Title: @@ นิยายSMN Chapter 17 ห้วงสมุทรแห่งพระเมตตา @@ Post by: Little Lamb, the Little Angel on December 19, 2004, 03:49:47 AM Chapter 17 ห้วงสมุทรแห่งพระเมตตา ณ เมืองท่าแอนดิซอง เวลานี้กำลังเกิดโรคระบาดอย่างหนัก ประชาชนเริ่มเสียชีวิตเพราะโรคระบาดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะผู้ที่ยากจนเกินกว่าจะหาเงินไปซื้อยาได้ ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของประธานสภาพ่อค้าวาณิช นายท่าน! นายท่านขอรับ ชายคนรับใช้นายหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องโถงใหญ่ที่ตกแต่งไปด้วยเครื่องเรือนราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะฉลุหุ้มทอง เก้าอี้ไม้ฝังมุกบุด้วยเบาะสีแดงเข้ม ผ้าม่านเนื้อดีสีชมพูสลับเขียว ฉากกั้นห้องแกะสลักเป็นรูปงูใหญ่พันหีบสมบัติ แจกันประดับเพชรสีเขียวอ่อนและน้ำเงินเข้ม โดยมีดอกไม้ที่ทำด้วยทองคำและเพชรขนาดใหญ่เสียบไว้ในแจกัน ซึ่งทำให้แจกันรับน้ำหนักไม่ไหวจนต้องเอาแท่งทองรูปเรือสินค้าและรูปม้ามาดามไว้ รวมไปถึงภาพประดับฝาผนังกรอบทองที่มีรูปรูฟัสอยู่ในชุดเต็มยศโดยมีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ติดอยู่เต็มเสื้อจนแทบจะมองไม่เห็นสีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ รอบๆกายเต็มไปด้วยของพระราชทานและรูปปั้นสัตว์ประหลาดในตำนานนานาชนิดเป็นฉากหลัง แต่ที่แปลกที่สุดกลับเป็นใบหน้าที่กำลังยิ้มแฉ่งจนแก้มเบ่งเป็นสีแดงระเรื่อของตัวรูฟัสนั่นเอง แม้ทั้งห้องจะประดับและตกแต่งด้วยเครื่องเรือนราคาแสนแพง แต่ก็บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้านที่ทำให้แม้แต่คนรับใช้ยังอดขำทุกครั้งที่เข้ามาในห้องนี้ไม่ได้ รูฟัสในชุดเสื้อตัวโคร่งลายจุดสีชมพูพื้นเหลืองกำลังนั่งอิ่มเอมกับไวน์ชั้นเลิศบนเก้าอี้นวมฝั่งมุกสีม่วงลายตารางสีส้ม เขาหันหน้ามามองช้าๆด้วยสีหน้าบูดบึ้งเมื่อเห็นคนรับใช้มองมายังเขาและกำลังพยายามกลั้นหัวเราะ เจ้าหัวเราะอะไรของเจ้า พ่อค้าใหญ่ทำท่าจะสาดไวน์ใส่แต่เกิดนึกเสียดายขึ้นมาเสียก่อน จึงยั้งมือไว้ ขออภัยขอรับนายท่าน มีอะไร....ถ้าหากไม่ใช่เรื่องสำคัญข้าจะไล่เจ้าออกซะ เรื่องสำคัญแน่นอนขอรับ ขณะนี้โรคระบาดแพร่ขจายไปทั่วทั้งเกาะแล้วขอรับ รูฟัสรีบขยับลุกขึ้นนั่งทันที ทำให้แก้มและท้องของเขากระเพื่อมตามแรงเหวี่ยงจนแลดูเหมือนถุงน้ำขนาดใหญ่ สีหน้าของเขากลับไม่ได้ตระหนกตกใจแม้สักนิด ตรงกันข้ามกลับมีสีหน้ายินดีปรีเปรมยิ่งนัก โอ้.....