้า ทำไมมันรัวขนาดนั้น*” เซตซึนะประหลาดใจ

เต้ออกหมัดซ้ายโจมตีใส่ เซตซึนะจึงประหลาดใจอีกที่ว่าเต้นั้นดูเหมือนคนปกติ ไม่ได้มีความเร็วอะไรมากมาย เธอจงหลบหมัดนั้นได้และจับที่ข้อมือเพื่อที่จะเหวี่ยง

ฟิ้วฟิ้วฟิ้วววว........

“*อะไรกัน*” เซตซึนะรู้สึกเหมือนหมัดของเต้นั้นโจมตีใส่จุดเดิมอีกหลายครั้ง แต่เธอกลับไม่เห็นอะไรเลย แล้วก็เห็นลมลางๆเป็นหมัดของเต้ที่เหวี่ยงแขนออกมาทางซ้ายปัดร่างของเซตซึนะจนกระเด็นออกไป

“เรามาเดิมพันคู่นี้ต่อกันมั้ย คู่นั้นมันเสมอไม่รู้ผล” อัลบอก
“เลิกคิดอะไรบ้าๆได้แล้ว” เอวาเจลีนตะหวาดใส่
“แหม ก็มันน่ารักดีนี่” อัลพูดอย่างหน้าใสซื่อบริสุทธิ์

ที่ห้องควบคุม
“ขอบใจลื๊อมากนะที่รับงานนี้ให้อั๊ว” เจ้ายิ้มขึ้นทันทีที่เห็นแบงค์เข้ามา
“นั่นน่ะเหรอ คือญาติคนสำคัญของเธอ” แบงค์ถาม
“ใช่แล้ว หนูเนกิเป็นญาติคนเดียวของอั๊วในตอนนี้” เจ้าตอบ
“ก่อนที่จะถึงเวลานั้น ฉันนึกว่าเขาจะเก่งกาจมากตั้งแต่เด็กๆ แต่ฝีมือก็ใช้ได้นะ และกว่าจะถึงวันนั้นคงจะเก่งกาจน่าดู” แบงค์พูดขึ้น
“ฉันไม่อยากขัดจังหวะนะ แต่เนตรมารของฉันมันบอกไว้หมด แต่ก็ไม่คิดอะไร รุ่นพี่คนนี้คงจะไม่ใช่จอมเวทย์ปกติ และไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้หรือเปล่า” มานะเอ่ยถามขึ้น
“ใช่แล้วละ” แบงค์ตอบ
“อีเขามาพร้อมกับอั๊วเองแหละ ในตอนนั้นอีเป็นญาติของอั๊วคนเดียว แต่ตอนนี้อั๊วได้เจอญาติของอั๊วที่แท้จริงแล้ว” เจ้ายิ้มให้
“ความสามารถของฉันนั้นก็มีอยู่ไม่กี่อย่างละ ไม่เห็นคนอื่นๆ ฉันมีตาที่มองและลอกเลียนแบบได้รวดเร็ว ฉันมีสมองที่คิดคำนวณในสิ่งที่ฉันถนัดที่สุดได้ แต่ที่สุดของฉันคือ สามารถเข้าไปในความทรงของใคร เข้าฝันใคร หรือเข้าไปทำลายสิ่งต่างๆในอดีตของคนนั้นได้” แบงค์พูดขึ้นพร้อมกับเปิดม่านตาที่ขยายออก
“แต่ที่อั๊วต้องสร้างของให้อีเพราะติดหนี้บุญคุณที่อีพาอั๊วมาได้ขนาดนี้นี่ละ” เจ้าบอกแล้วพวกเขาก็เดินกลับมาดูการต่อสู้ที่ระเบียง

