Little Lamb, the Little Angel
|
|
« on: July 19, 2005, 05:19:15 AM » |
|
Chapter 33 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก [/size] กลางตลาดใหญ่ในฟีเลเซียเวลานี้คร่าคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่ออกมาจับจ่ายซื้อของ วันนี้ตลาดดูจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะชาวเมืองต่างก็เริ่มกว้านซื้อสินค้าและอาหารเพื่อกักตุนไว้ใช้หากสงครามขยายวงกว้างขึ้น เด็กส่งสารหลายคนขี่คูกาโร่วิ่งไปตามถนนพร้อมแผ่นพับหอบใหญ่ในกระเป๋าหนังสีน้ำตาล พลางร้องตะโกนเสียงดัง ข่าวด่วนครับ ชาวเมืองวอลเนียถูกทหารปีศาจฆ่าล้างเมือง ข่าวด่วนจากเมืองวอลเนียครับ ท่านบิชอปเกรเกอรี่อัญเชิญอัศวินสวรรค์ทำลายกองทัพปีศาจที่เมืองวอลเนียจนราบเป็นหน้ากลองในพริบตา บรรดาเด็ก ๆ ส่งสารวิ่งไปตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งจะมีป้ายแผ่นไม้ขนาดใหญ่ไว้สำหรับปิดประกาศต่าง ๆ พลางแปะแผ่นพับลงบนป้ายประกาศเหล่านั้น ชาวเมืองฟีเลเซียต่างรีบไปยืนมุงที่ป้ายประกาศเพื่ออ่านเนื้อหาของข่าวสาร เพราะล้วนก็อยากจะรู้ข่าวคราวของสงคราม และอาจจะได้รับรู้ข่าวญาติพี่น้องของตนที่ไปร่วมรบกับกองทัพ ซึ่งหนึ่งในจำนวนชาวเมืองที่รุมกันอยู่นั้นก็มีสาวนามเดเปเป้รวมอยู่ด้วย เมื่อได้อ่านข่าวต่าง ๆ จนจบแล้วก็รีบตรงดิ่งไปยังร้านขายเครื่องดื่มเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก มาแล้วจ๊ะ โดโปโป้ เดเปเป้วิ่งเข้ามาพลางโบกมือเรียกเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดี เสียงพยายามกลั้นหัวเราะดังมาจากโต๊ะโดยรอบ จนทำให้หญิงสาวนามโดโปโป้อายจนหน้าแดง เธอรีบวางเงินจำนวนห้าเดนาริอันพลางลุกขึ้นยืน ฉันว่าเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ เดเปเป้ ทันทีที่โดโปโป้เรียกชื่อเพื่อนสาว เสียงกลั้นหัวเราะก็แทบจะดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง พร้อมกับมีเสียงสำลักน้ำของใครบางคนด้วย โดโปโป้อายจนหน้าแดงไปถึงหูก่อนจะรีบจูงเดเปเป้เดินจ้ำออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงตั้งชื่อประหลาด ๆ อีกแล้วนะเพคะ ดูสิ...เขาขำกันใหญ่เลย โดโปโป้พูดเสียงเบาพลางหันไปมองภายในร้าน และเห็นลูกค้าในร้านหลายคนยังคงหัวเราะกันอยู่ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย นี่เราช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายความตึงเครียดในภาวะสงครามนะ เรจิน่าหัวเราะอย่างร่าเริงขำกับปฏิกิริยาของนางกำนัลคนสนิทพลางเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น แล้วพระ....แล้วนั่นเธอกำลังจะไปไหนจ๊ะ นางกำนัลรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อมีป้าแก่ ๆ เดินสวนมา ฉันจะรีบกลับบ้าน เพราะมีที่ที่น่าสนใจจะต้องไปสำรวจสักหน่อย เธอก็รีบเดินเข้าสิจ๊ะ เรจิน่ากล่าวอย่างร่าเริงในขณะที่นางกำนัลนั้นเริ่มไม่ไว้ใจกับสถานที่ที่น่าสนใจของเจ้าหญิง น่าสนใจที่ว่านะ น่าสนใจในแง่ไหนเพคะ นางกำนัลเร่งฝีเท้าจนทัน พลางกระซิบเสียงเบา เอาเถอะ เราจะอธิบายให้ฟังระหว่างทางแล้วกันจ๊ะ เรจิน่าพูดเร็ว ๆ ก่อนจะเลี้ยวไปทางหลังตลาดเพื่อถอดคราบสาวชาวบ้าน กลับไปเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ตามเดิม
ระหว่างทางที่นำไปสู่ป่าทึบบนภูเขา ขบวนเสด็จของเจ้าหญิงเรจิน่าซึ่งประกอบด้วยนางกำนัลคนสนิท และทหารรักษาพระองค์ยี่สิบนายตามเสด็จเพื่อคอยอารักขา นางกำนัลควบม้าเข้าไปใกล้ กล่าวกระซิบเหลือบมองจำนวนทหารที่ติดตามมา พระองค์คิดว่านำทหารรักษาพระองค์มาเพียงเท่านี้จะพอหรือเพคะ นางกำนัลเอ่ยถาม สีหน้าแสดงความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ทำไมถึงจะไม่พอล่ะ เราไม่ได้ไปออกรบสักหน่อย อีกอย่างพวกเขาก็ล้วนแล้วแต่ได้ชื่อว่ามีฝีมือดีกันทั้งนั้น แล้วเราเองก็มีฝีมือพอที่จะปกป้องตัวเองได้ เรจิน่ายิ้ม พลางพูดกระเซ้า รวมถึงปกป้องเจ้าได้ด้วยนะ ฝ่าบาทอย่างทรงล้อเล่นสิเพคะ หม่อมฉันมีหน้าที่ปกป้องพระองค์ด้วยชีวิตนะเพคะ แล้วอีกอย่างที่หม่อมฉันพูดก็เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่าจะมีอะไรที่กลางป่าทึบนั่น นางกำนัลยังไม่คลายความวิตก
