ข้อมูลซาตานเมื่อพูดถึงซาตาน คนทั่วไปมักจะนึกถึงตัวประหลาดที่มีเขา 2 เขา หรือผีที่มีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วพระคัมภีร์บอกว่าซาตานนั้นเป็นทูตสวรรค์ชั้นสูง มีรูปร่างงดงาม ฉลาด เป็นทูตสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบ และพระเจ้าได้ทรงตั้งให้อยู่ท่ามกลางเครูบ มีชื่อเรียกว่าลูซิเฟอร์ ดังที่ปรากฏในหนังสือประกาศกเอเสเคียล 28:12 - 15
"บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงเปล่งเสียงบทคร่ำครวญเพื่อกษัตริย์เมืองไทระ และจงกล่าวแก่ท่านว่าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าเป็นตราแห่งความสมบูรณ์แบบเต็มด้วยสติปัญญาและมีความงามอย่างพร้อมสรรพ เจ้าอยู่ในเอเดนพระอุทยานของพระเจ้า เพชรพลอยทุกอย่างเป็นเสื้อของเจ้า คือทับทิม บุษราคัมน้ำอ่อน เพชร เพทาย โกเมน และมณีโชติ ไพฑูรย์ มรกต และเบริล เพชรพลอยเหล่านี้ฝังในทองคำและลวดลายแกะสลักก็เป็นทองคำ สิ่งเหล่านั้นจัดเตรียมไว้ในวันที่สร้างเจ้าขึ้นมา เราตั้งเจ้าให้อยู่กับเครูบ ผู้พิทักษ์ที่ได้เจิมตั้งไว้ เจ้าอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้า และเจ้าเดินอยู่ท่ามกลางศิลาเพลิง"
พระเจ้าไม่ได้สร้างซาตาน พระองค์สร้างแต่ทูตสวรรค์ ซาตานเกิดขึ้นจากความหยิ่งผยองของทูตสวรรค์ตนหนึ่งที่สมบูรณ์แบบ ที่คิดว่าตนเองรูปร่างงดงาม มีตำแหน่งสูงกว่าบรรดาทูตสวรรค์องค์อื่น ๆ และฉลาดที่สุด ดังนั้นตนจึงสมควรที่จะได้รับการยกย่อง ได้รับการนมัสการแทนพระเจ้า
แต่ในหลักการทางศาสนาอิสลาม พระเจ้าเป็นผู้ทรงสร้างซาตานหรือไซฏอน ซาตานเป็นศัตรูของชาวมุสลิม ซาตานจะคอยหลอกให้มนุษย์ทำแต่ในสิ่งที่ชั่ว
"จิตใจของเจ้าผยองขึ้นเพราะความงามของเจ้า เจ้ากระทำให้สติปัญญาของเจ้าเสื่อมทรามลงเพราะเห็นแก่ความงามของเจ้า เราเหวี่ยงเจ้าลงที่ดินแล้ว เราตีแผ่เจ้าต่อหน้ากษัตริย์ทั้งหลาย เพื่อตาของท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะเพลินอยู่ที่เจ้า" เอเสเคียล 28:17
ความหยิ่งยโสนี้เป็นหนึ่งในความบาปที่พระเจ้าทรงเกลียดชัง เหมือนกับที่บอกไว้ในพระธรรมสุภาษิต 6:16 - 19 ดังนี้
"มีหกสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงเกลียด มีเจ็ดซึ่งเป็นที่น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์ ตายโส ลิ้นมุสา และมือที่ทำโลหิตไร้ผิดให้ตก จิตใจที่คิดแผนงานโหดร้าย เท้าซึ่งรีบวิ่งไปสู่ความชั่ว พยานเท็จซึ่งหายใจออกเป็นคำมุสา และคนผู้หว่านความแตกร้าวท่ามกลางพวกพี่น้อง"
เพราะความหยิ่งผยองนี้เอง ซาตานจึงถูกพระเจ้าขับไล่จากสวรรค์ และถูกผลักให้ตกลงมายังโลกมนุษย์ ตกลงมายังปากแดนของคนตาย
"โอดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้กระทำให้บรรดาประชาชาติตกต่ำน่ะ เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ ที่สูงนั้น ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน ณ ที่อุดรไกล ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด แต่เจ้าถูกนำลงมาสู่แดนคนตาย ยังที่ลึกของปากแดน" อิสยาห์ 14:12-15
