Summoner Master Forum
October 06, 2024, 07:23:26 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: หนูน้อยอีโต้แดง Remix!!!!  (Read 2610 times)
0 Members and 7 Guests are viewing this topic.
NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« on: May 05, 2006, 03:27:36 AM »

ขออภัยนะครับ ที่ยังไม่ได้มาแต่งต่อ (มีคนบอกมีคนเอา Fic ผมไปลงประมูลจริงรึป่าวหว่า แล้วมะได้ขอด้วย -_-a หรือว่าเราโดนเป่าหูกันแน่นะ)

แต่ผมเอาตอนเก่าๆมาทำให้อะนะครับ ก็ลองอ่านแล้วติติงอะไรผมให้ก็แล้วกันนะครับ เพื่อขอโทษ โพสให้ 2 ตอนน่อ

เนื้อเรื่องมะเหมือนเดิม แต่โครงยังเหมือนเดิมงับ (เอ๊ะยังไง) เอาเป็นว่า ช่วยอ่านและ ติให้ผมหน่อยนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ



บทที่ 1 เมืองอันแสนรันทม
   “นี่ ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวก็หกล้มเป็นแผลหรอก ยังจะทำหน้าบ๊องแบ้วอยู่อีก” เด็กชายผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาหา จับแก้มของเด็กน้อย ผู้ที่เกือบจะล้มลงกับพื้นดิน “รู้ไหมเนี่ย ว่าพี่เป็นห่วง” เด็กชายหยิกแก้มน้องสาวของเขา ทำให้ใบหน้าสีขาวซีดของเธอนั้น กลับมาแดงสดสัยน่ารักน่าชม
   เธอกวาดตาไปรอบๆตนเอง มองร้านค้า น้ำพุ สวนสาธารณะ ที่เธอพึ่งวิ่งผ่าน ก่อนจะปัดมือของผู้เป็นพี่ออก มือของเธอค่อยๆมาลูปที่หน้าของตนด้วยความเจ็บ ที่ผู้เป็นพี่ก่อเอาไว้ “พี่นี่หนูเจ็บนะ แล้วหนูก็ไม่ใช่เด็กแล้วด้วย พี่นี่เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง เดี๋ยวหนูหกล้ม แม่เค้าก็ซ่อมให้ใหม่เองแหละนี่ จริงไหมจ๊ะ เครคุง” เด็กหญิงหันหน้าไปหาน้องชายของตน ซึ่งกำลังรับประแดก ไอติมอย่างตะกระตะกราม
   เด็กชายในคราบตุ๊กตาหมีพยักหน้าตอบรับในเชิงรับรู้อย่างช้าๆ ก่อนที่จะกล่าวอะไรออกมาว่า “แต่พี่ครับ นี่มันก็จะมืดแล้วนี่ครับ เรากลับบ้านกันเถอะ” ขณะที่พูด เขาก็เลียไอติมของเขาต่อไป อย่างไม่หยุดยั้ง

   ตึก โคร่ม !! ตึกข้างหน้าพวกเขาทั้งสามได้ถล่มลงมา เสียงแผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่ว ท้องฟ้าคำรามออกมา ราวกับพิโรธใครผู้ใด เสียงสตรีผู้หนึ่งร้องออกมาดังลั่น ราวกับร้องด้วยความเจ็บปวด ปากของเธอราวกับต้องการสื่ออะไรบางอย่าง แต่ก่อนจะได้อ่านปากของเธอผู้นั่น คำตอบก็แจ้งออกมา ณ เบื้องหน้าของพวกเขา

   “กำจัดมันให้หมด อย่างให้เหลือซาก” เสียงของชายนายหนึ่งกล่าวออกมา น้ำเสียงของเขา เปี่ยมไปด้วยพลัง และความหนักแน่น จากหน้าตาและท่าทีของเขา น่าจะเป็นทหารที่อยู่ในระดับนายพล อายุของเขาราวๆ 30-40ปี แต่ในขณะที่เด็กชายกำลังพิจารณาอยู่นั่นเอง เสียงๆหนึ่งก็ทำให้สมาธิของเด็กน้อยผู้นั้นพลันหายไปอย่างรวดเร็ว เสียงที่มาจากด้านหลังเมือง เสียงที่ต้องมาจากบ้านของเขาอย่างแน่นอน

    “นี่ พวกเรารีบกลับบ้านกันเถอะ” หน้าของผู้เป็นพี่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด เขาได้กำมือน้องๆสุดที่รักไว้แน่น แล้วรีบวิ่งออกจากเหตุการณ์อันวุ่นวายในตัวเมืองในทันที เมืองที่มีแต่ซากศพ เมืองที่มีแต่การเข่นฆ่า เมืองที่มีแต่กลิ่นคาวเลือดฟุ้ง คลุ้งไปทั่ว

   เมื่อเขากลับมายังสถานที่ สถานที่เขาเคยเรียกว่าบ้าน สิ่งที่เคยให้ความอบอุ่นร่มเย็นแก่เขา แต่ ณ บัดนี้ สภาพที่เขาได้เห็นก็คือ กองซากเหล็กกองใหญ่กองนึง จากบ้านที่ไม่เคยผุพัง หรือแม้แต่การแตกหัก กลับบุบสลายและแตกหักอย่างไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
   “พ่อจ๋า แม่จ๋า” เสียงที่เด็กหญิงเรียกไปอย่ามีความหวัง หวังว่าคนผู้นั้นจะยังมีชีวิตอยู่ หวังว่าคนผู้นั้นจะรอดอยู่กับเธอต่อไป แต่หากว่า หาได้มีเสียงตอบกลับมาไม่ มีแต่เพียงเสียงลมแทรกผ่านอากาศ เสียงใบหญ้าขัดสีกัน

   เด็กชายนั้นก็เช่นกัน เมื่อได้เห็นสภาพบ้านตรงหน้า ก็อึ้งไป เขานิ่งราวกับจะสิ้นลมหายใจไปชั่วขณะ เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ก็มีอาการไม่น้อยไปกว่าน้องสาวของเขาหรอก ผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ เมื่อพ่อและแม่ตายไป พี่ต้องเป็นผู้ที่พาน้องไปสู้ความสำเร็จให้ได้ ถึงเขาจะคิดได้เช่นนั้น แต่เหตุการณ์ตรงหน้านั้น มันก็ทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก แล้วนี่เขาจะทำเช่นไรดี

   เด็กหญิงทรุดตัวลงกับพื้นดิน หยดน้ำเม็ดเล็กๆ ค่อยๆหยดลงมาจากใบหน้า และโหนกแก้มของเธอ “แม่ค่ะ พ่อค่ะ อยู่รึป่าวค่ะ ตอบด้วยสิค่ะ” และครั้งนี้ก็อีกตามเคย หาได้มีเสียงตอบรับใดๆไม่ น้ำตาของเด็กสาวไหลพรากลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำ “พ่อคะ แม่คะ”
   ส่วนเด็กน้อยอีกคนก็ได้แต่ร้องไห้ ไม่เป็นอันทำอะไร เมื่อได้รู้ว่า พ่อและแม่ของตนนั้นจากไป น้ำตาที่เขาหยดลงไปนั้น ก็ไม่แพ้พี่สาวของตนเช่นกัน

   เด็กชายโน้มตัวเข้ากอดน้องทั้งสอง ที่กำลังร้องไห้ ด้วยความเศร้าโศก ด้วยเหตุการณ์ตายของพ่อแม่พวกเขา น้ำตาแห่งการลาจากไหลนองไปทั่วบริเวณ
   “นี่ถ้าเรายังไม่เห็นศพ ก็ยังสรุปไม่ได้ว่า ท่านตายจริงใช่มะ” เด็กชายผู้พี่กล่าวออกมา ให้ความหวังแก่เด็กน้อยทั้ง 2 ถึงแม้จะช่วยไม่ได้มากในเวลานี้ก็ตาม แต่มันก็มีแค่สิ่งเดียว ที่จะกล่าวในตอนนี้ได้
   
   เด็กน้อยทั้งสองเริ่มมีความหวังอีกครั้ง ถึงแม้จะริบหรี่ก็ตามที
   
   ทันใดนั้นเอง ได้มีเสียงๆหนึ่ง ขัดสีกับพุ่มไม้ ถึงแม้จะเป็นเสียงที่เบาจนเกือบจะไม่ได้ยินก็ตามที แต่เด็กน้อยทั้ง 3 ที่กำลังอยู่ในสภาวะเป็นและตายกลับได้ยินอย่างแจ่มแจ้ง
���
« Last Edit: May 05, 2006, 03:36:13 AM by N (^o^) X » Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #1 on: May 05, 2006, 03:33:31 AM »

พวกเขาค่อยๆย่องเข้าไปดูแถวๆพุ่มหญ้านั้น และสิ่งที่พวกเขาเห็น เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นอีกครั้ง พ่อแม่เขา ที่พวกเขาเคยคิดว่าพวกท่านตายไปแล้ว กลับมาสู้กับเหล่าทหารที่มาบุกเมืองอย่างไม่ย่อท้อ

   ทันใดนั้นขณะที่พวกพ่อแม่ของเหล่าเด็กน้อยไม่ทันระวังตัว ทหารนายหนึ่งได้ลอบเข้ามาโจมตีทางด้านหลัง และถึงท่านจะหันกลับไปโจมตี หรือหลบก็คงจะไม่พ้นแล้ว หรือว่าจะเป็นจุดจบของเขา
   แต่ชะตาก็ยังหาถึงจุดจบไม่ ไอ้มีมีดลอยเข้าไปปักยังกลางหัวของทหารนายนั้นตายทันที

   เด็กสาวออกจากมาพุ่มไม้ กล่าวทักทายท่าพ่อท่านแม่ พร้อมดึงมีดของเธอออก เธอพร้อมที่จะร่วมต่อสู้กับ ท่านพ่อและท่านแม่ของเธอแล้ว
   เหล่าเด็กน้อยหลังพุ่มไม้ก็เช่นกัน พวกเขาไอ้เดินออกมา หยิบอาวุธของเขาทั้งหลาย ประจันหน้าเข้าหาเหล่าทหารเหล่านั้น ศึกนี้เป็นศึกระยะยาว เหล่าทหารถึงฆ่าอย่างไรก็ไม่หมดเสียที และแล้ว...

   เด็กสาวเกิดเสียท่าขึ้นมา ขณะที่ทหารกำลังจะเอาดาบมาแทงอยู่นั้น ก็ได้มีเงาของผู้ชายนายหนึ่งมาบังคมหอกคมดาบนั้นไว้ทันเวลา แต่ทว่า ร่างที่มารับดาบแทนเธอนั้น เป็นท่านพ่อผู้แสนดี Phantom Collector ท่านพ่อที่เธอคิดจะมาช่วย และกลับบ้านไปด้วยกัน อยู่ด้วยกันไปอีกนาน แต่ภาพเหล่านั้นก็ได้แตกสลายลงไปกับภาพเบื้องหน้า ความฝันของเธอได้แตกดับสลายไป

    แม่ของเธอก็เช่นกัน Lade Maquina เมื่อเธอได้เห็นภาพของสามีเธอถูกแทงอยู่ตรงหน้า สติของเธอก็ขาดสะบั้น น้ำตาของผู้หญิงผู้แข็งแกร่งได้ไหลลงมาอาบใบหน้าของเธอ เธอเข้าไปสู้ท่ามกลางเหล่าศัตรูอย่างไม่ลดละ ทำให้เธอได้รับบาดแผลมากมาย แต่ไม่ว่าบาดแผลใดๆ ก็ไม่เท่าแผลใจที่เธอนั้นกำลังได้รับอยู่หรอก
   
   และแล้ว เหล่าทหารก็หมดไป ร่างกายที่ร่อแร่ของเธอค่อยๆเดิมเข้ามายังร่างอันไร้วิญญาณของอดีตสามีเธอ ผู้ที่เพิ่งจากไปได้ไม่นานนี้ เธอล้มลงนอนเคียงข้างของชายนาม Phantom และได้กล่าวคำพูดสุดท้ายกับลูกน้อยไว้ว่า
   “ที่ๆนี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเหล่าลูกๆของแม่แล้ว จงรีบหนีไปซะไปซะให้ไกลจากที่นี่ จงมีความสุขในที่ๆเจ้านั้นฝัน อย่าจมปรักอยู่ในความเศร้าในเมืองนี้เลย จงไปซะเถอะ”
   เด็กสาวน้ำตาคลอเบ้า ร้องไห้หนักกว่าครั้งก่อนๆ กอดเสด็จแม่ของเธอไว้แน่น ถึงแม้พี่ของเธอจะกัดฟันบอกให้เธอไปได้แล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังกอดเสด็จแม่ของเธอไว้แน่น จนแม่ของเธอ จับมือของเธอ และกล่าวว่า
   “ไปเถอะลูก เดี๋ยวจะหนีไม่ทัน เหล่าพวกทหารกำลังจะยกกองกำลังมาใหม่อีกครา ไปเถอะลูกน้อยของแม่ จงมีชีวิตอย่างสุขสบายนะ”
   “ไปเถอะ”เด็กชายจูงมือของเธอออกห่างจากท่านแม่และท่านพ่อ แต่ใบหน้าของเด็กสาวก็ยังหันกลับไปมองไม่ละสายตาจากพ่อแม่ของเธอแม้วินาทีเดียว
   “ลาก่อนนะ เด็กโง่” Lade Maquina ยิ้ม และหลับไปอย่างสงบ

