Summoner Master Forum
October 03, 2024, 03:39:36 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: FIC: หนูน้อยอีโต้แดง (Update บทที่ 8)  (Read 8254 times)
0 Members and 10 Guests are viewing this topic.
NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« on: January 22, 2006, 02:44:57 AM »

                                                                            บทที่ 1 เมืองอันแสนรันทม


���ณ เมืองอันเงียบสงบ ไร้สงคราม ไร้สิ่งมีชีวิต มีแต่ … เครื่องจักรกล เมืองที่มีผู้คนมากล้น เปี่ยมไปด้วยวิทยาการก้าวไกล ดั่งการก้าวกระโดดกับวัฒนธรรมของมนุษย์ แต่ทว่า

���“นี่ ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวก็หกล้มเป็นแผลหรอก นี่พี่ถามด้วยความเป็นห่วงนะนี่ ยังจะทำหน้าบ๊องแบ้วอยู่อีก” เด็กชายผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
���“อะไรหลอพี่ พี่นี่เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง เดี๋ยวหนูหกล้ม แม่เค้าก็ซ่อมให้ใหม่เองแหละนี่ จริงไหม เครคุง (Crazy Teddy Bear)” เด็กหญิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอันอ่อนหวาน
���เด็กชายอีกคนพยักหน้าตอบรับในเชิงรับรู้ “แต่พี่ครับ นี่มันก็จะมืดแล้วนี่ครับ เรากลับบ้านกันเถอะ”


���โคร่ม !!! “ว๊าย! หนีเร็วเข้า หนีเร็ว” เสียงเครื่องจักรในเมืองวิ่งกันพุ่งพล่าน “นั่นมันเสียงอะไรหนะ มันต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ พี่ค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ” เด็กหญิงจับมือกับทั้งพี่และน้อง วิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว แต่ที่เด็กๆทั้ง 3 ได้เห็นก็คือ สภาพบ้านที่ทรุดโทรมอย่างมาก จากบ้านที่ไม่เคยผุพังมาก่อน กลับบุบสลายและแตกหักอย่างไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

���“แม่ พ่อ อยู่ในนั้นรึป่าวครับ”
���“แม่ค่ะ พ่อค่ะ อยู่รึป่าวค่ะ ตอบด้วยสิค่ะ”
ถึงทั้ง 3 จะตะโกนยังไงก็ไม่มีคนตอบ มีแต่เสียงลมที่พริ้วไหว เสียงใบไม้ที่เสียดสีกับสายลม
���“นี่ แอสจัง (Assassin Doll) รออยู่ข้างหน้าตรงนี้ อย่าไปไหนนะ พี่จะเข้าไปข้างใน”
���“ไม่เอา หนูจะไปด้วย พี่จะไปหาปั๊บป๋า หม่าม้า เอาหน้าคนเดียวอะจิ หนูไม่ยอมหรอก ไม่ยอมๆๆๆๆๆ”
���“อือๆๆ ก็ได้ แต่ตามมาเงียบๆหละ ปะเครคุง แอสจัง เราไปดูข้างในกัน” เมื่อจบคำพูดทั้ง 3 ก็ค่อยๆเดินไปข้างใน แต่สภาพทางเข้านั้นเละมาก จนเกือบหาทางเข้าไม่ได้


���เมื่อเข้าไปข้างในนั้น เกือบจำไม่ได้เลยว่าเป็นที่ๆ เราเคยอยู่กัน ทั้งฝุ่น หยากไย่ แมลงสาบ เมื่อพ้นจากทางเข้ามาได้ก็ต้องพบกับภาพอันสะเทือนใจอย่างยิ่ง ภาพเครื่องจักร 2 ตัว กำลังถูก มนุษย์กลุ่มนึงเหยียบและกระทืบอยู่

���“ห๊ะ! คุณพ่อ คุณแม่ แกจะทำอะไรพ่อแม่ฉันหนะ อย่านะ” แอสจัง วิ่งเข้าไปพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “Pretty Chop อย่าทำอะไรพ่อแม่ฉันนะ ม่ายยยยยยยย อย่า ~” ฟาดฟันอย่างไม่ยั้ง แต่หาทำอะไรได้ เพราะทางฝั่งมนุษย์นั่น หาใช่แต่มีเพียงคนเดียว
���“ลูก อย่าเลย ลูกสู้พวกเค้าไม่ได้หรอก หนีไปเถอะลูก” หุ่นยนต์ นาม Phantom Collector พูด
���“ลูกจ๋า หนีไปเถอะลูก หนีไป” Lade Maquina กล่าว
���“พวกแกจะตายอยู่แล้วยังจะพูดได้อีกนะ นี่แหนะ ยังจะพูดได้อีกไหม นี่ นี่” เสียงกระทืบ รัวขึ้นเรื่อยๆ “พวกแกจะยืนนิ่งทำไม ไปจับพวกมันเซ่ จับเป็นจับตายก็ได้ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มันให้หมด อย่าให้เหลือเข้าใจไม๊”


 “ทุกคน ท่านTemplar (Templar Knight General) สั่งแล้ว รีบจับมันให้ได้เร็ว ก่อนที่ท่านจะโกรธ”
ทหารทุกคนดูเหมือนตอบรับคำสั่งนั่น ทุกคนหยิบปืนขึ้นมาอย่างพร้อมเพียงกัน เตรียมจะทำลายเป้าหมายข้างหน้า


���“แอสจัง เราหนีกันเถอะ อย่างน้อยก็เชื่อฟังคำคุณพ่อคุณแม่เป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ ไปเถอะแอสจัง” แอสจัง ทำท่าดูเหมือนไม่ค่อยพอใจ แต่ว่า ก็ไปตามที่ท่านพี่ Murderous Doll พูดไว้

���เมื่อทั้ง 3 หนีออกมาจากบ้านได้สำเร็จ “เฮ่อ! โล่งจัง พวกมันจะออกมากันได้ไหมเนี่ย”
���“ว๊าย! ได้ไม่ได้ มันก็อยู่ข้างหลังพวกเราแล้วนี่ไง หนีเร็วเข้า หนีเร็ว”


���การตามล่ายื้อเวลาไปนานมาก จนไม่คิดว่ามันจะจบ
���“นี่ แอสจัง พาน้องหนีไปก่อน พี่จะยื้อเวลาตรงนี้ให้เอง หนีไป”
���“แล้วพี่ต้องกลับมาหาพวกเรานะ พี่สัญญานะ”
���“อืม จ๊ะ พี่สัญญา” ในความคิดตอนนี้ ในใจของพี่ชายอันแสนระทม ต้องไปสัญญาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้กับน้องสาวสุดที่รัก ถึงแม้พี่จะไม่เคยดีต่อน้องเลย แต่พี่ก็ยังรักน้อง พี่อยากให้น้องไปสู่ ณ ที่ๆดีกว่านี้ จงหนีไปซะ หนีไปให้พ้นจากเมืองอันแสนรันทมแห่งนี้ หนีไป


���“เอ้า! Pretty pins เข็มนับร้อยนับพันของข้า จงยื้อเวลาให้แก่น้องของข้าได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอให้น้องของข้าไปดีด้วยเถอะ ย่าร์!” เมื่อกล่าวจบ เข็มนับร้อยก็พุ่งออกจากตัว และมุ่งเข้าหาจุดหมายทันที ทหารผู้ที่ผู้เข็มจิ้มใส่จุดตาย ก็ได้ตายในทันที ส่วนผู้ใดที่โดนนิดๆหน่อยๆ ก็ต้องเจ็บปวดทรมาน จนมิเป็นอันสู้ต่อได้ แต่ถึงกระนั้น ทหารของกองทัพนั้นก็มีเยอะเหลือเกิน จน Murderous doll ไม่สามารถต้านทานได้อีก
   “ขอโทษด้วยนะ แอสจัง เครจัง ที่พี่สามารถยื้อได้เพียงเท่านี้ อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!”


���“ท่านพี่บ้า ฮือๆๆๆๆๆ ท่านพี่ผิดสัญญา ฮือๆๆๆๆๆ”
���“พี่ครับ ยังไงเราก็กลับไม่ได้แล้วนะครับ เราต้องเดินต่อไป ไม่งั้นสิ่งที่พี่มอร์เขาทำไปจะเสียป่าวนะครับ ไปต่อเถอะครับ”
���“อืม เราไปกันต่อเถอะจ๊ะ” แอสจังปาดน้ำตา


���แต่ไม่ทันไร พวกทหารก็ไล่ตามมาได้ทัน แม้ทหารเหล่านั้นจะไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขอยอมรับว่า ความอึดนั้นเยี่ยมยอดมาก

���“ถ้าเราหนีกับไป 2 คน พวกมันจะจับเรากันได้ทั้งคู่นะครับ พี่ครับ ผมจะต้านทางนี้ไว้ให้เองนะครับ พี่ไปต่อเถอะครับ หนีไปที่อื่น ไปเตรียมตัว แล้วกลับมาฟื้นฟูหมู่บ้านเราให้ได้นะครับ”
���“ตะ...แต่ว่า”
���“ไม่ต้องมีแต่ครับพี่ รีบไปเถอะครับ ผมบอกว่ารีบไปไงครับ ไปปปปปปปปปปปปปปปปปปป” แต่ทว่า ไม่ทันที่จะขาดคำ “ฉึบ! ฮ่าๆๆๆๆ ในที่สุด ก็เหลือเจ้าคนเดียวแล้วนะ เด็กน้อย ฮ่าๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะอย่างสะใจของ มหานักรบ Templar Knight General ก็เข้ามาแทนที่ เลือด (น้ำมัน) ของ Crazy Teddy Bear ก็ได้ย้อม ผมสีบรอนซ์ ของ Assassin doll กลายเป็นสีเลือดในทันใด

���“ฉันจะฆ่าแก Templar Knight ฉันจะฆ่าแก”
���“พี่ครับ อย่าครับ หนีไปเถอะครับ อย่างนั้น จะไม่มีใครมากู้เมืองนี้ได้อีกนะครับ”
���“จะตายแล้วยังจะปากมากอีกนะแก ฉึบ!”
���“อ๊ากกกกกกกกกกก!!! ไปเร็วสิครับพี่ ไปปปปปปปป”
���“ฝากไว้ก่อนนะแก แล้วฉันจะมาเอากับแกคือ ให้สาสมไปเลย ฝากไว้ก่อนเถอะ” จากนั้น แอสจังก็ค่อยๆเดินถอยหลังไป แต่ทว่า
���“พี่คร๊าบบบบบบบบ ระวัง!!!” ฟิ้ว! เสียงตกลงไปของ แอสจัง ผู้เหลือรอดคนเดียว ตกลงไปยังหน้าผาอันสูงชัน ผู้ที่ไม่เคยมีใครเหลือรอดมาได้


���“ฮ่าๆๆๆๆ จะมาเอาคืนกับข้าเรอะ ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าคงไม่มีวันแล้วหละ ตกไปสูงขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆๆ ไป พวกเรา กลับเมืองได้ จัดการกับไอ้พวกสวะสถุนเสร็จแล้ว ยังมีอีกหลายเมืองให้เราไปเก็บกวาดอีก ฮ่าๆๆๆๆ สะใจจริงๆ ไม่คิดว่าคนสุดท้ายในเมืองจะฆ่าได้ง่ายอย่างนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”







เป็นไงบ้างอะครับ เพิ่งเคยแต่งครั้งแรกอะ -_-a หนุกหนาน น่าเบื่อยังไง ติชมด้วยนะคร๊าบ 8)
« Last Edit: March 10, 2006, 05:57:15 PM by ] N~O_X [ » Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #1 on: January 22, 2006, 12:09:35 PM »

