Seraph portrait
ณ โอเอซิสซานตาน่า ใน ปัจฉิมบทของสงคราม4อาณาจักร
พระพรของพระเจ้าที่ อลาน่าได้รองรับมาให้ทุกคนนั้น
ได้ทำให้อิสฮาน ได้เห็นนิมิตบนท้องฟ้า ซึ่ง
ได้เติมเต็มใจที่แตกสลายของอิสฮาน....................
ในห้วงนรกแห่ง ความโกรธ ซึ่ง นางเนริมอร์ถูกจองจำนั้น
ได้มี
ทูตสวรรค์ชั้นสูงสุด/เซราฟ ถือ ดวงประทีป บุกเข้ามาหมายจะปลดปล่อย
กระนั้น เพคคา อิรา ก็ได้ ทักท้วงทูตสวรรค์ ถึงบาปกรรมที่ เนริมอร์ได้กระทำ
เทวดาไม่ฟังคำ กลับนำเพลิงในปลายเทียน เผาชำระ ซึ่งความบาป อันพันธนาการนางเนริมอร์อยู่
ทั้งยัง เร่งไฟ ชี้ทางนำนางสู่สรวงสวรรค์
...............
อิสฮาน ประทับใจ ในนิมิตนั้นไม่รู้ลืม ทั้งยังปรารถนา จะสร้างภาพเหมือนของ ทูตสวรรค์ไว้เป็นที่รำลึก
จึงได้ ออกประกาศ หาจิตรกร ที่ฝีมือดีที่สุด
ลูลิ ซึ่งได้ผ่าน มา ก็ปรารถนาที่จะให้อิสฮานพึงพอใจ
ก็ได้รับคำ พร้อมขอเสนอว่า
"หากจะรำลึกถึงการปลดปล่อยฉันใด ก็พึงควรทำการปลดปล่อยเช่นกัน"อิสฮาน จึงได้ค้นพบว่า อดีตอุปราชนั้น ได้เคยกักขัง ฟินิกส์ ไว้ในกรงวงเวทย์มาเป็นเวลานาน
ฟินิกส์ ที่บัดนี้ ได้ ถึงวัยชราลุกโชน(Risng Pyro) วิงวอนถึงการปลดปล่อย
แต่อนิจจา กรงนี้ถูกสร้างโดยศาสตร์มืด ของเคลวิน กับบลาสเซจ จึงไม่มีใครสามารถปลดออกได้
อิสฮานจึงอธิษฐานขอการทรงนำจากพระเจ้า ก็ได้ฝันนิมิต
"ไฟทมิฬ ได้ถูกจุ่มลง ถ้วยทองคำที่เต็มไปด้วยน้ำและคราบโลหิต และได้ลุกโชนเป้นไฟสีขาว"อิสฮานจึงได้ นำ กรงเวทย์ พร้อมฟินิกส์ ไปจุ่มลงใน โอเอซิสซานตาน่า
วงเวทย์ศาสตร์มืด ก็พลันมลายหายไป พร้อมกับ ฟินิกส์ซึ่งเป็นไฟที่ย่อมจะดับเมื่อต้องน้ำ
แต่แล้ว ดวงไฟดวงเล็กๆกระเด็นออกมา
นั่นก็คือ ลูกฟินิกส์/BabyPhonixตัวน้อยๆ ทีได้เกิดใหม่ขึ้นมา
เมื่ออิสฮาน ได้ทำตามเงื่อนไขของลูลิแล้ว
ลูลิ ก็ได้ นำเศษขนนกฟินิกส์ ทั้ง3วัย มาย้อมสี เพลิงแห่งชีวิต3ระดับ
ประกอบด้วย
การเริ่มต้น สูญเสีย และหวนคืน เมื่อภาพวาดนี้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว นาซาอิ ก็ได้พบว่า
ภาพนี้ได้เป็นที่พระทัยของพระเจ้ามาก จน ส่งทูตสวรรค์จริงๆมาประทับไว้
ภาพนี้ได้ประดิษฐานไว้ ณ ท้องพระโรงใหญ่แห่งซาโลม