|
|
« Last Edit: August 21, 2005, 02:37:22 AM by Little Angel »
|
Logged
|
|
|
|
Little Lamb, the Little Angel
|
|
« Reply #1 on: July 19, 2005, 05:21:04 AM » |
|
ก็จากในข่าวที่ปิดประกาศนั่น ก็แค่มีการระเบิดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในเวลากลางคืน มีเสียงระเบิดบางครั้งในเวลาช่วงบ่าย ๆ มีเสียงดังแปลก ๆ ที่แหลมลึกจนลั่นป่า ทำให้ชาวบ้านหลายคนไม่กล้าออกไปล่าสัตว์ ดังนั้นเราผู้ซึ่งรับหน้าที่ดูแลความสงบสุขของฟีเลเซียชั่วคราวก็ต้องออกมาสำรวจและให้ความกระจ่างถึงที่มาที่ไปของปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นแก่บรรดาชาวบ้านสิ เรจิน่าอธิบายอย่างไม่ทุกข์ร้อน พลางกวาดตาชื่นชมทิวทัศน์โดยรอบ ก็นั่นแหละเพคะ ไม่แน่อาจจะเป็นพวกทหารปีศาจของซาโลมแอบมาสร้างขุมกำลังในป่าลึก แล้วพวกมัน... เจ้าวิตกกังวลจนเกินเหตุแล้ว เรจิน่ายิ้มขัน ๆ ทางที่เราไปเนี่ย อยู่คนละฟากกับสนามรบเลยนะ ไม่แน่นะว่าอาจจะเป็นแค่ภูตผีปีศาจที่ออกมาหากินในป่าลึก ภูตผีปีศาจอย่างนั้นรึเพคะ ถ้าเช่นนั้นทำไมพระองค์ไม่เอานักบวชมาด้วยสักองค์สององค์ละเพคะ นางกำนัลตัวลีบเหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาด ๆ ทำให้เรจิน่าหัวเราะเสียงใส เจ้านี่ชอบตื่นตระหนกวิตกกังวลจนเกินเหตุจริง ๆ เลย เราล้อเจ้าเล่นต่างหากล่ะ เรจิน่าแอบทำหน้าทะเล้นใส่นางกำนัล มาเถอะ นี่ก็ใกล้จะถึงจุดที่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นแล้ว พวกเราผูกม้าไว้แถวนี้แล้วลงเดินสำรวจรอบ ๆ กันดีกว่า เมื่อกล่าวจบ เรจิน่า ก็ให้สัญญาณแก่เหล่าทหารองครักษ์พลางเหวี่ยงตัวลงจากหลังม้า แน่พระทัยรึเพคะ หม่อมฉันว่าเรากลับไปตามทหารหรือนักบวชมาเพิ่มเพื่อความไม่ประมาทจะดีกว่านะเพคะ นางกำนัลกระซิบ มือยังคงง่วนอยู่กับสายบังเหียนที่เธอพยายามผูกเข้ากับกิ่งไม้ ไม่ดีกว่าจ๊ะ แบบนี้แหละดีแล้ว วันนี้เราอาจจะเจอหรือไม่เจออะไรเลยก็ได้ ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้วจะกลับไปกลับมาให้เสียเวลาทำไม เรจิน่ากระตุกปมที่สายบังเหียนสองสามทีเพื่อให้แน่ใจว่าม้าสะบัดไม่หลุด แล้วจึงหยิบดาบออกมาจากฟัก เอาล่ะ เริ่มสำรวจได้ นางกำนัลจำใจดึงดาบออกจากฝักเดินตามนายของตนพร้อมกับเหล่าทหารองครักษ์ เรจิน่าและคณะเดินสำรวจมาได้สักพักหนึ่งก็เริ่มพบร่องรอยต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นหลุมขนาดต่าง ๆ เศษดินเศษหินที่แตกกระจายเกลื่อนพื้น ซากหักโค่นของต้นไม้รวมไปถึงรอยไหม้ตามต้นไม้ต่าง ๆ ทุกคนจึงเริ่มระวังตัวกันมากขึ้นพลางเหลียวซ้ายแลขวามองหาสิ่งผิดปรกติ ปี๊บบบบบบบบบบบบ! ปี๊บบบบบบบบบบบบบบบ! เสียงที่แหลมจนแสบแก้วหูจู่ ๆ ก็ดังสั่นขึ้นจากทิศทางได้ไม่อาจรู้ได้ ทำให้เรจิน่าและคณะต้องรีบหาที่ซ่อนตัวด้วยความรวดเร็ว โดยเรจิน่าและนางกำนัลหลบอยู่หลังก้อนหินขนาดไม่ใหญ่นักในขณะที่เหล่าทหารองครักษ์คนอื่น ๆ ซุ่มหลบอยู่ตามพุ่มไม้หนาทึบใกล้ ๆ ปี๊บบบบบ แซกกกกกกก แซกกกกกกกกกกกก ตูมมม! จู่ ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นไม่ไกลจากที่ซ่อนตัวของพวกเรจิน่านัก ทุกคนต่างมองหน้ากันราวกับจะถามความเห็นกันว่าควรจะทำอย่างไรกันดี โดยมีนางกำนัลจับมือเรจิน่าเขย่าส่ายศีรษะแรง ๆ อย่างหนักแน่น ซึ่งดูเหมือนเรจิน่าจะไม่สนใจท่าทางของนางเท่าไหร่เมื่อเธอเอ่ยขึ้น การระเบิดเมื่อครู่ดูท่าจะอยู่ไม่ไกลจากเราเท่าไหร่ ทุกคนระวังตัวมากขึ้นด้วย เรจิน่าสั่งเสียงเบา ฝ่าบาท มันไม่ปลอดภัยกับพระองค์เลย ประทับอยู่ที่นี่เถิดเพคะนางกำนัลวิงวอน ปี๊บบบบบ แซกกกกกกก แซกกกกกกกกกกกก ปิ๊บ ปิ๊บ! เสียงประหลาดนั่นดังขึ้นอีกครั้ง และทันใดนั้นเองด้วยความไม่คาดฝัน จู่ ๆ ทุกคนก็ได้ยินเสียงใครสักคนร้องดังลั่นป่า อ๊ากกกกกกก....กกกกกกกก........กกกกก................