“ทำไมถึงให้ถุงมือที่อั๊วสร้างขึ้นให้กับคนอื่น” เจ้าถาม
“เพราะนั่นคือตัวแทนฉัน ที่จะฝากความหวังเอา 10 ล้าน ฉันก็หวังเงินรางวัลงานนี้เหมือนกันนะ” แบงค์ตอบ
“เห๊อ อั๊วคงพกเงินจากที่นั่นมาเยอะไปหรือเปล่า” เจ้าพูดขึ้น
“เพื่อนฉันคนนั้น ถึงโดยรวมแล้ว ถ้าเทียบในกลุ่มของพวกเธอและฉัน เขายังอ่อนหัดอยู่ แต่เขาก็มีบางข้อที่เหมือนกับเนกิคุง ฉันจึงอยากให้ทั้งคู่ได้เจอกัน เนกิคุงพยายามจะเดินตามนากิผู้เก่งกาจ เต้คุงเองก็พยายามจะเป็นได้แบบฉัน ทั้งคู่มีความมุ่งมั่นและความพยายามแบบสุดๆ มันน่าดูชมนะ มากกว่าที่จะมาดูฉันนั่งบี้ใครเล่น” แบงค์บอก
“ถ้าไม่รังเกียจ ถ้ามีโอกาสหน้าได้เจอกัน ฉันอยากลองขอปะมือกับรุ่นพี่ดูสักรอบ” มานะพูดขึ้น
“แน่เหรอฮ้า มานะจัง” เจ้าถาม
“ได้ทุกเมื่อ” แบงค์ตอบ

“*ทั้งๆที่ชายคนนั้นต่อสู้เหมือนคนปกติ ไม่ได้เก่งกาจเหมือนอย่างคนอื่นที่เราเคยเจอมา แต่ทำไมเขาถึงเข้าใกล้ไม่ได้เลย เหมือนกับว่าชายคนนั้นมีร่างเงาที่ซ้อนกันนับ 10 ซึ่งถ้าเข้าใกล้ร่างเงาก็จะทำงานป้องกันตัวให้ทันที จะเอาแต่หนีกับป้องกันก็ไม่ได้ด้วย*” เซตซึนะกระโดดถอยออกมา

“มานะ หลังจากที่อั๊วเสร็จงานนี้แล้ว อั๊วก็คงต้องกลับบ้านละ” เจ้าบอก
“ฮือ” มานะเกิดสงสัยขึ้นทันทีกับคำพูดนั้น
“เมืองจีนน่ะเหรอ” มานะบอก
“ไม่ใช่หรอก มันเป็นความลับอันสำคัญของฉัน แต่งานนี้ อั๊วคิดว่าหน้าที่ของอั๊วได้ทำสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว เหลือแต่หน้าที่ของแบงค์ ซึ่งอั๊วทำมันไม่ไหวหรอก” เจ้าพูดขึ้น
“งานอะไรกัน” มานะถาม
“เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์” เจ้ายิ้มให้ มานะก็ยังคงไม่เข้าใจกับคำพูดนั้น
“จะบอกความจริง ก็บอกไปเลยซิ” แบงค์บอก
“ม่ายเอา อั๊วจะเอาไว้บอกทุกคนพร้อมกัน”
“แล้วงานของรุ่นพี่คืออะไรเหรอ” มานะถาม
“ฆ่า...” แบงค์ตอบ
“อย่าตกใจ มันมีบางอย่างที่จะทำบางสิ่ง ซึ่งอั๊วต้องคอยหาข้อมูลของคนนั้น และให้อีจัดการ อั๊วสู้ไม่ไหวหรอก” เจ้ารีบพูดขึ้น
“เธอเองก็น่าจะช่วยฉันนะ ยังดีกว่ายืนดูฉันสู้ จะได้กลับบ้านพร้อมๆกัน” แบงค์เอามือลูบหัวเจ้าเบาๆ
“แล้วเธอ 2 คนเป็นอะไรกัน” มานะถาม
“อีก็คือพี่ชายอั๊วเอง แต่ไม่ใช่สายเลือดกับอั๊ว คือง่ายๆ อีไม่ใช่คนในตระกูลเดียวกับอั๊ว แต่อีเป็นพี่ชายอั๊ว” เจ้าตอบ มานะก็ยังคงงง
“ฉันเก็บเจ้ามาเลี้ยงไว้เองแหละ หลังจากที่ประวัติศาสตร์มันเกิดขึ้น ทั้งพวกฉันและพวกเธอ ต่างต้องสลายลง ฉันกับเจ้าจึงคิดที่จะกลับมาแก้ไขและเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ โดยฉันใช้พลังเวทย์มนต์ 99% เพื่อทำให้เราทั้งคู่ได้มาที่นี่” แบงค์เล่าให้ฟัง
“อีก็เลยใช้เวทย์มนต์ไม่ได้ไง พลังเวทย์ไม่เพียงพอ” เจ้าหัวเราะขึ้น