   เสียงฝีท้าวเริ่มตามมาอย่างรวดเร็ว เสียงโห่ร้องอันดังก้องดังเข้าโสดประสาท

   “ข้าคือ บุ๋มบิ๋ม หรือ Templar Knight General” ชื่อแรกที่เขาบอก เกือบทำให้คนทั้งกองทัพอดขำไม่ได้ แต่หากแต่ใครผู้ใดขำออกไป จะต้องโดนตัดหัวอย่างแน่นอน “เจ้าเครื่องจักร 3 ตัว เจ้าจงมอบตัวซะดีๆ อย่าหนีให้ยุ่งยากเลย ถึงอย่างไร เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี ฮ่าๆๆๆๆ”

   ทั้ง 3 คนยังคงวิ่งหนีต่อไป แต่ดูเหมือนจะวิ่งอย่างไรก็ไม่พ้นจากการตามล่าของเจ้าพลทหารนั่น

   “นี่ asจัง พาน้องหนีไปก่อน พี่จะยื้อเวลาตรงนี้ให้เอง” เด็กชายทำท่าขวางทางไม่ให้เหล่ากองทัพพลทหารผ่านไป
   “แล้วพี่ต้องกลับมาหาพวกเรานะ พี่สัญญานะ” เด็กสาวร้องหาคำสัญญา ถึงแม้คำสัญญานั้นจะเป็นไปไม่ได้ก็ตามที น้ำตาไหลออกจากเบ้าตาอีกครา
   
   “อืม จ๊ะ พี่สัญญา” ในความคิดตอนนี้ ในใจของพี่ชายอันแสนระทม ต้องไปสัญญาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้กับน้องสาวสุดที่รัก ถึงแม้พี่จะไม่เคยดีต่อน้องเลย แต่พี่ก็ยังรักน้อง พี่อยากให้น้องไปสู่ ณ ที่ๆดีกว่านี้ จงหนีไปซะ หนีไปให้พ้นจากเมืองอันแสนรันทมแห่งนี้ หนีไป




อ่านแล้วเป็นไงกันบ้างหว่า เดี๋ยวตอน 2 ต่อเลยน้าง๊าบ
« Last Edit: May 05, 2006, 03:41:04 AM by N (^o^) X » Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #2 on: May 05, 2006, 03:40:20 AM »

“เอ้า ! Pretty pins เข็มนับร้อยนับพันของข้า จงยื้อเวลาให้แก่น้องของข้าได้มากที่สุดเท่าที่เจ้าจะทำได้ ขอให้น้องของข้าไปได้ด้วยดี ขอให้น้องข้าได้เห็นความสุขสบายดั่งที่เคยมีพี่คนนี้อยู่ เจ้าจะต้องมีอนาคต เจ้าจะต้องอยู่ต่อไป  ขอให้พวกน้องๆของข้า โชคดี ย่าร์!” น้ำตาไหลพรากออกจากเด็กชายผู้มิเคยให้ผู้ใดเห็นน้ำตาของตน เข็มนับร้อยก็พุ่งออกจากตัว และมุ่งเข้าหาจุดหมายทันที ทหารผู้ที่ผู้เข็มจิ้มใส่จุดตาย ก็ได้ตายในทันที ส่วนผู้ใดที่โดนนิดๆหน่อยๆ ก็ต้องเจ็บปวดทรมาน จนมิเป็นอันสู้ต่อได้ แต่ถึงกระนั้น ทหารของกองทัพนั้นก็มีเยอะเหลือเกิน จน Murderous doll ไม่สามารถต้านทานได้อีก แต่ทว่า
  ยื้อให้ได้อีกซักพักน่า อีกซักพักนึง อีกซักนาทีก็ยังดี อีกซักนาที อีกซัก... สติของเขาเริ่มเรือนราง ก่อนเขาจะพึมพำอะไรออกมา “ขอโทษด้วยนะ แอสจัง เครจัง ที่พี่สามารถยื้อได้เพียงเท่านี้” เด็กชายก็สลบหลับไป

  “ท่านพี่บ้า ฮือๆๆๆๆๆ ท่านพี่ผิดสัญญา ฮือๆๆๆๆๆ” ถึงแม้จะรู้ว่าสัญญานั้น ท่านพี่ไม่สามารถรักษาไว้ได้ก็เถอะ แต่ก็ห้ามน้ำตาตัวเองให้อดคิดถึงพี่ชายผู้แสนดีของตนไม่ได้ ผู้ที่หยอกล้อเล่นกับเธอ ไปเที่ยวเล่น shopping กับเธอ ทานอาหารกับเธอ แต่ในขณะนี้ มันไม่มีแล้ว ท่านพี่ผู้แสนดี “ท่านพี่~~~~~~~~” เด็กสาวตะโกนออกมา นัยน์ตาของเธอจากที่อาบด้วยคราบน้ำตา กลับอาบด้วยพลังแห่งความแค้น ความชิงชังที่มีต่อเหล่าทหารพวกนั้น

  “พี่ครับหนีไปเถอะครับ ไม่งั้นสิ่งที่พี่มอร์เขาเสียสละเพื่อเรา มันจะเสียป่าวนะครับ” เด็กน้อยเรียกสติของเด็กสาวกลับมาได้ สายตาของเธอนั้น อ่อนโยนลง
  “อืม เราไปกันต่อเถอะจ๊ะ” แอสจังปาดน้ำตา และยิ้มให้น้องชายของเธอ ให้ดูเหมือนว่า เธอไม่เป็นอะไรแล้ว “รีบไปต่อเถอะ”

  แต่ไม่ทันไร พวกทหารก็ไล่ตามมาได้ทัน แม้ทหารเหล่านั้นจะไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขอยอมรับว่า ความอึดนั้นเยี่ยมยอดมาก ทหารบางนาย แม้จะมีเข็มจิ้มจนจะพรุนทั้งตัวก็ยังวิ่งต่อมาได้ และทหารอีกหลายนายก็ยังมีเข็มปักอยู่เลย

