Summoner Master Forum

เอ่อ ปกติแล้วคนเล่นน้ำส่วนใหญ่ก็จะเล่น เคิร์ส ใช่มะคะ แล้วก็ไม่ค่อยตีกันเท่าไหร่ แต่เวลาเจอเค้าตีเยอะๆก็จะหมดโต๊ะ ดังนั้นเมื่อน้ำลุกขึ้นสู้จะเป็นอย่างไรน้อ

alana , the return of the queen
lv.2  3/1  water  mage  
at 6
df 9
sp 3
+ water     ocean wave     at 8 mp 1
+ n(annedisonge)     the lady of annedisonge     at 11 mp 3
+ jormangand     the last holy grail     at 8 (all) mp 4

skill - sacrifice support seal ของ alana ; นำ seal ทุกใบที่ติด curse กลับขึ้นมือของเจ้าของ seal ใบนั้น (int) mp 3
alana cancel curse

growth n(alana)
เมื่อ alana สั่งโจมตีแบบ all seal ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ถูกทำลายติด freeze curse 1 turn
alana ยกเลิกความสามารถของ fire

ถึงจะมีการทำการ์ดโปรโมออกมาถึงสองใบแต่ก็ยังไม่เป็นที่หน้าพอใจนักสำหรับเจ้าหญิงผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะมีมาเล่นกันบ้างแต่ยังพบว่า เจ๊นอร์ยังคงอยู่ยงคงกระพันอยู่ และเรามีสิทธิที่จะโดนเธองาบเอาง่ายๆ หรือโดนตบแบบไม่ยั้งจาก seal ใบอื่นดังนั้นเธอจึงถูก remake ขึ้นมาใหม่ ด้วยความสามารถ แซค seal รอง แล้วดึงขึ้น โอ้ว มาย ก็อด ทุกตัวด้วยนะ แถมถ้าโกรธแล้ว สาดที แข็งแก๊ง!! พอ turn เค้า แซค ทีดึงขึ้น โอ้ว ล้นมือ ดิสๆๆๆๆๆ แต่ถ้าการ์ดไม่ล้น แล้วก็จะยังไงๆอยู่ หากปล่อยไว้เฉยๆ ก็อาจจะเกิดภัยได้ดังนั้นเธอจึงมีมือขวา

remedi , the royel dancer of annedisonge
lv.2  3/2  water  dancer
at 7
df 8
sp 4
+ musician     aurora waltz     at 9 mp 3
+ n(annedisonge)     the star of annedisonge     at 11 mp 4

dancing at line
เลือก seal 1 ใบ ในมือฝ่ายตรงข้ามแบบสุ่ม นำ seal ใบนั้นลงสู่ shrine
เมื่อเรามี mp เหลือใน sีubturn นี้ remedi + at ตาม mp ที่เหลือนั้น 1 turn
เมื่อ remedi ต่อสู้ remedi mp - ค่าโจมตีตาม lv ของ seal ที่ remedi ต่อสู้ด้วย  
เมื่อ remedi ตก shrine seal 1 ใบ ฝ่ายตรงข้าม ติด freeze curse inf turn และ effect นี่ไม่สามารถถูกยกเลิกได้ตราบเท่าที่ remedi อยุ่ใน shrine

รู้แล้วรึยังว่าเธอทำอะไรได้ทิ้ง seal ไง แล้วเวลาใช้ mp ไม่หมดอ่ะบวกแหลกเลย แถมเวลาต่อสู้ลบ mp ค่าโจมตีอีก โหตบ 11 จ่าย 0 อ่ะ มีแก้เหลือเลย โหดมะ ต่อจากนั้น ก็เป็นกับดักสุดโหด แข็งไปเลยตลอดกาล ยกเลิกไม่ได้อีกจนกว่าจะออกจาก shrine ก็สรุปว่า ถ้าเค้าจะยกเลิกก็ต้องชุบให้เราหรือส่งออกไง อิอิ เนียน
เอาหล่ะตัวสุดท้ายของวันนี้

elizabeth , the annedisonge sniper
lv.3  3/3  water  knight
at 8
df 9
sp 5
+ n(sniper)     twin assault     at 10 mp 4
+ n(annedisonge)      the sniper of annedisonge      at 9 (3times) mp 5

skill - seal 1 ใบที่ติด curse ติด death curse mp 4  
elizabeth สามารถโจมตีไปที่ df line ได้เมื่อ elizabeth อยู่ที่ df line
เมื่อ elizabeth ตกเป็นเป้าหมายของ mystic card สั่ง elizabeth โจมตีขึ้นมือฝ่ายตรงข้าม
elizabeth cancel mytic card ของฝ่ายตรงข้าม

สุดโฉดจริงๆนะเนี๊ยะ ตบ 9 สามครั้งถ้าอยู่ df line ตีไป df line เค้าได้ด้วย เด็กร้องไห้แงๆ หรือหากหนามากเพียงคุณยิงเคิร์สเข้าไปแล้วสาบส่งลงนรกเลยก็ดี แล้วความสามารถสุดท้ายโฉดที่สุดเป้นการช่วย alana ไปในตัวแต่ เธอ cancel mystic card ฝ่ายตรงข้ามนี้นา เพียงเราแปะไป ตูม ยิงขึ้นมือเลย สะใจจริงๆ

ไงก็ช่วยๆกันคิดนะคะ แล้วจะมาช่วยคิดอีกไปก่อนนา

ไม่รู้สิ เด๊คน้ำผมเล่นได้ทั้งเคิร์สทั้งตี

Hexe , the Annedisonge ocean knight
Mp 4/3     Lv.3      knight   water
At 9    Df 9  Sp 3
+water                    ocean sword     At  10 Mp 3
+[N[Anndesonge]   sea of the west  At  12 Mp 3
เมื่อ Hexe เข้ามาในสนาม [N[ocean] ทุกใบในสนาม At+2 inf turn
เมื่อ Hexe โจมตี เลือก water ใบอื่น1 ใบในสนามฝ่ายเรา At+1 / 1 turn
เมื่อ Hexe ตก shrine จากสนาม [N[Annedisonge] ทุกใบในสนาม At +1 inf turn

Hook , the captain of unknown sea
Mp 4/2     Lv.3      knight   water
At 9  Df 9  Sp 3
+water              playground shoot  At 11       Mp 3
+water water    unknown sea hell  At 10[all] Mp 5
[skill] sacrifice seal 1 ใบ : seal 1 ใบในสนาม สามารถโจมตีข้ามไปยัง Df line ได้จนจบ sub turn เมื่อ Hook รวมร่าง [At line][Mp 1]
ตราบเท่าที่ Hook อยู่ในสนาม water ทุกใบฝ่ายเรา Df+3[At line]

ตัวนี้ท่าทางอาจจะมาแทน อังเดร อ่ะนะ
(ประมาณว่าเป็นทหารรักษาพระองค์)

Elzam, Guardian of Annedisonge
Mp 4/2  Lv.3  water  Knight
At  10
Df  9
Sp 4
+water  Frozen Lance   At 11 Mp2
+water  water  Blizzard Lance  At10(2 Times)  Mp3

เมื่อ Elzam เข้ามาในสนาม seal ทุกใบในสนามฝ่ายเราป้องกันการโจมตี 1 Turn
Elzam สามารถโจมตีไปยัง Df Line ได้ หาก Seal นั้น Df น้อยกว่า Elzam


สำหรับตัวนี้เป็น Merman King เลยละ

Undamadius,King of Lemuria
Mp 5/3  Lv.4   Knight  Water
At 10
Df 10
Sp 4
+water  Unda Spirit   At 11  Mp 3
+water [any element]  Unda Avatar  At 13  Mp 4
ตราบเท่าที่ Undamadius อยู่ในสนาม water ใบอื่นฝ่ายเรา at+1 df+2 /inf turn
n[Merman] ใบอื่นฝ่ายเรา at+2 sp+1
n[Marmage] ใบอื่นฝ่ายเรา  at+1  mp-2
n[Mermaid] ใบอื่นฝ่ายเรา  at+1  df+2
เมื่อ Undamadius โจมตี +at ตาม water ใน shrine เราจนจบการต่อสู้
Undamadius ยกเลิก Curse

ที่ว่ามาเนี่ยเป็นโปรโมหมดเลยหรอครับบ บอกหน่อยย

สร้างด้วยคน แอนดิซองค์ไม่มี อองเดรม๊ะด้าย

Andre, Aide De Camp General of Annedisonge
Mp 4/3   Lv. 3   Water   Knight   Rare
At 9
Df 10
Sp 4
 
(Water)                      Iced Blade                        At 12  Mp 3
(N Alana)                   Aide De Camp of Alana   All 10  Mp 5
(N Annedisonge)       Iced Spear                       At 11 Mp 3

เมื่อ (N Alana) ถูกโจมตี นำ Andre, Aide De Camp General จากมือเข้ามาในสนาม จากนั้นสั่ง Seal ฝ่ายตรงข้ามทุกใบไปที่ Df Line ((http:///images/sign_inf.gif)) Mp 4  

เห็นด้วยกับความสามารถนี้นะครับ ตี All ของธาตุนี้น่าจะทำแบบนี้ได้ จะทำให้น่าใช้มากๆ เลยงับ จ่าย 5 ซัก 8 All ก็พอ เพราะยังไงก็ โดนแช่อยู่ดี

แล้วถ้าธาตุน้ำ เป็นฟรีส maybe พ้อย ชามร์
ลม-ไดเมน
ดิน-สโตน
ไฟ-? maybe ลาสแดนส์

อีกอย่างนะคะคือช่วย ให้มันมีชื่อ annedisonge หน่อยคะจะได้ตรง คอนเซป และจะได้รวมกันได้

พึ่งคิดได้ตอนกลับบ้านเลย

Annedisonge Soldier
Mp3/1     Lv 1  Water  Knight  Rare

At 4
Df 4
Sp 3

(water)                                                                Water Spear  At 7 Mp 1
(Annedisonge Soldier) (Annedisonge Soldier)    Soldier Battle   At 9  Mp 2

เมื่อ Annedisonge Soldier เข้ามาในสนาม นำ Annedisonge Soldier 1 ใบ จากกองเข้ามาในสนาม
ตราบเท่าที่ Annedisonge Soldier อยู่ในสนามตั้งแต่ 2 ใบ ขึ้นไป Seal ทุกใบฝ่ายเราป้องกันการ Steal

Annedisonge Soldier Cancel Steal

คราวนี้ได้ตีกันเร็ว ๆ แน่ ลงใบเดียวได้ถึง 4 เหอะ ๆ ๆ ๆ หรือจาเปลี่ยนตรง Triple เป็นคอม (Annedisonge) เฉย ๆ ดีอ่ะ

อีกใบ ๆ

Fraga, the General of Annedisonge
Mp 4/2   Lv. 2    Knight   Water   Rare
At 8
Df 9
Sp 4

(Water)                    Power Slash          At 10      Mp 3
(Annedisonge)        Flash Slash            At 11      Mp 3

ตราบเท่าที่ Fraga, the General of Annedisonge มี Annedisonge เป็นใบรอง Fraga, the General of Annedisonge สามารถเลือกโจมตี Seal ใบรองของฝ่ายตรงข้ามได้

Skill ตราบที่ Fraga, the General of Annedisonge มี Annedisonge เป็นใบรอง Fraga, the General of Annedisonge สามารถ Discard Mystic * ใบ Fraga, the General of Annedisonge สามารถโจมตีได้ * ครั้ง Mp 1  และต้องจ่ายค่าโจมตีนั้นด้วย

โหดไปม๊ะเนี่ย - -"

ตัวนี้ทำให้บู้แหลกแน่ ๆ อยากให้ Annedisonge มีนักปราชญ์กะเค้าบ้างอ่ะ

Sage of Annedisonge
Mp 3/1  Magic  Water  Lv. 2  Rare
At 7
Df 8
Sp 4

(Water)                                       Water Magic          At 9   Mp 2
(Annedisonge) (Annedisonge)     Water Impact         All 9  Mp 5

Skill  น้ำทุกใบในสนามฝ่ายเรา Mp cost -1 จนจบ Subturn เมื่อ Sage of Annedisonge รวมร่าง Mp 0

นี่คือ Eric ตอนได้เลื่อนขั้น

Eric, Merman General of Annedisonge
Mp 3/1  Water  Knight  Lv. 2  Rare
At 7
Df 7
Sp 3

(Water)                    Marine Lance              At 8  Mp 2
(Annedisonge)         Longithalassa Trident  At 9  Mp 3
(Water) (Water)       Strom Longithalassa     All 7  Mp 4

เมื่อ Eric, Merman General of Annedisonge ต่อสู้ จะเทียบพลังของตนเองกับค่า Df ของฝ่ายตรงข้ามเสมอ
สามารถนำ Longithalassa, the Trident of Eric จากกองการ์ดมาติดที่ Eric, Merman General of Annedisonge ((http:///images/sign_inf.gif)) Mp 2

Growth  Eric, Merman Commander
เมื่อ Eric, Merman General of Annedisonge ต่อสู้ Seal ที่ต่อสู้ Df -2 จนจบ Subturn

ปล. วิจารณ์กันได้นะคร้าบ

คราวนี้ขอเสนออัศวินสาวแห่งแอนดิซอง

Christina, the Knight of Annedisonge
Mp 3/1 Knight Water  Lv.2
At 8
Df 7
Sp 3
[Water]  Cystal Blade  At 10 Mp 3
[Water][Water]  Frost Strike  At 11 Mp 3

เมื่อ Christina โจมตีสำเร็จ Mp เรา +3
เมื่อมี Mystic Card ติดบน Christina Mp ค่าโจมตีของ Christina -2

ตัวนี้แทบจะเป็นตัวตบชั้นดีเลยทีเดียว ถ้ามีมิสติกติดตัวเธอเท่ากับว่า จ่าย1 ตบเท่านั้น
แถมยังได้ Mp เพิ่มอีก 3 (ถ้าตบสำเร็จ)

อันนี้เป็นศาตราวุธใช้เสริมพลังคุณเธอผู้นี้

Aquamarine,the Sword of Christina
Mp 2 Inf Turn PS
Seal ที Aquamarine,the Sword of Christina ติด At+1 Df+1 Sp+1 และได้รับ Ability
"Seal ที่ต่อสู้กับ Seal ที่ติด Aquamarine Sealนั้นติด Freeze Curse 1 Turn"
หาก Seal ที่ติดคือ n[Christina] จะได้รับ Ability "เมื่อโจมตีสำเร็จ Mp เรา+ ตาม Lv. ของSeal ที่ต่อสู้ด้วยและสามารถโจมตีได้อีกครั้งแม้ว่าเป็นInactive Seal"ด้วย

ศาตราวุธของเธอร้ายไม่ใช่เล่นทำให้เธอ ....(คิดเอาเอง)

คริสติน่านี่ใช่แฟนของ Annedisonge Paladin ป่ะ เหอะ ๆ ๆ ค่าตีลบ 2 เหมือนกันเยย

งั้นวันนี้เสนอ โจรบ้างดีกว่า

Annedisonge Kidnaper
Mp 3/1  Lv. 2  Bandit   Water    Rare

At 6
Df 7
Sp 4

Ability เมื่อ Annedisonge Kidnap เข้ามาในสนาม เลือก Steal Seal 1 ใบ ที่มี Sp น้อยกว่า Annedisonge Kidnap (ยกเลิก Ability นี้เมื่อฝ่ายตรงข้ามมี Seal น้อยกว่า 2 ใบ)Skill  เมื่อฝ่ายตรงข้ามสั่งการ Seal  Annedisonge Kidnap สามารถ Steal Seal ใบนั้นได้ถ้า Seal ใบนั้นมี Sp น้อยกว่า Annedisonge Kidnap
((http:///images/sign_inf.gif)) Mp 3
ฝ่ายตรงข้ามสามารถนำ Seal ที่ถูก Annedisonge Kidnap กลับขึ้นมือได้ โดยจ่าย Mp ค่าร่ายของ Seal  ใบนั้น และจากนั้น Mp ฝ่ายผู้ควบคุม Annedisonge Kidnap +ตาม Mp ค่าร่ายของ Seal ใบนั้น

ใช้ตัดเกมส์ได้ดีเชียวใบนี้

เอา gunner บ้างดีกว่า

Elda,the annedisonge gun master
lv.2  2/1  water  gunner  
at 5
df 9
sp 3
+water     water bullet     at 6 mp 2
+n(annedisonge)    i will safe the queen     at 7 mp 2

skill สั่ง elda โจมตี int mp 4
elda + at ตาม at ของ seal รองของ elda และ สามารถโจมตีได้ x ครั้งตาม lv ของ seal รองรวมร่างนั้น
เมื่อ elda โจมตีสำเร็จ sacrifice esal รองของ elda
elda cancel curse

อิอิ โหดหรือเปล่าค่ะ seal รองคือ จอร์มันการ์ด at 10 lv 3 เท่ากับว่าตี 16 3ครั้งจ่าย 2 ถ้า อินเตอร์เฟียร์ก้ 4
อิอิ เก้บไปคิดดูก็ได้นะคะ

ถ้างั้นต่อไปเป็นพาลาดินหนุ่มที่เป็นแฟนคริสติน่า(สงสัยงานนี้คงมีรักต้องห้าม เหอะๆ)

Duo,Annedisonge Paladin General
Lv.2  Mp3/1 Water Knight
At 7
Df 8
Sp 4
[Water] Blizzard Sword  At 9 Mp 2
n[Annesonge] For the glory of Annedisonge At 11 Mp 3

Duo Mpค่าโจมตี -1 ตามจำนวนMystic Card ในมือฝ่ายตรงข้าม
ขณะที่ Duo ต่อสู้กับ Seal ที่มีค่าร่ายน้อยกว่า Duo At+2
Duo Mp ค่าร่าย -2 และ ยกเลิก Freeze Curse เมื่อมี Christina ในสนาม

ต่อไปคือศราตราวุธของเขา
Ocedius,the Sword of Duo
Mp 2 inf Turn PS
Seal ที่ติด Ocedius ได้รับ At+2 Mp-2 และได้รับ "Skill:ทิ้งการ์ด 1 ใบในมือ Seal 1 ใบ
Mp ค่าโจมตี -2 และสั่งโจมตีท่าใดก็ได้ inf(Mp0)"
ถ้า Seal ที่ติด Ocedius คือ Duo,Annedisonge Paladin General ได้รับAlibity "ขณะที่
Duo โจมตี สามารถนำ Mystic Card ติดลงบน Duo โดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย"และ
"เลือก Seal 1 ใบในสนาม แล้วสั่ง Duo โจมตี Seal ได้Xครั้งตามจำนวนLv.ของSeal นั้น แม้ว่า เป็น Inactive Seal ก็ตาม"ด้วย

หุหุ โหดพอๆกัน

Gunner นะผมว่า Seal  รองเป็น Mantelluma ดีกว่านะ ตีได้ 4 ครั้ง เอ้ยม้ายช้ายล่ะ มันโหดปายป่ะคร้าบ ตีแต่ล่ะทีล่อซะฝ่ายตรงข้ามแทบจะยอมแพ้ ถ้าไม่อยากให้โหดมากนะเติมนี่เข้าปายด้วย "เมื่อ Seal รองตก Shrine Lv.+1  2 Turn"  งี้แล้วเวลายิงแต่ล่ะที่ต้องคิดก่อนล่ะเหอะ ๆ ๆ ๆ

ดาบของดูโอนี่ถ้าดูโอติดแล้วจะโจมตีกี่ครั้งก็ได้อ่ะดิ เพราะแม้เป็น Inactive ก็โจมตีได้นิ ผมเข้าใจถูกป่าวหว่า = ="

เหอๆ เดาถูกแล้วล่ะ แต่เป็นงั้นจริงๆมันก็โกงระเบิดเลยอะดิ
แก้ Ability ตัวที่ 2 ของดาบ
"เลือก Seal 1 ใบในสนาม แล้วสั่ง Duo โจมตี Seal ได้Xครั้งตามจำนวนLv.ของSeal นั้น"ด้วย
ต้องแก้ไม่งั้นมันจะโกงโคตร

ต่อไปเป็น Pugilist บ้างนะ

Elfaria,the Annedisonge Fighter
Lv.2 Mp2/1 water PUGILIST
At 7
Df 7
Sp 3
[water] Icicle Kick At 9 Mp 2
n[Annedisonge] Blizzard Fist At 11 Mp 3
เมื่อ Elfaria ต่อสู้กับ Seal ที่ DF น้อยกว่า Elfaria สามารถเลือกเทียบค่าพลัง ของ Elfaria กับค่าของ Seal ที่ต่อสู้ได้
เมื่อมีผู้เล่นร่าย n[Gluntlet] Elfaria Mp ค่าโจมตี-2
ตราบเท่าที่ Frost อยู่ในสนาม Elfaria ยกเลิก Curse

และแน่นอนสาตราวุธของเธอ

Shiva,Gluntlet of Elfaria
Mp 2 inf Turn PS
Seal ที่ Shiva ติด At +1 Mp -1 และได้รับ Ability "Seal ที่ต่อสู้กับ Seal ที่ติด Shiva อยู่ติด Freeze Curse 2 Turn"
หาก Seal ที่ Shiva ติดคือ n[Elfaria] +At ตามจำนวน n[Annedisonge] ในสนามฝ่ายเราด้วย

ปล. Shiva ที่ว่า ไม่ใช่ พระศิวะ นะขอบอกไว้ก่อน

ต่อไปคือแฟนของเธอ
Frost,The Annedisonge Fighter
Lv.2 Mp 3/2 water Pugilist
At 8
Df 8
Sp 4
[any element] Frost Strike At 10 Mp 3
n[Annedisonge] BLizzard Fist At 11 Mp 3
เมื่อ Frost เข้ามาในสนาม Seal 1 ใบติด Freeze Curse 1 subturn
Frost สามารถโจมตีข้าม Df Line ได้หาก Seal นั้นติด Curse
Frost โจมตี Seal ที่ Df Line Frost At +2
ตราบเท่าที่ Elfaria อยู่ในสนาม Frost ยกเลิก Skill และ Ability ของ Seal ฝ่ายตรงข้าม

และศราตราวุธของเขา(อีกแล้ว)
Saviour,Gluntlet of Frost
Mp 2 inf Turn PS
Seal ที่ Saviour ติด At+2 Sp+1 และได้รับ Ability "ตราบเท่าที่มี Seal ที่ติด Freeze Curse อยู่ในสนาม
Seal ที่ Saviour ติด At +1 หาก Seal ที่ติดคือ n[Frost] จะได้รับ Ability "เมื่อเข้าสู่ Subturn โจมตีฝ่ายเรา เราสามารถเลือก Seal 1 ใบ ติด Freeze Curse inf Turn"และ"Seal ที่ติด Freeze Curse ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้าม At -2 Df -2"ด้วย
ยกเว้น : Seal Lv.3 ขึ้นไป

โหดกำลังดี Frost ตบข้ามแนวได้ทุกตัว แถมฝ่ายตรงข้าม At-2 Df-2 เรียกว่าเตรียม Shine รอได้เลย (ถ้ามีตัวยกเลิก Curse ก็คงลำบากอยู่บ้างนะ)  ส่วน Elfaria เป็นคู่รักช่วยเหลือด้วยกัน รับรองเขาและเธอ โหดมาก

ขอเตือนค่ะ อีนักสู้มือสองตัวนี้พอติดอาวุธเข้าไปปุ๊บก็แทบแย่เลยอ่ะค่ะ เวลาคิดอย่าให้แรงมากนะคะ(อุอุ เราก็แรงพอกัน)

ผมว่านะครับ Ability นี้น่าจะเป็น Ability  ของ  Magic  มากกว่านะครับ นักสู้ไม่น่าจะมี Ability นี้นะครับ ถ้าจะมี Ability นี้น่าจะมี 2 อาชีพนะครับผม จาได้เข้ากับอาวุธด้วย ใช้เวทย์ทำให้ติด Freeze  อืม....2 อาชีพ เดี๋ยวกลับปายคิด อัศวินที่ใช้เวทย์มนต์ได้ดีกว่า เหอะ ๆ ๆ  ๆๆ   แต่ก็เป็นใบที่น่าสนใจนะครับ
ป.ล. ชิว่านี่เอามาจากไฟนอล 8 ป่ะครับ เหอะ ๆ ๆ ๆ หรือเรื่องอื่นก็มีหว่า = ="

เหอ ๆ แรงไปหรือนี่(คิดว่านักแม่นปืนมันแรงกว่านะ) ที่จริงเขาและเธอมีที่มานะ
เดี๋ยวค่อยบอกทีหลังละกัน
ตัวต่อไปเลยละกัน

Ryuke,The Annedisonge General
Lv.3 Mp4/3 water Knight-Mage
At 10
Df 9
Sp 4
+[water] Icicle Lance At 11 Mp 3
+n[annedisonge] Blizzard Field At 10(all) Mp 5
เมื่อ Ryuke โจมตี +At ตามจำนวน n[Annedisonge] ในสนาม
เมื่อเข้าสู่ Subturn โจมตีฝ่ายเรา Seal 1 ใบติด Freeze Curse 2 Turn
Skill: Seal 2 ใบ ที่มี Sp 2,3,4,5 ติด Freeze Curse และ At -2 Df -2 2Turn เมื่อ Ryuke รวมร่าง (mp3)
ตราบเท่าที่มี Ryuke อยู่ในสนาม n[Annedisonge] At+2 Sp+1 และยกเลิก Freeze Curse

ตัวนี้มะค่อยโหดเท่าไหร่นะ

กำลังจาคิดอัศวินที่ใช้เวทฯ ได้อยู่เชียวโดนตัดหน้าซะล่ะ  แต่ผมชอบ ๆ ถ้ามีจาเอาใส่เด็คทันที เหอะ ๆๆ ๆ แต่คอมใบเดียวออลได้นิ แรงปายเป่าครับ อ่านว่า    ริวคิป่ะ ถ้าใช่น่าจาใช้ตัว "ไอ" แทนตัว "อี" นะหรือเค้าใช้ถูกแล้วหว่า   คราวนี้เราต้องเอามั่ง

Carlos, the Freedom Knight
Mp 3/1  Lv. 2  Wind  Knight/Mage    Rare

At 8
Df 8
Sp 4

(Water)                                           Thunder Magic           At 10    Mp 3
N(Annedisonge)                             Thunder Sword           At 11    Mp 3

เมื่อ Carlos เข้ามาในสนาม Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้ามแยกการรวมร่าง
เมื่อ Carlos ทำการต่อสู้ Seal ที่ต่อสู้ด้วยแยกจากการรวมร่าง
เมื่อ Anna, Dancer of Annedisonge ถูกโจมตี นำ Carlos จากกองการ์ดเข้ามาในสนามย้ายการโจมตีนั้นมาที่ Carlos และตราบที่ Carlos อยู่ในสนาม เมื่อ Anna, Dancer of Annedisonge ถูกโจมตี ให้ย้ายการโจมตีมาที่ Carlos เสมอ

Anna, Dancer of Annedisonge

Mp 2/1   Water    Lv. 2   Dancer     Uncommon

At 5
Df 5
Sp 5

(Water)                         Dancing Surface ot the Water         At  7    Mp 1
N(Annedisonge)           Dancing  of Love                             At  9   Mp 2

Dancing At Line
Seal 1 ใบ สามารถโจมตีได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องจ่าย Mp ค่าโจมตี หาก Seal ที่ได้รับการ Dancing คือ Carlos, Freedom Knight At+2  Dr+2  Sp+1 จนจบการต่อสู้

เนื้อเรื่องโดยย่อ  คาลอส เดิมเป็นคนฟีลีเซีย เป็นอัศวินที่มีฝีมือไม่ชอบการต่อสู้ จึงออกจาฟีลีเซีย มายังแอนดิซองค์ และได้พบกันแอนนา นักเต้นสาว ทั้ง 2 ตกหลุมรักกัน และอยู่ด้วยกัน ยามใดที่แอนนาถูกทำร้าย หรือรักแก ไม่ว่าแอนนาจะอยู่ที่ใด คาลอสจะเข้ามาช่วยเสมอ ทั้งสอง สามารถสื่อใจถึงกันได้ คาลอสอยู่แอนดิซองค์ ก็สามารถเข้ากับชาวแอนดิซองค์ได้เป็นอย่างดีจึงสามารถคอมกัม N(Annedisonge) ได้

ปล. เป็นไงบ้างครับอัศวินสายฟ้าอิสระกับแฟนสาวนักเต้น คงไม่โหดปายนะ

นิดหน่อย แต่เรื่องราวของเขาและเธออาจจะเน่ากว่าอีกนะ(ใครจะไปรู้)
เรื่องราวที่มาของ Frost กับ Elfaria โดยย่อ

  เรื่องราวได้เกิดขึ้นในตอนสงคราม Frost ซึ่งเป็นชาวฟิเลเซียเดิม ได้ลี้ภัยสงครามกับครอบครัวตั้งแต่เด็กมายังแอนดิซองแต่โชคร้ายที่ครอบครัวของเขากลับตายก่อนที่จะถึงเมืองท่าแอนดิซองทำให้เขากลายเป็นเด็กเร่ร่อน เนื่องจากยังเด็กทำให้ถูกทำร้ายไล่ส่งจนทำให้เขาได้สลบไปครู่ใหญ่
 เมื่อเขาฟื้นขึ้นมากลับแปลกใจเนื่องจากสถานที่ที่เขาฟื้นนั้นกลับเป็นห้องนอนแบบชาวแอนดิซองเมื่อรู้สึกตัวได้เขาจึงหาทางออกไปจากที่นี่(ตอนนั้นเขาคงคิดว่าคุก??) เมื่อเปิดประตูไปเขาได้พบกับเจ้าของบ้านและลูกสาวของเขา Elfaria แล้วได้รู้จาากเจ้าของที่นี่คือสำนักนักสู้มือเปล่า เจ้าของบ้านนี้เองก็สอนวิชาต่อสู้และเรียนรู้วิถีชีวิตของแอนดิซองให้เขาอย่างเต็มใจ จากนั้นชีวิตของ Frost ได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ  เขากลายเป็นนักสู้ที่มีฝีมือดีแต่มีจิตใจดีและเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย จึงเป็นที่สนใจของชาวแอนดิซองทุกคนด้วยการโจมตีผสมกับการใช้เวทอย่างแข็งแกร่งสง่างาม ทำให้สาวๆในแอนดิซองหลงใหลในตัวเขา แต่เขากลับไปมีใจให้กับใครซักคน

พอแค่นี้ก่อนละกันค่อยต่อคราวหน้า
ตัวต่อไปเลยละกัน
Frost,the appentice
Lv.1 Mp2/1 wind Mage
At 5
Df 4
Sp 4
+[wind] Wing Gust At 9 Mp 2
+[water] Blizzard Field At 8(all) Mp 4
Seal ใบอื่นฝ่ายเราในสนาม Sp=4 เมื่อ Frost ร่วมร่างกับ Wind
Seal ใบอื่นฝ่ายเราในสนาม Mp ค่าโจมตี -1 เมื่อ Frost รวมร่างกับ Water

ตัวนี้คือ Frost ตอนเด็กที่เป็นนักเรียนเวท ถ้ารวมกับน้ำเราจะสามารถตีได้ประหยัดขึ้น

ต่อไปเป็นสถานที่บ้างละกัน
Annedisonge Battleground
Mp 3 inf PA
water ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At +1 Df +2
n[Frost] ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At+2 Mp-2
n[Elfaria] ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At+2 Df+2
water สามารถใช้ Skill ได้อีครั้งแม้ว่าเป็น Inactive Seal ก็ตาม

อ่างั้นไหนๆก็ไหนๆแล้วเรามาแต่เรื่องเวียนกันเลยดีกว่ามั๊ยเอ่ย

เริ่มแรกพอ อลาน่า สละบัลลังก์เพื่อกลายเป็น ซิสเตอร์ วิโอเรียก็ขึ้นยึดราชสมบัติครองตัวเป็นราชินีองค์ใหม่แห่ง แอนดิซอง และได้เสียกับอังเดร ต่อมาการเมืองของแอนดิซองเริ่มระส่ำระส่ายเพราะ วิโอเรียได้แต่บำเรอตัวเองด้วยการเกณฑ์ทหารหนุ่มของ แอนดิซอง มารับใช้ปรนิบัติเธอ อลาน่าผู้ได้รับเรื่องจาก มาซิลิโอ ก็ได้กลับมาทวงราชบัลลังก์ของเธอคืน และได้พบว่ามีความลับดำมืดบางอย่างเกิดขึ้นกับ วิโอเรีย และยังได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้ว เนริมอร์ ยังไม่ตาย

เชิญต่อได้

ในที่สุด คืนหนึ่ง อลาน่าได้สวดมนตร์อยู่นั้น ได้มีหญิงสาววัยกลางคนแต่งตัว มอซอ มายืนอยู่ หน้าประตู อลาน่า ช่วยไว้ และ หญิงคนนั้นจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ ฟัง และภายหลังบอกว่าตนคือ Nerimor แล้วหลังจากนั้น อลาน่าจึงพาไปทวงเงินประกัน ของซาดินคืน.... nerimor ไปจ้างทนายมา จัดการ Blaze Sage แล้ว จับเข้าคุก  
พูดเล่น..... หญิง คนนั้นได้บวช เป็นผู้ติดตาม Alana


Sister Nerimor
3/1 แสง Mage Lv.2
At:6
Df:7
Sp:3
+ ไฟ    Sacret Prayer At:9mp2
+ไฟ แสง   Holy Hymn At:8Allmp4
Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At +1 Df+1Mp-1
* Skill ทิ้ง Mystic การ์ด1ไป; เลือก Curse1ชนิด Sealฝ่ายเราทุกใบCancel Curse ชนิดนั้น2 Turns
Sister Nerimor cancel curse

เอาง้านเลยเรอะ เหอๆ คราวหน้าจะได้เวียนเรื่องแถมคิด Seal ไปด้วยคงมันพิลึก

ความเดิมจากตอนที่แล้ว
  ซึ่งเป็นสิ่งที่ชวนสงสัยของทุกคนในสำนักแม้กระทั่งเจ้าของและ Elfaria ซึ่งในจังหวะเดียวกันนี้เอง Elfaria เองก็เติบโตเป็นสาว เหมาะกับการมีคู่ครอง เจ้าสำนักเลยจัดการประลองขึ้นเพื่อจัดหาคนที่เหมาะสมที่จะเป็นคนรักของเธอ(กลัวลูกสาวขึ้นคานในอนาคตว่างั้นเถอะ) ก่อนการประลอง2-3วันกลับมีจดหมายมากมายมายังห้องของ Elfaria โดยไม่รู้แน่ชัดมาาจากที่ใด

ต่อคราวหน้า(อีกแล้วครับท่าน)
ตัวต่อไปที่เราเต็มใจเสนอ
Nathan,the Annedisonge Doctor
Lv.1 Mp1/1 water scientist
At 5
Df 4
Sp 3
+[water] Cure free At 9 Mp 2
+n[Annedisonge] save our life At 10 Mp 3
Nathan รักษา Curse ทุกชนิดให้กับ Seal 1 ใบในสนาม [inf](mp2)
Nathan ยกเลิก Curse
คราวนี้จะได้มีตัวรักษา Curse กับเขาซักที และเป็นตัวรองได้ด้วย อิอิ ถูกใจรึเปล่านี่

          หลังจากที่นอริมอร์ได้บวชเป็น Sister แล้ว องค์หญิงอลาน่า ได้เข้าไปในพระราชวัง เพื่อจะกลับไปเป็นองค์หญิงอีกครั้ง แต่วิโอเลียได้ปฎิเสธ เพราะองค์หญิงอลาน่าได้ตัดสินใจสละราชสมบัติไปแล้ว จึงไม่มีสิทธิกลับมาเป็นองค์หญิงได้ องค์หญิงไม่มีทางเลือกจึงต้องออกจากพระราชวังไปก่อน  หลังจากกลับมาไปปรึกษากับซิสเตอร์โรซาน่า ว่าควรทำอย่างไรดีที่จะช่วยให้ราษฎรณ์มีความสุข ซิสเตอร์โรซาน่าได้ให้ความเห็นว่า "...องค์หญิงเพค่ะ องค์หญิงทรงลืมคน ๆ หนึ่งไปแล้วเหรอเพค่ะ"   "ใครกันเหรอจ๊ะซิสเตอร์" องค์หญิงกล่าว "ก็อองเดรไงล่ะเพค่ะ อองเดร ออเนอเร่ อดีตราชองค์รักษ์ของพระองค์ยังไงล่ะเพค่ะ"  "อองเดร" องค์หญิงเอ่ยขึ้น  "เพค่ะ...ขณะนี้ท่านราชองค์รักษ์ขององค์หญิงเป็นกษัตริย์อยู่นิค่ะ ขณะกำลังนำทัพไปช่วยทางฟีลีเซียรบอยู่เพค่ะ...น่าจะใกล้เวลากลับมาแล้วนะเพค่ะ เพราะสงครามได้ยุติลงแล้ว"  "แต่เราไม่รู้ว่าอองเดรจะกลับมาเมื่อไหร่นิจ๊ะซิสเตอร์"  "...เรื่องนั้นให้เป็นหน้าที่ของกระผมเองครับองค์หญิง" เสียงที่ดังขึ้นมานั้นคือเสียงของเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง  เด็กหนุ่มผู้นั้นคือไรอา เคยเป็นโจรลักพาตัวที่กล่าวขวัญกันทั่วแอนดิซองค์ว่าเก่งกาจที่สุด (Annedisonge Kidnaper)  "ไรอา" องค์หญิงกล่าวขึ้น  "ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับข่าวคราวภายในเมืองเดี๋ยวกระผมจะไปสืบให้เองครับ....แค่จับมาคน 2 คน ก็น่าจะรู้แล้วล่ะครับ"  "งานถนัดเลยล่ะซิไรอา" ซิสเตอร์โรซาน่าพูดหยอก  "แหม...ซิสเตอร์ผมกลับตัวแล้วนะครับ ไม่จับไปเรียกค่าไถหลอกครับ...อืม..แต่เรียกก่อนก็ดีนะจะได้มีเงินใช้ เหอะ ๆ ๆ "  "ไม่ได้นะจ๊ะไรอา! มันไม่ดีนะจ๊ะ แค่ไปถามเค้าก็พอไม่ต้องถึงกับลักพาตัวหลอกจ๊ะ"  "องค์หญิงครับ ผมแค่ล้อเล่น...งั้นผมไปสืบข่าวก่อนนะครับ"   (to be continue)

เหอะๆ ๆ เอาตัวที่ทำไว้มาเข้าเรื่องก็ไม่เลวเนอะ ไหน ๆ ก็ไม่เป็นการ์ดจริง ๆ ล่ะ ก็เอามาใส่ในนี้ซะเลย

เห็นด้วยอย่างแรง แต่ถ้าบางตัวได้ทำเป็นการ์ดจริงๆละก็ ...(คิดเองจ้า อยากลุ้น)

ตัวต่อไปอันนี้ขอเป็น Messenger ละกัน

Ark,the Annedisonge Post boy
Lv.1 Mp2/1 water messenger
At 5
Df 6
Sp 3
+[water] Send letter At 9 Mp 2
ผู้เล่นทุกคนนำ [water] 1 ใบจากกองขึ้นมือ (mp 1)
Ark ยกเลิก การโจมตี All และ Skill all

Ark คือตัวละครที่สำคัญ นอกจากเป็นคนส่งจดหมายแล้วยังพ่อสื่อเสียด้วย ถ้าใครมีความรักแต่ไม่กล้าบอก แค่เขียนจดหมายหาคนที่รักเท่านั้นเองแล้วเขาผู้นี้สามารถส่งจดหมายไปยังคนรักคนนั้นได้(ทำให้คนสมหวังมามากแล้ว)

ต่อจากตอนที่แล้ว(อยากจบแล้วล่ะ)
 ซึ่งด้านในจดหมายนั้นเป็นข้อความรำพึงรำพันเกี่ยวกับความรักทุกซอง แต่เธอได้เก็บไว้(ขืนทิ้งก็ทำร้ายน้ำใจอย่างแรงนะจิ) ในวันประลองเธอกลับแปลกใจเพราะ Frost เข้าร่วมการประลองด้วยและการประลองได้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุด Frost ต้องเจอกับศิษย์เอกของที่นี่ การต่อสู้ได้ดำเนินไปอย่างดุเดือดผลสุดท้าย Frost เป็นฝ่ายชนะ หลังการประลองเสร็จ Elfaria ได้พาตัวเขาไปยังห้องของเธอพร้อมกับ ซองจดหมายเพราะต้องการให้ Frost สารภาพเกี่ยวกับเรื่องนี้ จนในที่สุดเขาได้สารภาพเพราะเขาแอบรักเธอมาตั้งแต่พบกันครั้งแรก แต่กลับไม่กล้าบอกกันตรงๆ เลยให้ อาค เป็นพ่อสื่อและได้ส่งจดหมายมาให้ที่ห้องของเธอเอง เมื่อเธอได้ฟังดังนี้แล้วทำให้หัวใจที่โหยหาความรักได้พบกับรักแท้จริง เขาและเธอได้มีใจให้กัน
เรื่องย่อจบแล้ว คงจบไม่สวยอย่างแน่นอน
หลังจากที่ทั้งสองมีใจให้กันแล้วจึงพากันเดินเที่ยวด้วยกันแล้วในขณะนั้นเองเขาทั้งสองได้พบกับองค์หญิงอลาน่าที่กำลังประสบปัญหาเรื่องของราชสมบัติในแอนดิซอง Frost และ Elfaria จึงขอติดตามองค์หญิงพร้อมกับช่วยเหลือองค์หญิงอลาน่าเพื่อให้สามารถกลับมาเป็นเจ้าหญิงอย่างสุดความสามารถ

ตัวต่อไปละกัน
Frost,the annedisonge Champion
Lv.2 Mp3/2 water Pugilist-Mage
AT 8
Df 8
Sp 4
+[water] Frost Strike At 10 Mp 3
+[annedisonge] Diamond Kick At 11(2 Times) Mp 3
เมื่อ Frost โจมตีเลือก Seal 1 ใบในสนามติด Freeze Curse และ At -2 Df -2  1Turn
Frost สามารถโจมตีข้าม Line ได้ถ้า Seal นั้นติด Curse
เมื่อ Frost โจมตีข้าม Line Frost At +2 และ Seal ที่เป็นเป้าหมาย Df -2
ตราบเท่าที่ n[Elfaria] อยู่ในสนาม Frost cancel Skill,ability and n[elfaria]ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี ใช้ Skill และ Ability ให้ย้ายเป้าหมายมายัง Frost