“เอาง่ายๆเลย” มานะพูดขึ้น
“เรามาจากอนาคต” แบงค์และเจ้าพูดขึ้นพร้อมกัน
“อย่างนี้นี่เอง แล้วอะไรที่ทำให้อนาคตต้องล่มจมละ” มานะถาม
“การที่มนุษย์ไม่รู้ถึงเทคโนโลยี ซึ่งอั๊วก็ได้กลับมาสร้างมันและเผยแพร่ให้ใช้แก้ปัญหาต่างๆบนโลก” เจ้าตอบ
“แต่ก็ยังคงมีเหล่าปีศาจและจอมเวทย์ชั่วร้ายกลุ่มหนึ่งที่ใช้ธรรมชาติอย่างผิด ซึ่งต้นตอนั้นเป็นเพียงเด็กเพียงคนเดียว ซึ่งฉันต้องจัดการกับเขา” แบงค์ตอบ
“อั๊วเผลอบอกไปจนได้ เอาล่ะ เอาล่ะ ลื๊อเองก็ไม่ต้องตกใจอะไรหรอก พวกลื๊อทุกคนคืออดีตของอั๊ว มันไม่ใช่ที่ที่อั๊วควรอยู่” เจ้าบอก
“ไม่ว่ายังไง งานนี้ต้องทำเสร็จก่อนสิ้นสุดงาน เพราะถ้าต้นไม้โลกหมดพลังแล้ว ฉันกับเจ้าก็จะไม่ได้กลับไปอีก 22 ปี เพราะฉันไม่มีพลังเวทย์อะไรอีกแล้วแม้แต่จะใช้เวทย์มนต์ขั้นพื้นๆก็ตาม” แบงค์เล่าให้ฟัง
“ซึ่งเด็กคนนั้นคือหนูเนกิหรือเปล่า” มานะถาม
“ไม่ใช่หรอก หนูเนกิเป็นญาติคนสำคัญของอั๊วเลยละ” เจ้าตอบ ทุกสิ่งที่เจ้าและแบงค์พูดไปนั้น ยังทำให้มานะไม่เข้าใจเท่าไหร่

“หมัดปราณพิฆาต” เต้ใช้หมัดทั้งสองข้างโจมตีพร้อมกัน เซตซึนะจึงล้มตัวไปข้างหลังและจับข้อมือของเต้ทั้งสองข้างเหวี่ยงลอยข้ามตัวเธอไป

เต้จึงลุกขึ้นและวิ่งตรงเข้ามาออกหมัดขวาใส่เซตซึนะจึงหลบตัวไปด้านข้างและจับที่ข้อมือไว้และใช้มืออีกข้างโจมตีใส่อกของเต้ เต้จึงใช้หมัดซ้ายอัดใส่ เซตซึนะจึงใช้วิธีเดิม แต่ทันทีที่จับข้อมือซ้าย ร่างของเธอก็กระเด็นออกไป
“*นี่มันอะไรกัน*” เซตซึนะยังคงสงสัย
“*ใช่ซิ เมื่อกี้ตอนเราจับแขนขวากลับไม่เป็นอะไรและไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอจับแขนซ้ายกลับมีแรงต้านพัดเราจนกระเด็นออกมา ถ้าเราโจมตีจากด้านขวาตลอด เราก็ชนะได้*” เซตซึนะที่พอมองจุดอ่อนออกได้แล้วเธอจึงลุกขึ้นมาอีกครั้ง