  “ถ้าเราหนีกับไป 2 คน พวกมันจะจับเรากันได้ทั้งคู่นะครับ พี่ครับ ผมจะต้านทางนี้ไว้ให้เองนะครับ พี่ไปต่อเถอะครับ หนีไปที่อื่น ไปเตรียมตัว แล้วกลับมาฟื้นฟูหมู่บ้านเราให้ได้นะครับ” เด็กน้อยพูดขึ้นมา คำพูดที่เด็กๆไม่น่าจะพูดออกมาได้ แปลว่าเขานั้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาแล้ว แต่ความกังวลของเธอก็ไม่หมด ถ้าเขาตายไป เธอจะอยู่กับใครหละ เธอจะอยู่ที่ไหนหละ เธอจะเล่นกับใคร

  “ตะ...แต่ว่า” เธอเอ่ยขึ้นมา แต่ก็ได้ถูกขัดไว้ก่อน
  “ไม่ต้องมีแต่ครับพี่ รีบไปเถอะครับ ผมบอกว่ารีบไปไงครับ ไปปปปปปปปปปปปปปปปปปป” แต่ทว่า ไม่ทันที่จะขาดคำ “ฉึบ!”เสียงดาบจิ้มทะลุตัวน้องชายของตนเบื้องหน้า มันหน้าฆ่าตัวเองนัก ที่ให้น้องชายมาปกป้องตนเอาได้

  “ฮ่าๆๆๆๆ ในที่สุด ก็เหลือเจ้าคนเดียวแล้วนะ เด็กน้อย ฮ่าๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะอย่างสะใจของ มหานักรบ Templar Knight General ก็เข้ามาแทนที่ เลือด ของ Crazy Teddy Bear เจ้าหมีน้อยก็ได้ย้อม ผมสีบรอนซ์ ของ Assassin doll กลายเป็นสีเลือดในทันใด

  “ฉันจะฆ่าแก Templar Knight ฉันจะฆ่าแก” แววตาของเด็กสาวส่อแววอาฆาตย์อีกครา

  “พี่ครับ อย่าครับ หนีไปเถอะครับ อย่างนั้น จะไม่มีใครมากู้เมืองนี้ได้อีกนะครับ” เด็กน้อยพูดอย่างมีความหวัง
  “จะตายแล้วยังจะปากมากอีกนะแก ฉึบ !” คมดาบแทงทะลุตัวเด็กน้อยนั้นลึกลงไปอีก ทำให้เด็กน้อยร้องดังลั่น
  “อ๊ากกกกกกกกกกก!!! ไปเร็วสิครับพี่ ไป” เจ้าหมีน้อยตะโกนเสียงดังลั่น
  “ฝากไว้ก่อนนะแก แล้วฉันจะมาเอากับแกคืน ให้สาสมไปเลย ฝากไว้ก่อนเถอะ” จากนั้นเธอก็ค่อยๆเดินถอยหลังไป ถอยหลังไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ แต่ทว่า
  “พี่คร๊าบบบบบบบบ ระวัง!!!” ฟิ้ว! ไม่ทันจะได้ฟังคำเตือนของผู้เป็นน้อง เธอก็ได้ตกลงไปเสียแล้ว ตกลงไปยังหน้าผาผู้ที่ไม่เคยมีใครลอดกลับมาได้ซักคน

  “ฮ่าๆๆๆๆ จะมาเอาคืนกับข้าเรอะ ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าคงไม่มีวันแล้วหละ ตกไปสูงขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆๆ ไป พวกเรา กลับเมืองได้ จัดการกับไอ้พวกสวะสถุนเสร็จแล้ว ยังมีอีกหลายเมืองให้เราไปเก็บกวาดอีก ฮ่าๆๆๆๆ สะใจจริงๆ ไม่คิดว่าคนสุดท้ายในเมืองจะฆ่าได้ง่ายอย่างนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” จอมนักรบหัวเราะอย่างสะใจในชัยชนะครั้งนี้ของตน และเดินจากไป พร้อมทิ้งกองซากศพไว้กลาดเกลื่อนเมือง



อ่านแล้วเป็นไงกันบ้างหว่า เดี๋ยวตอน 2 ต่อเลยน้าง๊าบ
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #3 on: May 05, 2006, 03:42:10 AM »

บทที่ 2 ชีวิตใหม่กลับคืน
   “ข้าแต่พระองค์ ถึงแม้ว่าข้านั้น จะไม่เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้จริงอยู่ แต่ว่า นี่ก็เป็นเพียงทางเลือกเดียวที่ข้าจะมีอยู่แล้ว ในตอนนี้ สิ่งที่ข้าอยากจะขอ ข้าอยากจะขอให้น้องของข้านั้น ยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างเป็นสุข อยู่สบายด้วยเถอะ” ตุ๊กตาตนหนึ่งที่กำลังจะสิ้นลมหายใจได้กล่าวพึมพำเป็นคำอ้วนวอนครั้งสุดท้ายของเขา
   สายลมยังคงพัดเฉื่อยๆ พัดเอาเศษหญ้าบริเวณนั้นลอยปลิวไปไกล แต่ตาของเขาได้สังเกตเห็นอะไรอยู่ด้านบน เหนือพื้นฟ้าสีครามที่เข้เห็นประจำ และก็เหมือนว่าเสียงของเขานั้นจะไปถึงยัง ณ ที่เขาปรารถนาจะให้ถึงแล้ว
   ปรากฏเป็นรูปของสตรีนางหนึ่งค่อยๆลอยลงมาอย่างช้าๆ ปีกของเธอสีขาวสง่าโบกสะบัด ขนปีกสีขาวของเธอนั้นปลิวไสวไปตามสายลมเย็นในบริเวณนั้น ท่านได้กระซิบเบาๆ กับ เด็กชายผู้นั้น ว่า “... ... ... ... (เขากระซิบกัน อย่าไปแอบฟังสิ)” และเมื่อจบคำกล่าวของเธอผู้นั้นดูเหมือนว่า เด็กชายผู้นั้นจะมีแววตาที่ยินดี น้ำจากตาของเขานั้นไหลพรากเป็นทางยาว
   และเขาก็ได้กล่าวคำพูดสุดท้ายในชีวิตเขา คำพูดที่ดูเหมือนว่า เขาจะมีความปิติกับคำพูดนั้นมาก คำพูดที่เขาไม่นึกว่าจะมีความสำคัญสำหรับเขาถึงขนาดนี้ เป็นคำพูดที่เรียบง่าย แต่มีความหมายกินใจมาก สำหรับผู้ที่ได้รับฟัง
   “ขอบคุณมากครับ ท่านนางฟ้า”