อย่างไรก็ตาม ซาตานกับลูซิเฟอร์อาจไม่ใช่ทูตสวรรค์ตนเดียวกัน Jewish Encyclopediaระบุว่าในคัมภีร์ฮิบรูหลายฉบับนั้น ซาตานเป็นทูตสวรรค์ที่ได้รับอนุญาตจากพระเจ้าให้ล่อลวงและทรมานมนุษย์เพื่อพิสูจน์ศรัทธาเท่านั้น ไม่อาจกระทำตามใจตนได้ นอกจากลูซิเฟอร์แล้วยังมีอดีตทูตสวรรค์อีกสามตนที่ถูกกล่าวถึงว่าเป็นซาตานบ่อยๆคืออแบดดอน (Abaddon - Angel of the Abyss) เบลเซบับ (Beelzebub - Lord of the Flies) และซามาเอล (Samael - Poison of God)
ข้อมูลลูซิเฟอร์ลูซิเฟอร์ (ภาษาอังกฤษ:Lucifer) จอมมารแห่งนรก มีบทบาทเป็นอย่างมากในพระตำนานของศาสนาคริสต์
คำว่าลูซิเฟอร์ เป็นคำละตินมาจากคำว่า Lux แปลว่าแสงสว่าง และ Ferrer แปลว่า ผู้นำมา หรือผู้ถือ นำมารวมกันแปลว่า "ผู้นำมาซึ่งแสงสว่าง" หรือแปลในแบบที่เข้าใจง่ายๆ ว่า "รุ่งอรุณ" หรือ "ดาวแห่งแสงสว่าง"
อัครเทวทูตองค์นี้ ได้ถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมาจากแสงสว่าง และให้ความเอ็นดูเป็นอย่างมาก อาจถือได้ว่า เป็นทูตสวรรค์ที่เป็นใหญ่รองมาจากพระเป็นเจ้า และเป็นอัครเทวทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ ทว่า ด้วยความที่นึกว่าตนเองยิ่งใหญ่เหนือทูตสวรรค์ จึงได้กระทำการก่อกบฏหักหลังองค์พระเป็นเจ้า และในที่สุดก็ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ กลายมาเป็น"ปีศาจ"ตามตำนานของชาวฮิบรู โดยที่ลูซิเฟอร์ ได้ถูกยุยงโดยซาตานอีกทีหนึ่ง (ซึ่งทำให้ทราบว่า ตามตำนานฮิบรู ลูซิเฟอร์ และ ซาตานนั้น ไม่ใช่คนเดียวกันแต่อย่างใด) ในพระคัมภีร์ของชาวฮิบรูนั้นได้กล่าวไว้ว่า ซาตานเคยเป็นหนึ่งในอัครเทวทูต มีชื่อว่า Satan-Sataniel หรือ Samael ว่ากันว่าซาตาน ต้องการจะครอบครองทุกสิ่ง มีอำนาจดั่งพระเจ้า จึงได้ยุยง บ้างก็สิงสู่)เทพบางองค์ ทำให้กลายมาเป็นเป็นมารร้าย
ตามตำนานของชาวคริสต์ จากคัมภีร์พันธะสัญญาเก่า ได้แปลคำว่า Helel เป็น ลูซิเฟอร์ และได้มีการโยงถึงปีศาจร้ายที่มีร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ที่ลอบเข้ามาในสวนอีเดนและหลอกลวงอาดัม และอีฟ
นักบุญจีโรม (St.Jerome) หลวงพ่อในศาสนจักรในยุคกลาง ได้ให้ความเห็นว่า ชื่อ "ลูซิเฟอร์" ไม่ใช่ชื่อที่ดีสำหรับ "ปิศาจ" จึงได้เปลี่ยนมาเป็น "ซาตาน" จนในที่สุด ทั้งสองก็ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน จะเห็นได้ว่าในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ในบางครั้งก็จะเรียกลูซิเฟอร์ และในบางครั้งก็จะเรียก ซาตาน