นี่คือ Frost ตอนที่ชนะการประลอง ท่าทางจะไม่ค่อยโหดหรอก อิอิ

ไม่โหดหลอกถ้าไม่มี "เมื่อ Frost โจมตีเลือก Seal 1 ใบในสนามติด Freeze Curse และ At -2 Df -2  1Turn"  จริงม๊ะโหดเพราะความสามารถนี้เท่านั้น = ="

ต่อ ๆ นิยายของ (บอร์ด) เราดีกว่า
          หลังจากที่ ไรอา ได้รับหน้าที่ไปสืบข่าวแล้ว ก็ได้วางแผนกับ Ark, the Annedisonge post boy  (อ่านว่า อาร์คป่ะ) โดยแยกกันไปสืบข่าวการกลับมาของอองเดร ไรอาให้ Ark (มาโพสบอกคำอ่านไทยก็ดีนะ ขี้เกียจเปลี่ยนภาษาไปมาอ่ะ - -") เข้าไปหาข่าวในเมือง ส่วนไรอาจะลอบเข้าไปในพระราชวัง Ark กลับมาพร้อมกับไม่ได้ข่าวอะไร "องค์หญิงพะยะค่ะ พวกชาวบ้านไม่ทราบเรื่องเลยพะยะค่ะ คงต้องรอไรอากลับมาเท่านั้น" Ark กล่าว "ไม่เป็นไรจ๊ะ Ark ขอบใจมากนะจ๊ะ" องค์หญิงกล่าวขอบคุณ  "นั่นไรอากลับมาแล้ว" ซิสเตอร์โรซาน่าเอ่ยขึ้น  "เป็นไงบ้างไรอาได้ข่าวมามั้ย ทางเราไม่ได้อะไรเลยอ่ะ" Ark พูด "แน่นอนมือระดับชั้นนี่มีรึจะไม่ได้อะไรมาเลยน่ะ" ไรอาพูด "แล้วได้ข่าวมาว่าไงบ้างจ๊ะไรอา" องค์หญิงถาม "กระหม่อมได้ลอบเข้าไปในบ้านของรูฟัส ได้แกล้งรูฟัสนี่ช่างสนุกจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ ....เอ่ย ขอพระทานอภัย คือว่า กษัตริย์อองเดรจะกลับมาถึงแอนดิซองค์ในวันมะรืนนี้พะยะค่ะองค์หญิง แต่การจะเข้าถึงตัวองค์กษัตริย์ได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากและต้องรอบคอบด้วยนะพะยะค่ะ" "นั่นซิแล้วนี่เราจะทำอย่างไรที่จะเข้าถึงอองเดรได้ล่ะจ๊ะ" องค์หญิงกล่าวด้วยน้ำเสียงกลัดกลุ้ม  ทั้งที่พักต่างเงียบไม่มีผู้ได้ส่งเสียง ได้แต่ครุ่นคิดหาทางช่วยองค์หญิงอย่างเต็มที่ "บุกไปเข้าไปหาเลยดีมั้ยพะยะค่ะ หม่อมฉันจะเปิดทางให้เอง จากนั้นองค์หญิงก็เข้าไปหาท่านอองเดร คราวนี้ท่านอองเดรคงต้องสั่งให้ ทหารหยุดแน่พะยะค่ะ" ฟรอส์กล่าว "ไม่ได้หลอกจ๊ะฟรอส์ เดี๋ยวเธอจะเป็นอันตราย และฉันก็ไม่อยากให้มีการต่อสู้ เพราะเราก็พวกเดียวกันทั้งนั้น" องค์หญิงปฏิเสธคำเสนอของฟรอส์ ทุกอย่างกลับสู่สภาพเงียบอีกครั้ง  "ฉันตัดสินใจแล้ว"  "ตัดสินพระทัยอย่างไรเพคะองค์หญิง" ซิสเตอร์โรซาน่าเอ่ยถาม  "ฉันจะปลอมตัวเป็นชาวบ้านเข้าไปหาอองเดรตอนลงจากเรือเอง อองเดรต้องจำเราได้แน่" องค์หญิงตัดสินใจด้วยความมั่นใจ "ไม่ได้นะเพค่ะ ในกองทัพมีทหารใหม่มีฝีมือมากมาย พวกเข้าเหล่านั้นไม่รู้จักองค์หญิง แล้วถ้าองค์หญิงถูกทำร้ายล่ะเพค่ะ..."ซิสเตอร์โรซาน่ากล่าวอย่างเป็นห่วง "ถ้าเป็นเช่นนั้นฉันเข้าไปจัดการพวกนั้นให้หมดเลย" ฟรอส์กล่าวอย่างมั่นใจในฝีมือของตน "งั้นฉันจะระวังหลังให้นะ แล้วให้ฟรอส์ แอลฟาเรียและซิสเตอร์ไปกับองค์หญิง ส่วนฉันจะซุ่มอยู่แถว ๆ นั้นดูลาดราวให้" อลิซาเบธเอ่ยขึ้น (elizabeth , the annedisonge sniper) (เนื่องจากองค์หญิงอลาน่าอยู่ในสนามรบคอยช่วยเหลือคนเจ็บ ฉะนั้นในกลุ่มคณะจึงมีผู้คนหลากหลาย ที่เคารพในตัวองค์หญิง) "ฉันก็จะแอบขึ้นไปบนเรือ ถ้าสถานการณ์ไม่ดี ฉันจะจับกษัตริย์ไว้ซะเลย" ไรอากล่าวอย่างเห็นด้วยกับความคิดนี้ "หวังว่านายคงไม่โดยท่านอองเดรจัดการซะก่อนจะได้จับตัวซะล่ะ ฮ่า ๆ ๆ " ฟรอส์กล่าวหยอก "แหม...อย่าพูดให้เสียวงั้นซิ ยิ่งไม่มั่นใจอยู่นะ" ไรอากล่าวอย่างเขิน ๆ "ฮ่า ๆ  ๆ ๆ " ทุกคนต่างหัวเราะกับท่าทางของไรอา "ถ้าตกลงเช่นนั้น หากเกินอะไรขึ้นหม่อมฉันจะ.."   "ไม่เป็นไรหลอกจ๊ะซิสเตอร์โรซาน่า เพราะว่าฉันมีพวกเค้าอยู่ทั้งคน ฉันไม่เป็นไรหลอกจ๊ะ" องค์หญิงอลาน่ากล่าวอย่างมั่นใจในความสามารถของทุกคน "ถ้างั้นก็ แค่รอให้ถึงวันมะรืนเท่านั้น...แหมชักคันไม้ คันมือซะแล้วซิ" ฟรอส์กล่าวอย่างร่าเริง (to be continue)

งั้นช่วยคิดการ์ดเพิ่มนะ

Alana,the annedisonge citizen <<< ไม่แน่ใจว่าถูกป่ะนะที่แปลว่าพลเมือง หรือ อะไรเนี๊ยะแหละ
lv.1  1/1  water  mage
at 4
df 6
sp 2
+water     just a women     at 6 mp 1
+n(annedisonge)     some of my part     at 4(all) mp 2

skill - รักษา curse ทุกชนิดให้ seal 1 ใบในสนามฝ่ายเรา int mp 1
alana cancel curse

หลังจากนั้นทุกคนได้ลงมือปฏิบัติตามแผนการดีทุกอย่าง แต่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
"อังเดรอยู่ไหนนะ" องค์หญิงถาม
"เดี๋ยวคงจะลงจากเรือกระมั้งเพคะ" ซิสเตอร์โรซาน่าพูด
"ส่วนตัวฉันคิดว่ามันนานไป" ฟรอสต์พูดขึ้นพร้อมกับแอลฟาเรียที่พยักหน้า นี่เลยเวลามามากแล้วทุกคนยังไม่พบอังเดร
"นี่ชักจะนานเกินไปแล้วนะ"องค์หญิงพูดทำลายความเงียบขึ้น แล้วจู่ๆองค์หญิงก็รุ้สึกถึงแรงอาฆาตบางอย่าง
"หลบเร็ว"

ปัง! ปัง! ปัง!

เมื่อเสียงทุกอย่างสงบลงทั้ง องค์หญิง ซิสเตอร์ ฟรอสต์ และ แอลฟาเรีย มองหน้ากัน
เกิดอะไรขึ้นพวกเค้าคิด
"ขอโทษทีทำให้พวกท่านตกใจ เรามิได้ตั้งใจทำให้ท่านตกใจ"เสียงหนึ่งดังขึ้น
"พวกท่านเป็นใคร"ซิสเตอร์ถาม
"ข้าชื่อ เฟรย่า นักทำนาย" เสียงนึงตอบ

freya,the annedisonge oracle
lv.2  1/1  water  mage
at 6
df 8
sp 2
+water     the feture     at 8 mp 1
+n(annedisonge)     the eye of the oracle     at 10 mp 2

skill-เลือกตัวเลข 1 ตัว หลังจากนั้นดูกอง seal ของฝ่ายตรงข้าม 1 คน หากเลขที่เราเลือกตรงกับ lv ของ seal ใบนั้นผู้เล่นคนนั้นไม่สามารถจั่ว seal ใน turn ต่อไปของผู้เล่นคนนั้นได้ และ seal ทุกใบในสนามของผู้เล่นคนนั้นที่มี lv มากกว่า seal ใบนั้นติด freeze curse ตาม lv ของตัวมันเอง mp 2
freya cancel mystic card

"ตัวข้าและน้องสาวข้าได้ตามท่านมานานแล้ว ที่น้องสาวของข้า เอลด้า ยิงเมื่อกี้คือสิ่งนี้" แล้วเธอก็ชูสิ่งที่เหมือนตุ๊กตาขึ้นมาดู
และทุกคนพูดพร้อมกัน "แอซซาซิน ดอร์!"
"ใช่ และถ้าเราไม่ฆ่ามันหล่ะก็มันจะฆ่าท่าน" เอลด้าพูดขึ้นบ้าง
"เดี๋ยวนะ ท่านบอกข้าว่าท่านเป็นนักทำนาย ดังนั้นท่านรู้หรือไม่ ข้าจะได้กลับครองบัลลังก์มั๊ย" องค์หญิงถาม
"แน่นอน เพคะ แต่ยังคงต้องใช้เวลานาน เพราะสงครามสี่อาณาจักรจะได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง" เฟรย่าพูด
"งั้นหากเป็นเช่นนั้นจริง ข้าจะเข้าร่วมรบด้วย"ฟรอสต์พูด
หลังจากนั้นเฟรย่าก็เล่าเรื่องอีกหลายเรื่องที่พวกองค์หญิงไม่เคยรู้ และอลิธซาเบต ก็กลับมาและพูดว่า
"เรือแล่นออกไปแล้ว ข้าไม่เห็นแม้แต่เงาของท่านอังเดร"
"แล้วเขาจะไปไหนได้"แอลฟาเรียพูด
........................................................มีเพียงความเงียบเท่านั้น
"ข้ารู้นะเพคะ เขายังคงติดอยู่ในวังกับราชินีวิโอเรียเพคะ" บุคคลที่พูดคือเรเมดิ แดนเซอร์สาวแห่งวังแอนดิซอง เธอเดินเข้ามาหาพวกองค์หญิง
"เรเมดิเธอมาได้ยังไง"องค์หญิงถาม
"หม่อมฉันหนีออกมาเพคะ และหากท่านต้องการข้าก็สามารถพาท่านแอบเข้าไปข้างในก็ได้เพคะ"เรเมดิพูดต่อ
"แต่หากสงครามสี่อาณาจักรเริ่มขึ้นจริงๆแล้วเราก็ควรหนีออกจากเมืองนะ"ฟรอสต์พูดพร้อมกับทุกคนที่หันไปมองหน้าเขา
"และรู้อะไรมั๊ยเพคะ ซิสเตอร์เนริเมอร์ ถูกลอบสังหารจนเกือบเสียชีวิตไปแล้ว" ...

โปรดติดตามตอนต่อไป ...
 

คิดตัวต่อไปละกันนะ
Zafiro,the Assasin Mercenary
Lv.2 Mp3/1 water bandit-Gunner
At 7
Df 8
Sp 4
+[water] Reflex Shot At 9 Mp 2
+[bandit] Shapshooter At 11 Mp 3
นำ Seal ที่ถูก Steal กลับเข้ากองและสลับใหม่ ทำลาย Seal ที่ Lv. เท่ากับ Seal ที่ถูก Steal นั้น (mp3)

ซาฟิโร่ เป็นมือสังหารรับจ้างที่วิโอเรียต้องการสังหารองค์หญิงอลาน่าเพื่อแลกกับคนรักของเขาที่ถูกจับโดยทหารของแอนดิซอง ให้เป็นอิสระ

ต่อไปเป็นทหารคนสนิทของอังเดร
Hyukebian,Knight of Snow
Lv.2 Mp 3/2 water Knight
At 8
Df 8
Sp 3
+[water] Snow Blade At 11 Mp 3
+[water][water] Snow Twin Blade At 13 Mp 4
เมื่อ Hyukebian โจมตี At+1 Df+1 Sp+1 /1 Turn
เมื่อ Hyukebian ลงมาในสนาม Seal ที่อยู่ DF Line ติด Freeze Curse 1 turn
ฮิลเคเบียน คือทหารคนสนิทของอังเดร คอยติดตามองค์หญิงอลาน่าอยู่ห่างๆ ตามคำสั่งของอังเดร ฮิลเคเบียน มีดาบหิมะที่เลื่องชื่อตัวดาบที่มีความเย็นยะเยือกตลอดเวลา
สองตัวนี้ที่คิดมาน่าจะโหดกว่าตัวที่แล้วนิดหน่อย

ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
"ซิสเตอร์นอร์ริมอร์...." องค์หญิงรีบเข้ามาดูอาการอย่างเป็นห่วง
"ตอนนี้ปลอดภัยแล้วพะยะค่ะองค์หญิง" คุณหมอนาธารกล่าวกับองค์หญิง (Nathan,the Annedisonge Doctor)
"เฮ่อ...โชคดีที่ไม่เป็นอันตราย" องค์หญิงถอนหายใจ
"ตอนนี้ควรให้ซิสเตอร์ได้พักผ่อนมาก ๆ จะดีกว่านะเพค่ะ" ซิสเตอร์โรซาน่าพูดกับองค์หญิง
"ใครกันนะที่ทำกับซิสเตอร์นอร์ริมอร์ ได้" องค์หญิงกล่าวอย่างสงสัย
"คงจะเป็นพวกปีศาจจากขุมนรกน่ะเพค่ะ" นักทำนายพูด
"อีกไม่นานมันจะครอบครองทวีปเมอร์รีเซีย และในตอนนี้องค์ราชินีวิโอเรียได้ถูกมันครอบงำอยู่"
"เราจะช่วยแอนดิซองค์ได้ยังไงล่ะค่ะท่านเฟรย่า" องค์หญิงถาม
"เราต้องใช่พลังของเทพเท่านั้นเพค่ะ และที่แอนดิซองค์ขณะนี่ไม่มีเทพ..."
ยังไม่ทันที่เฟรย่าจะกล่าวจบ ไรอาตะโกนขึ้นพร้อมกับรีบเข้ามาในที่พักพร้อมกับบุรุษผู้หนึ่ง
"ที่แอนดิซองค์น่ะมีเทพอยู่นะ" ไรอากล่าวอย่างมั่นใจ
"เทพที่ว่าหมายถึง มัลเทลลูม่า ใช่มั้ยจ๊ะ ไรอา" องค์หญิงถามไรอา
"ใช่แล้วพะยะค่ะ องค์หญิง มังกรยักษ์มัลเทลลูม่า ตั้งแต่โบราณมาแล้วเปรียบเสมือนเทพที่คอยปกป้องแอนดิซองค์ให้สงบสุข คู่กับกษัตริย์แอนดิซองค์ทุกพระองค์"
"มีเพียงกษัตริย์แห่งแอนดิซองค์เท่านั้นที่สามารถควบคุมมัลเทลลูม่าได้ ซึ่งกษัตริย์ในตอนนี้ก็คือท่านอองเดร ออเนอเร่"
"ตอนนี้อองเดรอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้"
"แต่บุรุษผู้นี้รู้พะยะค่ะองค์หญิง" ไรอามองไปที่ ฮิลเคเบี่ยน (Hyukebian,Knight of Snow)
"ท่านผู้นี้คือ..." องค์หญิงอลาน่าเอ่ยถาม
"หม่อมฉัน อัศวินอารักแห่งกษัตริย์อองเดร พะยะค่ะ" ฮิลเคเบี่ยนกล่าวพร้อมทำความเคารพองค์หญิงอลาน่า
"แล้วตอนนี้อองเดรอยู่ที่ไหนล่ะจ๊ะ"
"ขณะนี้องค์ราชา ถูกคุมขังอยู่พะยะค่ะ" ฮิลเคเบี่ยนกล่าว
"เอ๊ะ ! ทำไมเป็นเช่นนั้นล่ะ" องค์หญิงกล่าวด้วยควาวมประหลาดใจ
"เรื่องเป็นแบบนี้พะยะค่ะ วันก่อนที่องค์ราชาจะเสด็จเข้าร่วมสงคราม ได้มีเงาดำเข้ามาในปราสาท องค์ราชินีที่ร้ายอยู่แล้วกลับดูเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงกว่าเดิม"
"องค์ราชินีได้วางแผนจะยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว จึงวางแผนกับรูฟัส วางยาองค์ราชาแล้วจับขังอยู่ในคุกมืดพะยะค่ะ จากนั้นก็ให้ทหารปลอมตัวเป็นองค์ราชา เข้าร่วมรบและทำเป็นว่าองค์ราชาได้สิ้นพระทัยในสนามรบ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นองค์ราชินีจะยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว"
"องค์หญิงได้โปรด ช่วยองค์ราชาด้วยเถอะ เพราะลำพังกระหม่อมคงไม่สามารถที่จะช่วยองค์ราชาออกมาได้ ขอองค์หญิงได้โปรด..." ยังไม่ทันที่ฮิลเคเบี่ยนจะพูดจบ องค์หญิงได้กล่าวว่า
"ไม่ต้องห่วงจ๊ะฮิลเคเบี่ยน เราทุกคนที่นี่ยินดีช่วยท่านอยู่แล้ว พวกเรายินดีที่จะช่วยใช่มั้ยจ๊ะทุกคน"
"แน่นอนอยู่แล้ว เรื่องตื่นเต้นแบบนี้ฟรอสซ์เข้าร่วมด้วยคน" ฟรอสซ์กล่าวอย่างตื่นเต้น
"ง้นคืนนี้เราจะบุกเข้าไปช่วยองค์ราชาของเรากันดีมั้ยพวกเรา" ไรอากล่าวขึ้น
"ข้าจะนำทางให้เอง" ฮิลเคเบี่ยนพูด
"ชักคันไม้คันมือซะแล้วซะ" ฟรอสซ์พูดขึ้น
(to be continue)

สรุปกลุ่มขององค์หญิงอลาน่าในขณะนี้
1. องค์หญิงอลาน่า
2. ซิสเตอร์โรซาน่า
3. นักสู้ฟรอสซ์
4. นักสู้แอลฟาเรีย
5. สไนเปอร์อลิธซาเบธ
6. นักทำนายเฟเรย่า
7. เอลด่า Gunner Master
8. นักเต้นเรเมดิ.
9. หมอนาธาร
10. ซิสเตอร์นอร์ริมอร์

ป.ล. คงไม่ลืมครายปายนะ = ="

Dango  magician of andisonge
lv.3  4/3 water      mage
At9
Df9
Sp4

+(water)    timing tamer At11 mp3
+(water)+(water)   cleanning all temple At 10 All  mp5

 เมื่อDango  magician of andisongeเข้ามาในสนามseal 1 ใบ ยกเลิกความสามารถ cancle curse (http:///images/sign_inty.gif) turn
skill  seal 1ใบของฝ่ายตรงข้ามยกเลิกความสามารถ cancle curse (http:///images/sign_inty.gif) turn หากsealใบนั้นเป็นธาตแสงให้ยกเลิกความสามารถ cancle mystic ด้วยเมื่อDango  magician of andisongeรวมร่าง (mp3)


Dango  magician of andisongeยกเลิกcurseและmystic card





โหดไปป่าวเนี่ยไอ้ตัวนี้ใช้ปราบเด็คcancle curse ได้เป็นอย่างดี และถ้าใบนั้นเป็นแสงด้วยหละก็อ้วกแตกแน่



 Antic King of merman

lv.3  4/3  water  knight

At10
Df10
Sp5

+(merman)   Blast sword  At11  mp3
+(merman)  +(water)   At12 mp4

 เมื่อmermanของฝ่ายเรา1 ใบถูกโจมตี seal  ที่โจมตี  ลดพลังโจมตีตามตามค่าร่ายของsealใบนั้น1turn
 เมื่อ Antic King of merman โจมตีสามารถเลือกเทียบค่า at หรือ df ของ sealที่ต่อสู้ได้ และเมื่อฝ่ายตรงข้ามมีspเท่ากับ Antic King of merman  seal ทุกใบในสนามของฝ่ายเรา cancle mysticcard ของฝ่ายตรงข้าม และsealที่ต่อสู้ด้วยนั้นยกเลิก abillity จนจบ subturn
(อบิลลิตี้นี้สามารถใช้ได้1subturn ต่อ1 ครั้ง)


martistic  merman  of   andisonge
lv.1  1/1  water knight
At5
Df7
Sp2
+(merman)  Death  beam  At9  mp2
+(andisonge)  ice  beam   At10  mp3

เมื่อmartistic  merman  of   andisongeต่อสู้กับsealที่มีspมากกว่าmartistic  merman  of   andisonge  At+2

merman ทุกใบ ของฝ่ายเราat+2 เมื่อmartistic  merman  of   andisonge รวมร่างกับn(merman)
skill  poision curse  seal1ใบที่มี sp 0 1 2 3   1turn เมื่อmartistic  merman  of   andisongeรวมร่างกับn(Andisonge)

ต่อๆ

คืนนั้นทุกอย่างเงียบสงัดแผนการทั้งหมดถูกดำเนินการอย่างเงียบเชียบ แผนทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีทั้ง ฮิลเคเบี่ยน และ เรเมดิ พาพวกเขาลอบเข้าไปในพระราชวังได้อย่างเรียบร้อย ขณะนี้ทุกคนอยู่ที่ห้องโถงกลางแล้ว ทุกคนใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดในการจัดการทหารยามที่มีมากมายเหลือเชื่อ

ทันใดนั้นทุกคนก็ได้แว่วยินเสียงเพลงบางอย่างที่ไพเราะแต่ก็เศร้าสร้อยอยู่ด้วยกัน แผ่วเบาๆ อยู่บนฟ้า
"บทเพลงจันทร์โศก" เรเมดิเอ่ยออกมา ก่อนรูปวิ่งออกไปดูที่ลานด้านหน้า บนฟ้าปรากฏรูปของหญิงคนนึงผู้ถือพิณรูปจันทร์เสี้ยว
"ไซคี นักเล่นพิณแห่งแสงจันทร์" เมเรดิเอ่ย แล้วก้มลมคำนับ สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนยิ่งนัก

psyche,the moonlight harper
lv.2  4/1  water  musician/divine
at 7
df 9
sp 3
+water     ocean prelude     at 9 mp 1
+n(moonlight)     black moon rythum     at 11 mp 2

skill - เมื่อ dancer ฝ่ายเราถูกโจมตี sacrifice dancer ใบนั้น seal ที่โจมตี dancer ใบนั้นติด death curse int mp 5
ตราบเท่าที่ psyche อยู่ในสนาม seal ทุกใบที่ติด freeze curse ไม่สามารถ cancel death curse ได้
psyche cancel curse

"เธอมาให้พรเราพร้อมกับสวดส่งให้ศัตรูด้วย" เรเมดิเดินกลับมาพร้อมพูดขึ้น
"งั้นเราก็จะชนะวิโอเรียหน่ะสิ" ฟรอสต์ถาม
"ก็ไม่แน่ คืนนี้ชีวิตบางชีวิตจะจบสิ้นลงพร้อมกันหนี้อันยิ่งใหญ่ ใครบางคนในพวกเราต้องวตาย"เฟรย่าพูด
"นี่เธอ อย่าพูดงั้นสิ" แอลฟาเรียกล่าว แม้ทุกคนจะรู้ว่าเฟรย่าทายได้แม่นแค่ไหนก็ไม่อาจเชื่อได้
................................
"เอาเถอะตอนนี้ยังไงเราก็ควรที่จะเดินทางหาอังเดรต่อไปนะ"หมอพูด
"ใช่ ไปกันเถอะจ้ะ"องค์หญิงพูด
"เราคงไม่ต้องไปกันไกลแล้วหล่ะ"เอลด้าพูด

และเบื้องหน้าของทุกคนก็คือภาพของชายคนนึงซึ่งเกือบเปลือยเดินออกมาจากเงามืด
"อังเดร" ทุกคนพูดพร้อมกัน
แล้วอังเดรก็เริ่มโจมตีทุกคนอย่างบ้าคลั่ง ห่ากระสุนแล้วปืนสาดกระหน่ำใส่แต่อังเดรหาเป็นอะไรไม่ทั้งฟรอก แอลฟาเรีย และ เรเมดิก็ช่วยกันโจมตีประชิดตัวแต่ก็ไม่ได้ผล ดาบของอังเดรช่างแข็งแกร่งมันฟาดฟันไม่เคยพลาดเป้า แต่เรายังคงมีองค์หญิง ซิสเตอร์ และคุณหมออยู่ก็พอช่วยได้บ้าง
"พอแล้ว" เสียงนึงดังขึ้น วิโอเรียนั้นเอง
"ฮะ ชั่งสนุกจริง ที่ได้เล่นสนุกกับพวกนี้ ใช่มั๊ยจ้ะ อังเดร"เธอพูดและมองสายตาเย้ายวนไปทางอังเดร และสายตาอาฆาตต่อพวกเขาทุกๆคน
ปัง!
กระสุนลูกนึงพุ่งผ่านพวกองค์หญิงไปกระทบกับวิโอเรียที่กลายเป็นน้ำแข็งแตกลงพื้น และกลับมารวมกันใหม่ เอลด้ามองด้วยสายตาทึ่ง
"ไม่มีใครทำอะไรชั้นได้แล้ว ฮะฮะฮะฮะ" เธอหัวเราะแล้วสาบำพวกเขาทุกคนให้เป็นน้ำแข็ง
การต่อสุ้ดำเนินไปอย่างเนิ่นนานวิโอเรียและทหารชายมากมายสู้กับพวกเขาอย่างดุเดือด
"ย้ากส์!"
"อ้าก!"
"เอาไปกิน!"
"เอื้อก!"
ทุกคนสู้อย่างเต็มที่แต่มันเยอะเหลือเกิน ทั้งหมดล้มลงพร้อมกับเสียงใครคนนึง
"แม้เจ้าเป็นน้ำแข็งแต่หากข้าเป็นไฟ น้ำแข็งก้ไม่อาจต้านข้าได้" เนริเมอร์นั่นเอง วิโอเรียมองเธอ และเธอก็มองวิโอเรีย
เนริเมอร์โยนบางอย่างใส่พวกเขา ผ้าคลุมขนนกแดง
และพวกเขาก็หายไปจากตรงนั้น เหลือเพียง เนริเมอร์ วิโอเรียกับอังเดรและทหารของวิโอเรีย
"ในเมื่อข้ากำลังจะตายแล้ว ข้าก็จะต้องพาคนไปกับข้าด้วย แต่ไม่ใช่เพื่อนข้า แต่เป็นศัตรูข้า!" แล้วเธอก็ระเบิดเปลวไฟร้อนแรง แผดเผาทุกสรรพสิ่ง แห่งวังแอนดิซอง วิโอเรีย กรีดร้องโหยหวยอย่างหน้าสยดสยองและชีวิตของทุกคนในที่นี้ก็ได้ปิดฉากลงที่นี่
"อลาน่า ฝาก อิสฮานด้วยนะ"เนริเมอร์พูดครั้งสุดท้ายก่อนที่มัจจุราชจะพรากเอาลมหายใจของเธอ...จากไป

โปรดติดตามตอนต่อไป

ตัวต่อไปเป็น 4 จตุมารของราชินีวิโอเรีย
Gillotine,the Sinner
Lv 2 Mp2/1 dark evil
At 6
Df 6
Sp 3
+[water] Grinder At 9 Mp 2
+[evil] Holy Scarm At 10 Mp 3
Gillotine ต่อสู้กับ [light] Gillotine At +3
Skill:Seal 1 ใบที่มี Sp 2,3,4 ติด Poison Curse 1 Turn เมื่อ Gillotine รวมร่าง (mp 3)

Maya,the succubus queen
Lv.2 Mp2/1 dark evil
at 7
df 6
sp 3
+[water] Freeze Kiss At 9 Mp 2
+[dark][dark] VAMPIRE KISS At 11 Mp 3
Seal 1 ใบที่มี Sp2,3,4,5 ติด Charm Curse 2 Turnจากนั้นเลือก Seal 1 ใบติด Freeze Curse & Poison Curse 2 Turn เมื่อ Maya รวมร่าง (Mp 4)

Raven,the annedisonge Dread Knight
Lv.2 Mp 3/1 dark Knight
AT 7
Df 8
Sp 5
+[dark] Blood Sword At 9 Mp 2
+[dark][dark] Frenzie Clave At 11 Mp 3
Raven สามารถโจมตี Seal ใบรองได้
Raven สามารถโจมตีข้ามมายัง DF Line ได้ถ้า Seal ตัวนั้น Sp น้อยกว่า Raven

Grandson,the Dark Prison
Lv.4 Mp5/3 Dark Mage Evil
AT 10
Df 10
Sp 4
+[dark] Dark Smasher At 11 Mp 3
+[dark][dark] Black Hole At 13 Mp 4
+n[Vioria] Gravity Blast At 10(all) Mp 5
ทำลาย Seal 1 ใบในสนาม เมื่อ Grandson รวมร่าง (Mp 3)
Grandson ยกเลิก Skill และ Ability ของ [Light]

ที่บอกมาทั้งหมดคือ 4 จตุมาร สมุนเอกของราชินีวิโอเรีย นำโดย แกรนซอน,มายา,เรเวน,กิโยติน ที่คอยป้องกันราชินีวิโอเรียและคอยขัดขวางองค์หญิงอลาน่าด้วย มันเลยโหดตามความสามารถของมันเอง หุหุ

หลังจากการโจมตีของซิสเตอร์นอร์ริมอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่น่าจะหายไปพร้อมกับเปลงเพลิง ยังคงสภาพเช่นเดิม หากแต่มีกลุ่มควันจำนวนมากลอยอยู่มากมาย ณ สถานที่ต่อสู้ เมื่อครั้นควันเหล่านั้นค่อย ๆ จางหายไป ก็ปรากฎร่างกายที่ใหญ่โตกำยำ ใส่ชุดเกราะปีศาจเต็มยศยืนอยู่ข้างหน้า โดยมีหญิงสาวเอวบางคนหนึ่งนุ่งน้อยห่มน้อยหากใช่ราชินีวิโอเรียไม่ เพราะที่ศีรษะของหล่อนมีเขางอกออกมา ถัดไปด้านขวาเป็นชายใส่เสื้อคลุมปิดหน้ายืนอยู่ และขวาสุดเป็นอัศวินสวมเกราะหัวกะโหลก มีดาบ 2 เล่ม คาดอยู่ที่เอว พวกเค้าคือจตุรมารนั่นเอง ซึ่งก่อนที่การโจมตีของซิสเตอร์นอร์ริมอร์จะทำลายทุกอย่างนั้น แกรนซอนได้โผล่มาข้างหน้านอร์ริมอร์และโจมตีใส่ก่อน ซึ่งการโจมตีนั้นไม่ได้ทำลายปราสาทเลยแม้แต่น้อย หากแต่ทำลายแค่นอร์ริมอร์เท่านั้น

"ทำได้ดีมาก แกรนซอน มาย่า กิโยติน เรเวน ที่มาช่วยข้าได้ทันเวลา" วิโอเรียกล่าวอย่างโล่งใจที่ลอดชีวิตมาได้
"นี่ถ้าไม่ใช่องค์จักรพรรดิ (Emperor of Evil) สั่งมาข้าไม่มีทางลดตัวมาช่วยพวกมนุษย์หลอก" แกรนซอนหันไปพูดใส่วิโอเรีย
"พวกมนุษย์อ่อนแอ่ทั้งนั้น ข้าจะฆ่าให้หมด เหอะ ๆ ๆ " กิโยตินพูดด้วยน้ำเสียงแหบ ๆ
"แต่พวกมนุษย์ก็หลอกง่ายนะ ว้าย! ตายแล้วพอหนุ่มคนนี้หล่อจริง ๆ ข้าขอนะวิโอเรีย" มาย่าขออองเดรกับวิโอเรีย
"นี่ ๆ มาย่า จะเอาอะไรกะอีแค่มนุษย์ผู้ชายคนนี้" เรเวนถาม
"แหม ก็เค้าทั้งหล่อ ทั้งกำยำขนาดนี้ ใครจะอดไหวล่ะ โฮ่ ๆ ๆ "
"นี่พวกแก หมดธุระแล้วไปได้แล้ว" วิโอเรียกล่าวอย่างฉุนเฉียว
"นี่ ๆ องค์ราชินี นี่พวกข้าพึ่งจะช่วยชีวิตท่าน ไยท่านถึงไรพวกเราแบบนี้จะดีเหรอ" มาย่าเย้ยวิโอเรีย
"องค์จักรพรรดิใช้ให้พวกแกมาเป็นลูกน้องข้านะ ไม่ใช่เป็นนายข้า" วิโอเรียเริ่มโมโห
"พวกเราไปกันเถอะ" แกรนซอนพูด
"เชอะ" หลังสิ้นเสียงของมายากลุ่มจตุรมารก็หายตัวไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Emperor of Evil
Mp 5/3  Dark  Evil  Lv. 5 Rare
At 10
Df 12
Sp 5

Ability  
เมื่อ Emperor of Evil  ถูกโจมตี At+ ตามจำนวน Evil ในสนาม และ Seal ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่  Df Line  
เมื่อ Emperor of Evil เข้ามาในสนามนำ Seal 5 ใบแรก จากกองการ์ดลงมาในสนาม หาก Seal นั้นเป็น Evil
เมื่อ Seal ฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยน Line  จาก  At Line ไป  Df Line  Emperor of Evil  At+ตามจำนวน Seal ที่เปลี่ยน Line  Infinite Turn
Emperor of Evil  At-  ตามจำนวน N(God)
Emperor of Evil Cancel Mystic Cancel Death Curse Poison Cure Last Dance Cure จาก Evil Cancel Skill  และ  Ability  ของ Seal ฝ่ายตรงข้าม ที่ไม่มี N(God)   Seal ที่มีเป้าหมายโจมตีมาที่ Emperor of Evil ที่ไม่มี N(God) สูญเสีย Ability จนจบการต่อสู้
Evil ใบอื่นทุกใบในสนาม At+2
ในสนามไม่สามารถมี Emperor of Evil เกิน 1 ใบได้

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
ปัง! เสียงทุบโต๊ะดังขึ้น
"หนอย ไม่นึกเลยว่าราชินีวิโอเรียจะเก่งถึงเพียงนี้" ฟรอสซ์กล่าวอย่างหงุดหงิด
"ใจเย็น ๆ น่าฟรสซ์" แอฟาเรียเตือนฟรอสซ์
"ยังไงซะราชินีวิโอเรียก็ได้ตายไปแล้ว..."
"ข้าว่าไม่นะ.."ฮิลเคเบี่ยนแทรกขึ้น
"ดูนั่นซิพระราชวังยังอยู่เลย ถ้าดูจากพลังในการโจมตีครั้งสุดท้ายของซิสเตอร์นอร์ริมอร์แล้ว น่าจะทำลายได้โดยง่าย แต่ด้วยเหตุใดพระราชวังยังคงตั้งอยู่" ฮิลเคเบี่ยนกล่าวอย่างงุนงง
"ต้องเป็นการกระทำของพวกปีศาจแน่ ๆ " เฟรย่าพูดขึ้น
"คงเป็นจตุรมารขององค์ราชินีวิโอเรียเป็นแน่" สาวนิรนามพูดพร้อมเดินเข้ามาในที่พักกับ อัศวินหนุ่ม
"ท่านเป็นใครเหรอจ๊ะ" องค์หญิงอลาน่าถาม
"เธอผู้นี้คือแอนนา เป็นนักเต้นเหมือนหม่อมฉันเพค่ะ" เรเมดิตอบองค์หญิง
"หม่อมฉันแอนนา และที่สามีดิฉันคาลอสเพค่ะ" แอนนาแนะนำตัว (Anna, Dancer of Annedisonge) (Carlos, the Freedom Knight)
"กระหม่อมคาลอสเป็นอัศวินพเนจรพะยะค่ะ"
"พวกท่านมาที่นี่ทำไมเหรอ" ฟรอสซ์ถาม
"ข้าและภรรยาได้ข่าวว่าองค์หญิงอลาน่าจะคืนสู่บัลลังก์เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ข้าและภรรยาเดือดร้อนกับการปกครองขององค์ราชินีวิโอเรียมาก เมื่อทราบข่าวว่าท่านมา ข้าและภรรยาจึงมาเพื่อช่วยเหลือท่านให้คืนสู่บัลลังก์โดยเร็ว เพื่อความสุขของชาวบ้าน"

ในขณะที่คาลอสกำลังคุยกับพวกขององค์หญิง มีชายลึกลับกำลังซุ่มอยู่ไม่ไกลจากที่พักขององค์หญิง
"หึ ๆ เสร็จข้าแน่องค์หญิง"  เค้าคือซาฟิโร่มือสังหารขององค์ราชินีวิโอเรียนี่เอง (Zafiro,the Assasin Mercenary)
ซาฟิโร่กำลังใช้ปืนเก็บเสียงเล็งไปที่องค์หญิงอลาน่า
"บ๊าย บาย องค์หญิง"
พิ้ว !
แต่ขณะนั้นเองแอนนาได้เดินมาบังวิถีกระสุนโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ทันใดนั้นเอง คาลอสซึ่งมีปฎิกิริยาเสมอเมือแอนนาตกอยู่ในอันตราย ชักดาบรูปสายฟ้าออกมาปัดกระสุนไว้ได้
เคร้ง!
"ใครหน้าไหนที่คิดจะทำร้ายภรรยาข้าโผล่หัวออกมา" คาลอสตะโกนเรียกอย่างโมโห และเดินเข้าไปหาจากวิถีกระสุนอย่างระวัง
"ชิยัยตัวแสบดันเดินไปทางนั้นพอดี"
"โอ๊ะ โอ๋ คุณมือสังหารเค้าเรียกแล้วยังไม่ออกไปอีกหน้าด้านซะจริง จริ๊ง" ไรอาซึ่งมีความสามารถในการค้นหาและจับเป้าหมายอยู่แล้วเป็นฝ่ายเจอซาฟิโร่ก่อน
"โถ่! นึกว่าใครที่แท้ก็โจรกระจอกไรอานี่เอง" ซาฟิโร่พูดเย้ย
"อืม....ถ้าข้ากระจอกก็แสดงว่าเจ้ากระจอกกว่าข้านะซิ เพราะซึ่งเก่งกว่าข้า ถูกข้าหาเจอนะ" ไรอาพูดสวน
"หนอยปากดีนักนะงั้นตายซะ" ซาฟิโร่พูดพลางหันปากกระบอกปืนไปทางไรอา
ไรอาเห็นดังนั้นจึงกระโดดพุ่งเข้าหาซาฟิโร่ทันที
"ลองชิมนี่หน่อยเป็นไง ไรอา Kick"
พลัก!
"อุ๊บ.."
เท้าของไรอาโดนเข้าที่หน้าของซาฟิโร่เต็ม ๆ  ซาฟิโร่ถึงกลับกลิ้งไม่เป็นท่า ปืนก็กระเด็นไปอีกทาง
"เป็นไงเท้าฉันหอมดีม๊ะ"
"หนอยไอ้โจรกระจอก" ซาฟิโร่พุ่งเข้าหาหมายจะชกหน้าไรอา
ไรอาเห็นจึงเบี่ยงตัวหลบไปด้านซ้ายพร้อมขัดขาซาฟิโร่ ซึ่งทำให้ซาฟิโร่ล้มลงอีกครั้ง
"แหม ๆ คุณมือสังหารจัดกบได้กี่ตัวล่ะเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ "
"หนอยแกนะแก"
ซาฟิโร่ซึ่งเป็นมือสังหารถนัดในการใช้ปืน พูดถึงความแม่นยำแล้วพอ ๆ กับเอลด้าและอลิซาเบธเลยทีเดียว แต่เมื่อไม่มีปืนแล้วไรอาซึ่งคล่องแคล่วกว่าจึงเป็นฝ่ายกระทำอยู่ตลอด
"ไรอา..." ฟรอสซ์ซึ่งจมูกไวกับการต่อสู้รีบวิ่งมาหาไรอาทันที
จังหวะที่ไรอาหันไปมองฟรอสซ์แค่แวบเดียว ซาฟิโร่สบัดแขนขวาปืนที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็หล่นลงมาพร้อมหันปืนใส่ไรอาทันที
ไรอาเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าจู่โจมทันที แต่ปฏิกิริยาในการเหนี่ยวไกปืนของซาฟิโร่ไวพอ ๆ กับงูแลบลิ้น
ปัง! ลูกกระสุนทะลุหน้าอกด้านขวาของไรอาไป
"โอ้ย! "
"หึ ๆ เป็นยังไงหนูคราวนี้แกไม่รอดแน่" ซาฟิโร่หมายปลิดชีวิตของไรอาซึ่งหมดทางสู้
"ลาก่อน"
ปัง!   ปัง!
"อ้าก..."
ก่อนที่ซาฟิโร่จะปลิดชีวิตไรอา เอลด้าและอลิซาเบธได้ยิงปืนใส่ซาฟิโร่ที่ไม่รู้ตัวว่าตกเป็นเป้าอยู่ ซึ่งเอลด้ายิงทำลายปืนของซาฟิโร่จนแหลก แต่อลิซาเบธยิงตัดเส้นเอ็นที่ข้อมือของซาฟิโร่
"หนอยฝากไว้ก่อนเถอะ" ซาฟิโร่รีบหนีเอาชีวิตรอด
ฟรอสซ์วิ่งมาถึงเห็นไรอากำลังแย่จึงรีบอุ้มไรอากลับที่พัก
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
"คุณหมอนาธารค่ะ ไรอาเป็นยังไงบ้างค่ะ" องค์หญิงถามอาการไรอาอย่างเป็นห่วง
"อาการหนักมาก ตอนนี้ปลอดภัยแล้วแต่หมอว่าคงต้องพักซักระยะ"
"เฮ่อ...ค่อยโล่งอก"
"หนอยยัยองค์ราชินีวิโอเรีย กล้าส่งมือสังหารมาเลยเหรอ" ฟรอสซ์กล่าวอย่างโมโห
"แถวยังมีพวกจตุบ้าบออะไรอีกเราจะทำยังไงล่ะเนี่ย"
"ฟรอสซ์ใจเย็นก่อน ท่านเฟรย่าค่ะเราต้องรีบแล้วนะค่ะพอมีทางไหนที่จะช่วยอองเดรจากมนต์สะกดบ้างจ๊ะ" องค์หญิงถามอย่างใจร้อน
"มีแน่นอนเพค่ะองค์หญิงทางนั้นก็คือ....." (to be continue)