“ดูเหมือนว่า ฉันต้องทำงานนี้ให้เสร็จภายในวันที่ 2 แล้วละ วันสุดท้ายจะได้เดินเล่นและพักผ่อนได้” แบงค์พูดขึ้น
“อั๊วเริ่มรู้สึกเหมือนว่าเจ้าเด็กคนนั้นจะเคลื่อนไหวอยู่ภายในงาน ซึ่งคงหาตัวไม่ยาก ซึ่งมันคงรู้แน่ว่า พวกเราเป็นใคร ช่วงนี้ลื๊ออยู่ใกล้ๆอั๊วไว้หน่อยก็แล้วกัน เหมือนว่าเด็กนั่นจะสนใจอั๊วมากกว่าลื๊อ” เจ้าบอก
“ก็ดีนะ ให้มันมาหาเอง” แบงค์ยิ้มขึ้น
“เรื่องนี้ควรบอกให้หนูเนกิรู้มั้ย” มานะถาม
“ไม่ต้องหรอก หนูเนกิต้องรู้ได้เองแหละ และหนูเนกิก็รู้ถึงความร้ายกาจของเด็กคนนั้นด้วย ถ้าฝ่ายโน้นมาเยอะกว่า ถึงเวลานั้นถ้าอีรับมือไม่ไหว อั๊วอาจจะบอกความจริงทุกอย่างและขอให้พวกลื๊อช่วยเองแหละ” เจ้าหันมาตอบ
“แต่ถึงยังไง งานนี้ก็ขอให้ฉันได้สนุกละกัน อยากรู้ฝีมือของโน้นเช่นกัน” มานะยิ้มขึ้น

“เดี๋ยวจบงานประลองนี้ อั๊วต้องไปเดินเล่นกับเพื่อนๆละ” เจ้าพูดขึ้น
“แล้วฉันละ” แบงค์ถาม
“อยากไปก็ไปซิ” เจ้าตอบ
“ได้เลยฮะ” แบงค์ทุบอกตัวเองให้แปรสภาพเป็นเด็กวัยเดียวกับเนกิ
“อั๊วจะบอกคนอื่นเองว่าลื๊อเป็นน้องชายอั๊ว หรือน้องสาวดีละฮ้า” เจ้าหันมาพร้อมกับนึกอะไรขึ้น
“อย่าคิดแบบนั้นเชียวนะ” แบงค์พูดขึ้น
“ฮ้าๆๆ เสร็จอั๊ว มานี่เลย หนู ฟาน หลินเฉิน” เจ้าหัวเราะขึ้นทันทีที่จับแบงค์จิ๋วแต่งเป็นเด็กหญิง
“ฮึฮึ...” มานะเห็นก็หัวเราะขึ้นเล็กๆ
“ดูๆไปลื๊อก็น่ารักนะฮ้า ฝีมืออั๊วอัจฉริยะอยู่แล้ว แต่งให้เนียนขนาดนี้ก็น่าจะดีใจนะ” เจ้าเอากระจกมาให้แบงค์ดู
“*ดูไปเราก็น่ารักดีนี่ แต่ทำไมต้องแต่งเป็นผู้หญิงด้วย เห๊อ ไว้รอมีโอกาสก่อนแล้วกัน จะเอาคืนบ้าง*” แบงค์ทำหน้าไม่พอใจทันที

“*นั่นคุณเจ้านี่*” เนกิเห็นเจ้าที่เดินออกมาที่ระเบียงพร้อมกับเด็กสาววัยเดียวกับเขา
“*แล้วนั่นใครกัน*” เนกิเองก็ประหลาดใจ
“เนกิ นายเหล่มองสาวที่ไหนอยู่น่ะ” โคทาโร่ยกมือขึ้นมาบังเนกิที่จ้องมองไปยังระเบียงศาลเจ้าชั้นที่ 3
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” เนกิตอบเสร็จก็กลับมาดูการต่อสู้ของเซตซึนะ
“*มีผู้บงการเจ้าอยู่เบื้องหลังด้วยเหรอเนี่ย และต้องมีผู้ร่วมด้วยอีกแน่เลย*” เนกินึกขึ้นอย่างหวาดหวั่น
Logged


!!! Unknow !!!
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 362


Email
« Reply #31 on: July 11, 2006, 05:45:19 AM »

ตอนที่ 31 หมัดนี้เพื่อ...

โซ โซ้...

เต้ใช้หมัดลึกลับของเขาโจมตีใส่เซตซึนะ ทำให้ร่างของเซตซึนะกระเด็นล้มลงไป
“*เข้าโจมตีได้ยากแล้ว แถมยังป้องกันการโจมตีได้ยากอีก สู้ไม่ไหวแน่เรา*” เซตซึนะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

...เพ่งจิตให้มาก แล้วจะสามารถใช้พลังธรรมชาติเป็นอาวุธได้...

เสียงปริศนาดังขึ้น เซตซึนะจึงแปลกใจ แต่เธอก็ตัดใจเชื่อและตั้งจิตขึ้น ไม่นานเธอก็ลืมตาขึ้นและวิ่งตรงเข้ามาหาเต้

“ฝ่ามือวายุชินเมริว” เซตซึนะกระโดดขึ้นไปและใช้ฝ่ามือเหวี่ยงมือฟาดไปที่เต้ ทำให้เกิดแรงลมขนาดใหญ่ฟาดลงใส่เต้ตามรอยมือ
“*ไม่น่าเชื่อ*” เซตซึนะเองก็ยังตกใจกับตัวเอง
“*โจมตีจากระยะไกล เค้าไม่ไหวแน่เลย*” เต้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง

…ต้องไหวซิ เต้ ซะอย่าง เพื่อนฝากความหวังไว้แล้ว ถึงแม้ถ้าจะแพ้ ก็ขอให้เต้สู้แบบสุดใจ...

“*แบงค์*” เต้ที่นึกขึ้นได้จึงกำหมัดซ้ายแน่น

เซตซึนะที่เห็นเต้ยืนนิ่งเธอจึงใช้ฝ่ามือนั้นสร้างลมโจมตีใส่เต้อย่างต่อเนื่อง แต่เต้ก็ยังยืนนิ่งและมองดูมือซ้ายของเขา

“*เข้าใจแล้วละแบงค์ ใช้ธรรมชาติเป็นพลัง เราเดินตามแบงค์ไม่ได้ แต่เราเดินในเส้นทางที่คู่ไปกันได้*” เต้เงยหน้าขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่น แล้วเขาก็วิ่งเข้ามาหาเซตซึนะและกระโดดหลบฝ่ามือวายุของเซตซึนะ

“หมัดจมพสุธา” เต้กระโดดขึ้นไปและใช้วิชาตัดระยะเข้ามาข้างหลังเซตซึนะและกวาดขาล่างจนเซตซึนะล้มลง แล้วเขาก็ใช้หมัดขวาต่อยลง เซตซึนะจึงกลิ้งตัวหลบออกมาได้ทันและดีดตัวออกห่าง

“*ถ้าในเมื่อลมก็เหมือนคมดาบ เราก็ใช้เพลงดาบต่างๆที่เราถนัดได้แล้วซิ*” เซตซึนะตั้งท่าสู้และบุกเข้าไป
“เพลงดาบตัดวายุ” เซตซึนะนึกสภาพในมือเธอถือดาบและสับไปแนวขวางไปยังเต้ ทำให้เกิดแรงระเบิดของลมขนาดใหญ่พุ่งชนใส่เต้จนเสื้อของเขาขาดกระจุยและกระเด็นล้มลงไป

1... 2... 3...

“*อะไรกัน เราที่พยายามมากขึ้นแล้วก็ยังสู้ไม่ได้อีกเหรอเนี่ย*” เต้นอนนิ่งทันที

4... 5...

“สงสัยจะเห็นผลแล้วซินะ” มานะพูดขึ้น
“ไม่หรอกค่ะ หนูคิดว่าเต้ยังลุกขึ้นได้” ฟานบอก
“ฮ้าๆ นี่ซิสมแล้วที่เป็นน้องสาวอั๊ว” เจ้าหัวเราะขึ้น

7... 8...

“อ๊า นักกีฬาเต้ลุกขึ้นมาแล้ว”

“แบงค์รู้ตัวว่าต้องแพ้ จึงฝากความหวังไว้ที่เรา และเพื่อนๆที่แพ้ไปนั้น ย่อมฝากหวังไว้ที่เราด้วย หากเราแพ้เหมือนเพื่อนๆ พวกเราก็จะเป็นพวกที่แพ้ไปตลอด” เต้พูดขึ้น
“เรามาตัดสินกันด้วยท่สุดท้ายเถอะ รุ่นพี่ เพื่อไม่ให้ฉันและรุ่นพี่ต้องเจ็บตัวไปกันมากกว่านี้” เซตซึนะพูดขึ้น
“ได้เลยครับ” เต้เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้และกลางแขนออกทั้งสองข้าง
“*จุดเดียวที่เราจะฟันแล้วน๊อคได้เลยคือท้ายทอยด์ หากเราหลอกล่อไปข้างหลังได้ เราก็ชนะได้*” เซตซึนะนึกแผนได้เสร็จ ทั้งคู่ก็วิ่งตรงเข้ามา

เต้ออกหมัดซ้ายใส่ทันทีแต่เซตซึนะที่ทำท่าจะโจมตีนั้นกลับก้มตัวหลบหมัดของเต้และใช้ฝ่ามือวายุสับเข้าที่ท้ายทอยด์ของเต้จนกระเด็นกลิ้งล้มลงไป

1... 2... 3... 4... 5... 6... 7...