ดี! ดีมาก! ฮา ฮา รีบสั่งกว้านซื้อสมุนไพรจากทั่วทั้งเกาะและที่แผ่นดินใหญ่มาให้หมด หึหึ ถ้ารวมกับสมุนไพรในโกดังทั้งสามสิบหลังของข้า ข้าก็จะเป็นผู้เดียวในแอนดิซองที่มีสมุนไพรรักษาโรคนี้ ฮา ฮา ฮา รูฟัสหัวเราะเสียงดังจนตัวเขย่าไปทั้งตัว สั่งร้านค้าสาขาทั่วทั้งเกาะว่าห้ามขายสมุนไพรเด็ดขาด จนกว่าอีกสองอาทิตย์ให้หลังจึงค่อยนำออกขายด้วยราคาสูงขึ้นอีกห้าเท่าตัว ไปได้ ฮา ฮา ฮา เสียงหัวเราะอย่างสะใจของพ่อค้าใหญ่ดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ เพียงเวลาแค่สองอาทิตย์เศษ โรคระบาดก็ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายพุ่งขึ้นสูงจนหน้าใจหาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเด็กและคนแก่ที่มีฐานะยากจน แต่ในเวลาวิกฤตนี้ผู้ที่มีความสุขที่สุดคงไม่พ้นประธานสภาพ่อค้าวาณิชรูฟัส ฮา ฮา ฮา เงิน! เงินทั้งนั้น ขายแค่สองวันยังได้เงินถึงขนาดนี้ รูฟัสนอนตะแคงอยู่บนโซฟาสีแดงสด มีเหรียญทองตั้งเป็นแถวสูงล้อมรอบตัวพ่อค้าใหญ่จนดูคล้ายกับกำแพงทองคำ เขาใช้มือขวาโยนเหรียญทองขึ้นฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า เหรียญทองตกลงกระทบพื้นหินอ่อนสีขาวขัดมันเสียงกรุ๊งกริ๊งดังกังวานใส อ้า..... ไพเราะอย่างกับเสียงพิณสวรรค์ ฮา ฮา พวกเจ้าคิดว่าอย่างนั้นไหมรูฟัสหันไปถามบรรดาพ่อค้าในสังกัดของตน ซึ่งกำลังดื่มกินกันอย่างสำเริงสำราญ ท่านรูฟัสช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเหลือเกิน ไม่มีใครในแอนดิซองจะมีฝีมือด้านค้าขายทัดเทียมท่านอีกแล้ว พ่อค้าคนหนึ่งกล่าวยกยอรูฟัส ท่านกล่าวผิดแล้ว ไม่ใช่เฉพาะแอนดิซอง ต้องทั่วทั้งเมอริเซียต่างหากเล่า ท่านรูฟัสคือพ่อค้าอัจฉริยะแห่งเมอริเซีย พ่อค้าอีกคนแย้งขึ้น ทำให้รูฟัสหัวเราะชอบใจเสียงดังลั่นจนตัวกระเพื่อมไปทั้งตัว ฮา ฮา ฮา ใช่! ข้าคือพ่อค้าอัจฉริยะ พ่อค้าอัจฉริยะแห่งเมอริเซีย ฮา ฮา ฮา ไชโย! แด่ท่านรูฟัส พ่อค้าอัจฉริยะ แห่งเมอริเซีย พ่อค้าคนหนึ่งนำขึ้นเป็นต้นเสียง ตามด้วยพ่อค้าคนอื่นๆจนเสียงดังไปทั่วคฤหาสน์ ไชโย! ไชโย! แด่พ่อค้าอัจฉริยะ ไชโย! Title: Re:@@ นิยายSMN Chapter 17 ห้วงสมุทรแห่งพระเมตตา @@ Post by: Little Lamb, the Little Angel on December 19, 2004, 03:51:10 AM แย่แล้ว! ท่านรูฟัส เกิดเรื่องใหญ่แล้ว พ่อค้าคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาขัดจังหวะ พลางชี้มือออกไปข้างนอกพูดไปหอบไปจนฟังไม่รู้เรื่อง พ่อค้าที่อยู่ใกล้ที่สุดจึงยื่นแก้วเหล้าองุ่นให้ เขารับไปดื่มอย่างรวดเร็วแบบชนิดที่เรียกได้ว่าไม่กลัวสำลัก