จากเรื่องตอนนี้เราคิดว่าไรอาน่าจะเก่งกว่า Annedisonge Kidnaper ทั่ว ๆ ไปจึงคิดการ์ดได้ดังนี้
Ri-a, the Annedisonge Kidnaper
Mp 3/1  Water  Bandit   Lv. 2
At 7
Df 7
Sp 5

N(Annedisonge)     Flash Attack     At 9 Mp 2
เมื่อ Ri-a เป็นเป้าหมายการโจมตี สามารถสั่งไรอาโจมตี Seal นั้น ((http:///images/sign_inf.gif)) Mp 3
Skill   เมื่อฝ่ายตรงข้ามสั่งการ Seal   Ri-a, the Annedisonge Kidnap สามารถ Steal Seal ใบนั้นได้ถ้า Seal ใบนั้นมี Sp น้อยกว่า Ri-a, the Annedisonge Kidnap
((http:///images/sign_inf.gif)) Mp 3

เก่งเวอร์กันทั้งนั้นเลย

แล้วไงมีธาตมืดมาปนอยู่ด้วยหละ

คราวนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับแอนดิซองก็เถอะแต่ไหนๆมันจะเป็นสงครามสี่อาณาจักรแล้วหนิ(นี่ๆking of cup หน่ะน่าจะให้วังพังหรือบาดเจ็บปางตายก็ดีนะ น่าสงสารเจ๊แก่อุตส่าห์ช่วย)

ทางด้าน เฟเลเชีย กองทัพทมิฬของ ซาโลมได้เริ่มบุกเข้าสู่ทางใต้ดินอย่างเงียบๆ ขณะนี้ห้องโถงของเฟเลเชีย คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ที่เห็นเด่นชัดสุดคือ องค์หญิงเรจิน่า และเจ้าชายแฮริสัน
"วันนี้ถือเป็นวันดี ที่สองอาณาจักรจะได้ร่วมมือกัน สร้างกองทัพใหม่ที่แข็งแกร่งกว่ากองทัพใดๆในโลกเมอริเซีย กองทัพนี้มิได้เพียงสร้างเพื่อสู้รบเท่านั้น แต่ยังสร้างเพื่อสานสัมพันธ์ของสองอาณาจักรด้วย ขอท่านพบกับ กองทัพ"พันธมิตรศิลาวายุ"ได้แล้ว" ราชินีอลิเซียพูดพลันแล้วเธอก็ผายมือไปทางลานกว้างหน้าพระราชวัง สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทุกคนคือเหล่าอัศวันยูนิคอน มากมายในชุดสีเงินเรืองรอง

โปรดติดตามตอนต่อไป
โทษทีนะวันนี้สั้นไปหน่อยมีธุระหน่ะบายจะ

เราคิดว่าน่าจะมีนักตีดาบบ้างนะ(สงสารกลุ่มขององค์หญิงอ่ะ)
Maximos,the Blacksmith
Lv.2 Mp 2/1 Merchant Scientist water
At 6
df 8
Sp 3
+Any Element Smithtly At 9 Mp 2
+Merchant Weapon Modify At 10 Mp 3
Skill : นำ Mystic ชนิด Relic จากบนมือมาติดยัง Seal ฝ่ายเรา 1 ใบในสนามโดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย [inf](Mp 0)
ตราบเท่าที่ Maximos อยู่ในสนาม ค่าร่าย Mystic ชนิด Relic Mp -1

แม็กซิมอส คือนักตีดาบที่เก่งที่สุดในเมอริเซียเขาได้ยื่นมือช่วยเหลือเจ้าหญิงอลาน่าและพวก โดยการทำอาวุธพิเศษ ให้กับพวกเขาแต่การทำอาวุธมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะจิ(เพราะ 4 จตุมารคอยก่อกวนตลอดนิ)

ก็ผมคิดว่าถ้าวิโอเรียปางตายหรือตายไปเลยมันจะงายป่ะอ่ะครับ คุณ Shirahime  เดี๋ยวมันจะซ้ำกับตอนเบลซเซจอ่ะ ต่อ ๆ ดีก่า

กลับมาทางด้านแอนดิซองค์ ขณะที่เฟรย่ากำลังจะบอกหนทางที่จะต่อสู้กับพวกปีศาจและช่วยอองเดรให้พ้นจากคำสาปของวิโอเรียนั่นเอง
"มีแน่นอนเพค่ะองค์หญิงทางนั้นก็คือ....."
"พวกท่านต้องใช้อาวุธที่มีพลังของเทพ ซึ่งในหมู่พวกเรานั้นมีเพียงคาลอสกับท่านฮิลเคเบี่ยนเท่านั้นที่มีสิ่งนั้นอยู่"
"ดาบสายฟ้าของคาลอสมีพลังของเทพสายฟ้าทอร์ดอยู่ ส่วนดาบหิมะของท่านฮิลเคเบี่ยนมีพลังของเทพเช่นกัน"
"ใครก็ได้ ช่วยข้าด้วย" เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น
"เอ๊ะ! นั่นเสียงใครร้องให้ช่วยน่ะ" องค์หญิงถามขึ้นด้วยความสงสัย
"เดี๋ยวข้าจะไปดูให้เอง" คาลอสอาสา
"ระวังตัวนะค่ะคุณ" แอนนาพูดอย่างเป็นห่วง
"ข้าไม่เป็นอะไรหลอก เดี๋ยวข้าก็กลับมา"
คาลอสรีบวิ่งไปหาต้นตอของเสียงขอความช่วยเหลือและได้พบกับ ชายผู้หนึ่งกำลังหนีจากการล่าของอามาดิลอน (Armadilon) ฝูงหนึ่ง
"ช่วยข้าด้วย" ชายผู้เคราะห์ร้ายพยายามหนี หากแต่สำพาระที่แบกมานั้นเป็นอุปสรรคมิใช่น้อย
คาลอสเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าช่วยชายผู้นั้นอย่างรวดเร็ว
"ช่วยด้วย...อุ๊บ" ด้วยความที่รีบเร่งทำให้ชายผู้เคราะห์ร้ายวิ่งสะดุดก้อนหิน ทันใดนั้นอามาดิลอนตัวนึงพุ่งเข้ามาหวังจะฆ่าชายผู้นั้น  คาลอสชักดาบออกอย่างรวดเร็ว และกระโดดเข้าฟันใส่เข้าที่กลางหัวของเจ้าอามาดิลอน ดาบที่ฟันลงไปนั้นช่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าที่ฟาดใส่อามาดิลอน การฟันในครั้งเดียวแยกร่างของอามาดิลอนออกเป็น 2 ซีก ทันที เหล่าอามาดิลอนเมื่อเห็นพรรคพวกตายต่อหน้าในการโจมตีครั้งเดียวถึงกับชะงักไป ถึงมันจะเป็นสัตว์แต่มันก็รับรู้ได้ถึงความเก่งกาจของคาลอส  หลังจากที่คาลอสได้สังหารอามาดิลอนตัวแรกไปแล้วก็ยืนตั้งท่าอย่างมั่นคง โดยดาบตั้งปลายดาบเฉียงขั้นไปทางซ้าย เหล่าอามาดิลอนสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรง ถ้าหากพวกตนจู่โจมเข้าไปคงต้องตายแน่ ๆ จึงตัดสินใจล่าถอยกลับไป
"ขอบคุณมากครับ คุณอัศวิน ที่ช่วยชีวิตผมไว้" ชายหนุ่มลุกขึ้นกล่าวขอบคุณกับคาลอส
"ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง ว่าแต่ทำไมพวกอามาดิลอนถึงตามทำร้ายท่านล่ะ แล้วท่านเป็นใครมาจากไหนและกำลังจะไปไหนล่ะ" คาลอสถามอย่างสงสัย
"ข้าชื่อ แม๊กซิมอส เป็นช่างทำอาวุธ เป็นคนแอนดิซองค์นี่ล่ะ ครอบครัวข้าตายด้วยโรคระบาท มีข้าเท่านั้นที่รอดมาได้ พอดีได้ช่างตีดาบคนนึงช่วยข้าไว้ ข้าจึงฝันตลอดว่าจะเป็นนักทำอาวุธที่เก่งที่สุด ข้าจึงเดินทางไปทั่วทวีปเมอร์ริเซียเพื่อฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะเป็นช่างทำอาวุธที่เก่งที่สุดน่ะ ข้าพึ่งกลับมาจากการฝึกวิชา เห็นซากอามาดิลอนเข้าจึงเข้าไปดูว่ามันเป็นอะไร และจากนั้นพวกของอามาดิลอนมาเห็นเข้าเลยนึกว่าข้าเป็นคนฆ่าพวกของมัน จึงไรตามฆ่าข้าน่ะ" แม๊กซิมอสเล่าความเป็นมาของตัวเอง
"เออคือ...ท่านหยั่งงั้นหยั่งงี้เลยนะ คือว่า....ข้ายังไม่มีที่พักเลยอ่ะ และไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วล่ะ ท่านพอจะช่วยข้าได้มั้ย"
"ได้ซิตามข้ามา"
"ขอบคุณท่านมาก ว่าแต่ท่านชื่ออะไรเหรอ"
"ข้าคาลอส เป็นอัศวินพเนจรน่ะ"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
"ง่ำ ๆ ๆ ๆ ...ขออีกชามครับ"
"แหม...เจริญอาหารจังนะค่ะ" องค์หญิงพูดหยอกแม๊ก
"แหม องค์หญิงก็ข้าไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว แถมยังต้องมาวิ่งหนีเจ้าอามาดิลอนอีก มันก็หิวเป็นธรรมดาล่ะครับ" แม๊กพูดพร้อมกับเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก
"อุ๊ก....ติดคอช่วยข้าด้วย"
"เอาน้ำจ้า" เรเมดิส่งน้ำให้
"ขอ..ขอบคุณมาก"
"เฮ่อ....นึกว่าจะตายซะแล้ว"
"ฮึ ๆ ๆ "
"ไม่ได้เห็นองค์หญิงหัวเราะมานานแล้วนะเพค่ะ" ซิสเตอร์กล่าวอย่างดีใจ
"แหม...ซิสเตอร์โรซาน่าก็"
"ฮู่...อิ่มจัง"
"ท่านแม็กซิมอสถ้าไม่รังเกียจพักกับเราที่นี่ก็ได้นะจ๊ะ" องค์พูด
"แหม...ขอบพระทัยพะยะค่ะ แต่เพื่อเป็นการตอบแทน ข้ารู้ว่าพวกท่านต้องการอาวุธที่มีพลังของเทพ เรื่องนี้ข้าสามารถช่วยพวกท่านได้นะ"
"หา....จริงหรือเปล่า" ฟรอสซ์พูดอย่างตื่นเต้น
"ท่านช่วยพวกเราได้จริง ๆ เหรอ" ฟรอสซ์อยากรู้มากขึ้น
"แน่นอนท่านฟรอสซ์ ข้าได้เดินทางไปทั่วทวีปเมอร์ริเซีย มีความรู้มากมาย อย่าหาว่าข้าโม้เลยนะ ข้าว่าตอนนี้ข้าคือช่างตีอาวุธที่เก่งกาจที่สุดเชียวนา" แม๊กพูดอย่างมั่นใจ
"งั้นท่านก็ทำอาวุธให้พวกข้าเร็ว ๆ หน่อยซิข้าชักคันไม้คันมืออยากสู้เต็มที่แล้ว" ฟรอสซ์ที่ชอบการต่อสู้เริ่มคึกคักอีกครั้งทั้ง ๆ ที่พึ่งจะพ่ายแพ้ต่อราชินีวิโอเรียมา
"ทำน่ะทำให้ได้ แต่ต้องมีวัตถุดิบซะก่อนถึงจะทำได้"
"แล้วต้องใช้อะไรบ้างล่ะท่าน ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหนข้าจะไปเอามาให้ท่านเอง" ฮิลเคเบี่ยนเสนอตัว
"การที่จะตีอาวุธเทพได้นั้นต้องใช้สิ่งศักดิ์ในการตี วัตถุดิบก็มี น้ำศักดิ์สิทธิ์จากวิหาร Saint Laurence ที่มีมังกร Quelleiavas เฝ้าอยู่ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาในการนำมา ต่อมาก็เปลือกไข่ของ Nevaran, the Soul Wing Wyvern เพราะเปลือกไข่ได้รับพรจากเหล่าเทพทำให้มีพลังของเทพสถิตอยู่ด้วย อันนี้หายากพอดู ต่อมาก็แร่หินศักดิ์สิทธิ์อันนี้จำเป็นมาก ๆ หายากกว่า 2 สิ่ง ก่อนหน้านี้  และสุดท้ายอาจจะง่ายที่สุดหรืออาจยากที่สุดก็ได้นะ" แม๊กพูดอย่างกังวลนิดหน่อย
"เชิญท่านพูดมาเถิด ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ หรือต้องสู้กับมังกรยักษ์ยอร์มุนกันต์ ข้าก็ไม่หวั่น" ฮิลเคเบี่ยนให้คำมั่น
"สิ่งสุดท้ายนี่หายากมากหรือจ๊ะท่านแม๊กซิมอส" องค์หญิงถามอย่างกังวล
"สิ่งสุดท้ายก็คือ เขาของ พานิชูร่า ที่มีพลังกำจัดปีศาจแล้วก็ ดาบของ Nephele, the Goddess of Centaur"
2 สิ่งสุดท้ายทำให้ฮิลเคเบี่ยนถึงกับอึ้ง
"ทีนี้ท่านจะเอามาให้ข้าได้มั้ยล่ะท่านฮิลเคเบี่ยน"
ฮิลเคเบี่ยนได้แต่เงียบ
"ข้าว่านะกว่าท่านจะไปเอา 3 สิ่งแรกมาได้ แอนดิซองค์คงจะเต็มไปด้วยปีศาจแล้วล่ะ"
"ขอเพียงท่านบอกวิธีมาข้าพร้อมที่จะไปเอามาให้ท่าน"
"ว่าแต่ถ้าข้านำของเหล่านั้นมาได้แล้วท่านต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการตีอาวุธเทพล่ะ" ฮิลเคเบี่ยนถาม
"ข้าสามารถทำให้เสร็จได้ภายใน 3 วัน แต่ข้าว่า รอท่านกลับมาคงปีหน้าล่ะมั้ง ฮ่า ๆ ๆ " แม๊กซิมอสเย้ยฮิลเคเบี่ยนเนื่องจากไม่ค่อยชอบท่าทางของฮิลเคเบี่ยนที่มั่นใจเกินไป
"ถ้าท่านสามารถตีอาวุธเทพได้ภายใน 3 วัน ข้าก็จะไปนำของเหล่านั้นมาให้ได้ภายใน 3 วันเช่นกัน" ฮิลเคเบี่ยนก็ไม่ยอมแพ้กล่าวอย่างมั่นใจเช่นกัน
ทั้งฮิลเคเบี่ยนและแม๊กซิมอสต่างจ้องตากันต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
"หึ ๆ ๆ ข้าเห็นว่าท่านมีความมุ่งมั่นข้าจะบอกที่อยู่ของของ 2 สิ่งสุดท้าย...ท่านจงไปที่ภูเขาวาลฮาล ถ้าท่านผ่านเทพธิดาที่เฝ้าปากทางเข้าได้ล่ะก็ (Brigitte, the Valkirie) ท่านก็จะรู้เอง"
"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ" พูดจบฮิลเคเบี่ยนก็เดินจากไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮิลเคเบี่ยนได้มุ่งหน้าไปหาเพื่อนของเค้า นั่นคือ ฟราก้า (Fraga, the General of Annedisonge) และ ไรก้า (Sage of Annedisonge) เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งทั้ง 2 ก็ตกลง ด้วยขนนกร๊อกแดงของไรก้า (to be continue)

เห็นด้วยอย่างแรงนะ King of cup  ไม่งั้นเรื่องมันก็จบเร็วขึ้นนะจิ(และ 4 จตุมารก็ไม่มีในเรื่อง หุหุ)
วันนี้เลยเปลี่ยนบรรยากาศเอาเป็นศราตราวุธละกัน
Terranigma,the goddess Gluntlet
Mp 2 inf Turn PS Relic
Pugilist ที่ Terranigma ติดอยู่ At +ตามจำนวนธาตุของ Seal ในสนาม และ เมื่อต่อสู้กับ [dark] At +3
ถ้า Seal ที่ติดคือ n[frost] หรือ n[elfaria] จะได้รับ "Skill: Seal 1 ใบ เปลี่ยนธาตุที่เลือก 2 Turn (mp 2)"และได้รับ Ability "Seal ฝ่ายตรงข้ามธาตุเดียวกันกับ n[frost] หรือ n[elfaria] ไม่สามารถโจมตีและใช้ Skill ใส่ n[frost] หรือ n[elfaria]" "สามารถโจมตีได้ 2 ครั้ง" และ "ยกเลิก Skill และ Abilty [dark]" ด้วย

Leonheart,the legendary Gunblade
Mp 2 inf turn PS Relic
Seal ที่ Leonheart ติด At +1 Df +1 Sp +1 และ เมื่อต่อสู้กับ [dark] At +3
หาก Seal ที่ติดคือ Eldar สามารถโจมตีจาก Df line และ โจมตีข้ามไปยัง Df Line ได้และได้รับ Alibity "เมื่อ Eldar โจมตี สามารถเลือกท่าโจมตีท่าใดก็ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย" สามารถโจมตี แบบ All ได้ และ ยกเลิก Skill และ Alibity [dark] ด้วย

เทียรานิกม่าและลีออนฮาร์ค เป็นอาวุธที่มีพลังของเทพทำให้กับ ฟรอส,เอลฟาเรีย และ เอลด้า
เอาแค่ 2 อันนี้ก่อน(ที่เหลือและรายละเอียดไว้คราวหน้า)
ต่อไปเป็นม้าวิเศษของ คาลอส
Grey Lighting ,Carlos's Horse
Lv.1 Mp1/1 Beast non-element
At 5
Df 4
Sp 5
ตราบที่ Grey Lighting เป็นตัวรองรวมร่าง Seal นั้น Sp=5
ตราบที่ Grey Lighting เป็นตัวรองรวมร่าง Carlos Carlos At +3 Df +2 สามารถโจมตีข้ามมายัง Df Line และ ยกเลิก Curse ฝ่ายตรงข้าม
ม้า เกร ไลติ้ง(หรือสีหมอก) เป็นม้าวิเศษของคาลอสที่สามารถบินได้

ต่อไปเป็น พาหนะคู่ใจของฮิลเคเบี่ยน
Tombren,Hukekbain's Horse
Lv.1 Mp1/1 Beast non-element
At 4
Df 4
Dp 5
ตราบที่ Tombren เป็นตัวรองรวมร่าง Seal นั้น Mp ค่าโจมตี -2
ตราบที่ Tombren เป็นตัวรองรวมร่าง Hukkebain Hukkebain At +3 Df +2 สามารถโจมตี 2 ครั้ง และ ยกเลิก Freeze Curse
ทอมเบรนเป็นม้าวิเศษคู่ใจของฮิลเคเบี่ยน ที่เดินทางได้ทุกสภาพอากาศ และข้ามอันตรายได้

อันนี้ดาบของสควอล์ในไฟนอล 8 ป่ะเนี่ย = ="  แล้วความสามารถที่โจมตีท่าใดก็ได้โดยไม่จ่ายค่าร่าย มันโกงป่ะ ตีฟรีเลยเนี่ยนะ  (เข้าใจถูกป่ะ)

ต่อดีก่า....
หลังจากที่ฮิลเคเบี่ยนได้ข้อความช่วยเหลือจากฟราก้า และไรก้าแล้ว ทั้ง 3 รีบไปนำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่แม็กซิมอสต้องการ น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารเซนต์ลอเรนซ์ เปลือกไข่ของมังกรเนเวอเรน ทั้ง 2 สิ่งอยู่ที่ฟีลีเซีย ทั้ง 3 เดินทางด้วยขนนกร๊อกแดงของไรก้า ทั้ง 3 ได้ของครบแล้วเหลือแต่เขาของพานิชูล่าและดาบของเทพธิดาเซนทอร์ดเนเฟเร่
ณ ปากทางเข้าภูเขาวาลฮาล
"ที่นี่น่ะหรือภูเขาวาลฮาล" ฮิลเคเบี่ยนเอ่ยขึ้น
"ใช่! ข้าจำได้" ไรก้าพูด
"อย่ามัวแต่พูดกันเลยรีบเข้าเถอะ ชักช้าพวกปีศาจจะทำไรไปมั่งแล้วก็ไม่รู้" ฟราก้าพูด
ระหว่างที่ทั้ง 3 กำลังเดินเข้าไป
"นี่พวกท่านจะไปไหนกัน" เสียงหญิงสาวดังขึ้น
"ท่านเป็นใคร" ฮิลเคเบี่ยนถามขึ้น
จากนั้นเจ้าของเสียงก็ปรากฎกายขึ้น บริจริต นั่นเอง
"ข้าบริจริต ข้ามีหน้าที่เฝ้าปากทางเข้าภูเขาแห่งนี้ พวกท่านกำลังจะไปไหน"
"ข้าฮิลเคเบี่ยนเป็นราชองค์รักษ์ขององค์ราชาอองเดร ขณะนี้องค์ราชากำลังตกอยู่ในมนต์สะกดของปีศาจร้าย ข้าและสหายของข้าต้องการนำเขาของพานิชูล่ากับดาบของเทพธิดาเซนทอร์ดเนเฟเร่เพื่อนำไปสร้างอาวุธเทพ"
"ข้าฟราก้า พวกข้าจำเป็นต้องเข้าไป ขอโปรดท่านช่วยบอกท่านกับพวกข้าด้วยเถิด"
"ส่วนข้าไรก้า ได้โปรดท่านให้เราผ่านไปด้วยเถอะ พวกเราจำเป็นต้องรีบไปช่วยองค์ราชา"
"ข้าเข้าใจพวกท่านแต่ทางที่พวกท่านจะเข้าไปเป็นดินแดนสวรรค์ ข้าไม่สามารถให้พวกท่านผ่านไปได้"
"งั้นข้าต้องขอเสียมารยาทแล้ว" ฟราก้าพูดพร้อมชักดาบคู่ใจออกมาจู่โจมใส่บริจริต
บริจริตสามารถหลบการโจมตีได้ไม่ยากนั้น
"นี่พวกท่านจะทำอะไรน่ะ" บริจริตถาม
"เมื่อท่านไม่ให้เราผ่าน เราก็จำเป็นต้องใช้กำลังล่ะ" ฟราก้าตอบ
"หึ ๆ ๆ ถ้าพวกท่านสามารถทำให้ข้าเกิดบาดแผลได้ ข้าจะบอกทางให้" บริจริตท้าทาย
"ข้าขอล่วงเกินท่านแล้ว" ฮิลเคเบี่ยนชักดาบหิมะออกมา รังสีจากดาบที่เปล่งออกมานั้น สำหรับคนธรรมดาจะเห็นเป็นเพียงไอเย็นเท่านั้น หากแต่บริจริตเห็นเป็นพลังของเทพที่สถิตอยู่ในดาบนั้นมีพลังมหาศาลทีเดียว
ขณะนี่บริจริตถูกทั้ง 3 ล้อมไว้แล้ว หากแต่บริจริตมิได้เสียสามาธิแม้แต่น้อย ยังคงยืนอยู่อย่างสงบนิ่ง คอยดูการเคลื่อนไหวของพวกฮิลเคเบี่ยน
"ในนามแห่งข้าไรก้า จงออกมามังกรวารี" ทันทีที่ไรก้าร่ายคาถาจบ มังกรน้ำตัวมหึมาก็ปรากฏตัวขึ้น
"จัดการเลยมังกรวารี" สิ้นคำสั่งมังกรวารีร่างยักษ์ก็จู่โจมใส่บริจริตทันที
มังกรพ่นน้ำใส่บริจริต บริจริตตวัดดาบเพียงครั้งเดียวก็สลายการโจมตีของมังกรน้ำไปได้
"สมแล้วที่เป็นนางฟ้าเฝ้าปากทางเข้า" ไรก้าเอ่ยชม
"คราวนี้ข้าบ้าง ย้าก......ก"
ฟราก้ากระโดดขึ้นเหนือหัวของบริจริตพร้อมฟันดาบลงมาเต็มแรง บริจริตเบี่ยงตัวเพียงเล็กน้อยก็หลบการโจมตีนั้นได้ พร้อมหมุนตัวเตะสวนใส่ฟราก้าทันที
"หนอย ฮึบ.."
พลัก!
ถึงแม้ฟราก้าจะใช้ดาบป้องกันการเตะของบริจริต แต่ด้วยความแรงทำให้ฟราก้ากระเด็นไปเล็กน้อย
"เอ้าท่านฮิลเคเบี่ยน การมองนั้นไม่สามารถทำให้ข้าเกิดแผลได้หลอกนะ" บริจริตท้าทาย
ฮิลเคเบี่ยนยังคงตั้งท่าอย่างเยือกเย็นหมายเผด็จศึกในการโจมตีครั้งเดียวเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมาก
"ท่านฟราก้าเรามาโจมตีพร้อมกัน เพื่อเปิดช่องให้กับฮิลเคเบี่ยนดีกว่านะ"
"ตกลง"
"ไปเลยมังกรวารี"
"กรรร...."
"คราวนี้ล่ะ เพลงดาบแยกสมุทร...ย้ากก....ก"
บริจริตยังคงสามารถหลบการโจมตีได้อย่างคล่องแคล่ว
"Water Magic..." ไรก้าปล่อยพลังเวทฯ ใส่บริจริต
บริจริตตวัดดาบสลายพลังเวทฯ นั้นและจู่โจมใส่ไรก้าทันที สำหรับจอมเวทฯ แล้วการต่อสู้ในระยะประชิดจะเป็นการเสียเปรียบอย่างยิ่ง
"ดูซิว่าท่านจะรับดาบข้ายังไง"
บริจริตพุ่งเข้าหาไรก้าด้วยความเร็ว แต่มังกรวารีฟาดหางใส่บริจริตในจังหวะนั้นเช่นกัน
"ตึง..." บริจริตกระโดดหลบอย่างหวุดหวิด
"ท่านข้าสู้กับท่านตัวต่อตัวข้าคงพ่ายแพ้แก่ท่านแล้วนางฟ้าบริจริต"
บริจริตยังไม่ทันได้ตั้งหลักฟราก้าก็พุ่งเข้าหาบริจริตอีกครั้งจากด้านหลัง
เปรี้ยง!
บริจริตหันไปรับดาบของฟราก้า หวิดจะถูกฟัน
"ในที่สุดการโจมตีข้าก็ได้ผลบ้างล่ะ" ฟราก้ากล่าวอย่างมั่นใจ
"จังหวะนี่ล่ะมังกรวารี Water Breath"
"กรรร..."
ตูม!
มังกรวารีปล่อยพลังใส่บริจริตจากด้านหลังทันที
บริจริตกระโดดหลบได้ ทำให้พลังนั้นถูกฟราก้าแทน
"อ้าก..."
"ฟราก้าเป็นอะไรหรือเปล่า" ไรก้าตะโกนถามอย่างเป็นห่วง
จังหวะที่บริจริตกระโดดขึ้นไปนั้น ฮิลเคเบี่ยนจึงฉวยโอกาสนี้ทุ่มพลังทั้งหมดจู่โจมใส่บริจริตทันที โดยขว้างดาบหิมะใส่บริจริตทันที บริจริตซึ่งลอยตัวอยู่บนอากาศมิสามารถจะหลบได้จังได้แค่ปัดดาบของฮิลเคเบี่ยนไป และจังหวะพิฆาตของฮิลเคเบี่ยนก็มาถึง ฮิลเคเบี่ยนจับดาบหิมะอีกเล่มนึง โดยจับดาบกลับกับปกติ ปลายดาบหันไปข้างหลัง ฮิลเคเบี่ยนบิดตัวช่วงบนไปทางด้านขวาเต็มที่กระโดดเข้าหาบริจริตในจังหวะที่ปัดดาบแรกทิ้ง เมื่อบริจริตปัดดาบแรกทิ้ง ก็เจอฮิลเคเบี่ยนพุ่งเข้ามาพอดี บริจริตถึงกับตะลึ่ง เพราะไม่คาดคิดว่าฮิลเคเบี่ยนจะจู่โจมรวดเร็วเพียงนี้ ฮิลเคเบี่ยนบิดตัวฟาดดาบใส่บริจริตเต็มกำลัง ดาบหิมะฟาดใส่บริจริตเต็ม ๆ ถึงกับกระเด็นไปชนกับหินก้อนยักษ์อย่างแรง
ตูม!
"โอ้ย..." การโจมตีของฮิลเคเบี่ยนทำให้บริจริตบาดเจ็บมากพอสมควร
"แฮ่ก ๆ ๆ ๆ " ฮิลเคเบี่ยนลงสู่พื้นพร้อมตั้งท่าเตรียมจุ่โจมอีกครั้ง
"รู้ผลแล้วนะท่านนางฟ้า" ไรก้าพูดขึ้น
"พวกท่านฝีมือร้ายกาจมาก โดยเฉพาะท่านฮิลเคเบี่ยน" บริจริตประคองตัวลุกขั้นมา ถึงแม้การโจมตีเมื่อครู่ของฮิลเคเบี่ยนจะรุนแรง แต่จังหวะที่ฟาดดาบไปได้ลดพลังทำลายลง บริจริตจึงไม่บาดเจ็บมาก
"ขออภัยท่านนางฟ้า ข้าทำให้ท่านต้องบาดเจ็บ" ฮิลเคเบี่ยนกล่าวขออภัย
"ไม่เป็นไรหลอกท่าน อาการแค่นี้เดี๋ยวก็หายแล้ว ข้าจะบอกทางพวกท่านตามสัญญา"
"เมื่อท่านเดินผ่านตรงนี้ไปซักระยะจะเจอทางแยก 2 ทาง ทางซ้ายคือทางไปสู่ดินแดนของเทพและนางฟ้าต่าง ๆ เป็นที่อยู่ของเทพ....(*) ผู้เป็นนายของพานิชูล่า ส่วนทางขวาจะเป็นดินแดนของเทพมังกร เทพสัตว์ต่าง ๆ เทพธิดาเนเฟเร่อยู่ทางนี้ ท่านจงรีบไปเถิด"
"ขอบคุณท่านมากนางฟ้าบริจริต" ฮิลเคเบี่ยนกล่าวขอบคุณ พร้อมทั้งรีบเดินทางไปทันที
หลังจากที่พวกฮิลเคเบี่ยนจากไปซักระยะ ได้มีเงาดำถึง 4 ร่าง ปรากฏขึ้น บริจริตซึ่งบาดเจ็บอยู่จังไม่ทันสังเกตว่า จตุรมารได้มาถึงภูเขาวาลฮาลแล้ว (to be continue)

ป.ล. จำชื่อเทพที่สร้างพานิชูล่าไม่ได้แล้วอ่ะจึงใส่เป็น (*) เคยอ่านเจอในบอร์ดไหนไม่รู้หาไม่เจอล่ะ เป็นเทพที่คอยปราบเหล่าปีศาจ ซึ่งเมื่อเทพองค์นี้นอนหลับ พานิชูล่าจะคอยกำจัดปีศาจแทนอ่ะ ใครรู้ก็ช่วยบอกหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ

ถูกต้องนะคร้าบ  ส่วนชื่อของกันเบลดนี่มันคิดไม่ออกอ่ะเลยใส่ชื่อนี้แทน และถือว่าเป็นอาวุธสุดยอดของสควอล์ด้วย

งานนี้ขอคิดอัศวินเทพผู้คุ้มครององค์หญิงอลาน่าบ้างนะ

Milinando,the Wind Knight
Lv.2 Mp3/1 Light Knight Divine
At 7
Df 8
Sp 5
+[wind] Gale Slash At 9 Mp 1
+[light] Des Cut At 11 Mp 3
Milinando สามารถโจมตีมายัง Df Line
เมื่อ Milinando โจมตี เราสามารถจั่วการ์ด 1 ใบขึ้นมือ
เมื่อ n[alana] ตกเป็นเป้าหมายของ Skill นำ Milinando ลงมายังสนามแล้วย้ายเป้าหมายไปยัง Seal ตัวอื่นในสนาม[inf](Mp3)

Gaddes,The Water Knight
Lv.2 Mp2/1 Water Knight-Divine
At 6
DF 7
Sp 3
+[water] Ice Blizzard At 9 Mp 1
+[light] Land of water At 11 Mp 2
Gaddes สามารถเทียบค่าพลัง กับ ค่า Df ของฝ่ายตรงข้าม
นำ Seal ที่ติด Curse กลับเข้ากองและสลับใหม่ (Mp1)
เมื่อ n[alana] ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีนำ Gaddes ลงมายังสนามแล้ว Seal ที่โจมตีติด Freeze Curse 2 Turn [inf](mp3)

มิลินอันโด้ กับ แกดเดส เป็นอัศวินเทพ ที่ได้รับหน้าที่จากสวรรค์ส่งลงมาช่วยเหลือองค์หญิงอลาน่า

ต่อไปเป็นศราตราวุธ(ต่อจากตอนที่แล้ว)
Cosmo,AP Rifle
Mp 2 inf Turn PS Relic
Seal ที่ Cosmo ติด At +1 Sp +1 และยกเลิก Mystic Card ฝ่ายตรงข้าม
ถ้า Seal ที่ติดคือ Alizabeth ได้รับ Ability สามารถโจมตีจาก Df Line มายัง Df Line , สามารถโจมตีได้ 2 ครั้ง , เมื่อ Alizabeth โจมตี Seal ที่เป็นเป้าหมายการโจมตี ลดค่าDf ตามจำนวนค่าร่ายและค่าโจมตีของ Seal นั้น 1 Turn และยกเลิก Skill และ Ability ของ [dark] ด้วย

ปืนไรเฟิลคอสโม เป็นอาวุธเทพ เมื่อยิงไปแล้วสามารถทะลุทะลวงทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่พลังแห่งมารได้(ปืนกระบอกนี้ เป็นปืนที่อลิซาเบธใช้สังหารกิโยติน)

อัศวินนี้คงมิใช่องค์เดียวกันกับเทพอารักษ์ประจำองค์ขององค์หญิงอลาน่าหลอกนะ เพราะเทพอารักษ์ขององค์หญิงมีองค์เดียวนิ @_@"

 ต่อดีกว่า ความเดิมตอนที่แล้วพวกฮิลเคเบี่ยนได้ไปหาของศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เพื่อนำไปให้แม๊กซิมอสสร้างอาวุธเทพขึ้น ซึ่งได้เดินทางมาถึงภูเขาวาลฮาล พวกเค้าทั้ง 3 ได้พบกับนางฟ้าบริจริตผู้เฝ้าปากทางเข้า และได้ต่อสู้เพื่อที่จะผ่านเข้าไป เมื่อฮิลเคเบี่ยนสามารถเอาชนะนางฟ้าบริจริตได้ ก็ได้มุ่งหน้าต่อไป ซึ่งหลังจากที่พวกฮิลเคเบี่ยนมุ่งหน้าต่อไปนั้น ได้มีเงามืดปรากฏร่างขึ้นที่หน้าทางเข้า ซึ่งเงาทั้ง 4 นั่นคือ จตุรมากนั่นเอง....

"อืม...นี่นะหรือภูเขาวาลฮาล ช่างงดงาม สมกับเป็นทางเข้าดินแดนสวรรค์จริง ๆ " แกรนซอนพูดขึ้น
"ที่นี่จะต้องมีเทพหล่อ ๆ เต็มไปหมดแน่เลย โฮ่ ๆ ๆ ๆ ถ้าเจอข้าจะสะกดให้เป็นทาสของข้าตลอดไป โฮ่ ๆ ๆ ๆ" มาย่าหัวเราะอย่างดีใจ
"อย่ามัวชักช้าอยู่เลย อย่าลืมซิองค์จักรพรรดิ์สั่งให้เรามาทำอะไร" เรเวนผู้เคร่งครัดในคำสั่งเตือนมาย่า
"เอาเถอะพวกเราก็รีบเข้าไปกันได้แล้ว" แกรนซอนแทรกขึ้น
"ที่นี่เป็นทางเข้าดินแดนสวรรค์พวกปีศาจจงกลับไปยังที่ที่พวกเจ้ามาซะ"
"เจ้าเป็นใครคิดจะมาสั่งพวกข้า" มาย่าถามอย่างเย้ยหยัน
"ถ้าพวกเจ้าคิดจะล่วงล้ำเข้ามาล่ะก็ข้าก็จำเป็นจะต้องจัดการกับพวกเจ้า" บริจริตปรากฎร่างพร้อมทวนคู่ใจ
"ถ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำอะไรพวกข้าได้ก็ลองดูซิท่านนางฟ้า" แกรนซอนท้าทาย
"นักดาบก็ต้องสู้กับนักดาบซิ ให้ข้าจัดการเองแกรนซอน" เรเวนชักดาบคู่กายออกมา
"ได้ซิเรเวน เล่นสนุกับนางฟ้าซักหน่อยซิ"
"ขอบใจมาก งั้นข้าไม่เกรงใจล่ะนะ"
เรเวนพุ่งเข้าปะทะบริจริตด้วยความเร็วสูง บริจริตตั้งท่าพร้อมตั้งรับอยู่แล้ว ถึงกับกระเด็นไปเล็กน้อย
"ฝีมือดีพอตัวนิท่านนางฟ้า"
"แค่เนี่ยไม่เท่าไหร่หลอกเจ้าปีศาจ"
ทั้ง 2 พุ่งเข้าหากันอีกครั้ง คราวนี้ดาบของเรเวนปะทะกับทวนของบริจริตอย่างแรง  ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้อีกฝ่าย ยังคงประลองกำลังกันอยู่
"ดูเหมือนกำลังเราจะสูสีกันนะนางฟ้า"
"อาจจะใช่แต่เทคนิคใครจะดีกว่ากันล่ะ มาตัดสินกัน"
"ฮึบ" ทั้ง 2 แย่จากกับ ต่างตั้งท่าพร้อมจู่โจมอีกผ่าย โดยเรเวนแยกขา ตั้งดาบระดับใบหน้า โดยปลายดาบชี้ไปด้านหน้า ฝ่ายบริจริตแยกขายืนอย่างมั่นคง เองตัวไปด้านหลังเล็กน้อย จับทวนอยู่เหนือศีรษะ ปลายทวนชี้ไปด้านหน้าหมายทะลวงขั่วหัวใจ
คราวนี้บริจริตพุ่งเข้าหาก่อน บริจริตใช้ทวนพุ่งทะลวงไปที่หน้าอกของเรเวน
"จู่โจมง่ายไปมั่งนางฟ้า" เรเวนเบี่ยงตัวนิดเดียวก็สามารถหลบการโจมตีของบริจริตได้
"แน่ใจเหรอเจ้าปีศาจ" บริจริตฟาดทวนที่พลาดเป้าไปแล้วใส่เรเวนทันที
เคร้ง ๆ ๆ  ๆ ๆ !
เสียงดาบของเรเวนปะทะกับทวนของบริจริตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำให้ฝ่ายตรงข้าม
"ย้ากก..."
"ย้ากกก..."
เคร้ง ๆ ๆ ๆ ๆ!
ทั้งสองต่อสู้กันอยู่หลายนาที แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ ทางแกรนซอนจึงบอกเรเวนว่า
"เรเวนอย่ามัวแต่เล่นเอาจริงได้แล้ว"
"แหม! แกรนซอน ข้ากำลังสนุกเลย" เรเวนพูดไปพลางปัดป้องทวนของบริจริตไปพลาง
ทั้ง 2 แยกกันตั้งหลักอีกครั้ง และคราวนี้เรเวนทำท่าจะตัดสินกับบริจริตแล้ว
"ท่านนางฟ้าข้าสู้กับท่านแล้วรู้สึกสนุกมาก แต่หมดเวลาเล่นสนุกแล้ว ข้าจะตัดสินกับท่านในดาบนี้ล่ะ" สีหน้าของเรเวนดูเยือกเย็นและนิ่งมาก
"ดีเหมือนกันข้าก็ไม่อยากจะเล่นกับเจ้าแล้ว" บริจริตตั้งท่าหมายจัดการให้ได้ในการโจมตีครั้งนี้
บริจริตเป็นฝ่ายโจมตีก่อนอีกครั้ง บริจริตกระโดดขึ้นฟาดทวนลงพื้นอย่างแรง พื้นดินถึงกับแยกเป็นรอยแยกตรงไปหาเรเวน เรเวนกระโดดหลบอย่างง่ายดาย จังหวะที่เรเวนลอยตัวอยู่นั้นบริจริตฟาดหินก้อนใหญ่ลอยไปทางเรเวน แต่เรเวนก็จัดการหินก้อนยักษ์อย่างง่ายดาย เมื่อหินก้อนยักษ์แตกไปแล้ว ร่างของบริจริตก็โผล่อยู่ตรงหน้าเรเวนทันที ใช่แล้วนี่คือการจู่โจมแบบของฮิลเคเบี่ยนนั่นเอง  บริจริตพุ่งปลายทวนใส่เรเวนทันที
ฉึก...! ปลายทวนของบริจริตแทงถูกร่างของเรเวนอย่างจัง และร่วงสู่พื้นทันที
"ตึง! อ้ากก...หนอยแน่ะ"
ฝ่ายจตุรมารคิดไม่ถึงว่าเรเวนจะพ่ายแพ้เช่นนี้ ถึงกับอึ้งไป
ตูม!  แกรนซอนปล่อยพลังเวทฯ ถูกบริจริตซึ่งไม่ทันระวัง ถึงกับกระเด็นไปไกลทีเดียว
"อั๊ก...." บริจริตถึงกับกระอักเลือด
แกรนซอนโจมตีซ้ำทันที
"ตายซะเถอะนางฟ้าบริจริต"
ตูม! พลังเวทฯ ของแกรนซอนพุ่งเข้าหาบริจริตที่บาดเจ็บสาหัส
ก่อนที่พลังเวทฯ ของแกรนซอนจะโดยบริจริต อัศวินแห่งสวรรค์โผล่เข้ามาช่วยพอดี เฮเวนไนท์ ใช้หอกกระแทกพลังกลับไปหาแกรนซอนทันที แกรนซอนซึ่งคาดไม่ถึงว่าจะมีใครมาช่วยจึงไม่ทันจะป้องกันตัว....
"ด้วยพลังแห่งความชั่วร้ายแห่งองค์จักรพรรดิ์ ข้ากิโยตินขอบัญชา...จงออกมาโลห์อาคมดำ" กิโยตินร่ายคาถาช่วยแกรนซอนไว้ได้
เมื่อจตุรมารเห็นเฮเว่นไนท์ ปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้า จึงตัดสินใจล่าถอยกลับไป จากนั้นเฮเว่นไนท์ได้พาตัวบริจริตไปรักษาตัวทันที....

