Chapter 16 ที่รองพระบาทของพระเจ้า
สูงขึ้นไปเหนือที่ราบลุ่มเขียวชอุ่ม สายลมแห่งความโศกเศร้าและสูญเสียเพิ่งจะพัดผ่านอาณาจักรชาตินักรบที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงฟากตะวันตกของเมอริเซียได้ไม่นานนัก สายลมแห่งความชื่นชมยินดีก็ถึงคราวหมุนเวียนเปลี่ยนพัดมาสู่อาณาจักรแห่งนี้ ฟีเลเซียอาณาจักรที่สายลมต่างๆล้วนพัดผ่านราวกับอาณาจักรแห่งนี้เป็นทางผ่านของเทพธิดาแห่งสายลม ในวันนี้เองอาณาจักรฟีเลเซียกำลังเฉลิมฉลองการขึ้นเถลิงราชสมบัติขององค์รัชทายาท ซิกมันต์ที่3แห่งราชวงค์อรีธา (Sigmund 3rd, Knight of Swords)
ฟีเลเซียอาณาจักรแห่งนักรบวันนี้ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ธงชาติฟีเลเซียถูกนำมาประดับทั่วทุกที่ในอาณาจักร ซึ่งล้วนแล้วแต่บ่งบอกถึงความเป็นฟีเลเซียได้เป็นอย่างดี ธงสีเขียวอ่อนอันเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะที่ฤดูใบไม้ผลิมีต่อฤดูหนาว ซึ่งก็คือชัยชนะของชาวฟีเลเซียที่มีต่ออริชาติศัตรูทั้งหลายนั่นเองและสีขาวอันเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์แห่งจิตวิญญาณและความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
ที่ลานกว้างหน้าปราสาทมีน้ำพุขนาดใหญ่พ่นน้ำใสสะอาดขึ้นสูงลิ่วราวกับจะทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ละอองน้ำจากน้ำพุที่ถูกสายลมพัดผ่านลอยละล่องประพรมลงสู่พื้นบ้างสู่ผู้คนที่ยืนอยู่บริเวณใกล้เคียงบ้าง สร้างความสดชื่นราวกับน้ำอมฤตจากสวรรค์เบื้องบนที่โปรยปรายลงมาอวยพรให้แก่พิธีสำคัญในวันนี้ รูปปั้นสำริดของบรรดาวีรบุรุษนักรบผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตที่ตั้งตระหง่านอยู่ทั่วทั้งอาณาจักรถูกทำความสะอาดและขัดถูให้มันวาวราวกับเพิ่งออกจากโรงหล่อใหม่ๆจนดูราวกับว่ารูปปั้นนักรบเหล่านี้มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
ทั่วบริเวณลานกว้างหน้าปราสาทคลาคล่ำไปด้วยประชาชนนับหมื่นที่ต่างมายืนเฝ้ารอเพื่อร่วมพิธีสำคัญในวันนี้ ประชาชนทั้งหญิงชายต่างก็สวมเสื้อผ้าที่ดีที่สุดของตน บรรดาอัศวินแห่งฟีเลเซีย(Felasias Knight)ในชุดเกราะสีเขียวมรกตมันวาวบนหลังม้าสูงสง่าต่างกระจายกำลังอยู่ตามจุดต่างๆเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย
ไม่นานนักขบวนเสด็จของว่าที่กษัตริย์องค์ใหม่แห่งฟีเลเซียก็ค่อยๆเคลื่อนผ่านฝูงชนที่มายืนรอเฝ้ารับเสด็จ โดยมีว่าที่กษัตริย์องค์ใหม่เป็นผู้นำขบวน