อะไรของเจ้า มาสายแล้วยังมาขัดจังหวะการเลี้ยงฉลองของข้า ถ้าเรื่องของเจ้าไม่ใหญ่จริง เจ้าได้ออกไปยืนถือกะลาขอทานข้างถนนแน่ รูฟัสพูดอย่างหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ เจ้า....เจ้าหญิง...อลาน่า...สั่งซื้อ...สั่งซื้อสมุนไพรจากฟูดินันมาถึงสิบสองลำเรือ แล้วตั้งโต๊ะแจกจ่ายสมุนไพรให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดเงิน นับรวมๆแล้วตอนนี้ทั่วทั้งเกาะก็เกือบแปดสิบแห่งแล้วขอรับ ว่าไงนะ!! รูฟัสกลิ้งตกลงมาจากโซฟาหล่นกระแทกพื้นเสียงดังโครมใหญ่ เหรียญทองกระจายไปทั่วพื้น หน้ารูฟัสแทบจะไม่มีสีเลือด เนื้อตัวเย็นเชียบดวงตาเบิกกว้าง เขากระตุกยิ้มน้อยๆอย่างหวั่นๆ เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่ๆ งบประมาณของราชสำนักจัดสรรไว้หมดแล้วนิ ไม่มีทางที่จะพอซื้อสมุนไพรมากมายขนาดนั้นแน่ ใช่แล้ว!เจ้าโกหก ข้าจะโบยเจ้าร้อยทีและให้ออกไปเป็นขอทาน ในฐานะที่บังอาจมาเล่นตลกกับข้า รูฟัสค่อยๆขยับลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล เป็นเรื่องจริงขอรับ เจ้าหญิงไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน แต่ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดซื้อทั้งหมด นี่มันบ้าอะไรกัน มีใครที่ไหนจะทุ่มเงินมากมายขนาดนั้นให้คนอื่นฟรีๆ หล่อนต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ รูฟัสทั้งงงงวย ทั้งโมโหจนหนวดกระดิก ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ตอนนี้ผู้คนทั่วทั้งเกาะต่างก็ไปรับบริจาคสมุนไพรกันเนื่องแน่นไปหมด เมื่อกี้ที่จุดบริจาคหน้าปราสาทมีประชาชนต่อแถวยาวเกือบมาถึงหน้าคฤหาสน์ของท่านแล้วขอรับ รูฟัสรีบวิ่งอย่างล้มลุกคลุกคลานไปเปิดผ้าม่านดู โดยมีบรรดาพ่อค้าวิ่งตามไปติดๆ ที่ท้องถนนเบื้องล่างคลาคล่ำไปด้วยพูดคนมากมายต่อแถวรอรับบริจาคกันยาวเหยียด โดยที่ท้ายแถวนั้นเลยคฤหาสน์ของพ่อค้าใหญ่ไปแล้ว รูฟัสแทบเข่าอ่อน เขารีบคว้าผ้าม่านไว้แน่นเพื่อช่วยพยุงตัว อย่างนี้สมุนไพรในโกดังอีกห้าสิบสองหลังที่เหลือจะทำอย่างไรล่ะ พ่อค้าคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังรูฟัสกระซิบถามเพื่อนพ่อค้าด้วยกัน คงไม่พ้นต้องเอามาแจกเหมือนกันกระมัง หรือไม่ก็คงขายแบบถูกสุดๆ เพราะสมุนไพรนี้เก็บไว้ได้ไม่นาน ขืนเก็บไว้มีหวังได้เสียของไปเปล่าๆ พ่อค้ากระซิบตอบ รูฟัสนั้นได้ยินคำสนทนาเต็มสองรูหู ความโกรธโหมกระหน่ำอย่างรวมเร็วเหมือนพายุร้าย เนื้อตัวของเขาสั่นเทิ้ม ใบหน้าแดงจัดจนแทบจะกลายเป็นคล้ำ เขากระชากผ้าม่านอย่างแรงจนขาดเป็นสองท่อน กัดฟันกรอด ก่อนที่จะเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างโกรธแค้น นังเจ้าหญิงตัวแสบ แก....