ขณะเดียวกันพวก Lr เองก็ยังคงเดินสำรวจไปรอบๆเกาะคู่กับไลท์ จนเมื่อถึงเวลากลางวัน ความหิวเริ่มทำให้พวกเขาเหนื่อยอ่อน
พวกเขาทั้งสองจึงตีดสินใจจะกลับที่พักก่อนแล้วค่อยสำรวจต่อ
แต่ทว่าจู่ๆเกิดแผ่นดินไหวขึ้นจนเกิดรอยแยกพวกเขาตกลงไปในรอยแยกนั้นและเกาะก็เริ่ม ทลายลงเรื่อยๆ Lr
เกาะเชิงหินที่ยื่นออกมาไว้ได้ทันและไลท์ก็เกาะเอวของ Lr เอาไว้ เพราะตัวของเขาไม่สามารถบินได้เหมือนเพื่อนๆของเขา
ทันทีที่พื้นเกาะทลายจมลงพวกเขาก็ได้เห็นถึงสาเหตุที่เกาะจมลงในทันที ข้างใต้เกาะถูก น้ำวน
ชะเซาะจนเริ่มทลายไปกับแรงกระแสน้ำ เกาะนี้กำลังจะถูกน้ำวนดูด ลงไป
นี่น่ะเองสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวาน
Lr กล่าวขณะที่ต้องคอยปัดเศบดินที่ร่วงลงใส่พวกเขา แต่แล้วทั้งสองก็ต้องใจสั่นเมื่อ
เชิงหินที่คว้าไว้ได้ มีรอยร้าวและเริ่มจะเอนลง
ทำไงดี ลอว์เรน ฉันกลัว~~~
ไลท์กล่าวน้ำเสียงสั่นเครือไปด้วยความกลัว ความทรงจำในอดีตที่เขาไม่อยากจะนึกถึงมันก็แล่นเข้ามาทันทีทันใด
ไม่ต้องกลัวนะไลท์ ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวเค้าต้องมาช่วยเราแน่
Lr กล่าวเพื่อปลอบไลท์
นายแน่ใจได้ยังไงว่าหมอนั่นจะมาน่ะ ....หวา
ไลท์กล่าวอย่างไม่เชื่อในคำพูดของ Lr
ไม่หรอกฉันเชื่อนะ...
Lr กล่าวเสียงเข้ม
เอ๋~~~~
ไลท์ ร้องออกมาด้วยความสงสัยขณะที่มองหาทางหนีอยู่
ฉันเชื่อว่าเค้าจะต้องมาแน่ หมอนั่นน่ะจะต้องมาช่วยเราแน่ฉันเชื่อว่ายังงั้น
Lr กล่าวอย่างมั่นใจด้วยสายตาที่มุ่งมั่น แต่ ไลท์กลับตีหน้าเบ้ทันที
ลอว์เรนนายนี่น้า
ไลท์กล่าวอย่างเหนื่อยใจ
อ้าวเป็นอะไรไปอีกล่ะ
Lr ถามอย่าง งงๆ
ลอว์เรน นายเนี่ยนะแก้หายซักทีน้า ไอ้นิสัยเชื่อคนง่ายๆแบนี้เนี่ยเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เฮ้อ
ไลท์กล่าวไปพลางถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนที่เขาจะนึกถึงเรื่องที่เคยผ่านมา
ตอนที่อยู่หมู่บ้างมังกร(Dragon Village) ในตอนที่พวกเขายังเด็กอยู่มาก เคยถูกเพื่อนๆหรอกให้เข้าหา
สมบัติในป่าช้าของหมู่บ้านและเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการถูกล่าโดยมังกรแห่งความสยดสยอง โรเมเนี่ยน(Lomenian, the dragon of Terror)
หากเขาไม่พา Lr บินหนีออกมา ทันทีที่คิดถึงตรงนี้
ความทรงจำทอันเจ็บปวดที่แล่นผ่านเข้ามาเมื่อครู่ก็ยิ่งเด่นชัดเข้าไปอีก เขาจึงส่ายหัวอย่างแรง เพื่อไม่ให้ถนึกถึง
แต่ทันที่เขาเริ่มส่าย แรงจากการขยับทำให้ เชิงหินร้าวเร็วขึ้นจนพวกเขาเอนลงมาอีก
ความทรงจำนั้นแทนที่จะถูกทำให้ลืมกลับ เด่นชัดขึ้นมากกว่าเก่าอีก