อ๊ากกกกกกกก.....กกกกกกกกกก เสียงร้องดังขาดเป็นห้วง ๆ จากป่าด้านหน้า ทำให้ทุกคนต้องลอบโผล่หน้าแอบดูว่าเกิดอะไรขึ้น ฉับพลันนั้นเองใครคนหนึ่งจู่ ๆ ก็พุ่งเข้าชนนางกำนัลจนล้มกลิ้ง นางกำนัลกรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจสุดขีดประสานกับเสียงร้องของชายแปลกหน้าที่ดังแข่งกับเสียงของเธอ เหล่าองครักษ์ต่างพุ่งตัวออกมาแทบจะพร้อมกันเพื่ออารักขาเจ้าหญิงและรีบตรงเข้าไปกระชากเจ้าคนแปลกหน้าออกจากร่างของนางกำนัล ทันทีที่นางกำนัลเป็นอิสระก็รีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนขวางหน้าเจ้าหญิงแม้ตัวเองจะยังหน้าตาซีดเผือดตื่นตระหนกด้วยความตกใจ ในขณะที่ชายแปลกหน้ายังคงร้องเสียงหลงอยู่นั่นเอง ที่กางเกงของเขามีรอยไหม้ไฟที่ยังมีควันสีจาง ๆ โชยออกมา นายทหารเขย่าร่างของเขาแรง ๆ พลางสั่งให้เงียบ ทว่าพวกเขากลับได้ยินเสียงดังก๊องแก๊งเหมือนโลหะกระทบกันดังออกมาจากตัวของชายแปลกหน้า ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นก่อนจะตะโกนร้องเสียงหลงอีกครั้ง ทว่าในครั้งนี้เหล่าทหารที่เห็นใบหน้าของเขากลับต้องสะดุ้งตกใจจนรีบปล่อยมือออกจากคอเสื้อของชายแปลกหน้าคนนั้นทันทีพร้อมกับหันปลายดาบใส่เขาด้วยสัญชาตญาณ
|
|
« Last Edit: August 21, 2005, 02:37:38 AM by Little Angel »
|
Logged
|
|
|
|
Little Lamb, the Little Angel
|
|
« Reply #2 on: July 19, 2005, 05:22:32 AM » |
|
อ๊า.............ช่วยด้วย......แก๊ก......ข้าศึกบุก..บุก...บุก.....ท...ทิ...ทิโม...ธี...ธี...ธ..แก๊ก.....ช่วยด้วย..ด้วย.....แก๊ก.....อ๊ากกกกกเรจิน่าและนางกำนัลจำได้ทันทีว่านี่คือเจ้าหุ่นกระป๋องทินทอนนั่นเอง ทินทอน ทินทอน เรจิน่าพยายามเรียกชื่อแข่งกับเสียงร้องของเจ้าหุ่น ท..ทิ..ทิโมธี ทิโม...โม....โม....โมธี.....แก๊ก แก๊ก ...ช่วยด้วย..ช่วย....ช่วย...ช่วยด้วย แก๊ก เจ้าหุ่นยังคงหลับหูหลับตาร้องเสียงขาด ๆ หาย ๆ เพราะทั้งตกใจและเครื่องรวน ทินทอน! เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นก่อนที่ร่างของเขาจะวิ่งฝ่าพุ่มไม้หนาเข้ามาด้วยความเร็วและชนกับทหารนายหนึ่งอย่างจังจนล้มกลิ้งไปกันพื้นทั้งคู่ แค่ก ๆ ๆ ทิโมธีไอไล่ความจุกก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับมองเหล่าทหารด้วยความประหลาดใจ โดยมีทินทอนถลาเข้ามาตะเกียดตะกายเกาะเกี่ยวคอจนเกือบจะล้มคะมำไปอีกรอบ ทิโม...ธี....แก๊ก....ข้าศึก....ศึก....บุกแล้ว.... แก๊ก...หนี...หนี.....หนีเร็ว...แก๊ก.... ทินทอนพูดอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทินทอนดูดี ๆ สิ พวกเขาเป็นทหารฟีเลเซียต่างหาก ไม่ใช่ข้าศึกที่ไหนสักหน่อยทิโมธีต้องใช้เวลาพักหนึ่งจึงจะทำให้ทินทอนหยุดร้องโวยวายได้ ทหาร.....หาร.....แก๊ก....ฟีเล...เล...เซีย...เหรอ....แก๊ก ทินทอนลืมตาขึ้นมองไปรอบ ๆ โดยมีสายตาทั้งประหลาดใจและระแวดระวังจากบรรดาทหารจ้องกลับมา ทิโมธีกวาดตามองไปรอบ ๆ ประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นทหารองครักษ์มากมายในป่าทึบเช่นนี้จนสายตากวาดไปเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของสตรีทั้งสอง อ๊ะ!พวกเจ้า....เออ.....แอดชูว์ กับบูลี่ใช่มั๊ย ทิโมธีกล่าวทักอย่างยินดีเมื่อได้เจอเพื่อนร่วมชมรมผู้คลั่งไคล้สิ่งประดิษฐ์และการทดลองที่มนุษย์มองข้าม ข้างฝ่ายทินทอนก็รีบถอดหมวกออกโค้งราวกับสุภาพบุรุษ คุณผู้หญิงทั้งสอง...สอง..แก๊ก.....นั่น...นั่นเอง ทินทอนกล่าวอย่างกระฉับกระเฉงรีบเดินเข้าไปหา ทว่าบรรดานายทหารรีบก้าวเข้ามาขวางทันที บังอาจ!เจ้าพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ท่านผู้นี้คือเจ้าหญิงเรจิน่าแห่งฟีเลเซีย มิใช่หญิงชื่อประหลาดที่เจ้าเรียก หัวหน้าองครักษ์ประกาศเสียงกร้าว ทิโมธีมองเรจิน่าและนางกำนัลด้วยความงุนงง ในขณะที่ทินทอนทำท่าเหมือนจะเถียงเหล่าทหาร เรจิน่าจึงรีบเอ่ยขึ้น พวกเจ้ากลับไปรอเราที่ที่พวกเราผูกม้าไว้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเราจะตามไป แต่ฝ่าบาท... หัวหน้าองครักษ์แย้งขึ้นพลางมองชายหนุ่มที่เนื้อตัวมอมแมมเต็มไปด้วยคราบเขม่าและมีรอยไหม้ไฟตามเสื้อผ้าหลายที่ ก่อนจะเหลือบไปมองหุ่นยนต์ประหลาดที่ดูไม่น่าไว้ใจนั่น ไม่เป็นไร ทั้งสองเป็นสหายของเราเอง พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงเราจะออกไปสมบทกับพวกเจ้าแน่นอน เรจิน่ากล่าวสำทับ ใช่..