หนุก+โหด(แบบเครื่องจักร :P)
Logged


โยศิ, องเมียวดอกซากุระ
Member
*****
Offline Offline

Posts: 3805


Email
« Reply #2 on: January 22, 2006, 12:33:14 PM »

...ขอติว่า ...พิมพ์ผิด เยอะนะ
                                                                          บทที่ 1 เมืองอันแสนรันทม
________
���“ห๊ะ! คุณพ่อ คุณแม่ แกจะทำอะไรพ่อแม่ฉันหนะ อย่านะ” แอสจัง วิ่งเข้าไปพร้อมน้ำตาคลอเป้า “
ได้ จัดการกับไอ้พวกสวะสถุนเสร็จแล้ว ยังมีอีกหลายเมืองให้เราไปเก็บกวาดอีก ฮ่าๆๆๆๆ สะใจจริงๆ ไม่คิดว่าคนสุดท้ายในเมืองจะฆ่าได้ง่ายอย่างนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

1. เค้ามีแต่ ระทม ไม่ก็ลั่นทม (ประสมคำเก่งเนอะ :-[)
2....น้ำตา คลอ เบ้า(ตา) คลอเป้านั่นมันน้ำ... :-X
3. สถุลย์จ้ะ

เนื้อเรื่องก็ขำๆดีนะ ;D
Logged


>~ Fate [,] Keroro Army team ~<
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 590


« Reply #3 on: January 22, 2006, 02:33:23 PM »

โอ้สนุกมากอ่า  :o
แต่ก็นะ พิมพ์ผิดเยอะ มีความคิดสร้างสรรค์ดีมากเลยครับ
แต่ก็คงเอามาจาก เดคพ่อ แม่ ลูก ของพี่อีกอะจิ :P
นึกไม่ถึงน่อว่าพี่โอ๊คจะสามารถแต่งได้เพียงนี้
Logged


-Sparrow-
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 380


Email
« Reply #4 on: January 22, 2006, 03:20:29 PM »

เป็นครอบครัวที่ประหลาดดีจริงๆ หน้าตาคนล่ะเรื่องเลยมีสายสัมพันธ์ยังไงนั่น - -" รึว่าใช้น้ำมันขวดเดียวกันแบบโดเรม่อนก่ะโดเรมี่

ฟิคติดเลด น้ำ...คลอเป้า :-X
Logged


cmt
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1091


« Reply #5 on: January 22, 2006, 04:49:13 PM »

เอ่อ....โอ๊ค....แอบคิดอะไรอยู่รึป่าว คลอเป้าอะ.... :-[

*~ ทอฟฟี่ [เคลือบยาพิษ] ~ นึกภาพแล้วหน้าแดง
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #6 on: January 23, 2006, 01:24:39 AM »

แง่ว ไม่ใช่คลอเป้าหยอ แง่วๆๆๆๆ เราผิดเองแหละ แง๊ๆๆๆๆ

เดี๋ยววันอื่นค่อย ทำตอนที่ 2 นะน่อ (ความจริงตอนที่ 1 มียาวก่านี้ แต่ อะนะ แง่วๆๆๆๆ)  :P
Logged


Phenomenon Knight
Judge
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2703


Email
« Reply #7 on: January 23, 2006, 01:38:57 AM »

-_-" มันไปโกรธบุ๋มบิ๋มมาจากไหนหนะ
Logged


Nihil
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 12423


Email
« Reply #8 on: January 23, 2006, 07:33:01 AM »

เฮฮา สนุกสนาน อ่านแบบไหล ๆ เพลิน ๆ ได้เลย  ;D
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #9 on: January 24, 2006, 01:58:29 AM »

                                                                       บทที่ 2 เมื่อเจอกับเพื่อนใหม่
   “ข้าแต่พระองค์ ถึงแม้ว่าข้านั้น จะไม่เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้จริงอยู่ แต่ว่า นี่เป็นทางเลือกเพียงทางเลือกเดียวของข้าแล้ว ในตอนนี้ ข้าอยากขอ ขอให้น้องของข้านั้น มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ด้วยเถอะ” M doll พูดพึมพำ ในระยะที่ตนเองใกล้ตาย
   และก็เหมือนว่า เสียงนั้นไปถึงหูของนางฟ้าองค์หนึ่งเข้า ท่านจึงได้กระซิบไปเบาๆ กับ เด็กชายผู้นั้น ว่า “... ... ... ... (เขากระซิบกัน อย่าไปแอบฟังสิ)” และเมื่อจบการสนทนานั้น ดูเหมือนว่า เด็กชายผู้นั้นจะมีแววตาที่ยินดี
   “ขอบคุณครับ ท่านนางฟ้า”



   ‘นี่เราอยู่ที่ไหนกันเนี่ย จำอะไรไม่ได้แล้ว จำได้แต่ว่า เราตกลงมาจากหน้าผา แล้วก็ ห๊ะ! เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย’ A doll มองไปรอบๆตัวเอง เหมือนกับว่า ตนเองอยู่ในกระท่อมหลังหนึ่งกลางป่า มีของใช้มากมาย และมีเศษ น๊อต ไขควง กล่องอุปกรณ์ พร้อมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกหลายอย่าง กระจัดกระจายอยู่เต็มบ้านไปหมด


   “นี่เธอหนะ อย่าพึ่งขยับเลย บาดเจ็บออกจะขนาดนั้น” เสียงดังมาจากทางประตู
   “โอ๊ย !” เด็กสาวนอนร้องอย่างเจ็บปวด ดูเหมือนว่ายาชาที่เคยไปจะหมดฤทธิ์แล้ว
   “อืม ขอโทษนะครับ ผมจะรีบไปพยาบาลให้นะครับ” เด็กชายผู้นั้น เดินไปเอากล่องยา พร้อม อุปกรณ์ต่างๆ มาวางไว้บนเตียงที่ เด็กสาวนอนอยู่ “ผมถอดเสื้อเช็ดตัวให้นะครับ” เด็กสาวพยักหน้าเหมือนเป็นเชิงตอบรับ ชายผู้นั้นค่อยๆเปลื้องเสื้อของเด็กสาวคนนั้นลงมา ทีละนิดๆ จนเห็นเรือนร่างของเธอ จากนั้นเขาก็นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดตัวเธอ ตั้งแต่ต้นคอ ไปยังเนินอก และเช็ดเรื่อยๆลงมา


   “นี่เธอ เธอชื่ออะไรหลอ ทำไมถึงมาช่วยฉันหละ อูย อย่าเช็ดตรงนั้นสิค่ะ มันเสียว ซีด~” ขณะที่เช็ดตัวอยู่ สาวน้อยก็ได้ถามในเชิงสงสัย แววตาของเธอ สื่อได้ถึงความฉงนยิ่งนัก เพราะตัวเธอนั้นก็แค่ สาวน้อยคนหนึ่งที่ใกล้ตาย ไม่ผิดหรอกที่จะไม่มีคนช่วย
   “ก่อนจะถามชื่อคนอื่น ควรขานชื่อตัวเองก่อนนะครับ” ชายผู้นั้นส่งยิ้มให้เด็กสาวผู้นั้น
   “อืม ขอโทษนะค่ะ หนูชื่อ Assa ค่ะ เรียกสั้นๆว่า As ก็ได้ แล้วทีนี้คุณจะบอกชื่อให้ฉันรู้ได้ยังค่ะ” สาวน้อยยังอยากรู้ สงสัยไม่เสื่อมคาย ว่าผู้มีพระคุณกับตนเองนั้น มีชื่อว่าอะไร


   “อืม ผมมีนามว่า ฟิค (Fic) แต่ชาวบ้านแถวนี้เค้าเรียกผมว่า คุณหมอโรคจิต (Psycho Doctor) ผมก็ไม่รู้นะว่า ทำไมเขาถึงเรียกผมเช่นนั้น แต่รู้สึกว่า จะเป็นเพราะผมนั้นเป็นเครื่องจักร แต่ก็ยังไปช่วยรักษามนุษย์ แต่ว่า เธอเป็นชาว Machi ใช่ไหม เมืองนั้นเป็นไงบ้างแล้วหละ” Ficถามกลับ
   เด็กน้อยทำท่าเหมือนว่าจะร้องไห้ “ขอโทษนะครับ ถ้าไม่บอก ก็ไม่เป็นไรนะครับ” Ficกล่าว
   “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง” จากนั้น As ก็เริ่มเล่าตั้งแต่แรกจนจบให้แก่ Fic ฟัง


   “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ถล่มเมืองเครื่องจักรที่ใหญ่ขนาดนั้น เพียงไม่ถึงวันเนี่ยนะ ทั้งๆที่เครื่องจักรอย่างเรา ไม่เคยไปก่อความวุ่นวายให้แก่เมืองมนุษย์ซักหน่อย” Ficพูดอย่างเริ่มมีน้ำโห ท่าทางของเขาเปลี่ยนไป      “แต่เอาเถอะ เธอพักผ่อนเถอะนะ เธอหนะยังไม่หายดีเลย” ท่าทางเขาเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
   “อืมค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ แต่เอ๋ คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าทำไมคุณถึงมาช่วยฉัน” As ยังคงถามเพื่อสนองความสงสัยของตัวเอง
   “ผมก็แค่เห็นคนเจ็บอยู่ ก็แค่นั้นแหละครับ” Fic ยิ้มอีกครั้ง แต่ Asจังรู้สึกได้ว่า ครั้งนี้มันอบอุ่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ “ขอบคุณนะค่ะ คุณFic”



   วันรุ่งขึ้น
   “เฮ้ย กลิ่นอะไรไหม้เนี่ย” เด็กชายเดินไปยัง จุดเกิดควัน “แอ็กๆๆๆๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
   “ฉันกำลังทำอาหารเช้าให้คุณกินอะค่ะ แต่ว่า มันไหม้เสียแล้ว เสียดายจัง” As น้ำตาคลอเบ้าตา ทำท่าดูเหมือนจะร้องไห้เต็มทน


   “โอ๋ ไม่เป็นไรนะ ของแบบนี้ฝึกกันได้ เอ้า เรามากิน Fast Food ดีกว่า”
   “อะไรหลอค่ะ Fast Food” As พูดด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้น
   “นี่ไงหละ” Ficชูของขึ้นทันได้ “น้ำมันเบนซิน สูตรไม่มีน้ำตาล”
   “ห๊า ! ไม่มีน้ำตาล แล้วมันแตกต่างกับอันอย่างปกติยังไงอะ
   “ป่าวหรอก แค่พูดให้มันดูดี แค่นั้นเองแหละ เอ้า เรามากินกันดีกว่า”

   ทั้งคู่ยกขวดน้ำมันเบนซินขึ้นกระดกซด โฮ๊ก...