แกจะต้องชดใช้ แกจะต้องชดใช้คืนไปร้อยเท่า ณ ท้องพระคลังส่วนกลาง เจ้าหญิงอลาน่า ซิสเตอร์โรซาน่า และ เหล่าซิสเตอร์ในคณะของซิสเตอร์โรซาน่ากำลังช่วยกันตรวจนับสิ่งของที่จะนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในวันรุ่งขึ้น ทันใดนั้นอองเดรก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว และก้มลงถวายบังคมเจ้าหญิงอลาน่า มือขวาถือหมวกเหล็กไว้ เมื่อเงยหน้าขึ้น จึงเห็นหน้าของเขาอย่างชัดเจน ดวงตาคมเรียวสีฟ้าอมเทาดูเย็นยะเยือกราวน้ำแข็ง คิ้วยาวตรง ชี้ขึ้นเล็กน้อย จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าเคร่งขรึมหยาบกร้าน ผมสีทองซีดประบ่า ริมฝีปากบางเม้มแน่นไร้รอยยิ้ม มีร่องรอยของจอนและเคราที่เพิ่งโกน ทำให้ใบหน้าเขาดูดุดัน แม้จะเป็นใบหน้าที่ดูเข้มแข็งสมชายชาติทหาร แต่ทว่า กลับดูไร้อารมณ์ และเย็นชายิ่งนัก ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องสำคัญจะต้องกราบทูล........ อองเดร พูดพลางใช้สายตามองเหล่าซิสเตอร์อย่างเย็นชาคล้ายจะเป็นการไล่ทางอ้อม ขอบใจมากจ้ะทุกๆคน ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดเองจ้ะ ซิสเตอร์โรซาน่าพูดกับบรรดาซิสเตอร์ทั้งหลาย ก่อนที่เหล่าซิสเตอร์จะโค้งคำนับอลาน่าแล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ ในขณะที่ซิสเตอร์โรซาน่า หันไปตรวจนับสมุนไพรต่อไป ขอบคุณมากนะคะ ซิสเตอร์ทุกท่าน อลาน่ายิ้มและก้มศีรษะเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนที่จะหันไปถามอองเดร มีอะไรหรือจ๊ะ อองเดร ทำไมฝ่าบาทถึงต้องเอาพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ออกมาใช้กับเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ อองเดรพูดด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่จะมองซิสเตอร์โรซาน่าอย่างกล่าวหา อลาน่ารู้ทันความคิดของเขาจึงพูดขึ้นว่า นี่เป็นความประสงค์ของฉันเองจ้ะ และมันก็ไม่ใช่เรื่องไม่เป็นเรื่องนะจ๊ะ ฉันกำลังทำสิ่งที่สมควรอย่างยิ่งและสำคัญที่สุดต่างหาก แต่ เรามีงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรไว้สำหรับด้านสาธารณะสุขอยู่แล้ว ใยพระองค์จึงยังจะต้องเอาพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ออกมาใช้ตั้งมากมายขนาดนี้พ่ะย่ะค่ะ แม้คำพูดจะแสดงถึงความเป็นห่วงแต่อองเดรก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เธอก็เห็นอยู่แล้วว่ามันไม่เพียงพอเลยมิใช่หรือจ๊ะ โรคระบาดแพร่ไปทั่ว แต่สมุนไพรกลับขาดแคลนและแพงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล และที่สำคัญฉันไม่เคยลืมเลยว่าเงินทองของฉันก็มาจากภาษีของประชาชนเหล่านี้ ฉันเพียงแต่ใช้เงินของพวกเขาช่วยเหลือพวกเขาในยามวิกฤตจำเป็นที่สุด อองเดรยืนนิ่งฟังเหมือนไร้ความรู้สึก แต่ภายในรู้สึกหงุดหงิดวุ่นวายใจ พยายามคิดหาเหตุผลมาห้ามเจ้าหญิง แต่ก็จนในเหตุผลของเจ้าหญิงเช่นกัน Title: Re:@@ นิยายSMN Chapter 17 ห้วงสมุทรแห่งพระเมตตา @@ Post by: Little Lamb, the Little Angel on December 19, 2004, 03:52:16 AM พระอาญาไม่พ้นเกล้า พระองค์ทรงทราบไหมว่าการที่พระองค์ทำเช่นนี้ ทำให้สมุนไพรที่รูฟัส ประธานสภาพ่อค้าเก็บกักไว้ราคาตก และเสียหายเป็นจำนวนมาก และกระหม่อมทราบมาว่ารูฟัสโกรธมาก การกระทำครั้งนี้เป็นการกระทบกระเทือนดุลย์อำนาจของสภาพ่อค้าวาณิชนะพ่ะย่ะค่ะ
อองเดร..... เธอคงได้ทราบว่ารูฟัสได้กักตุนสมุนไพรในการรักษาเพื่อให้ของขาดแคลน หวังจะโก่งราคาให้แพงขึ้น แต่ฉันอยากให้เธอได้ทราบในอีกแง่มุมนึงว่ามีเด็กๆ และประชาชนเสียชีวิตไปเท่าไหร่ โดยเฉพาะคนที่ยากจน ตายวันละเป็นร้อยคน เธอเห็นว่าสิ่งใดสำคัญกว่าระหว่างชีวิตประชาชนที่น่าสงสารของฉัน กับความพอใจของเขา อองเดรยังยืนนิ่ง ตอบอะไรไม่ออก จึงพูดเสียงเบาว่า กระหม่อมเพียงแต่ห่วงความปลอดภัยองค์หญิง อองเดร... ในสายพระเนตรของพระเจ้า ฉันได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นกิจการที่ดี พระเจ้าจะทรงอวยพร คุ้มครอง และ ปกป้องฉันจากภยันตรายทั้งหลาย ไม่มีใครทำอันตรายฉันได้หรอกจ้ะ หากใครหน้าไหนหรืออะไรก็ตามมาทำร้ายพระองค์ กระหม่อมจะแทงทะลุอกของมันด้วยดาบน้ำแข็ง! เสียงที่เรียบเฉยเปลี่ยนเป็นดุดัน อลาน่ายิ้มให้อองเดรแต่ในแววตาบ่งบอกความเศร้า ก่อนจะกล่าวว่า ฉันไม่อยากให้เธอ พูดว่าจะฆ่าใครเพื่อฉัน........... พระอาญามิพ้นเกล้า กระหม่อมไม่มีเจตนาให้เสียพระทัย กระหม่อมเพียงอยากทูลว่ากระหม่อมพร้อมถวายอารักขาเจ้าหญิงด้วยชีวิตของกระหม่อม และด้วยชีวิตของฉัน..... ก็เพื่อมอบความรักและความสุขให้ประชาชนของฉันเช่นกันจ้ะ อองเดรถึงกับนิ่งอึ้งกับคำตอบของอลาน่า อลาน่ายิ้มอย่างอ่อนโยน พรุ่งนี้ฉันจะออกไปเยี่ยมคนป่วยในเขตกักกันโรคติดต่อ กับบรรดาซิสเตอร์ในคณะของซิสเตอร์โรซาน่านะจ๊ะ อองเดรตกใจกับคำพูดนี้อย่างยิ่ง นัยน์ตาเบิกกว้าง องค์หญิง พระองค์ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น..... พวกนั้นได้ยาที่จำเป็นในการรักษาแล้ว เธอเข้าใจผิดแล้วอองเดร สิ่งที่พวกเขาขาดแคลนที่สุดไม่ใช่ยารักษาโรค แต่เป็นกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่างหาก ฉันอยากช่วยให้พวกเขามีกำลังใจต่อสู้โรคร้าย ความรักจะช่วยเยียวยาหัวใจที่ทุกข์โศกของพวกเขา อลาน่าพูดประโยคนี้ด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย และด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนราวกับเทวดา อองเดรรู้สึกพ่ายแพ้กับหัวใจที่ประเสริฐของอลาน่า ก้มหน้ากล่าวเสียงเรียบ กระหม่อมอยากทูลขอให้องค์หญิงอย่าแตะต้องผู้ป่วยเหล่านั้น กระหม่อมเกรงพระองค์จะติดโรคร้าย ฉันคงรับปากเธอในข้อนั้นไม่ได้........ สีหน้าของอองเดรที่เรียบเฉยมาตลอด เวลานี้กับฉายแววกังวล และเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด อองเดรจ๊ะ พวกเขาโดนรังเกียจราวกับตัวเชื้อโรค ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ไม่มีใครกล้าสัมผัสโดน แม้แต่ญาติพี่น้องก็ไล่ให้มาอยู่ในเขตกักกันโรค ทุกคนที่นั่นอยู่ในความทุกข์สาหัสทางจิตใจอยู่ 2 อย่าง คือ ไม่เป็นที่ต้องการ และไม่เป็นที่รัก ฉันไม่อาจแสดงความรังเกียจพวกเขาซ้ำลงไปอีกได้ ตรงข้ามฉันจะต้องเป็นคนที่ให้ความรัก ฉันอยากให้เขาได้รู้ว่ามีคนที่ยังเป็นห่วงพวกเขาทุกคนอยู่ ......... อองเดรเงยหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ มองมายังอลาน่าราวกับวิงวอนให้เลิกล้มความคิด อองเดรไม่ต้องห่วงฉันหรอกจ้ะ ฉันกับพวกซิสเตอร์มีพลังการรักษาจากพระเจ้า ซ้ำรู้วิธีทำความสะอาด และป้องกันตัวจากโรคติดต่อพวกนี้ ฉันรับรองกับเธอได้ว่าจะกลับมาโดยไม่ล้มป่วยไปแน่ๆจ้ะ กระหม่อมไม่เข้าใจพระองค์เลย........... ฉันหวังว่าสักวันเธอจะเข้าใจจ้ะ ฉันจะอธิษฐานต่อพระเจ้าให้เธอสามารถรับรู้และเข้าใจถึงน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยความรักเมตตาของพระองค์ เอาล่ะฉันคงจะต้องกลับห้องเสียที พรุ่งนี้ฉันจะต้องออกไปเยี่ยมประชาชนแต่เช้า อลาน่าพูดด้วยน้ำเสียงยินดีเมื่อคิดถึงภารกิจในวันพรุ่งนี้ เธอหันไปทางซิสเตอร์โรซาน่าซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก ซิสเตอร์คะ ฉันฝากดูแลทางนี้ด้วยนะคะ ฉันคิดว่าฉันคงจะต้องตระเตรียมของใช้ส่วนตัวสำหรับวันพรุ่งนี้สักหน่อย Title: Re:@@ นิยายSMN Chapter 17 ห้วงสมุทรแห่งพระเมตตา @@ Post by: Little Lamb, the Little Angel on December 19, 2004, 03:53:40 AM อลาน่าพูดพลางก้าวเดินออกจากห้องด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความสุขเมื่อนึกถึงภารกิจในวันพรุ่งนี้ จนเธอแทบจะทนนับนาทีคอยแสงอาทิตย์ของวันใหม่ไม่ไหว