ป.ล. ตอนที่แล้วพลาดอย่างแรงเลย บริจริต ใช้ทวนนิ ดันพิมพ์ไปใช้ดาบซะงั้นอ่ะ = =" ข้าน้อยพลาดไปแล้วเหอะ ๆ ๆ และอีกอย่างนะ



ไม่มีผู้ใดช่วยข้าน้อยในเรื่องนี้ได้เลยกระนั้นหรือ...หรือจาเป็นว่าไม่มีคนอ่าน เหอะ ๆ ๆ ๆ อันนี้น่าจะเป็นไปได้มากกว่านะเหอะ ๆ ๆ ๆ .....T_T

เอาน่าคิงออฟคับอย่างน้อยขอวังพังก็ยังดี(เชียร์ป้าเนอร์เต็มที่ โย่ว!)

ตูม! เกิดเสียงระเบิอดังกระหึ่ม และพื้นห้องโถงที่ยุบลงไป
"ว้าย!"
"โอ้ย!"
"ช่วยด้วย!"
ฉ้ง!เฉ้ง!เฉือก!เอื้อก!อ้าก!
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของประชาชนชาวเฟเลเชีย เหล่ากองทัพศิลาวายุก็ได้เข้าต่อสู้กับกองทัพทมิฬอย่างดุเดือด พร้อมกับเลือดที่ไหลลงบนพื้นพสุธา เลือดชาวเฟเลเชีย แม้ทัพศิลาวายุจะมีม้า แต่กองทัพทิมฬมีจำนวนมากกว่าแล้วพร้อมที่จะฆ่าตัวตายพร้อมกับทหารม้า

ท่ามกลางการต่อสู้นั้น องค์หญิงเรจิน่าก็ได้พบกับบุคคลที่เธอไม่อยากเจอที่สุด
"ราโชยู"เรจิน่าพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา และหันมองหาคนที่จะช่วยเหลือเธอได้ ไม่มี แม้แต่ชาลส์ และ ฮาริสันก็ยังคงติดพันกับการต่อสู้อย่างดุเดือด ดังนั้นเธอจึงค่อยๆดึงดาบออกจากฝัก ตั้งมันขึ้นตรงหน้า
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต่อสู้กับท่าน องค์หญิง"ราโชยูพูดด้วยน้ำเสียงนับถือ
"แต่ท่านต้องจำไว้อย่างนึงหน้าที่ของข้าคือฆ่าท่าน"ราโชยูกล่าวก่อนพุ่งเข้าหาเรจิน่าและเงื้อเคียวของเขาขึ้น

เป้ง!เสียงดาบของเรจิน่ากับเคียวของราโชยูประทะกัน เรจิน่าพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะดันมันออกไปแต่แรงของ ราโชยูช่างเยอะนักเธอพยายามกดแรงลงไปในดาบขมากขึ้นแต่ไม่ได้ผลเธอจึงถอนดาบออกและกระโดดถอยหลังหลบแรงเหวี่ยงมหาศาลของคมเคียวนั้น

ฝืบ!คมเคียวของราโชยูนั้นฟาดผ่านอากาศตรงที่ที่เรจิน่าเคยยืนอยู่
"ฝีมือไม่เลวหนิท่าน"ราโชยูเย้ย
"ยังไม่เท่าไหร่หรอก"เรจิน่าตอกกลับ ทำเอาราโชยูสีหน้าเครียดขึ้นมา
ท่านสองพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง เรจิน่าฟันซ้าย ราโชยูก็ฟังซ้าย เรจิน่าฟันล่าง ราโชยูก็ฟันล่าง
เรจิน่า จึงวิ่งไปหลบหลังเสา ตั้งหลัก แต่ราโชยูก็ฟันจนเสาหักลงมา เรจิน่าจึงวิ่งไปที่ม้าแต่ราโชยูก็เข้ามาฟันจนคอม้าขาด
"มันรู้ทุกกระบวนท่าของเรา"เรจิน่าคิดในใจ และคิดที่จะเลิกเป็นฝ่ายรุก แต่เธอจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายรับแทน เธอจึงนั่งลงวางดาบอยู่บนตัก

ราโชยูหยุดกึก
"องค์หญิงผู้นี้คิดจะทำการใดกันแน่"ราโชยูคิด แต่เขาก็ยังไม่กล้าทำการใดทั้งสิ้นเพราะคิดว่าองค์หญิงผู้นี้อาจจะมีบางอย่างซ่อนอยู่
เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน แต่ช่างยาวนานสำหรับราโชยู
"มันชักจะเกินไปแล้วองค์หญิง"ราโชยูเงื้อเคียวขึ้นก่อนฟาดลงอย่างแรง

เช้ง!เรจิน่ายกดาบขึ้นมาเหนือหัวกันเคียวอันนั้นได้อย่างเหมาะเจาะ
"เจ้าไม่มีวันทำอะไรข้าได้ ราโชยู ถ้าเจ้ายังไม่นิ่งพอ"เรจิน่าพูดเย้ย ทำเอาราโชยูอึ้งไปชั่วขณะ
เรจิน่ากระโดดพุ่งกลับออกไปข้างหลัง
"ดูถ้าเจ้าจะหมดมุขแล้วสินะถึงได้หนีหน่ะ"
ราโชยูกระโดดตาม แต่เรจิน่าเร็วกว่าเธอกระโดดข้ามหัวของราโชยู พร้อมกับเอาดาบแทงเข้าที่ข้างหลังของราโชยู
ฉึก!
"หมดยาก"เรจิน่าตอบ
เรจิน่าดึงดาบของเธอออกจากแผ่นหลังของราโชยู
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เก่งมากองค์หญิงที่ทำข้าได้มากถึงขณะนี้"ราโชยูหัวเราะ แล้วหันหลังกลับมาก่อนเงื้อเคียวขึ้นอีกครั้ง เรจิน่าผงะถอยหลัง
"นี่มันปีศาจชัดๆ ไม่เคยมีมนุษย์หน้าไหนที่รอดคมดาบข้าไปได้"เรจิน่าคิด
"องค์หญิงเรจิน่า"เสียงชาลส์ พร้อมกับเสียงของกองทัพม้าเป็นพันๆที่ซ่อนตัวอยู่วิ่งเข้ามาผ่านห้องโถงของพระราชวัง เรจิน่ามองราโชยู ราโชยูก็มองเรจิน่า พลันแล้วเรจิน่าก็เหนี่ยวคอของม้าที่พุ่งเข้ามาตัวนึงได้แล้วเหวี่ยงตัวขึ้นขี่ม้าตัวนั้น ส่วนราโชยูก็ถูกฝูงม้าวิ่งทับ
"เขายังไม่ตาย"เรจิน่าคิด

เมื่อพวกเรจิน่าออกมาจากเฟเลเชียได้ระยะนึงแล้ว เธอจึงเริ่มสังเกตถึงคนที่ขี่ม้ามาด้วยกัน
1.ชาลส์+เกรกอรี่
2.ซิกมันต์+ราชินีอลิเซีย
3.แฮริสัน
"ท่านองค์หญิงเราเหลือพลกองทัพไม่มาก เราคงกู้เฟเลเชียไม่ได้แล้ว แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะกำจัดพวกซาโลมได้ยังไง เราจะทำยังไงพะยะค่ะ"ชาลส์พูด
"ใช่สิเราจะทำยังไง" แฮริสันเสริม
"ยังมีกองทัพที่จะช่วยเราได้นะ"เรจิน่าพูด
"ท่านหมายถึงใครฟูดินันรึ"แฮริสันถาม
"ไม่หรอก การไปฟูดินันในตอนนี้เสี่ยงเกินไป แต่กองทัพที่จะช่วยเราเราได้นั้นคือ ทัพเงือก และทัพแอนดิซอง"เมื่อเรจน่าพูดจบ ทุกคนจึงมุ่งหน้าสู่แอนดิซองทันที

เทพอารักษ์กับเทพอัศวินมันคนละองค์กัน เทพอัศวินต้องมีคำสั่งจากสวรรค์ก่อนจึงจะสามารถช่วยเหลือคนที่ตกอยู่ในอันตราย

ต่อไปเป็นอาวุธเทพของ ฮิลเคเบี่ยน

Antactius,Twin Sword of Hyukebian
Mp 2 [inf] Turn PS Relic
Seal ที่ Antactius ติด At +2 Df +2 ยกเลิก Freeze Curse ถ้า Seal ที่ติดคือ Hyukebian สามารถโจมตี 2 ครั้งและได้รับ Ability Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้ามทุกคนไม่สามารถยกเลิก Freeze Curse ได้ , ในช่วง subturn โจมตีฝ่ายเราสามารถจ่าย Mp4 Freeze Curse (all) 1 Turn , Seal ที่ติด Freeze Curse กลายเป็น Inactive Seal และ Hyukebian + At ตามจำนวน Seal ที่ติด Freeze Curse ด้วย

แอนตาคติอัส เป็น ดาบที่มี พลังเทพมังกร แมนเทลลูม่าสถิตย์อยู่จึงทำให้มีความเยือกเย็นในตัวดาบ ผู้ที่เหมาะสมเท่านั้นจึงมีสิทธิ์ครอบครอง (นั่นก็คือ ฮิลเคเบี่ยน)

ดาบคู่หิมะเล่มนี้คงโหดไม่มากก็น้อย หุหุ

ตัวต่อไปเป็นนักเดินทางบ้าง
Ryugoh,the Wondering Dragon Knight
Lv.2 Mp 3/1 water Dragon-Knight
At 7
Df 8
Sp 4
+[water] Tritical Strike At 10 Mp 2
+[dragon] Dragon Spirit At 11 Mp 2
เมื่อ Ryugoh ต่อสู้กับ Seal ที่มี Sp น้อยกว่า Ryugoh At +2
Ryugoh สามารถโจมตีข้าม Df Line ได้
Ryugoh สามารถโจมตี Seal ใบรองได้ เมื่อ Ryugoh รวมร่างกับ Dragon

ริวโก เป็นนักดาบพเนจรที่มีสายเลือดทายาทอัศวินมังกร ได้เดินทางมายังแอนดิซอง เพื่อมาพบเพื่อนที่อยู่ที่นั่น แต่กลับเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อเมืองที่เขามาแทบจะมีแต่คนยากจนและผู้ลี้ภัยสงครามที่มีมากมายจนเขาแทบจะเบียดเสียดไป จึงได้ถามชาวบ้านจึงได้รู้ว่าราชินีวิโอเรียได้ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จเมื่อได้ยินดังนั้นแล้วจึงตามหาเพื่อนพร้อมกับปราบราชินีวิโอเรียด้วย(ส่วนเพื่อนที่เขาตามหาก็ช่วยคิดทีนะ)
ริวโก มีดาบ 1 เล่มเป็นแบบของกัสในเรื่องเบอร์เซริคแต่ดาบนั้นเบาคล่องตัวแต่คมกริบดั่งเขี้ยวมังกร

ปล.ปืนคอสโม่ของอลิซาเบธมันคงซ้ำกับควาสามารถของเธออ่ะ เดี๋ยวโมใหม่ละกัน

เพื่อนริวโกเป็นแบบนี้ดีม๊ะ พลังต้องใกล้เคียงกันหน่อย
Zeres, the Commander of Dragon
Mp 3/1  Water   Knight/Tamer  Lv. 2

At 7
Df 9
Sp 4

(Water)                        Flash  Scythe              At 10                Mp 2
(Dragon)                      Scythe on Dragon       At 11                Mp 2
(Dragon) (Element)       Breath of Dragon        At 10  Df 12     Mp 2

เมื่อ  เข้ามาในสนามนำการ์ด Seal ใบบนสุดลงมาในสนามหาก Seal ใบนั้นไม่ใช่ Dragon นำกลับไปวางไว้ที่เดิม
Skill หา Dragon 1 ใบ จากกองการ์ดเข้ามาในสนาม   Mp 3
Skill เมื่อ Seal ฝ่ายเราตกเป็นเป้าหมายการโจมตี ให้ย้ายการโจมตีนั้นมาที่ Zeres เมื่อ รวมร่าง ((http:///images/sign_inf.gif)) Mp 3

เด็คมังกรจาได้รุ่ง ๆ เหอะ ๆ ๆ ๆ

ต่อนะ
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า ไรอาซึ่งบาดเจ็บจากการต่อสู้กับซาฟิโร่ อาการได้หายเป็นปกติแล้ว
"เย้! ในที่สุดข้าก็หายซักที เอาแต่นอนอยู่บนเตียงนี่เซ็งจริง ๆ "
"แหม! ไรอาพอฟื้นขึ้นมา ก็อาละวาดเชียวนะ" ซิสเตอร์โรซาน่าหยอกไรอา
"แหม! ซิสเตอร์อุตส่าห์หายทั้งทีก็ต้องขออาละวาดหน่อยล่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
"มีข่าวด่วนพะยะค่ะองค์หญิง" อาร์คนักส่งสารหนุ่มกลับมาจากการสืบข่าว
"มีเรื่องอะไรด่วนหรือจ๊ะอาร์ค" องค์หญิงถามขึ้น
"ขณะนี้ฟีลีเซียได้แตกแล้วพะยะค่ะ องค์หญิงเรจิน่าและทหารต่าง ๆ กำลังมุ่งหน้ามาแอนดิซองค์เพื่อขอความช่วยเหลือพะยะค่ะ"
"แย่แล้วถ้าพวกองค์หญิงเรจิน่าเข้าไปในวังจะเป็นอันตรายได้นะ" องค์หญิงทรงเป็นห่วงเรจิน่า
"นี่ก็พึ่งวันที่ 2 เอง ท่านฮิลเคเบี่ยนก็ยังไม่กลับมาเลย" ฟรอสซ์พูดขึ้น
"คราวนี้ก็คงจะถึงซีนข้าออกโรงบ้างแล้วล่ะนะ" ไรอาพูดขึ้น
"เจ้าจะทำยังไงล่ะไรอา" แอลฟาเรียถาม
"ไม่เห็นจะยากข้าก็แค่ไปดักรอองค์หญิงเรจิน่าและพรรคพวก เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง แล้วก็พามาที่นี่ยังไล่ล่ะ"
"แต่ที่นี่ไม่ใช่ปราสาทราชวังที่ไหนนะ นี่เป็นแค่ที่พักเล็ก ๆ เท่านั้น แล้วเราจะให้พวกเค้าอยู่ที่ไหนกันล่ะ" เอลด้าแย้งขึ้น
"อืม....เรื่องนี้คงต้องยกให้กับพวกหนุ่ม ๆ ที่นี่แล้วล่ะ ช่วยกันสร้างที่พักชั่วคราวให้พวกองค์หญิงเรจิน่าและคนอื่น ๆ ด้วย" ซิสเตอร์โรซาน่าเสนอ
"เป็นความคิดที่ดีนะจ๊ะซิสเตอร์" องค์หญิงเห็นด้วย
"พวกท่านเห็นเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ" องค์หญิงถามความเห็น
"ข้าแล้วแต่องค์หญิงจะบัญชามา ต่อให้บุกน้ำ ลุยไฟ ข้าก็ทำให้ท่านได้" คาลอสพูด
"ข้าก็เห็นด้วย" ฟรอสซ์พูด
"ดีงั้นตกลงตามนี่ข้าไปก่อนะล่ะนะ...." ขณะที่ไรอากำลังจะไปนั้น
"เดี๋ยวก่อนไรอา ถ้าขากลับเจออะไรแปลก ๆ ก็เก็บกลับมาด้วยนะ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ เพราะสิ่งนั้นอาจช่วยท่านอองเดรได้" เฟเรย่าพูดกับไรอา
"ได้เลยท่านยาย" พอพูดจบไรอาก็รีบไปดักรอองค์หญิงเรจิน่าทันที
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านองค์หญิงเรจิน่า
"แอนดิซองค์อยู่ข้าหน้าเราแล้วพะยะค่ะ" ชาร์ลบอกกับองค์หญิง
"เนี่ยนะเหรอแอนดิซองค์ ทำไมดูแย่แบบนี้ล่ะ" เรจิน่าเห็นภาพที่ประชาชนอดอยาก นอนระเนระนาดตามพื้นเต็มไปหมด
"นี่เราคิดผิดหรือเปล่านี่ ที่จะมาพึ่งกำลังของแอนดิซองค์" แฮริสันพูดขึ้น
"ท่านพี่เรือเทียบท่าแล้ว เรารีบไปที่พระราชวังกันเถอะ" ซิกมันต์พูด
"จ๊ะ"
"ท่านผู้นั่นใช่องค์หญิงเรจิน่าหรือเปล่า"  ชายแปลกหน้าผู้หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับตัวประหลาดที่ถูกชายแปลกหน้าจับไว้
"เจ้าเป็นใครรู้จักองค์หญิงเรจิน่าได้อย่างไร" ชาร์ลถาม มือจับดาบพร้อมที่จะสังหารชายแปลกหน้าได้ทุกเมื่อ
"แล้วท่านเป็นใครล่ะ มีมารยาทหรือเปล่าก่อนจะถามชื่อผู้อื่นน่ะควรบอกชื่อตนเองก่อนนะ"
"ข้าชาร์ล คาเรน แม่ทัพใหญ่แห่งฟีลีเซีย แล้วเจ้าล่ะ"
"ข้าไรอา เป็นคนขององค์หญิงอลาน่า มาที่นี่เพื่อพบกับองค์หญิงเรจิน่า"
"อยากพบข้ามีเรื่องอะไรรึ ท่านไรอา"
"แหม! องค์หญิงเรียกชื่อข้าไรอาเฉย ๆ จะดีกว่า เรียกท่านแล้วมันจั๊กกะจี้อ่ะ"
"เจ้ามีอะไรก็พูดมาอย่าโยกโย้" ชาร์ลพูดอย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก
"ได้ ๆ ท่านแม่ทัพไม่ต้องทำท่าน่ากลัวหยังงั้นก็ได้ ข้ามาที่นี่เพื่อจะบอกเรื่องสำคัญ..."
"ขณะนี่แอนดิซองค์ได้ถูกราชินีวิโอเรียยึดอำนาจไว้แล้ว ซึ่งเบื่องหลังข้าคิดว่าน่าจะมีพวกปีศาจอยู่ จึงมาเตือนท่านว่าอย่าไปที่พระราชวัง"
"เป็นไปได้ยังไง แล้วกษัตริย์แห่งแอนดิซองค์ไปไหนซะล่ะ ถึงปล่อยให้เมืองเป็นแบบนี้" แฮริสั่นถาม
"องค์ราชาอองเดรขณะนี้ถูกมนต์สะกดของราชินีวิโอเรีย ซึ่งพวกเรากำลังหาทางช่วยอยู่"
"ข้าว่าพวกท่านอย่าพึ่งถามเลย ไปกับข้าก่อนดีกว่า ข้าจะพาพวกท่านไปหาองค์หญิงอลาน่า"
"แล้วพวกข้าจะไว้ใจเจ้าได้ยังไงล่ะ ท่านไรอา จอมโจรลักพาตัวผู้มีชื่อเสียง" ชาร์ลพูด
"แหม ๆ ๆ ท่านแม่ทัพนี่ความรู้กว้างขวางจริง ๆ นะ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านแม่ทัพแห่งฟีลีเซียรู้จักข้าเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ "
"แต่ท่านโปรดวางใจได้ ข้าไรอาบัดนี้เลิกเป็นโจรแล้ว ตอนนี้ข้าเป็นคนขององค์หญิงอลาน่า เพื่อช่วยองค์หญิงกู้บัลลังก์กลับคืนมา หากท่านไม่ไว้ใจข้าก็เชิญท่านสังหารข้าซะที่นี่" ไรอาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ได้ข้าจะเชื่อท่าน โปรดนำทางด้วย" เรจิน่าพูดกับไรอา
"แต่ว่าองค์หญิง..." ชาร์ลพยายามทักท้วง
"ช่างเถอะชาร์ล ลองเชื่อเค้าดู แต่ถ้าคิดแผนชั่วไว้ล่ะก็ ข้าจะสังหารเจ้าซะ" ซิกมันต์พูดขู่ไรอา
"เอาล่ะ พวกท่านโปรดตามข้ามาทางนี้"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า
"ยินดีที่ได้พบท่านกษัตริย์แห่งฟีลีเซีย องค์หญิงเรจิน่า ท่านแฮริสัน และท่านแม่ทัพชาร์ค คาเรน ข้าอลาน่า มาเรีย ชาริเต้ ขอเชิญพวกท่านพักตามสบาย เราได้เตรียมที่พักไว้ให้พวกท่านแล้ว" องค์หญิงอลาน่าพูดอย่างน้อบน้อม
"ทางเราต้องรบกวนท่านแล้ว" เรจิน่าพูด
"พวกท่านเชิญทางนี้ค่ะ ข้าจะนำทางไปที่พักเอง" องค์หญิงอลาน่าอาสา
หลังจากที่พวกองค์หญิงเรจิน่าไปยังที่พักแล้ว
"นี่ ๆ ท่านยาย ข้าเจอสิ่งแปลก ๆ ที่ท่านยายพูดไว้นะ" ไรอาพูดพลางจับสิ่งนั้นมาให้ดู
เฟรย่ามองแล้วพิจารณาไปเรื่อย ๆ
"ข้าเห็นมันเดินวนไปวนมาอยู่กับที่ พอข้าเดินเข้าไปดู มันก็เดินเป๊ไปเป๊มา ดูบ้า ๆ บอ ๆ ยังไงชอบกล เลยคิดว่าไอ้ตัวนี้หล่ะประหลาดสุด ๆ "
"สิ่งนี้ล่ะที่จะช่วยท่านอองเดรได้" เฟรย่าพูดขึ้นเสียงดัง
"เหวอ.....ท่านยายข้าตกใจหมด มันเป็นตัวอะไรเหรอท่านยาย"
"มันคือหมอโรคจิต (Pysco Doctor) มันเป็นเครื่องจักรบ้า ๆ บอ ๆ อย่างที่เจ้าเห็นน่ะหล่ะ ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่มันสามารถแก้คำสาปได้ทุกชนิดเชียวนะ และตัวมันเองก็ไม่โดนคำสาปด้วย"
"งั้นเราก็มีหวังแล้วซิท่านยาย เย้!" ไรอาดีใจจนลืมตัวกระโดดกอดเฟรย่าทันที
"โอ้ย ๆ ๆ ไรอาเบา ๆ ข้ามันแก่แล้วนะ อย่าเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ หน่อยเลยน่า"
"แหม! ท่านยายก็ข้าดีใจนิ เย้ ๆ ๆ ๆ "
"ที่เหลือก็รอแค่ท่านฮิลเคเบี่ยนกลับมาเท่านั้นแล้ว"

ขณะนี้แสงแห่งความหวังเริ่มส่องสว่างขึ้นทีละน้อยแล้ว (to be continue)

บริจาก นางอัปสรของผมให้ อลาน่าคนนึงละกัน
 เนื่องจากเห็นความดี ผมเลยส่ง นางอัปสรไปช่วย เป็นรางวัล จากบุรพทวีป และรางวัล โนเบล สาชา มนุษยธรรม อีก 1
ใครจพ นันทาเทวี ได้บ้าง
  ที Gabriela ยังมาหา Ishan ได้เลย

Nandadevi, Alana's Follower
2/1 ลม Dancer Lv.2
At:5
Df:6
Sp:4
+แสง    Visuddha Raksha  At:8Mp2
+ น้ำ     Visuddha Pani        At:7mp1

Dancing At line
 Mp เรา +2 เมื่อ Nandadevi รวมร่างกับ น้ำ
รักษา Curse ให้ Seal 2ใบในสนาม เมื่อ Nandadevi รวมร่างกับแสง
 Nandadevi cancel Curse

จริงก็ ให้ นางอัปสร 9นาง กับ อสูร ทั้งหมด ให้เป็น Gardian Angel ของ Alana ให้หมดเลยดีกว่า ^^

ขอบคุณมากสำหรับนางอัปสร

ต่อไปก็เวียนเรื่องของริวโกแทน
ในขณะเดียวกัน...
ริวโกเมื่อมายังแอนดิซองแล้วเขาเดินทางตามหาเซเรสแต่ระหว่างทางริวโกได้ยินเสียงนี้"ใครก็ได้ช่วยด้วย"ริวโกได้ยินดังนั้นเขาจึงรีบไปยังต้นตอของเสียง ภาพที่เขาเห็นคือทหารของแอนดิซองกำลังทำลายข้าวของของชาวบ้านพร้อมทั้ฉุดเด็กสาวเนื่องจากชาวบ้านไม่มีเงินพอที่จะจ่ายภาษีให้กับรูฟัส(ตอนนี้นอกจากดำรงตำแหน่งสภาพ่อค้าวานิชแบบเบ็ดเสร็จแล้วยังได้รับตำแหน่งจากราชินีวิโอเรียให้เป็นนายภาษีอีกด้วย) ริวโกได้เห็นดังนั้นเขาจึงชักดาบออกจากเป้พร้อมเข้าไปหยุดทหาร จึงมีการต่อสู้แบบตะลุมบอน ริวโกถือดาบที่ใหญ่แต่เบาคล่องตัวพร้อมกับท่าการโจมตีที่รวดเร็วและสวยงามโจมตีเข้าใส่ทหารพวกนั้น แต่กลับไม่ได้สังหารผู้ใดไม่เขาเพียงแค่ปลดอาวุธของพวกทหารเท่านั้นเอง พวกทหารได้เห็นอย่างนั้นแล้วพวกเขารู้เลยว่ากำลังต่อกรกับมังกรอยู่จึงได้ล่าถอยออกไป พวกชาวบ้านเข้ามาขอบคุณกับริวโก "ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือพวกเรา ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ของเราได้รักษามาเท่าชีวิตเกือบถูกทำลายแล้ว" ชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งอวุโสกว่าใครเข้ามาขอบคุณ
"ไม่เป็นไรมันเป็นหน้าที่ที่เราต้องปกป้องผู้บริสุทธิ์ขอรับ"ริวโกพูดกับชาวบ้านอย่างนอบน้อม
"แล้วท่านมาที่นี่เพื่อ..."ชาวบ้านอีกคนหนึ่งได้ถามกับริวโก
"เรามาหาเพื่อนชื่อว่าเซเรส รู้จักเขาไหม"ริวโกตอบกลับ
"เซเรสเป็นเพื่อนของพวกเราเดี๋ยวเราจะพาไปพบเขา"เมื่อชาวบ้านพูดจบก็พาริวโกไปพบกับเซเรส
ที่พักของเซเรส
"ริวโก!!!"เซเรสอุทานออกมาเมื่อเขาได้พบกับเพื่อนเก่า
"ไม่ได้เจอกันซะนาน เรารู้ว่านายได้มาอยู่ที่นี่เลยออกตามหา"ริวโกพูดพร้อมกับยืนพิงที่เสา
"เห็นว่านายกำลังเหนื่อยๆ ข้าว่าน่าจะพักก่อนดีกว่า"เซเรสเอ่ยปากชวน
"ได้สิ เรามีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย"ริวโกพูดก่อนที่จะเซเรสพาไปยังห้องนั่งเล่น
สักพักหนึ่ง
"ฟิเลเซียถูกตีแตกแล้ว"ริวโกพูดด้วยเสียงเบา
"แย่จริง  ขนาดกองทัพศิลาวายุที่ว่าแข็งแกร่งพอๆกันกับกองกำลังแห่งศาสนจักรเอ็กเคิลเซีย"เซเรสพูดอย่างขมขื่นปนเจ็บใจพร้อมกับหารือกับริวโกที่มีสีหน้าไม่แพ้กัน
"แล้วจะทำยังไงต่อไป ตอนนี้สงครามเริ่มปะทุขึ้นมาอย่างน่ากลัวแบบนี้"คำพูดเช่นนี้ทำให้ริวโกฉุกคิดได้
"เราว่าควรจะหาเพื่อนที่รู้ใจเพื่อปราบต้นตอแห่งความหายนะที่นี่"ริวโกพูดแบบนี้ทำให้เซเรสถึงกับอึ้งเพราะเขารู้ดีว่าริวโกกำลังทำอะไรที่เสี่ยงเป็นแน่แต่ยังคุมสติไว้ได้แล้วพูดสวนออกมา
"แต่พวกเรายังไม่รู้จักใครเลยในที่นี่อีกอย่างราชินีวิโอเรียก็มีลูกสมุนที่น่ากลัวคอยอารักขาอยู่"
"มันจะแน่สักแค่ไหนกัน"เมื่อริวโกพูดจบพร้อมกับชักดาบขึ้นสู่ฟ้า
"อืมใช่...เรารู้จักกลุ่มกองกำลังขนาดเล็กที่อยู่ในที่พักขององค์หญิงอลาน่า"เซเรสแนะนำริวโก
"แล้วนายรู้จักนานไหม"ริวโกพูดเสริม
"เราเองแค่รู้จักกันในสมยานามเท่านั้น...อีกอย่างเราเองก็เข้ามาได้ไม่นานจึงไม่รู้จักทางที่ไปยังที่นั่นได้"เซเรสพูดอย่างหมดหวังเล็กๆ
"เราก็ถามชาวบ้านดูสิ...เผื่อเราจะได้รู้ที่อยู่ของพวกเขา"ริวโกเสนอความคิดขึ้น
"เอ๊ะ...ความคิดดีนี่"เซเรสเห็นด้วย
"งั้นดีล่ะ...เราเตรียมของจำเป็นไปยังที่หมายนั่นเถอะ"เมื่อริวโกพูดจบทั้งสองคนจึงได้เตรียมข้าวของพร้อมเดินทางไปยังที่พักขององค์หญิงอลาน่า

(to be conclude)
ตัวต่อไปเป็นหัวขโมยที่ริวโกพบระหว่างทางไปยังที่พักของเจ้าหญิงอลาน่า
Fatima,the annedisonge high bandit
Lv.2 Mp2/1 water gunner-bandit
At 6
Df 6
Sp 4
+[water] Ice Shot At 8 Mp 2
+n[annedisonge] Reflection Shoot At 10 Mp 3
Skill:ดูการ์ดในมือฝ่ายตรงข้าม จากนั้น Steal การ์ดใบนั้น ถ้าการ์ดใบนั้นเป็น Mystic ประเภท Relic นำการ์ดนั้นมาติดที่ Seal 1 ใบในสนามโดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย แล้วMp ฝ่ายเรา +ตามค่าร่ายของ Mystic Card ใบนั้น (Mp0)

ฟาติมาเป็นหัวขโมยสาวที่ถูกตามล่าโดยทหารของรูฟัสเพราะไปขโมยของที่ยึดได้จากชาวบ้าน ขณะเดียวกันริวโกได้เห็นฟาติมาถูกตามล่าจึงได้เข้าไปช่วยเหลือเธอ เมื่อเธอปลอดภัยจึงขอร้องให้พาเธอไปด้วย(ฟาติมาเองก็รู้จักไรอาในหมู่แวดวงหัวขโมย)

ทางด้านฮิลเคเบี่ยน
"นี่ก็จะหมดวันที่ 2 แล้ว เรายังไม่เจอทางแยกนั่นเลยนะ ฮิลเคเบี่ยน" ฟราก้าถามขึ้น
"นั่นซิ.....นั่นไงทางแยก" ฮิลเคเบี่ยนพูด
"แล้วเราจะไปทางไหนก่อนดีล่ะ" ฟราก้าถามอีกครั้ง
"ข้าว่าเราควรจะแยกกันไปนะ" ฮิลเคเบี่ยนเสนอ
"งั้นข้าจะไปกับฟราก้าไปหาเทพ.....(*)  เองส่วนท่าน ไปหาเทพธิดาเซนทอร์ดเถอะ" ไรก้าเสนอ
"ถ้าเป็นเช่นนั้นเราต้องกลับมาที่ทางแยกนี้ภายในวันพรุ่งนี้นะ"ฮิลเคเบี่ยนพูด
"งั้นตกลงตามนี้ ขอให้โชคดีนะฮิลเคเบี่ยน" ฟราก้าอวยพรเพื่อนรัก
หลังจากนั้นทั้ง 3 จึงต้องแยกทางกัน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านริวโก ซึ่งกำลังเดินทางไปร่วมมือกับองค์หญิงอลาน่าจากคำบอกของชาวบ้าน ซึ่งที่พักขององค์หญิงอยู่นอกเมือง ระหว่างทางได้ผ่านคฤหาส์ตของรูฟัส ทั้ง 2 เดินทางพ้นคฤหาส์ตของรูฟัสได้ซักพักก็เกิดเรื่องขึ้น
"หยุดนะเจ้าหัวขโมย" เสียงดังนี้ดังไล่หลังพวกริวโกมา
"หนอยพวกนี้ตื้อจริง ๆ "
สาวน้อยผู้ถูกตามล่า พยายามหนีอย่างไม่ลดละ จนมาพบริวโกและเซเรส
"ท่านทั้ง 2 ช่วยข้าด้วย แฮ่ก ๆ ๆ"
"สาวน้อยเจ้าเป็นอะไรหรือ หนีใครมาเหรอ" ริวโกถามอย่างเป็นห่วง
"แฮ่ก ๆ ๆ ข้า ๆ แฮ่ก ๆ ๆ ข้าถูกตามล่ามาน่ะ แฮ่ก ๆ ๆ"
"ใครกันที่กำลังตามล่าเจ้า" ริวโกถาม
"หยุดนะ! เจ้าหัวขโมย (เฮ่อ...ไวยังกะปรอท)"
"โอ๊ะ! พอดีเลย เจ้าจงส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้พวกข้า มันเป็นหัวขโมย ข้าจะจับมันไปตัดมือซะ" หัวหน้ากลุ่มพูด
"นี่เจ้าเป็นขโมยงั้นหรือ" ริวโกถาม
"ใช่! ก็ตอนนี้อะไร ๆ ก็แพง แถมเจ้าอ้วนรูฟัสมันก็เก็บภาษีแพง ทำให้บ้านข้าและชาวบ้านไม่มีอะไรจะกินแล้ว พวกข้าแค้นไอ้หมูตอนนั่นมาก จึงเข้าไปขโมยน่ะ" สาวน้อยเล่าถึงความเป็นมา
"นี่ไอ้หนุ่มจะส่งนังหัวขโมยมาให้เราดี ๆ หรืออยากเจ็บตัวฮ่ะ" หัวหน้ากลุ่มพูดด้วยหน้าตาชวนหาเรื่อง
"ถ้าข้าบอกว่าจะไม่ส่งผู้หญิงคนนี้ให้กับเจ้าจะมีปัญหาอะไรมั้ย" ริวโกพูดด้วยน้ำเสียงกร้าว...
"งั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้าด้วย...พวกเราลุย" หัวหน้าสั่งลูกน้องที่เหลือกว่า 10 คน ลุยเข้าไป
"เจ้าหลบไปก่อน เดี๋ยวข้าขอเวลาซัก 1 นาทีนะ" ริวโกพูดพร้อมชักดาบทันที
"พวกแกตาย......"
"ในนามแห่งข้า...อัศวินมังกรริวโก อัญเชิญสายฟ้า มาสถิตที่ดาบของข้า"
เปรี้ยง! ทันใดนั้นสายฟ้าได้ผ่าลงมาที่ดาบของริวโก ทำให้พวกที่ตามล่ามาตกใจไม่น้อย
"พวกเราหลบกันก่อนเถอะ ท่านั้นของริวโกอันตรายนะ" เซเรนพาสาวน้อยหลบไปในที่ปลอดภัย
"หึ ๆ ๆ ไม่ต้องห่วงข้าไม่ทำให้พวกเจ้าถึงตายหลอก....กีก้าแสลส..." ริวโกพุ่งผ่านกลุ่มผู้ตามล่า ราวกับแสงพุ่งผ่านไป
ทันทีที่แสงนั้นพุ่งผ่านไปกลุ่มผู้ตามล่าทั้งหมดได้นอนกองอยู่ที่พื้นแล้ว จากนั้นริวโกก็เดินไปหาเซเรน
"นี่พวกเข้าจะตายมั้ยเนี่ยริวโก" เซเรนถาม
"ไม่หลอกพวกเค้าแค่สลบไปซัก 2 - 3 วันเท่านั้นเอง" ริวโกตอบ
"ขอบคุณพวกท่านมากนะ ที่ช่วยข้าไว้ ข้าจะตอบแทนท่านยังไงดีค่ะ"
"ไม่เป็นไรหลอก ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรล่ะ ข้าริวโก ส่วนเพื่อนข้าเซเรส"
"ข้าชื่อ ฟาติมาค่ะ พวกท่านไม่ใช่คนแอนดิซองค์ใช่มั้ยค่ะ แล้วพวกท่านกำลังจะไปไหนเหรอ ข้าพาไปได้ทุกที่เลยนะ"
"ข้าเป็นชาวฟีลีเซีย ตอนนี้พวกข้ากำลังเดินทางไปหาองค์หญิงอลาน่าน่ะ" ริวโกตอบ
"งั้นข้าอาสาพาพวกท่านไปเองนะ ข้ารู้จักทางดีรับรองได้ไม่หลงแน่"
หลังจากนั้นทั้ง 3 ก็เดินทางไป ริวโกและฟาติมาคุยกันอย่างสนิทสนม ซึ่งริวโกเริ่มชอบฟาติมาเข้าแล้ว
ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่า ขณะที่ทั้ง 3 จะเดินเข้าที่พักนั้นเอง
"ช้าก่อนพวกเจ้าจะเข้าไปทำอะไรในที่พักขององค์หญิงอลาน่า" ไรอาโผล่มาถามจุดประสงค์ของผู้มา
"พี่ไรอา ดีใจจังเลยที่ได้พบพี่อีก" ฟาติมาวิ่งเข้าไปกอดไรอาทันทีที่ได้พบ
"อ้าว! ฟาติมาเองเหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เป็นไงวิชาฉกของข้าฝึกไปถึงไหนแล้วล่ะ" ไรอากอดตอบพลางถามสารทุกข์สุขดิบไปด้วย
"แล้วพวกเค้าเป็นใครกันล่ะฟาติมา" ไรอาถามถึงชายแปลกหน้าที่มากับฟาติมา
"อ้อ...พี่ไรอา นี่ริวโก และนี่ เซเรสจ๊ะพี่ ทั้ง 2 ช่วยข้าจากคนของรูฟัสน่ะ"
"ข้าริวโกเป็นอัศวินมังกรและนี่เพื่อนสนิทของข้าเซเรส" ทั้ง 2 โค้งให้ไรอา
"แหม ๆ ไม่ต้องทำความเคารพข้าก็ได้ ข้าไรอา อดีตจอมโจรลักพาตัวผู้มีชื่อเสียงและมีฝีมือที่สุด ตอนนี้ข้าเป็นผู้ติดตามองค์หญิงอลาน่าเพื่อช่วยองค์หญิงให้คืนสู่บัลลังก์"
"ไรอาจ๊ะ ใครมาเหรอ" องค์หญิงผ่านมาพอดี
"อ้อ...พอดีเลยองค์หญิง นี่ริวโก และเซเรสเพื่อนของเขา พวกเค้าทั้ง 2 อยากจะช่วยองค์หญิงน่ะพะยะค่ะ"
"ขอบใจมากนะจ๊ะ เราคงต้องรบกวนพวกท่านแล้วล่ะ" องค์หญิงกล่าวขอบคุณอย่างน้อบน้อม
"ไม่เป็นไรมิได้พะยะค่ะ พวกเราทั้ง 2 ยินดีช่วยองค์หญิงอย่างเต็มที่" ริวโกและเซเรสคุกเข่าให้องค์หญิง
"พวกท่านลุกขึ้นเถิดจ๊ะ ไม่ต้องคุกเข่าหลอกจ๊ะ เดี๋ยวเราจะพาท่านทั้ง 2 ทำความรู้จักกับพวกเรานะ อ้อ! จริงซิ องค์หญิงเรจิน่า และกษัตริย์ซิกมันต์ ก็อยู่ที่นี่นะจ๊ะ"
"จริงเหรอพะยะค่ะ" ริวโกกล่าวอย่างประหลาดใจ
"เชิญทางนี้เลยจ๊ะ"
บัดนี้กลุ่มขององค์หญิงอลาน่าได้ผู้มีฝีมือเพิ่มขึ้นอีก 2 คนแล้ว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านฟราก้าและไรก้า
"แล้วจุดหมายที่เราจะไปนั้นอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย" ฟราก้ากล่าวอย่างงง ๆ
"ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงต้องมุ่งหน้าต่อไปล่ะ" ไรก้าพูด
"แหม! ช่างเป็นคำตอบที่ให้กำลังใจกับเหลือเกินนะไรก้า"
"หรือจะให้ข้าตอบว่า เดินไปเถอะน่า ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เดิน ๆ เข้าไปเถอะ หยั่งงั้นหรือฟราก้า"
"เหอะ ๆ ๆ ข้าล่ะซึ้งเจ้าจริง ๆ นะไรก้า"
"หึ ๆ ๆ"
"ท่านทั้ง 2 เข้าได้รับบัญชาจากเทพ (*) ให้มารับพวกท่าน ให้ไปพบ" นางฟ้าองค์หนึ่งปรากฎตัวขึ้น
แม้ทั้งฟราก้าและไรก้าจะยังงง ๆ แต่ก็ตามนางฟ้าองค์นั้นไป
"ข้าได้พาเค้าทั้ง 2 มาแล้วค่ะท่านเทพ (*) "
"ขอบใจมากนะ ไปได้แล้วล่ะ"
"ค่ะ"
"ท่านคือ...." ฟราก้าถามขึ้น
"ใช่แล้ว...ข้าคือเทพ (*) ที่พวกเจ้ากำลังตามหาอยู่ไงล่ะ"
ทั้งทำความเคารพเทพ (*) ทันที
"ไม่เป็นไรลุกขึ้นเถอะ ข้ารู้จุดประสงค์ของพวกเจ้าดี ตอนนี้แอนดิซองค์กำลังเดือดร้อน จะให้ข้าซึ่งเป็นเทพนิ่งเฉยได้อย่างไร ข้าจะมอบเขาของพานิชูล่าให้กับเจ้า" หลังจากนั้นเทพ (*) ก็ประทานเขาของพานิชุล่าให้กับ ฟราก้าและไรก้า
"ข้าขอขอบคุณมากท่านเทพแทนราชาของเราด้วย (*)" ฟราก้ากล่าว
"พวกเจ้ารีบไปเถอะจะครบกำหนด 3 วันแล้ว ข้าจะส่งเจ้าไปที่ทางแยกที่นัดกับเพื่อนของเจ้าไว้"
เทพ (*) ร่ายมนต์ส่งฟราก้าและไรก้าไปยังทางแยกนั้น
ในขณะเดียวกันทางฮิลเคเบี่ยนก็ได้พบกับเทพธิดาเนเฟเร่แล้ว
"ได้โปรดเถิดท่านเทพ ข้าต้องการดาบของท่านจริง ๆ " ฮิลเคเบี่ยนขอร้อง
หากแต่เนเฟเร่ยังคงนิ่งเงียบ
"ได้โปรดเถอะท่าน ขณะนี่องค์ราชากำลังแย่ องค์หญิงต้องการให้องค์ราชาช่วย ได้โปรดเถอะท่านขอดาบให้ข้าด้วยเถิด"
"ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าจะไม่นำดาบของข้าไปทำร้ายผู้อื่น"
"หากท่านไม่มั่นใจในตัวข้าข้าจะสาบานกับท่าน"
"ข้าฮิลเคเบี่ยนขอสาบานด้วยเกียรติในกายของข้า หากข้านำอาวุธเทพที่สร้างขึ้นจากดาบของเทพธิดาเซนทอร์ดเนเฟเร่ไปทำร้ายผู้บริสุทธิ์แล้วล่ะก็ ขอให้สวรรค์ลงทัณฑ์ข้าทันที" ฮิลเคเบี่ยนสาบานด้วยความมุ่งมั่น
เมื่อเนเฟเร่เห็นดังนั้นแล้วจึงตอบไปว่า
"หากเจ้าสาบานเช่นนี้ ข้าก็เบาใจเชื่อเจ้าได้ ยื่นมือเจ้ามาข้าหน้าซิ"
ที่มือของฮิลเคเบี่ยนได้เกิดแสงสว่างจ้าขึ้น เมื่อแสงค่อย ๆ จางลงในมือของฮิลเคเบี่ยนก็มีดาบเล่นหนึ่งอยู่ในมือแล้ว
"ข้าขอขอบคุณท่านมาก ข้าจะทำตามคำสาบานที่ให้กับท่านไว้" ฮิลเคเบี่ยนคุกเข่าให้เนเฟเร่
"เอาล่ะ ๆ เจ้าจงรีบไปเถิดนี่ก็จะครบกำหนด 3 วันแล้ว"
"ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
ทันทีที่ฮิลเคเบี่ยนหันหลังเดินไปก็เกิดแสงสว่างขึ้นอีกครั้ง เมื่อแสงค่อย ๆ จางลงฮิลเคเบี่ยนก็ยืนอยู่ตรงหน้าฟราก้าและไรก้า ซึ่งทั้ง 3 มาถึงที่หมายพร้อมกันพอดี
"เป็นไงบ้างฮิลเคเบี่ยนได้ดาบมามั้ย ทางข้าได้เขาของพานิชูล่ามาแล้ว" ฟราก้าถาม พลางชูเขาของพานิชูล่าขึ้น
"หึ ๆ ๆ ทางข้าก็ได้เหมือนกัน" ฮิลเคเบี่ยนชูดาบของเนเฟเร่ขึ้น
ของทั้ง 2 สิ่งส่องประกายแสงเจิดจ้าราวกับจะแข่งกัน
"เรารีบไปกันเถอะองค์หญิงรอการกลับมาของพวกเราอยู่นะ" ไรก้าพูดขึ้น
"คราวนี้ล่ะเจ้าพวกปีศาจ"
และแล้วทั้ง 3 ก็ทำสำเร็จ สามารถหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครบทุกอย่างแล้วภายในเวลา 3 วัน ก็เดินทางกลับด้วยขนนกร๊อกแดงของไรก้า
(to be continue)