   “แหวะ ! นี่มัน” Fic หันไปดูข้างขวด

   XX . X . XXXVIII   (20-10-38)

   “นี่มันหมดอายุแล้วนี่ แหยะ Asจัง เราไปหาซื้อของมาตุนไว้ที่บ้านดีกว่า”

ณ 7-eleven ห้างสุดหรู ที่เหล่าไฮโซมารวมกัน

   “โอ้โห ว๊าวววววววว สวยจังเลย ตุ๊กตาตัวนี้น่ารักจังเลยอะ ซื้อให้หน่อยนะๆๆๆๆๆๆๆๆ” Asจัง ดวงตาเป็นกระกาย เย้ายวน ประดุจ หากท่านสบตา ท่านจะต้องใจอ่อนในทันใด
   “นี่เราไม่ได้มาซื้อของเล่นตุ๊กตากันนะ เรามาซื้ออาหารไว้กินตางหากหละ”
   “โธ่ ! Fic ใจร้าย ซื้อให้หน่อยก็ไม่ได้” ปากของ Asจัง ปวมเป่ง ราวกับว่า กำลังงอนใครซักคน “ไม่เอาก็ได้ เราไปซื้อของกันเถอะ แต่ มีข้อแม้นะ ห้ามเอาน้ำมันเบนซินหมดอายุมาให้ฉันกินอีกนะ” ทั้งคู่หัวเราะร่า
   “เอาเถอะ ไปซื้อของเร็วๆเถอะ จะได้กลับบ้านกัน ฮิฮิฮิ” Fic พูด


   “เฮ่อ เหนื่อยจริงๆเลย ได้ของมาเยอะแยะเลย แล้วเราจะกินหมดหลอเนี่ย”
   “ไม่หมดก็ทิ้งได้ ถามได้ อิอิอิ เอ้า Shoping ซะจนดึกเลย ไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้มีแรงทำอย่างอื่นต่อ” Ficพูดอย่างเป็นห่วง
   
   “อืม งั้นราตรีสวัสนะค่ะ”
   “อืม นอนหลับฝันดีนะครับ”
Logged


โยศิ, องเมียวดอกซากุระ
Member
*****
Offline Offline

Posts: 3805


Email
« Reply #10 on: January 24, 2006, 03:06:11 AM »

.....เออ A-doll มันเป็นตุ๊กตาอยู่แล้ว
ทำไม......
1.จะเล่นตุ๊กตา
2. เป็นmachineมีตายด้วยเหรอ.....กินอาหารอีกอ๊าคคค
3.คิดไงให้ บุคลิค อย่างMdoll คุยกับนางฟ้า ???
Logged


Ot@,the CM Idol
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1252


Email
« Reply #11 on: January 24, 2006, 03:11:13 AM »

อ่านแล้วนึกถึงficเรทR ที่เราเคยแต่งไว้ตอนเริ่มบอร์ดใหม่ๆ เมื่อเอดอลมาเจอกับเอ็มดอล เฮอๆๆๆ
ซึ้งน้ำตานอง....

รออ่านต่อน๊ะจ๊ะ :D
Logged


~+*_KiTTy_AzAr_*+~
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2658


« Reply #12 on: January 30, 2006, 02:04:01 AM »

ลุงขนดกโหดชิบ มันธาตุแสงนิ ไหงเหมือนธาตุมืดงี้ฟะ :o

เอดอลอินโนเซ้น ถ้าหมอไม่แคนเซิลเคิส สงสัยโดนเจ๊Aปาดคอหลุดแน่เลย
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #13 on: January 30, 2006, 11:39:09 PM »

บทที่ 3 Do~Ra~Gon
   ขนนกโรยริน ปลิวลงมาจากห้วงเวหาสีเทาเงิน
   “อ๊า สวยจังเลย ขนนกปลิวไสว มีเสียงนกร้องเพลง ว๊าว ต้นซากุระ ดอกกุหลาบป่า สวยจังเลยอะ แต่เอ๊ะ นี่มันที่ไหนกันเนี่ย” เมื่อเด็กสาวพูดจบนั้น ก็ได้เกิดเสียงฟ้าร้องขึ้น ท้องฟ้าที่จากสวยใสสีขาวบริสุทธิ์ กลับกลายเป็นมืดมิดในฉับพลัน


   “แม่ พ่อ อย่าทำร้ายพ่อแม่ฉันนะ อย่านะ” ภาพแห่งวันร้ายเก่าๆหวนกลับคืนมา
   “คนในเมือง Machi ต้องต้องไม่มีใครเหลืออยู่ เผ่าพันธุ์ Machine จะต้องถูกกวาดล้างให้หมด รวมทั้งพ่อแม่เจ้าด้วย ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหนึ่งดังขึ้น จากที่ๆ อันมืดมิด เห็นแต่เค้าหน้าอันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันทรงพลัง
   “เจ้า เทมป้า แกใช่ไหม ข้ารู้ว่าเป็นแก ออกมานะ เจ้าเทมป้า ออกมานะ ไม่กล้ามาสู้กับข้ารึไง กลัวเรอะอยู่ไหนหนะ ออกมานะ” As หน้าแดงผ่าว ราวกับแค้นใครบางคนแถวนี้ ผู้ที่เป็นศัตรูชั่วชีวิตของเธอ
   “5555+ เจ้าจะฆ่าข้าเรอะ 5555+ แค้นข้าเรอะ โกรธข้าเรอะ เกลียดข้าเรอะ มาฆ่าข้าสิ โกรธให้มากขึ้นอีก แค้นให้มากขึ้นอีก เจ้าจะได้เก่งขึ้น เก่งขึ้น เก่งขึ้น 555555555555555555+”
   “ข้าทำแน่ ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า เตรียมตัวตายได้เลย”

ผลึบ!!!   

   “นี่ As ตื่นๆๆๆๆ ละเมออะไร เธอจะฆ่าใคร ไม่ได้นะ เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่” Fic พูดออกมาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ As กำลังงัวเงียอยู่
   “อะไรหลอ เกิดอะไรขึ้นหลอ รีบปลุกฉันทำไมรึ มันยังไม่สว่างไม่ใช่เรอะ งืมงำ งืมงำ งืมงำ”
   “ก็เธอจะไปฆ่าใครไม่ใช่เรอะ แล้วเธอ ละเมออะไร เทมป้ง เทมป้าอะไรด้วย”
   Asจัง ถึงกับสดุ้ง ราวกับเรื่องต่างๆถูกปลุกขึ้นมาจากอดีตอันเลวร้ายอย่างรวดเร็ว Asจังมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป จากที่งัวเงีย กลับตาสว่างจ้า
   
   “Fic ถ้าฉันขอให้เธอช่วยอะไรฉันหน่อย จะได้ไหม” น้ำเสียงของเด็กสาวดูจริงจัง แต่เย็นชา เหมือนกับมีอะไรแฝงไว้ในคำพูดลึกๆ ของเธอคำนั้น
    “แล้วเธอจะให้ฉันช่วยอะไรหละ” เมื่อดูจากสีหน้าของ Fic เขาก็คงจะกลัวๆอยู่ไม่น้อย
   “ฉันก็แค่อยากให้เธอช่วย สร้างที่ฝึกพิเศษให้ฉันหน่อยแค่นั้นเองหนะ”
   “ห๊า! ที่ฝึกพิเศษ เธอจะเอาไปทำอะไรหนะ”
   “เอาเถอะน่า เธอก็น่าจะรู้นี่ ฉันจะไปฆ่าเจ้าเทมป้านั่น และฟื้นฟู อาณาจักร Machi ให้จงได้” ใส่รูปอาณาจักร Machi อยู่ด้านหลัง มีน้ำพุพุ่งอยู่โดยรอบ Background เป็นสีขาวสว่างจ้า จะดูอลังการยิ่งนัก -_-a
   “อือๆ รับปากแล้ว เดี๋ยวฉันทำให้ นี่ก็ยังมืดอยู่เลย ไปนอนเถอะ พักผ่อนให้สบายนะ”
   “อืมๆ”



เช้าในวันเดียวกัน
   โป้งๆ แป๊งๆ ป๊ากๆ เป๊กๆ ฯลฯ
   “นี่มันเสียงอะไรอะ โครมครามตั้งแต่เช้าเลย” สาวน้อยโวยวาย
   ตูม! “แฮ๊กๆ เสร็จแล้วหละ สิ่งที่เธอต้องการ มานี่เลยมา ฉันจะพาไปดู” เด็กชายจับแขนเด็กขาวแน่น และลากเธอไปดูสิ่งที่ตนสร้างขึ้นมา

   
สิ่งที่อยู่ต่อหน้าเป็น เด็กสาวนั้นมังกรตนหนึ่ง ตัวสีแดงฉาน ท่าทางทะมัดทะแมง ดวงตากลมโต มีแผงหลังสีเหลือง มันแง้มปากออกมา ราวกับมันกำลังจะพ่นไฟ

   “นี่ไงหละ หุ่นยนต์มังกร สุดยอดแห่งสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้เวลาสร้างอันยาวนานนับหลายปีหลายเดือน”
   “จำได้ว่า เพิ่งจะสร้างเมื่อกลางดึกเอง ไม่ใช่เรอะ Fic”
   “แหะๆๆ เอาน่า ไหนๆก็สร้างเสร็จแล้วขออวดหน่อยน่า เอ้า เราจะมาบอกชื่อผลงานของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้กันเลยดีกว่า สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มีชื่อว่า ว่า ว่า ว่า ว่า ว่า..........”

“Salamandery Doll”

   “หรือเรียกสั้นๆว่า Do~Ra~Gon ก็ได้ เพราะมันจะร้อง โดร่า โดร่า อะนะ”
   “อืม งั้นฉันตั้งชื่อให้มันว่า โดร่าจัง ก็ละกัน น่ารักดี อิอิอิ”
   “อย่ามัวแต่ชมแต่ความน่ารักมันเลย ไปลองฝึกกับมันก่อนเถอะ”


   “ตัวแค่เนี้ยอะนะ จะมีพิษสงอะไร ฉันจะใช้ฉับเดียว ฆ่ามันให้ตายด้วยหละ” Asจังพูดยังไม่ขาดคำ ก็คว้า อีโต้ อันยาว 2 เมตรครึ่ง ออกมา
   “Pretty Chop” เสียงคมมีดฝ่าแทรกแรงลมดัง ซูม “เป็นไงหละ เจ้ามังกรน้อย เจ้าไม่รอดหรอกน่า”
   “Do~Ra~Gonnnnnnnnnnnnnnnn” เปลวไฟแทรกออกมากลางกระแสลมนั้น พ่งเข้าสู่ A Doll อย่างรวดเร็ว
   “อ๊ากกกกกกกกก!” เปลวไฟที่ยังไม่หายดี ทำเอาเด็กสาวนั้น ร้อนรน อยู่อย่างไม่เป็นสุข
   “เจ้า โดร่า แก ตายซ๊าๆๆๆๆๆ”

แต่ไม่ว่า Asจังจะลองซักกี่หน มันก็ไม่สะเทือน

   “พอเถอะนะ Asจัง กินข้าวพักผ่อนก่อนนะ วันนี้ก็มืดแล้วนะ พักผ่อนก่อนเถอะ เธอซ้อมกับไอ้เจ้าตัวนี้มาตั้งแต่เช้าแล้วนะ”
   “ไม่ ฉันจะซ้อมต่อไป ถ้าไม่รีบๆเก่ง แล้วเมื่อไหร่จะได้ทวงเมืองของ พ่อ แม่ ฉันคืนได้หละ อีกกี่ปี 10ปี หรือ 20 ปีหละ เธอ....”
   “พอก่อนเถอะน่า ถ้าเธอทรุดลงไปตรงนี้ แล้วไม่สบาย หรือบาดเจ็บหนักขึ้นมา จะยิ่งทำให้เวลาซ้อมของเธอน้อยลงไปอีกนะ”
   “แต่...”
   “ไม่มีแต่นะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาต่อนะ”
   “ค่ะ ฉันจะเชื่อคุณ”
   “ผมจะพาไปส่งถึงเตียงนะ”
   
ในห้องนอนของ As จัง
   “นี่วันนี้หนาวจังเลยอะ Ficคุง” ดวงตากลมโตแวววาวเป็นประกายจ้องไปที่ เด็กชาย
   “แล้วจะให้ผมทำยังไงหละ เดี๋ยวผมหยิบผ้าห่มของผมมาให้ละกัน” หน้าของเด็กชายนั้นแดงไปหมดจนไม่กล้าสบตาเธอผู้นั่น
   “ไม่ต้องหรอก Ficคุง คืนนี้มานอนบนเตียงกับฉันได้ไหมหละ” เด็กสาวเว้าวอน
   เด็กชายตัวสั่นเทาไม่เป็นจังหวะ ถึงอยากจะหยุดให้ตัวเองหายสั่น แต่ก็ทำไม่ได้ แต่ก็ได้พยายามจะตอบกลับไปว่า
   “จะดีหลอ Asจัง”
   “ไม่ได้หลอ Ficคุง” ดวงตาคู่นั้นได้จับจ้องมาที่ใครบางคนแถวนั้นอีกครั้ง “น้า Ficคุง”
   “กะๆๆ ก็ได้ครับ”