   เด็กสาวผู้ที่ตกลงมาจากหน้าผาอันสูงชัน ดวงตาของเธอนั้น ดูแววแล้วหาไร้แววไม่ เธอผู้ที่อยู่ในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตาย จิตใจของเธอได้ตายจากโลกใบนี้ไปหมดสิ้นแล้ว ครอบครัวอันอบอุ่นของเธอได้ดับสลายไป แต่ภาพเก่าๆยังตามมาหลอกหลอนเธออยู่เสมอ

   ดวงตาของเธอดูเหมือนจะเห็นเท้าใครอยู่ไกลๆ ใครผู้ที่อยู่กลางป่าอย่างโดดเดี่ยวผู้นั้น เธอได้ร้องขอความช่วยเหลือออกไปอย่างสุดเสียง แต่เสียงนั้นก็ดูเหมือนจะถูกเก็บกักอยู่แต่ในลำคอของเธอ ผู้คนต่างคนเดินผ่านเธอไปอย่างไม่แยแส นี่เธอเป็นแค่เศษขยะที่ถูกคนอื่นทิ้งไว้ใช่หลอ ทำไมต้องเหลือแต่เธอเท่านั้นที่ต้องรอดชีวิตออกมาจากเมืองเมืองนั้นด้วย
   
   เธอค่อยๆจะจมลงไปในความฝัน สิ่งเบื้องหน้าของเธอนั้นจะต้องเป็นความฝันแน่ๆ ต้องเป็นความฝันแน่ๆ
   “นี่คุณ คุณ” เสียงเด็กผู้ชายผู้หนึ่งดังแว่วมา เสียงนั้นฟังแล้วเป็นที่คุ้นเคยของเธอยิ่งนัก “พี่... นั่นพี่ใช่ไหม พี่มารับหนูแล้วหลอ พี่” ภาพของพี่ในหัวของเธอ ค่อยๆลอยจากเธอไปช้าๆ แม้เธอจะวิ่งไร้ตามก็หาทันไม่ เด็กสาวล้มลง ราวกับสะดุดอะไรบางอย่าง “พี่ ทำไมต้องทิ้งหนูไว้คนเดียว อย่าทิ้งหนูไว้คนเดียวสิพี่ พี่” เด็กผู้ชายยิ้มเล็กๆให้เธอ จากนั้นเขาก็ได้หายไป
   “พี่..........................” เด็กสาวตะโกน นั่นทำให้เธอตื่นจากความฝัน เธอลุกขึ้นนั่น มือของเธอค่อยๆมาสัมผัสกับหัวเธอเบาๆ จากนั้น ก็ได้เอามือมาแตะ ณ เบาะที่เธอนั่งอยู่

   “ขอโทษนะครับ คุณยังไม่หายดี อย่าเพิ่งขยับตัวเลยจะดีกว่านะครับ” เสียงหนึ่งลอยมาจากข้างนอก ข้างนอกสถานที่ที่เธออาศัยอยู่ นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ฉันรู้แต่ว่าฉันตกมาจากหน้าผา จากนั้นฉันก็สลบไป ฉันจำอะไรไม่ได้แล้ว โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย

   เธอได้มองออกไปข้างนอก ภาพที่เธอเห็นนั้น เป็นเด็กชายสวมแว่นตาบางๆ แววตาสีฟ้าของเขาดูอ่อนโยนยิ่งนัก เขาค่อยๆเดินเข้ามาหาเธอช้าๆ มือของเขาช่างอบอุ่นยิ่งนัก นี่เขากำลังจะทำอะไรหนะ

   “เธอหนะ ยังไม่หายดีเลยน้า ควรจะพักผ่อนมากๆ” เขาเอาผ้าห่มมาห่มตัวเด็กสาวที่ล้มตัวนอนลงไปอยู่ “เดี๋ยวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ผมจะต้มซุปเห็ดร้อนๆไว้ให้แล้วกันนะครับ” เด็กชายยิ้มอย่างอบอุ่น ทำให้เด็กสาวหน้าแดงเป็นผลแอปเปิล เธอเอาผ้าห่มคลุมหน้าของเธอไว้ แล้วนอนหลับลงโดยเร็ว

   กลางดึกวันนั้น เธอก็ได้ตื่นขึ้นมาอีกครา เธอต้องการที่จะลุกขึ้น แต่ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งๆหนึ่งทับที่หน้าอกของเธอไว้ เด็กหนุ่มผู้ช่วยเธอไว้นั่นเอง หน้าของเธอแดงก่ำอีกครั้ง ถึงอยากจะโวยแต่ก็โวยไม่ได้ หน้าของเด็กชายผู้นั้น ยามหลับน่ารักกว่าตอนตื่นตั้งเยอะ เด็กหญิงยิ้ม
   เธอหันไปมองด้านขวามือของเตียงเธอ เห็นซุปที่วางไว้บนโต๊ะข้างๆเตียง ดูเหมือนว่าจะมันเย็นไปนานแล้ว นี่เธอนอนคอยฉันตื่นเพื่อจะเอาซุปมาให้ฉันเลยหลอ ฮิฮิ

   เด็กหนุ่มค่อยๆยกหน้าของเขาออกมาจาก เอามือขยี้ตาเบาๆช้าๆ “นี้ฉันทำให้เธอตื่นรุป่าวเนี่ย” เด็กหนุ่มพูดอย่างช้าๆ พร้อมกับภาพหน้าอกที่เขาได้เห็นอย่างเต็มๆตา เขารีบรุกขึ้นโดยไว ก้มหน้าพร้อมกล่าวขอโทษแก่สตรีที่อยู่เบื้องหน้า เด็กสาวดูเหมือนจะหันหน้าหนีหลบสายตาของเขาไป “เดี๋ยวผมจะไปอุ่นซุปให้ก็แล้วกันนะครับ” แล้วเด็กหนุ่มก็รีบเดินออกจากห้องของเด็กสาวคนนั้นไป
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #4 on: May 05, 2006, 03:43:00 AM »

