Chapter 47 หนักแน่นดุจภูผา โหมกล้าดั่งพายุ
เสียงกลองศึกของจักรวรรดิซาโลมดังขึ้นในสายของวันน็อกซ์ (Nox)วันแห่งธาตุมืดตามคัมภีร์การสร้างโลกที่มีบันทึกไว้ตั้งแต่อดีตกาล ยอดธงวิหคเพลิงปรากฏขึ้นที่ยอดเนินปลายสุดของสนามรบ ด้วยความที่เมืองคามินยาร์ดเป็นเมืองที่อยู่ติดเทือกเขาคีรีบันดาจึงทำให้เมืองตั้งอยู่บนเนินสูงและสามารถมองเห็นกองทัพของจักรวรรดิซาโลมได้เกือบทั้งกองทัพอย่างชัดเจน กษัตริย์ซิกมันด์ เจ้าหญิงเรจิน่าและ ชาร์ล คลาแรนซ์ยืนอยู่เหนือป้อมกำแพงพร้อมกับเหล่านายพลแห่งฟีเลเซีย เสียงแตรสัญญาณของฟีเลเซียดังรับเป็นทอด ๆ จนกระฮึ่มไปทั่วทั้งเมือง
ช่างเลือกวันรบได้เหมาะกับความชั่วของพวกมันจริง ๆ กษัตริย์ซิกมันด์ทรงเหยียดปากด้วยความชัง
นั้นมันตัวอะไรกัน เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสด้วยความตกใจ ทรงยกกล้องส่องทางไกลขึ้นส่องดูกองทัพของซาโลม ซึ่งพระองค์เพิ่งจะเคยเห็นทหารผีดิบของซาโลมเป็นครั้งแรก
ดูท่าพวกมันจะเพิ่มจำนวนทหารผีขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลย ชาร์ลมองตาม กล่าวอย่างหนักใจ พวกซาโลมมีนักเวทย์สายมนต์ดำที่ใช้วิชาสร้างทหารจากซากศพ ดังนั้นยิ่งมีคนตายมาก พวกมันก็ยิ่งมีทหารมากขึ้น
น่าขยะแขยงจริง ๆ เจ้าหญิงทรงเบ้ปากเมื่อพิจารณาทหารผีอย่างละเอียด
อย่าว่าแต่พระองค์เลย กระหม่อมเป็นผู้ชายอกสามศอกยังอดคลื่นไส้ไอ้ตัวพวกนี้ไม่ได้ ชาร์ลกล่าวติดตลก แต่เจ้าหญิงขำไม่ออกเลยจริง ๆ
ข้ายังไม่เห็นพวกกองทัพคนป่าเลย? กษัตริย์ซิกมันด์ทรงยกกล้องขึ้นส่องดู ไม่ใช่ว่าพวกมันหนีไปกันหมดแล้วหรือ? หลายวันมานี่พวกมันออกมาทำอะไรกันนอกกำแพงเมืองทุกวัน ข้าไม่เห็นมีสิ่งใดแตกต่างไปจากเดิมเลย
พวกเขาก็อยู่ข้างนอกนั่นแหละ เจ้าหญิงตรัสแม้พระองค์จะไม่เห็นร่องรอยของกองทัพฟูดินันเลย แต่พระองค์มั่นใจว่าพวกเขาอยู่ เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมา พระองค์เห็นว่ากองทัพฟูดินันทำงานกันหนักขนาดไหน พวกเขาแทบจะกินอยู่หลับนอนกันนอกกำแพงเมืองตลอดเวลา แม้พระองค์จะไม่รู้ว่าพวกฟูดินันกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม
กระหม่อมก็มั่นใจว่าพวกเขาอยู่พ่ะย่ะค่ะ สนามรบมันมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม แต่กระหม่อมก็ไม่อาจทูลได้ว่ามันคืออะไร? ชาร์ลทูลตอบพลางกวาดตาไปรอบ ๆ สนามรบ
ก็ดี ข้าจะคอยดู กษัตริย์ซิกมันด์ตรัสอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก สายตาก็พลันกวาดมองกองทัพซาโลมที่เคลื่อนใกล้เข้ามา สั่งพลธนูเตรียมพร้อม ข้าอยากจะให้มันจบเร็วที่สุด
พ่ะย่ะค่ะ ชาร์ลรับคำพร้อมกับให้สัญญาณแก่พลธนู พร้อมกับเหล่าพลธนูซึ่งเข้าประจำที่ทันที
เดี๋ยวก่อน...นี่มัน! กษัตริย์ซิกมันด์ตรัสด้วยความโกรธเกรี้ยวเป็นที่สุด เมื่อกองทัพซาโลมปล่อยทหารผีดิบเป็นทัพหน้าและให้พวกทหารมนุษย์อยู่ทัพหลังโดยปักหลักไกลเกินว่าพลธนูจะยิงไปถึง
เพราะความที่ฟีเลเซียรบอย่างเป็นระเบียบแบบแผนทำให้ฝ่ายซาโลมสามารถอ่านกลยุทธของฟีเลเซียได้ไม่ยากนัก นั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟีเลเซียที่แม้จะจู่โจมได้รวดเร็ว ฉับไวและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่สามารถชิงเมืองคืนได้สักที เพราะฟีเลเซียถูกเดารูปแบบการโจมตีและวางกำลังดักทางได้ตลอด เวลานี้ดูเหมือนซาโลมจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเสียแล้ว ในเมื่อซาโลมไม่ต้องห่วงเรื่องการถูกโจมตีจากพลธนูบนกำแพงเมือง กองทัพก็มีเวลาจัดการกับพวกทัพนก ทัพมังกร และ ทัพเปกาซัสได้ง่ายขึ้น เหล่าฝูงทหารผีดิบที่ไม่กลัวต่อกองทัพลูกดอกที่พุ่งปักลงจนพรุนก็ดาหน้ากันมาอ้ออยู่ที่ประตูเมืองเพราะรู้ดีว่าอีกไม่นาน ฟีเลเซียจะต้องส่งเหล่าอัศวินออกมาจากประตูเมืองแน่นอน พวกมันจึงรอคอยอย่างหื่นกระหายอยากจะฉีกทึ้งกัดกินร่างของมนุษย์จนแทบทนไม่ได้ และเริ่มทุบทำลายบานประตูอันแข็งแกร่งของเมืองคามินยาร์ด
ฝ่าบาท ชาร์ลกล่าวอย่างร้อนรน เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ก่อนที่พวกมันจะทำลายประตูเมืองเข้ามาได้