   เด็กชายค่อยๆนอนลงช้าๆ และเอาหมอนข้างขึ้นมาวางคั่นกลางเอาไว้ ตอนนี้อารมณ์เขาค่อยๆจะกลับเป็นปกติอีกครั้ง แต่ทว่า
   “กอดฉันหน่อยได้ไม่หละ Ficคุง ฉันหนาวหนะ” เสียงนุ่มๆรอดไรฟันเล็กๆของเธอนั้น ทำให้ เด็กหนุ่มผู้นั้น เกิดอาการอีกครั้งหนึ่ง
   
   Fic ค่อยๆเอาหมอนข้างที่ขั้นกลางออกอย่างช้าๆ  มือของเด็กหนุ่มค่อยๆเข้าไปโอบตัวเด็กสาวด้วยความห่วงใย

   “อุ่นจังเลยเนี่ย Ficคุงเนี่ย”

   “ถ้าชอบเดี๋ยวผมทำให้ทุกคืนเลยก็ได้นะครับ แหะๆๆ”

   “จ๊ะ ฝากด้วยนะ” และแล้ว เธอก็หลับไป ด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่เธอด้รับมาตลอดทั้งวัน


   “อิอิอิ เด็กน้อย” เมื่อพูดจบ เขาก็ได้นอนลงไป


   และแล้วในคืนนั้น เขาทั้ง 2 ก็ได้นอนกอดกัน ทั้งคืนจนถึงเช้าเลย



แหะๆๆๆ ยังมีคนอ่านต่ออยู่รึป่าวเนี่ย ถ้ายังมีอยู่ ส่งเสียงหน่อยนะน่อ  ;)
Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #14 on: January 30, 2006, 11:45:40 PM »

Quote
แหะๆๆๆ ยังแหะๆๆๆ ยังมีคนอ่านต่ออยู่รึป่าวเนี่ย ถ้ายังมีอยู่ ส่งเสียงหน่อยนะน่อ  


มี :D
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #15 on: January 31, 2006, 12:10:48 AM »

Quote
แหะๆๆๆ ยังแหะๆๆๆ ยังมีคนอ่านต่ออยู่รึป่าวเนี่ย ถ้ายังมีอยู่ ส่งเสียงหน่อยนะน่อ  


มี :D

เย่ๆๆๆ ยังมีคนกระทู้เราอยู่ด้วย เย่ๆๆๆๆ

โพสติชมแต่ละบทด้วยจิ

แง่มๆๆๆ รู้สึกไม่ค่อยดีกับบทที่ 3 เลยแฮะ รู้สึกหัวมันตันตึบๆไงไม่รู้อะนะ -_-a
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #16 on: February 01, 2006, 01:51:17 AM »

บทที่ 4  เรื่องในบ้าน

อึบ อ่า อึบ อ่า อึบ อ่า !!!

   “นี่ As เธอทำอะไรของเธอหนะ ทำตั้งแต่เช้าเลย” งัวเงียๆๆๆๆ
   “ก็ฝึกพิเศษไง ฉันกำลังทำอย่างนั้นอยู่หนะ”
   “ห๊า อย่างนั้นหลอ” เด็กชายมีอาการเหม่อเล็กน้อย
   “นี่เธอคิดอะไรของเธอหนะ”
   “ป่าวๆ ไม่มีอะไรนี่ แค่กำลังคิดว่า เช้านี้จะกินอะไรดี ฮิฮิฮิ” เด็กชายยิ้ม “ผมไปทำกับข้าวก่อนละกันนะ”
   “ค่าาา นี่แหนะ ตายยัง เจ้าโดร่าหนิ อึดจริงๆ ชิๆๆ อ๊ากกกกกกกก”


1 ชั่วโมง 2 นาที 48 วินาที ผ่านไป


   “Asจัง มากินอาหารได้แล้ว เช้านี้อาหารเป็น น๊อต กับไขควงอบเนยนะ น่ากินที่สุดเลย”
   “จ๊า อ๊ากกกกกกกกกกกก โคร่ม”
   “อิอิอิ มาเร็วดีนะ สายการบิน Do~Ra~Airline ใช่ไหมนั่นหนะ”
   “ชิ จะอะไรอีกหละ ก็โดร่าจังมันพ่นไฟอีกแล้วหละสิเนี่ย เห็นไหมดำเป็นตอตะโกไปหมดเลย” แก้มของหญิงสาวบวมเบ่งผิดปกติ ราวกับงอนใครซักคนในบริเวณนั้น
   “เอาน่า เอาน่า เอ้า มากินข้าวแล้วไปอาบน้ำซะ เนื้อตัวจะได้สะอาดสะอ้าน” หน้าของ Fic ก็บวมเช่นกัน แต่คงเป็นเพราะ กลั่นอาการหัวเราะไม่อยู่เสียมากกว่า
   “จะหัวเราะก็หัวเราะไป ชิๆๆๆๆ กินเสร็จแล้ว”
   “ห๊า เร็วจริงๆเลยนะนั้นหนะ วิชาหมูทยานอีกแล้วหละสิ ซัดซะเรียบเลย”
   “Fic บ้านี่ ฮิฮิฮิ ไปอาบน้ำแล้วนะค๊ะ”


ณ ห้องอาบน้ำ


   ซู่ๆๆๆๆๆ
    “เฮ่อ ถ้าเราฝึกอย่างนี้ไปเรื่อยๆแล้ว แม้แต่แค่ มังกรตัวเล็กๆเรายังฆ่ามันไม่ได้เลย แล้วไอ้เจ้าบ้านั่นเราจะจัดการมันได้ไหมเนี่ย เฮ่อ”
   ซู่ๆๆๆๆๆ
   “อ๊ากกกกกกกก ปวดหัวๆๆๆๆ เรามาอยู่ที่นี่แล้วมารบกวน Ficคุงเค้ารึป่าวเนี่ย เอาแต่ปัญหามาให้เค้า แล้วยังจะชอบไปว่าเค้าอีก”
   ซู่ๆๆๆๆๆ
   “สบู่หายไปไหนนะ”
   “แปรงสีฟันด้วย”
   “ห๊า ยาสระผมชั้นหละ”
   “ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยย! ผ้าเช็ดตัวชั้นหายไปไหน ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”


   “Asจังเกิดอะไรขึ้นหลอ” Ficเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาอย่างรวดเร็ว ภาพที่เขาได้เห็นกับตานั้น คือภาพ เด็กหญิงสาว Lolicon  ผู้มีร่างกายขาวนวลผุดผ่องไปทั่วทั้งกาย ไปจนถึงสะโพก และ
   “ว๊าย อีตาบ้า อีผู้ชายลามก อีผู้ชายเฮ็งซวย ออกไปจากห้องน้ำเดี๋ยวนี้นะ ไปเซ่ อีตาบ้า” As จังรีบหลบเข้าไปหลังประตูห้องน้ำอย่างรวดเร็ว พร้อมหยิบมีดคู่กายเข้าใส่ Fic ด้วยความเร็ว ปานความเร็วแสง
   ฟี้ว! ฉึก! เสียงมีดคู่กายของเธอบินผ่านแสกเด็กชายตัวน้อยๆไป เหวี่ยงสะบัดเข้าไปเฉาะใส่กำแพงอย่างฉับพลัน  “เฮือก! เกือบไปแล้วไหมหละ” Ficหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด “อีกนิดเดียวเอง ทำอะไรก็ให้มันระวังหน่อยสิ ถ้าโดนแล้วจะว่ายังไง ห๊ะ” Ficตวาด
   “ก็ Ficคุง ลามกนี่ เปิดประตูเข้ามาตอนที่Asอาบน้ำอยู่อะ”
   “อะจ๋าจ้า ผมผิดเองน่า เอาเป็นว่า เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นหนะ”
   “มีใครก็ไม่รู้ ขโมย ผ้าขนหนูชั้นไปอะ สบู่ ยาสระผมด้วย”

   
   “เอาเป็นว่า เรามาหาขโมยกันเถอะ” Fic เดินออกห่างจากประตูห้องน้ำ
   “Fic อย่าเพิ่งไปสิ เอาผ้าขนหนูอีกผืนมาให้ฉันก่อนเซ่”
   “อืมๆ อยู่ตรงไหนหละ”
   “ที่ตู้สีชมพูใกล้ๆกระจกอะ ชั้นที่ 3 นะ อย่าเปิดชั้นอื่นหละ”
   “อือๆน่า”


ระหว่างทาง “อืม ตู้ชั้นอื่นมันจะมีอะไรอยู่น้า อะถึงแล้ว ห้องของ Asจัง”
   “ตู้สีชมพู ตู้สีชมพู อ๊ะ เจอแล้ว ผ้าขนหนูๆ” เด็กหนุ่มค่อยๆเปิดลิ้นชักชั้นที่ 3 “อ๊ะ ได้แล้ว ผ้าขนหนู แต่ แล้วชั้น 2 กับ 1 มีอะไรอยู่เนี่ย อืมเปิดดูดีกว่า เริ่มจากชั้นที่ 1 ก็แล้วกัน อาจจะมีอะไรดีๆให้เราดูก็เป็นได้”

   เด็กหนุ่มค่อยๆเปิดลิ้นชักชั้นที่ 1 ครื่น...
   ตาทั้ง 2 ของ Fic แทบจะค้าง ใจของเขาแทบจะหยุดเต้น มือของเขา ตัวของเขาทรุดลงทันใด

   ลิ้นชักตู้ที่ 1 นั้น เต็มไปด้วย สารพัด มีด ทั้ง อีโต้ บังตอ มีดพก มีกสั้น มียาว มีดใหญ่ มีดหั่นเนื้อ มีดเล่นมายากล มีด มีด และก็มีด แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดน่าจะเป็น มีดเปื้อนเลือดที่ยังไม่เช็ดของ Asจังเค้า

   “เฮือก สยองจริงๆ ไม่น่าเปิดดูซี้ซั้วเลย” เด็กหนุ่มค่อยๆรวบรวมความกล้า ยืนขึ้นอีกครั้ง “เอาวะ ชั้นที่ 2 ต้องมีอะไรดีๆให้ดูแหละน่า”

   และแล้ว เด็กหนุ่มก็รวบรวมความกล้า เปิดลิ้นชักอีกครั้งนึง
   “เฮือก...” ร่างกายของ Fic ทรุดลงอย่างรวดเร็ว ตาของเขาแทบจะไม่อยากลืมขึ้นมาอีก ขาของเขาทรุดลง ลงไปกองอยู่กับพื้น ร่างของเขาสั่นเทา
   
