ตอน ลาก่อนแสงแห่งเทพอพอลโล่ส่องสว่างไปทั่ว เทพเจ้าอพอลโล่ค่อยๆสยายปีกกางออกเกิดเป็นคลื่นไฟตีแผ่กระจายออกไป ดวงอาทิตย์ที่ห่อหุ้มนั้นที่จริงแล้วก็คือปีกของอพอลโล่นั่นเอง ภายในมีชายใส่ชุดขาวเบาบางมีปีกขนาดใหญ่มากยืนหลับตานิ่ง ยิววาเห็นจึงใช้เส้นผมของเธอโจมตี แต่ทันทีโจมตีนั้น เส้นผมของเธอก็รุกเป็นไฟไหม้ขึ้น
ยิววาหนี ที่นี่ไม่ปลอดภัย ทาร่อนบอก แล้วเสียงของมังกรลึกลับนั่นก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทาร่อนขาชาขยับไม่ได้ เขาจึงค่อยๆหันกลับไปและออกแรงสุดท้ายยกเท้ากระโดดหลบไปข้างๆ ทำให้เขานั้นรอดจากการโจมตีของมังกรดำลึกลับตัวนั้น
มังกรดำนั่น พงวิชเห็นก็รู้ทันที
แล้วมันละ บุ๊คมองหา
ส่วนยิววาเมื่อรู้ว่าสู้ไม่ไหวเธอก็วิ่งไปที่จะกระโดดลงไปจากปากปล่องภูเขาไฟ แต่ทันทีที่เธอหันหลัง เธอก็เห็นชายชุดดำยืนขว้างอยู่เบื้องหน้า
Demon Hole ชายชุดดำร่ายมนต์เปิดประตูปีศาจ ดูดทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนั้นเข้าไป เทพเจ้าอพอลโล่ใช้ปีกขนาดใหญ่โอบเรือเหาะองค์ราชินีไว้ ส่วนพวกพงวิชนั้นโดนพลัดตกลงมาข้างล่างยังลานภูเขาไฟ
ปีกเทพสวรรค์โปรดคุ้มครองลูกด้วย Angel Wing อิศราร่ายมนต์เรียกปีกเทพออกมาโอบล้อมพวกเขาทั้ง 7 ไว้ แล้วเรือเหาะของพวกพงวิชและยิววาต่างถูกดูดหายเข้าไปในประตูปีศาจ แล้วประตูนั้นก็ปิดลง
เยริ ฟอรีมัส เดคิซัส เยอุส ด้วยแสงมรณะแห่งบิดา... ในทันทีที่ชายชุดดำกำลังท่องคาถาร่ายเวทย์มนต์ก็มีเสียงปืนดังขึ้น กระสุนตรงเข้าที่ท้องของชายชุดดำ
แค้นนี้ต้องชำระ ที่เหลือจัดการเองนะ ไอ้หนู แจ๊คเป่าควันจากปากกระบอกปืนแล้วเขาก็เดินกลับลงไปจากลานภูเขาไฟ
ยิงเอาง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ พงวิชยังงง พอเขาเห็นกลับไปมองที่ชายชุดดำก็เห็นร่างของชายชุดดำล้มคุกเข่าลง
เล่นมันเลยเปล่า ปอนหันมาถามเพื่อนๆ
เอาทีเดียวพร้อมกันเลย เอาแบบสิ้นใจไปเลยนะ พวก พงวิชชักดาบอีฟริตออกมา แล้วเพื่อนๆต่างก็พยักหน้าตกลงกันในความคิด
Meteor ตั้มร่ายเวทย์มนต์เรียกอุกกาบาตขนาดเล็กลูกหนึ่งพุ่งลงมาจากฟากฟ้าโจมตีใส่ชายชุดดำ แต่ทันทีที่อุกกาบาตจะตกถึงพื้นก็มีวงเวทย์โบราณเรืองแสงขึ้นรอบๆชายชุดดำ เมื่ออุกกาบาตนั้นตกใส่ ก็มีสนามพลังพุ่งขึ้นมาป้องกัน ทำให้พวกพงวิชตกใจ
งั้นเวทย์มนต์ ไสยศาสตร์ไม่ได้ผล เอาระเบิดไปกินไป๊ ปอนเขว้งระเบิดใส่ แต่ระเบิดนั้นกลับเด้งออกมาทันทีที่ชนกับสนามพลัง พวกพงวิชตกใจหนัก พอได้สติพวกเขาต่างก็วิ่งหนีหลบระเบิด
