เครดิตจากเวบ Dek-D จากวัดปัญญานันทาราม ครับผมผมของคัดลอกบทความมาทั้งหมดแล้วกันครับ ไม่ขอเปลี่ยนแปลงแต่ประการใด
พระท่านนำเรื่องนี้มาแฉพร้อมสอนอีกครั้ง
ให้ทุกคนได้รู้เท่าทันและพึงกระทำสิ่งใดด้วยปัญญาอย่างแท้จริง
มีกล้องอยู่ก็พยายามถ่ายมาแต่ก็ไม่ค่อยชัดและถ่ายไม่ทันบ้างเพราะ
กล้องมันเจ๊งนิดนึงและ
ถ่ายติดๆกันไม่ได้ แต่ก็น่าจะพอเอามาเล่าสู่ให้เห็นคร่าวๆได้นะ
เรื่องมันก็เกี่ยวกับ "สังฆทาน" และ "ถังสังฆทาน"
พระท่านนำถังสังฆทานมาให้ดูพร้อมกับแกะให้เห็นกันจะๆ
เอาเบาะๆก่อนที่ทุกคนพอจะเดาได้อยู่แล้วก็คือถังมันไม่ได้เต็มหรอก
มีแค่ของที่เอาแปะไว้ให้เห็นรอบๆกับด้านบน นอกนั้นก็กลวงหรือไม่ก็
เอากระดาษยัดแทน
ต่อมาก็ของข้างในแต่ละอย่าง
มันจะมีพวกกล่องชากับอะไรอีกอย่างจำไม่ได้โทษที
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรที่สำคัญคือในกล่องนั้น!!!
อันที่เป็นชามันมีซองชาสี่เหลี่ยมเล็กๆอยู่ไม่กี่ซอง! 3ซองอะไรประมาณนี้ได้
บางอันก็ว่างเปล่า! แปลว่าไม่มีอะไรเลย!!
พระท่านบอกดูซิๆ ซื้อกันมาทำไมเนี๊ยะ
ต่อไปกล่องธูปเทียน
มันมีอยู่ไม่กี่อันอีกแล้วคะท่าน!
กว่าจะนำไปใช้จริงได้ต้องรวมเท่าไหร่กันนี่
ต่อไปอันนี้ ข้าว
พระท่านบอกว่าข้าวก็มีอยู่นิดเดียว
เมื่อไหร่จะรวมกันจนสามารถหุงเลี้ยงพระหรือคนได้จริงๆ
อีกนาน...
แล้วก็นี่ แปรงสีฟัน...
พระท่านบอกว่า
ดูซิแปรงเข้าไปได้ยังไง ฟันหลุดแน่ๆ!!
มันแข็งมาก...
และสุดท้าย เด็ดสุด
จีวร ผ้าอาบน้ำพระ(ถ้าเรียกผิดก็ขออภัยค่ะ)
มันผืนเท่าเนี๊ยะ!!!
ห่มยังไม่มิดเลย!!!!
พระท่านบอกว่าใช้นุ่งอาบไม่ได้ แต่ใช้มาผูกตาแล้วอาบก็พอได้อยู่555
สรุปแล้วใช้ประโยชน์จริงไม่ได้!ประการฉะนี้แล......
ที่เอามาแฉนี่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ทุกคนเลิกซื้อถังสังฆทานถวายพระนะ
เพียงแต่จะบอกเพื่อให้ได้รู้เท่าทัน
และลองใช้ปัญญาคิดดูว่า สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร
สิ่งใดเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
สำหรับบางคนอาจคิดว่าบางแห่งวัดก็ใช้เป็นสังฆทานเวียนแล้วนำเงิน
ที่ได้จากการขายไปซื้อของเครื่องใช้ที่จำเป็น นั่นก็ไม่ได้ผิดอะไรไม่มีปัญหา
มันก็เป็นวิธีการ เป็นสัญลักษณ์
แต่ที่จะบอกจริงๆ พระท่านสอนทิ้งท้ายว่า
"สังฆทาน"หมายถึงการทำทานที่เป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก
ไม่ได้หมายถึงถังสังฆทาน มันไม่จำเป็นต้องเป็นถังสังฆทาน
แต่การที่เราซื้ออะไรที่จะเป็นประโยชน์ใช้ได้จริงไปถวายวัด
เช่น อาจซื้อน้ำยาล้างจานแบบขวดใหญ่ๆไปถวาย
ถุงดำถุงขยะ แฟ๊บกล่องใหญ่ หรือซื้อข้าวซักถุง ไม้กวาดซักด้าม ฯลฯ
เหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก ล้วนเป็นสังฆทานทั้งสิ้น
อาจใช้วิธีถามที่วัดว่า ขาดเหลืออะไรยังไง เราก็จะได้ถวายสิ่งที่จะเกิดประโยชน์
และถูกนำไปใช้จริง เท่านี้ก็ได้บุญหลายๆแล้ว
ถ้าเรารู้จักดำเนินชีวิตอย่างมีสติปัญญา ไม่ไปยึดติดกับรูปแบบ
หรือสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และการทำความดีอย่างแท้จริง
เรื่องเหล่านี้เอาไปประยุกต์กับชีวิตประจำวันอื่นๆได้
จะได้ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นสุข รู้เท่าทัน และหลั่นล้าต่อไป (อันสุดท้ายนี่อะไร!!!)
จริงๆเรื่องราวที่น่าสนใจของวัดปัญญาฯยังมีอีกเพียบเลย
โอกาสหน้าจะเอามาเล่าสู่กันฟังอีก
เพราะวัดปัญญานันทาราม เป็นวัดที่เปี่ยมไปด้วย"ปัญญา"จริงๆ!
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1356250