   สิ่งที่ Fic ได้เห็นในลิ้นชักชั้นที่ 2 ก็คือ รูปของ เทมป้า ที่มีทั้งรอยเลือดติดอยู่ มีด เข็มหมุดติดอยู่ มีตุ๊กตา Voodoo ที่ถูกปักเข็มหมุดนับร้อยอยู่ในตุ๊กตาตัวนั้น มีการจัดธูป ดอกไม้ และวางกะโหลกคนตายไว้ข้างๆ เพื่อเป็นไสย
   ตึงๆๆๆๆ “นี่ Fic เธอทำอะไรอยู่หนะ เธอเปิดลิ้นชักชั้นอื่นของฉันใช่ไหม ก็บอกแล้วไงไม่เชื่อๆ นี่ถ้าเป็นคนปกติๆ คนอื่นช๊อค ไปแล้วนะนั่นหนะ”
   “เหอๆๆๆ แล้วนี่เห็นฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้นอยู่เรอะ เหอๆๆๆ” Fic หัวเราะราวกับเสียสติไป
   “เอ้า ไปนอนก่อนเถอะ ฉันจะพาไปนะ” Asจังเอามือของ Fic พาคอตน แล้วค่อยๆพา Fic ไปยังห้องของเขา
   “เออนี่ เธอ ไปเอาผ้าเช็ดตัวมาได้ยังไงหนะ”
   “ผ้ามันตกไปจากที่แขวนหนะ”
   “แล้วนอกจากนั้นอะ”
   “สบู่ ยาสระผม ฉันลืมไปว่ามันเพิ่งหมดไป ส่วนแปรงสีฟัน มันก็ครบ 3 เดือนแล้ว ฉันก็ทิ้งไปแล้วด้วย เอ้าถึงเตียงแล้วนะ นอนพักผ่อนไปก่อนเถอะนะ”
   “อืม”

   กุ๊งกิ๊งๆๆๆๆ “อาหารเย็นเสร็จแล้วค่า มากินมามะ อาหารสำหรับคนมะค่อยสบาย อิอิอิ”


Fic ค่อยๆหยิบช้อน และตักสิ่งที่ Asจังเรียกว่า “อาหาร” นั้นเข้าปาก

   “พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

   “ไม่อร่อยหลอค๊ะ”

   “ไม่ใช่ไม่อร่อยหรอก แต่ว่ามันไม่ค่อยถูกปากของผมมากว่ามั้ง เอาเป็นว่า คราวหลังผมทำเองดีกว่านะครับ” Fic ยิ้ม

“ค่าาาาาา” Asจังขานรับ น้ำเสียงอันไร้เดียงสาของเธอ บวกกับท่าทางของเธอ ทำให้ยิ่งดูยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก  “ฮิฮิฮิ”



เย่ๆๆๆ บทที่ 4 จบไปแย้วน่อ -_-a เหนื่อยเจงๆเลย ปกติต้องหมกเปงอาทิตย์แฮะ ไหงบทนี้ วันเดียวเสร็จ อิอิอิ  ;D
Logged


Pekung
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 173


Email
« Reply #17 on: February 04, 2006, 12:06:59 AM »

ลงต่อเร็วๆเยย
Logged


PoP_KunG
Member
*****
Offline Offline

Posts: 182


« Reply #18 on: February 04, 2006, 12:37:43 AM »

หุ่นยนจะมีลุกได้ไหมเนี่ย  
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #19 on: February 07, 2006, 12:36:20 AM »

บทที่5 ป่าแห่งภูติ

   “ปึก... ปึก... ปึก... ปึก... ปึก... ปึก... ปึก... ปึก...”

   “นี่ Asจัง ขยันจังเลยนะ ยังไม่เคยเห็นวันไหนเธอตื่นเช้ามาไม่มาฝึกเลยนะ” เด็กหนุ่มพูดขึ้นมา ด้วยความเป็นห่วง พร้อมเอามือตน กุมมือของหญิงสาวไว้ “พักซะบ้างก็ดีนะ วันนี้เราไปปิกนิก เล่นหาของป่ากันก็แล้วกัน”
   เด็กสาวเกิดอาการหน้าแดงก่ำ ทั้งที่ตนเองไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกที่ ตนเองสั่น ไม่กล้าตอบออกไป หรือความรู้สึกนี้เขาจะเรียกว่าเขินกันนะ
   ถึงแม้เธอจะรู้สึกเช่นนั้นก็ตาม แต่เธอก็ได้ตอบ ตกลง ลงไป


   ขณะที่ทั้งคู่กำลังเข้าป่าไปนั้น

   “Assa……… Assa………” เสียงอันแผ่วเบา อันลอยลิ่วมาตามลม ดูเหมือนว่ามันจะมากระทบหูของเด็กสาวน้อยนาม Assa
   “นี่ Fic เธอได้ยินอะไรรึป่าวหนะ เมื่อมีใครเรียกชื่อชั้นหนะ” เด็กสาวกระตุกแขนเสื้อของเด็กหนุ่มเบาๆ
   “ไม่นี่ เธอหูฝาดไปป่าว ในนี้มีแต่เสียงนกร้อง เสียงสัตว์ป่านะ จะไปมีคนเรียกชื่อเธอได้ไง ยัยบ๊องนี่” Fic เคาะหัวยัยบ๊อง 1ที
   “เจ็บนะ” เด็กสาวพองแก้มทั้ง 2
   “ก็จะได้ไม่คิดอะไรแปลกๆอีกไง ฮิฮิฮิ” Fic ยิ้มตอบ


   แต่ทว่า เมื่อเข้าไปในป่า ลึกเข้า ลึกเข้า เธอก็ได้ยินเสียงนั้นอีก
   “Assa….. Assa….. ทางนี้ มาหาข้า ทางนี้” เสียงนั้นดังขึ้น เด็กสาวได้หันไปมองหน้าของเด็กหนุ่ม แต่ท่าทางของเด็กหนุ่มนั้น ราวกับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
   “นี่ๆๆๆๆ Ficคุง คือ ฉันขออะไรอย่างได้ไหมอะ” เด็กสาว ยกมือขึ้นและดึงปลายเสื้อของ เด็กหนุ่มเบาๆ “ตามฉันมาทางนี้” เด็กสาวดึงแขนเสื้อของเด็กหนุ่ม และวิ่งตรงไปตามทางที่เธอได้ยินเสียงทันที
   ยิ่งเธอวิ่งมากขึ้น เสียงที่เธอได้ยินก็ยิ่งดังขึ้นเรื่องๆ
   “Assa ข้าอยู่ที่นี่ มาหาข้าสิ” เสียงนั้นดังมาจากที่ๆแห่งหนึ่ง ใกล้ๆตัวเธอ แต่ทว่า
   “นี่ๆ ตรงนี้มีรูอะไรไม่รู้เนี่ย มาดูเร็ว” Fic ชี้ให้ เด็กสาวดู โพรงๆหนึ่ง ขนาดที่ว่า คนสามารถมุดเข้าไปได้เลย


   เมื่อเธอมองเข้าไปในโพรงนั้น เธอก็ได้ยินเสียงอันชัดเจน เสียงของหญิงสาวที่กำลังเรียกเธอ เสียงของบุคคลที่เรียกเธอตั้งแต่เข้าป่า เธอค่อยๆลอดเข้าไปช้าๆ ช้าๆ แต่เมื่อ Fic กำลังจะมุดเข้าตามไป โพรงนั้นก็กลับปิดหายไป กลายเป็นต้นไม้ต้นใหญ่ ไร้โพรงเช่นเดิม


   “นี่มันที่ไหนกันหนะ” เด็กสาวมองไปรอบๆตัวของเธอ ทั้งซ้ายทั้งขวา กลับมืดมิด ไม่มีแม้แต่แสงไฟ ความรู้สึกที่เธออยู่นั้น ไม่เหมือนว่าเธออยู่ในโพรงเลย เธอสามารถยืน เดิน วิ่ง ได้อย่างอิสระ ราวกับว่า ที่นี่มิใช่มิติที่เธอเคยอยู่

   “Assa มาทางนี้สิ มาหาข้าสิ” เสียงของหญิงสาวผู้เดิม ที่ได้เป็นคนที่เรียกเธอมา ณ ที่แห่งนี้
   เด็กสาวค่อยๆเดินเข้าไปตามเสียงนั้น ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่ บรรยากาศก็ค่อยๆ สว่างขึ้น สว่างขึ้น
   

   ภาพที่อยู่ตรงข้างหน้าเธอนั้น คือหญิงสาวบริสุทธิ์ มีผิวสีขาวนวล ชายใดได้พบเจอ จำเป็นต้องสยบกับเธอทุกครา เธอผู้นั้นมีนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนๆ เขียวแกมน้ำเงิน เมื่อจ้องตาเธอนั้น ราวกับว่า ตัวเรานั้นอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรรวมอยู่กับเหล่าปลานานา
   ผมบรอนซ์ เหลืองทองประกาย และกลิ่นหอมเย้ายวนของตัวเธอนั้น สามารถสะกดชายใดก็ตามให้ทำตามคำสั่งเธอได้ในพริบตา
   ริมฝีปากของเธอนั้น แดงฉาน สวยสดงดงาม หากชายใดได้ จุ่มพิษจากเธอนั้นไปครอบครอง ก็จะได้เป็นสุขขี ชั่วชีวาก็มิปานได้
   สัดส่วนของเธอผู้นั้น เป็นหญิงผู้มีสิริโฉมงดงาม ที่มิมีหญิงใด ทั่วทั้งไกอา ที่จะเทียบปานเธอนั้นได้    เธอนั้นมิได้ใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ ก็จะมีแต่แค่ผ้าพันรอบตัว ไว้เพื่อแค่ปิดบังบางส่วนไว้เท่านั้น แต่ก็ยังทำให้เห็น ทรวดทรงของเธอได้อย่างชัดเจนอยู่ดี
   เธอนั้นเป็นต่อ ทั้งทั่วหล้า สวยกว่ามนุษย์นานา แต่เธอนั้น หาใช่มนุษย์ไม่ เนื่องจาก เธอนั้นมีปีกถึง 6 ปีก ที่กลางหลังของเธอ ปีกอันขวาบริสุทธิ์ ยามใดที่เธอโบกพัดปีก ยามนั้น ทั่วทั้งแดนดิน จะถูกปกคลุมด้วยขนปีกสีขาวของเธอในทันที


   “สวัสดี เด็กน้อย Assa” หญิงผู้สูงสง่า ได้กล่าวทักทายเธอ มือของเธอโค้งมาทางด้านหน้า พร้อมก้ม ราวกับว่า เป็นการเคารพอันนอบน้อมของเขา
   “สวัสดีค่ะ คือว่า คุณเป็นใครกันค่ะ” มือของเธอจับผ้าเช็ดหน้า ปากของเธอเม้มผ้าสีชมพูนั้นไว้แน่น
   “ฉันเป็น นางฟ้า ผู้มีนามว่า Clare (แคร์) ฉันนั้นไม่ทำอะไรเธอหรอก แต่ว่า จะมาปกป้องเธอตางหากหละ ตามที่พี่ของเธอนั้นได้ขอไว้ก่อนตาย” มือของเธอได้ไปแตะที่แก้มของเด็กน้อยเบาๆ “พี่หนูนี่ช่างรักเธอจริงๆนะ น่าดีใจจริงๆ ที่ยังมีพี่เช่นนี้อยู่อีก”
   “แล้วสาเหตุที่ คุณพาฉันมาที่นี่หละ คุณไปหาฉันมันไม่ง่ายกว่าหลอ” เด็กสาวถามอย่างสงสัย
   “มิได้หรอก ฉันไม่มีความสามารถที่จะเข้าฝันใครได้ และฉันก็มิสามารถแสดงตนให้ผู้อื่นเห็นได้เช่นกัน จะมีแต่คนแค่บางคนเท่านั้นที่จะได้เห็นฉัน และนี่ก็เป็นมิติของฉัน คนที่จะเข้าได้ก็มีแต่เธอคนเดียวนี่แหละ” แคร์อธิบาย “เอาเป็นว่า ไหนๆเธอมาเจอฉันแล้ว ฉันก็ขอมอบสิ่งนี้ไว้ปกป้องเธอก็แล้วกัน”


   Assa ได้รับ จี้ Holy Player 1EA “มันจะช่วยปกป้องเธอจากคำสาปต่างๆ และหากเธอต้องการให้ฉันช่วยอะไร ก็ขอให้ ถูจี้นี้ 3 ครั้ง แล้วฉันก็จะมาปรากฏต่อหน้าเธอทันที”
   “อืม ขอบคุณมากค่ะ แต่ว่า พี่ชายคนนั้นเค้า ที่มากับหนูคนั้นจะเป็นยังไงบ้างอะค๊ะ นี่เราก็คุยมากันนานแล้วนะค๊ะ” เด็กสาวพูดตัดบท
   “อืม จริงด้วย เดี๋ยวฉันจะส่งเธอไปที่ใหล้ๆเขา แล้วเธอเดินไปหาเขาเองละกันนะ เขาจะได้ไม่สงสัยอะไรนัก และ ฉันรู้ว่าเธอคิดจะแก้แค้น Templar ใช่ไหม”
   “อืมค๊ะ” สีหน้าของเด็กสาว สลดลง “ถ้าเธอคิดดีแล้ว ฉันก็คงจะห้ามเธอไม่ได้หรอก ตอนนี้ Templar เขาได้โดน Sin ซักตนหรอกใช้อยู่ การที่เธอจะไปสู้ในตอนนี้ คงยังสู้เขาไม่ได้หรอก ให้เธอไปหา ชายชรา ณ ป่า Blackwood เถิด เขาอาจจะช่วยอะไรเจ้าได้” เมื่อเธอพูดจบ เธอก็ได้ ยกมือขึ้น วาดรูปวงกลมในอากาศขึ้น “ขอให้เธอจงประสบแต่ความสำเร็จ ขอพระเจ้าอวยพร”

   บรรยากาศค่อยๆมืดลง และเมื่อเธอรู้สึกตัวอีกที เธอก็ได้อยู่บนเตียงของเธอแล้ว
   “เธอคงจะไปเจออะไรเข้ามาสินะ ตอนนี้นอนไปก่อนเถอะ ไว้วันหลังค่อยมาเล่าให้ผมฟังก็แล้วกันนะครับ ราตรีสวัสครับ” แทนที่เด็กหนุ่มจะตวาดใส่ แต่เด็กหนุ่มกลับบอกราตรีสวัสด้วยเสียงอันอ่อนโยนแทน เขาช่างเป็นผู้ชายที่ดีจริงๆ
   “ขอบคุณมากเลยนะค๊ะ” เด็กสาวหันหน้าไปขอบคุณ และในขณะเดียวกัน ปากของเด็กชายก็ได้กระทบกับหน้าฝากของเด็กน้อยพอดี
   “อืมราตรีสวัสนะครับ” เด็กหนุ่มหน้าแดงเล็กน้อย
   ส่วนเด็กหญิงก็มีอาการไม่แพ้กัน แต่ก็ยังตอบกลับไปได้ว่า “เช่นกันค่ะ” และเธอก็ยิ้มหลับไปอย่างมีความสุข




อ๊ากกกกกกกกกกกกกก เหนื่อยแทบตาย Idea หนูหายไปไหนหมดอะ T-T อุตส่าพยายามจะไม่ให้บทพูดเยอะแล้วนะเนี่ย ยังเยอะอยู่เลย มีไรติชมได้เหมือนเดิมน่อ
Logged


~+*_KiTTy_AzAr_*+~
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2658


« Reply #20 on: February 07, 2006, 12:43:36 AM »

โอ้ มีจินนี่ด้วย :o

แล้วจะมีอะไรเป็นพรมวิเศษหนอ... ::)
Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #21 on: February 07, 2006, 12:46:23 AM »

Quote
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก เหนื่อยแทบตาย Idea หนูหายไปไหนหมดอะ T-T อุตส่าพยายามจะไม่ให้บทพูดเยอะแล้วนะเนี่ย ยังเยอะอยู่เลย มีไรติชมได้เหมือนเดิมอ

ไม่เห็นเปนไรเลย :)
ปล ลงต่อเร็วๆนา ;)
« Last Edit: February 07, 2006, 12:47:54 AM by Moonshiny Doll » Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #22 on: February 11, 2006, 01:06:27 AM »

บทที่ 6 เริ่มเดินทาง

นี่ Asจัง จะไปแล้วนะ เตรียมตัวเสร็จยาง

“เสร็จแย้วน่อ ท่านFic คิกคิกคิก”

   วันนี้ก็เป็นวันกำเนิดการเดินทางไปหาท่านผู้เฒ่าแห่งป่า Blackwood แล้วสินะ ทางข้างหน้าจะเป็นยังไงบ้างนะ  เมื่อ เด็กสาวคิดดังนั้น เด็กสาวก็เริ่มถอนหายใจ ใจเด็กน้อยเริ่มสั่น

   และแล้ว ก็ได้มีมือ มือหนึ่ง มาจับยังแขนของเธอ “เราไปกันเถอะ ไปฟื้นฟูอาณาจักรของเธอกัน” จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ออกเดินทางไป ปล่อยให้บ้านหลังนั้น ได้ร้างเอาไว้

   เมื่อทั้ง 2 เริ่มเดินเข้าไปในป่าแห่งนั้น ภาพที่เธอนั้นเห็นนั้น มันได้แตกต่างจากเดิม ต้นไม้นานาที่เคยดูสดใส เหล่านกนานาที่ได้เคยร้องเพลง เย้ายวนให้เธอสนุกไปกับการเดินป่า แต่ในเวลานี้แล้ว มันไม่ได้เป็นเช่นเดิม

   “นี่ Fic! ป่า Blackwood มันอยู่ส่วนไหนกันหลอ” เด็กน้อยเดินมองดูภาพรอบตัว ที่กำลังจะเป็นอดีตต่อไป “ตั้งแต่ฉันเกิดมา ฉันยังไม่เคยออกจากหมู่บ้านเลย มันอยู่ไกลรึป่าวหนะ”

   “ก็ไกลนะ คงต้องไปกันหลายวันแหละ” เด็กหนุ่มกล่าว ทำให้เด็กสาวเริ่มกังวลใจ “แล้วแบบนี้เราต้องอยู่ในป่า ไปตลอดเลยหลอ สกปรกจะตาย”
   “แล้วใครจะบอกว่าเราจะมุ่งไปป่านั้นกันเลยหละ รู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอต้องเหนื่อย งั้นเราก็จะไปแวะที่ Felasia กันก่อนก็แล้วกัน แล้วฉันจะทำสิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจ” เด็กหนุ่มยิ้ม

เราอย่ายืดกันเลยดีกว่า ไปเมือง Felasia กันเถอะ

   “โอ้โห! ใหญ่จังเลย ทำไมถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้เนี่ย ใหญ่กว่าเมืองของฉันอีกหละมั้งเนี่ย ตลาดร้านขายของขนาบทั้ง 2 ข้างทาง ว๊าวววววววว น้ำพุสวยจังเลย นี่ Fic ดูสิๆๆๆๆๆ” เด็กสาวตื่นเต้น เธอคิดถึงเมืองเก่าของเธอ รู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวนั้น จะเป็นดั่งเมืองที่เธอนั้นได้เคยอยู่ สีหน้าของเธอได้สลดลงอีกครั้ง เมื่อเธอคิดถึงเรื่องพี่ของเธอ

   “เดี๋ยวฉันจะไปหาซื้อของก่อนนะ อะ นี่เงินของเธอ เอาไปซื้อของที่เธออยากได้เอาซะนะ แล้วเดี๋ยวมาเจอที่น้ำพุกลางเมืองนะ ไปหละ” เด็กชายโบกมือลา และเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

   เด็กน้อยได้เดินตามไปตามทาง เลี้ยงขวาที เลี้ยงซ้ายดู แลดูนก ดูไม้ต่างๆ รอบๆกาย มีทั้งร้านขายอาวุธ ร้านขายอุปกรณ์ ร้านขายดอกไม้ แต่ที่สะดุดตาเธอก็คือ ลานประลองยุทธ

   “ใครสนใจที่จะมาประลองยุทธ มีเพียงผู้ที่อยู่บนแท่นเวทีเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่จะได้รับรางวัล หากผู้ใดสนใจจะมาร่วมประลองกับเรา เชิญมาลงทะเบียนได้ ณ ที่นี้ได้เลยครับ” ชายผู้นั้นโบกมือพลาง ชี้ไปยังที่ๆลงทะเบียนพลาง “จ่ายเงินเพียง 1000 ท่านอาจจะได้กลับไป 10000 พร้อมด้วย Item ทั้งหลายด้วย เชิญได้เลยครับ”

   บนลานประลองนั่น ได้มีมนุษย์ผู้หนึ่ง จะเรียกว่า มนุษย์ก็ไม่ปาน  เขาเป็นมนุษย์สายพันธุ์สมิงป่า สวมชุดเกราะ และดาบเล่มใหญ่และยาว กำลังประลองกับ ชายร่างผอมเพียวบาง เขาคลุมร่างของตนด้วยผ้าคลุมสีเขียว-น้ำตาล ทางมือซ้ายเขาถือคทาขนาดใหญ่เอาไว้

   “เอ้า! เรามาดูกันนะครับ ว่าระหว่าง ผู้ท้าชิง Latal, the Elite Tiger Warrior เสือสมิง ผู้มีกำลังเปี่ยมล้น จะสู้กับ แชมป์เก่าของเรา Ray, the Desert Sorcerer ผู้ที่ล้มผู้เข้าแข่งขันทั้งหลายด้วยการร่ายเวทย์เพียงบทเดียวได้หรือไม่ ต้องมาติดตามชมกันนะครับ” กรรมการได้ส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ทำการประลองกันได้

   ทางเสือร่างยักษ์ได้บุกเข้าไปก่อน มันตวัดดาบ 1 ที วิ่งเข้าฟัน เจ้านักเวทย์นั่นทันที แต่ฝั่งผู้ใช้เวทย์นั้น จะไม่ทำอะไรเลยนะครับ เขามัวแต่ยืนนิ่งๆ อยู่อย่าเดียวเลยครับ
   “บ่นพึมพำอะไรอยู่ได้ 555+ ถอดใจแล้วเรอะ เอารางวัลมาให้ข้าซะเถอะ 555+ ห๊า!” บรรยากาศโดยรอบดูเหมือนกับว่า จะมีอะไรแปลกไป ทรายมารวมตัวกัน เข้าพ่งไปยังเป้าหมายในทันที
   “นั่นคือ Solid Sand ไงหละ น้อยคนนักที่จะหลบเวทย์นี้ได้นะ ข้าต้องชมเจ้าจริงๆ” แต่มันยังไม่หมดเท่านั้นหรอกน่า “ทรายเอ๋ย จงมารวมกัน รัดศัตรูของข้า มิให้โบยบินได้ กรงขังทราย” จอมเวทย์หนุ่ม กำมือ เป็นดังสัญญาณให้เหล่าทรายมารวมกันเข้าจับขังศัตรูในทันที
   “อึก” เจ้าสมิงนั้นไร้การขยับ หมดสภาพในทั้งใด เสียงกรรมการหยุดการแข่งขันได้ดังขึ้น ฝ่ายผู้ชนะเป็นจอมเวทย์แห่งทะเลทราย นาม Ray ผู้คนทั่วสนามประลองส่งเสียงเชียร์ไปทั่ว

   และเสียงนั้นก็ได้หยุดลง เมื่อมีเด็กสาวตัวน้อยน่ารักคนหนึ่งเข้าไปบนลานประลอง จากเสียงเชียร์กลายเป็นเสียงหัวเราะ เสียงนินทาจากผู้คนมายมากทั่วทั้งลานประลอง

   “สาวน้อย เจ้ามาบน ณ ที่แห่งนี้ เจ้าเตรียมตัวเตรียมใจดีแล้วเรอะ กลับไปกินนมที่บ้านนอนซะเถอะ ฮ่าๆๆๆๆ” จอมเวทย์หนุ่มกล่าวเยาะเย้ย