แก๊ก..เราเป็น...เป็น....ส....ส....สหาย....หายกัน แก๊ก ทินทอนยืดอก เชิดหน้าขึ้นพูดอย่างอวด ๆ ทิ้งทหารไว้สักจำนวนหนึ่งไหมพ่ะย่ะค่ะ หัวหน้าองครักษ์เสนออย่างไม่ค่อยวางใจเท่าใดนัก ไม่จำเป็น เหลือนางกำนัลไว้คนเดียวก็พอ พวกเจ้าไปได้แล้วเรจิน่าสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจึงทำให้เหล่าองครักษ์ยอมปฏิบัติตามแม้จะไม่ค่อยเต็มใจนัก เมื่ออยู่กันตามลำพังแล้ว เรจิน่าจึงหันไปกล่าวกับทิโมธีด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด ขอโทษนะที่ทำให้พวกท่านต้องมาทราบความจริงเรื่องฐานะของพวกเราในลักษณะนี้ เราไม่ได้มีเจตนาจะปกปิดเพื่อความสนุกในการหยอกล้อท่านหรอกนะ เราเพียงแต่ไม่อยากให้ผู้คนแตกตื่นเวลาที่พวกเราออกมาเดินภายนอกปราสาท เออ...อา.....กระหม่อมเข้าใจ ทิโมธีตอบ สีหน้าเศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าพระองค์ไม่ใช่สมาชิกชมรมผู้คลั่งไคล้สิ่งประดิษฐ์และการทดลองที่มนุษย์มองข้ามด้วยใช่มั๊ยพ่ะย่ะค่ะ ใช่ เราขอโทษที่ต้องหลอกท่านเรื่องนั้นด้วย เรจิน่ากล่าวขอโทษอีกครั้งเมื่อเห็นว่าทิโมธีก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง เรจิน่าหันไปมองนางกำนัลเหมือนกับจะขอให้ช่วยกันพูดปรับความเข้าใจกับทิโมธี ท่านนักประดิษฐ์ เจ้าหญิงไม่ได้ตั้งใจจะหลอกท่านจริง ๆ นะ พระองค์แค่... นางกำนัลพูดยังไม่ทันจบจู่ ๆ ทิโมธีก็เงยหน้าขึ้นมาถามอย่างร่าเริงและกระตือรือร้น ถ้าเช่นนั้นพระองค์สนใจจะสมัครเป็นสมาชิกชมรมผู้คลั่งไคล้สิ่งประดิษฐ์และการทดลองที่มนุษย์มองข้ามไหมพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนำใบสมัครติดตัวมาด้วย
|
|
« Last Edit: August 21, 2005, 02:38:17 AM by Little Angel »
|
Logged
|
|
|
|
Little Lamb, the Little Angel
|
|
« Reply #3 on: July 19, 2005, 05:23:47 AM » |
|
คำพูดของนักประดิษฐ์ทำให้เรจิน่าหัวเราะออกมาทันทีเพราะความผิดคาดในปฏิกิริยาของนักประดิษฐ์หนุ่ม ด้วยฐานะของเราคงไม่เหมาะ พวกเราขอเป็นสมาชิกลับแบบไม่เปิดเผยตัวก็แล้วนะ พวกเรารึเพคะ.....หมายถึงหม่อมฉันด้วยรึเพคะ นางกำนัลย้อนถามทำตาโตด้วยความตกใจ โอ้...หรือว่าเจ้าอยากจะเป็นสมาชิกอย่างเปิดเผยละ ถ้าเจ้าอยากจะเป็น...ก็ได้นะข้าอนุญาต เรจิน่าแสร้งทำตาโตเลียนแบบถามย้อนอย่างขำ ๆ เพราะรู้ว่านางกำนัลคิดอย่างไร นางกำนัลทำปากพะงาบ ๆ พูดไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นว่าทั้งทิโมธีและทินทอนกำลังลุ้นกับคำตอบของเธออย่างตื่นเต้น นางกำนัลจึงรีบส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวออกมาในที่สุด พระองค์เป็นแบบไหน หม่อมฉันก็จะเป็นแบบนั้นเพคะ ทิโมธีและทินทอนรู้สึกว่าตัวห่อเหี่ยวลงเล็กน้อยเพราะผิดหวังกับคำตอบ ทิโมธีใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ยิ้มกว้างกล่าวออกมาในที่สุด อืม...อย่างน้อยเป็นสมาชิกลับก็ยังดีกว่าไม่เป็นอะไรเลย ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่พระองค์จะเห็นควรแล้วกันพ่ะย่ะค่ะ ถ้าอย่างนั้น...นั้น...แก๊ก....ทินทอน....ทิน...ทอน...แก๊ก...ก็ต้องถวายบัง....บัง...บัง.....บังคมให้เจ้า....เจ้า...แก๊ก...เจ้าหญิงเป็นการต้อนรับ....แก๊ก...สมาชิก..ชิก...ชิกลับสิ....แก๊ก ทินทอนดูจะยินดีมิใช่น้อยเมื่อจะได้ต้อนรับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ จึงรีบโค้งคำนับอย่างสวยงาม ไม่เป็นไรหรอกทินทอน เงยหน้าขึ้นเถอะ เรจิน่ากล่าวเมื่อเห็นว่าทินทอนไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสักที อีกแล้วรึทินทอน ทิโมธีพูด ก่อนจะหยิบไขควงออกมาจากด้านในของเสื้อแจ๊คเก็ต พลางขันน๊อตตรงส่วนคอบ้างตรงหลังบ้างสามสี่ที่ แล้วจึงหยดน้ำมันที่พกไว้ในกระเป๋าเสื้อลงตามข้อต่อแล้วจึงใช้มือทุบเบา ๆ ที่หลัง ทันใดนั้นทินทอนก็กระเด้งตัวขึ้นมาหัวเราะร่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า อยู่มานานแล้วก็ต้องมีขัด ๆ ยอก ๆ เป็นธรรมดา...