ภาพทั้งหมด นำมาจากเวบไซต์
http://www.liweiart.com/ ค่ะ
จริงๆแล้วภาพที่เห็นเป็นปกหน้าไม่ใช่ภาพนี้หรอกนะคะ(รูปนี้เป็นปกหลัง)
สีฯก็อ่านชื่อหนังสือไม่ออกเลยเซิร์จไม่เจอว่ามันควรจะเป็นเล่มไหน
แต่ภาพปกจริงๆคือรูปนี้
"Freedegree over 25th story" ปี 2004
เห็นปกปุป คำถามแรกที่ผุดขึ้นมา..."แม่งถ่ายยังไงวะ"
ในตอนนั้นยังไม่รู้คำตอบ แต่พอกลับมาถึงบ้านมันก็ยังคาใจจนลองเซิร์จชื่อเจ้าของผลงาน
ซึ่งก็คือ "Li Wei" เพื่อหาข้อมูลสักหน่อย
เทคนิคและวิธีการในบทความที่อ้างอิงเกี่ยวกับงานของเขาไม่ได้มีข้อเฉลยๆใดๆมากนัก
สิ่งที่ได้รู้จากบทความมีเพียงแค่งานของเขา ไม่ใช่การตัดต่อ
แต่เป็นการใช้ Prob และความสามาถพิเศษในการทรงตัว
โอโฮแฮะ...ทำไปได้ และที่สำคัญกว่า คือคิดไปได้...
งานของเขานอกจากอึ้งในไอเดีย และความพยายามแล้ว
สีฯยังคิดว่าัเขาเป็นช่างภาพที่ไอเดียกวนทรีนที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เคยเห็นมาเลยค่ะ - -"
กวนยังไงไปดูกัน
ยกภาพตัวอย่างจากบางส่วนมาให้ดูกัน
ที่เหลือไปดูจาก
http://www.liweiart.com/ เลยค่ะ
:: งานปี 2000 ::
"Mirror"
"Mirror"
เทคนิคก็อย่างที่เห็นอะค่ะ - -"(คิดได้นะ)
:: งานปี 2002 ::
"Liwei falls to the Earth"
เทคนิคไม่ทราบได้ แต่ถ้าไม่ตัดต่อก็คงมุดลงไปยังงั้นจริงๆอะนะ
:: งานปี 2003 ::
"29 levels of freedom"
"29 levels of freedom"
เทคนิคก็ไม่เปิดเผยอีกเช่นกัน(หรือถ้าจะเปิดเผยก็มีในอาร์ตบุคซึ่งเป็นภาษาจีน)
รู้แต่ดูภาพต่อกันแล้วอยากร้องว่า "สมควร!"
ภาพนี้มีชื่อเซ็ตว่า "Fall" ค่ะ เป็นเซตร่วงลงตึกทั้งชุด
:: งานปี 2003 ::
"Dream-Like Love"
เป็นซีรี่ยส์ที่สีฯชอบม้ากกกก ที่สุดละ ขออนญาติแปลไทยว่า "รักดั่งฝัน"
พี่คะ พี่ฝันอยากจะทำอย่างในนี้จริงๆใช่มะ
ที่เหลือต้องดูเอง เดี๋ยวจะติดเรทเกิน ฮ่าๆ
งานช่วงปีแรกๆ 2000 - 2003 ดูแล้วจะออกไปที่ความกวนฉายเดี่ยว เทคนิคเรียบๆแค่แบบว่าคิดได้ไง
ลงทุน(ในแง่ความลำบากลำบน)มากหน่อยก็เห็นเอาหัวปัก(ปักยังไงก็ไม่ทราบเช่นกัน)
หรือยอมโดนเหวี่ยง อย่างในปี 2004
"Love at the high place 1"
รักจะอยู่ในที่สูง เอร้ย
พอมาปี 2005 เริ่มรู้สึกว่า ลงทุนและ...เอ้อ บ้าขึ้น
"A pause for humanity 1" ปี 2005
คือพี่ไม่ได้ตัดต่อ ก็คงต้องผูกตัวเองกับตึกจริงๆสินะคะ - -a...
แต่พอหลังจากช่วงปีนั้นมาก็เริ่มเน้นที่ความอื้อหืออ้าหา และเอฟเฟกต์คนหมู่มาก
สำหรับสีฯรู้สึกไม่ค่อยปิ๊งในไอเดียมากเท่างานช่วงปีแรกๆ แต่ชอบตรงความพยายามนี่แหละ
"Never Say Failure 1" ในปี 2007
"Life at the high place 4 " ในปี 2008
"Balloons 1" ในปี 2009
เห็นหลายๆรูปแล้วก็รู้สึกแบบว่า ไม่ตัดต่อจริงๆเหรอวะ!?
แต่ก็ได้รับการยืนยันเช่นนั้นค่ะ(และความสามารถมนุษย์บางทีก็เกินจะคาดคิด)
เป็นช่างภาพที่อารมณ์ขันเหลือร้ายและกวนทรีนได้แสบสันต์จริงๆ
ใครที่สนใจอยากได้อาร์ตบุคของเขา ที่คิโนะก็มีขายนะคะ ภาพแบบนี้บนหน้าปกก็น่าจะจำง่าย
และก็มีชื่อ Li Wei ตัวเป้งๆบนปก
:: งานอื่นๆ ::
นอกจากภาพถ่ายแล้วคุณ Li Wei ก็ยังมีงานที่เป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยนะคะ
ขออนุญาตไม่นำมาลงในบลอค
แต่ถ้าใครอยากชมไปที่
http://www.liweiart.com/english/works_video.htm โลดเลยค่ะ
ดูแล้วแบบว่า อื้อหือ อ้าหา พอกัน
สุดท้ายก่อนจาก ขอจบด้วยภาพที่สีฯชอบที่สุดละ
"Dream-Like Love" ปี 2004
กะ