ขณะที่เด็กชายกำลังเอาซุปที่เพิ่งอุ่นเสร็จออกมาจากเตาอยู่นั้น ภาพของหน้าอกที่เขาได้เห็นเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้หวนกลับคืนมาในหัวเค้าอีกครั้งนึง “โอ๊ย! ร้อนๆๆๆๆๆ” ซุบที่เขาอุ่นเสร็จก็ได้หกใส่มือเขา ทำให้เขาต้องทำซุปถ้วยใหม่มาอีกครานึง เขาได้คิดหลายๆอย่าง คำถามต่างๆนานาที่จะถามเด็กสาวสวยคนนั้น

   เด็กชายเคาะประตูเบาๆ ค่อยๆเอาซุปไปให้เด็กสาวผู้ไร้เรี่ยวแรง เขาค่อยๆบรรจงตักซุปขึ้นมาเป่าอย่างช้าๆ และก็ป้อนเด็กสาวผู้นั้น เด็กสาวผู้นั้นก็อ้าปากรับซุปของบุรุษที่บรรจงทำมาให้

   “ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเหลือฉัน” แววตากลมโตสีฟ้าของเธอจ้องไปที่ผู้มีพระคุณของเธอ ทำให้เขาต้องเบี่ยงหน้าหนีในทันที “ไม่เป็นไรหรอกครับ” รอยแดงจางๆข้างๆแก้มของเขาก็ค่อยๆแสดงออกมา

   “นี่เธอหนะ อย่าพึ่งขยับมากเลยนะ แผลเธอยังไม่หายดีเลย” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงร้องเจ็บปวดของเด็กสาวแทรกขึ้นมา ดูเหมือนว่าฤทธิ์ของยาชาจะได้หมดลงไปแล้ว
   “อืม ขอโทษนะครับ ผมจะรีบไปพยาบาลให้นะครับ” เด็กหนุ่ม รีบวิ่งไปเอากล่องยาซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่นั่นมากนัก วางไว้บนเตียงที่ เด็กสาวนอนอยู่ เด็กชายรู้สึกเขินๆก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เดี๋ยวผมถอดเสื้อเช็ดตัวให้นะครับ” เด็กสาวก็หน้าแดงไม่แพ้กัน แต่ก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ

   เด็กชายผู้นั้นค่อยๆเอามือไปแตะเสื้อของเด็กน้อย และดึงออกอย่างช้าๆ เริ่มจากแขนขวาของเธอ แขนของเธอช่างขาว ดูสะอาดสะอ้านยิ่งนั้น ตามด้วยแขนซ้ายของเธอซึ่งก็สะอาดสะอ้านไม่แพ้แขนขวาของเธอ ตลอดจนเห็นเรือนร่างอันงดงามของเด็กน้อยนางนั้น หน้าอกนิดๆ กับเรือนร่างไร้ไขมันของเธอนั้น ทำให้เด็กชายมองราวกับต้องมนตร์อะไรบางอย่าง

   เธอนั้นดูน่ารัก และไม่สามารถละสายตาออกจากเธอได้ ราวกับว่าถูกสะกดอยู่อย่างนั้น เขาค่อยๆบรรจงหยิบผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดตัวเธอ ตั้งแต่ต้นคอ ไปยังเนินอก และเช็ดเรื่อยๆลงมาถึงเนินสะโพกอย่างช้าๆ และบรรจง


   “นี่เธอ เธอชื่ออะไรหลอ ทำไมถึงมาช่วยฉันหละ” เด็กสาวเป็นฝ่ายเริ่มการสนทนาก่อน แต่ดูเหมือนว่าสถานที่ที่เด็กหนุ่มได้เช็ดอยู่ จะสร้างความเสี่ยวซ่านให้แก่สาวน้อยเป็นอันมาก ทำให้เด็กสาวนั้นร้องไม่เป็นภาษา ดวงตาแดงก่ำของเธอจ้อง ราวกับต้องการเหตุผลจากเด็กหนุ่มคนนั้น  

   ขณะที่เช็ดตัวอยู่ สาวน้อยก็ได้คิดไปต่างๆนานา ว่าตนเองเป็นแค่เด็กน้อยไร้ค่าคนหนึ่ง ไม่ผิดหรอกที่ผู้คนคนอื่นๆเขาได้เดินผ่านไป ปล่อยให้เธอนอนตายอยู่อย่างนั้น แต่เธอนั้นไม่ใช่ เธอไม่ปล่อยให้ฉันตายอยู่อย่างนั้น ในเมื่อหากเธอไม่ไปช่วย ก็ไม่มีใครว่าเธอได้หรอก แววตาเปื้อนคราบน้ำตาของเธอ สื่อได้ถึงความในใจอันเจ็บปวดยิ่งนัก

   “ก่อนจะถามชื่อคนอื่น ควรขานชื่อตัวเองก่อนนะครับ” เด็กชายส่งยิ้มให้เด็กสาวด้านหน้าเขา
   “อืม ขอโทษนะค่ะ หนูชื่อ ยูน่า (Una)ค่ะ แต่จะเรียนหนูสั้นๆว่า ยูก็ได้นะค๊ะ” เด็กสาวยิ้มเล็กๆให้แก่ฝ่ายชาย บรรยากาศในตอนนี้อาจจะดูเหมือนสถานที่ที่ใกล้เคียงสวรรค์ที่สุดของเด็กหนุ่มผู้นั้นก็เป็นได้ “แล้วทีนี้คุณผู้มีพระคุณของฉัน จะบอกชื่อให้ฉันได้รับทราบได้รับยังหละคะ” เด็กสาวป่องแก้ม ยังอยากรู้ สงสัยไม่เสื่อมคาย ว่าผู้มีพระคุณกับตนเองนั้น มีพระนามว่าเช่นใด


   “อืม ผมมีนามว่า ฟิค (Fic) แต่ชาวบ้านแถวนี้เค้าเรียกผมว่า คุณหมอโรคจิต (Psycho Doctor) ผมก็ไม่รู้นะว่า ทำไมเขาถึงเรียกผมเช่นนั้น แต่รู้สึกว่า จะเป็นเพราะผมนั้นเป็นเครื่องจักร แต่ก็ยังไปช่วยรักษามนุษย์ด้วยวิธีที่มนุษย์ไม่ใช่กัน เช่น แล่เนื้อเสียเป็นชิ้นเล็กๆ ค่อยๆแล่ช้าๆช้าๆ เลือดจะค่อยๆออกซิบๆซิบๆ ผู้ป่วยจะร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด จากนั้นค่อยๆใส่ยาล้างแผลลงไป จะทำให้ที่แผลมันแสบซ่า เชื้อโรคจะผุดๆๆๆๆ ออกมากับฟองสีขาวของยาตัวนั้น ผู้ป่วยก็จะร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานอีกครั้งนึง ย่า ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ”