แก๊ก ทินทอนยกมือขึ้นตบหัวตัวเอง คำพูดไม่ติด ๆ ขัด ๆ เหมือนตอนแรกแล้ว นี่เราพูดถึงไหนกันแล้วนะ...แก๊ก อ๋อ!ใช่...เจ้าหญิง ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ ทินทอนโค้งอย่างนบน้อมอีกครั้ง ฮ่า ฮ่า ตามสบาย เรจิน่าแสร้งดัดเสียงทุ้มต่ำวางมาดอย่างพวกเจ้านายชั้นสูง ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ...แก๊ก ทินทอนเงยหน้าขึ้นพลางยืดอกขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ ทิโมธีมองเจ้าหญิงเรจิน่าอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด พระองค์ดูไม่เหมือนเจ้าหญิงเลย พระองค์ดูสนุกสนาน ร่าเริง ไม่ถือตัวและมีอิสระอยากจะไปไหนก็ไปได้ ถ้ากระหม่อมไม่เห็นขบวนองครักษ์ที่ติดตามมาด้วยอย่างวันนี้ กระหม่อมคงไม่มีวันเชื่อว่าพระองค์เป็นเจ้าหญิงแน่ ๆ เรจิน่ายิ้มเมื่อนึกถึงอุปนิสัยของตัวเองที่ผิดแผกไปจากเจ้านายหรือเชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ ตามความคิดเห็นของทิโมธี สายลมสดชื่นโชยพัดพาเอากลีบดอกไม้สีขาวสองสามกลีบหมุนวนตามแรงลมก่อนจะพัดผ่านเรจิน่าไป เพราะเสด็จแม่ทรงเลี้ยงดูเราให้มีอิสระเหมือนอย่างสายลม เรจิน่ายิ้มเมื่อนึกถึงมารดาพลางเหลือบมองใบไม้ที่สะบัดพลิ้วลู่กิ่งไหวหยอกล้อกับสายลมที่โชยพัดมาเบา ๆ สายลมไร้รูปร่าง อิสระ มิอาจกักขัง หากเราไร้อิสระ เราก็ไม่ใช่ลมหากแต่เป็นเพียงนกในกรงเท่านั้น นางกำนัลมองเจ้าหญิงของตนยิ้มน้อย ๆ ด้วยความเข้าใจและชื่นชม เธอโชคดีกว่าข้าราชบริพารคนอื่น ๆ มากนักเพราะได้เป็นนางกำนัลคนสนิทของเจ้าหญิง แม้ว่าเจ้าหญิงจะทรงทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์แปลก ๆ ที่น่าอับอายบ้างน่าขบขันบ้าง แต่เธอก็มีความสุขและสนุกสนานที่ได้อยู่กับเจ้าหญิงที่เต็มเปี่ยมด้วยความเฉลียวฉลาด เก่งกาจ และสนุกสนานกับทุกสิ่ง คงไม่มีใครในฟีเลเซียที่จะอารมณ์ดี ร่าเริงและเพียบพร้อมในทุกด้านเท่ากับเจ้าหญิงของเธออีกแล้ว นก นก ทิโมธีก็มีนกเหมือนกัน...แก๊ก ทินทอนพูดอวด นกอะไร ทั้งทิโมธี เรจิน่า และนางกำนัลพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน อ้าว ท่านเป็นเจ้าของนกท่านไม่รู้รึว่าตัวเองเลี้ยงนกอะไรไว้ นางกำนัลถาม เบิกตากว้างด้วยความสงสัย ข้าไม่ได้เลี้ยงนกสักหน่อย ทิโมธีทำหน้ายุ่ง ขมวดคิ้วมองทินทอน เลี้ยงสิ เลี้ยง นกที่ร้องปี๊บ ปี๊บ ปล่อยแสงได้ด้วย แก๊ก เมื่อกี้มันยังปล่อยแสงใส่ทินทอนเลย ทินทอนยกมือขึ้นทำท่าเหมือนจะพยายามเลียนแบบนกตัวนั้นก่อนจะชี้รอยไหม้ที่กางเกงให้ดู เมื่อทิโมธีเห็นดังนั้นก็เงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะลั่น นั่นใช่นกที่ไหนกันละทินทอน
|
|
« Last Edit: August 21, 2005, 02:38:40 AM by Little Angel »
|
Logged
|
|
|
|
Little Lamb, the Little Angel
|
|
« Reply #4 on: July 19, 2005, 05:26:01 AM » |
|
อ๊ะ!ที่แท้พวกท่านเป็นตัวการของเสียงร้องประหลาดนั่นเอง รวมถึงการระเบิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในป่าแถบนี้ด้วยใช่มั๊ย เรจิน่าถามขึ้นทันใด พระองค์มาที่นี่เพราะเรื่องนี้เองหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ ทิโมธีถามอย่างตกใจ ก่อนจะพูดเสียงเบาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ กระหม่อมอุตส่าห์หนีมาทำการทดลองไกลขนาดนี้แล้วยังมีคนฟ้องเรื่องการระเบิดอีกเหรอ กระหม่อมไม่ได้อยากให้มันระเบิดบ่อย ๆ สักหน่อย ใช่ ใช่ ทิโมธีไม่ได้ทำระเบิดนะ มันระเบิดเองทุกครั้งต่างหาก แก๊ก ทินทอนพยายามพูดปกป้องเพื่อนรักแต่ดูเหมือนจะกลายเป็นการพูดซ้ำเติมมากกว่าทำให้สองสาวต้องพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่ ในขณะที่ทิโมธีขมวดคิ้วมองทินทอนด้วยความไม่แน่ใจในคำพูดของเจ้าหุ่นกระป๋อง หมายความว่าท่านมาทดลองอะไรในป่านี่นะหรือ? นางกำนัลถามต่อแม้ยังรู้สึกขบขันอยู่ เออ...