อีกครั้งสำหรับเรื่องนี้


ขอบคุณมากครับ
 

ขอบทให้ นางอัปสร Gurdian Angelsของอลาน่าด้วยนะ ^^ ช่วยกันฉุด วิโอเวียสุดสวยลงจากบัลลังค์กันต่อปาย เหอๆ

ตัวต่อไปเป็นสปายของราชินีวิโอเรียบ้าง

Frey,Vioria's Spy
Lv.1 Mp2/1 water bandit-messenger
At 5
Df 4
Sp 4
+[bandit] loose news At 9 Mp 1
+[water][any element] I serve Vioria At 10 Mp 2
Skill: steal การ์ด 1 ใบในสนามฝ่ายเรา เมื่อเข้า Subturn ป้องกันฝ่ายเรา เราสามารถดูมือฝ่ายตรงข้าม 1 คน เมื่อ Frey รวมร่าง (Mp 3)

เฟรเป็นสปายสุดสวยของราชินีวิโอเรีย ที่ทำทีเข้าไปร่วมมือกับเจ้าหญิงอลาน่าเพื่อส่งข่าวให้จตุรมารเข้าไปขัดขวางการทำอาวุธเทพของแม็กซิมอส(เธอผู้นี้มารยา 100 เล่มเกวียน เกือบทำให้ฟรอสแยกทางกับแอลฟาเรีย)

ต่อดีกว่าชักมันซะละ

ที่วังแอนดิซอง
"พวกเจ้าแย่มาก...แย่ที่สุด"สิ้นคำพูดของวิโอเรียได้ขว้างแก้วไวน์เข้าใส่จตุรมาร
"ข้าขอร้องกับองค์จักรพรรดิ์สั่งพวกเจ้าไปขัดขวางพวกมันแต่ดันล่าถอยกลับมาอย่างสุนัขขี้แพ้"วิโอเรียกล่าวซ้ำเติมจนทำให้มาย่าแทบเก็บอารมณ์ไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายนางแต่แกรนซอนขวางไว้
"ท่านวิโอเรียเราทำอย่างที่สั่งแต่กลับมี กขค. มาขวางไง้"กิโยตินพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
"เราได้ต่อสู้กับนางฟ้าบริจิตและเฮเว่นไนท์ เราแพ้กลับมาอย่างที่เห็นเรเวนเองก็บาดเจ็บสาหัสจนทำให้เราต้องถอยออกมา"แกรนซอนกล่าวสรุปออกมา
"ตอนนี้พวกมันได้ของดังกล่าวแล้วพวกเจ้าจะทำยังไง"วิโอเรียพูดอย่างหัวเสียสุดๆ
"เรากำลังหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราขอตัว"แกรนซอนพูดจบก็พาพรรคพวกไปประชุมแผน
หลังจากนั้นไม่นาน
"ท่านราชินี เราขอเสนอแผนนี้แก่ท่าน"แกรนซอนพูดจบพลางส่งสัญญานกับซาฟิโร่
"เราจะส่งสปายเข้าไปร่วมมือกับองค์หญิงอลาน่า แล้วรอฟังผลซักระยะจากนั้นเมื่อมีการทำอาวุธเทพเราจะได้ขัดขวางโดยจะให้พวกจตุรมารและทหารฝีมือดีเข้าไปโจมตีพวกขององค์หญิงและทำลายของที่ได้มาทั้งหมดซะ ส่วนข้าพเจ้าจะใช้ในช่วงชุลมุนอยู่ส่องลำกล้องไปยังองค์หญิงเพื่อปลิดชีพด้วยมือของข้าเองพะยะค่ะ"ซาฟิโร่ได้บอกแผนการดังกล่าวก็ทำให้ราชินีวิโอเรียพอใจในแผนการนี้
"ดี...ดีเยี่ยมแล้วเราจะลงมือเมื่อไร"วิโอเรียกล่าวอย่างตื่นเต้น
"วันนี้ยิ่งดีขอรับท่านราชินี เราขอเสนอสปายของพวกเรา"แกรนซอนพูดจบพลางส่งสัญญาณให้กับสปายให้ปรากฏตัวต่อหน้าราชินีวิโอเรียเธอคือ เฟร สปายสาวที่ล่ำลือว่าการส่งข่าวไม่มีคำว่าพลาดและการปลอมตัวได้แนบเนียนที่สุด
"เอาล่ะมัวช้าอยู่ได้อย่างไร รีบจัดการซะ"วิโอเรียพูดจบพวกจตุรมารไปทำตามแผนการที่เตรียมไว้
"ฮ่า ๆ ๆ ยัยอลาน่าครั้งนี้แกจะไม่มีวันที่จะได้บังลังค์อย่างแน่นอน ตลอดไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ"วิโอเรียหัวเราะอย่างสะใจที่ได้รอวันนั้นคือวันที่องค์หญิงถูกสังหาร แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำของพวกเธอ บุรุษลึกลับได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว...

To be conclude

นี่ๆ เฟรย่าชั้นหน่ะเพิ่ง 18เองนะ เรียกซะแก่เชียว
ต้องรีบไปก่อนเรียนอยู่

เหอะ ๆ ๆ อันนี้ข้าน้อยมิรู้ว่าอายุ 18 - -"  ขออภัย ๆ ก็ม่ายรุนิ ส่วนนางอัปสรตอนนี้คิดบทห้ายแว้วว่าจะให้โผล่มาตอนที่จตุรมารกับพวกทหารของวิโอเรียบุกที่พักขององค์หญิงอลาน่า แต่จำชื่อมิได้ซักคน ไงซะถ้าได้เป็นภาษาไทยก็จะดีนะ + อสูรด้วยนะ

ต่อ ๆ ๆ
ณ ที่พักองค์หญิงอลาน่า หลังจากที่พวกฮิลเคเบี่ยนได้นำสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลับมาแล้ว แม๊กซิมอสก็ลงมือตีอาวุธเทพทันทีโดยไม่ได้พักผ่อน...
"ท่านแม๊กคะ ท่านน่าจะพักบ้างนะจ๊ะ" องค์หญิงอลาน่ากล่าวอย่างเป็นห่วง
"ไม่ได้หลอกพะยะค่ะองค์หญิง เมื่อข้าพูดแล้วว่าสามารถตีอาวุธเทพได้ภายใน 3 วัน ข้าก็ต้องทำให้ได้ภายใน 3 วัน มิเช่นนั้นท่านฮิลเคเบี่ยนจะหัวเราะเยอะข้าได้"
"แหม! แต่ท่านก็น่าจะพักบ้างนะคะ"
"องค์หญิงข้ากลับมาแล้ว" ไรอารีบวิ่งเข้ามาหาองค์หญิง
"มีอะไรหรือจ๊ะไรอา" องค์หญิงถามด้วยท่าทางสงสัย
"แฮ่ก ๆ ๆ องค์หญิงเรียกพวกเราประชุมกันก่อนเถอะพะยะค่ะ แฮ่ก ๆ ๆ เดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟัง"
ณ กระโจมใหญ่
"พวกเรามากับพร้อมแล้วไรอา มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอจ๊ะ" องค์หญิงถามอีกครั้ง
"คือว่าเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนนี้ข้าลอบเข้าไปในพระราชวัง....."
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ณ พระราชวังแอนดิซองค์
"แหม! เฟรย่าเนี่ย นึกว่าจะเก่งแต่ทำนายอย่างเดียว วางแผนเก่งซะด้วย ว่าแต่ท่านอองเดรอยู่ไหนล่ะเนี่ย"
"ท่านราชินี เราขอเสนอแผนนี้แก่ท่าน"แกรนซอนพูดจบพลางส่งสัญญานกับซาฟิโร่
"เอ๊ะ...นั่นพวกจตุรมารกับราชินีวิโอเรียนิกำลังวางแผนอะไรอยู่นะ" ไรอาพูดพลางแอบฟังแผนของจตุรมาร
"เราจะส่งสปายเข้าไปร่วมมือกับองค์หญิงอลาน่า แล้วรอฟังผลซักระยะจากนั้นเมื่อมีการทำอาวุธเทพเราจะได้ขัดขวางโดยจะให้พวกจตุรมารและทหารฝีมือดีเข้าไปโจมตีพวกขององค์หญิงและทำลายของที่ได้มาทั้งหมดซะ ส่วนข้าพเจ้าจะใช้ในช่วงชุลมุนอยู่ส่องลำกล้องไปยังองค์หญิงเพื่อปลิดชีพด้วยมือของข้าเองพะยะค่ะ"ซาฟิโร่ได้บอกแผนการดังกล่าวก็ทำให้ราชินีวิโอเรียพอใจในแผนการนี้
"ดี...ดีเยี่ยมแล้วเราจะลงมือเมื่อไร"วิโอเรียกล่าวอย่างตื่นเต้น
"วันนี้ยิ่งดีขอรับท่านราชินี เราขอเสนอสปายของพวกเรา"แกรนซอนพูดจบพลางส่งสัญญาณให้กับสปายให้ปรากฏตัวต่อหน้าราชินีวิโอเรียเธอคือ เฟร สปายสาวที่ล่ำลือว่าการส่งข่าวไม่มีคำว่าพลาดและการปลอมตัวได้แนบเนียนที่สุด
"เอาล่ะมัวช้าอยู่ได้อย่างไร รีบจัดการซะ"วิโอเรียพูดจบพวกจตุรมารไปทำตามแผนการที่เตรียมไว้
"ฮ่า ๆ ๆ ยัยอลาน่าครั้งนี้แกจะไม่มีวันที่จะได้บังลังค์อย่างแน่นอน ตลอดไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ"วิโอเรียหัวเราะอย่างสะใจที่ได้รอวันนั้นคือวันที่องค์หญิงถูกสังหาร
"แย่แล้วองค์หญิงกำลังตกอยู่ในอันตราย ต้องรีบตามหาท่านอองเดรแล้ว" ไรอาเมื่อได้ฟังแผนแล้วก็รีบตามหาอองเดรอีกครั้ง
"นี่เราเดินหามาก็นานแล้วนะ แล้วไอ้คุกใต้ดินมันอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย ฮึ้ย...เจอแล้ว...."
ไรอาค่อย ๆ ลอบเข้าไปในคุกใต้ดินจนกระทั่งพออองเดร
"ท่านอองเดร! ท่านอองเดร! " ไรอาเรียกอองเดรหากแต่มีเสียงตอบจากอองเดรไม่
"ไอ้โง่ ก็เค้าโดยมนต์สะกดอยู่จะตอบเจ้าได้ยังไงล่ะ" เสียงใครผู้หนึ่งพูดขึ้นทำเอาไรอาตกใจรีบหันหาต้นตอของเสียงนั้น
"ใครกันออกมาเดี๋ยวนี้นะ" ไรอาพูดพลางมองหารอบ ๆ คุก
"เจ้าทึ่ม! มองหาสวรรค์วิมารชั้นไหนอยู่เนี่ย ข้าอยู่นี่"
ไรอาก้มลงมองแล้วก็พบว่าเสียงนั้นคือหมอโรคจิตที่เค้าเอามาด้วยนั่นเอง
"เฮ้ย! แกพูดได้ด้วยหรือเนี่ยไอ้หุ่นกระป๋อง" ไรอาจ้องมองและถามด้วยความสงสัย
"ข้าคงพูดไม่ได้มั้ง แล้วที่คุยกับแกอยู่เนี่ยเค้าเรียกว่าพูดมั้ยล่ะ งี่เง่าชะมัด"
"หน่อยไอ้หุ่นปากเสีย อยากถูกถอดชิ้นส่วนใช่มั้ย"
"อย่านะ ๆ แหมพอรูปหล่อ นิสัยดี๊ดี แถมฉลาดอีกต่างหาก อย่าทำข้าเลยนะ มีอะไรให้ข้าช่วยก็บอกได้นะ แต่อย่าถอดชิ้นส่วนข้านะขอร้อง"
"หนอยแกนี่มันกะล่อนซะจริง ๆ ได้ถ้าไม่อยากถูกถอดชิ้นส่วนล่ะก็ รีบแก้คำสาปให้ผู้ชายคนนั้นเดี๋ยวนี้"
"แหมรับรองผลงานได้เลย แต่ข้าจะเข้าไปในกรงขังได้ยังไงล่ะ"
"ไม่เห็นจะยากเลย" ไรอาหยิบเหล็กแหลมอันเล็ก ๆ ออกมา และไขกุญแจออก
"แหมท่านนี่เก่งจริง ๆ "
"ก็ไม่เท่าไหร่หลอก รีบ ๆ เข้าไปได้แล้ว" ไรอาเตะไซโครด๊อกเตอร์เข้าไปทันที
พลัก!
"โอ้ย! ถึงข้าจะเป็นหุ่นยนต์ข้าก็เจ็บเป็นนะปัดโถ่"
"นี่อย่าบ่นน่ารีบ ๆ เข้าข้าต้องรีบกลับไปบอกแผนของพวกปีศาจให้องค์หญิงรู้นะ"
"เออน่า ดูเฉย ๆ เถอะ 1 นาทีเท่านั้น" ไซโครด๊อกเตอร์หยิบเข็มฉีดยากระบอกใหญ่ออกมา และฉีดไปที่แขนของอองเดร
"นี่แกเก็บเข็มใหญ่ขนาดนั้นไว้ตรงไหนในตัวแกเนี่ย - -" บอกข้าหน่อยซิ" ไรอาถามด้วยความแปลกใจ เพราะเข็มฉีดยามีขนาดใหญ่กว่าตัวไซโครด๊อกเตอร์มากนัก
"ช่างฉันเถอะน่า"
อองเดรหลังจากได้รับการฉีดยาจากไซโครด๊อกเตอร์แล้วก็เริ่มรู้สึกตัว
"อุ๊บ...นี่ข้าเป็นอะไรไปเนี่ยปวดหัวจริง ๆ "
"ท่านอองเดร ท่านอองเดร ฟื้นแล้ว เยส..." ไรอาดีใจมากที่เห็นอองเดรฟื้นคืนสติ
"เห็นมั้ยข้าบอกแล้วรับรองผมได้" หมอโรคจิตพอใจในผลงานของตนมาก
"อู้ย....นี่เจ้าเป็นใครกัน แล้วข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" อองเดรถามไรอาทันทีที่เห็น
"ท่านอองเดร ข้าชื่อไรอา เป็นคนขององค์หญิงอลาน่ามาที่นี่เพื่อช่วยท่าน"
"องค์หญิง ๆ อยู่ที่ไหน เจ้าบอกข้ามานะ อุ๊บ..." อองเดรถามอย่างรีบร้อนแต่ร่างกายยังไม่แข็งแรงนัก
"เฮ่ ๆ ไอ้หุ่นกระป๋อง ทำไมท่านอองเดรดูเพลีย ๆ งั้นล่ะ"
"แหม! ก็ธรรมดาพึ่งฟื้นจากคำสาปก็ต้องอ่อนเพลียเป็นธรรมดานั่นล่ะ พักซักหน่อยก็หายแล้ว"
"นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เล่าเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟังทีซิ"
ไรอาเล่าเรื่องทั้งหมดให้อองเดรฟังทุกอย่างรวมถึงความหวังสุดท้ายที่จะกำจัดพวกปีศาจ นั่นคือ การให้อองเดรบังคับมัลเทลลูม่า เพื่อปราบมารร้าย
"นี่ ๆ ไรอาข้าว่านะ ไหน ๆ ท่านอองเดรก็ฟื้นแล้วเรารีบเผ่นกันดีกว่านะ" ไซโครด๊อกเตอร์พูด
"หนีน่ะหนีได้แต่เราจะพาท่านอองเดรไปได้ยังในสภาพแบบนี้"
"งั้นถ้าท่านอองเดรแข็งแรงก็หมดเรื่องใช่มั้ย" ไซโครด๊อกเตอร์หยิบเข็มฉีดยายักษ์ออกมาอีกครั้ง
"เฮ้ย...นี่แกจะเอาอะไรฉีดท่านอองเดรอีกเนี่ย"
"ก็ยาฟื้นพลังไง ฉีดปุ๊มแข็งแรงปั๊บ"
โป๊ก!
"โอ้ย! เจ็บนะนี่เจ้าจะมาเขกหัวข้าทำไมเนี่ย -*-"
"อยากรู้ใช่มั้ยเอาไปอีกทีนี่"
โป๊ก!
"โอ้ย! เจ็บนะเขกอยู่ได้ เดี๋ยวข้าก็เอายาพิษฉีดแกให้ตายเลยนิ"
"มันน่ามั้ยล่ะแกมียาดีแบบนี้ทำไมไม่ฉีดแต่แรกเล่า -*-"
"ยานี่มันฉีดพล่ำเพลือได้ที่ไหนเล่า"
"อ้าวเหรอ ^^" แฮ่ะ ๆ ๆ ข้าผิดปายแล้ว Y_Y"
"ทนเจ็บหน่อยนะท่านอองเดร"
"อืม....อุ๊บ"
"อ้าก....."
"นี่แกฉีดยาผิดหรือเปล่า"
"ไม่หลอกมันเป็นแบบนี้ล่ะ พอฉีดยาเข้าไปแล้วจะเจ็บปวดอย่างรุนแรง แต่แค่แป๊บเดียวนะดูซิ"
"อืม....เรี่ยวแรงกลับมาแล้ว"
"งั้นเรารีบไปกับเถอะท่านอองเดร" ไรอาพูด
"ดีงั้นรีบไปกันเถอะ" อองเดรพูด
หลังจากนั้นพวกเราก็หนีออกมาจากพระราชวัง แต่ระหว่างทางนั้นท่านอองเดรขอแยกตัวขึ้นเขา เพื่อเรียกเทพมังกรน่ะ เพราะท่านอองเดรบอกข้าว่า...
"ไรอา ข้านะไม่มีเชื้อสายของกษัตริย์แห่งแอนดิซองค์เลย ที่ข้าได้เป็นกษัตริย์ก็เพราะแต่งงานกับวิโอเรีย เพื่อที่จะนำกำลังไปสงบศึก เพื่อที่องค์หญิงจะได้กลับมา เพราะฉะนั้นข้าจึงไม่มีความสามารถที่จะควบคุมเทพได้หลอก แล้วก็...." อองเดรยังไม่ทันจะพูดจบไรอาก็พูดขึ้นว่า
"ท่านไม่ต้องกังวลหลอก ถึงท่านจะไม่ได้สืบเชื้อสายกษัตริย์ แต่ท่านก็เป็นคนดี ข้าเชื่อว่าเทพมังกรต้องฟังท่านแน่" ไรอาพูดอย่างมั่นใจ
"ได้ถ้างั้นข้าจะขึ้นเขาที่สูงที่สุดในแอนดิซองค์เพื่อเรียกเทพมังกร ช่วยบอกองค์หญิงว่า เมื่อข้าสามารถควบคุมเทพมังกรได้แล้วข้าจะรีบไปหาองค์หญิงทันที" อองเดรพูดจบก็แยกทางกับไรอาและไซโครด๊อกเตอร์ทันที
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"เรื่องมันก็เป็นแบบนี้หล่ะครับองค์หญิง" ไรอาเล่าเรื่องจนจบ
"อองเดร! ขึ้นเขาไปคนเดียวอันตรายมากนะ ใครก็ได้ไปช่วยอองเดรทีซิ" องค์หญิงพูดอย่างเป็นห่วง
"ไม่ได้นะเพคะองค์หญิง นี่เป็นบททดสอบอย่างนึงของท่านอองเดรว่าจะมีคุณสมบัติที่จะมาชดเชยกับสิ่งที่เค้าไม่มีคือเชื้อสายกษัตริย์ ได้หรือไม่ ฉะนั้นเราควรรอท่านออกเดรอยู่ที่นี่ คอยรับมือพวกปีศาจด้วยกำลังของเราเสียก่อน" เฟรย่าพูดขึ้น
"เราก็คิดเช่นนั้นน่ะองค์หญิงอลาน่า" เรจิน่ากล่าว
"องค์หญิงเรจิน่า"
"ระหว่างนี้เราต้องทำตัวตามปกติแกล้งทำเป็นว่าเราตกหลุมแผนของมัน เมื่อสปายแฝงตัวเข้ามาจงติดตามอย่าให้คลาดสายตาได้ หน้าที่นี้ข้าว่าไรอาเหมาะสมที่สุด" ซิกมันต์เสนอแผน
"ขะข้าเหรอ...."
"ใช่แล้วในหมู่พวกเราเจ้ามีความสามารถที่จะคอยติดตามคนได้ดีที่สุด" ซิกมันต์ให้เหตุผล
"ลำบากท่านแล้วนะท่านจอมโจรไรอาผู้โด่งดัง" ชาร์ลหยอกไรอา
"ในเมื่อทุกท่านลงความเห็นแบบนี้หน้าที่นี้ข้าจะทำให้ดีที่สุด" ไรอาให้คำมั่น
และตกเย็นของวันที่ 2 หลังจากที่แม๊กซิมอสเริ่มตีอาวุธเทพ เฟรสปายสาวก็ได้เข้ามาอยู่ ณ ที่พักขององค์หญิงอลาน่าเรียบร้อยแล้ว (to be continue)

Chandradevi, the Apsra  จันทราเทวี  ปกป้องแสงจันทร์
3/1 แสง Divine Lv.2
At:6
Df:6
Sp:3
+แสง    Shanti Ratri  At:8mp3
+แสง แสง  Prabhasa Chandra  At:9mp3
Skill นำ Mystic Card 1ใบใน Shrine ออกจากเกม(mp2)


Taravati, the Apsra  ดาราวดี, ปกป้อง แสงดาว
2/1 แสง Divine Mage Lv.2
At:6
Df:5
Sp:2
+ แสง  Shubha Tara  At:9mp2
Skill- Seal 1ใบติด Dimension Curse 1 Turn เมื่อ Taravati, the Apsra รวมร่าง At line (Mp2)
Skill- ผู้เล่นทุกคนไม่สามารถทำSeal เข้ามาในสนาม ไม่ว่ากรณีใดๆ จนจบ Turn ( ไม่สามาถใช้ Skill นี้ได้หากฝ่ายตรงข้ามมี Sealน้อยกว่า 3ใบ) (mp3) (At line)

Rajtadevi, the Apsra  รัชตาเทวี เทพีแห่งศาสตรา เหล็กกล้าและเครื่องเงิน
3/1 แสง Divine Knight Lv.2
At:8
Df:7
Sp:3
+ Knight    Rajta Shastra  At:10mp2
+ Knight Divine  Deva Shastra At:12mp4
Rajtadevi, the Apsra Mp- ตามจำนวน Sealที่ติด Dimension Curse ในสนาม
เมื่อ Rajtadevi โจมตีสำเร็จนำ Mystic ชนิด Relic 1ใบในShrine ขึ้นมือ


Samudrakumari, the Apsra  สมุทรกุมารี ควบคุมเกรียวคลื่นและลมทะเล
2/1 น้ำ Divine  Lv.2
At:5
DF:7
Sp:2
+ น้ำ    Virodha Samudra At:8mp2
Skill นำ Samudrakumari, the Apsra จากมือลงมาในสนาม จากนั้น Sealทุกใบของฝ่ายตรงข้ามที่ Df ต่ำกว่า Samudrakumari ติด Freeze Curse 1 turn(mp3)((http:///images/sign_inf.gif))

Padmavati, the Apsra  ปัทมาวดี  นางฟ้าแห่งดอกบัว
2/1 น้ำ Divine Lv.2
At:5
Df:8
Sp:3
+ น้ำ    Padmavudh  At:8mp2
+น้ำ แสง  Shveta Padma At:10mp3
* Skill เลือก Seal1ใบ หาก Sealใบนั้นโจมตีสำเร็จ เรา Mp+2
(mp0)
Padmavatim, the Apsra ยกเลิก Freeze Curse


Vanadevi, the Apsra   วนาเทวี  เทพีแห่งป่าเขาและ ต้นไม้
3/1 ดิน Divine Plant Lv.2
At:6
Df:7
Sp:2
+ ดิน  Velumantra  At:7mp2
+ Plant  Bodhimantra  At:9mp3
* Skill Seal Sp.1,2,3,4, 1ใบ ติด Charm Curse และ Poison Curse 2Turns เมื่อ Vanadevi, the Apsra รวมร่าง (At Line)(mp3)
Vanadevi, the Apsra cancels Stone Curse


Nandadevi, the Apsra  นันทาเทวีเทพีแห่งความรื่นเริง แบ่งภาคลงมาช่วยอลาน่า
3/1 ลม Divine Dancer Lv.2
At:6
Df:6
Sp:5
+ ลม    Nanda Natha  At:8mp2
+ Musician  Nanda Gita At:10mp3
Dancing At line
นำ Seal 1ใบไปยัง Df line และนำ Seal1ใบไปยัง At line
Nandadevi cancel curse


Chitravati, the Apsra          จิตราวดี  เทพีแห่งหายลมและพายุ
3/2 ลม Divine Knight Lv.2
At:7
Df:8
Sp:5
+ ลม    Vayachitra    At:9mp3
+ลม ลม  Men Vayu Kumari Hun  At:11mp3
เมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่ร่าย Seal ใน Sub-turn โจมตี เมื่อเข้าสู้ Sub Turn โจมตี ของเรา เราสามารถสั่ง Chitravati, the Apsra ให้โจมตีขึ้นมือฝ่ายตรงข้ามได้


Ravindradevi, the Apsra   รวินทราเทวี เทวีแห่งแสงสุริยะ
3/1 ไฟ Divine Mage Lv.2
At:8
Df:5
Sp:4
+ ไฟ      Garam  Chakra  At:9mp3
+ไฟ ไฟ  Suriya Chakra  At:9(All)(mp4)
Skill  นำ Seal 1ใบใน Df line ไปยัง At line (mp1)

พิเศษ

Vedadhita, the Apsra   เวทธิดา ไม่มีจ๊อบอะไร เป็นแค่รูปสลักนางอัปสรในตำนาน
3/2 No Element Divine Lv.2
At:0
Df:9
Sp:0
+ ดิน  Deva Raksha      Df:11    mp2
+ไฟ    Agsunipata Shara At:10  mp2
+ลม    Vayu Bala            At:9sp5mp2
+น้ำ    Saroja Mangala    At:9      mp1
* Skill ทำลาย Mystic Card 1ใบในสนาม (mp2)(Atline) ((http:///images/sign_inf.gif))

Shashidharago    ศศิธรโค
4/2 แสง  Monster Lv.3
At:8
Df:9
Sp:3
+ แสง            Chandrarashmi  At11mp3
+ Divine แสง Maha Devaratri  At:13mp4
Skill นำ Shashidharago เข้ามาในสนาม จากนั้นสั่งนำ Mystic การ์ด1ใบใน shrine กลับขึ้นมือ(mp2)
ตราบเท่าที่มี Chandradevi, the Apsra  อยู่ในสนาม Shashidharago At+2Sp+1



ต่อไปแกะ ของนาง  ดาราวดี

Shvetamesha      เศวตเมษะ
3/2  แสง Beast Lv.2
At:6
Df:7
Sp:2
+แสง    Tara Bala  At:9mp2
+ Beast แสง  Dhavaliman Tara At:11mp3
Skill* Remove Seal1ใบที่ติด Dimension Curse (mp2) ( At Line)
Skill* Seal 1ใบCancel Mystic Card จนจบ Sub turn (mp2) (At line)
ตราบเท่าที่ Taravati, the Apsraอยู่ในสนาม Shvetamesha cancel Mystic Card ของฝ่ายตรงข้าม



ต่อไปช้าง ของนาง รัชตาเทวี

Svargahastin  สวรรคหัสติน
5/3 แสง Monster Lv.3
At:9
Df:9
Sp:3
+ แสง  Karabhabala  At:11mp3
+แสง แสง Pavanadanta At:12mp4
ตราบเท่าที่ Rajtadevi, the Apsra อยู่ในสนาม เมื่อ Svargahastin โจมตี สำเร็จ เราสามารถเลือก Seal2ใบในสนามขางฝ่ายตรงข้ามและให้ Seal2ใบนั้นติด Dimension Curse จนจบ Sub turn

ต่อมา ปลา ของนาง  สมุทรกุมารี

Marakatamatsya   มรกตมัตสยา ( มะ-ระ-กะ-ตะ มัตสยา)
3/2 น้ำ Monster Lv.2
At:6
Df:7
Sp:3
+ น้ำ    Marakatapucchare  At:9Sp:4Mp3
+น้ำ น้ำ  Marakatamaya      At:11Sp:5Mp:4
ตราบเท่าที่ Marakatamatsya รวมร่างอยุ่ในสนาม Sealฝ่ายตรงข้ามทุกใบที่มีSp ต่ำกว่าMarakatamatsya Df-2
Sealฝ่ายเราทุกใบ At+1
เมื่อมี Samudrakumari, the Apsra อยู่ในสนาม Maraskatamatsya Sp+1 Mp -1



ต่อมา ผึ้งทำน้ำหวานของนาง ปัทมาวดี

Madhukara  มธุกร ( มะ-ธุ- กะ-ระ)
2/1 Insect น้ำ Lv.1
At:5
Df:6
Sp:3
+ดิน  Madhupadma  At:6mp2
+ Incect Visuddha Madhvapata  At:7mp3
Skill*  ผู้ควบคุม แสดง การ์ด X ใบ Seal 1ใบ At+X 1 turn(mp2)

ตราบเท่าที่ Padmavati, the Apsra อยู่ในสนาม Madhukara At+ตามจำนวน Insect ในสนาม

ต่อมา ผีเสื้อของนาง วนาเทวี

Varikshasalabha   วฤกษสลภา
2/1 ดินInsect Plant Lv.1
At:6
Df:7
Sp:1
+ Insect  Nidra Keshara At:7mp2
Skill- Seal1ใบกลายเป็น Inactive Seal
1 Turn เมื่อ Varikshasalabha รวม่ราง (mp2)(At line)
ตราบเท่าที่ Vanadevi, the Apsra อยู่ในสนาม Varikshasalabha สามารถใช้ Skill จาก Df line ได้

ต่อมา ยักษ์ของนาง นันทาเทวี

Manindravana   มณินทราวณ
4/3 แสง Titan Lv.3
At:9
Df:10
Sp:3
+แสง  Vajra Dhala  At:10Df:13mp4
* Charging 2 Turns
Skill  Dancer ทุกใบฝ่ายเราป้องกันการโจมตี 1 Turn (mp2)( Df line )
ตราบเท่าที่ Nandadevi, the Apsra อยู่ในสนาม Manindravarna สามารถใช้ค่า Df โจมตีจาก Df line ได้


ต่อมา นก อินทรีของนาง จิตราวดี

Masarasuparna     มสรสุบรรณ
3/2 ลม Beast  Lv.2
At:6
Df:7
Sp:5
+ลม    Maha Vayakash    At:8mp3
+ลม ลม Masara Vipaksha  At:11mp3
ค่าร่าย Seal ทุกใบบนมือของฝ่ายตรงข้าม +1 เมื่อ  Masarauparna รวมร่าง
ตราบเท่าที่  Chitravati, the Apsra อยู่ในสนาม  Masarasuparna ได้รับ Ability
เมื่อมี beast ตก Shrine จากสนาม ฝ่ายตรงข้าม1คนจั่ว Seal1ใบ


ต่อมาของนาง รวินทราเทวี อันนี้มาแปลกที่สุด เพราะเป็นเครื่องจักร

Atilohita Vimana   อติโลหิตะ วิมานะ ( เครื่องบินรบคล้ายเรื่อง Beat-X)
3/2 ไฟ Machine Lv.3
At:9
Df:9
Sp:3
+ไฟ    Yanta Aggi    At:11mp3
+ไฟ ไฟ  Vinasha Agani At:12mp4
+ ไฟ แสง  Bambharali Sagni  At:11Sp4mp3
Skill* Sacrifice Sealรองรวมร่างของ Atilohita Vimana1ใบ ทำลาย Seal 1ใบที่ At น้อยกว่า Atilohita Vimana ที่กำลังถูกสั่งการ 1ใบ ((http:///images/sign_inf.gif))( Mp3)(At line)
ตราบเท่าที่ Ravindradevi, the Apsra อยู่ในสนาม  Atilohita Vimana  cancel Mystic การ์ด

นางอัปสรเยอะจังเลย งานนี้สนุกแน่ อิอิ

ต่อไปเป็นทหารระดับกลางทางด้านราชินีวิโอเรีย

Nightmare Rider
Lv.2 Mp3/1 Dark Knight-Evil
At 8
Df 7
Sp 5
+[dark] Dark dream slash At 10 Mp 2
+n[Nightmare] Thanathos Omen At 11 Mp 3
สั่ง Nightmare Rider รวมร่าง [inf] (Mp2)
Nightmare Rider ตกลง Shine จากสนามหรือกองการ์ด Death Curse ให้กับ Seal 1 ใบในสนามของฝ่ายตรงข้าม
ตราบเท่าที่มี Dark Soul Nightmare เป็นใบรองให้กับ Nightmare Rider At+2 และยกเลิก Death Curse

โหดไปนิด(แน่ละเป็นทหารของราชินีวิโอเรียนี่นา)

ต่อเลยละกัน
ตกเย็นทางด้านกระโจมของพวกริวโก
"เซเรส นายมาที่แอนดิซองเพื่อจุดประสงค์ใดนี่"ฟาติมาถามเพราะสงสัย
"ที่เรามาอยู่ที่นี่เพื่อมาพบกับมังกรเทพแมนเทลลูม่าในตำนานนะสิ"เซเรสพูดออกมาแต่ทางด้านริวโกได้รู้สึกความไม่ชอบมาพากลของที่นี่
"ริวโกเป็นอะไรไป"ฟาติมาพูดด้วยความเป็นห่วง
"ข้ารู้สึกอะไรบางอย่าง ที่เลวร้าย"พอริวโกพูดจบพลางชี้ไปยังเทือกเขาทางด้านหน้าของตัวเขาก็พบ อัศวินขี่ม้าแต่หาใช่เป็นม้าไม่สิ่งที่ฟาติมาเห็นก็ทำให้ตกใจไม่แพ้กัน
"อะ...อัศวินไนท์แมร์(Nightmare Rider)"ฟาติมาอุทาน
ริวโกหยิบกล้องทางไกลส่องดูก็พบว่ามีธงของแอนดิซองอยู่ในตัวของอัศวินนรกด้วย
"มันจะโจมตีตอนนี้ไหม"ฟาติมาพูดด้วยความเป็นห่วงชีวิตของทุกคน
"ไม่....มันคงรออะไรซักอย่าง"ริวโกประเมินสถานการณ์
"แล้วจะทำไงดีล่ะ"ฟาติมาพูดพร้อมนำกล้องของริวโกมาส่องดู
"อยู่นิ่งๆเตรียมรับมือไว้เป็นดีที่สุด"ริวโกพูดพร้อมกับนำกล้องจากมือของฟาติมาแล้วพาเธอกลับยังกระโจมที่พัก
แล้วจากนั้นริวโกได้ทำจดหมายสังเกตุการณ์ไปให้กษัตริย์ซิกมันเพื่อนำไปประชุมแผนการรบต่อไป

To be conclude

Andisonge ตรงไหนเนี่ย

ก็เป็น Annedisonge ในตอนแรก ๆ ตอนนี้ก็เป็น Annedisonge อยู่นะ แค่มีอย่างอื่นปนเท่านั้นเอง