   “การแข่งระหว่าง Assa, the Assassin Doll กับ Ray, the Desert Sorcerer จะเริ่มต้นนะบัดนี้แล้ว”

   ทางฝั่งเด็กน้อยได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว วนไปรอบๆศัตรู “แกบังอาจมาว่าฉันเป็นเด็กน้อย เป็นเด็กแล้วมันไม่เก่งเรอะ เป็นเด็กแล้วมันเสียหายตรงไหน เด็กหลายๆคนยังเก่งกว่าผู้ใหญ่หลายๆคนอีก เจ้ามนุษย์เฮ็งซวย Pretty Chop” เด็กสาวฟาดฟันมีดของเธอออกไปโดยหวังจะให้อีกฝ่ายคอหลุดแบบ 100% แต่มันมิเป็นเช่นนั้นไม่ ชายหนุ่มผู้นั้นได้คว้าคทาขึ้นมากันไว้ ทำให้คทานั้นเป็นรอย และส่งผลต่อเวทย์ของเขาด้วย

   “บังอาจนักนะ เจ้าเด็กตัวแสบ คงจะให้เจ้าอยู่รอดไม่ได้แล้วแหละ ข้าจะโชว์ไม้ตายของข้า ให้แกได้ดูชม” จากนั้นหนุ่มจอมเวทย์ก็ได้ร่ายมนตร์อีกครั้ง “พายุทรายโหมกระหน่ำ ซัดพาศัตรูของข้า ให้หายไปในท้องนภา ด้วยเถิด Desert Storm” จากบรรยากาศเย็นๆไร้ลม กลับกลายเป็น ดินแดนอันร้อนระอุ ลมกรรโชกอย่างรุนแรง จนแทบจะเป็นพายุได้เลยทีเดียว “เป็นไงหละ ยอมแพ้ไปซะเถอะ เด็กน้อย ไม่งั้นจะเจ็บตัวได้นะ”
   
   เมื่อเด็กสาวได้เห็นดังนั้น ตนเองคิดว่า ตนเองต้องแพ้แล้วแน่แท้ แต่อยู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา “Asจังสู้ๆ อย่ายอมแพ้นะ ถ้าเธอแพ้ที่นี่แล้ว เธอจะก้าวต่อไปได้ยังไง” เสียงๆหนึ่งที่คุ้นหนักหนา เสียงๆนั้นที่ได้ยินอยู่ประจำ เสียงๆนั้นที่คอยกล่าวห่วงใยเรา Ficคุง เราจะแพ้ไม่ได้ เราจะต้องไม่แพ้
   ลมพายุค่อยๆหายไป เห็นเป็นเงา เงาของบุคคลผู้หนึ่ง “ห๊า! Energy Shield เป็นไปไม่ได้ เด็กหญิงตัวแค่นี้จะมีเจ้าสิ่งนั้นได้เช่นไรกัน เป็นไม่มีอยู่ใน Felasia แห่งนี้นี่” ขณะที่จอมเวทย์กำลังอึ้งอยู่นั้น เด็กน้อยก็ได้พุ่งเข้าไปหาชายผู้นั้น และจ่อมีดที่คอเขาทันที “เจ้าแพ้แล้วหละ กรรมการ ตัดสินได้”
   “ผะ...ผะ...ผะ... ผู้ชนะคือ Assaจัง คร๊าบบบบบบบบบ” จากสนามที่เงียบกริบเพราะความอึ้งอยู่นั้น ได้กลายเป็นเสียงฮือฮา เสียงเชียร์ เสียงให้กำลังใจ ให้เด็กสาวผู้นั้นในฉับพลัน

   “ยังมีผู้ใดอีกไหมครับ ที่จะมาประลองกับเด็กน้อยผู้นี้”

   “ข้าเอง ข้าจะประลองกับเธอผู้นั้นเอง” เสียงนั้นได้มาจากห้วงนภา ผู้คนทั้งหลายต่างมองขึ้นไปด้านบน และเห็นในสิ่งเดียวกับที่ทุกคนเห็น

   หญิงวัยประมาณ 20 นั่งบนไม้กวาดและค่อยๆลอยลงมา เธอแต่งเสื้อผ้าด้วยโทนสีดำ ใส่หมวกแห่งแม่มด และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ ที่ทำให้ทุกคนต่างจำเธอได้ก็คือ ผมดำปิดตาข้างซ้ายของเธอ พร้อมภูมิอากาศอันแปรปรวนที่มาพร้อมกับเธอนั่นเอง

   “ข้า Grievere - Grievere, The Dark Witch จะมาเป็นคู่ประลองให้เธอเอง”


จบไปอีกแล้ว มีคนเขาว่าเรายืดอะนะ  :'(

จะพยายามไม่ยืดละกันน่อ (แต่ดูเหมือนมันยืดอีกแล้วนะ จะยังมีคนอ่านรึป่าวหว่า  :-\

ปล. ใกล้สอบแล้ว อาจจะไม่ได้มาต่อบทใหม่ช่วงนึงนะน่อ  ;)
Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #23 on: February 11, 2006, 02:01:53 AM »

Quote
(แต่ดูเหมือนมันยืดอีกแล้วนะ จะยังมีคนอ่านรึป่าวหว่า  

มี
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #24 on: February 11, 2006, 09:43:30 PM »

บทที่ 7 Grievere การประลองอันน่ากลัว

   “ข้า Grievere - Grievere, The Dark Witch จะมาเป็นคู่ประลองให้เธอเอง”

   สายตาอันเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของเธอนั้น ทำให้ทั่วทั้งสนาม เงียบไปในทันใด จะมีเสียงก็มีแต่เพียง เสียงลมหายใจของผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2

   “กะ กะ กะ การเริ่มต้นประลองแข่งขันระหว่าง Grievere แม่มดแห่งหวงเวลาอันมืดมิด และ เด็กสาว Assa, the Assassin Doll จะเริ่มขึ้น”
   “หยุดก่อน นี่ As จัง เธอ... เธอ... เธอสู้อย่าถอยนะ เอาให้ชนะให้ได้” Fic ให้กำลัง “เอ้า รับไอ้นี่ไป แล้วเอาชนะเค้าให้ได้นะ” เด็กสาวยื่นมาของเธอมารับสิ่งๆนั้นเอาไว้
   “ห๊า นี่มัน Beam Gun Arm นี่ มันแพงมากเลยนะ เธอซื้อให้ฉันหลอ”

   “นี่ๆๆๆๆ พวกเธอจะทอดรักกันถึงไหน มาเริ่มๆกันได้แล้ว กรรมการ” เธอผู้นั้น ที่คุณก็รู้ว่าใคร ได้พูดอย่างเย็นชา กระแสแห่งความอำมหิต ได้แพร่ไปทั่ว

   “คะ ครับ การแข่งขันได้เริ่มนะบัดนี้”

   เมื่อสิ้นคำกล่าวของกรรมการ เธอผู้นั้นก็ได้บุกในทันที “Eternal Torment ความทุกข์ อันชั่วนิรันดร์” บรรยากาศรอบๆตัวของเด็กสาว ค่อยๆมืดขึ้นๆ ผงสีดำที่กระจายอยู่รอบตัวเธอ ค่อยๆเข้าใกล้ ช้าๆ ช้าๆ เด็กสาวค่อยๆทรุดลงเล็กน้อย เข่าของเธอติดกับพื้นดิน
   “เป็นไงหละ โฮ๊ะๆๆๆๆ” จอมเวทย์มืด เอามือมาบังปากเอาไว้ “โดนแค่นี้ก็ทรุดเอาแล้วเรอะ ไม่เท่าไหร่เลยนะ เธอนี่ โฮ๊ะๆๆๆๆ ทรมานเข้าไป ทนทุกข์เข้าไป เจ็บปวดเข้าไปอีก โฮ๊ะๆๆๆๆ Black Obligation พันธนาการ สีดำ”

   เด็กสาว ทรุดลงไป แทบจะจมลงกับพื้นดิน สติอันเลือนรางของเธอนั้น ใกล้จะหมดไป

   “Assa Assa เจ้าอย่ายอมแพ้นะ เจ้าต้องการบูรณะเมืองของเจ้ามิใช่รึ ยกข้าขึ้นมาสิ ยกข้าขึ้นมา แล้วเจ้าจะรู้สึกดีขึ้น” เสียงๆหนึ่งในจี้ดังขึ้น “ยกข้าสิ ยกข้าสิ”

   มือของร่างอันเกือบไร้วิญญาณของเธอ ค่อยๆขึ้นมา จับจี้ของเธอ “Holy Prayer” เธอตะโกนขึ้นลั่น หมอกมือรอบๆตัวเธอค่อยๆหายไปช้าๆ อาการของเธอดีขึ้นจนเป็นปกติ เธอลุกขึ้น จับมีดคู่ใจของเธอขึ้นมา

   “ห๊ะ! เธอมีสิ่งนั้นด้วยรึ มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยนี่น่า ชิ ก็ได้ กะจะให้เธอได้ตายอย่างทรมานแล้ว สงสัยต้องให้มันรีบๆจบเข้าแล้วสิ Black Curtain ม่านสีดำ” โดมสีดำค่อยๆขึ้นมาจากใต้พื้นแผ่นดิน ล้อมรอบเธอทั้ง 2 ไว้

   “ในที่นี้ เธอจะไม่สามารถแสดงพลังได้อย่างเต็มที่แน่นอน รวมถึงชั้นด้วย แค่เพื่อไม่ประมาท Binding Spell” เธอชี้ไม้กวาดของเธอไปยัง Assa เด็กน้อยผู้เคราะห์ร้าย “เธอจะไม่สามารถ ร่ายเวทย์ หรือท่องคาถาเพื่ออัญเชิญอะไรได้เลย เอ้า คราวนี้เรามาสู้กันซะที”

   บรรยากาศในโดมนี้ช่างน่ากลัวเป็นยิ่งนัก บรรยากาศอันเต็มไปด้วยเงามืด วิญญาณ ของคู่แข่งของเธอ รวมทั้ง วิญญาณ ปีศาจร้ายทั้งหลายที่โดนจับขังให้อยู่ในหวงมิตินี้ด้วย

   “ถึงแม้ฉันจะอยู่ในที่ของแก แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอกน่า” เด็กน้อยยิ้ม “เธอลืมอะไรไปรึปล่าว ว่า เวทย์นี้จะปั่นทอนพลังทางกายของมนุษย์ แต่ทว่าฉันไม่ใช่นะ” เธอยกปืนขึ้นมาพร้อมตะโกนว่า “ฉันเป็นหุ่นยนต์ เผ่าพันธุ์ คู่อริกันมนุษย์ตางหากเล่า” เสียงปืนได้ดังขึ้น

   “จบลงแล้ว การต่อสู้นี้ได้จบลงแล้ว” ม่านมิติมืด ได้ถูกลบล้างลงไป ควันสีดำ เหล่าวิญญาณที่ถูกกักในมิตินั้น ได้บินร่อนออกมา ด้วยความปิติยินดี เด็กสาว เธอทรุดลงกับพื้นด้วยเพราะใช้พลังมากเกินขีดจำกัดของเธอนั่นเอง

   ควันค่อยๆจางลง เหล่าผู้คนที่รอดูผลอย่างใจจดจ่อ ก็ได้เพ่งสายตามายังเงาภายในควันในทันที

   “เต้งๆๆๆๆๆๆ ผู้ชนะคือ Assa, the Assassin Doll คร๊าบบบบบบบบบ” กรรมการพูดตัดสิน ในขณะที่ Grievere นอนสลบอยู่บนลานประลอง