“*เป็นไปตามแผนเลย รอบต่อไปคงได้เจอกับครูเนกิแล้วซินะ*” เซตซึนะยิ้มขึ้น

...อย่านิ่งนอนใจ ระวังให้ดี...

เสียงปริศนาดังขึ้นอีกครั้ง

8... 9...

ฟื้บ...

“หมัดขวาเจ้าวายุ”เต้ที่จู่ๆก็ตัดระยะเข้ามาหาทั้งๆที่นอนอยู่นั้นใช้หมัดขวาที่รวบรวมพลังลมเสยร่างของเซตซึนะจนลอยขึ้นไปแล้วเขาก็กระโดดตามขึ้นไปด้วยความเร็ว
“และหมัดซ้าย หมัดนี้เพื่อทุกคนใน 5-A” เต้ใช้หมัดซ้ายอัดเข้าที่ร่างของเซตซึนะจนกระเด็นตกลงมา

1... 2... 3... 4... 5...

“อะไรกัน รวดเร็วขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” เอวาเจลีนยังตกใจ
“ใช้ตัดระยะได้แม้ตอนล้ม” เนกิก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
“ช่างเป็นรุ่นพี่อีกคนที่เก่งกาจจนเมิณข้ามไม่ได้คนหนึ่งเลยนะเจ้าค่ะ” คาเอเดะพูดขึ้น
“ม่ายนึกเลยอีจะเก่งกว่าวังนั้งหลายเท่า” เฟยเองก็ตะลึงไปชั่วขณะ

6... 7... 8...

“โจมตีตอนเซตซึนะเผลอ ช่างคิดเหลือเกิน เพราะการป้องกันตัวด้วยการจู่โจมด้วยหมัดปกติ เซตซึนะป้องกันได้ดีมาก แต่ถ้าเผลอแล้วใครๆก็หลบไม่ได้” มานะพูดขึ้น
“บอกแล้วไงค่ะ ว่าเต้คุงเป็นอะไรที่เหนือกว่าหนูเสียอีก” ฟานยิ้มขึ้นทันที
“เหมือนหนูเนกิจริงด้วยๆเน๊อ” เจ้าเองก็ปรบมือให้

9...

“รุ่นพี่ช่างเก่งไม่แพ้ครูเนกิเลย ได้สู้กับรุ่นพี่ก็เหมือนได้สู้กับครูเนกิเลย” เซตซึนะยิ้มขึ้นอย่างดีใจ

... 10

“และแล้วคู่สุดท้ายในรอบก่อนรองชนะเลิศผู้ที่เข้ารอบไปเป็นคนสุดท้ายก็คือ นักกีฬา เต้คุง ค่า...”

“ขอโทษด้วยนะครับที่ลงแรงไป” เต้เดินเข้ามาพยุงร่างของเซตซึนะขึ้น
“ไม่หรอกค่ะ ฉันเองก็ยินดีที่ได้สู้กับคนเก่งๆอย่างรุ่นพี่” เซตซึนะยิ้มให้แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปจากสนามพร้อมกัน
“*แบงค์เราทำได้แล้ว เราเข้ารอบรองชนะเลิศแล้ว*” เต้ดีใจมากที่เขาทำได้