อืม...ก็ใช่ ทิโมธีมีท่าทีลังเล เราอยากจะเห็นจังเลย เรจิน่ากล่าวอย่างกระตือรือร้น แต่มันไม่ค่อยปลอดภัยกับพระองค์ อีกอย่าง...มันก็...ยังไม่ค่อยเสร็จสมบูรณ์เท่าไหร่ ทิโมธีพยายามพูดบ่ายเบี่ยง อ๊ะ อ๊ะ อย่าลืมสิว่าพวกเราเป็นสมาชิกชมรมแล้วนะ เรจิน่าทวงสิทธิ์ของสมาชิกด้วยสายตาซุกซนอย่างเป็นต่อ อืม...ถ้าอย่างนั้น...ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ทิโมธียินยอมอย่างเสียไม่ได้ แต่กระหม่อมอยากจะขอให้พระองค์รับปากว่าจะปิดเรื่องที่เห็นในวันนี้เป็นความลับเพราะมันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ หากมีใครเข้ามาใกล้จะเป็นอันตรายเอาได้ ได้ เราสัญญา เรจิน่ารับปากด้วยใบหน้าเบิกบาน ถ้าเช่นนั้นก็เชิญเสด็จทางนี้พ่ะย่ะค่ะ ทิโมธีกล่าวพร้อมออกเดินนำหน้าทั้งสองนำทางลึกเข้าไปในป่า
บริเวณที่โล่งกว้างกลางป่าลึก ต้นไม้หลายต้นถูกโค่นและเผาทำลายไปบางส่วน มีเศษหินและหลุมกว้างขนาดใหญ่กระจัดกระจายไปทั่ว ใกล้กับถ้ำเล็ก ๆ ตรงบริเวณตีนผามีเกวียนขนาดใหญ่พร้อมผ้าใบสีเขียวขี้ม้าคลุมอยู่ ทิโมธีเดินไปเปิดผ้าคลุมออก ทั้งสองสาวจึงได้เห็นห่อผ้าหลายห่อขนาดต่าง ๆ กันไปสี่ห่อถูกมัดอย่างแน่นหนาวางกองเรียงกันอยู่บนเกวียน แต่มีอยู่สองห่อที่ถูกแกะไว้แล้วอย่างหลวม ๆ ของพวกนี้เป็นซากอารยะธรรมโบราณที่กระหม่อมพบตอนออกสำรวจโบราณสถานเก่าแก่ตามที่ต่าง ๆ บางชิ้นก็จมอยู่ในดินบางชิ้นถูกฝังไว้ในกำแพงเลย ของพวกนี้เป็นอารยะธรรมเก่าแก่ก็จริงแต่กลับมีวิวัฒนาการก้าวหน้ากว่าในยุคนี้มากทีเดียว อย่างทินทอน...กระหม่อมก็ได้เขามาจากตอนขุดค้นซากโบราณสถานแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของฟีเลเซีย นักประดิษฐ์หนุ่มผมสีน้ำตาลแดงอธิบายไปเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็พยายามยกห่อผ้าที่แกะแล้วขนาดใหญ่เกือบเท่าครึ่งตัวของเขาออกมาจากเกวียนโดยมีสายตาสนอกสนใจของเรจิน่ามองสำรวจชิ้นส่วนโลหะที่โผล่ออกมานอกผ้าคลุม อย่างเจ้านี่ ทิโมธีเปิดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นหุ่นยนต์รูปทรงกลมสีเทาอมเขียว ด้านหน้ามีส่วนที่ดูเหมือนเป็นกระจกใสกลม ๆ ติดอยู่หนึ่งบาน ที่ด้านหลังมีโลหะขนาดใหญ่สองแผ่นลักษณะคล้ายปีกติดอยู่ เจ้านี่ชื่อ แอลฟ่า-เอ (Alpha-A) คงเป็นเจ้านี่ที่ทินทอนคิดว่าเป็นนก ทิโมธีพูดยิ้ม ๆ เดี๋ยวกระหม่อมจะสาธิตให้ทอดพระเนตรว่ามันทำอะไรได้บ้าง ฝ่าบาทมาหลบตรงนี้ก่อนดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ ทิโมธีให้เรจิน่าและนางกำนัลหลบที่ปากถ้ำโดยมีเจ้าหุ่นกระป๋องทินทอนวิ่งตามเข้าไปหลบด้วยเพราะกลัวจะโดนลูกหลงอีก เมื่อทุกคนอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ทิโมธีจึงเปิดฝาที่อยู่ใต้ปีกทั้งสองของแอลฟ่า-เอขึ้นแล้วจึงกดปุ่มนู่นนี่เหมือนกำลังตั้งค่าอะไรบางอย่าง ทันทีที่นักประดิษฐ์หนุ่มกดสวิทซ์สีแดงแอลฟ่า-เอก็เหมือนกับมีชีวิต ตรงที่เป็นกระจกทรงกลมใสที่ด้านหน้ากลับกลายเป็นดวงตาของเจ้าหุ่นยนต์ ปีกทั้งสองข้างกางออกพร้อมกับพ่นไอร้อนจัดออกมา ตัวของมันค่อย ๆ ลอยขึ้นจนสูงเลยศีรษะของทิโมธี ทันใดนั้นมันก็ส่งเสียงร้องแหลมที่แสบแก้วหูจนทุกคนต้องรีบเอามือปิดหู ปี๊บบบ ปี๊บบบบบบ แซ่กกกกกก ตูม!! แอลฟ่า-เอร้องเสียงดังลั่นก่อนจะปล่อยแสงสีแดงเข้มออกจากดวงตาของมันใส่ต้นไม้ข้างหน้าจนต้นไม้ระเบิดกระจายลุกไหม้กลายเป็นจุลไปในทันที ทำเอาสองสาวตกตะลึงจนตาค้าง แล้วแอลฟ่า-เอ จึงค่อย ๆ โรยตัวลงมาและหยุดการทำงานในที่สุด
|
|
« Last Edit: August 21, 2005, 02:39:03 AM by Little Angel »
|
Logged
|
|
|
|
Little Lamb, the Little Angel
|
|
« Reply #5 on: July 19, 2005, 05:27:55 AM » |
|