ซิกมันต์ที่ 3 อยู่ในชุดเกราะสีเขียวอมฟ้าขลิบทองมันวาวบนหลังม้าสีขาวราวหิมะที่มีขนาดใหญ่กว่าม้าธรรมดาถึง 4 คืบ ทำให้ร่างของเขายิ่งดูสูงเพรียวงามสง่ายิ่งนัก ผ้าคลุมสีเหลืองสดสะบัดพลิ้วไหวตัดกับผมยาวสีน้ำตาลเข้มอย่างลงตัว ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างชัดแจ้ง ริมฝีปากบางเชิดขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกถึงความหยิ่งทะนงได้เป็นอย่างดี เขามุ่งหน้าสู่ปราสาทด้วยความภาคภูมิ ดวงตาสีเขียวเข้มมองดูบรรดาธงชาติเล็กๆสีเขียวอ่อนที่ประชาชนนับพันนับหมื่นโบกไปมาสะบัดพริ้วหยอกล้อกับสายลมราวกับเริงระบำ เขายิ้มน้อยๆก่อนที่จะมีสีหน้าสลดลง
ข้าขอบอกกับท่านตามตรงว่า ข้าอยากให้ทูลกระหม่อมพ่อได้มาเห็นวันอันน่าภาคภูมิใจนี้นัก ซิกมันต์เอ่ยขึ้นแก่บุรุษผู้อยู่ทางเบื้องหลัง
องค์ชายอย่าได้เป็นทุกข์ใจไปเลย องค์เหนือหัวแม้จะสวรรคตไปแล้วแต่พระองค์ก็มิได้จากไปไหน กระหม่อมเชื่อเหลือเกินว่าในวันนี้องค์ซิกมันต์ที่2จะต้องกำลังทอดพระเนตรพระองค์จากบนสวรรค์ด้วยความชื่นชมยินดี องค์ชายทรงทอดพระเนตรเหล่าพสกนิกรเหล่านี้ดูเถิด พระองค์คือความภาคภูมิใจของฟีเลเซีย
ซิกมันต์เหลือบไปมองเหล่าพสกนิกรที่กำลังโห่ร้องยินดี เขายิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
ขอบใจ และท่านเองก็เป็นความภาคภูมิใจของฟีเลเซียเช่นกัน
องค์ชาย... ไม่สิท่านกำลังจะเป็นกษัตริย์แล้ว หม่อมฉันจะต้องเรียกพระองค์ว่าฝ่าบาทสินะ
ท่านจะเรียกอย่างไรก็ได้ เพราะไม่ว่าข้าจะเป็นอะไร ท่านก็ยังคงเป็นสหายคนสนิทของข้าเสมอ
บุรุษผู้นั้นโค้งตัวเล็กน้อยเป็นการขอบคุณก่อนที่ซิกมันต์ที่3จะหันหน้าไปสู่ถนนใหญ่ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆราวกับจะซึมซาบเอาความปลาบปลื้มของเหล่าพสกนิกรแห่งฟีเลเซียไว้เป็นพลังและกำลังใจของตน ก่อนที่จะยืดตัวตรงมุ่งไปยังปราสาทเบื้องหน้าอย่างสง่างาม
ฝ่ายบุรุษผู้อยู่ทางเบื้องหลังก็ควบม้าเหยาะๆตามหลังกษัตริย์องค์ใหม่ไปอยู่ไม่ห่างจากกันมากนัก เขาอยู่ในชุดเกราะเต็มยศสีเงินมันวาว ขี่ม้าสีเทาเงินซึ่งมีขนาดเล็กกว่าม้าขาวของซิกมันต์เล็กน้อย แต่ถึงกระนั้นก็มิอาจบดบังร่างกายที่ผึ่งผายของเขาได้ ไหล่ที่กว้างกำยำและหลังที่ยืดตรงของเขาเอื้อให้เห็นถึงอิริยาบถที่กระฉับกระเฉงและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมสำรวมบ่งบอกถึงความเป็นผู้ที่สงบและอดทน เขาคือแม่ทัพใหญ่ผู้มีอนาคตไกลแห่งฟีเลเซีย ผู้ซึ่งได้ชื่อว่ามีฝีมือด้านการรบเป็นหนึ่งที่สุดในฟีเลเซีย และยังได้ชื่อว่ามีความจงรักภักดีต่อฟีเลเซียอย่างที่สุดเช่นกัน เขาคือแม่ทัพหนุ่มผู้มีประสบการณ์ด้านการศึกอย่างโชกโชนแม้จะมีวัยเพียง21ปีเท่านั้น ชาร์ล คลาแรนซ์(Charles Clarence, the General of Felasia) บุตรชายของลอร์ดคลาแรนซ์อดีตจอมทัพแห่งฟีเลเซีย ผู้ซึ่งเป็นราชครูที่สอนวิชาต่อสู้ให้แก่ซิกมันต์ ด้วยพรสวรรค์ด้านเพลงดาบที่เก่งกาจเกินวัยของชาร์ล เขาจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคู่ฝึกดาบของซิกมันต์ตั้งแต่เด็กและได้กลายเป็นสหายสนิทที่ซิกมันต์วางใจที่สุด