“เช๊อะ ถึงเจ้านั่นมันจะดูเก่งกว่าที่คิดไว้นะ แต่มันจะแค่ไหนกันเชียวกับอีหมัดติงต๊องเมื่อกี๊ *จะว่าไปมันก็เร็วเกินขนาดจริงๆ ตัดระยะจากที่ไกล แถมนอนอยู่ และเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากช่วงเมื่อกี๊ มันดูเก่งกว่าเจ้าหนูนี่ แต่มันกลับได้ที่ 2 แปลว่า เจ้าหนูนี่มันต้องมีอะไรดีมากกว่าที่คิดจนชนะเจ้านั่นได้*” เอวาเจลีนพูดขึ้น
“ฮ่าๆ ลูกศิษย์ฉันมันก็อย่างนี้กันละ มีเต้คุงนี่ละ ที่คิดว่านิสัยดีสุดของห้อง จึงเป็นที่พึ่งพาของเพื่อนได้ รองลงมาจากแบงค์” ทาคามิจิบอก
“เจ้าหนู แกเห็นจุดอ่อนของเจ้านั่นมั้ย คนที่จะสู้กับแกในรอบหน้าอ่ะ” เอวาเจลีนถาม
“ไม่เลยครับ มาสเตอร์” เนกิตอบ
“เจ้าบ้าเอ๊ย แค่นี้ก็ยังดูไม่ออก ไม่เห็นหรือไงว่าเจ้านั่นมันถนัดแต่สู้ในระยะใกล้ หากโจมตีระยะไกลกับหนีออกห่างไว้ แกก็ชนะได้แล้ว” เอวาเจลีนขึ้นเสียงใส่ทันที
“ครับ มาสเตอร์ ผมจะลองวิธีนี้ดู” เนกิเองก็ประหลาดใจ

“และแล้วรอบก่อนรองชนะเลิศก็ได้จบลงไป เราก็มาถึงรอบรองชนะเลิศ จุดสิ้นสุดใกล้มาถึงแล้วค่า ลองมาดูกันอีกรอบนะคะ”

สาย A                  สาย B
คู่ 1 คูเนล ซันดาส Vs นางาเซะ คาเอเดะ      คู่ 2 เนกิ สปิงฟิลด์ Vs เต้

“ถือว่าให้นักกีฬาได้พักเหนื่อยกัน เรามาชมโฆษณาและการแสดงต่างๆสักครึ่งชั่วโมงค่า...”

ห้องรับรองนักกีฬา
“ขอโทษด้วยนะคุณอาสึนะที่ฉันคว้าเงินรางวัล 10 ล้านมาไม่ได้” เซตซึนะพูดขึ้น
“อะไรกัน ฉันไม่ค่อยอยากจะหวังเงินเท่าไหร่หรอก แค่ลงแข่งตาม อ.ทาคาฮาตะ อีกอย่าง ยังมีเจ้าเนกิกับเจ๊คาเอเดะอยู่ ยังอาจจะได้ก็ได้” อาสึนะบอก
“หมดหวังยัยหนู ยังไงที่ยัยติงต๊องนั่นก็ได้ที่ 3 หรือ 4 และเจ้าเนกิมันก็ได้แค่ที่ 2” เอวาเจลีนพูดขึ้น
“แล้วจะเอาอะไรมาตัดสินยะ” อาสึนะขึ้นเสียงใส่
“แต่จะว่าไปรุ่นพี่คนนั้นก็เก่งใช่ย่อยเลยนะ นอกจากมีความอดทนและมุ่งมั่นพยายามที่เหมือนกับครูเนกิแล้ว ยังมีวิชาด้านการต่อสู้สูงกว่าครูเนกิอีก เพียงแค่ไม่ได้มีเวทย์มนต์” เซตซึนะบอก

“เต้ เก่งเว้ยเฮ้ย” วินและเพื่อนๆต่างเดินเข้ามาแสดงความดีใจให้กับเต้
“เออ เก่งใช้ได้ วันหลังย้ายชมรมไปอยู่ด้วยดีมั้ยเนี่ย” หนุ่ยบอก
“ชมรมเราไม่มีแล้ว ตอนนี้เราไม่มีชมรมอะไรอยู่หรอก ก็คิดว่าจะตั้งใหม่ละ” เต้บอก
“10 ล้านเว้ยเต้” อาทเดินเข้ามาตบบ่าก่อนที่จะหัวเราะขึ้น
“เออเว้ย เอาให้ได้นะเว้ย ได้ปุ๊บจะได้ฉลองกันเต็มที่เลยเว้ย” ก๊กบอก
“มีของฝาก น้ำซุบสูตรปั้มพลังของเจ้าเปาฉี” จุกส่งชามอาหารให้เต้
“ขอบใจทุกคนนะ แล้วมีใครเห็นแบงค์บ้างมั้ย” เต้ถาม ทุกคนจึงได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ
“เต้ เอาใจช่วยเว้ย” ต้นให้กำลังใจ
“เฮ้ย ถ้าไม่ได้อ่ะ ตายอ่ะรู้จักปะ ตายอ่ะ เตรียมตัวไว้เลย” หรี่พูดขู่ขึ้นทันที
“เฮ้ยๆ เพื่อนเรา ลองทำดิ” มิ้งเอาอกเข้าชนหรี่และมองหน้าหาเรื่อง
“อย่าให้ชื่อเสียงความหล่อของเค้าต้องพังละว่ามีลูกน้องในห้องอ่อน” แพ๊คพูดขึ้น เต้เองก็หัวเราะเล็กๆ