ตอนนี้เจ้าแอลฟ่า-เอ ทำได้แค่ลอยขึ้นและปล่อยแสงเลเซอร์ แต่มันยังขับเคลื่อนไปข้างหน้าไม่ได้เลย และเสียงร้องของมันดังเกินไปเหมือนมีชิ้นส่วนบางชิ้นหายไป สงสัยคงต้องหาเวลารื้อเครื่องดูข้างในมันเสียที ทิโมธีพูดอย่างเซ็ง ๆ บ่นพึมพำกับตัวเองแล้วจึงเดินไปที่เกวียนก้มลงอุ้มห่อผ้าที่แกะแล้วอีกห่อหนึ่งขึ้นมา ซึ่งชิ้นนี้ดูท่าทางจะมีน้ำหนักเบากว่า แอลฟ่า-เอ ทิโมธีวางมันลงบนพื้นแล้วจึงค่อย ๆ เปิดผ้าออก ใต้ห่อผ้าคลุมนั้นคือหุ่นยนต์รูปร่างประหลาดมีขาสามขายาวเป็นจะงอยเหมือนแมงมุม ลำตัวเป็นลำยาวมีดวงตาขนาดใหญ่อยู่บนปลายด้านบน ในขณะที่ปลายอีกด้านมีดวงตาที่มีขนาดเล็กกว่าติดอยู่ ส่วนเจ้าหนูนี่ชื่อ เดลต้า-ดี (Delta-D) ทิโมธีแนะนำยิ้ม ๆ เจ้าหนูนี่ดีหน่อย ไม่ร้องเสียงดังเท่าไหร่ ทิโมธีเปิดฝาครอบด้านหลังแล้วป้อนคำสั่งลงไป ดวงตาทั้งสองของเดลต้า-ดีก็เปล่งแสงวาบขึ้นราวกับมีชีวิต ทันทีที่ทิโมธีกดปุ่มสุดท้าย เจ้าเดลต้า-ดีก็ลอยตัวขึ้นสูงบินหมุนวนอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยิงแสงเลเซอร์ออกจากตาทั้งสองลงใส่พื้นดินไปคนละทิศละทาง วี๊.........................ตูม!! เฮ้อ....เจ้าเดลต้า-ดีนี่ก็เล็งเป้าหมายไม่ได้สักที ทิโมธีบ่น เอา...เรามาดูเจ้าตัวนี้มั่งแล้วกัน ทิโมธีเดินไปที่เกวียนอีกครั้งโดยครั้งนี้อุ้มห่อผ้าชิ้นที่เล็กที่สุดออกมาอย่างระมัดระวัง ค่อย ๆ วางมันลงแล้วแกะออกมาจากห่อผ้า หญิงสาวทั้งสองจึงเห็นว่าเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กสีคล้ายทองเหลืองที่มีขาเพียงข้างเดียว เจ้านี่กระหม่อมเรียกมันว่า บอมเบอร์ แมชชีน (Bomber Machine) ทิโมธีเปิดตรงส่วนหัวของมันออกแล้วจึงป้อนข้อมูลลงไป เพียงแค่ไม่กี่อึดใจเจ้าบอมเบอร์ แมชชีนก็กระโดดด้วยขาข้างเดียวกระโจนใส่ต้นไม้ใกล้ ๆ พร้อมกับเปิดปากขึ้น ปุ้ง............ฟี้.............ฟี้ มีเสียงคลายกับระเบิดเบา ๆ เกิดขึ้นก่อนจะมีควันไฟกรุ่น ๆ ออกมาจากรอยต่อรอบ ๆ ตัวของเจ้าหุ่น มันยังคงกระโดดชนต้นไม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ยอมหยุด ทิโมธีรีบวิ่งไปเปิดฝาครอบบนหัวของมันขึ้นตรวจดูข้างใน อืม...กระหม่อมลืมใส่ดินระเบิด ฮา ฮา ฮา ทิโมธีแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนความสะเพร่าของตัวเอง เจ้านี่จริง ๆ แล้วมีหน้าที่ยิงระเบิดใส่ศัตรู แต่ดูท่าทางเมื่อกี้เหมือนจะระเบิดตัวเองมากกว่า ฮา ฮา ทิโมธีค่อย ๆ ทยอยเก็บหุ่นยนต์โบราณทีละชิ้นอย่างระมัดระวังโดยที่ยังไม่ได้แกะห่อสุดท้ายที่อยู่บนเกวียน เรจิน่าจึงเอ่ยถามขึ้น หมดแล้วเหรอ? แล้วอีกห่อบนเกวียนนั่นละ? อืม... นักประดิษฐ์เงยหน้ามองห่อผ้าอีกห่อบนเกวียน จริง ๆ แล้วกระหม่อมยังมีเจ้าค๊อกคา-ซี(Cocka-C)อีกตัว แต่...พระองค์อย่าเพิ่งดูเลยดีกว่า จู่ ๆ ทิโมธีก็เปลี่ยนใจขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ส่ายหน้าแรง ๆ อ้าว!ทำไมล่ะ ไหน ๆ ท่านก็ให้พวกเราดูแล้ว ก็แล้วทำไมไม่ให้ดูทั้งหมดล่ะ นางกำนัลย้อมถาม เริ่มอยากเห็นว่าข้างในห่อผ้าจะเป็นตัวอะไร ยังมีอีก...แก๊ก แต่ตัวนั้นนิสัยไม่ดี ทินทอนไม่ชอบ ทินทอนส่ายหน้าไปมาเพื่อยืนยันคำพูดของตน ก็อย่างที่ทินทอนบอกพ่ะย่ะค่ะ เจ้าค๊อกคา-ซีเนี่ยร้ายที่สุด วิ่งก็เร็วแถมจำหน้าใครไม่ได้เลย เดี๋ยวจะเป็นอันตรายเอาน่ะสิ ทิโมธีสารภาพ ไม่เป็นไร เราคิดว่าเราวิ่งเร็วพอ เรจิน่าเองก็อยากจะเห็นเจ้าค๊อกคา-ซีไม่แพ้กัน ทิโมธีลังเลใจอยู่พักใหญ่แต่ก็ยอมอุ้มห่อผ้าห่อสุดท้ายลงมาจากเกวียน เมื่อแกะผ้าออกหญิงสาวทั้งสองจึงได้เห็นหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายไก่สีแดงขลิบเงิน ทันทีที่ทิโมธีเปิดสวิทซ์ เจ้าค๊อกคา-ซีก็วิ่งไล่ทิโมธีด้วยความรวดเร็วไปทั่วบริเวณ ซึ่งทิโมธีก็รีบปีนขึ้นต้นไม้ที่ยังเหลืออยู่อย่างรวดเร็ว เจ้าค๊อกคา-ซีวิ่งพล่านไปทั่วแถมยังส่งเสียงร้องเหมือนไก่อีกด้วย ป๊อก ป๊อก ป๊อก กระต๊าก! ป๊อก ป๊อก ป๊อก กระต๊าก! ทันทีที่ร้องจบมันก็ปล่อยไข่ที่เป็นลูกเหล็กขนาดไม่ใหญ่กว่ากำมือออกมาหลายลูกเกลื่อนพื้น เพียงชั่วอึดใจเดียวไข่เหล็กเหล่านั้นก็ระเบิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันจนพื้นสะเทือน