และไม่นานนักเชิงหินก็ร้าวและแตกทลายลงร่างของทั้งสองตกลงมาเรื่อยๆ ในขณะที่คิดว่าจะไม่รอดแล้วความทรงจำนั้นก็ผุดขึ้นมา
ความเจ็บปวดในอดีตที่ทำให้เขาไม่สามารถที่จะบินได้อีกนับแต่วันนั้น
วันที่เขาทะเลาะกับ Lr เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ในวันนั้นเขากับ Lr ได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง
พวกเขาจึงออกห่างกันไปเพื่อจะไม่ต้องเจอหน้าอีกฝ่ายซึ่งในตอนนั้นเขายังบินได้อยู่ วันนั้นเขาได้บินออกไปขณะที่เมฆพายุเริ่มก่อตัว
ส่วน Lr เองก็นั่งระบายความโกรธอยู่ในบ้านโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า
ข้างนอกพายุฝนกำลังโหมกระหน่ำอย่างแรง วันนั้นเป็นวันที่ ดีวายดราก้อนพ่อของพวกเขาได้ออกไปธุระนอกมิติพอดีจึงทิ้งให้พวกเขาอยู่กันสองคน ด้านไลท์ที่บินออกไปก็โดนพายุฝนโหมกระหน่ำอย่างแรงจนบินไปข้างหน้าไม่ได้ จนกระทั่งฟ้าได้ผ่าลงมาโดนต้นไม้จนโค่นลงมาทับเขาที่เชิงผา
ปีกทั้งสองข้างของเขาหักจนบินไม่ไหวและพื้นที่ถูกน้ำฝนชะ จนทลายลงเขาจึง ต้องเกาะต้นไม้ที่โค่นลงมาทับเขานั้นไว้
ซึ่งไม่ต่างจากเหตุการณ์วันนี้เลย แม้เขาจะรอดมาได้และปีกของเขาจะหายเป็นปกติแล้วก็ตามแต่ทันทีที่เขาพยายามจะบินความกลัวจากครั้งนั้นก็เข้ามาหลอกหลอนเขาจนทำให้ไม่สามารถที่จะบินได้อีกเขากลัวการบิน
นับแต่นั้นมา เขาจึงไม่เคยใช้ปีกบินอีกเลย และตอนนี้เขาเองกำลังร่วงลงสู่วังน้ำวนข้างล่าง หากแต่
เจนัสก็กระโจนลงมารับตัวพวกเขาทั้งสองเอาไว้ พร้อมกับ ท่องมนอัญเชิญจันทราศิลาจันทราอีกก้อนที่เขาได้
จากแอสต้าซึ่งห้อยคอเขาเอาไว้ก็ส่องแสงออกมา
ดวงจันทราที่สถิตย์ในรัตติกาลโปรดมอบลมหายใจที่หนาวเหน็บแก่ผืนพิภพ จันทราที่ส่องแสงในรัตติกาลอันหนาวเหน็บ จงมาจันทราเยือกแข็ง(Cool Moon)
สิ้นคำแสงจากศิลาก็พุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า ก้อนเมฆต่างพากันมาปกคลุมบริเวณรอบๆเอาไว้ ก่อนที่จันทราสีครามจะค่อยๆปรากฏขึ้นทั้งหมด
เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะตกลงสู่กระแสน้ำวน
จันทราสีคราม ที่เคยแช่แข็งผืนปฐพีของฟูดินัน ก็ยิงแสงเยือกแข็งลงมาที่น้ำวนนั้น
จนมันแข็งและกลายเป็นพื้นน้ำแข็งแทนควันอเย็นที่เกิดจากการแช่แข็งลอยตลบอบอวลไปทั่ว
เจนัสที่แบกพวกเขาไว้จึงกระโดลงบนพื้นน้ำที่แข็งตัวได้ ทันทีที่ถึงพื้น เขาก็ปล่อยตัวทั้งสองลง
แต่ยังไม่ทันที่จะได้กล่าวอะไรกระแสน้ำรอบๆก็เริ่มหมุนวนอย่างเร็วอีกครั้ง น้ำวน
ได้ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งเกาะทั้งบัดนี้ได้จมลงสู่ใต้ทะเลแล้ว น้ำทะเลทะลักถ่วมผืนป่าและพัดพา
สัตว์และสิ่งมีชวิตบนเกาะลงสู่ก้นทะเลและจมหายไปบัดนี้พวกเขายืนอยู่บนแผ่นน้ำแข็ง
ขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลางทะเล ทันทีที่ เกาะจมลงน้ำวันก็เริ่มหมุนแรงขึ้นอีกครั้ง
จนแผ่นน้ำแข็งเริ่มแตกร้าว
ช้าไม่ได้แล้ว ต้องรีบอะไรสักอย่างไม่งั้นเรานี้ได้จมน้ำตายกันหมดแน่
Lr กล่าวอย่างร้อนรน ไลท์ยังคงนิ่งเงียบจากการที่ความทรงจำอันปวดร้าวในอดีตหวนกลับมาอีกครั้ง
งั้นก็ช่วยไม่ได้คงต้องแช่แข็งทั้งทะเลแล้วล่ะ
เจนัสกล่าวจบก็เร่งพลังของศิลา จันทราสีคราม เริ่มยิงแสงอันเย็นยะเยือก ลงมาแช่แข็งผิวน้ำ
แต่ด้วยว่าน้ำทะเลตอนนี้ถูกวนด้วยกระแสน้ำวนจึงทำให้การแช่แข็งช้าลง แต่ผืนน้ำก็เริ่มจะนิ่งและแข็งตัวเป็นแผ่นน้ำแข็ง
แต่แล้วแผ่นน้ำแข็งก็เกิดสะเทือนทำให้การบังคับแช่เย็นสะดุด ลง เงาขนาดยักษ์เคลื่อนไหว
อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งที่พวกเขายืนอยู่ลำตัวของมันยาวมาก ราวกับมังกรก่อนที่มันจะกระแทกแผ่นน้ำแข็งจนสะเทือนอีกครั้ง
แผ่นน้ำแข็งเริ่มร้าวจากสะเทือนพวกเขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่อยู่ข้างล่างคืออะไร
ได้คอยระวังการสะเทือนครั้งต่อไปแต่คราวนี้มันกลับเงียบหายไปเงานั้นได้ว่ายห่างจากออกไป
พวกเขารู้สึกโล่งใจอย่างมาก แต่ไม่นานพื้นน้ำที่ไกลออกไป ก็ระเบิดน้ำพุ่งขึ้นสู่อากาศอย่างรวดเร็วก่อนจะตกลงมาราวกับสายฝน
และร่างอันมหึมาของมังกรวารีขนาดยักษ์ตัวหนึ่ง
นี่..นี่มัน มังกรนี่นา
Lr อุทาน แต่แล้วก็มีแสงจากดราก้อนฮอลลี่ ส่องวูบวาบออกมาราวกับมันกำลังอ่านคลื่นพลังหรืออะไรบางอยู่ แต่ก่อนที่จะได้ทันคิดอะไรมังกรตัวนั้นก็อ้าปากพ่นลมหายใจออกมา ลมหายใจของมันแหวกน้ำมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงราวกับพายุก็ไม่ปาน พวกเขาถูกแรงพายุพัดจนปลิวแต่เจนัสก็รั้งตัวพวกเขาทั้งคู่ไว้
ได้ทันก่อนจะกางกรงเล็บที่เท้าเพื่อยึดเกาะพื้นน้ำแข็ง จนแน่นดีแล้วจึงพยายามทรงตัวไม่ให้ปลิวไปตามแรงลม มังกรนั่นคำรามออกมาอีกครั้ง
และขณะเดียวกัน ดราก้อนฮอลลี่ก็หยุดส่งแสงกระพริบออกมา
จากหน้าจอ เสียงพูดดังออกจากมัน
พวกแกบังอาจปลุกข้าจากการจำศีล พวกแกต้องตาย
เสียงนั้นดังออกมาจากดราก้อนฮอลลี่ แม้จะไม่อยากเชื่อแต่พวกเขาก็รู้แล้วว่า
เจ้าเครื่องนี้ สามารถแปลภาษามังกรออกมาได้ จริงๆ เมื่อคิดได้ดังนั้น Lr จึงคิดจะใช้มัน
เป็นสื่อในการเจรจากับมังกรนั่น แต่ยังไม่ทันที่จะได้กล่าวอะไร เสียงคำรามของมัน
ก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับที่เสียงแปลจากดราก้อนฮอลลี่ ดังขึ้น
Tidal Wave (คลื่นวารีคลั่ง (ซึนามิแหล่ะแค่เปลี่ยนให้มันดูดีหน่อย))
สิ้นเสียงมังกรตัวนั้นก็โจนลงสู่พื้นน้ำอีกครั้งจนเกิดคลื่นยักษ์ ถล่มเข้าส ู่แผ่นน้ำแข็งทั้งคุ๋จึงต้องเกาะตัว เจนัสอย่างแน่นอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เจนัสเอากรงเล็บอีกสองมือเกาะยึดเอาไว้ด้วย เพื่อความมั่นใจ
แต่ทว่าคลื่นยักษ์นั้นหามีเพียงระลอกเดียวไม่หากแต่มังกรนั่นมันโจน ขึ้นลงจนเกิดคลื่นยักษ์
ซ้อนกันหลายลูก บัดนี้คลื่นทุกลูก รวมตัวเป็นคลื่นลูกใหญ่เทียมฟ้า
ก็าซซซซซซซซซซซซ (จงจมหายไปกับคลื่นทะเลซะ)
เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับที่พวกเขาถูกคลื่นพัด กระหน่ำแม้จะไม่ปลิวไปกับกระแสน้ำแต่คลื่นก็พัดจน
แผ่นน้ำแข็งพลิกคว่ำ เจนัสเห็นเช่นนั้นก่อนที่แผ่นน้ำแข็งจะเอนลงเขาก็แกะกรงเล็บมือ ออกพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะกำหมัด
ซึ่งเปล่งแสงออกมาจากการรวมพลังเวทย์ไว้ที่
กำปั้น
Spell Fist
สิ้นเสียง ทันทีที่กำปั้นกระแทกจน พื้นน้ำแข็ง ร้าวและแตกลง แรงจากการพุ่งตัวทำให้พวกเขาลอยตัวอยู่กลางอากาศชั่วครู่ก่อนที่แผ่นน้ำแข็ง
จะเอนrลิกลง พวกเขาก็ข้ามไปอยู่อีกด้านที่พลิกขึ้นมาได้แล้ว
ทันทีที่เจนัสลงถึงพื้นเขาก็คุกเข่าลงอย่างเหนื่อยอ่อน Lr เห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปพยุงตัวทันที
เฮ้นาย ไม่เป็นไรนะ
Lr ถามด้วยความเป้นห่วง แต่เจนัสก็ส่ายหน้าเบาๆแทนการตอบ Lr จึงค่อยๆผ่อนตัวเจนัสลง
ดจนัสเหนื่อยอ่อนมากจากการ ใช้พลังมนตราต่อเนื่องทั้งจากการอัญเชิญจันทรามาและการชกแผ่นน้ำแข็งเมื่อครู่อีกทั้งยังต้อง
คงสภาพของจันทราเอาไว้ไม่เช่นนั้นแผ่นน้ำแข็งนี่ก็จะละลาย
ก็าซซซซซซซ (Tempest Breath(พายุลมหายใจ))
สิ้นเสียงคำรามและเสียงจาก ดราก้อนฮอลลี่ มังกรนั่นก็อ้าปาก สูดลมหายใจเข้าไปอย่างแรงจนพวกเขาแทบจะไถลไปตามแรงลม
และเมื่อมันพ่นออกมาลมพายุพุ่งแหวกทะเลออกจาปากมันเหมือนตอนแรก
แต่ทว่าคราวนี้เจนัสไม่มีแรงจะช่วยพวกเขาแล้ว ทั้งสามจึงถูกลมพัดตกทะเลและทันทีที่เจนัส
ตกลงไปเขาก็หมดแรงที่จะคงสภาพของการอัญเชิญจันทราไว้ได้ จันทราสีครามจึงเริ่มสลายไปและแผ่นน้ำแข็ง
ก็ละลายกลับเป็นน้ำดังเดิม ตอนนี้พวกเขาลอยคออยู่ในทะเลโดย ลอว์เรนช่วยพยุงเจนัสเอาไว้ ส่วนไลท์เองก็ว่ายผุดจมผุดลอยอยู่แต่ก็ไม่ได้จมน้ำลงไป ในตอนนี้เจนัสรู้สึกสงสัยกับการที่ทั้งสองพยายามจะช่วยเขาแต่ ตอนนี้ก็ไม่มีเวลาให้คิดเมื่อเจ้ามังกรยักษ์กำลังพุ่งเข้ามาหมายจะงาบพวกเขาลงทะเลไป
ไลท์
Lr หันมากล่าวกับไลท์สีหน้าของทั้งคู่เคร่งเครียด อย่างหนัก
แม้ไม่พูดเขาก็รู้ว่ามีเพียงทางเดียวที่พวกเขาจะ รอดนั้นคือทะยานสู่ท้องนภา แต่ไลท์ก็ส่ายหน้าเป็นเชิง
ให้รู้ว่าเขาทำไม่ได้ Lr จึงให้เจนัสที่ยังคงมีสติอยู่แม้จะเหนื่อยอ่อน เกาะหลังเขาไว้ ส่วนเขาก็ว่ายไปหาไลท์แล้วเอามือทั้งสอง
แตะไหล่ของไลท์ และจ้องตาของอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น
สุดท้ายแล้วไลท์นายต้องทำให้ได้ตอนนี้นายเท่านั้นที่ช่วยเราได้ขอร้องล่ะ ไลท์
Lr กล่าวเสียงเข้ม แต่ไลท์กลับส่ายหน้า
เป็นไปไม่ได้หรอกฉันทำไม่ได้ Lr ฉันกลัว ทุกครั้งที่จะกางปีกมันก็แวบเข้ามาในหัว ฉันรู้นะว่าคราวนี้มันจำเป็นแต่ฉันทำไม่ได้ ลอว์เรนฉันทำไม่ได้ ฉันบินไม่ได้หรอก
ไลท์กล่าวออกมาทั้งน้ำตา เขาไม่อาจเอาชนะความกลัวที่ฝังใจเขามาตลอดได้
ไลท์.....
Lr กล่าวเสียงอ่อนลง แต่แล้วเจ้ามังกรนั่นก็พุ่งมาแม้พวกเขาจะว่ายหลบไปได้ แต่เขี้ยวของเจ้ามังกรนั่นก็
เฉี่ยวถูกขาของ Lr และขาข้างที่ถูกเฉี่ยวก็เริ่มมีน้ำแข็งเกาะ Lr เริ่มรู้ว่าตัวเขาเย็นลงขาของเขาเริ่มที่จะชา
จนไม่มีแรง นี่เป็นผลจากพิษของ มังกรวารีนี้
ทั้ง Lr และเจนัสที่เกาะอยู่ด้วยเพราะไม่มีแรงจะว่ายน้ำ กำลังจะจมมิจมแหล่อยู่
ไลท์เห็นดังนั้นจึงหันไปสนทนากับเจ้ามังกรวารีให้ปล่อยพวกเขาไป
กีซซซซซซ (ท่านมังกรวารีได้โปรดไว้ชีวิตเราด้วยเถอะ)
ไลท์ขอร้องทั้งน้ำตาแต่เจ้ามังกรยักษ์ดูจะไม่ได้สนใจท่าทีของเขาเลย
ก็าซซซซซซซซ (พวกเจ้าบังอาจมารบกวนข้า มังกรวารีผู้ยิ่งใหญ่ จอร์มอนการ์ด ผู้นี้แล้วคิดว่าจะรอดไปอีกเรอะ ฝันไปเถอะ)
เจ้ามังกรยักษ์ตอบกลับ ทันทีที่ได้ยินชื่อของมังกร ตัวนั้นเขาก็นึกออกเขาเคยได้ยินจากครูอีสควอเทียว่า
มันเป็นมังกรวารีแห่งตำนานที่อาศัยอยู่ ในน่านน้ำทะเลของแอนดิซองมันคือ มังกรจอร์มอนการ์ด (Jormungand, the Legendary Dragon)
เขี้ยวของมันมีพิษที่ทำให้ร่างกายชาราวกับเป็นน้ำแข็ง
อีกทั้งมันยังมีอำนาจในการสร้างน้ำวน มังกรตัวนี้ต้องใช้คาถาในการผนึกสะกดวึ่งจะทำโดย
จอมเวทย์แห่งราชวงศ์แอนดิซอง
กีซซซซซ (ทำไมกันเราไม่ได้ไปรบกวนอะไรท่านเลย ท่านนั่นแหล่ะที่มาระรานเราก่อน)
ไลท์สวน
ก็าซซซซซซซซซซ (อย่ามาปากแข็งยังไงซะพวกแกต้องตาย)
มันคำรามตอบกลับก่อนสร้างคลื่นยักษ์ ไลท์หันกลับมาดูอาการของ Lr
ตอนนี้ Lr ไม่มีแรงที่จะว่ายอีกแล้วไลท์จึงต้องช่วยพยุง ในใจเขาตอนนี้สับสนไปหมด
หากเขาไม่บินพาทุกคนหนีเขาและทุกคนก็ต้องจมทะเลตายแต่หากเขาบิน ความเจ็บปวดฝังใจนั่นก็จะทำให้เขาต้องหวาดวิตก
ตอนนี้เขาราวกับอยู่บนทางแยกสองทางเขาต้องรีบตัดสินใจในทันทีเพราะ วินาทีนี้คลื่นได้กระชั้นชิดเข้ามาเรื่อยๆแล้ว
ถ้าเรามัวแต่กลัวอยู่อย่างนี้เราก็จะทำให้ทุกคนต้องตายไปด้วยนี่ เป็นทางเลือกที่ดีแล้วเหรอ
ไลท์คิดในใจขณะที่กำลังตัดสินใจอยู่นั้น มโนภาพจากความทรงจำอันเจ็บปวดก็ได้แทรกเข้ามา
แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะบินอีกครั้งทันทีที่สยายปีก ความเจ็บปวดของความทรงจำก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเขาแทบท้อใจแต่ทว่าในตอนนั้นมโนภาพนึงก็ผุดขึ้นมาในใจมันเป็นมโนภาพที่เขาจำได้แม้จะเรือนลาง เขาหันมามองหน้า Lr ที่เริ่มซีดเพราะผลจากพิษ ใช่แล้วในวันนั้น
ขณะที่เขากำลังจะตกลงจากหน้าผาคนที่ มาช่วยเขาไว้ คนฝ่าพายุอันบ้าคลั่งเข้ามาจับมือเขาไว้
Lr ที่เป็นห่วงจึงออกมาตามหาเขาท่ามกลางพายุฝนในวันนั้น ทำให้เขาคืนดีกับ Lr
อีกครั้งแต่ทว่าเป็นเพราะ ความกลัวที่เกือบจะทำให้เขาต้องปิดผนึกมันไปพร้อมกับความทรงจำอันดีนี้ด้วย
ทันทีที่นึกได้เช่นเขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไปเขากระพือลาทั้งสองขึ้นจากน้ำอย่างรวดเร็ว โดยไม่กลัว
แม้ทั้งสองจะหนักจนเขาแทบจะบินไม่ขึ้นแต่เขาก็พยายามจนสำเร็จพวกเขา
ทะยานขึ้นสู่ฟ้าได้และหลบคลื่นยักษ์สำเร็จแต่ทว่า
จอร์มอนการ์ดก็ตรงรี่เข้ามาหมายจะขย้ำพวกเขา มันอ้าปากกว้างและพุ่งเข้าทันใดนั้น
ที่บนท้องฟ้าอันห่างไกลแห่งหนึ่งยานยนต์รูปร่างคล้ายมังกร ส่วนที่น่าจะเรียกได้ว่าพัง พืดของมังกรปีกของมันบางและใสราวกับกระจก
มันบินด้วยความเร็วสูงอยู่เหนือน่านฟ้าจนแทบจะใกล้กับสรวงสวรรค์
ล่องที่ส่วนหัวของมันซึ่งเป็นเสมือนตาของมันเริ่มส่องแสงสีแดงออกมา ก่อนที่
สิ่งที่คล้ายกับปืนใหญ่กำลังจะรวบรวมพลังงานจนเกิดเป็นสว่างส่องวาบออกไปอย่างรวดเร็ว
แสงนั้นตรงออกไปยังที่ที่พวกไลท์อยู่ แสงนั้นเข้าห่อหุ้มตัวเขาไว้ทำให้จอร์มอนการ์ดไม่อาจ
ทำอันตรายพวกเขาได้ ดราก้อนฮอลลี่เริ่มปฏิกิริยากับแสงนั้น ไฟหน้าจอของมันเริ่มกระพริบอีกครั้ง ก่อนจะส่งเสียงออกมา
Down Load Tag
เสียงของมันดังออกมาเป็นเสียงทุ้มต่ำราวกับเสียงเครื่องยนต์กลไกที่กระหึ่มเป็นเสียงออกมา
Set Up Complease
เสียงของมันดังอีกครั้งก่อนที่จะมีสัญลักษ์บางขึ้นบนหน้าจอ มันเป็นสัญลักษณ์ ประจำธาตุแห่งแสง
ก่อนที่จะมีแสงสว่างวาบออกมาอาบร่างของพวกเขาไว้ ภายในเกราะกำบังที่ได้จากแสงที่พุ่งตอนแรก
จอร์มอนการ์ดเริ่มสูดลมหายใจก่อนจะพ่นออกมาเป็นพายุ
และทันทีที่พายุกระทบถูกเกราะกำบัง จนมันแตกสลายแสงก็จางลงพร้อมกับลมพายุที่แรงกว่าพัดต้านแรงลมที่มันพ่นออกมา
จนสลายไปด้วยขนนก สีขาวที่หลุดออกมากับแรงลมร่วงโปรยปรายลง Lr และเจนัสต่งต้องประหลาดใจเมื่อพวกเขาอยู่บนหลัง
ของมังกรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นมังกรที่มีรูปร่างคล้ายกับกริฟฟิน
ขนของมันอ่อนนุ่มราวกับขนนกและเป็นสีขาวสะอาด ขาของมันเป็น นก กริฟฟิน
ไม่เป็นไรนะ ทั้งสองคน
เสียงของมันดังขึ้น แต่ Lr จำได้ว่านั่นคือเสียงของไลท์
ไลท์นั่นนายเองเหรอ
Lr อุทาน อย่างไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง บัดนี้เพื่อนของเขากลายร่างเป็นครึ่งมังกรครึ่งกริฟฟินไปแล้ว
แผลนั่นน่ะเดี๋ยวจะรักษาให้อยู่นิ่งๆนะ
ไลท์หันมาดูที่ขาของ Lr และพ่นลมหายใจออกมา พิษที่อยู่ในร่างก็จางหายไปราวเวทมนต์
เขารู้สึกสดชื่นขึ้น ราวกับได้เกิดใหม่และปากแผลก็ปิดสนิทลงทันที
ยอดไปเลย ขอบใจนะไลท์
Lr กล่าวขอบคุณ
อืม ไม่หรอกที่ควรจะต้องขอบใจคือฉันต่างหากเพราะนายทำให้ฉันมีความกล้าที่พยายามจะบินอีกครั้งปาฏิหารย์เลยเกิดขึ้น
ไลท์ตอบซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นรู้ แต่เพียงว่าอยู่ๆก็มีพลังพวยพุ่งออกมา
และตอนนี้ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวเหมือนในตอนที่เขาเคยรวมร่างกับ Lr เพื่อเป็นทาลูคูส
จงกล่าวนามของเจ้าออกไป.....
เสียงนั้นดังขึ้นในหัวของเขา ซึ่งด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดทำให้เขาไม่ลังเลเลยที่จะทำตามนั้น
ก็าซซซซซซซซ (เจ้าเป็นใครกันทำไมถึงได้มาขัดแข้งขัดขาข้า ข้าจะไม่ปล่อยแกไว้แน่จมทะเลลงไปซะ)
จอร์มอนการ์ดคำราม ก่อนที่จะเริ่มสร้างคลื่นยักษ์อีกครั้ง
เจ้ามังกรโอหัง โทสะของเจ้าจักทำให้ผู้คนเดือดร้อน
ไลท์กล่าวออกมาโดยที่แทบจะไม่รู้สึกตัวเลย แต่น้ำเสียงของเขาทำให้ Lr กับเจนัสรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
เพราะราวกับเมื่อกี้นี้เค้าไม่ใช่ตัวของตัวเอง
ก็าซซซซซซ (ไม่สนใครมันบังอาจต่อกรกับข้าต้องตาย)
จอร์มอนการ์ดคำรามขณะที่กำลังผุดขึ้นมาจากน้ำ
หึงั้นเราจะได้เห็นดีกัน จงฟังเอาไว้ข้าคือ มังกรกริฟ(Dragogriff) อิมซาน(Imsarn, the Shining Dragogriff)
ทันที่กล่าวจบคลื่นยักษ์ก็ถูกสาดเข้ามาอิมซานจึงเริ่มรวบรวมพลังงาน จนทั้งร่างเปล่งแสง
ความร้อนที่พวยพุ่งออกมาจากร่าง Lr และเจนัสรู้สึกได้ทันทีจากการร่างอันเปียกโชกของพวกเราแห้งลงทันตา
Flash Flame
สิ้นคำแสงพลังงานก็พุ่งออกมาจาก จงอยปากของ อิมซาน แสงนั้นแรงกล้าจนแผดเผาคลื่นยักษ์ที่สาดเข้ามาแห้งเหือด
ไปในบัลดล แสงนั้นพุ่งตรงต่อไปอาบจอร์มอนการ์ด ผิวของมันร้อนและแห้ง จากการถูกแสงสาดใส่มันร้อนและเจ็บแสบระคายผิวราวกับถูกย่างทั้งเป็น
มันทนไม่ได้จึงหนีหายลงทะเลไป
คิดหนี รึ ฝันไปเถอะ
อิมซานไม่รอช้ารีบรวมพลังอีกครั้งก่อนจะพ่นแสง ลงทะเลไปจนน้ำทะเลเดือดปุดๆ
จอร์มอนการ์ดทนความร้อนไม่ไหวจนต้องดำลึกหายลงทะเลไป
แค่นี้คงจะเข็ดไม่กล้ามารังควานอีกแล้วนะ
อิมซาน กล่าว
เฮ้ทุกคน
เสียงตะโกนดังมาจากทางด้านหลังพวกเขา วิลนั่นเองที่เรียกพวกเขา
.....................
.............................
..................................
ด้าน ลากูน่า ที่บัดนี้ครึ่งสมิง แมวป่า สาวกำลังคิดจะจัดการเก็บเขาโดยชักปืนออกจากซอง
ปืนของนาง เป็นปืนสั้น ที่มีช่องบรรจุกระสุนเป็นลูกโม่ ปากกระบอกปืนขนาดใหญ่และมีรู กระสุน 8รูด้วยกันซึ่งตรงกับตำแหน่งที่ลูกโม่กระสุนจะถูกใส่เข้าไปนางบรรจงใส่ลูกกระสุนเข้าไปในลูกโม่ของปืนแปดนัด
ก่อนจะลั่นไกปืนยิงขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็วกระสุนทั้ง 8 นัดถูกยิงออกมาพร้อมกันทั้งหมด
ทันทีที่กระสุน พุ่งออกจากปืนมันก็กลายเป็นแสงพลังงานพุ่งขึ้นสู่ท้องนภาก่อนจะเบนทิศมารวมกันที่ปลายทาง
และระเบิดจนดังลั่นป่า แสงสีที่ส่องออกมาราวกับพลุก็ไม่ปานเสียงที่เกิดจากการระเบิดทำให้ลากูน่าสะดุ้งตื่น ด้วยความตกใจ
เช่นกันพอๆกับที่พวกฝูงนก ในป่าพากันบินหนีไปด้วยความตกใจ ทันที่ เขาเห็นนาง
เขาก็ตั้งท่าด้วยความหวาดระแวง แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจกับท่าทีของนาง
เพราะนางพุ่งเข้ามาโอบกอดเขไว้จนแทบจะหายใจไม่ออก
โอ๋ๆเด็กดีตื่นแล้วเหรอจ้ะ
นางกล่าวเสียงหวานทำให้เขางง ไปหมดหลังจากที่นางปล่อยเขานางก็แนะนำตัวทันที
ฉันชื่อนีน่า(Neena)จ้ะ
นางกล่าวเสียงใส ทำให้ เขารหน้าแดงด้วยความเขินอาย
ผ..ผมชื่อ ลากูน่า ครับ
เขาแนะนำตัว
ลากูน่าเหรอยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ
นางกล่าวพร้อมกับยื่นมือออกไปซึ่งลากูน่าเองก็ยื่มมือออกไปจับมือเพื่อเป็นการทักทาย
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ
ลากูน่ากล่าว นางยิ้มให้อย่างเป็นมิตรทำให้เขาไว้วางใจนาง
และทันทีที่เขาหันไปนางก็ยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย
ฮึๆเซอร์เซสอีกไม่นานแล้วรอก่อนเถอะ...
นางคิดในใจ
โปรดติดตามตอนต่อไป
ในตอนหน้า พวก Lr ได้พบกับวิลและแล้วพวกเขาก็ถูกวิลนำไปที่ เกาะร้างกลางทะเลอีกแห่งหนึ่งที่นั่นครูอีสควอเทีย
คอยพวกเขา และแล้วพวกเขาก็ได้ทราบถึงเรื่องราวในอดีตของตนที่เกี่ยวข้องถึงกัน ละตำนานของพวกเขาก็เปิดฉากขึ้น.....
พบกันในตอนหน้าบทที่ 16 ตำนาน