ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะอธิบายเรื่องนี้ว่าอย่างไร? ซาดินถามต่อ ยังทรงแคลงใจอยู่ลึก ๆ
ที่พวกมันทุ่มเทกำลังปกป้องวิหารแห่งนี้ก็เพราะวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่นางฟ้าฟรานเชสก้า อารักขเทวดาของอาณาจักรนี้ ดังนั้นวิหารแห่งนี้จึงเป็นเหมือนวิหารเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง หากวิหารถูกทำลายก็เหมือนกับว่าทั้งอาณาจักรถูกหยาบเกียรติและศักดิ์ศรีที่อุตส่าห์สร้างสมมาช้านาน
แค่นั้นนะรึ!?! กษัตริย์ซาดินแทบจะระเบิดเสียงออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ข้าเสียทหารไปเป็นแสนเพียงเพราะไอ้ศักดิ์ศรีโง่ ๆ ของพวกมันอย่างนั้นรึ? ตัวของพระองค์สั่นเทิ้ม ดีละ...ถ้าอย่างนั้นข้าก็ทำลายศักดิ์ศรีโง่ ๆ ของมันให้สิ้นซากไปเลย ทันทีที่เจ้าจัดการเจ้าบิชอปนั่น ข้าจะทำลายเมืองทั้งเมืองนั่นให้ราบชนิดที่พวกมันจะไม่กล้าย่างกรายเข้ามาในเมืองนี้ตลอดกาล กษัตริย์ซาดินทรงประกาศกร้าวอย่างโกรธเกรี้ยวโดยที่แบล๊ค ไวเซอร์น้อมรับคำอย่างยินดี พร้อม ๆ กับมโนภาพที่ค่อย ๆ ปรากฏเด่นชัดในหัวของเขา
เคอร์วิน(Kerwin) ทำไมแกถึงสอบไม่ได้ที่หนึ่งสักที? แกนี่มันโง่จริง ๆ แกเป็นความอับอายของตระกูลเรา ภาพใบหน้าของชายคนหนึ่งที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเรียกว่าพ่อกำลังตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
ฉันไม่มีลูกโง่ ๆ อย่างแก หญิงวัยกลางคนผู้เขาเคยเรียกว่ามารดาเบ้ปากใส่อย่างรังเกียจ ทำไมเกรเกอรี่ถึงไม่มาเกิดเป็นลูกฉันนะ?
เคอร์วิน เคอร์วิน ภาพเด็กชายผมแดงตะโกนเรียกเขาอย่างร่าเริง
เคอร์วิน ไม่เป็นไรนะ คราวหน้าเรามาพยายามกันใหม่ เด็กชายผมสีทอง ดวงตาสีน้ำตาลทองเป็นประกายส่งยิ้มให้
เสียงร้องแหลมของนกปีศาจดังก้องขึ้นทำลายห้วงความนึกคิดนั้น กษัตริย์ซาดิน และบลาส เซจ กำลังมองตรงมาด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าที่บูดเบี้ยวด้วยความสะอิดสะเอียนของแบล็ค ไวเซอร์ ถูกซ่อนไว้อีกครั้ง
หึ หึ พวกมันจะได้สำนึก อีกไม่นานนี้แหละฝ่าบาท อีกไม่นาน.... แบล๊ค ไวเซอร์แสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
s
กลางดึกในคืนที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็นคืนหนึ่ง บริเวณที่พักของนักบวชชั้นผู้ใหญ่ประจำเมืองเอรีม บิชอปเกรเกอรี่กำลังนอนหลับอยู่ภายในห้องที่พักของตน ทันใดนั้นจู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งกำลังสัมผัสตัวของเขาอย่างแผ่วเบา หูของเขาได้ยินเสียงเล็ก ๆ คล้ายเสียงของสตรีพูดกระซิบกระซาบบางอย่างเบา ๆ เขาพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นทว่าเปลือกตาของเขากลับหนักอึ้งเพราะความง่วงงุน เสียงกระซิบนั้นยังคงดังอยู่และดูเหมือนเสียงนั้นดังอยู่ใกล้หูของเขาเหลือเกิน เกรเกอรี่รู้สึกถึงปลายนิ้วที่เนียนนุ่มลากนิ้วจากหน้าผากของเขาเรื่อยละมาถึงปลายจมูกช้า ๆ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นใช้หลังมืออ่อนนุ่มลูบไล้อย่างเบามือที่ข้างแก้มของเขา