แรงระเบิดทำให้ค๊อกคา-ซีหงายท้องแต่ขาของมันยังคงวิ่งปั่นเร็วจี๋พร้อม ๆ กับเสียงร้องอย่างไก่ของมัน ทิโมธีรีบกระโดดลงมาจากต้นไม้พุ่งตัวไปปิดสวิทซ์มันทันที หุ่นยนต์พวกนี้เหมือนกับว่ามันเก่าจนเครื่องข้างในมันรวนหมดแล้ว กระหม่อมคงต้องใช้เวลาอีกระยะในการซ่อมแซมมัน กระหม่อมกับทินทอนถึงได้เข้ามาปักหลักกันกลางป่าอย่างนี้ เราเข้าใจแล้ว ถ้าเช่นนั้นเราจะสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ป่าแห่งนี้อีกจนกว่าท่านจะแก้ไขเจ้าหุ่นยนต์พวกนี้ได้เสร็จสมบูรณ์ดีมั๊ย เรจิน่าเสนอ
|
|
« Last Edit: August 21, 2005, 02:39:25 AM by Little Angel »
|
Logged
|
|
|
|
Little Lamb, the Little Angel
|
|
« Reply #6 on: July 19, 2005, 05:28:45 AM » |
|
ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ทิโมธีกล่าวอย่างยินดี เสียงฝีเท้าม้าจำนวนมากจู่ ๆ ก็ดังใกล้เข้ามาในบริเวณที่ทั้งสี่อยู่ ทิโมธีรีบอุ้มเจ้าค๊อกคา-ซีขึ้นมาพร้อมกับเอาผ้าใบคลุมไว้ ในขณะที่เรจิน่าและนางกำนัลรีบออกมานอกถ้ำ ชั่วอึดใจเดียวขบวนองครักษ์ควบม้าเข้ามาอย่างเร็วจนฝุ่นตลบ หัวหน้าองครักษ์รีบกวาดตาดูสภาพรอบ ๆ บริเวณที่เละเทะระเนระนาดราวกับเกิดอาเพศครั้งใหญ่ เขารีบเหวี่ยงตัวลงจากหลังม้าเข้าไปหาเรจิน่าอย่างรวดเร็ว ฝ่าบาทไม่เป็นอะไรใช่มั๊ยพ่ะย่ะค่ะ พวกข้าพระองค์ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหลายครั้ง คิดว่าพระองค์อาจเกิดอันตรายจึงรีบมาอารักขา หัวหน้าองครักษ์หันไปมองทิโมธีอย่างโกรธ ๆ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปจับจ้องห่อผ้าใบในมือของทิโมธี เขาเดาได้ทันทีว่าการระเบิดเมื่อครู่ต้องเป็นฝีมือของนักประดิษฐ์เพี้ยนคนนี้แน่ ๆ ไม่มีอะไรหรอก เราสบายดีอย่างที่เจ้าเห็นนี่แหละ เอาเถอะพวกเจ้ามาก็ดีแล้วเพราะเรากำลังจะกลับไปพอดี เรจิน่ารีบกล่าวกับหัวหน้าองครักษ์เพื่อไม่ให้ทิโมธีถูกสงสัยไปมากกว่านี้ ท่านนักประดิษฐ์พวกเราคงต้องขอตัวก่อนนะ เชิญพวกท่านตามสบาย เราจะให้เจ้าหน้าที่ติดป้ายเตือนชาวบ้านแถวนี้ให้ แล้วเอาไว้พวกเราจะมาเยี่ยมท่านใหม่ เรจิน่าหันไปกล่าวกับทิโมธีและทินทอนพร้อมกับเหวี่ยงตัวขึ้นหลังม้า ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท แล้วพบกันใหม่ทิโมธีกล่าวลา ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ เจ้าหญิง...แก๊ก ทินทอนโค้งอย่างสวยงาม ก่อนจะโบกมือให้นางกำนัลเป็นการล่ำลา
เมื่อเรจิน่าและนางกำนัลควบม้ามาไกลพอสมควรแล้วและทิ้งระยะห่างจากขบวนองครักษ์จนแน่ใจว่าไม่ได้ยินการสนทนาของทั้งสอง นางกำนัลจึงเอ่ยถามขึ้น พระองค์จะทรงติดป้ายประกาศห้ามไม่ให้ใครเข้ามาในป่าแถวนี้รึเพคะ? นั่นไม่ยิ่งทำให้ใคร ๆ สงสัยเข้าไปใหญ่หรือเพคะ? ไม่เป็นไร ถ้าเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านมันก็สมควรแล้ว และเราเองก็อยากให้การทดลองหุ่นยนต์พวกนี้สำเร็จด้วย เรจิน่าพูดแต่สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังคิดอะไรบ้างอย่างอยู่ พระองค์ทรงมีแผนการอะไรในใจรึเพคะ นางกำนัลถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าหญิง ถ้าการทดลองครั้งนี้สำเร็จ...เจ้าลองคิดดูดี ๆ สิเรจิน่าหันมามองนางกำนัลคนสนิทและยิ้มด้วยสายตาแพรวพราว หุ่นยนต์พวกนี้จะมีประโยชน์ต่อฟีเลเซียขนาดไหน จริงด้วยสิเพคะ หม่อมฉันไม่ได้คิดถึงประโยชน์ข้อนี้เลย นางกำนัลทำตาโตเพิ่งจะเห็นประโยชน์ของนักประดิษฐ์เพี้ยนก็คราวนี้เอง เพราะเจ้าคิดแต่ว่าเขาทดลองอะไรเพี้ยน ๆ อยู่น่ะสิ เรจิน่าทำตาโตใส่บ้างอย่างขำ ๆ เอาล่ะ!รีบกลับกันเถอะ เราอยากจะคิดอะไรต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกสักหน่อย เรจิน่าพูดจบก็เร่งฝีเท้าม้าให้เร็วขึ้นมุ่งหน้านำขบวนกลับปราสาททันทีโดยเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นภายในป่าไว้เป็นความลับที่สุด
|
|
« Last Edit: August 21, 2005, 02:39:48 AM by Little Angel »
|
Logged
|
|
|
|
|
|