“ฮึฮึ... เด็กยังไงก็เป็นเด็กในกลุ่มเพื่อนย่อมสำคัญยิ่งกว่า ดูไปแล้วไม่ต่างไปจากห้องของเธอเลยนะ” ทาคามิจิพูดขึ้น
“ใช่เลยมันไม่ต่างกันเลย ติงต๊องเหมือนกันทั้งนั้น มีดีเงียบๆก็ไม่กี่คน” เอวาเจลีนบอก
“ฮ่าๆ เธอนี่ชอบมองพวกเขาในแง่ลบอยู่เรื่อยเลย มองในแง่ดีไว้บ้างก็ดีนะ” ทาคามิจิหัวเราะขึ้น
“อัล ที่จริงแกไม่จำเป็นต้องออมมือให้พวกนี้ก็ได้ ทำไปก็เท่านั้น ยังไงแกก็ชนะ  มันจะได้จบไวๆ ฉันจะได้ไปเดินเล่นในงานกับชาช่ามารุ ดูพวกแกสู้บางคู่ก็มันบางคู่ก็น่าเบื่อ นอนยังดีกว่าอีก” เอวาเจลีนสั่ง
“ได้ซิ งั้นต้องทำตาหวานๆและพูดว่า ท่านอัลขา ได้โปรดนะคะ” อัลบอก เอวาเจลีนจึงโมโหขึ้นมาอีกครั้ง
“ก็ได้” เอวาเจลีนตัดใจทิ้งแล้วก็ทำตาอันหวานใส่อัล
“ท่านอัลขา...” เอวาเจลีนสบตาสายตากับอัลจึงเห็นรอยยิ้มอันประหลาดของอัลจนทำให้เอวาเจลีนเสียสมาธิ
“ได้โปรดนะคะ” เอวาเจลีนกลั้นใจพูดเสร็จก็ตบหน้าตัวเองทันที

“ชายคนนั้นเหรอ คู่ต่อสู้กับข้าน้อยในรอบต่อไป คนในกลุ่มนั้นล้วนแต่น่ากลัวทั้งสิ้นไม่ว่าจะ เอวาจัง อ.ทาคาฮาตะ และชายคนนั้นก็คงฝีมือจะเหนือกว่าน่าดู สงสัยข้าน้อยคงต้องแพ้แน่เลยเจ้าค่ะ” คาเอเดะมองดูคูเนล
“จริงด้วยนะพี่สาว เห็นด้วยมั้ยลูกพี่ ชายผ้าคลุมนั้นหน้าตาก็คุ้นๆ เหมือนกับว่าต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับพ่อของลูกพี่แน่นอน” คาโมบอก
“เหรอครับ” เนกิฟังคำพูดของคาโมและมองดูที่คูเนลที่หันมามองที่เนกิและส่งยิ้มให้ภายใต้ผ้าคลุม
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #32 on: July 12, 2006, 01:58:36 AM »

วิเคราะห์ให้ครับ

ข้อที่ 1 ควรลงมาทีละตอนนะครับ แล้วค่อยๆให้เค้าตามไป ไม่งั้นเห็นแค่นี้ก็หมดกำลังใจอ่านแล้วครับ

ข้อที่ 2 ท่านขยันแต่งจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะ

ข้อที่ 3 ข้าน้อยยังอ่านไม่ถึงบทยังท้อแล้วเลย
Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #33 on: July 12, 2006, 07:34:24 PM »

โอย.............กว่าจะอ่านจบ :-X
ปล ลงทีละตอนก็ได้ครับ ไม่มีใครว่าหรอก
ปล 2 เนื้อเรื่องสนุกดีครับ :)
Logged


Pages: 1 [2]  All
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.074 seconds with 21 queries.