ในตำนานกรีก คำว่า ลูซิเฟอร์ เปรียบได้กับดาววีนัส (ลูซิเฟอร์เป็นชื่อเดิมของดาววีนัส หรือดาวศุกร์) ในบางตำนานของชาวเพแก้น หรือวิคคา กล่าวไว้ว่า เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา พระองค์ทรงให้ความดูแลเอาใจใส่ในตัวมนุษย์มากกว่าสิ่งอื่นใด และมากกว่าตัวลูซิเฟอร์เองด้วย ทำให้ลูซิเฟอร์เกิดความรู้สึกน้อยใจและประชดองค์พระเป็นเจ้า โดยการชักนำพรรคพวก ก่อกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ในบางความเชื่อของชาวเพเก้น เชื่อกันว่าลูซิเฟอร์อยู่ในยุโรปและเอเชีย
ในปัจจุบัน ได้มีลัทธิหนึ่งซึ่งนับถือลูซิเฟอร์เยี่ยงพระเจ้า พวกเขาเหล่านั้นเรียกตัวเองว่า ลูซิเฟอเรี่ยนส์ (Luciferains) ตามชื่อศาสดาของพวกเขา "Lucifer Calaritanus" บิชอปของลัทธิลูซิเฟอเรี่ยนส์ กล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่า องค์พระเยซูคริสต์ไม่ใช่บุตรมนุษย์ผู้ที่ถูกเลือก แต่คือลูซิเฟอร์ (เข้าข่ายพวกลัทธิบูชาซาตาน หรือบูชาปีศาจ) ในคัมภีร์ของพวกเขาได้บอกเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ "ก่อนการล่มสลาย" หรือ "Before the fall" ซึ่งเล่าเรื่องราวไว้ว่า "เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ ลูซิเฟอร์เอ็นดูมนุษย์เป็นอย่างมาก และหลงใหลในความใสซื่อบริสุทธิ์ของมนุษย์ แต่เป็นเพราะว่าการที่มนุษย์นั้นใสซื่อนั่นเอง ทำให้มนุษย์ไม่รู้สึกถึงตัวตนอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า" ในคัมภีร์จึงได้บอกไว้ว่า "พระเจ้าได้เสกให้งูมาเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้กินผลไม้แห่งปัญญา เมื่อมนุษย์ได้กินเข้าไป จึงได้รู้สึกถึงตัวตนของพระเจ้า จากนั้นพระองค์จึงได้ขับไล่มนุษย์ทั้งสองออกจากสวนอีเดนไป เมื่อลูซิเฟอร์รู้เรื่องเข้าจึงได้โกรธและก่อการกบฏต่อพระเจ้าขึ้น" นี่เป็นอีกเรื่องที่ถูกนำมาเล่า เพื่อใช้โน้มน้าวจิตใจสาวกของลัทธิลูซิเฟอเรี่ยนส์ ซึ่งต่อมาได้ถูกกล่าวกันว่าเป็นลัทธินอกรีต และมีกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ซึ่งบางคนใช้ยาเสพติด หรือ เสียงเพลงเพื่อกลอมประสาท เพื่อมอมเมาผู้คนให้เข้าร่วมลัทธิ
ลูซิเฟอร์ คือตัวแทนของบาปแห่งความเย่อหยิ่งจองหอง (ภาษาอังกฤษ: Vanity/pride) เพราะลูซิเฟอร์ลำพองว่าตนเองยิ่งใหญ่ และมีอำนาจมากกว่าทูตสวรรค์องค์ใด จึงได้หลงผิดและก่อการกบฏขึ้น ก่อให้เกิดสงครามภายในสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยลูซิเฟอร์ได้ชักจูงเทพ 2 ใน 3 ส่วน จากเทพทั้งหมดบนสวรรค์ (บ้างก็ว่า 3 ใน 5 ส่วน) มาต่อสู้กับกองทัพขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งนำทัพโดยอัครเทวทูตมิคาเอล ผลปรากฏว่ากองทัพแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงได้ขับไล่ลูซิเฟอร์ออกจากสวรรค์
ตำนานกล่าวว่า ลูซิเฟอร์นั้นมักจะปรากฏกายในรูปของมังกร หรือ สิงโต และมีผู้รับใช้อันภักดี ชื่อ Satanackia และ Agalierept ที่เปรียบเสมือนแขนทั้งสองข้างของเขา (ตามความเชื่อของพ่อมดแม่มด ตราทั้งสองนี้อันตรายเป็นอย่างมาก)
Credit :
http://th.wikipedia.org