   เมื่อเด็กหนุ่มกล่าวจบนั้น เด็กสาวก็มีอาการหน้าซีดกับภาพข้างหน้า เป็นภาพหน้าตาของเด็กหนุ่ม หน้าตาของฟิคคุงที่หน้ากลัวเป็นที่สุด ไม่ปานกับเจ้าโรคจิตทหารเวรนั่น ฉันจะอยู่กับเขาต่อดีไหมเนี่ย แล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหน ดวงตาเด็กสาวเริ่มแฉะ มีน้ำเอ่อนองออกมาเล็กน้อย แต่ก็พอทำให้เด็กหนุ่มข้างหน้าตนนั้นเห็นได้

   เมื่อเด็กหนุ่มเห็นดังนั้น เขาก็เรียบเปลี่ยนบุคลิคของเขาทันที จากหน้าตาโรคจิตวิปริต กลายเป็นหนุ่มน้อยเรียบร้อยน่าเชื่อถืออีกครั้งนึง “แต่ว่า เธอเป็นชาว มาชินิค (Machinic) ใช่ไหมเนี่ย เมืองนั้นเป็นไงบ้างแล้วหละ ผู้คนอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข สนุกหนานเหมือนเดิมรึป่าวหละ” ฟิคถามกลับ แต่ดูเหมือนเขาจะถามผิดเวลา เด็กน้อยที่น้ำตาเอ่อนองเล็กน้อยอยู่แล้ว กลับไหลพรากออกมาไม่หยุด ปากก็ได้เรียกหาครอบครัวของเธอ เพื่อนของเธอ รวมทั้ง คุณครูอันเป็นที่รัก คุณป้าผู้แสนใจดี บรรยากาศที่ร่มเย็น และเธอก็ได้หลุดเรื่องที่สะเทือนใจที่สุดของเธอออกไป มือเธอกำผ้าห่มไว้ ฟันของเธอกันแน่น บ่งบอกถึงภาพที่เธอกำลังเผชิญอยู่
   
   เด็กหนุ่มเงียบนิ่งไปครู่ใหญ่ เด็กน้อยตัวเล็กๆอย่างเธอ ต้องมาพบกับชะตากรรมที่น่าลำบากยิ่งนัก เราไม่น่าทำอะไรที่ไม่ดีกับเขาเลย แต่พอเขาได้คิดถึงเรื่องเก่าๆ เรื่องอันน่าจดจำของเมืองๆนั้น คุณป้าที่แสนดี พร้อมทั้งแฟนที่เขามีหมั้นหมายว่า หากได้ดี เขาจะกลับไปชวนให้เธอมาอยู่ด้วยกัน เขาอยากจะร้องไห้ แต่จะให้ร้องต่อหน้าผู้หญิงหนะหลอ เขาทำไม่ได้

   “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ถล่มเมืองเครื่องจักรที่ใหญ่ขนาดนั้น เพียงไม่ถึงวันเนี่ยนะ ทั้งๆที่เครื่องจักรอย่างเรา ไม่เคยไปก่อความวุ่นวายให้แก่เมืองมนุษย์ซักหน่อย คนอื่นๆก็ถูกฆ่าเรียบ นั่นมันมนุษย์หรือปีศาจกันแน่ฟระ” ฟิคพูดอย่างโมโหอย่างที่สุด ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถอยู่กับเขาได้นะ เขาก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย    และแล้ว ท่าทางของเขาเปลี่ยนไป อะไรเขาจะเปลี่ยนอารมณ์ง่ายอย่างงี้นะ “แต่เอาเถอะ เธอพักผ่อนเถอะนะ เธอหนะยังไม่หายดีเลย”เขาห่มผ้าให้สาวน้อย มอบรอยยิ้มอันเปลี่ยมสุขให้แก่เธอ “ขอให้เธอวางใจให้ฉันได้ดูแลเธอเถอะ ฉันจะดูแลเธออย่างดีเลยหละ”
   “อืมค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ แต่เอ๋ คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าทำไมคุณถึงมาช่วยฉัน” ยูน่า ยังคงถามเพื่อสนองความสงสัยของตัวเอง
   “ผมก็แค่เห็นคนเจ็บอยู่ ก็แค่นั้นแหละครับ” ฟิคยิ้มอีกครั้ง แต่เด็กสาวรู้สึกได้ว่า ครั้งนี้มันอบอุ่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เธอได้เคยเห็นมา มันเสมือนรอบยิ้มที่ทั้งครอบครัวได้เคยให้เธอ รอยยิ้มที่เธอขวนขวาย
    “ขอบคุณนะค่ะ คุณฟิค ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
   “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” เมื่อสิ้นคำ เด็กหนุ่มเดินกลับไปนอนยังห้องของตน ทิ้งให้ห้องนั้นกลับมาเงียบสงบอีกครั้งนึง “ขอให้บ้านหลังนี้เปรียบเสมือนบ้านของคุณนะครับ”
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #5 on: May 05, 2006, 03:43:42 AM »

แสงแดดอรุณของเช้าวันใหม่เริ่มมาถึง เด็กหนุ่มงัวเงียตื่นขึ้นมา
���“เฮ้ย กลิ่นอะไรไหม้เนี่ย” เด็กชายเอามือปัดควันออก และเดินไปยัง จุดที่ทำให้เกิดควัน “แอ็กๆๆๆๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
���“ฉันกำลังทำอาหารเช้าให้คุณกินอะค่ะ แต่ว่า มันไหม้เสียแล้ว เสียดายจัง” เด็กสาวน้ำตาคลอเบ้า ทำท่าดูเหมือนจะร้องไห้เต็มทน ตัวเองทำประโยชน์ไม่ได้ แล้วยังจะสร้างปัญหามาให้กับเขาอีก เรานี่นิสัยไม่ดีจริงๆ เรานี่ไม่มีอะไรดีเลย เราน่าจะตายๆไปซะตั้งแต่ตอนนั้นก็ดีหรอก