เมื่ออลาน่าจากไปแล้ว อองเดรมองซิสเตอร์โรซาน่าด้วยสายตาเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว เป็นเพราะท่าน! ท่านเสี้ยมสอนให้องค์หญิงงมงายกับเรื่องพระเจ้า เสี้ยมสอนให้พระองค์งมงายเรื่องความรัก ความเมตตาจนทำอะไรเกินตัว ไม่ห่วงสวัสดิภาพของพระองค์เอง โรซาน่านิ่งอึ้งไปชั่วขณะกับวาจาขององครักษ์หนุ่ม ก่อนจะตอบด้วยท่าทีสงบนิ่ง ท่านเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้สอนอะไรองค์หญิงเลย ฉันไม่สามารถสอนความรักความเมตตาให้แก่คนที่แสนประเสริฐกว่าฉันได้หรอกค่ะ............ อองเดรชะงักกับคำตอบของซิสเตอร์ เธอจึงกล่าวต่อไปว่า ท่านราชองครักษ์ จนป่านนี้ท่านยังไม่รู้อีกหรือว่าองค์หญิงมิได้บังเกิดมาเพื่อรับความรักจากใคร แต่บังเกิดมาเพื่อมอบความรักให้แก่คนทุกคน โรซาน่ายิ้มราวกับจะอ่านใจขององครักษ์หนุ่มได้ ท่านอยากให้องค์หญิงเก็บความใจดีไว้ให้ท่านผู้เดียวใช่หรือไม่ อองเดรถึงกับสะดุ้งเย็นวาบไปทั้งหน้า เขารีบเบือนหน้าไปทางกระสอบสมุนไพรและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเป็นการกลบเกลื่อน ข้า....ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์หญิงต่างหาก การที่พระองค์เที่ยวเดินไปทั่วทุกซอกทุกมุมในแหล่งสลัมอาจทำให้พระองค์ไม่ปลอดภัย และยิ่งเหตุการณ์ในวันนี้เท่ากับพระองค์สร้างศัตรูที่ร้ายกาจเพิ่มขึ้นอีก พระองค์อาจถูกลอบทำร้ายเมื่อไหร่ก็ได้ ทางที่ดีควรให้พระองค์เก็บตัวอยู่ในปราสาทและออกมาภายนอกสำหรับภารกิจที่สำคัญๆเท่านั้น การให้พระองค์อยู่แต่ในปราสาท งดเว้นการออกช่วยเหลือประชาชนก็เหมือนกับจองจำพระองค์ในคุกนั่นแหละค่ะ พระองค์บังเกิดมาพร้อมกับพระเมตตาของพระเจ้า การช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากคือชีวิตของพระองค์ ท่านราชองครักษ์ ฉันมีเรื่องนึงอยากเล่าให้ท่านฟัง ครั้งหนึ่งเมื่อพระองค์มีพระชนมายุเพียง เก้าชันษา เจ้าหญิงได้เข้าร่วมพิธีขอบพระคุณพระเจ้าในมหาวิหารแห่ง แอนดิซอง ที่บรรดาขุนนางคนรวย และเชื้อพระวงศ์จะนั่งอยู่ด้านหน้า ถัดมาเป็นพ่อค้าวานิช และที่อยู่ท้ายสุดคือคนยากจนซึ่งจะยืนอยู่ด้านหลังจนล้นออกไปนอกวิหาร เจ้าหญิงทรงรู้สึกขัดแย้งในพระทัยอย่างมาก