เกรเกอรี่จึงพยายามสลัดไล่ความง่วงงุนฝืนเปิดเปลือกตาขึ้นในที่สุด ทันทีที่ลืมตาขึ้นเขาก็ต้องตกตะลึงแทบจะลืมหายใจเมื่อมีหญิงสาวนางหนึ่งนั่งคร่อมอยู่บนตัวเขา ดูจากหน้าตาของเธอแล้วอายุคงไม่เกินสิบแปดปี เธอเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าหมดจดงดงามที่สุดอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต สีตาดำสนิทเหมือนท้องฟ้าในคืนเดือนมืดทว่ากลับมีประกายแพรวพราวดูโดดเด่นเหมือนดวงดาวในยามค่ำคืน ริมฝีปากสีแดงสดเผยอขึ้นน้อย ๆ อย่างเย้ายวนก่อนจะแย้มยิ้มให้เขา ผิวกายของเธอผุดผาดเป็นสีนวลเรืองรองราวกับดวงจันทร์ที่ลอยเด่นกลางท้องฟ้าที่ไร้เมฆเวลาเที่ยงคืน ผมเหยียดตรงยาวสยายสีดำสนิทเหมือนเส้นไหมนุ่มสีดำล้อมกรอบใบหน้าของเธอจนดูคมเด่นแม้ในแสงสลัวยามเย็นเช่นนี้ ยามเย็นอย่างนั้นรึ? เขาเข้านอนตอนมืดมิใช่หรือ? นี่จะต้องเป็นความฝันแน่ ๆ คิดได้ดังนั้นก็รีบสะบัดตัวอย่างแรงเพื่อให้ตื่นจากความฝันนี้
ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นจึงได้พบว่าเป็นเวลาสายมากแล้วเพราะแสงแดดที่เริ่มจัดสาดเข้ามาตามช่องหน้าต่าง เขาไม่เคยนอนตื่นสายถึงขนาดนี้มาก่อนเลย คงเป็นเพราะเขานอนมากเกินไปแน่ ๆ จึงทำให้เขาฝันเช่นนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วจึงลุกออกจากเตียงเดินไปที่ประตูห้องแต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินไปถึงประตู จู่ ๆ ก็พบว่าเขากลับไปนอนอยู่บนเตียงเช่นเดิมเหมือนเมื่อตอนที่เขาลืมตาตื่นเมื่อครู่นี้ ทั้ง ๆ ที่เขาแน่ใจว่าเขาได้ลุกขึ้นจากเตียงไปแล้วมิใช่รึ? หรือจริง ๆ แล้วเขายังไม่ได้ลุกออกจากเตียงกันแน่? เกรเกอรี่รู้สึกพิศวงอยู่เพียงครู่หนึ่งก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างขยับอยู่ใต้ผ้าห่มของเขา เกรเกอรี่รู้สึกตัวเย็นวาบคิดจะสลัดผ้าห่มและอะไรบางอย่างนั้นให้พ้นจากตัวเขา แต่เขากลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ มันค่อย ๆ ขยับคืบคลานใกล้เข้ามาเรื่อยอย่างช้า ๆ และในวินาทีที่มันโผล่พ้นผ้าห่มนั้นเกรเกอรี่ก็ต้องตกตะลึงอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อกลับกลายเป็นสาวน้อยคนเดิมที่ปรากฏในฝันของเขาโผล่พ้นผ้าห่มขึ้นมา ริมฝีปากสีแดงแย้มยิ้มอย่างยั่วยวน เธอยืดตัวขึ้นจนผ้าห่มเลื่อนหล่นจนไปกองอยู่ที่เอว เกรเกอรี่จึงได้เห็นว่าผมยาวดำขลับของเธอยาวสยายอยู่บนอกของเขาและสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นผ้าห่มในทีแรกกลับกลายเป็นผมสีดำที่ยาวสยายของเธอนั่นเอง เธอยกมือลูบต้นคอของเธอก่อนจะค่อย ๆ ลากมือต่ำลงมาเรื่อย ๆ สายตาของเกรเกอรี่มองตามการนำด้วยมือของหญิงสาวจนพบว่าเธอไม่ได้สวมอาภรณ์ใด ๆ ! หากแต่ใช้เพียงแค่ผมดำขลับยาวสยายเป็นแพรปิดซ่อนเนื้อตัวที่เปล่าเปลือยของเธอไว้เท่านั้น เกรเกอรี่รีบเบือนหน้าหนีทันทีทว่าเธอกลับยื่นมือมาจับผมปอยหนึ่งที่หน้าผากของเกรเกอรี่ไปเหน็บไว้ที่ข้างหูของเขาและเอียงหน้าของบิชอปหนุ่มกลับมาเผชิญหน้ากับตนอีกครั้งก่อนจะยิ้มน้อย ๆ พลางกัดริมฝีปากล่างอย่างยั่วเย้าโน้มหน้าลงมาหาเขา [/size]