   “Asจัง Asจัง ไหวไหม เป็นอะไรมากรึป่าว” Fic วิ่งขึ้นมาบนเวที ประคองเด็กสาว ที่ร่างกายอันไร้แรง เอาไว้ “กรรมการ วันนี้ก็เย็นมากแล้ว สิ้นสุดการแข่งขันรึยัง กรรมการ”

   “คะ... ครับ ผู้ที่ชนะการประลองในวันนี้ได้แก่ Assa, the Assassin Doll คร๊าบบบบบบบบบบ”
   “อะ นี่ครับ รางวัล เงินรางวัล 10000 บาท และ นาฬิกา คุ๊กคู (Kuku Clock) ครับ”

   “เราไปพักกันเถอะ ฉันจองโรมแรมใกล้ๆนี่เอาไว้แล้วนะ” ฟิกคุงประคองเด็กสาวขึ้นมา
   “แล้วเธอคนนั้นหละ” เด็กสาวชี้ไปยัง แม่มดสาว ที่นอนสลบอยู่กลางเวที “เอาเธอไปพักด้วยได้ไหมค๊ะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา
   “เหนื่อยจนแทบตาย แล้วยังจะมีใจไปห่วงคนอื่นอีกนะ เธอหนิ ยัยบ๊องเอ้ย ฮิฮิฮิ” เด็กชายยิ้มให้เด็กสาว พร้อมบอกกับกรรมการที่คุมการแข่งขันว่า “ช่วยหาคนแบกผู้หญิงคนนั้น ตามมาส่งที่ห้องผมหน่อยสิครับ”

ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง
   “เฮ่อ เธอนี่ตัวหนักไม่เบาเลยนะ ลดน้ำหนักซะบ้างก็ดีนะ”
   “...”
   “หลับไปแล้วรึ พักผ่อนให้สบายเถอะนะ” Fic วางเด็กสาวไว้บนเตียง คู่กับพี่สาวแม่มดมืด

   “หลับให้สบายนะ ราตรีสวัสดิ์” แล้วเด็กหนุ่มก็นอนที่พื้นห้อง รอคอยวันใหม่ ขอให้เป็นวันที่สดใสด้วยเถิด




จบไปอีกบท (ไหนบอกว่าจะไม่แต่งอีกนานไง -_-a)

จบตอนที่ 7 แล้ว แต่ว่า ชื่อ Fic มันยังฟังแปลกๆแฮะ ขอให้คิดชื่อใหม่ให้หน่อยนะคร๊าบบบบบบบบบบ ชื่อไหนถูกใจจะใช้ชื่อนั้นนะครับ (อาจมีดัดแปรงนิดหน่อยนะน่อ)  ;D
Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #25 on: February 11, 2006, 10:07:52 PM »

Quote
จบตอนที่ 7 แล้ว แต่ว่า ชื่อ Fic มันยังฟังแปลกๆแฮะ ขอให้คิดชื่อใหม่ให้หน่อยนะคร๊าบบบบบบบบบบ ชื่อไหนถูกใจจะใช้ชื่อนั้นนะครับ (อาจมีดัดแปรงนิดหน่อยนะน่อ)

ชื่อFicผมว่าดีแล้วนา
Logged


Amankris,the Ultimate Evolution
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 829


Email
« Reply #26 on: February 11, 2006, 10:31:51 PM »

Quote
(อาจมีดัดแปรงนิดหน่อยนะน่อ)  

ดัดแปรงไม่กลังแปรงหักหรอ

ป.ล. ต่อเลยครับ  ;D
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #27 on: March 10, 2006, 06:00:05 PM »

บทที่ 8 เพื่อนใหม่ของเรา ....

   เสียงนกโผบินออกจากรัง ลมพัดค่อยๆ เอื่อยๆ แสงแดดค่อยๆส่องลงมายังใบหน้าเล็กๆของสาวน้อย
แผ่นกระดาษแผ่นเล็กๆแผ่นหนึ่งได้ปลิวมายังตกยังหน้าของเด็กน้อย

   “ขอบคุณนะ ที่ให้ที่พักแก่ข้า แต่ข้าคนอยู่กับเจ้าไม่ได้หรอก ไว้เจอกันคราวหลังนะ .....
กระดาษแผ่นนี้จะทำลายตัวเองภายใน 3 วินาที ที่อ่านจบ 3 ... 2 ... ”

   “อ๊า จาทำไงดี จะทำไงดี” เด็กน้อยถือ จดหมาย วิ่งวนอยู่รอบห้องอย่างกังกล “ทำไงดี ทำไงดี”
   “นี่ เอะอะโวยวายอะไรตั้งแต่เช้าเนี่ย” เด็กชายงัวเงียกล่าวขึ้นมา
   “จะ จะ จดหมาย มันจะ จะ จะ ระเบิดแล้ว”

   “1... พริ้ง” จดหมายนั้น ได้ระเบิดออกมา แต่หาทำอันตรายเด็กน้อยทั้ง 2 ไม่ หากมีแต่กรีบดอกไม้หลากหลายสีได้ฟุ้งกระจายเต็มห้องของพวกเขาทั้ง 2
   “Asจัง ตื่นขึ้นมาก็ไปอาบน้ำเตรียมเดินทางได้แล้ว มัวแต่เล่นอะไร พิเลนๆอยู่ได้” เฮ่อ ยัยเบ๊อะนั่นมันอะไรตั้งแต่เช้าเลยเนี่ย เฮ่อ “แล้วยัยแม่มด เกว เกฟ เกส อะไรนั่นหละ ไปไหนแล้ว” Fic ถามด้วยความสงสัย มองไปที่ใครบางคนแถวนั้น ที่เขาคิดว่า น่าจะตอบคำถามเขาได้

   “เธอออกไปข้างนอกแล้วแหละ” เด็กน้อยตอบออกมา ด้วยน้ำเสียงน้อยๆของเธอ

    “เฮ่อ ยัยนั่นไม่สำนึกบุญคุณเลย จะอยู่จนถึงเช้าแล้วค่อยบอกลาก็ไม่ได้ ชิ เอาเถอะ ไปข้างนอกกันได้แล้ว Asจัง” เด็กชายกวักมือเรียก เขาได้หยิบกุญแจออกไป และคืนให้ที่ Lobby และ
   
   ทั้ง 2 ก็ได้ออกจากโรงแรมไป ณ ย่านชมชุนอีกครั้งนึง
   “นี่ คราวนี้พวกเราจะไปไหนกันอะ” เด็กน้อยดึงเสื้อของเด็กชายเบาๆ เท้าของเธอนั้น เดินอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะตามเด็กชายให้ทัน แต่หาได้คำตอบจากเด็กชายนั้นไม่

   การเดินทางค่อนข้างจะไกลขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จากย่านตัวเมือง ก็เริ่มลึกเข้าไปในป่าเรื่อยๆ จนเห็นกระท่อมแห่งหนึ่ง เขาถึงหยุดการเดินทางของเขาลง

   “เฮ่อ เหนื่อยจัง ถึงแล้วแหละ Asจัง” เขาหันไปมองข้างๆ แต่ก็หาตัวเด็กสาวไม่เจอ “Asจัง Asจัง” เด็กชายตะโกน หันหน้าไปรอบตัว และก็เห็นเธอนั้น นอนหอบอยู่บนผืนหญ้า ใกล้ๆตัวเขานั่นเอง

   
   เสียงฝีท้าวค่อยๆใกล้เข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ และดูเหมือนจะไม่มาเพียงคนเดียวด้วย เสียงเท้าค่อยๆเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เรื่อย แล้วก็
   “ไง Fic ไม่ได้เจอกันตั้งนานแหนะ สบายดีมะ เข้าไปในบ้านก่อนสิ” สิ่งที่เด็กน้อยทั้ง 2 ได้เห็นก็คน ผู้ชายคนหนึ่ง ผมสีส้มออกโทนแดง ผิวออกแทนคล้ำๆหน่อย ใส่เสื้อผ้ามีรอยน้ำมันและรอยไหม้อยู่เล็กน้อย

   เด็กทั้ง 2 ได้เข้าไปในกระท่อมแห่งนั้น

   ในกระท่อมแห่งนั้นไม่มีการตกแต่งอะไรทั้งสิ้น มีแต่หลอดทดลอง ถุงมือ ปากกา งานวิจัยอะไรต่างๆ เกลื่อนห้องไปหมด ทำให้ดูเหมือนว่า ที่แห่งนี้ จะไม่มีคนมาเยี่ยมเยียนมาเป็นเวลานาน

   “ที่นี่คือ วิมาน ของกระผมเอง รกๆไปหน่อยก็ต้องขออภัยด้วยนะขอรับ” ชายผู้นั้นกล่าวอีกครั้ง

   “ไม่รกเลยแหละท่าน แต่โคตรรกมากกว่า 555+” Fic หันไปพูดกับชายผู้นั้น “แล้วของที่ข้าให้เจ้าทำอะ เสร็จยังหละ ฮึ ทีโมธี่คุง”

   “อะไรหว่า อืมๆ” ทีโมธี่ ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “โอ้ ไอ้นี่ใช่มะ ไอ้ๆๆๆๆๆ” เขาหยิบกระดาษแผ่นนึงที่ร่างขึ้นมา

   “อือ ใช่ ไอ้นั่นแหละ เสร็จยังหละ” Ficถามด้วยความตื่นเต้น

   “เสร็จแล้วแหละ แบบร่างอะ เสร็จแล้ว” ทีโมธี่ โชแบบร่างแผ่นเดิมให้ เด็กหนุ่มดู อย่างมั่นใจ

   “ ป๊าบ! หมายถึง ตัวเป็นๆสิโฟร้ย” Fic กำมือเข็กหัว ทีโมธี่เข้าเต็มๆ “แล้วถ้าให้เร่งทำตั้งแต่ตอนนี้จะเสร็จเมื่อไหร่เล่า”

   “อืม คิดก่อนนะ ยังเหลือ Project สร้าง Delta-D Bomber Machine แล้วอะไรอีกหว่า เยอะแยะเลย คงอีกหลายเดือนแหละ” นักวิทยาศาสตร์อันเป็นอัจฉริยะกล่าวขึ้นมา

   “แต่เราไม่มีเวลามากขนาดนั้นนะ” เด็กชายหัวเสียใหญ่ แต่ในขณะนั้นเอง มือเล็กๆน้อยๆก็ได้กระตุกที่แขนเสื้อของเด็กชายอีกครั้ง

   “ไอ้สิ่งนี้ พอจะช่วยท่านได้รึป่าว” เธอหยิบนาฬิกาเป็ดน้อยของเธอออกมา เสียง KuKu นั้นดังไสว ทุกสรรพสิ่ง ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันใด

   “โอ้ นั่นมัน Rare Item KuKu ต้องเสียเวลา เสียเงินตั้งมากมายกว่าจะจับซองเจอ เจ้ามีสิ่งนั้นด้วยหรือเนี่ย ฉะนั้น ระยะเวลาทั้งหมด อาจจะใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็เป็นได้” ชายหนุ่มนักวิทย์รับนาฬิกานั้นมาวางไว้ที่โต๊ะทำงานของเขาในทันที ทันใดนั้นตัวเขาก็ทำงานได้อย่างรวดเร็ว หาสิ่งใดเทียบไม่ได้

   เวลาผ่านไปเพียงแค่ 1 ชั่วโมง

   “เสร็จแล้วละ สิ่งที่จะทำให้เจ้า เดินทางไปที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็วทันใจ สิ่งประดิษฐ์ของข้า ข้าจะตั้งชื่อให้กับมันว่า”

Cybertica Wings



เฮ่อ กว่าจะได้ปั่น ขี้เกียจตัวเป็นขนเลยเรา -_-a และแล้วก็ทำบทที่ 8 มาจนได้ ก็ขอคอมเม้นต์ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ  ;D
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.13 seconds with 21 queries.