บ้าแล้วโว๊ย บุ๊ควิ่งเข้าไปพร้อมกับเอาโล่เฟียเรียสตบใส่สนามพลังนั้น แต่เขากลับกระเด็นออกมาอย่างแรง
มาดิเรส ฟอดิส เดริ สเปว ชายถือตะเกียงร่ายคาถาโบราณสลายสนามพลังนั้น พวกพงวิชตกใจทันทีเมื่อรู้ว่าชายถือตะเกียงพูดภาษาโบราณได้
พงวิช จัดการมันเลยดิ ตั้มสั่ง พงวิชก็พยักหน้าแล้วเขาก็จับดาบแน่น
เดี๋ยวก่อน ท่านจงอย่าได้คิดที่จะจัดการชายผู้นั้นด้วยมือเปล่าเลย ชายผู้นั้นทรงพลังยิ่งเหนือกว่าสิ่งใด เราต้องรวมพลังกัน ท่านชายที่ถือดาบอีฟริตเล่มนั้น โปรดท่องคาถาตาม ข้าพเจ้าเถอะ ชายถือตะเกียงบอก พงวิชเองก็ยังสงสัยว่าทำไมแต่เขาก็ลองทำดู ชายถือตะเกียงจึงปล่อยมือจากตะเกียงให้ลอยอยู่ในระดับหน้าและเขาก็กางแขนออก
เยนอส พงวิชและชายถือตะเกียงพูดพร้อมกัน ทันทีที่พงวิชพูดออกมา ต่างทำให้เพื่อนๆตกใจกันว่าทำไมถึงพูดออกมาได้
คิสามอส ทั้งคู่ต่างพูดกันต่อ แล้วตั้มก็เหลือบไปเห็นชายชุดดำที่ค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ
อีฟิรอส ทั้งคู่หลับตาลงและท่องคาถาต่อ
กาดิออรุส เทพพิทักษ์แห่งอพอลโล่ ถล่มชายผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าบัดเดี๋ยวนี้ พงวิชและชายถืองตะเกียงชี้ไปทางชายชุดดำ หลังจากนั้นก็มีผู้เสื้อแดงจำนวนมากพุ่งออกมาจากแขนเสื้อชายถือตะเกียงพุ่งตรงไปยังชายชุดดำ ส่วนพงวิชนั้นปรากฏชายสูสง่างามมีเปลวไฟรุกขึ้นออกมาจากตัวในบางส่วนพุ่งออกจากตัวพงวิชไปพร้อมกับถือดาบอีฟริต ผีเสื้อแดงและมนุษย์ไฟนั้นพุ่งเข้าโจมตีใส่ชายชุดดำพร้อมๆกัน ทันทีที่เข้าใกล้กลุ่มผีเสื้อแดงก็รวมตัวและปรากฏร่างคิมสันออกมา
ดาบเพลิงสุริยัน เผามารจนมอดสิ้น Holy Sun Sword คิมสันและอีฟริตใช้ดาบของตนฟันลงใส่ชายชุดดำพร้อมกัน จนเกิดเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งออกมากระจายไปทั่ว
เมื่อเปลวเพลิงนั้นดับลงและหายไป พวกพงวิชและชายถือตะเกียงต่างตะลึง ชายชุดดำใช้มือทั้งสองรับดาบของเทพพิทักษ์แห่งอพอลโล่ไว้ แต่ในมือของชายชุดดำนั้นมีเลือดไหลหยดออกมา
Thousand Flame อีฟริตใช้ดาบไฟแทงใส่ชายชุดดำพันครั้ง แต่ชายชุดดำก็หลบได้หมด
Crimson Strike คิมสันใช้ดาบเพลิงผีเสื้อแทงเข้าที่หน้าของชายชุดดำจนกระเด็นออกไป
ชนะแน่โว๊ยวันนี้ พวกพงวิชต่างวิ่งเข้ามาดีใจกัน
แต่แล้วพวกเขากลับต้องหยุดดีใจ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของชายชุดดำดังขึ้นพร้อมกับเขาค่อยๆลุกขึ้น ใบหน้าของเขานั้นมีเลือดไหลนอง
นานมาแล้วที่ข้าไม่เคยได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด ขอบใจพวกแกมากที่ช่วยเตือนสติให้ข้านั้นไม่ประมาท
ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้นเงาของเขาก็มีไฟสีดำค่อยๆรุกขึ้นท่วมร่างของเขา เขาดึงแว่นเลเซอร์ออกก่อนที่ไฟดำจะท่วมร่าง ทันทีที่ไฟนั้นคอบคลุมชายชุดดำจนร่างของเขานั้นเป็นเปลวเพลิงสีดำไปแล้ว ก็มีเพียงแต่แววตาสีขาวอันน่ากลัวที่เปร่งออกมาให้เห็น
ท่านพญามาร ด้วยคำขอจากเจ้าแห่งสุริยาแล้ว ข้าขอให้ท่านจงกลับไปเถอะ เสียงอันหวานคมของเทพเจ้าอพอลโล่ดังขึ้นพร้อมกับสยายปีกออก
แน่นอน แต่ข้าจะกลับหลังจากที่เจ้าต้านพลังข้าได้เท่านั้น พญามารก้มตัวลงแล้วพุ่งขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับปีกมารทั้ง 8
ชแว็ป ท่านเทพอพอลโล่ เสียงอันแหลมดังขึ้น แล้วก็ปรากฏร่างของเทพองค์หนึ่ง
ข้ามีนามชื่อ เยรูซา ข้านำคำบัญชาจากพระองค์เจ้ามาบอกกล่าวให้พวกท่านฟัง ในนามตัวแทนแห่งพระองค์เจ้า ข้าขอให้พญามารจงยกเลิกการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ฉะนั้นตัวข้าและผู้พิทักษ์อีก 4 องค์จะสาปแช่งท่าน เยรูซาอ่านคำบัญชานั้นเสร็จก็สลายหายไป
จำคำทำนายของข้าไว้ให้ดีไอ้พวกเทพทั้งหลาย หลังจากนี้ 5 ปี ข้าจะเป็นหนึ่งเดียวในโลกทั้ง 9 ที่จะไม่มีใครกล้ามาขัดข้อต่อข้า และพวกเจ้าข้าจะจับลงโทษประหารทั้งหมด ถึงแม้ใน 5 ปี ข้างหน้าข้าจะไม่ใช่หนึ่งเดียวในโลกทั้ง 9 แต่มาร์คัสพวกเจ้าไม่รอดแน่ เขาจะกลับมาแก้แค้นที่พวกแกทำกับเขาไว้ พญามารตะโกนพร้อมกับชี้ด่าขึ้นไปบนท้องฟ้าเสร็จก็สลายกลายเป็นควันจางหายไป
มันจบแล้วละ ชายถือตะเกียงบอกแล้วคิมสันก็สลายไปกลายเป็นผีเสื้อแดงบินกลับเข้าไปในแขนเสื้อของชายถือตะเกียง
เออใช่ ท่านพูดภาษาโบราณได้ ท่านช่วยแม่ชีผู้นี้ที แบมบูบอกแล้วก็อุ้มร่างของแม่ชีมา
นั่นไงเลือดของชายชุดดำที่เปื้อนอยู่บนดาบอีฟริต มันใช้ในการรักษาได้ แบมบูชี้
งั้นข้าจะช่วยแม่ชีผู้นี้เอง ชายถือตะเกียงบอก แล้วเขาก็ชูตะเกียงเหนือหัวแม่ชี
โวเรที มะลาราส รีเวิส แค ทันทีที่ชายถือตะเกียงร่ายมนต์เสร็จน้ำของชายชุดดำก็กลับใสสะอาดเป็นน้ำบริสุทธิ์ไหลลงบนหน้าของแม่ชี สักพักแม่ชีเกลวารีนก็ฟื้นขึ้นกลับกลายเป็นปกติ
ขอบใจมากนะ แบมบูวิ่งเข้ามากอดชายถือตะเกียง แล้วเขาก็กลับไปพยุงร่างของแม่ชีเอาไว้
แบมบูจะไปไหนอ่า ตั้มถาม
เออ เค้าก็คิดว่าจะพาแม่ชีกลับไปยังโบถส์ที่เวเอร่าก่อน พวกนายจะไปไหนละ แบมบูหันมาตอบ
ไปหมู่บ้านอินเดท แล้วเจอกันที่นั่นนะ ตั้มบอกแล้วพวกเขาต่างก็แยกย้ายกันไป เทพเจ้าอพอลโล่ก็กระพือปีกอีกครั้งปลดปล่อยกลุ่มเมฆฟ้าอันมืดทึบให้กลับมาแจ่มใสดังเดิมและองค์ท่านก็ลอยกลับขึ้นไปยังดวงอาทิตย์