���“โอ๋ ไม่เป็นไรนะ ของแบบนี้ฝึกกันได้ เอ้า เรามากิน Fast Food ดีกว่า” เด็กหนุ่มเอามือมาแตะไหล่ของเด็กน้อย
���“อะไรหลอค่ะ Fast Food” ยูน่าพูดด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้น สิ่งที่เธอไม่ได้เคยเห็นมาก่อน
���“นี่ไงหละ” ฟิคจับของสิ่งนั้นชูขึ้น ราวกับจะบูชาสิ่งๆนั้น และกล่าวประโยชน์ขึ้นต่างๆนานา “และนั่นมันก็คือ คือ คือ คือ คือน้ำมันเบนซิน สูตรไม่มีน้ำตาล”
���“ห๊า ! ไม่มีน้ำตาล แล้วมันแตกต่างกับอันอย่างปกติยังไงอะ” ร้องดังขึ้นต่อ แววตาของเธอเป็นประกายมันวาว ราวกับว่า กระจกได้ถูกน้ำยาเช็ดกระจกถูให้มัน
���“ป่าวหรอก แค่พูดให้มันดูดี แค่นั้นเองแหละ เอ้า เรามากินกันดีกว่า” เธอล้มดังโครม! ทันใด สิ่งที่เธอนึกว่าจะมีดีหนักหนา ที่แท้ก็เบนซินดีๆนี่เอง “เฮ่อ”

���ทั้งคู่ยกขวดน้ำมันเบนซินขึ้นกระดกซด โฮ๊ก...

���“แหวะ! นี่มัน” เด็กชายหันไปดูข้างขวด

���XX . X . XXXVIII   (20-10-38)

���“นี่มันหมดอายุแล้วนี่ แหยะ ยูจัง เราไปหาซื้อของมาตุนไว้ที่บ้านดีกว่า” เมื่อพูดจบ ทั้งคู่ก็เดินออกจากบ้านไปด้วยกัน ไปยัง ห้าง 11-seven ห้างสุดหรู ห้างที่รวมเอาเหล่าไฮโซดังทั่วทวีปเมอริเซียมารวมกัน

���“โอ้โห ว๊าวววววววว สวยจังเลย ใหญ่จัง หรูด้วย” เธอมองไปรอบๆตัวเธอ ห้างที่มีแสงสว่างสีทองประกายอยู่รายล้อมตัวเธอ ร้านแต่ละร้านถูกจัดให้ดูดีที่สุด เท่าที่จะดูดีได้ แต่ที่ไปสะดุดตาเธอนั้นหาใช่อะไรไม่ ตุ๊กตากระต่ายหูยาวสีชมพูตัวหนึ่ง เธอกระตุกแขนเสื้อของเด็กหนุ่มเบาๆ “ตุ๊กตาตัวนี้น่ารักจังเลยอะ ซื้อให้หน่อยนะๆๆๆๆๆๆๆๆ” ยูจัง ดวงตาเป็นกระกาย เย้ายวน ประดุจว่า หากท่านสบตา ท่านจะต้องเสียตังในเวลาไม่นาน
���เด็กหนุ่มเผลอหันไปสบตาเธอแม้แต่เพียงแวปเดียว วูวนั้นก็เกือบทำให้เขาต้องควักตังจ่ายค่าตุ๊กตาตัวนั้นไปแล้ว “นี่เราไม่ได้มาซื้อของเล่นตุ๊กตากันนะ เรามาซื้อเสบียงอาหารไว้กินต่างหากหละ” เขารีบหันหน้าหนี ไม่กล้าสบตาเธอต่อ
���“โธ่ ! ฟิคคุง ใจร้าย ซื้อให้หน่อยก็ไม่ได้” ปากของ ยูจัง บวมเป่ง ราวกับว่า กำลังงอนใครบางคนแถวนั้น “ไม่เอาก็ได้ เราไปซื้อของกันเถอะ แต่ มีข้อแม้นะ ห้ามเอาน้ำมันเบนซินหมดอายุมาให้ฉันกินอีกนะ” คำพูดนั้นทำให้ทั้งคู่นั้นหัวเราะร่า
���“เอาเถอะ ไปซื้อของเร็วๆเถอะ จะได้กลับบ้านกัน ฮิฮิฮิ” ฟิคคุง พูด “นั่นไง Master Market แหล่งซื้อขายอาหาร ที่ส่งตรงมาที่นี่ทั้งทวีปเมอริเซีย เราไปช๊อปกันเถอะ” แล้วทั้งคู่ก็ช๊อปกันแหลกราน ช๊อปกันจนเย็น


���“เฮ่อ เหนื่อยจริงๆเลย ได้ของมาเยอะแยะเลย แล้วเราจะกินหมดหลอเนี่ย” เด็กสาวพูดพลางชูของขึ้นมาให้เห็น “หมดอายุก่อนกินหมดแน่เลย แบร่ๆๆๆๆ”
���“ไม่หมดก็ทิ้งได้ ถามได้ แต่ถ้ามียังตัวอ้วนอยู่ด้วย จ้างให้เยอะกว่านี้อีกซัก 10เท่าก็หมดน่า อิอิอิ” คำพูดนั้นทำเอาผู้ที่ถูกกล่าวถึงแยกเขี้ยวใส่ “เอ้า Shoping ซะจนดึกเลย รีบกลับไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้มีแรงทำอย่างอื่นต่อ”
���“ค่ะ”เธอยิ้มตอบรับ และเดินกลับบ้านพร้อมกับพี่ชายผู้แสนดีอย่างมีความสุข




ปล. เอ่อ เอ่อ มันเยอะๆพิกลแฮะ -_-a ตอนแรกกะจะโพสรวดเดียวจบ 1 ตอน แค่เห็นตัวหนังสือก็ตาลายแล้วอะนะ แต่พอแบ่งออกมา มันก็ตาลายไปอีกแบบ เฮ่อ -_-a ปวดหมองๆๆๆๆๆ

ปลล. ใครอ่านแล้ว มะช่วยโพสติชม โกรธด้วยเอ้า -_-a

ปลลล. รู้สึกว่าจะพิมพ์ผิดเยอะมากเลยแฮะเรา -_-a
« Last Edit: May 05, 2006, 05:06:44 PM by N (^o^) X » Logged


-Sparrow-
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 380


Email
« Reply #6 on: May 05, 2006, 03:54:52 AM »

ตอนที่หนึ่ง นึกภาพตุ๊กตาตามแล้วมัน....ตลกมากกว่าซึ้งแหะ ;D
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #7 on: May 05, 2006, 04:34:09 PM »

ก็อย่าคิดอย่างนั้นสิคร๊าบบบบบบบบบ

ตุ๊กตาก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกานน้า แง่มๆ  ;D
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.085 seconds with 21 queries.