Chapter 17 ห้วงสมุทรแห่งพระเมตตา
ณ เมืองท่าแอนดิซอง เวลานี้กำลังเกิดโรคระบาดอย่างหนัก ประชาชนเริ่มเสียชีวิตเพราะโรคระบาดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะผู้ที่ยากจนเกินกว่าจะหาเงินไปซื้อยาได้
ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของประธานสภาพ่อค้าวาณิช
นายท่าน! นายท่านขอรับ
ชายคนรับใช้นายหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องโถงใหญ่ที่ตกแต่งไปด้วยเครื่องเรือนราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะฉลุหุ้มทอง เก้าอี้ไม้ฝังมุกบุด้วยเบาะสีแดงเข้ม ผ้าม่านเนื้อดีสีชมพูสลับเขียว ฉากกั้นห้องแกะสลักเป็นรูปงูใหญ่พันหีบสมบัติ แจกันประดับเพชรสีเขียวอ่อนและน้ำเงินเข้ม โดยมีดอกไม้ที่ทำด้วยทองคำและเพชรขนาดใหญ่เสียบไว้ในแจกัน ซึ่งทำให้แจกันรับน้ำหนักไม่ไหวจนต้องเอาแท่งทองรูปเรือสินค้าและรูปม้ามาดามไว้ รวมไปถึงภาพประดับฝาผนังกรอบทองที่มีรูปรูฟัสอยู่ในชุดเต็มยศโดยมีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ติดอยู่เต็มเสื้อจนแทบจะมองไม่เห็นสีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ รอบๆกายเต็มไปด้วยของพระราชทานและรูปปั้นสัตว์ประหลาดในตำนานนานาชนิดเป็นฉากหลัง แต่ที่แปลกที่สุดกลับเป็นใบหน้าที่กำลังยิ้มแฉ่งจนแก้มเบ่งเป็นสีแดงระเรื่อของตัวรูฟัสนั่นเอง แม้ทั้งห้องจะประดับและตกแต่งด้วยเครื่องเรือนราคาแสนแพง แต่ก็บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านที่ทำให้แม้แต่คนรับใช้ยังอดขำทุกครั้งที่เข้ามาในห้องนี้ไม่ได้
รูฟัสในชุดเสื้อตัวโคร่งลายจุดสีชมพูพื้นเหลืองกำลังนั่งอิ่มเอมกับไวน์ชั้นเลิศบนเก้าอี้นวมฝั่งมุกสีม่วงลายตารางสีส้ม เขาหันหน้ามามองช้าๆด้วยสีหน้าบูดบึ้งเมื่อเห็นคนรับใช้มองมายังเขาและกำลังพยายามกลั้นหัวเราะ
เจ้าหัวเราะอะไรของเจ้า พ่อค้าใหญ่ทำท่าจะสาดไวน์ใส่แต่เกิดนึกเสียดายขึ้นมาเสียก่อน จึงยั้งมือไว้
ขออภัยขอรับนายท่าน
มีอะไร....ถ้าหากไม่ใช่เรื่องสำคัญข้าจะไล่เจ้าออกซะ
เรื่องสำคัญแน่นอนขอรับ ขณะนี้โรคระบาดแพร่ขจายไปทั่วทั้งเกาะแล้วขอรับ
รูฟัสรีบขยับลุกขึ้นนั่งทันที ทำให้แก้มและท้องของเขากระเพื่อมตามแรงเหวี่ยงจนแลดูเหมือนถุงน้ำขนาดใหญ่ สีหน้าของเขากลับไม่ได้ตระหนกตกใจแม้สักนิด ตรงกันข้ามกลับมีสีหน้ายินดีปรีเปรมยิ่งนัก
โอ้.....ดี! ดีมาก! ฮา ฮา รีบสั่งกว้านซื้อสมุนไพรจากทั่วทั้งเกาะและที่แผ่นดินใหญ่มาให้หมด หึหึ ถ้ารวมกับสมุนไพรในโกดังทั้งสามสิบหลังของข้า ข้าก็จะเป็นผู้เดียวในแอนดิซองที่มีสมุนไพรรักษาโรคนี้ ฮา ฮา ฮา
รูฟัสหัวเราะเสียงดังจนตัวเขย่าไปทั้งตัว
สั่งร้านค้าสาขาทั่วทั้งเกาะว่าห้ามขายสมุนไพรเด็ดขาด จนกว่าอีกสองอาทิตย์ให้หลังจึงค่อยนำออกขายด้วยราคาสูงขึ้นอีกห้าเท่าตัว ไปได้ ฮา ฮา ฮา เสียงหัวเราะอย่างสะใจของพ่อค้าใหญ่ดังก้องไปทั่วคฤหาสน์
เพียงเวลาแค่สองอาทิตย์เศษ โรคระบาดก็ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายพุ่งขึ้นสูงจนหน้าใจหาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเด็กและคนแก่ที่มีฐานะยากจน แต่ในเวลาวิกฤตนี้ผู้ที่มีความสุขที่สุดคงไม่พ้นประธานสภาพ่อค้าวาณิชรูฟัส
ฮา ฮา ฮา เงิน! เงินทั้งนั้น ขายแค่สองวันยังได้เงินถึงขนาดนี้
รูฟัสนอนตะแคงอยู่บนโซฟาสีแดงสด มีเหรียญทองตั้งเป็นแถวสูงล้อมรอบตัวพ่อค้าใหญ่จนดูคล้ายกับกำแพงทองคำ เขาใช้มือขวาโยนเหรียญทองขึ้นฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า เหรียญทองตกลงกระทบพื้นหินอ่อนสีขาวขัดมันเสียงกรุ๊งกริ๊งดังกังวานใส
อ้า..... ไพเราะอย่างกับเสียงพิณสวรรค์ ฮา ฮา พวกเจ้าคิดว่าอย่างนั้นไหมรูฟัสหันไปถามบรรดาพ่อค้าในสังกัดของตน ซึ่งกำลังดื่มกินกันอย่างสำเริงสำราญ
ท่านรูฟัสช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเหลือเกิน ไม่มีใครในแอนดิซองจะมีฝีมือด้านค้าขายทัดเทียมท่านอีกแล้ว พ่อค้าคนหนึ่งกล่าวยกยอรูฟัส
ท่านกล่าวผิดแล้ว ไม่ใช่เฉพาะแอนดิซอง ต้องทั่วทั้งเมอริเซียต่างหากเล่า ท่านรูฟัสคือพ่อค้าอัจฉริยะแห่งเมอริเซีย พ่อค้าอีกคนแย้งขึ้น ทำให้รูฟัสหัวเราะชอบใจเสียงดังลั่นจนตัวกระเพื่อมไปทั้งตัว
ฮา ฮา ฮา ใช่! ข้าคือพ่อค้าอัจฉริยะ พ่อค้าอัจฉริยะแห่งเมอริเซีย ฮา ฮา ฮา
ไชโย! แด่ท่านรูฟัส พ่อค้าอัจฉริยะ แห่งเมอริเซีย
พ่อค้าคนหนึ่งนำขึ้นเป็นต้นเสียง ตามด้วยพ่อค้าคนอื่นๆจนเสียงดังไปทั่วคฤหาสน์
ไชโย! ไชโย! แด่พ่อค้าอัจฉริยะ ไชโย!