หลังจากที่พวกเขาแยกย้ายกันไปนั้น พวกพงวิชก็ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนอย่างมีความสุข พวกเขาออกเดินทางไปเรื่อยๆ มิตรภาพของพวกเขาสร้างพลังในการนำพาให้พวกเขาก้าวหน้าเดินต่อไป ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรอพวกเขาอยู่ก็ตาม ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ที่ไดนาส 1 อาทิตย์ พวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านอินเดท เขาได้พบกับเหล่าเพื่อนสาวที่พามาย่ามารักษา จากนั้นพวกเขาทั้ง 6 ต่างก็ตกลงที่จะหยุดการเดินทางมาพักผ่อนในหมู่บ้านเล็กอันแสนจะสงบ ชีวิตของพวกเขาสดใสเหมือนดอกไม้บานในยามเช้า แต่หลังจากที่พวกเขานั้นได้ใช้ชีวิตกันอย่างแสนสุขได้ 6 เดือน พวกเขาต่างก็มาปรึกษากันและตกลงใจกันที่จะแยกทางออกไปผจญในทางใครทางมัน โดยมีโทรศัพท์มือถือไว้คอยสื่อสารหากันในยามคิดถึง และพวกเขาก็ยังต้องการที่จะนำประสบการณ์เก่ามาใช้และศึกษาประสบการณ์ใหม่ในชีวิตข้างหน้า
แต่ในทางเดียวกัน ในโลกลึกลับที่ชายคนหนึ่งเดินไปทั่วจนไปทางไหนก็เห็นแต่ดอกไม้ไปหมด เขาท้อแท้และหมดหวังกำลังใจ เขาเดินไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดวันแล้ววันเล่าเป็นเวลาหลายเดือน จนเขามาเจอกับต้นไม้ต้นหนึ่ง เขาทั้งท้อทั้งเหนื่อยทั้งหิวและอ่อนล้าจึงหยุดพักและวางร่างของน้องสาวผู้จากไปไม่หวนคืนลงบนตักของเขา สายลมที่พัดมาอันแพร่วเบาทำให้เขานั้นรู้สึกเย็นสบาย
แอริส ทิวทัศน์ในตอนนี้มันสวยงามมากจริงๆ มาร์คัสมองไปรอบๆและหยิบเศษขนมปังที่แอริสทำชิ้นเล็กๆชิ้นสุดท้ายที่เท่าหัวนิ้วก้อยขึ้นมา แต่พอเขาก้มลงมองน้องสาวตน เขาแทบกั้นน้ำตาไม่ได้จนไหลออกมาเมื่อนึกถึงความหลังอันดีและแสนสนุกที่มีต่อน้องสาว
แอริส เขาร้องไห้อยู่สักพัก ไม่นานักเขาก็หยุดสะอึ้งและปาดน้ำตาออก
หลับให้สบายเถอะน้องรัก เมื่อสิ้นเสียงของพี่ชายที่แสนดีแล้วนั้น เขาก็หลับตาลงพร้อมกับน้ำตาไหลออกมาและไม่ยอมตื่นขึ้นอีกเลย สองพี่น้องคู่นี้ได้จากลาโลกทั้ง 9 ไป อยู่กันเพียงลำพังบนโลกที่ 10 ที่มีเขาทั้งสองมีคู่เดียว
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และแล้ว นิยายเรื่องใหญ่ของผมในภาค 5 นี้ก็สิ้นสุดและจบลงในตอนที่ 50 พอดี เนื้อเรื่องต่อจากนี้จะเป็นภาคที่ 6 ซึ่ง 2 ภาคนี้จะทำเนื้อเรื่องออกมาเชื่อมต่อกัน และในภาค 6 จะมีการต่อสู้อันดุเดือดขึ้น ความล้ำสมัยในเทคโนโลยีผสมผสานไปกับเวทย์มนต์ต่างในแบบฉบับ Fantasy World
โปรดติดตามชมนิยายเรื่องต่อจากนี้ได้ในภาค 6 นะคร๊าบ
THE END
[/size]