พระองค์คิดว่าพระเจ้าเห็นมนุษย์ทุกคนเท่าเทียม ทรงให้แสงแดดส่องไปยังคนจนและคนรวยเท่ากัน แล้วเหตุใดมนุษย์จึงมาแบ่งแยก เจ้าหญิงลุกขึ้นวิ่งออกไปยืนอยู่แถวหลังสุดในวิหาร บรรดาข้าราชบริพารต่างตกใจวิ่งออกมาตามเจ้าหญิง เจ้าหญิงตรัสด้วยเสียงที่แจ่มใสว่า ที่ตรงนี้ฉันมองเห็นพระเจ้าได้ชัดที่สุด และโดยเฉพาะท่ามกลางคนเหล่านี้ ฉันรู้สึกถึงความรักของพระเจ้ามากกว่าข้างใน คงเป็นจุดที่ต่ำต้อยที่สุดตรงนี้แหละที่พระเจ้าจะทรงมองเห็นฉันได้ชัดที่สุดเช่นกัน คำพูดของเจ้าหญิงองค์น้อยสร้างความปลาบปลื้มแก่บรรดาคนยากจนจนหลายคนถึงกับหลั่งน้ำตา ท่านคิดว่าเด็กที่มีอายุ เก้าขวบจะสามารถพูดเช่นนี้ได้หรือ หากมิใช่การดลใจจากพระเจ้า ซิสเตอร์โรซาน่าเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในอดีตของเจ้าหญิงอลาน่าให้องครักษ์หนุ่มฟังอย่างชื่นชม เมื่อทรงประทับรถม้าไปตามถนนหนทาง บรรดาลูกสาวขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์คนอื่นล้วนนั่งเชิดชูคอราวพญาหงส์ แต่เจ้าหญิงกลับชอบชะโงกมองนอกหน้าต่าง และยิ้มให้ทุกคนที่พบเห็น ทรงโบกมือให้ขอทาน บางครั้งก็ตรัสทักทายผู้คน แม้คนส่วนใหญ่จะตกประหม่า แต่ก็ล้วนปลาบปลื้มในความน่ารักของพระองค์ และทุกครั้งเมื่อในปราสาทจัดงานเลี้ยง เจ้าหญิงจะสั่งให้เก็บอาหารที่เหลือไว้แจกคนจนตามท้องถนน โดยทุกครั้งจะเสด็จแจกจ่ายโดยพระองค์เอง เพราะไม่มีความสุขใดเทียบเท่ากับการเห็นคนยากจนรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุข ซิสเตอร์โรซานายิ้มน้อยๆ ก่อนจะกล่าวว่า ฉันยืนยันกับท่านได้ว่า จิตใจที่เปี่ยมรักเมตตาของเจ้าหญิงนั้นประเสริฐงดงามเกินกว่าที่ฉันจะสอนได้ หากแต่เป็นพระพรจากพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้ค่ะ อองเดรยังคงทำหน้าเฉยชาและนิ่งเงียบไม่ตอบใดๆ ซิสเตอร์โรซาน่ายิ้มน้อยๆเมื่อเห็นท่าทางขององครักษ์หนุ่มจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียก่อน เอาล่ะค่ะนี่ก็จวนจะถึงเวลาภาวนาช่วงเย็นแล้ว ฉันคงจะต้องขอตัวไปที่วิหารก่อนนะคะ เมื่อพูดจบซิสเตอร์โรซาน่าก็เดินจากไป โดยทิ้งอองเดรให้ยืนอยู่เพียงผู้เดียว เมื่อทุกอย่างรอบตัวนิ่งสงบและเสียงฝีเท้าของซิสเตอร์โรซาน่าเงียบลงแล้ว อองเดรจึงกวาดสายตาไปยังบรรดากระสอบสมุนไพรที่วางเรียงรายเบื้องหน้าก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่กระด้างเย็นว่า ต่อให้เป็นบัญชาของพระเจ้า ข้าก็จะฝืนให้ดู แล้วจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว |