กว่าจะรักษาผู้ป่วยจนครบหมดทุกคนก็เป็นเวลาเกือบพลบค่ำแล้ว คณะของซิสเตอร์ต่างก็มุ่งกลับอารามที่พัก โดยคณะของเจ้าหญิงอลาน่าเข้าถึงที่พักเป็นคณะหลังสุด ก่อนจากกันซิสเตอร์โรซาน่าก็ยังไม่ลืมที่จะกำชับให้เจ้าหญิงพักผ่อนทันที ซึ่งอลาน่าก็รับปากแต่โดยดี ทว่าเมื่อกลับถึงปราสาทแล้วกลับมีราชกิจมากมายรออยู่ เพราะเกิดสงครามขึ้นแม้แอนดิซองมิได้เข้าร่วมในสงคราม แต่ผลกระทบต่าง ๆ ก็เริ่มจะส่อเค้าว่าจะมีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อแอนดิซอง มีเอกสารมากมายที่เจ้าหญิงต้องดู มีปัญหามากมายที่ต้องนำเข้าที่ประชุม
ทันทีที่เจ้าหญิงเสด็จถึงปราสาทก็ต้องรีบเข้าร่วมประชุมกับสภาขุนนาง สภาศาสนา และสภาพ่อค้าเรื่องการเพิ่มงบประมาณที่จะสำรองไว้ใช้ในราชสำนักและสภาทั้งสองสำหรับฤดูหนาวที่ปีนี้มาเร็วกว่าปกติ การประชุมที่เคร่งเครียดดำเนินไปอย่างเชื่องช้าเพราะต่างก็หาข้อสรุปที่น่าพอใจไม่ได้ เนื่องจากเริ่มมีผู้อพยพเดินทางมาที่แอนดิซองมากขึ้น ทั้งยังอยู่ในภาวะสงครามจึงต้องสำรองเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้ป้องกันอาณาจักรหากเกิดกรณีฉุกเฉิน กว่าที่ประชุมจะได้ข้อยุติเวลาก็ล่วงเลยเกือบถึงเที่ยงคืน
อลาน่าเดินออกจากห้องประชุมพร้อมเหล่านางกำนัลสี่นางมุ่งสู่เขตพระราชฐานชั้นในด้วยความเหนื่อยอ่อน ฝีเท้าของเธอช้าลงเรื่อย ๆ จนเหล่านางกำนัลเริ่มมองหน้ากัน
ฝ่าบาท ทรงเป็นอะไรรึเปล่าเพคะ? นางกำนัลคนหนี่งถามขึ้นในที่สุด
อลาน่าหันมายิ้มน้อย ๆ พูดเสียงเบา ฉันคิดว่าวันนี้ฉันคงจะเหนื่อยไปหน่อยเท่านั้นเองจ้ะ
ให้หม่อมฉันช่วยพยุงไหมเพคะ พระองค์ดูพระพักตร์ซีดราวกับกระดาษเลยนะเพคะ นางกำนัลอีกคนรีบพูดขยับตัวเข้าไปใกล้ด้วยความตกใจเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าหญิง
ไม่เป็นไรจ้ะ อีกนิดเดียวก็ถึงห้องของฉันแล้ว อลาน่ายิ้มก่อนจะหมุนตัวกลับ ทว่าทันใดนั้นก็เหมือนกับโถงทางเดินเหวี่ยงตัวหมุนเคว้ง เพดานและผนังดูเหมือนจะถูกบีบพับลงมากองกับพื้น เจ้าหญิงได้ยินแต่เสียงหวีดร้องของเหล่านางกำนัล อลาน่ารีบพูดปลอบขวัญพวกนางทว่าเสียงที่เปล่งออกมากลับกลายเป็นแค่เสียงพึมพำเบา ๆ เข่าทั้งสองของเธออ่อนยวบแล้วทุกอย่างก็ค่อย ๆ พร่าเลือนไป คงไม่มีใครได้ยินเสียงปลอบขวัญของเธอเพราะเธอยังรู้สึกได้ว่าเหล่านางกำนัลยังคงร้องตะโกนโหวกเหวกอยู่รอบ ๆ ตัวเธอก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นมืดสนิท
s
[/b]
อลาน่ารู้สึกถึงสายน้ำเย็นสดชื่นสะอาดบริสุทธิ์ไหลผ่านทั่วทั้งร่างของเธออย่างอ่อนโยน ให้ความรู้สึกสดชื่นสบายตัวเหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆนุ่มขาวสะอาด นี่เธอมานอนเล่นอยู่บนสรวงสวรรค์หรือไรนะ เมื่อคิดดังนั้นก็ปรารถนาอย่างเหลือเกินที่จะเห็นความงดงามของสรวงสวรรค์แห่งนี้ เจ้าหญิงจึงค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ แสงอรุณรุ่งรำไรที่แผ่ลำแสงอันอบอุ่นเข้ามาเยี่ยมเยือนภายในห้องสีฟ้าอ่อนทำให้ทั่วทั้งห้องแลดูสดใสเหมือนท้องฟ้ายามเช้า ภายในห้องถูกตกแต่งอย่างแสนจะธรรมดาและเรียบง่ายผิดกับห้องหับอื่น ๆ ในปราสาทที่เต็มไปด้วยเพชรนิลจินดาและการตกแต่งที่วิจิตรตระการตาจากบรรดาช่างฝีมือดีนับพันคน ห้องนี้ไม่มีเพชรพลอยประดับ ไม่มีเครื่องตกแต่งไร้สาระราคาแพง ไม่มีแม้แต่เครื่องเรือนหรูหราที่ประดับด้วยทองคำอย่างที่ขุนนางและชนชั้นสูงในแอนดิซองนิยมใช้กัน หากใครได้มาเห็นห้องบรรทมนี้คงไม่มีวันเชื่อแน่ว่าจะเป็นห้องบรรทมของเจ้าหญิงผู้มีตำแหน่งเป็นถึงผู้สำเร็จราชการแห่งแอนดิซอง
แสงอาทิตย์อ่อน ๆ ยามเช้าที่ทอแสงลอดตามช่องหน้าต่างเข้ามาอย่างอ่อนโยนทำให้เจ้าหญิงอลาน่ามองเห็นว่าเธออยู่บนแท่นบรรทมของเธอเองโดยมีใบหน้าที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและน้ำตาที่เอ่อคลอของซิสเตอร์ที่เธอรักไม่ต่างจากมารดาอีกคนหนึ่งอยู่ข้างเตียงของเธอ
ซิสเตอร์ดูเหมือนนางฟ้าที่มากับแสงอรุณรุ่งเลยนะคะ อลาน่าพูดเสียงเบายิ้มน้อย ๆ
ยังจะมาตรัสล้อหม่อมฉันเล่นอีกนะเพคะ พระองค์ทราบไหมว่าหม่อมฉันตกใจแค่ไหนตอนที่พวกมหาดเล็กวิ่งหน้าตาตื่นไปตามหม่อมฉันที่อารามแล้วบอกหม่อมฉันว่าพระองค์เป็นลม? พอหม่อมฉันมาถึงทั้งพวกนางกำนัลและหมอหลวงก็วุ่นวายไปทั่วทั้งห้องเลย พระองค์บรรทมไปหนึ่งวันเต็ม ๆ เชียว นี่ก็เข้าเช้าวันนิล(Nil)แล้วเพคะ ซิสเตอร์โรซาน่ามองเจ้าหญิงของเธออย่างอ่อนโย