ต่อ ๆ
หลังจากที่ริวโกส่งผลการสังเกตุการณ์ไปให้ซิกมันต์แล้ว ซิกมันต์จึงนำเรื่องนี้เข้าปรึกษากับทุกคนเพื่อหาทางรับมือ
"อัศวินไนท์แมร์ เป็นอัศวินจากนรกที่น่ากลัวมาก เราจะรับมือกับมันยังไงดี" ซิกมันต์พูด
"ตัวมันมีคำสาปที่น่ากลัว เพราะเมื่อมันตาย คำสาปในตัวมันจะทำให้คนตายได้เลยทีเดียว เป็นคำสาปที่น่ากลัวมาก" ริวโกพูด
"แล้วนี่เราจะจัดการกับมันยังไงดีล่ะ" องค์หญิงอลาน่าถาม
"เรื่องนั้นองค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วง" แม๊กซิมอสเดินเข้ามาในสภาพที่เหงื่อท่วมตัว เนื้อตัวมอมแมมไปหมด
"ท่านมีวิธีเหรอจ๊ะท่านแม๊ก" องค์หญิงถามอย่างมีความหวัง
"มีซิองค์หญิง...ก็อาวุธเทพที่ข้าตียังไงล่ะ ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว" แม๊กซิมอสพูดพร้อมนำอาวุธเทพเข้ามาให้ทุกคนดู
"โห...เจ๋งมากเลยท่านแม๊ก เหมาะกับข้าจริง ๆ " ฟรอสซ์ลองใส่ทันที
"เป็นไงแอลฟาเรียข้าใส่แล้วดูเท่ห์ขึ้นเยอะมั้ย"
"จ้า ๆ เท่ห์จ๊ะ"
"อาวุธเทพนี่สามารถปกป้องผู้ใช้จากคำสาปของพวกปีศาจได้ คราวนี้เราก็ไม่ต้องไปกลัวไอ้อัศวินไนท์แมร์กิ๊กก๊อกนั่นแล้วล่ะ" แม๊กซิมอสพูด
"งั้นข้ากับเอลด้าขอตัวไปทำความคุ้นเคยกับอาวุธใหม่ก่อนนะ ขอกระสุนให้พวกข้าหน่อยซิท่านแม๊กซิมอส" อลิซาเบธพูด
"ปืน 2 กระบอกนั่นไม่จำเป็นต้องใช้กระสุนหลอก เพราะตราบใดที่ผู้ถือคิดดีทำดีแล้วล่ะก็จะสามารถยิงกระสุนศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ พูดง่าย ๆ ก็คือพวกปีศาจหรือคนชั่วไม่สามารถใช้อาวุธเทพได้นั่นเอง" แม๊กซิมอสอธิบาย
"คราวนี้ข้าจะลุยพวกมันให้เละเลยคอยดูซิ" ฟรอสซ์คึกคักขึ้นมาทันที
"แต่อาวุธเทพตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์นะ ต้องได้รับแสงแรกจากดวงอาทิตย์ซะก่อน" แม็กซิมอสพูด
"เพราะฉะนั้นตอนนี้อาวุธนี้ยังเป็นเพียงอาวุธธรรมดาอยู่ แต่เหนือกว่าอาวุธทั่ว ๆ ไปของมนุษย์เท่านั้นเอง"
"จากตอนนี้ก็อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเช้า ถ้าพวกมันบุกเข้ามาตอนนี้เราจะลำบากนะ" องค์หญิงกล่าวอย่างกังวล
"องค์หญิงอลาน่าทรงอย่างกังวลไปเลย ตราบใดที่ข้าฮิลเคเบี่ยนผู้นี้ยังอยู่ข้าจะไม่ให้ปีศาจตนใดทำร้ายองค์หญิงได้เป็นอันขาด" ฮิลเคเบี่ยนให้คำมั่น
"ข้าคาลอสก็จะถวายชีวิตเพื่อองค์หญิงเช่นกัน"
"ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหลอกนะ เห็นมั้ยว่าพวกของท่านยินดีปกป้องท่านอย่างเต็มที่" องค์หญิงเรจิน่าพูดปลอบ
"คือข้าไม่ได้กลัวว่าข้าจะเป็นอะไรไป แต่ข้ากลัวว่าพวกท่านจะเป็นอันตรายน่ะ" องค์หญิงอลาน่าพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
"องค์หญิงไม่ต้องห่วงหลอกพะยะค่ะ ข้าเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาท่านอองเดรต้องมาทันเวลาอย่างแน่นอน" ไรอาพูด
"ข้าเองก็หวังว่าอองเดรจะปลอดภัยกลับมา"
จังหวะที่ไรอาเผลอ และทุกคนกำลังประชุมกันอยู่เฟรก็ได้แอบออกมาส่งข่าวให้จตุรมารรู้
"รีบไปซะกากอยน้อย(Unholy Gargoy)   รีบไปหาท่านแกรนซอนนะ" หลังจากเฟรส่งข่าวแล้วก็เดินกลับเข้ามา
"นี่เจ้าไปไหนมาน่ะ" ไรอาดึงเฟรมาถามทันทีที่เห็นเฟรเดินเข้ามา
"โอ้ย! ข้าเจ็บนะนี่ท่านจะทำอะไรน่ะ" เฟรถามอย่างหงุดหงิด
"เจ้าไปไหนมา บอกข้ามานะ" ไรอาตะคอกถาม
"ข้าก็แค่ออกไปเดินเล่นข้างนอกก็เท่านั้นเอง"
"แต่ข้าเห็นกากอยบินออกไปจากที่พักนี่ มันไม่จะมีปีศาจอยู่ที่นี่ได้ ไหนลองตอบข้ามาซิ"
"ท่านพูดเรื่องอะไรข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย"
"ก็เรื่องที่เจ้าเป็นสปายคอยสอดแนมเรื่องของพวกเราไง เจ้าจะว่ายังไงล่ะ"
"ใช่! ข้าเป็นสปาย ท่านจะทำอะไรข้าได้ล่ะ ท่านจอมโจรไรอาผู้โด่งดัง แต่ไรความสามารถปล่อยให้ข้าส่งข่าวได้ ฮ่า ๆ " เฟรเย้ยไรอา
"หึ ๆ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
"ท่านหัวเราะอะไรของท่านน่ะ"
"ข้าน่ะหรือปล่อยให้เจ้าไปส่งข่าว ข้าจงใจปล่อยเจ้าต่างหากล่ะ คราวนี้เจ้าก็ยอมรับออกมาแล้ว เจ้าไม่รอดแน่"
แกว๊ก! ๆ ๆ ๆ
"นี่ใช่มั้ยกากอยของเจ้า" ฟรอสซ์พูดพลางจับกากอยให้เฟรดู
"นี่พวกท่านรู้อยู่แล้วหรือ" เฟรถึงกับอึ้ง
"แน่นอน! มีเหรอที่ข้าไรอา จอมโจรลักพาตัวอันเลื่องชื่อ จะพลาดท่าให้กับโจรกระจอกอย่างเจ้าได้น่ะ ถ้ารู้แผนของพวกเจ้าหมดแล้ว"
"ฮึ่ม! ในเมื่อข้าเสียทีให้กับพวกท่านแล้วจะทำอะไรก็เชิญ"
"พวกเราไม่ทำอะไรเจ้าหลอกจ๊ะ แค่อยากจะให้เจ้ากลับตัวซะนะจ๊ะ"
"หึ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีหลอก เจ้าก็ดีแต่แกล้งทำความดีบังหน้า แท้จริงแล้วก็อยากได้สมบัติคืนน่ะซิ"
"หนอยเจ้า...." ไรอาทำท่าจะเอาเรื่อง
"อย่านะจ๊ะไรอา" องค์หญิงอลาน่าห้ามไว้
"เราต้องใช้เห็นผลซิจ๊ะ"
"พะยะค่ะองค์หญิง"
"จริงอยู่ที่ข้าอยากได้สมบัติคืน แต่นั่นเพาะข้าต้องการใช้สมบัติเหล่านั้นช่วยราษฎรให้อยู่กันอย่างมีความสุข เจ้าลองคิดดูนะ วิโอเรียทำให้ชาวแอนดิซองค์ต้องลำบาก ซ้ำยังร่วมมือกับพวกปีศาจ แล้วเจ้ายังจะช่วยเค้าอีกหรือจ๊ะ ลองคิดดูให้ดี ๆ นะ"
เฟรได้แต่เงียบไม่โต้ตอบ และเริ่มคิดได้
"ข้าผิดไปแล้ว คืนนี้พวกปีศาจจะบุกมา ข้าต้องถูกฆ่าแน่ ๆ เพราะไม่ส่งข่าวกลับไป ข้ายังไม่อยากตาย" เฟรกลัวอำนาจของจตุรมารมาก
"เจ้าไม่ต้องกลัวนะ ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่นี่เจ้าจะปลอดภัยนะจ๊ะ พวกเราจะคุ้มครองเจ้าเองจ๊ะ" องค์หญิงยิ้มให้เฟร
"ขอพระทัยองค์หญิงมากเพค่ะ" เฟรร้องไห้และสำนึกกับความผิดที่ได้ทำ
"ไม่ต้องร้องไห้นะจ๊ะ คนเราก็ทำผิดกันได้ ไปพักผ่อนเถอะนะ" องค์หญิงปลอบเฟร
"เพค่ะ"
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปเตรียมพร้อมกันอย่างเต็มที่ โดยที่พึ่งสำคัญตอนนี้ก็คงมีแค่ฮิลเคเบี่ยนกับคาลอสเท่านั้นที่มีอาวุธเทพ ส่วนคนอื่น ๆ ต้องรอแสงอาทิตย์แรกอาวุธเทพจึงจะสมบูรณ์ ส่วนทางด้านอองเดรตอนนี้ยังคงมุ่งหน้าขึ้นไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดในแอนดิซองค์อย่างไม่ลดละยิ่งสูงอากาศก็ยิ่งหนาว แต่เค้าก็ยังพยายามต่อไปเพื่อเรียกเทพมังกรมัลเทลลูม่า (to be continue)

ต่อทันทีทันใด

ทางด้านหน้าแผนประชุมการรบของพวกจตุรมาร แกรนซอนกำลังรอข่าวสารที่เฟรจะส่งมา แต่พอถึงเวลากลับไร้ร่องรอยของข่าวเลย
ทางด้านพวกจตุรมารที่เหลือกับซาฟิโร่กำลังประชุมแผน
"เราได้เตรียมพวกทหารเลว,อัศวินนรก,กลุ่มของซัคคิวบัสและอีกมากที่พร้อมโจมตีค่ายขององค์หญิงอลาน่า"ซาฟิโร่ได้บอกถึงกำลังทหารที่มากพอจะทำลายค่ายขององค์หญิงอลาน่าได้อย่างง่ายดาย
"แต่เราต้องแบ่งออกเพื่อพวกมันจะสวนเรากลับมา"กิโยตินเสนอ
"แล้วแต่ท่านแล้วใครจะคุมกองทัพที่จะไปรบล่ะ"มาย่าพูดอย่างสงสัย
"ถ้างั้นข้าจะไปเอง"เรเวนออกข้อคิดเห็น
"แต่เจ้ายังไม่หายดีเมื่อตอนไปที่ภูเขาวาฮาล"กิโยตินค้าน
"เจ้าไม่รู้เลยเรอะว่าข้าคุมกองทัพปิศาจได้ดีที่สุดของท่านจักรพรรดิ์แล้วทำไมเจ้าถึงต้องค้านทั้งๆที่ข้าพร้อมต่อกรได้ตลอดเวลา"เรเวนให้เหตุผลและค่อนข้างที่จะผิดหวังในตัวของกิโยติน
"ที่ข้าค้านเพราะไม่อยากให้เจ้าไปคุมกำลังรบทั้งที่กำลัง..."ขณะที่กิโยตินพูดอยู่นั้น
"รึว่าเจ้าอยากคุมแทนล่ะสิ ก็ได้นายคุมเองเลยเพราะมีกองกำลังอยู่ที่นี่แล้วนี่"เรเวนเสนอให้กิโยตินทำซะเอง
"แต่แผนนี้ถ้าพลาดนายก็เป็นคนผิดเองทั้งหมด"เรเวนพูดอย่างประชด
"ได้ แล้วได้เห็นกัน"กิโยตินเองก็ไม่แพ้กันทำให้มาย่าเห็นว่าท่าทางจะไม่ค่อยดีเพราะเรเวนกับกิโยตินไม่ค่อยจะกินเส้นแต่ไหนแต่ไรแล้ว
"พอเถอะน่าทั้งคู่ ไหนๆก็ให้เจ้ากิโยตินคุมกองทัพไปรบแล้วนี่ไม่เห็นต้องปะทะคารมกันเลยนี่"มาย่าเข้าไปห้าม
ในขณะเดียวกันแกรนซอนก็เข้ามาพอดี
"ได้ข่าวที่ส่งมาไหม"มาย่าถาม
"ไม่ ข้าไม่เห็นร่องรอยของข่าวเธอเลย"แกรนซอนพูดอย่างผิหวังเล็กๆ
"นางทรยศพวกเราข้าจะไปฆ่านางด้วยมือของข้าเอง"ซาฟิโร่แค้นมากที่เฟรผิดคำพูด
"ป่านนี้พวกมันคงได้อาวุธเทพไปแล้วล่ะ"มาย่าพูดอย่างเจ็บใจสุดขีด
"แล้วเราจะบุกเลยไหม"เรเวนเสนอ
"บุกทันทีตอนนี้ยิ่งดี"แกรนซอนพูด
"กิโยตินอย่าให้พวกเราผิดหวังล่ะ"มาย่าพูด
"ได้"กิโยตินให้สัญญาแก่นาง
"เอาล่ะ พวกเราจงไปสู้กับพวกที่ขัดขวางแอนดิซองด้วยเกียรติ์และศักดิ์ศรีเพื่อท่านราชินีวิโอเรีย"กิโยตินตะโกนเพื่อปลุกระดมทหาร
"เพื่อราชินี โฮ่ว"ทหารขานรับเสียงเมื่อสิ้นเสียงกิโยตินสั่งให้พวกทหารเคลื่อนพลไปรบกับพวกของเจ้าหญิงอลาน่าโดยที่ตัวเองไม่รู้ว่าชีวิตของตนเองกำลังจะถึงฆาต

To be conclude

กองทัพปิศาจแอนดิซองค์ที่ไปรบกับพวกขององค์หญิงอลาน่ามีทหารดังนี้
1.พวกทหารเลว
2.ทหารม้าแอนดิซอง
3.อัศวินนรก
4.ซัคคิวบัส
ผู้คุมทัพ กิโยติน แม่ทัพ ซาฟิโร่

คราวนี้จะตั้งใจให้มากกว่าทุกครั้ง เหอะ ๆ ๆ ๆ

ขณะนี้กองทัพเฉียดแสนของกิโยตินได้เคลื่อนพลหมายถล่มที่พักขององค์หญิงอลาน่าให้ย่อยยับ เสียงของการเคลื่นทัพที่สะเทือนไปถึงที่พักขององค์หญิงอลาน่าบ่งบอกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพได้เป็นอย่างดี ศึกครานี้ซาฟิโร่หมายจะแก้แค้นอลิซาเบธที่ทำให้แขนขวาของเค้าต้องกลายเป็นตะขอ...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านองค์หญิงอลาน่า ซึ่งบัดนี้ทุกคนพร้อมที่จะทำศึกแล้ว โดยมีซิกมันต์เป็นแม่ทัพใหญ่และมีชาล์ คาเรนซ์ เป็นแม่ทัพรอง ทั้งยังมีองค์หญิงเรจิน่า แฮริสั่น ที่เชี่ยวชาญการศึกเป็นผู้นำทัพ
"ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้เราคงไม่สามารถจะเอาชนะพวกปีศาจได้ เพราะด้วยจำนวนฝ่ายตรงข้ามที่มีมากกว่า ทั้งอาวุธเทพยังต้องรอรับแสงอรุณแรกอีก ทำให้เราเสียเปรียบในทุกด้าน ความหวังของเราตอนนี้มีอยู่ 2 สิ่ง คือ 1. ยันพวกมันให้ได้จนถึงเช้า นับจากตอนนี้ก็อีกประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องที่ลำบากไม่ใช่น้อยเลย ที่กำลังเพียงไม่กี่ร้อยของเราจะไปต้านทัพที่มีกำลังนับแสนได้..." ซิกมันต์พูด
"แล้วความหวังที่ 2 ล่ะ ท่านซิกมันต์" ฟรอสซ์ถาม
"ความหวังที่ 2 นี้ องค์หญิงอลาน่าและเกอกอรี่จะสวดมนต์ภาวนาขอให้เหล่าเทพลงมาช่วยพวกเรา"
"ข้าจะพยายามสวดมนต์ขอร้องกับพระผู้เป็นเจ้า เพื่อพวกเรา" เกอกอรี่พูด
"ส่วนเรากับซิสเตอร์ทั้งหลายก็จะสวดมนต์ขอพรเช่นกันจ๊ะ" องค์หญิงอลาน่าพูด
"เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพวกข้าก็จะพยายามถ่วงเวลารอจนกว่าจะเช้าหรือเทพจะมาก็แล้วกัน" ฟรอสซ์พูด
"ดี! งั้นพวกเราแบ่งกำลังออกเป็น 3 ทัพ ทัพแรกข้า ชาล์ ท่านพี่เรจิน่า เจ้าชายแฮริสันจะเป็นทัพหน้าออกไปสู้กับมันเอง ส่วนทัพที่ 2 ให้คาลอส ฮิลเคเบี่ยน ไรก้า ฟราก้า นำกำลังไปคอยซุ่มอยู่ด้านข้าง พอพวกมันบุกปะทะกับทัพแรกแล้ว ให้ทัพ 2 จู่โจมจากด้านข้างทันทีอย่าให้พวกมันตั้งตัวติด ส่วนทัพที่ 3 ให้ ฟรอสซ์ แอลฟาเรีย ริวโก เซเรส ไรอา คอยคุ้มกันที่มั่นของเราให้ดี ส่วนอลิซาเบธกับเอลด้าคอยซุ่มโจมตีจากด้านหลังหากเห็นใครพลาดพลั้ง ทหารจากฟีลีเซียทุกคนจะแยกกันไปอยู่กับทัพต่าง ๆ เท่า ๆ กัน มีใครสงสัยอะไรมั้ย" ซิกมันต์ถามเพื่อความมั่นใจ
"ข้าสงสัยท่านซิกมันต์" ฟรอสซ์ถาม
"ฟรอสซ์เจ้ามีอะไรพูดมา"
"ข้าสงสัยว่าทำไมข้าต้องอยู่คอยรักษาที่มั่นด้วย ข้าต้องการออกรบ"
"เพราะว่า เจ้าถนัดการต่อสู้แบบประชิดตัวโดยใช้มือเปล่า หากแต่ข้าศึกนั้นใช้อาวุธและที่สำคัญหากไม่มีใครปกป้องที่มั่นแล้ว องค์หญิงกับเกอกอรี่จะสวดมนต์ได้อย่างไร" ซิกมันต์ให้เหตุผล
"แต่ว่าข้า..."
"ฟรอสซ์! ไม่เอาน่าทำตามนี้เถอะ" แอลฟาเรียเข้าปรามไว้
"ได้ ๆ ข้ายอมแล้ว"
"ดี! งั้นพวกเราเพื่อขจัดมารร้าย เพื่อเกียรติแห่งพวกเรา ฆ่ามันให้หมด"
โอ้ว......
หลังจากนั้นซิกมันต์และคนอื่น ๆ ต่างแยกกันตามแผนที่ได้วางเอาไว้ ทางองค์หญิงอลาน่า เกอกอรี่และซิสเตอร์ต่าง ๆ ก็เริ่มสวดมนต์ของพรจากพระผู้เป็นเจ้ากันแล้ว หากแต่ในใจขององค์หญิงอลาน่ายังคิดว่ามีความหวังอีกสิ่งหนึ่งนั่นก็คืออองเดร....
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านอองเดร ซึ่งขณะนี้ได้ถึงยอดเข้าที่สูงที่สุดในแอนดิซองค์แล้ว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะเรียกเทพมังกรได้ จึงได้แต่ตะโกนเรียกชื่อเท่านั้น...
"ท่านเทพมังกรมัลเทลลูม่า ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย ได้โปรดช่วยองค์หญิงของข้าด้วย ท่านเทพมังกร..." อองเดรตะโกนอยู่นาน หากแต่การปีนเขาที่ทั้งสูง ทั้งหนาวเย็น ทำให้แรงของอองเดรค่อย ๆ ลดลง แค่พยุงร่างไว้ก็แทบจะเต็มทนแล้ว ถึงกระนั้นอองเดรก็ยังคงตะโกนต่อไปทั้งที่ไม่มีวี่แววของเทพมังกรเลยแม้แต่น้อย.....
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านกิโยตินขณะนี้ได้นำทัพมาใกล้ที่พักขององค์หญิงอลาน่าแล้วก็ได้พบกับทัพแรกซึ่งนำโดยซิกมันต์นั่นเอง
"หึ ๆ ๆ พวกมดปลวก พวกเราฆ่ามัน..." กิโยตินตะโกนสั่งทหารทุกคนให้รบทันที เสียงแตรศึกได้ดังขึ้นแล้ว ส่วนทางซิกมันต์เองก็บุกเช่นกัน
"พวกเราเพื่อโลกของเรา ฆ่ามัน...." ซิกมันต์ประกาศโจมตี พร้อมเสียงโห่ร้องที่ดังกึกก้อง แม้จะมีกำลังมากกว่า แต่หากเทียบฝีมือกันแล้ว ทางซิกมันต์มีความสามารถมากกว่าอย่างไม่อาจเทียบกันได้.... ทันทีที่ทั้ง 2 ได้เข้าประจันบานกันนั้น ทัพที่ 2 ที่ซุ่มอยู่ก็ก็ได้บุกเข้าโจมตีเข้าที่กลางทัพใหญ่ของพวกปีศาจทันที
"พวกเราฆ่ามัน สู้จนกว่าตัวจะตาย...." ฟราก้าตะโกนสั่งโจมตีทันที
ฝ่ายกิโยตินที่คิดว่ามีแต่ทัพหน้า จึงโดยทัพที่ 2 โจมตีจากกึ่งกลาง เสียทหารไปมากทีเดียว
"หนอย! พวกมันเล่นสกปรกหรือนี่ แอบซุ่มอยู่หยั่งงั้นรึ" กิโยตินเจ็บใจที่ตกหลุ่มพลางของซิกมันต์
ขณะกองทัพของซิกมันต์ได้จู่โจมฆ่าทหารของกิโยตินไปมาก แต่ทหารที่ฆ่าไปนั้นเป็นเพียงแค่ทหารเลวเท่านั้น ซึ่งความน่ากลัวของทัพกิโยตินอยู่ที่อัศวินไนท์แมร์และซัคคิวบัส ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าทหารเลวมากนัก และตอนนี้ทั้ง 2 ก็ได้โจมตีกลับทำให้ทัพของซิกมันต์และฟราก้าเสียหายไม่น้อยทีเดียว
"ชิ! เจ้าพวกอัศวินไนท์แมร์มันใช้คำสาปฆ่าทหารของเราไปมากเลยนะพระองค์" ชารล์พูดกับซิกมันต์ด้วยความกังวล
"แต่ข้าว่านะชาล์ นอกจากกิโยตินและซาฟิโร่แล้ว มันต้องมีหัวหน้าของพวกไนท์แมร์กับซัคคิวบัสอีกแน่" ซิกมันต์พูด ไปสู้ไป
"ถ้าเป็นเช่นนั้นให้เป็นหน้าที่ของกระหม่อมเองพระองค์" พูดจบชาร์ลก็เพิ่มความเร็วจู่โจมเข้ากลุ่มอัศวินไนท์แมร์เพื่อหาหัวหน้ากลุ่ม
ชารล์สบัดดาบคู่ใจอย่างรวดเร็วราวกับแสงที่พุ่งผ่านก้อนเมฆ ที่ใดที่แสงนี้ผ่านจะมีศพนอนอยู่ข้างหลังตลอดทาง ทางฟราก้าเองซึ่งมีศักดิ์เป็นถึงแม่ทัพเช่นชาร์ล ก็ไม่น้อยหน้าจัดการศัตรู 10 คน ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ซึ่งทุกครั้งที่ฟราก้าโจมตีจะมีไรก้าและฮิลเคเบี่ยนค่อยระวังหลังให้เสมอ ส่วนแฮริสันใช้การโจมตีคู่กับเรจิน่า ทำให้ศัตรูเริ่มแตกพ่ายไป
เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง พวกซิกมันต์เริ่มจนมุมแล้ว เพราะทหารเลวกว่า 5 หมื่นได้ตายจนหมดสิ้น ซึ่งตอนนี้เหลือแต่เพียงเหล่าอัศวินไนท์แมร์ ซัคคิวบัส กิโยตินและซาฟิโร่เท่านั้น ขณะนี้ทัพแรกของซิกมันต์และทัพที่ 2 ของ ฮิลเคเบี่ยนได้มารวมตัวกันแล้ว
"ท่านซิกมันต์คราวนี้จะเอาไงดีล่ะ เหลือแต่พวกปีศาจแล้ว ยังเหลือเวลาอีกตั้ 2 ชั่วโมงกว่าฟ้าจะสาง" แฮริสันถาม
"ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะจัดการกับคำสาปของพวกมันยังไงดี" ซิกมันต์กล่าวอย่างกังวลอย่างมาก
"ให้ข้า 2 คน จัดการเองท่านแฮริสัน" ฮิลเคเบี่ยนและคาลอส อาสารับหน้าที่นี้
"ท่านทั้ง 2 จะไหวเหรอ 2 ต่อครึ่งแสนนะท่าน" ซิกมันต์พูด
"ข้า 2 คนเท่านั้นที่มีอาวุธเทพ" ฮิลเคเบี่ยนพูด
"ไงซะพวกข้าไม่ยอมตายง่ายหลอก" คาลอสพูด
"งั้นข้าจะช่วยพวกท่านเอง" ชาร์ลแทรกขึ้น
"แต่ท่านจะโดนคำสาปนะ" คาลอสพูด
"ไม่เป็นไรข้ามีเครื่องลาง ของท่านเกอกอรี่คำสาปทำอะไรข้าไม่ได้หลอก"
"นี่พวกเจ้าปรึกษากันเสร็จหรือยัง มาสู้กันดีกว่าน่า" พวกปีศาจท้าทาย
"คราวนี้พวกแกไม่รอดแน่เจ้าพวกปีศาจ ย้ากกกก...." คาลอสกระโดดขึ้นชูปลายดาบขึ้นฟ้า ทันใดนั้น สายฟ้าได้ฟาดลงมาที่ดาบของคาลอส แล้วพาดลงมากลางกองทัพของพวกอัศวินกับซัคคิวบัส พวกที่หลบทันก็รอดตายส่วนพวกที่หลบไม่ทันร่างกายก็สลายไป...
"หึ ๆ ๆ เป็นไงล่ะพวกแก" คาลอสเย้ย
"หนอย! นึกไม่ถึงว่าพลังมันจะมหาศาลถึงเพียงนี้" กิโยตินหลบได้อย่างหวุดหวิด
"คราวนี้ข้าบ้างจะน้อยหน้าท่านไม่ได้แล้ว ย้าก....." ฮิลเคเบี่ยน รวมพลังไว้ที่ดาบคู่ จากนั้นปักดาบทั้ง 2 ลงพื้น ทำให้เกิดรอยแยกตรงไปยังทัพไนท์แมร์ จากนั้นพลังมหาศาลได้พุ่งขึ้นมาฆ่าอัศวินไนท์แมร์เป็นจำนวนมาก เมื่ออัศวินไนท์แมร์ได้ถูกทำลายคำสาปในตัวก็ปรากฏเป็นรูปหัวกระโหลกพุ่งเข้าหาฮิลเคเบี่ยนและคาลอสทันที แต่ทั้งใช้ดาบที่มีพลังของเทพทำลายคำสาปไปได้...
"ฝีมือท่านทั้ง 2 ยอดเยี่ยมมาก คราวนี้ขอข้าแสดงฝีมือบ้าง" ชาร์ลตั้งดาบระดับใบหน้าพร้อมลุยทันที...
"ย้าก......." ชาร์ลซึ่งไม่มีพลังของอาวุธเทพ จึงพุ่งเข้าหาอัศวินไนท์แมร์อย่างไม่คิดชีวิต
(to be continue)

ขอโทษนะคะไม่ได้เข้ามานานมากเพราะคอมที่บ้านเล่นเน็ตไม่ได้ต้องยืมคอมร.ร.เอา(ซึ่งกว่าจะได้เล่นก็ไม่บ่อยนักหรอกค่ะ)ต่อๆ

ฉึก! ดาบของชาลส์ปักลงตรงกลางร่างอัศวินไนท์แมร์ ถึงกับทำให้อัศวินไนท์แมร์นั้นกระอักเลือด พร้อมกับฮิลเคเบี่ยนชูนิ้วโป้งให้
"เก่งเหมือนกันหนิ ท่านแม่ทัพ"ฮิลเคเบี่ยนตะโกน
"ไม่เท่าไหร่หรอก"ชาลส์ตะโกนกลับ แล้วจึงกลับไปฟันคอของอัศวินไนท์แมร์ต่อ

อ้ายยยยยยต่อให้หน่อยนะ อาจารย์มาแล้ววววววววววววววววววววว

ต่อ ๆ
ถึงแม้ทั้ง 3 จะมีฝีมือเหนือกว่าอัศวินไนท์แมร์ทุกตัว แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ตอนนี้ทั้ง 3 เริ่มเพลี่ยงพล้ำให้กับอัศวินไนท์แมร์แล้ว คาลอสและฮิลเคเบี่ยนพลาดท่าถูกคำสาปแต่ไม่ถึงกับตายเพราะมีดาบสายฟ้าคอยระงับพิษของคำสาปไว้ ส่วนชาร์ลถึงแม้จะไม่ถูกคำสาปเพราะเครื่องลางของเกอกอรี่แต่ก็มีบาดแผลทั่วร่าง ทำให้ไม่รวดเร็วเหมือนเดิมแล้ว
"หึ ๆ ๆ สุดท้ายพวกแกก็ต้องตาย ฮ่า ๆ ๆ ๆ " หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์บัดนี้ได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว
"คราวนี้ข้าจะเริ่มจากใครก่อนดีนะ อืม...."
"ท่านหัวหน้าข้าว่าเลือกแม่ทัพแห่งฟีลีเซียก่อนดีกว่านะท่านเพราะคำสาปของพวกเราทำอะไรมันไม่ได้เลย" อัศวินไนท์แมร์ตนหนึ่งเสนอ
"ดี! งั้นข้าจะสังหารเจ้าก่อนก็แล้วกันท่านแม่ทัพแห่งฟีลีเซีย"
ทันทีที่หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์เงื้อดาบจะสังหารชาร์ลนั่นเอง ได้มีแสงจากท้องฟ้าส่องลงมาที่หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์
"โอ้ย...นั่นแสงอะไรน่ะ" หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์รู้สึกไม่ชอบใจกับแสงนี้เลย
"พวกปีศาจจงหายไปซะ" มีคลื่นพลังขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากลำแสงนั้น คลื่นพลังนั้นพุ่งเข้าหากองทัพไนท์แมร์ทันที
"พวกเราหลบเร็ว" หัวหน้าอัศวินไนท์แมร์ตะโกนบอกลูกน้องทันที แต่ไม่ทันซะแล้ว คลื่นพลังนั้นได้ทำลายกองทัพไนท์แมร์เกือบทั้งหมด
ตูม!....
"ใครมาช่วยพวกเรา..." ชาร์ลซึ่งตอนนี้แทบจะหมดสภาพที่จะสู้ ได้แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและได้พบกับนางอัปสรทั้ง 9
"โอ้....สวรรค์ส่งนางฟ้ามาช่วยพวกเราแล้ว" ชาร์ลพูด
"พวกเราช่วยกันขจัดมารร้าย" นางฟ้าเวธิดาพี่ใหญ่ของกลุ่มนางฟ้าสั่งการแล้วพวกน้อง ๆ โจมตีพวกปีศาจทันที
"พวกปีศาจจงสลายไปซะ ไปเลยเหล่าอสูรพิทักษ์ของข้า" นางฟ้าอัปสรทั้ง 9 สั่งอสูรพิทักษ์ของตนโจมตีพวกปีศาจทันที
ช้างสารที่ทรงพลังพุ่งเข้าโจมตีอัศวินไนท์แมร์ทันที งวงอันทรงพลังฟาดไปแต่ละครั้งทำเอาเหล่าอัศวินไนท์แมร์กระเด็นไปคนละทิศละทาง พวกที่หลบไม่ทันก็ถูกเหยียบร่างแตกสลายไป คำสาปที่ปรากฏขึ้นเมื่ออัศวินไนท์แมร์ตายไปไม่สามารถทำอะไรอสูรพิทักษ์ได้เลยแม้แต่น้อย ทางด้านผึ้งและผีเสื้อถึงแม้จะมีรูปร่างที่เล็ก แต่ก็มีความเร็วบินผ่านหน้าอัศวินไนท์แมร์ไปมา ทำให้เหล่าอัศวินเกิดความรำคาญ ต่างไล่ฟันเป็นการใหญ่ จนติดกับของแมลงทั้ง 2 ทำให้การโจมตีพลาดเป้าไปโจมตีกันเอง สร้างความวุ่นวายให้เหล่าอัศวินไนท์แมร์เป็นอันมาก ทางด้านนกอินทรย์และปลาไม่ใช่หน่วยโจมตี แต่เป็นหน่วยสนับสนุน ได้ใช้พลังทำให้พวกซัคคิวบัส มีการเคลื่อนไหวที่ช้าลงมาก ทั้งร่างกายยังรู้สึกหนักขึ้นทำให้สูญเสียพลังไปอย่างเปล่าประโยชน์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับ อติโลหิตะ วิมานะ ( เครื่องบินรบคล้ายเรื่อง Beat-X) ใช้การโจมตีจากทางอากาศทำลายทัพซัคคิวบัสไปกว่าครึ่งแล้ว ทางด้านแกะจะจู่โจมพร้อมกับนางฟ้าดาราวดี โดยนางฟ้าจะร่ายเวทมนต์ทำให้พวกปีศาจถูกคำสาป และแกะก็จะทำหน้าที่ส่งพวกปีศาจไปยังอีกมิติหนึ่งทันที ทางด้านหัวหน้าอัศวินไนท์แมร์และหัวหน้าของซัคคิวบัส ต่างหลบการโจมตีของอสูรพิทักษ์อย่างจ้าละหวั่นทำให้พลาดท่าถูกยักษ์ของนางฟ้านันทาเทวีจัดกิน ทางด้านซาฟิโร่เห็นท่าทางไม่ดีที่กองทัพนับแสนต้องมาพินาจจึงรีบหนีเอาตัวรอดทันที
"หนอยเจ้าซาฟิโร่จะไปไหน..." กิโยตินเห็นซาฟิโร่คิดหนีจึงโจมตีใส่ซาฟิโร่ แต่จังหวะที่จะโจมตีนั้นอลิซาเบธฉวยโอกาสลั่นไกใส่กิโยตินทันที กระสุนพุ่งทะลุหัวของกิโยตินทันที ทำให้การโจมตีของกิโยตินชะงักไป การโจมตีนี้หาได้ทำให้กิโยตินบาดเจ็บไม่ แต่มันทำให้กิโยตินโกรธอย่างมาก กิโยตินได้ระเบิดพลังทั้งหมดออกมา พลังความชั่วร้ายแผ่กระจายอยู่รอบตัวกิโยติน พลังนี้ทำให้กิโยตินมีพลังเพิ่มมากขึ้น กิโยตินพุ่งเข้าจู่โจมเหล่าอสูรพิทักษ์ทันที เริ่มจากจัดการไล่ตั้งแต่ตัวใหญ่ยันตัวเล็ก ซึ่งอสูรพิทักษ์ไม่มีตนไหนจะรับมือกับกิโยตินในตอนนี้ได้ ต่างพ่ายแพ้แก่กิโยตินทั้งหมด..
"หนอยไอ้ปีศาจบังอาจทำร้ายอสูรพิทักษ์ของข้า" นางจันทราเทวีพุ่งเข้าจู่โจมกิโยตินทันที
"หึ ๆ ๆ เจ้านางฟ้าโง่คิดหรือว่าเจ้าคนเดียวจะทำอะไรข้าได้" กิโยตินร่ายมนต์ดำโจมตีใส่จันทราเทวีเต็ม ๆ ทำเอาจันทราเทวีกระเด็นไปไกลทีเดียว
"หนอยไอ้ปีศาจ..." บัดนี้นางฟ้าจันทราเทวีไม่สามารถจะต่อสู้ได้อีกแล้ว เมื่อนางฟ้าที่เหลือเห็นดังนั้นจึงรวมพลังกันโจมตีใส่กิโยตินทันที
"ไอ้ปีศาจบังอาจทำร้ายน้องข้าจงตายซะเถอะ พลัง 8 นางฟ้า โจมตี" คลื่นพลังพุ่งเข้าใส่กิโยตินทันที หากแต่กิโยตินร่ายมนต์ดำสร้างโลห์แห่งความมืดสะท้อนการโจมตีกลับไปถูก 8 นางฟ้าบาดเจ็บอย่างมาก กิโยตินในตอนนี้มิได้ตั้งใจจะโจมตีนางอัปสรทั้ง 9 ไม่ แต่เป้าหมายอยู่ที่อลิซาเบธ ที่ทำให้หัวของกิโยตินเป็นแผล
"แก! นังมนุษย์โง่ แกบังอาจทำให้หัวของท่านกิโยตินผู้นี้บาดเจ็บ แกต้องตาย" กิโยตินย่าง 3 ขุม เข้าหาอลิซาเบธทันที....
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านซาฟิโร่ที่ทุกคนคิดว่าหนีไปแล้วกลับอ้อมมาซุ่มโจมตีองค์หญิงอลาน่าในที่พัก ซึ่งกำลังสวดมนต์อยู่นั่นเอง....
"คราวนี้ท่านไม่รอดแน่องค์หญิงอลาน่า" ซาฟิโร่เล็งเป้าไปที่องค์หญิงอลาน่าซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกซาฟิโร่จ้องทำร้ายอยู่
"ตายซะเถอะ..."
พิ้ว! ลูกกระสุนที่ถูกเก็บเสียงแล้วพุ่งเข้าหาองค์หญิงอลาน่าทันที ขณะที่ลูกปืนจะถูกองค์หญิงลูกปืนได้แปรเปลี่ยนเป็นดอกไม้หลอนอยู่ข้าง ๆ กายขององค์หญิง มิลินอันโด้ กับ แกดเดส อัศวินแห่งสวรรค์ที่ได้รับบัญชาให้คุ้มครององค์หญิงอลาน่าได้เปลี่ยนลูกกระสุนให้กลายเป็นดอกไม้
ปรากฏการณ์นี้ทำเอาซาฟิโร่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จึงหันลำกล้องไปที่องค์หญิงอลาน่าอีกครั้ง
"ดูซิคราวนี้จะมีปาฎิหารย์อีกมั้ย"
พิ้ว! ลูกกระสุนพุ่งเข้าหาองค์หญิงอลาน่าอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกกระสุนได้แปรเปลี่ยนเป็นดอกไม้อีกครั้ง
"นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย คราวนี้เจอกระสุนปีศาจหน่อยดูซิคราวนี้จะรอดอีกมั้ย"
ทันใดนั้นเองฟรอสซ์ซึ่งออกตรวจรอบ ๆ ได้พบซาฟิโร่เข้าพอดี จึงค่อย ๆ แอบเข้าไปหาซาฟิโร่ เพราะเกรงเสียงที่ดังจะรบกวนการสวดมนต์ขององค์หญิง ซาฟิโร่ที่กำลังบรรจุกระสุนอยู่ไม่คาดคิดว่าจะมีใครมาเห็นจึงไม่ทันระวัง ฟรอสซ์อาศัยจังหวะพุ่งเข้าล๊อกซาฟิโร่จากข้างหลังเอามือปิดปากและลากซาฟิโร่ไปในที่ลับตาคน แต่เผอิญแอลฟาเรียเห็นเข้าจึงแอบตามฟรอสซ์ไป
ตุบ! ฟรอสซ์เหวี่ยงซาฟิโร่กระเด็นไป
"คราวที่แล้วแกทำกับไรอาไว้คราวนี้ข้าจะแก้แค้นแทนไรอาเอง" ฟรอสซ์ตั้งท่าพร้อมจู่โจมทันที
"เชอะ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเข้ามาเล..." ซาฟิโร่ยังพูดไม่ทันจบ ฟรอสซ์พุ่งเข้าไปชกหน้าซาฟิโร่อย่างรวดเร็ว ซาฟิโร่ถึงกับหน้าหันกลิ้งไม่เป็นท่า
"หนอยไอ้เด็กเวร"  ซาฟิโร่รีบลุกขึ้นทันที
พลัก!
"โอ้ก...." ฟรอสซ์ไม่ปลอยให้ซาฟิโร่ได้ตั้งตัวเตะเข้าที่ลำตัว ซาฟิโร่ถึงกับตัวงอเลยทีเดียว
"โ...อ้ย...กะ แก..."
ตูม! ฟรอสซ์อัปเปอร์คัตเข้าปลายคางอย่างจัง ซาฟิโร่ถึงกับตัวลอยขึ้นสูงทีเดียว
ตุบ!
"โอ้..โอ้ย..แก...คราวนะ..นี้..."
ผั่ว! ๆ ๆ ฟรอสซ์ไม่พูดพล่ำทำเพลงจู่โจมซาฟิโร่อย่างต่อเนื่องแบบไม่เปิดโอกาสให้ซาฟิโร่ได้ตั้งตัวเลย
พลัก! ๆ ๆ ๆ
"แก ๆ ๆ ตายซะเถอะ...." ฟรอสซ์กระหน่ำทุกกระบวนท่าที่เคยได้ร่ำเรียนมาทั้งหมดโจมตีเข้า0ใส่ซาฟิโร่ จนตอนนี้เปรียบเสมือนกระสอบทรายให้ฟรอสซ์ซ้อมก็ไม่ปาน..
ผัว ๆ
"โอ๊ะ ๆ "
พลัก ๆ ๆ
"อั่ว ๆ ๆ "
"จบสิ้นซะทีไอ้สาระเลว ย้าก....."
ตูม!.....ฟรอสซ์ชกเข้าที่ศีรษะซาฟิโร่เต็ม ๆ ถึงกับกระโหลกร้าวกระเด็นไปกระแทกหินก้อนใหญ่อย่างแรง
"โอ้กก....." สภาพซาฟิโร่ตอนนี้กระดูกทั่วร่างแทบจะแหลกละเอียดหมดแล้ว เลือดออกเป็นจำนวนมาก ซ้ำยังกระอักเลือดกองโตอีก...
"เชิญเจ้านอนรอความตายอยู่ตรงนั้นแหล่ะ.." ฟรอสซ์หันหลังเดินกลับไปยังที่พักทันที
จังหวะที่ฟรอสซ์หันหลังเดินไปนั้น ซาฟิโร่ใช้แรงฮึดสุดท้ายก่อนจะหมดลมใช้ปืนที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อยิ่งใส่ฟรอสซ์ทันที
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ในที่สุดข้าก็เป็นผู้ชนะฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ"
ปัง!
เมื่อสิ้นเสียงปืนชีวิตของซาฟิโร่ก็ดับลง พร้อมกับลูกกระสุนที่กำลังพุ่งเข้าหาฟรอสซ์ ซึ่งหันมาไม่อาจปัดป้องอะไรได้เลย....
(to be continue)

โหเฮะ กิโยตินโหดกว่าเดิม(ถ้าเป็นตนอื่นจะขนาดไหนนี่)

 ต่อซักหน่อย

แต่กระสุนหาได้ถูกฟรอสไม่ ในจังหวะนั้นแอลฟาเรียเห็นเข้าจึงกระโดดพุ่งเข้ามาผลักฟรอสให้พ้นวิถีกระสุนทำให้ฟรอสปลอดภัย แต่แอลฟาเรียกลับโดนกระสุนเข้าที่แขนได้รับบาดเจ็บ ฟรอสจึงเข้ามาดูอาการ
"แอลฟาเรีย เธอไม่เป็นไรใช่ไม๊"ฟรอสถามแอลฟาเรียด้วยความเป็นห่วง
"แค่โดนที่แขนเท่านั้นเองอย่าคิดมาก"แอลฟาเรียพูดเพื่อไม่ให้ฟรอสเป็นห่วงเธอมากกว่านี้
"แต่กระสุนฝังใน ฉันจะพาเธอไปหาหมอนาธาร"ฟรอสพูดจบก็อุ้มเธอไปหาหมอนาธาร
ซักพักหนึ่ง
"ตอนนี้เอากระสุนออกแล้วล่ะ เธอไม่เป็นไรแล้ว"หมอนาธารสรุปอาการของแอลฟาเรีย
"ไชโย"พอสิ้นเสียงฟรอสก็เข้าไปกอดแอลฟาเรียทันทีโดยไม่สนสายตาของไรอากับเฟรที่เข้ามาดูอาการด้วย
"ฟรอสไม่เอาน่า นี่ต่อหน้าคนนะ"แอลฟาเรียพูดอย่างอาย ๆ
"คู่รักก็แบบนี้หละ ไม่ว่าอะไรก็กอดกันตลอดเลย"ไรอาพูดหยอกทั้ง 2
แต่ทางด้านเฟรเมื่อได้เห็นภาพนี้เธอกลับวิ่งออกจากกระโจมพยาบาลทำให้ไรอาต้องตามเธอไป ส่วนฟรอสเองก็ให้แอลฟาเรียพักผ่อนที่นี่โดยมีหมอนาธารคอยดูแล
ไรอาวิ่งตามเฟรอย่างไม่ลดละจนกระทั่ง
"จับได้ละ"ไรอาจับตัวเฟรได้แต่เธอเองสลัดตัวไรอาให้พ้นแต่ไรอาจับแน่นมากจนเฟรอ่อนแรงยอมแพ้แล้วไรอาถามถึงสาเหตุที่เฟรหนี

To be conclude

คิดอีกซักตัวละกัน

Harman,the Annedisonge Demon Slayer
Lv.2 Mp3/1 water Knight
At 8
Df 7
Sp 4
+[water] Kunitsuna At 11 Mp 2
+[water][water] Gram At 12 Mp 3
เมื่อ Harman โจมตีสำเร็จ เราสามารถเลือกเป้าหมายที่เป็น Evil ได้
Harman ต่อสู้กับ [dark] Evil Harman At +3

Tower Of Andisong  lv 2
3/1       แมชชีน

At 0
Df0
Sp0

Sealที่มีเป้าหมายการโจมตีมาที่ Tower Of Andisong ติด Freeze Curse 1 Subturn
ไม่สามารถสั่ง Tower of andisong โจมตีได้
Tower Of andisong แยกเลิก มีสติก การ์ด
•seal 1 ที่มี Sp 4 ติด Freeze Curse 1 Subturn (Mp3)
เจอตัวแคนเซิล Ablity ตบก็เด้งแล้วล่ะ ไม่ต้องกัว เหอ ๆ ๆ

ต่อ ๆ นะ (นี่พิมพ์รอบ 2 นะเนี่ยรอบแรกพิมพ์เสร็จแล้วเครื่องมันดับเฉยเลยอยากจะร้องไห้...Y_Y)

"นี่เฟร เจ้าวิ่งออกมาทำไมบอกข้ามานะ" ไรอาถาม
"ข้าจะวิ่งออกมามันก็เรื่องของข้าท่านไม่เกี่ยวปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ"เฟรพยายามสบับมือที่ไรอาจับให้หลุด
"ได้ ๆ ๆ ข้าปล่อยเจ้าแต่เจ้าต้องบอกเหตุผลที่เจ้าวิ่งออกมาให้ข้าฟังล่ะ" ไรอาปล่อยเฟรทันที
"ที่ข้าวิ่งออกมาก็เพราะ...." ยังไม่ทันที่เฟรจะพูดจบเสียงระเบิดก็ดังขึ้น
ตูม!
"นั่นเสียงอะไรน่ะ" เฟรพูดขึ้น
"เสียงมาจากสนามรบ แย่แล้ว เฟรเจ้ารีบหลบเข้าไปข้างในก่อนนะข้าจะไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ไรอารีบวิ่งไปที่สนามรบทันที
ภาพที่ไรอาได้พบคือทุกคนล้วนบาดเจ็บและถูกคำสาปของกิโยติน
"เฮ้ย ๆ ๆ แย่แล้ว ๆ ทำไงดีฟ่ะ ขืนเราออกไปก็ทำอะไรไม่ได้ทำไงดี ๆ "
"เฮ้ย! นึกออกแล้วไอ้หมอโรคจิต.." ไรอารีบกลับไปยังที่พักทันที
"คุณหมอนาธาร ๆ " ไรอารีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
"เป็นอะไรไรอาเกิดอะไรขึ้น" หมอถามอย่างตระหนก
"พวกองค์หญิงเรจิน่าแย่แล้ว หมออย่างพึ่งถามเลย หมอเห็นไอ้หุ่นกระป๋องที่แต่งตัวเหมือนหมอบ้างมั้ย"
"เมื่อกี้ข้ายังเห็นมันเดินไปเดินมาอยู่แถวนี้เลยนะ"
ไซโครด๊อกเตอร์ได้ยินเข้าตกใจมาก จึงรีบหาที่ซ่อนทันที
"ตายแล้วฉัน ไม่น่าเกิดมาเป็นหมอเล้ย...อ๊ะ! เจอแล้วที่ซ้อน" ไซโครด๊อกเตอร์มุดเข้าไปใต้เตียงของแอลฟาเรีย แต่ดันคลานไปถูกขาของฟรอสซ์เข้า
"เอ๊ะ อะไรมันอยู่ใต้เตียง" ฟรอสซ์เปิดผ้าขึ้นก็เจอสิ่งที่ไรอาต้องการหา
"อะไรเหรอฟรอสซ์....เฮ้ย นี่แกไม่ต้องหลบเลยออกมากับข้าเดี๋ยวนี้" ไรอาเรียกไซโครด๊อกเตอร์ทันที
"แฮ่ะ ๆ ๆ มีอะไรให้ข้ารับใช้เหรอท่านไรอา" ไซโครฯ ยิ้มและโบกมือให้ไรอา
"แกมานี่เลย...ฟรอสซ์เจ้ามากับข้าด้วยเร็วเข้า" ไรอารีบจับตัวไซโครฯ และวิ่งออกไปทันที
"ได้ไรอา...แอลฟาเรียเดี๋ยวข้ากลับมานะ" ฟรอสซ์รีบตามไรอาออกไปทันที
"ระวังตัวด้วยนะฟรอสซ์"
ทางด้านสนามรบ
"ฮ่า ๆ ๆ พวกแกมันก็แค่มดปลวก บังอาจทำให้ท่านกิโยตินผู้นี้โกรธต้องเจอแบบนี้" กิโยตินตั้งท่าโจมตีใส่อลิซาเบธทันที
"แกตายซะเถอะนังมนุษย์หน้าโง่..."
"แกนั่นแหล่ะที่จะตายก่อน ฟรอสซ์คิก!..." ทันใดนั้นฟรอสซ์กระโดดพุ่งเข้ามาเตะที่หน้าของกิโยตินเต็ม ๆ กิโยตินที่ไม่ทันระวังได้เสียหลักไปเล็กน้อย
"หนอย! ไอ้แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ งั้นเริ่มละเลงเลือดจากแกก่อนเลยแล้วกัน" กิโยตินปล่อยพลังเวทใส่ฟรอสซ์ทันที
ตูม! ฟรอสย์หลบได้อย่างไม่อยากนัก
"เฮ้ย ๆ ดูเหมือนว่าแกจะเอาชนะได้เฉพาะคนที่อ่อนล้าเท่านั้นล่ะมั้ง" ฟรอสซ์ไม่ได้ร่วมรบตั้งแต่แรกทำให้มีพลังกำลังและความเร็วสมบูรณ์ จึงสามารถหลบการโจมตีของกิโยตินได้อย่างง่ายดาย
"เฮ่อะ...ดูซิว่าแกจะหลบไปได้ซักกี่น้ำ..." กิโยตินระดมใช้เวทมนต์โจมตีใส่ฟรอสซ์อย่างต่อเนื่อง
ตูม! ๆ ๆ ๆ ๆ
"ฮ่า ๆ ๆ มีเท่าไหร่ใส่มาให้หมดเลย แค่เนี่ยไม่เท่าไหร่หลอก.." ฟรอสซ์หลบการโจมตีอย่างคล่องแคล่ว
"หนอย...แกลองเจอนี่เป็นไง..."
ระหว่างที่กิโยตินกำลังต่อสู้อยู่กับฟรอสซ์ ไรอาได้แอบเข้ามารักษาอาการบาดเจ็บและคำสาปให้กับพวกองค์หญิงเรจิน่าทันที
"นี่รีบ ๆ รักษาเข้าหน่อยซิเดี๋ยวมันก็เห็นเข้าหลอก" ไรอาเร่งไซโครฯ
"นี่จะมาโทษข้าไม่ได้นะ ต้องไปโทษไอ้คนที่มันสร้างข้าโน่น ทำไมไม่สร้าให้ข้ามีซัก 10 มือเลยละแหม...." ไซโครด๊อกเตอร์ประชดใส่ไรอา
"เอาเถอะน่า รีบ ๆ เข้าเถอะ"
"ถ้าแกว่างมากนักนะก็เอายานี่ไปให้พวกนางฟ้าที่อยู่ทางโน้นไป๊.."
"ได้ ๆ " ไรอารีบนำยาไปให้นางอัปสรทั้ง 9 ทันที
ระหว่างนั้นฟรอสซ์เริ่มจะหลบการโจมตีของกิโยตินไม่พ้นแล้ว เพราะกิโยตินโจมตีรวดเร็วขึ้นและถี่ขึ้น
"ฮ่า ๆ ๆ คราวนี้แกไม่รอดแน่.." กิโยตินกระหน่ำโจมตีอย่างหนัก
"หนอยไอ้ปีศาจโสโครก.."
ตูม!
"อ้าก.." ฟรอสซ์ถูกการโจมตีเข้าไปเต็ม ๆ ถึงกับกระเด็น
"โอ..โอ้ย..."
"เป็นไงท่าทีอวดดีเมื่อกี้หายไปไหนซะแล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ "
"หึ ๆ ๆ ถึงข้าจะบาดเจ็บ แต่งานของข้าก็สำเร็จแล้วดูนั่นซิ พรรคพวกของข้าหายดีกับหมดแล้ว"
"อะไรนะ...หนอยที่แท้แกก็แค่ถ่วงเวลางั้นรึ" กิโยตินโกรธมาก
"พึ่งจะรู้ตัวเอาป่านนี้หรือไอ้ปีศาจโง่....แล้วที่สำคัญกว่านั้นนะ แกลองดูบนหัวแกซิ..."
"ฮึ่ อะไร...โอ๊ะแย่แล้ว ท้องฟ้าพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว"
"ฮ่า ๆ ๆ คราวนี้เป็นที่ของพวกเราบ้างล่ะ" ฟรอสซ์เย้ย
"ข้าไม่มีวันให้อาวุธเทพของพวกแกสมบูรณ์หลอก...โอม! ด้วยอำนาจแห่งองค์จักรพรรดิ์ จงดลบันดาร ท้องฟ้าจงมืดสนิท..."
ทันใดนั้นท้องฟ้าที่กำลังจะสว่างขึ้น กลับเต็มไปด้วยกลุ่มเมฆดำจำนวนมาก
"ฮ่า ๆ ๆ คราวนี้พวกแกคงต้องรอพรุ่งนี้แล้ว เอ๊ะไม่ซิเพราะพวกแกจะไม่มีวันพรุ่งนี้แล้วฮ่า ๆ ๆ "
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง" นางอัปสรทั้ง 9 รวมพลังกัน
"ด้วยอำนาจทั้งข้าเมฆดำจงหายไป" นางฟ้าทั้ง 9 ร่ายมนต์ใส่กลุ่มเมฆดำนั้น หากแต่การกระทำนั้นไรผล
"เป็นไปได้ยังไง..." นางอัปสรแปลกใจมาก
"ฮ่า ๆ ๆ อำนาจแค่นั้นไม่อาจจะสลายกลุ่มเมฆนั้นได้หลอกพวกแกเตรียมตัวตายได้แล้ว" กิโยตินตั้งท่าโจมตีใส่พวกฟรอสซ์อีกครั้ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในขณะเดียวกันทางด้านองค์หญิงอลาน่าซึ่งกำลังสวดมนต์ภาวนาอยู่กับเกอกอรี่ ได้อธิฐานว่า...
"ข้าแต่เทพมังกรมัลเทลลูม่าได้โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถิด...ข้ารู้ว่าอองเดรไม่มีเชื้อสายของกษัตริย์ แต่ได้โปรดท่านกรุณาไปพบอองเดรซักครั้งด้วยเถิด.." คำอธิฐานขององค์หญิงส่งไปถึงเทพมังกร เทพมังกรจึงไปตัดสินใจไปหาอองเดร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านอองเดร ซึ่งเหนื่อยล้าจากการปีนเข้าทำให้สลบไปนาน เริ่มรู้สึกตัวขึ้นแล้ว
"นี่เราหมดสติไปหรือนี่ แย่แล้วต้องรีบหาวิธีเรียกเทพแล้ว" อองเดรพยายามพยุ่งร่างขึ้น
ขณะที่อองเดรยืนขึ้นอย่างสิ้นหวังแสงสว่างก็ได้ปรากฏขึ้น
"อะไรกันแสงนั่น.."
"เจ้ามนุษย์เอ๋ย ข้าได้รับการวิงวอนจากผู้หญิงคนหนึ่งให้มาพบกันเจ้า ข้ารู้ถึงสิ่งที่เจ้าต้องการ"  ปีกขนาดใหญ่ขนาดปกคลุ่มภูเขาได้ทั้งลูก ร่างกายอันใหญ่โตและทรงพลังบัดนี้เทพมังกรมัลเทลลูม่าปรากฏกายขึ้นต่อหน้าอองเดรแล้ว
"โอ้...เทพมังกร...แสดงว่าท่านจะช่วยข้างั้นรึ" อองเดรถาม
"ข้าไม่สามารถให้เจ้าซึ่งไม่มีเชื้อสายของกษัตริย์มาควบคุมข้าได้"
"แต่ข้าก็เป็นกษัตริย์แห่งแอนดิซองค์.."
"งั้นเจ้าลองตอบข้ามาซิว่า ทำไมเจ้าจึงมาเป็นกษัตริย์ และเจ้าได้เป็นกษัตริย์โดยชอบธรรมหรือไม่.."
"ข้า ๆ .."
"เจ้าต้องการเป็นกษัตริย์ก็เพียงเพื่อต้องการช่วยองค์หญิงของเจ้าเท่านั้น หากแต่กษัตริย์คือผู้ที่พร้อมจะเสียสละตนเองเพื่อพวกประชาของตน ส่วนเจ้าต้องการทำเพื่อคน ๆ เดียว จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นกษัตริย์และไม่มีคุณสมบัติจะควบคุมข้า..."
อองเดรบัดนี้ได้ปลงแล้วว่าไม่ว่ายังไงตนเองก็ไม่สามารถที่จะควบคุมเทพไม่สามารถช่วยเหลือองค์หญิงได้ เมื่อเทพมังกรเห็นเช่นนั้นจึงตัดสินใจจากไป...
"เดี๋ยวก่อนท่าน..."
"เจ้ามีอะไรอีกรึ เจ้ามนุษย์"
"ในเมื่อข้าไม่สามารถจะช่วยเหลือองค์หญิงได้ ขอก็ข้าร้องท่านได้โปรดช่วยองค์หญิงของข้าด้วยเถิด.." อองเดรคุกเข่าขอร้อง
"เจ้าซึ่งมีความเห็นแก่ตัวคิดแต่จะช่วยองค์หญิงของเจ้า โดยไม่สนใจผู้อื่น คนเช่นเจ้าข้าไม่สนใจหลอก..."
"ได้...." อองเดรยืนขึ้นทันที
"แล้วถ้าขอแลกเปลี่ยนกับท่านล่ะ"
"เจ้าจะเอาอะไรมาแลกกับข้า.."
"ในเมื่อข้าไม่สามารถจะช่วยองค์หญิงได้ ชีวิตข้าก็ไม่มีความหมาย ท่านมาเอาชีวิตข้าไป แลกกับการที่ท่านช่วยองค์หญิง.."
"โฮ่..เจ้ากล้าจะสละชีวิตตัวเองรึ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นอองเดรเดินตรงไปที่หน้าผาทันที
"หากการตายของข้าจะช่วยองค์หญิงได้ข้าก็พร้อม องค์หญิงขอให้ท่านปลอดภัยเมื่อท่านคืนบัลลังก์แล้วขอให้ท่านช่วยชาวแอนดิซองค์ให้สงบสุขด้วยเถิด..."
ทันใดนั้นอองเดรกระโดดลงสู่หน้าผาอย่างไม่ลังเลใจ น้ำตาที่ไม่เคยไหลได้เอ่อล้นออกมามากมาย เทพมังกรได้เห็นดังนั้นจึงตัดสินใจช่วยเหลืออองเดรทันที
"เจ้ามนุษย์ข้าเข้าใจถึงจิตใจที่แท้จริงของเจ้าแล้ว ข้าจะยอมให้เจ้าควบคุมข้า แต่ผู้ที่ควบคุมข้าได้ต้องมีพลังเหนือข้าเท่านั้น ข้าจะพาเจ้าไปรับพลังเทพ เพื่อนเป็นนักรบแห่งสวรรค์"
"ขอบคุณมากท่านเทพมังกร.."
อองเดรบัดนี้ได้รับพลังจากสวรรค์ ได้กลายเป็นอัศวินเทพไปแล้ว
"เอาล่ะมัลเทลลูม่าเราไปช่วยองค์หญิงและชาวบ้านกัน" อัศวินเทพอองเดรรีบมุ่งหน้าไปยังสนามรบทันที
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขณะเดียวกันที่สนามรบ
"ฮ่า ๆ ๆ อำนาจแค่นั้นไม่อาจจะสลายกลุ่มเมฆนั้นได้หลอกพวกแกเตรียมตัวตายได้แล้ว" กิโยตินตั้งท่าโจมตีใส่พวกฟรอสซ์อีกครั้ง
"ตายซะเถอะ...."
ทันใดนั้นเองกลุ่มเมฆดำกำลังสลายไป และมีแสงสว่างเข้ามาแทนที่
"อะไรกัน...เป็นไปได้ยังไง กลุ่มเมฆกำลังสลายไป" กิโยตินตกใจมาก
"พวกเราดูนั่นซิมังกรยักษ์..." ไรอาชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า
"โอ้...องค์ราชา.....องค์ราชา.....กลับมาแล้ว" ฮิลเคเบี่ยนพูดขึ้น
"อะไรนะอองเดรงั้นรึ.." กิโยตินตกใจมาก
บัดนี้กลุ่มเมฆดำสลายไปหมดสิ้นแล้ว แสงแรกแห่งรุ่งอรุณก็ทอแสงลงมาสัมผัสกับอาวุธเทพ เมื่ออาวุธเทพได้สัมผัสแสงแรกแห่งรุ่งอรุณก็เปล่งแสงออกมา
"หนอย...แกเจ้าอองเดร.." กิโยตินยิ่งโกรธแค้นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
"เฮ้ย...ไอ้กิโยตินคราวนี้แก่ไม่รอดแน่...ตายซะเถอะไอ้ปีศาจ" อลิซาเบธอาศัยจังหวะที่กิโยตินไม่ทันระวังตัว จึงเล็งปืนคอสโมใส่กิโยตินและยิงทันที
ปัง! กระสุนศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะลุหัวของกิโยตินทันที
"อ้าก.....องค์จักรพรรดิ์....." กิโยตินร้องตะโกนเป็นครั้งสุดท้าย
ตูม! ร่างของกิโยตินได้สลายไปแล้ว สลายไปพร้อมกับความมืด รุ่งอรุณที่งดงามแสงแดดที่อบอุ่นทอแสงต้อนรับการกลับมาของอัศวินเทพอองเดร.... (to be continue)

Andre, the Knight of God
Mp 5/3    Light            Divine/Knight  Lv. 4

At 10
Df 12
Sp 5

(Water)                           Blade of Heaven                 At 12  Mp 3
(Annedisonge)                Loyal of Annedisonge          At 12  Mp 3
(Mantelluma)                   Real Power of Heaven        All 10  Mp 5

เมื่อ Andre, the God of Knight เข้ามาในสนามนำ Evil หรือ Dark 1 ใบออกจากเกมส์
เมื่อฝ่ายเราถูก Evil หรือ Dark โจมตีหรือใช้ Skill นำ Andre, the God of Knight เข้ามาในสนามจากมือ จากนั้นสั่ง Evil หรือ Dark ใบนั้นกลับเข้ากอง ((http:///images/sign_inf.gif)) Mp 5
Andre, the God of Knight Cancel Curse และ Cancel Skill Ability และMystic Card ฝ่ายตรงข้าม

ต่อเลยละ

หลังจากศึกแรกของกลุ่มเจ้าหญิงอลาน่าได้รับชัยชนะเนื่องจากเทพอัศวินอองเดรได้ลงมาช่วยได้ทันท่วงทีแต่ทหารและนักสู้ทุกคนก็บาดเจ็บพอๆกัน

ทางด้านค่ายของพวก4 จตุรมาร(ตอนนี้เหลือแค่ 3)เองก็รอผลการรบของกิโยติน แต่กับพบพวกทหารที่รอดชีวิตแค่ 1000 คน เท่านั้น

"เกิดอะไรขึ้นกับกิโยติน"มาย่าถามพวกที่รอดชีวิต
"กิโยติน ตายแล้ว ท่านซาฟิโร่ด้วย"ทหารที่รอดชีวิตบอกอย่างสิ้นหวัง
"บ้าชะมัด กิโยตินแพ้พวกมนุษย์โง่ ๆ ได้ยังไงกัน"แกรนซอนพูดแบบไม่สบอารมณ์ที่กิโยตินเสียท่าในการรบครั้งนี้
"โธ่ กิโยติน"มาย่าพูดปนน้ำตาที่เสียเพื่อนไป
"ไอ้พวกโง่ในฐานะที่พวกแกทำให้ท่านกิโยตินตาย จงไปลงนรกซะ"มาย่าแค้นมากถึงขนาดร่ายมนต์ขนาดยักษ์เหนือหัวพวกทหารที่เหลือรอดพวกทหารก็ร้องขอชีวิตต่อนางซึ่งตอนนี้นางไม่ฟังเสียงของทหารอีกแล้วแต่แกรนซอนทอนพลังของนางไว้ก่อน
"พวกมันยังมีประโยชน์สำหรับศึกครั้งต่อไป อย่าทำให้เสียของ"แกรนซอนห้ามนางเอาไว้แล้วมีเสียงหนึ่งมาจากด้านหลังของกระโจม
"พวกเราเสียกิโยตินไป แต่ใช่ว่าเราจะใจฝ่อหรอกนะ มาย่า"เรเวนนี่เองที่เป็นต้นเสียง
"ตอนนี้ข้าหายดีแล้ว ครั้งนี้ข้าจะคุมทัพต่อก็แล้วกัน"เรเวนเสนอตัวเองเข้าคุมทัพที่ 2
"แต่ตอนนี้อาวุธเทพพวกมันได้รับแสงแรกแล้วมันจะอันตรายต่อตัวนายเอง"แกรนซอนให้คำแนะนำแก่เรเวน
"เราว่านายน่าจะออกทัพอีก 7 วัน เพราะตอนนี้เราต้องสะสมกำลังพลให้มากกว่านี้"แกรนซอนให้คำแนะนำอีกครั้ง
"ได้ แค่7วันกับชัยชนะของท่านราชินี มันคุ้มค่าอยู่แล้ว"เรเวนพูดอย่างมั่นใจตัวเอง
"เรเวน เจ้าต้องนำหัวขององค์หญิงอลาน่าถวายแด่องค์ราชินีในวันเกิดของนาวอีก 2 วันด้วยนะ"มาย่าพูด
"ส่งจดหมายให้พวกมัน ว่าอีก 7 วัน ข้าเรเวนจะไปกุดหัวองค์หญิงอลาน่าแด่ราชินี"เรเวนพูดกับคนส่งสาสน์
"อาวุธเทพรึจะสู้กับอาวุธแห่งมารได้ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
ทางด้านกระโจมขององค์หญิงอลาน่าหลังจากอองเดรกลับมาจากหุบเขามังกรเทพ เป็นที่ดีใจแก่ทุกคนแต่ดูเหมือนจะดีใจอย่างมากคือองค์หญิงอลาน่าที่ได้พบกับอองเดรอีกครั้ง
"อองเดร"องค์หญิงอลาน่าเข้ามาหาอองเดรอย่างดีใจ
อองเดรเองได้พบกับนางจึงคำนับองค์หญิงอย่างเต็มภาคภูมิ
"ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้งท่าน อุ๊บ"ไรอาพูดแต่โดนฟรอสปิดปากไว้เพราะไม่ใช่ตอนนี้ ทำให้ทุกคนหัวเราะกันทุกคน
"ยินดีด้วยท่านอองเดรที่มาช่วยเราได้ทันท่วงที"ซิกมันต์กล่าวอย่างยินดี
"ที่ข้ามาช่วยพวกท่านได้นั้นถ้าข้าไม่มีองค์หญิงอลาน่าข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน"อองเดรกล่าว
ตกเย็นได้มีการฉลองการกลับมาของอองเดรแต่เซเรสไม่เข้าร่วมเพราะต้องการพบเทพมังกรแมนเทลลูม่า
"ท่านเทพมังกรข้าชื่อว่าเซเรสเป็นคนฝึกมังกรข้าต้องการพูดกับท่าน"เซเรสพูดจบเทพมังกรได้มาพบตามคำขอ
"เจ้ามีอะไรจะมาถามข้ารึ"เทพมังกรถาม
"ข้าได้ทราบว่าท่านเป็นเทพแห่งแอนดิซอง ข้าอยากให้ท่านได้แบ่งความรู้สักอย่าง"เซเรสขอความรู้จากเทพมังกร
"เจ้าต้องการอะไรจากข้าล่ะ"เทพมังกรถาม
"ข้าขอความรู้ในการจับกิเลน เพื่อเป็นมังกรศึกแก่พวกเรา"เซเรสขอสิ่งนี้
"ข้าให้เจ้าได้แต่เจ้าต้องนำความรู้นี้แก่คนที่ทำดีและช่วยเหลือเพื่อนในทางที่ดีเจ้าสัญญากับข้าได้ไหม"เทพมังกรให้คำขอนี้
"ข้าสัญญา"เซเรสสัญญาแก่เทพมังกร
ในขณะนั้นเองได้มีแสงสว่างบางอย่างรอบๆตัวเซเรสเท่ากับว่าเขาได้ความรู้นั่นแล้ว

To be Conclude

ลองเอาไปดูนะฮะ

Dofimaquerus the Alana's pet
Mp 3/1 ธาตุน้ำ divine/monster lv 2
at8
df9
sp3
+ water     crazy wave         at10 mp 1
+ eart        strong wave       at10 df 11 mp 2
+ wind       slah wave          at12 sp4  mp 2
+ alana      this is my friend  at 10all df 10 sp 4 mp 5
เมื่อdofimaquerusลงมาในสนาม ซิลทุกใบที่มีspตำกว่าติดfreezเคิร์ส
1 turn
สกิล ดิสการ์ดในมือ1ใบสั่งDofiตีขึ้นมือ mp 3 in เมื่อมีอลาน่าอยู่ในสนามและdofiรวมร่างกับน้ำ
สกิล ซิลเราติฟรีสเคิร์ส1ใบสั่งDofi ตีไปยังdfได้ mp 3 เมื่อมีน้ำอยู่ในสนามและdofiรวมร่างกับดิน
สกิล เมื่อdofiรวมร่างกับลม สามารถโจมตีจากdfไปdfของฝ่ายตรงข้ามได้
mp 2
เมื่อมีอลาน่าอยู่ในสนามdofi เคินเซิลมิสติกและเคิร์ส
เมื่อdofiโจมตีออลซิลทุกใบแยกการรวมร่าง  

นี่ๆออกจาแรงนะ อีตัวหมามหาประลัยนั่นอะ ลดๆมันหน่อยดิเก่งเวอร์ อ่ะน้องขา(ไม่รู้เป็นน้องรึเปล่า)

หง่ะ หมาน้อยของอลาน่าเก่งกว่า ทหารสวรรค์และอสูรของผมอีก...........ออกมาจริงๆ Amberกับ Francessca จบ

เด็กจากค่ายผม 9 นาง เอาไปดองไว้หนอ่ะ งานไม่มีเรย อิอิ( ทำเหมือน GMM เลย ชอบดองเด็ก)

 ผมมีเรื่องเล่านะ GMM เพื่อนผมโดนดอง ไว้จะ3 ปีแล้ว ยังไม่มี album ของตัวเองเลย

ก็ลงเรียบร้อยแล้วไงอ่ะ ลงไปได้ 2 ตอน (แล้วรู้ได้ไงว่า GMM ชองดองเด็ก แง่ง ๆ ๆ)

ไม่มีใครต่อเลยอ่ะ แง้ว ต่อเองละกัน

ริวโกเข้ามาในเต็นส์ก็พบกับเซเรสในสภาพตัวของเขามีแสงสีขาวรอบตัว จนทำให้ริวโกแปลกใจ
"เซเรส นาย..."ริวโกแปลกใจมาก
"ไม่เป็นไร ข้าขอพรจากเทพมังกรแมนเทลลูม่า"เซเรสเล่าเหตุการณ์ให้ริวโกฟัง
"ริว ข้าจะไปยังเทือกเขาวาฮาล"เซเรสพูด
"นายไปที่นั่นทำไมทั้งที่อาวุธเทพมีครบแล้วนี่"ริวโกสงสัย
"ข้าจะจับกิเลน อากูรัส(Argurus Kirin)เพื่อศึกครั้งนี้ จึงจำเป็นต้องไปภายใน 7 วัน"เซเรสพูดเช่นนั้นได้เพราะเขาต้องการช่วยเหลือทหารที่เหลือในที่นี้
"แล้วแต่ ข้าจะไปส่งจดหมายให้"ริวโกพูดจบเซเรสก็เตรียมสัมภาระแล้วเดินทางออกไปยังเทือกเขาวาฮาล
"โชคดี เพื่อน"ริวโกพูดเพื่อลาเพื่อนที่กำลังไปจับกิเลนอากูรัส
จากนั้นริวโกได้เขียนจดหมายส่งไปยังองค์หญิงอลาน่าเกี่ยวกับเซเรสไปยังเทือกเขาวาฮาล
ขณะเดียวกันทางด้านกระโจมค่ายหลักมีจดหมายสีเลือดส่งมายังองค์หญิงอลาน่าซึ่งมีความหมายว่า
"ในอีก 7 วันข้างหน้า ข้าจะไปกุดหัวองค์หญิงอลาน่าแด่พระราชินี เรเวน"
"อา แย่ล่ะเจ้าหมอนั่น"ริวโกอุทาน

To be Conclude

แค่นี้ก่อนนะเพราะต้องทำรายงานอ้างอิงอ่ะ

Alana, the God of Annedisonge
Type Divine/Mage Lv.3 Rare

+(Water) Ice Snow  At 11 Mp 3
+(Light) Thender of Freeze At 12 Mp 4
+N(Annedisonge) Whirl Cool Breath Ayt 10 (All) Mp 5

Skill - Seal ทุกใบฝ่ายตรงที่ติด Freeze Curse ทุกทำลายทั้งหมด (At line) (Mp
           4)
        - Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้ามติด Freeze Curce 2 turn เมื่อ Alana,the God of Annedisonge รวมร่าง

N(Annedisonge) ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At +2 Df +2 Sp +1

ก็เพื่อนแฟนผมอ่ะ เค้ามาโม้ให้ฟังตั้วแต่ตุลาแล้วว่าจะออกเทปๆ ตอนนี้ยังไม่ได้ออก.... เพื่อนผมอีก ทั้งพี่ทั้งน้องเลย โดนดองจนเหลืองแล้ว.... เพื่อนอริผมอีก คนก็โดนดองแล้ว.... แต่อย่างน้อยเค้าก็ได้ออกโฆษณา..(ใครเคยดูโฆษณา Roll on อันนึงป่ะ ที่มีเด็กผู้ชายที่เล่นกีตาร์อ่ะ คนหน้าสุด....หลังจากนั้นก็โดนจับยัดเข้าโถดองต่อ.... คอยภรรยาเค้าแพ้ท้องค่อยเอามาให้กินมั๊ง ดองไว้เยอะจังคนอ่ะ.... อิอิ

เข้าใจแล้วล่ะ GMM คงจะรวยเพราะขายของที่ดองเอาไว้ อิอิ

ต่อไปเป็นอาวุธมารบ้างล่ะ
อันนี้เป็นอาวุธประจำตัวของเรเวน

Ronin,Twin Sword of Raven
Mp 2 [inf] Turn PS Relic
Seal ที่ติด Ronin At +2 Df +1 Sp +1 ถ้า Seal ที่ติดคือ Raven ได้รับ Ability โจมตี 2 ครั้ง,เมื่อต่อสู้ Seal ที่เป็นเป้าหมายการโจมตี At - ตามจำนวน Lv. ของ Raven และไม่สามารถยกเลิก Mystic Card ได้,เมื่อ Raven เข้ามาในสนาม นำ Ronin จากกองการ์ด,Shine หรือในมือมาติดบน Raven โดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย และเมื่อต่อสู้กับ [Divine]หรือ[Light] Raven At+3 ด้วย

ดาบโรนินเป็นดาบประจำตัวของเรเวน ที่ได้จากองค์จักรพรรดิ์เพื่อใช้ในการรบ เนื่องจากเรเวนเองก็เป็นแม่ทัพชั้น 1 ของกองทัพมาร

ดาบคู่มหาประลัยคู่ต่อกรกับริวโก

อันนี้เป็นอาวุธของริวโก

Balmung,Sword of Ryugoh
Mp 2 [inf] Turn PS Relic
Seal ที่ Balmung ติด At +2 Sp +2 ถ้า Seal ที่ติดคือ n[Ryugoh] ได้รับ Ability เมื่อเข้าสู่ subturn โจมตี เราสามารถเลือก Dragon 1 ใบในสนาม Seal ที่เลือกใบนั้นเป็น Inactive Seal n[Ryugoh] At +2/infinite Turn,Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้าม At -2 Df -2 Sp -2และไม่สามารถยกเลิกได้,เมื่อมี n[Ryugoh] เข้ามาในสนาม นำ Balmung จากบนมือ,Shine หรือ กองการ์ด มาติดลงบน n[Ryugoh] โดยไม่ต้องจ่ายค่าร่าย

ดาบ บาลมุง เป็นดาบตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษของริวโก ตัวดาบทำจาก เหล็กในตำนานที่ผสมกับดวงใจของมังกร ทั่วทวีปเมอร์ริเซีย ลักษณะของดาบนั้นใหญ่ พอๆกับดาบของกัสแต่ เบาดั่งปีกมังกร และรวดเร็วปานสายลม (เว่อร์ชะมัด)

GMM เมื่อก่อนคงขาย ผลไม้รถเข็น และยาดอง
พอรวยแล้ว เลยติดนิสัย เจออะไรก็จับดองหมด....:P

ต่อๆ หลังจากนางนันทาเทวีได้ ลงมาเป็นสามัญชน เพื่อคุ้มคลองอลาน่าแล้ว
รวินทราเทวี ก็ลงมาช่วย

Ravindradevi, Alana's Follower
2/1 ไฟ Scientist Lv.2
At:7
Df:5
Sp:3
+ไฟ     Yanta Bala  At:9mp:2
+ Machine  Lilavati   At:11mp3
* Skill นำ Mystic การ์ด1ใบในกองการ์ดฝ่ายเราลง Shrine สลับกองการ์ดนั้นจากนั้น Seal1ใบ เปลี่ยน Line เมื่อ Ravindradevi รวมร่างกับ(Mp3)(At line)((http:///images/sign_inf.gif))

คืออ่านตอนท้ายๆแล้วงงมากเลยตรงคำว่าkirinเนี่ยมันแปลว่ากิเลนหรอครับเพราะว่าเคยดูในการ์ตูนเรื่อง12อาณาจักรเทพประยุทธkirinมันไม่ใช่กิเลนนะคับ

อยากแต่งต่ออ่ะ แต่เน็ทที่บ้านมันบอกว่า password หมดอายุแย่จังของ tot มีหมดอายุด้วยเหรอ งงจริง ๆ ใกล้สอบแล้วด้วย ปายก่อนนะ

สงสัยยังไม่ได้จ่ายตังค์ค่าโทรศัพท์เป็นแน่ สอบเสร็จแล้วค่อยแต่งต่อละกันนะ

ว่างๆก็คิดขุนศึกคู่ใจของเรเวนละกัน

Tatarus,Raven's Warrior
Lv.2 Mp 3/2 Water Knight Evil
At 8
Df 8
Sp 3
+[dark] Back Slide At 10 Mp 3
+[water][any element] Head Cutter At 12 Mp 3
Sacrifice Seal 1 ใบในสนาม:Seal 1 ใบในสนาม At - ตามจำนวน Lv. ของ Seal นั้น (Mp 2)

ทาทารอส เป็นขุนศึกคู่ใจของเรเวนที่ต้องการชัยชนะอย่างสกปรก

เย้ ๆ วันนี้มาเล่นที่รร. หลังจากวันนี้ต้องภาวนาให้เน็ตที่บ้านเล่นได้แล้ว ต่อ ๆ ดีกว่า แต่ห่างปายนานจินตนาการที่มีอยู่น้อยอยู่แล้วเลยยิ่งน้อยหนักเข้าปายหย่ายเยย = =" ไงก็จะพยายามละกาน

4 วันผ่านไปหลังจากที่เซเรสเดินทางไปภูเขาวาลฮาล
"นี่ก็ 3 วันแล้วนะ เราจะรับมือกับทัพของเรเว่นยังไงดีล่ะเนี่ย" ฟรอสซ์บ่นขึ้น ณ ที่ประชุมวันที่ 4
"ตอนนี้ทหารของเราก็เหลือประมาณ 20 นาย เท่านั้นเอง" ชาร์ลพูด
"เพราะทัพของกิโยตินแท้ ๆ เลย" ฟรอสซ์พูด
"ป่านนี้พวกปีศาจคงมีกองทัพที่ใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว" ชาร์ลพูด
ขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ไรอาก็คิดได้ว่า...
"ทุกคนข้ามีวิธีแล้ว..."
"ไรอาเธอมีแผนอะไรเหรอ" องค์หญิงอลาน่าถามขึ้น
"ในเมื่อฝ่ายโน้นสามารถสร้างกำลังได้ ทางเราก็ทำลายได้เช่นกัน.."
"แล้วเราจะทำยังไงล่ะ" ซิกมันต์ถามบ้าง
"แฮะ ๆ ๆ เราก็รอบเข้าไปตัดกำลังมันซิ โดยลอบเข้าไปในพระราชวัง ลอบโจมตีแบบที่พวกมันไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเราก็หนีออกมา.."
"ฮึ ๆ แผนแบบนี้คงมีแต่เจ้าล่ะมั้งที่คิดได้น่ะ..." ชาร์ลพูด
"ท่านชมข้าเกินไปแล้วท่านแม่ทัพ มันเป็นนิสัยเก่านิ"
"ข้าว่ามันจะดูสกปรกไปหน่อยนะ" แฮริสันพูด
"ข้าว่าเป็นความคิดที่ดี แต่เปลี่ยนรูปแบบซะหน่อย ฮิลเคเบี่ยน.." อองเดรพูด
"พะยะค่ะองค์ราชา"
"ข้าว่าในวังยังต้องมีทหารที่มีฝีมือและยังภักดีต่อข้าเป็นแน่...เจ้าจงลอบเข้าไปแล้วทำความเข้าใจกับพวกเค้า"
"กระหม่อมรับทราบ คืนนี้ข้าจะลอบเข้าไปกับฟราก้าและไรก้าพะยะค่ะ"  ฮิลเคเบี่ยนรับคำ
"เป็นแผนที่ดีมากท่านอองเดรข้าซิกมันต์ขอชมจากใจจริง"
"ไม่หลอก เพราะได้ไรอาต่างหากละ"
"แฮะๆ ๆ ขอบคุณท่านอองเดร"
เมื่อฟ้ามืดลงฮิลเคเบี่ยน ฟราก้า และไรก้า ลอบเข้าไปในพระราชวังโดยใช้ขนนกร๊อกแดงของไรก้า
"นี่ฮิลเคเบี่ยนข้าว่าพวกเราแยกกันไปดีกว่านะ" ฟราก้าเสนอแผน
"ข้าก็ว่าดีนะฮิลเคเบี่ยน พวกเราจะได้ไปหาคนที่พวกเรารู้จักของแต่ละกันจะได้ไม่เสียเวลา" ไรก้าเห็นด้วย
"ดี...งั้นเจอกันที่ที่พักตอนรุ่งสางนะ ขอให้พวกท่านโชคดี" ฮิลเคเบี่ยนพูด
"พวกท่านเอาขนนกร๊อกแดงไปนะ จะได้หนีออกจากที่นี่อย่างปลอดภัย ข้าคิดว่าคงพอที่จะพาคนซัก 30 ได้นะ"
"ขอบคุณมากไรก้า ขอให้ท่านโชคดีนะ"
"พวกท่านก็เช่นกันนะ" จากนั้นทั้ง 3 ก็แยกกันไปชักชวนคนที่แต่ละคนรู้จักเป็นอย่างดี
ด้วยฝีมือของทั้ง 3 เป็นระดับแนวหน้าของแอนดิซองค์พวกปีศาจจึงไม่รู้ตัวว่ามีผู้บุกรุก ด้านฟราก้าได้ไปหาคริสติน่า และดูโอ ทั้ง 2 เมื่อทราบว่าอองเดรปลอดภัยต่างยินดีและพร้อมที่จะรับใช้อองเดรอย่างเต็มที่

Christina, the Knight of Annedisonge
Mp 3/1 Knight Water  Lv.2
At 8
Df 7
Sp 3
[Water]  Cystal Blade  At 10 Mp 3
[Water][Water]  Frost Strike  At 11 Mp 3

เมื่อ Christina โจมตีสำเร็จ Mp เรา +3
เมื่อมี Mystic Card ติดบน Christina Mp ค่าโจมตีของ Christina -2

Duo,Annedisonge Paladin General
Lv.2  Mp3/1 Water Knight
At 7
Df 8
Sp 4
[Water] Blizzard Sword  At 9 Mp 2
n[Annesonge] For the glory of Annedisonge At 11 Mp 3

Duo Mpค่าโจมตี -1 ตามจำนวนMystic Card ในมือฝ่ายตรงข้าม
ขณะที่ Duo ต่อสู้กับ Seal ที่มีค่าร่ายน้อยกว่า Duo At+2
Duo Mp ค่าร่าย -2 และ ยกเลิก Freeze Curse เมื่อมี Christina ในสนาม

ด้านไรก้าก็ได้แดนโก้และจอมเวทย์มีฝีมืออีกมากมาย

Dango  magician of andisonge
lv.3  4/3 water      mage
At9
Df9
Sp4

+(water)    timing tamer At11 mp3
+(water)+(water)  cleanning all temple At 10 All  mp5

เมื่อDango  magician of andisongeเข้ามาในสนามseal 1 ใบ ยกเลิกความสามารถ cancle curse (http:///images/sign_inty.gif) turn
skill  seal 1ใบของฝ่ายตรงข้ามยกเลิกความสามารถ cancle curse (http:///images/sign_inty.gif) turn หากsealใบนั้นเป็นธาตแสงให้ยกเลิกความสามารถ cancle mystic ด้วยเมื่อDango  magician of andisongeรวมร่าง (mp3)


Dango  magician of andisongeยกเลิกcurseและmystic card

ด้านฮิลเคเบี่ยนก็ได้ทหารฝีมือดีมาก เมื่อใกล้รุ่งสางทั้ง 3 ต่างใช้ขนนกร๊อกแดงหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย และเมื่อยามเช้า...
"องค์ราชินี ๆ " ทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามา
"เจ้ามีธุระอะไรถึงกล้ามาปลุกข้า" วิโอเรียโกรธมาก
"คือ ๆ ว่า พวกแม่ทัพและทหารฝีมือดีมาก ๆ ได้หายไปพะยะค่ะ"
"อะไรนะ แล้วพวกมันหายไปได้ยังไงกัน"
"ข้าก็ไม่ทราบพะยะค่ะ"
"ไม่ทราบเหรอ งั้นแกจงต...." ก่อนที่วิโอเรียจะสังหารนายทหารคนั้นเอง
"องค์ราชินี ๆ เกิดเรื่องใหญ่แล้วองค์ราชินี" นายทหารอีกคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา
"นี่เจ้ามีเรื่องอะไรกันอีกเนี่ย" วิโอเรียกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธมาก
"องค์ราชาพะยะค่ะ องค์ราชาทรงขี่เทพมังกรมัลเทลลูม่ามาพะยะค่ะ ตอนนี้องค์ราชากำลังพูดกับทหารของเราอยู่พะยะค่ะ"
"อะไรนะ เดี๋ยวข้าจะไปจัดการด้วยตัวข้าเอง" วิโอเรียรีบไปที่หน้าพระราชวังทันที
ด้านอองเดร
"ทหารกล้าแห่งแอนดิซองค์ทั้งหลายที่อยู่ในปราสาทจงฟังข้า...บัดนี้เมืองของเรากำลังจะถูกปีศาจครอบงำ แต่ข้าเชื่อว่ายังมีผู้ที่รักความยุติธรรมอยู่ ข้าขอให้พวกท่านคิดเอาว่าจะอยู่ที่นี่รับใช้พวกปีศาจหรือจะไปกับข้า กอบกู้เมืองของเราจากพวกปีศาจ" อองเดรยืนพูดกับทหารอยู่บนหัวมังกรยักษ์อย่างสง่างาม
"หน่อยเจ้าอองเดรคิดจะทำอะไรกับทหารของข้า" วิโอเรียมาพร้อมจตุรมารที่เหลือ
"วิโอเรีย...ข้าก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำ เจ้าซึ่งมีจิตใจที่ชั่วร้ายจนถูกปีศาจครอบงำจนหมดสิ้น จงตาสว่างซะทีเถิด"
"หนอยแนะเจ้าอองเดรพูดดีนักนะ" จตุรมารฆ่าอองเดรให้ได้
"เชอะ! ตัวเองไม่มีปัญญาล่ะซี้" มาย่าพูด
"มาย่าอย่าเสียมารยาท" แกรซอนพูด
"ท่านอองเดรข้าอยากรู้ว่าท่านจะมีฝีมือแค่ไหน" แกรนซอนตั้งท่าปลอยพลังใส่อองเดรทันที
"ถ้าเจ้าคิดว่าการโจมตีของเจ้าจะทำอะไรข้าได้ก็ลองดูเจ้าปีศาจ" อองเดรท้าทาย
"ข้าขอน้อมรับคำถ้านั้น...Dark Smasher..." แกรนซอนโจมตีใส่อองเดรทันที
ตูม....การโจมตีนั้นถูกอองเดรเต็ม ๆ แต่เมื่อควันจางออกไปอองเดรหาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีนั้นไม่
"พลังของเจ้ามีเพียงเท่านี้หรือแกรนซอนหัวหน้าจตุรเทพ..."
"องค์ราชินีกองทัพปีศาจของเราพร้อมจู่โจมแล้วพะยะค่ะ" ทหารคนหนึ่งเข้ามารายงาน
"ดี! สั่งพวกมันโจมตีได้"
"ไม่นะองค์ราชินี กองทัพนั้นเป็นของข้า" เรเว่นห้ามแต่ไม่ทันแล้ว
ทันทีที่อองเดรเห็นกองทัพปีศาจ....
"มัลเทลลูม่าโจมตี..." เทพมังกรปล่อยลำแดงใส่กองทัพปีศาจทันที
ตูม.....อ้ากกก....กองทัพปีศาจถูกการโจมตีของเทพมังกรทำให้เสียหายเกิดครึ่งทีเดียว
"กองทัพของข้า...หนอย" เรเว่นโมโห
"แล้วเจอกันในสนามรบนะวิโอเรีย แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะตาสว่างก่อนถึงเวลานั้น" จากนั้นเทพมังกรก็บินจากไปพร้อมกับอองเดร
"หนอยแก...เจ้าอองเดร..." วิโอเรียซึ่งทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่เก็บความแค้นไว้ในใจ..
(to be continue)

แง่ว เป็นซะยังงั้น ยังไงก็พยายามเข้าล่ะ

ต่อเลยละกัน

หลังจากการโจมตีของมังกรแมนเทลลูม่า ทำให้ทหารของเรเวนที่มีทั้งหมดหายไปแค่ครึ่งเดียว ทำให้เรเวนโมโหมากยิ่งกว่าราชินี เพราะทหารที่หามาได้มาเป็นเรือนแสนนั้นยากมาก เมื่อพวกจตุรมารเข้าไปยังกระโจมเรเวนระเบิดอารมณ์ใส่ทันที
"บัดซบ ทหารของข้าที่หามาได้อย่างยากลำบาก กลับโดนถูกนังวิโอเรีย สั่งให้ไปตายเหลือแค่ครึ่งเดียว"เรเวนอาละวาดพร้อมกับทุบโต๊ะจนแหลกอย่างเหลืออด
"ก็เพราะนางเริ่มที่จะอ่อนแอน่ะสิ พวกมนุษย์น่ะอ่อนแอจะตาย แค่ดีดนิ้วก็เรียบร้อยแล้ว"มาย่าพูดอย่างยียวน
"เฮอะ ทหารแค่ครึ่งเดียว เราก็สามารถทำให้ฟื้นขึ้นมาได้เหมือนกัน"แกรนซอนออกความคิด
"แล้วไง มันไม่ได้ให้ข้ารู้สึกฉลาดขึ้นเลย"เรเวนพูดโต้กลับ
"คิดว่าข้ากวนประสาทเจ้ารึไง ข้าได้อ่านตำราจากเจ้ากิโยติน ข้าได้พบกับวิธีการทำทหารไร้วิญญาณ (Souless) ข้าก็นึกได้ว่าน่าจะใช้ได้ผล"แกรนซอนพูดพร้อมกับนำตำราของกิโยตินเปิดให้เรเวนดู
"หึ มันคงเป็นวิธีสุดท้ายสินะ เอาเถอะดีกว่าปล่อยให้ศพไร้ประโยชน์"เรเสนออกความเห็น
"ทาทารอส !!!"เรเวนเรียกทหารคู่ใจ
"ขอรับ มีอะไรให้รับใช้ขอรับ"ทาทารอสขานรับ
"บอกให้พวกที่เหลือนำศพทหารที่ตายไปเมื่อกี๊ มายังหน้ากระโจมทันที"เรเวนสั่งทหารคู่ใจซักพักพวกที่เหลือก็นำศพมายังหน้ากระโจมทันที เมื่อถึงเวลาแกรนซอนร่ายคาถาไปยังศพหลังจากนั้นไม่นานศพที่ตายแล้วกลับลุกขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับคำนับเรเวนและแกรนซอนที่อยู่ทางหน้า
"หึๆ ในที่สุดทหารเรือนแสนก็กลับมาอีครั้ง"เรเวนถูกใจกับคาถาที่แกรนซอนชุบชีวิตทหารใหม่
"แต่ถ้าตายไปอีกก็ ไม่สามารถปลุกได้อีกแล้ว"แกรนซอนแนะนำ
"แค่นี้ก็พอใจแล้ว ข้าจะเซอร์ไพร ให้พวกมันอึ้งซะ"เรเวนสะใจเพราะเชื่อว่าสามารถกำชัยชนะมาได้แน่นอน
ทางด้านริวโกกำลังฝึกดาบอยู่นั้นแม็กซิมอสเข้ามาถามถึงดาบทันที
"มันเป็นดาบที่สวยมากเลยนะท่าน"แม็กซิมอสพูดชมดาบแต่ริวโกไม่สนใจ
"นี่มันเวลาซ้อมของข้าอย่าชวนคุยตอนนี้"ริวโกทัดทาน
"แล้วท่านเคยชนะเจ้าเรเวนนั่นรึเปล่านี่ รึว่าไม่"แม็กซิมอสพูดค่อนข้างยียวนทำให้ริวโกนึกถึงตอนที่ปะทะกันครั้งแรกได้จึงชูดาบมายังคอหอยของแม็กซิมอสอย่างไม่สบอารมณ์
"นี่มันเรื่องของข้า อย่ามาแส่"ริวโกเริ่มหมดความอดทน
"แต่ข้าช่วยได้ อย่าโมโหสิ"แม็กซิมอสพูดหวังดีต่อริวโกทำให้ริวโกเริ่มคลายอารมณ์มาบ้าง
"จะช่วยยังไง บอกหน่อยสิ"ริวโกเริ่มสงสัย
"ท่านก็รู้นี่ ว่าข้าเป็นช่างตีดาบที่ดีที่สุดข้าจะช่วยเพิ่มพลังของดาบเล่มนี้ให้เองเพราะของที่เหลือจากการทำอาวุธเทพ ยังมีมากพอที่จะโมดาบของท่านได้เลยล่ะ"แม็กซิมอสพูดมาทำให้ริวโกยังพอไว้ใจได้บ้าง
"อืม ดาบตกทอดเล่มนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ถึงเวลาแล้วสินะที่ต้องพัฒนาใหม่อีกครั้ง เอาล่ะข้าฝากให้เจ้าช่วยไปพัฒนาดายให้ข้าทีละกัน แต่ถ้าดาบข้าพังละก็..."ริวโกบอกกับแม็กซิมอสแล้วแม็กซิมอสพูดตัดบท
"ข้าไม่ทำพังหรอก เชื่อข้าสิ"แม็กซิมอสสัญญากับริวโก
"ได้ ถ้าเสร็จแล้วนำมาให้เลยละกัน"ริวโกบอกร้อมกับพักเหนื่อยจากนั้แม็กซิมอสนำดาบของริวไปพัฒนาใหม่อีกครั้ง

To be Conclude

เหอะ ๆ หายไปนาน(เหรอ) หมดมุขอ่ะ คิดซีลเลยละกัน

Annedisonge Merman Raider
Lv.1 Mp1/1 water Knight
At 5
Df 6
Sp 3
+[water] Frozen Lance At 9 Mp 1
+[water][water] Blizzard Lance At 10 Mp 2
Seal ที่ถูก Annedisonge Merman Raider โจมตี At -2 Df -2/1Turn
Annedisonge Merman Raider สามารถโจมตีมายัง Df Line ได้หาก Seal นั้นติด Curse
Annedisonge Merman Raider ยกเลิก Freeze Curse

ตัวรุกร่ายน้อยต่อยโหด ที่เป็นตัวรองก็ได้ ที่คิดมาเพื่อต้องการ Seal โจมตีเกือบสมบูรณ์แบบ ตัวยันก็ได้ ตัวรองก็ดี วิจารณ์ตัวนี้ทีนะ (อยากฟังเสียงมหาชน หุหุ)

ห่างหายกันไปนานพอสมควรนะคะ(ไม่ว่ากัน)
ครั้งนี้ยังคิดพลอตเรื่องต่อไม่ค่อยออก ก็ขอเป็นคิด seal ไปก่อนละกันนะคะ

Frozen Cat
Lv.1 Water 2/1 Beast
At 6
Df 8
Sp 4
+ Water     Frozen Bite     At 8 Mp 1

Skill รักษา Curse ทุกชนิดให้ Seal ฝ่ายเราที่มี Lv.X 1 ใบ หลังจากนั้น Seal 1 ใบฝ่ายเราติด Freeze Curse X Turn (Int) Mp 2
ตราบเท่าที่มี Seal ฝ่ายเราติด Freeze Curse Frozen Cat At + ตาม Lv. ของ Seal ที่ติด Freeze Curse นั้น
เมื่อมี Seal ฝ่ายเราติด Freeze Curse 2 ใบขึ้นไปนำ Frozen Cat จากสนาม/Shrine กลับขึ้นมือของผู้ควบคุม
Frozen Cat Cancel Curse

ไงคะค่อนข้างโหดรึเปล่า เอาไปนอนคิดกันเองน้อ

เนื้อเรื่องต้องรอซักพักเหมือนกัน คิดมะออก
เอาซักตัว

Milly,the Annedisonge Merchant
Lv.1 Mp 2/1 water Merchant
At 6
Df 6
Sp 3
+[water] Buy Something At 8 Mp 1
+[Merchant] Best Seller At 9 Mp 2
ตราบเท่าที่ Milly อยู่ในสนามเมื่อ Seal ฝ่ายเราโจมตี MP เรา +2 (Alibity นี้เกิดได้ 1 ครั้งต่อ 1 Subturn)
เลือก Seal 1 ใบในสนามของผูใช้ Skill Seal ที่ถูกเลือกเป็น Inactive Seal จากนั้นผู้ใช้ Skill Mp +ตามจำนวนค่าร่ายและค่าโจมตีของ Seal นั้น (Mp 0)

แม่ค้ามาแล้วจ้า มาพร้อมกับความสามรถที่พอ ๆ กันกับ Toy Retailer แต่ดีกว่าแถมเมื่อเราตี ได้ Mp เพิ่มไว้แก้ได้ด้วย คิดแล้ววิจารณ์ได้เลยจ้า

To be Conclude...

หง่ะแม่ค้าตัวนี้แรงมากขอบอก เราไม่มีวัน mp หมดแน่นอน โหดเกินค่ะขอเตือน

งั้นก็เดี๋ยวเราเพิ่มเทค อีกนิดละกัน

ที่จริงอยากให้ชาวแอนดิซอง โหดขึ้นมาบ้างน่ะ เลยคิดอะไร ๆ โหดไปหน่อย(สงสัยต้องระวัง ถ้าอยากติดชาร์จ)

เอามั้งดิ :)

Annedisonge Blacksmith Mp 2/1 Lv.2 Element น้ำ Merchant Scientist
At 7 Df 7 Sp 4
+[Any Element] Power-Thurst At 9 Mp 2
+น้ำ Mammonite At 10 Mp 2
Mystic Cardชนิด[Relic]ที่ติดบนAnnedisonge Blacksmithที่มีผล+ค่าพลังAtหรือDfหรือSp ให้ผล+เป็น2เท่า
[Skill]นำMystic Cardชนิด[Relic] 1 ใบในมือผู้ใช้Skillเข้ามาในสนาม (At Line)(Mp 2)(int)

Lemuria Blacksmith Mp 4/0 Lv.4 Element น้ำ Merchant Scientist
At 4 Df 8 Sp 4
+น้ำ Mammonite At 6 Mp 0
[Skill]จ่ายMp X ; จากนั้น Lemuria Blacksmith มีAt+ 2X /1 Turn จากนั้นสั่ง Lemuria Blacksmithโจมตีใส่Seal 1 ใบในสนาม (At Line)(Mp 0)

หุหุ ใบที่2ตีข้ามLineได้ด้วยนะ ^^

หง่ะไมโหดงั้นอ่ะคะ

ต่อไปอันนี้ ต้นไม้ หุหุ

Mandragoda
LV.1 Mp 1/1 water Plant
At 6
DF 5
Sp 0(มันคงเดินได้นะ)
+[water] Dead Voice At 8 Mp 1
Sacrifice Mandragoda : รักษา Curse ทุกชนิดให้กับ Seal ทุกใบในสนามฝ่ายเรา [inf](Mp 2)
เมื่อ Seal ฝ่ายเราตก Shine จากสนาม เราสามารถนำ Mandragoda จาก Shine ลงมาในสนามฝ่ายเรา
เมื่อ Mandragoda ลงมายังสนามจาก Shine Seal 1 ใบในสนามฝ่ายตรงข้ามติด Death Curse
Mandragoda ยกเลิก Curse

ต้นแมนเดรกในแฮรี่ พอตเตอร์ สุดโหด รักษาโรคให้เราได้ ชุบได้(ถ้าเพื่อนเราตาย) และกำจัดฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ในเรื่องทำให้ลองบัดท่อม สลบได้ หุหุ)

ให้ความเห็นยังไงบอกเราด้วยนะ ชะแว้บบบ(แบบน้าติง)

เอ้อ ลืมบอก คราวหน้าจฃอาจจะมีความรักระหว่างรบก็ได้(ไรอากับเฟร)

To be Conclude

Annedisonge Pikemage
Lv.2 Mp2/2water Knight/mage
At 6
Df 6
Sp 3
+water ice lance At8 mp2
+Annedisonge Pikemage Annedisonge Pikemage
wall of spear at 12 df10 mp4

  ถ้าบู๊ล่ะก็ ต้องนี่

Andre,The King of Anndisong
Mp 4/3  Knight  Lv.3
At 9 Df 10 Sp 4
+(water)    At 12 mp 4
+(water)(water)    At 13 mp 4
(ability) เมื่อ Andre โจมตี Andre cancel Mystic Card ของฝ่ายตรงข้าม 1 subturn
Andre mp ค่าโจมตี -1 ตามจำนวน N(Alana) ในสนาม

ตัวต่อไปเอาวีรบุรุษแห่งกรีกบ้าง

Akiris,Hero of Greek
Lv.2 Mp 3/1 water Knight
At 7
Df 7
Sp 4
+[light] Gradius At 9 Mp 2
+n[Chariot] The honor of Greek At 10 Mp 3
เมื่อ Akiris โจมตีสำเร็จ เราสามารถเลือก Seal 1 ใบ เป็น Inactive Seal
เมื่อเข้าสู่ Subturn โจมตีฝ่ายเรา นำ Mystic Card ประเภท Relic จากกองการ์ด มาติดบน Akiris และ Mystic Card ประเภท Relic ที่ติดบนAkirisใบนั้น Infinite Turn ด้วย

อันนี้มาแปลกไปนิดแต่ก็โอเคนะ โหดไปป่ะ ชะแว้บบบ....(แบบน้าติง)

ปล.คนเวียนเรื่องหายไปไหนหมดอ่ะ เราเวียนเรื่องคนเดียวไม่ไหวอ่ะ แบบว่าคิดไม่ออกอ่ะ แง่ว...

เย้ ๆ ๆ ในที่สุดเน็ตเราก็ใช้งานได้ แต่ยังไม่ค่อยว่างเหมือนเดิมนี่ซิไม่รู้ว่าจากวันนี้แล้วจะได้เล่นอีกเมื่อไหร่ = =" แต่ช่างเถอะ ต่อกานดีกว่า (การ์ดใหม่เพียบเลยทำไงดี) แต่ถามตัวนี้นิดนะ


ไอ้ที่เมื่อ Seal ของเราตกวิหารอ่ะ งี้ถ้า Sac. ตัวเองแล้วก็เอาตัวเองขึ้นมาได้อ่ะดิ (หมายถึงตัวที่ Sac.) นะ เข้าใจป่าวหว่า แบบว่า ลงวิหารปุ๊บกลับมาปั๊บไงงั้นอ่ะ เราเข้าใจถูกป่ะ

คราวนี้นิยายล่ะนะ...
เมื่อเข้าสู่วันที่ 7 ซึ่งเป็นวันที่ทัพของเรเว่นจะบุกมา...
แสงแดดยามเช้าช่างอบอุ่น ลมพัดเย็นสบาย ช่างเป็นบรรยากาศที่แสนสุขเหลือเกิน ขณะนั้นริวโก้กำลังฝึกดาบอย่างขมักขะเม้น แม๊กซิมอสก็เดินเข้ามา
"แหม....ท่านริวโก้ขยันแต่เช้าเลยนะท่าน"
"อ้าว...ท่านแม็ก" ริวโก้หยุดมือหันมาทักทายแม๊กซิมอส
"วันนี้อากาศช่างดีอะไรเช่นนี้จริง แสงแดดที่อบอุ่นนี้ สายลมที่พัดมาแหมมันช่างสุขเสียนี่กะไร"
"ใช่...เป็นบรรยากาศที่แสนสุข เหมือนกับว่าพระเจ้าทรงประทานให้เป็นของขวัญก่อนที่ความโหดร้ายจะเยื้อย่างเข้ามา"
"เฮ่อ...นั่นซินะวันนี้เรเว่นจะบุกมานิ"
"แล้วท่านมาหาข้าท่านมีธุระอะไรหรือ"
"อ้อ...เกือบจะลืมซะล่ะ ข้าจะมาบอกกับท่านว่าอาวุธเทพของท่านเสร็จเรียบร้อยแล้วน่ะซิ"
"จริงเหรอ....งั้นท่านรีบพาข้าไปดูเดี๋ยวนี้เลยนะท่าน"
"โอ้ย ๆ ใจเย็น ๆ ซิท่าน ใจเย็น เย้น...." ริวโก้รีบดึงแม็กซิมอสไปอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้นที่จะได้เห็นอาวุธเทพ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"อรุณสวัสดิองค์หญิง" อองเดรทำความเคารพ
"อรุณสวัสดิจ้าอองเดร วันนี้อากาศดีจัง อองเดรว่ามั้ย" องค์หญิงอลาน่ายิ้มให้อองเดรอย่างอ่อนโยนเหมือนเดิม
"พะยะค่ะ...ช่างเป็นบรรยากาศที่สบายจริง ๆ "
"แต่หลังจากนี้แล้วจะเป็นยังไงนะ" องค์หญิงแสดงสีหน้าเศร้า
"องค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วง ตราบใดที่ข้ายังอยู่ พวกกองทัพปีศาจจะต้องพ่ายแพ้กลับไปอย่างแน่นอน ข้าขอให้คำมั่น"
"เรื่องนั้นข้ารู้จ๊ะ ว่าอองเดรต้องทำได้ แต่ว่าพวกทหารทั้งหลายจะต้องบาดเจ็บล้มตายกันอีกเท่าไหร่กัน นี่คงจะเป็นเพราะเราแท้ ๆ ที่เอาแต่ใจนึกอยากจะกลับไปเป็นองค์หญิงเหมือนเดิม ต้องทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมากมาย"
"องค์หญิงไม่ผิดหลอกพะยะค่ะ ถ้าองค์หญิงไม่กลับมาประชาชนจะเดือดร้อนมากกว่านี้นะพะยะค่ะ องค์หญิงทรงอย่าได้ท้อแท้นะพะยะค่ะ"
"จ๊ะอองเดร เราจะสู้" องค์หญิงมีสีหน้าที่มุ่งมันและยิ้มให้อองเดรอีกครั้ง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ไหน ๆ ๆ ท่านแม๊ก อาวุธเทพของข้าอยู่ที่ไหนเหรอท่าน"
"แหม...ท่านริวโก้ใจร้อนซะจริง ๆ นี่ไงอาวุธเทพของท่าน นิวบาลมุง โฮ่ ๆ ๆ มันชื่อว่า ดราโกนิก บาลมุง"
"มันสวยมากเลยท่านแม็ก เหมาะมือข้าพอดีเลย ขอบคุณท่านมาก"
"ไม่เป็นไรหลอกท่านริวโก้เรื่องแค่นี้เอง"
"งั้นข้าขอตัวไปทำความคุ้นเคยกับอาวุธใหม่ก่อนนะท่าน"
"เชิญตามสบายเลยท่าน"
จากนั้นริวโก้ก็เดินออกไปฝึกต่อทันที
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านเรเว่น....
"วันนี้ล่ะ ข้าจะไปจัดการกับไอ้อองเดรที่มันบังอาจทำให้ข้าสูญเสียกองทัพไปตั้งครึ่ง มันต้องตาย..." คำพูดของเรเว่นเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
"หวังว่าเจ้าคงไม่พลาดเหมือนเจ้ากิโยตินนะเรเว่น" วิโอเรียพูด
"ท่านดูถูกข้า..."
"เปล่าเลยเรเว่น ข้าเพียงแต่เตือนเจ้าเท่านั้นเอง" วิโอเรียเย้ย
"ท่านคอยดูก็แล้วกัน" พอพูดจบเรเว่นก็รีบเดินออกมาด้วยท่าทีที่ไม่พอใจวิโอเรีย
"หนอยแนะเจ้ามนุษย์ บังอาจดูถูกข้า ไว้หลังจากจัดการพวกมันเสร็จ ข้าจะนังมนุษย์นั่น บังอาจมาดูถูกข้า มันต้องตาย"
"ใจเย็น ๆ น่าเรเว่น" แกรนซอนเตือน
"เจ้าไม่เป็นข้า เจ้าจะรู้อะไร นังมนุษย์นั่นบังอาจดูหมิ่นข้า"
"เอาเถอะน่าเรเว่น พวกเราก็รู้สึกเช่นเดียวกันเจ้านั่นแหล่ะ เอาไว้พอเจ้าจัดการกับพวกองค์อลาน่าแล้ว พวกเราก็จัดการนังวิโอเรียต่อเลยเป็นไงแกรนซอน" มาย่าพูด
"ในเมื่อพวกองค์หญิงอลาน่าตายแล้ว ราชินีวิโอเรียก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เมื่อถึงตอนนั้นองค์จักรพรรดิ์คงจะมีคำสั่งให้กำจัดเป็นแน่ ฉะนั้นเจ้าจงอดทนอีกหน่อยเพื่อไม่ให้เสียแผน" แกรนซอนพูด
"ดีงั้นข้าจะนำทัพไปเดี๋ยวนี้..."
to be continue

ป.ล. ต่อแว้วนะ หวังว่าคงจะมีคนต่อและต่อปายเรื่อย ๆ นะ ถ้าเราว่างจามาต่อห้ายหม่ายล่ะกาน ว่าแต่อัศวินกรีกนี่เป็นคนอาณาจักรหนายล่ะเนี่ย = =" แล้วแมวนั่นมันปีศาจชัด ๆ แม่ค้าท่าจะขายเก่งมีแต่กำไรพวกตีก็ Mp ขายเองก็ได้ Mp กำไรเน้น ๆ อองเดรคิงก็โหดดี ชอบ ๆ เหอะ ๆ ๆ ๆ ถ้าพวกมีจริง ๆ นะ เลือกใส่เด็คแทบม่ายถูกเลยโฮ่ ๆ ๆ ๆ ๆ

ยินดีด้วยจ้าที่เน็ตใช้งานได้ ถ้าคุณ KingOfCups ถามมาเราตอบกลับ

Mandragoda ต้นไม้นี้ถ้าตัวมันลงก็คือลงไปโลด แล้วที่ Seal ที่ตกวิหารน่ะ ต้องเป็น Seal ที่ไม่ใช่ Mandragoda นะ อย่าสับหมูเอ๊ยสับสน เติมเทคอีกนิดนึง แบบว่า มันรีบอ่ะ เพราะตอนที่คิดตัวนี้ไปเล่นที่ร้านเน็ตอ่ะ

ส่วน วีรบุรุษ อคิลิสของเรา ตนนี้เคยดูหนังเรื่อง ทรอย อ๊ะป่ะ คนที่ลาก วีรบุรุษ เฮ็กเตอร์ ไง

ส่วนแม่ค้าคนสวยนั้น เธอคือรองประธานสภาพ่อค้าวาณิชที่ไม่กินเส้นกับรูฟัส

ตอนนี้กำลังคิด Seal เด็ด ๆ สมธาตุอยู่ ก็เลยคิดเรื่องมะออกอ่ะ

ตอนนี้ก็คิดออกได้บ้างเอาล่ะต่อเลย

 ในวันที่ 7 กองทัพเรเว่นได้กรีฑาทัพปิศาจอันเกรียงไกรยิ่งกว่ากองทัพของกิโยติน ซึ่งประกอบด้วย อัศวินไนท์แมร์ กองกำลังปิศาจสครีค กองทัพเทอเรี่ยนต้องคำสาป และทหารเลว นอกนั้นเป็นทหารไร้วิญญาณโซลเลส โดยมีทหารคนสนิทที่โหดพอ ๆ กับ วีน่อม(มีดที่13) ทาทารอส คอยสั่งการแทนเรเว่นอยู่ด้วย ส่วนเรเวนนั้นแต่งชุดมารแนบดาบคู่เต็มยศและขี่เทอเรี่ยนเวอเทบ้าดำพร้อมกับชุดรบของมัน
"ทาทารอส การกรีฑาทัพครั้งนี้ คิดว่าจะไปถึงที่หมายเวลาใด"เรเวนถามทหารคนสนิท
"ข้าคาดว่ากองทัพขนาดนี้ไปถึงที่หมายอรุณรุ่งของอีกวันพะยะค่ะ"ทาทารอสได้คะเนขนาดของกองทัพในการเดินทัพ
"หึ มันก็นานเหมือนกันแต่ก็อาจจะคุ้มค่าที่ได้รอมานาน"เรเวนพูดเชิงยิ้มเยาะเพราะมั่นใจว่าสามารถเอาชนะพวกเจ้าหญิงอลาน่าได้
ทางด้านค่ายประชุมรบของทางด้านเจ้าหญิงอลาน่า
"ตอนนี้พวกเรเวนคงได้เคลื่อนทัพมาแล้ว ทางแหล่งข่าวได้ทราบว่ามันมีประมาณเรือนแสน"ชาร์ลกล่าวอย่างสรุปจนทำให้เป็นที่แปลกใจของทุกคน
"บ้าจริง ทั้ง ๆ ที่ท่านอองเดรได้ไปตัดกำลังพวกมันแล้ว"ฮิลเคเบี่ยนกล่าวอย่างหัวเสีย
"มันก็แปลกเหมือนกันพวกมันได้กองมาจากไหนตั้งมากมายได้เร็วขนาดนี้"อองเดรยังประหลาดใจเช่นเดียวกัน
"ตอนนี้กองกำลังองเรามีเท่าไรแล้วล่ะ ชาร์ล"ซิกมันด์พูดกับชาร์ล
"จากวันนั้นเรามีกำลังแค่ เรือนหมื่น เองพะยะค่ะ"ชาร์ลพูดถึงกำลังพลเสร็จแล้ว
"แล้วเราจะวางแผนยังไงดีล่ะนี่ป่านนี้แล้วทำไมไรอายังไม่ส่งข่าวมา"ซิกมันด์ยังคิดสงสัย
"ในตอนนี้เราได้ให้ฟรอสซ์ แอลฟาเรีย ไรอา แดนโก้ ได้ป้องกันองค์หญิงแล้ว ทางด้านตอนกลางได้ให้ฮิลเคเบี่ยน แฮริซัน และคนอื่น ๆ จากนั้นก็ให้เอลดากับอลิซาเบธคอยสนับสนุนด้านหลัง ส่วนทัพหน้าก็เป็นพวกเรา..."จากนั้นไม่นานมีเสียงหนึ่งเล็ดรอดออกมา
"ข้าจะอาสาเป็นทัพหน้าเอง"เสียงนั้นคือริวโกนั่นเอง
"ริวโก ท่านต้องอยู่ทัพกลางนะ อีกอย่างท่านก็มีสายเลือดเป็นอัศวินมังกรท่านน่าจะรู้กฏนี้"ชาร์ลพูดอย่างหัวเสียนิด ๆ
"แต่ข้าพเจ้ามีสิ่งที่ค้างคาที่ต้องทำให้สำเร็จ"ริวโกพูอกับทุกคนเพราะต้องการจะคิดบัญชีแค้นกับเรเวน
"แล้วแต่เจ้าริวโก อีกอย่างตอนนี้เราต้องรอเซเรสที่ไปยังวาฮาลอีกด้วยคิดว่าถ้าเจ้าทำได้ก็ทำ"ซิกมันต์พูดกับริวโกเพราะความไว้ใจ
"ข้าจะทำตามท่านพะยะค่ะ ด้วยเกียรและศักดิ์ศรีของฟิเลเซีย"ริวโกน้อมรับคำสั่งอย่างเต็มใจ
ในขณะนั้นเองเฟรได้เข้ามาในค่าย
"ทุกคน ออกมาดูข้างนอกสิ"เฟรพูดพร้อมกับชี้ไปยังทางตอนเหนือ
แล้วสิ่งที่ทุกคนถึงกับตะลึง เพราะมีประชากรชาวแอนดิซองและพวกลี้ภัยสงครามได้ตรงมายังที่นี่โดยมิได้นัดหมายรวมได้มีเป็นเรือนหมื่นนาย แล้วมีเสียงของชายคนหนึ่งพูดออกมา
"พวกเรามาที่นี่เพื่อต้องการสู้รบกับพวกราชินีวิโอเรีย พวกเราอยาากให้เจ้าหญิงอลาน่าขึ้นครองบัลลังค์"สิ้นเสียงชายคนนั้นทำให้ทหารมาห้ามปราม ทันใดนั้นองค์หญิงอลาน่าททรงเสด็จออกมาพอดี
"พอเถอะทุกคน เราเองไม่อยากให้พวกท่านต้องมาตายเพราะข้าอีก"องค์พูดด้วยสีหน้าเศร้า แต่มีชายในชุดผ้าคลุมสีดำ ได้เดินออกมาพร้อมพูดตัดบท
"เปล่าประโยชน์แล้วล่ะองค์หญิง เพราะตอนนี้พวกเขาเกลียดราชินีวิโอเรียอย่างหนักแล้ว อีกอย่างพวกเขาเทิดทูนองค์หญิงเนื่องจากท่านเองมีจิตใจเมตตากับทุกคน"ขณะนั้นซิสเตอร์โรซน่ามายังที่นี่ด้วย
"แล้วเจ้าเป็นใครกัน ทำไมต้องมาพูดแบบนี้กับองค์หญิง"อองเดรถามพร้อมชักดาบน้ำแข็งมายังตัวเขา
"ข้าชื่อฮามาน นักล่าปิศาจ ข้ามาที่นี่เพื่อต้องการจัดการสิ่งที่เลวร้าย"ฮามานพูดพร้อมคำนับให้กับองค์หญิง
หลังจากนั้นชาร์ล ฮิลเคเบี่ยน และทหารทุก ๆ คนได้จัดแจงชุดเกราะอาวุธมายังชาวแอนดิซองและผู้ลี้ภัยทุกคนจากนั้นได้ทำการจัดทัพพร้อมรบสำหรับครั้งนี้
"ท่านซิกมัต์ข้าได้นำข่าวมาแล้ว"ไรอามาพร้อมกับข่าวสารถึงมือซิกมันด์อย่างรวดเร็ว
"พวกเรเวน จะมาถึงที่นี่ตอนรุ่งสาง"ซิกมันต์กล่าวกับทุกคนเพื่อให้พร้อมรบในตอนรุ่งสาง
"เอาล่ะเรเวน เราจะได้ตัดสินกันที่นี่"ริวโกเตรียมพร้อมในการต้อนรับเรเวน เชื่อแน่นอนว่ามันเป็นการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่สุด

To be Conclude...

อ้า....ม่ายมีครายมาต่อเลยหรือนี่ มาต่อกานดีกว่าแต่ยังไม่ค่อยเข้าจายความสัมพันธ์ระหว่างริวโก้กะเรเว่นอ่ะ ไงก็จาพยายามล่ะกาน

และแล้วรุ่งอรุณที่ไม่มีใครปรารถนาจะให้ถึง บัดนี้ได้ทอแสงยังเบื้องหน้าของทหารทุกนาย แต่รุ่งอรุณนั้นจะเป็นนิมิตหมายแห่งชัยชนะที่จะมีเหนือเหล่าปีศาจร้ายหรือจะเป็นรุ่งอรุณสุดท้ายของพวกเค้ากันแน่ ขณะเดียวกันนี้เองกองทัพของเรเว่นได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของพวกเค้าแล้ว
"หึ ๆ วันนี้เป็นวันที่ข้ามีความสุขยิ่งนัก" เรเว่นพูด
"อ้อ....ข้าเข้าใจเรเว่น เพราะวันนี้จะเป็นวันตายของแกยัง" ริวโก้ตอบโต้ไป
"สามหาวนักไอ้เดนอัศวินมังกร คิดจะฆ่าข้ามันเร็วไปร้อยปีไอ้หนู" เรเว่นเริ่มมีอารมณ์
ขณะที่ทั้ง 2 กำลังโต้คารมกันอยู่นั้นอองเดร ก็ปรากฏกายขึ้นเหนือกองทัพทั้ง 2
"อ้าวนึกว่าใครที่ไหนนำทัพมา ที่แท้ก็เจ้านี่เอง หวังว่าคงจะยกทัพมาใหญ่พอที่จะให้ข้าเสียเหงื่อหน่อยนะ ฮ่า ๆ ๆ" อองเดรเย้ย
"หนอย.....คราวนี้ข้าจะข้าแก บังอาจทำลายกองทัพของข้า" เรเว่นโกรธจัด
"ข้าเองก็อยากจะสู้กับเจ้าอยู่....แต่ดูเหมือนวันนี้จะไม่ใช่วันของข้า คู่มือแกยืนอยู่ข้างหน้าแกแล้ว" อองเดรมองไปยังริวโก
"ฮ่า ๆ ๆ เจ้าคิดว่าไอ้อัศวินมังกรตกอัปเนี่ยนะจะเป็นคู่มือของข้า ฮ่า ๆ ๆ.....เจ้าดูถูกข้าไปหน่อยแล้วนักรบสวรรค์"
"เดี๋ยวก็รู้ว่าคู่ควรหรือไม่คู่ควร...ย้ากกก....." ทันทีที่พูดจบริวโก้พุ่งเข้าหาเรเว่นทันที
"เพื่อความสงบสุขแห่งเมอริเซีย....บุกกก...." ซิกมันต์ประกาศโจมตีทันทีที่เห็นริวโก้พุ่งตัวออกไป
และแล้วการสู้รบก็เริ่มขึ้น ฝ่ายทัพของเรเว่นมีอัศวินไนท์แมร์ กองกำลังปิศาจสครีค กองทัพเทอเรี่ยนต้องคำสาป ทหารเลว และทหารไร้วิญญาณโซลเลส ทั้งหมดบุกเข้าจู่โจมพร้อมกัน ซึ่งต่างจากครั้งของกิโยตินที่บุกทีละทัพ ส่วนฝ่ายของซิกมันต์ก็ต่างจากคราวที่แล้วมากนัก เพราะคราวนี้มีระดับแม่ทัพร่วมทัพด้วยหลายคนไม่ว่าจะเป็นคริสติน่า จอมทัพหญิงจากแอนดิซองค์ ดูโอ จอมเวทย์มากมาย ทั้งคราวนี้ยังมีฮามานนักล่าปีศาจอีกด้วยบวกกับทัพเดิมซึ่งนำโดยฮิลเคเบี่ยน คาลอส ชาร์ล คาเรน องค์หญิงเรจิน่า กษัตริย์แฮริสัน ซิกมันต์ เอลด้า อลิธซาเบธ ซึ่งทุกคนล้วนแต่มีอาวุธเทพทั้งสิ้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทัพของเรเว่นจะเอาชนะได้ ทัพของทั้งสองเข้าตะลุมบอนกันอย่างหนัก ต่างฝ่ายต่างฆ่าฝ่ายตรงข้ามไปมาก แต่ฝ่ายของซิกมันต์มีชาวแอนดิซองค์ซึ่งเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ๆ จึงไม่ต่างอะไรกับนกน้อยพยายามจะล้มพญาแรง พวกชาวบ้านล้มตายกันเป็นจำนวนมากทำให้ทัพของซิกมันต์เสียเปรียบอยู่เล็กน้อย อองเดรเห็นสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แต่ไม่สามารถจะทำอะไรได้มากนัก เพราะถ้าใช้พลังที่เคยทำลายกองทัพครึ่งหนึ่งของเรเว่นนั้น จะถูกฝ่ายเดียวกันได้จึงได้แต่คอยจัดการกับพวกสครีคที่จู่โจมจากท้องฟ้าแทน ฝ่ายริวโกพยายามเข้าไปให้ถึงตัวเรเว่นแต่ถูกทาทารอสขวางเอาไว้  ทั้ง 2 สู้กันอย่างสูสี ต่ายฝ่ายต่างระมัดระวังตัวด้วยกันทั้งคู่....
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ด้านองค์หญิงอลาน่า
"ข้างนอกกำลังต่อสู้กันแต่เรากลับได้แต่หลบอยู่ด้านใน" องค์หญิงอลาน่าพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
"องค์หญิงอย่าได้กังวลไปเลยทุกคนล้วนแต่ทำตามหน้าที่ของตน ซึ่งแตกต่างกันไป" จันทราเทวีพูด
"เมื่อไหร่มันจะจบลงซะทีนะ เฮ่อ.."
"งั้นข้าจะช่วยให้มันจบเร็ว ๆ เององค์หญิง" ฟรอสซ์พูด
"แล้วฟรอสซ์จะช่วยยังไงล่ะ" องค์หญิงถาม
"ไม่เห็นยากเลยองค์หญิงเดี๋ยวข้าจะออกไปซัดไอ้พวกปีศาจให้หมดมันจะได้จบเร็วขึ้นไงองค์หญิง"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกเราพี่น้องจะออกไปช่วยด้วย" รวินทราเทวีพูด
"ไม่ได้ ๆ พวกท่านต้องคอยอารักษ์องค์หญิงนะ เดี๋ยวข้ากับแอลฟาเรีย จะออกไปเอง"
"ดีงั้นเดี๋ยวข้าจะไปด้วย" ไรอาพูด
"ไม่ได้ ๆ เจ้าต้องอยู่ที่นี่คอยดูด้านหลังให้ดีล่ะ เผื่อมีพวกลอบเข้ามาข้างหลังเหมือนเจ้าซาฟิโร่จะแย่" ฟรอสซ์พูด
"งั้นเอาไอ้หุ่นกระป๋องโรคจิตไปด้วยเผื่อจะช่วยได้"
"ทำไมต้องเป็นข้าด้วยล่ะท่านไรอา..."
"ได้ข้าจะเอามันไปด้วย"
"ระวังตัวด้วยล่ะ"
"ท่านก็เช่นกัน"
หลังจากนั้นฟรอสซ์กับแอลฟาเรียก็รีบไปที่สนามรบ โดยพาไซโครด๊อกเตอร์ไปด้วย ขณะนั้นทางด้านเซเรส ก็ได้พบกับ กิเลน อากูรัส (Argurus Kirin) พอดี.....
to be continue

มีแอนดิซองก็ต้องมีเงือกจิ
Eric The Merman General of Andisong
Mp 4/2 น้ำ Lv 3 Knigth
At 9
Df 8
Sp 3
+น้ำ   Trident of war  At 10 Mp 3
+น้ำ น้ำ  Trident of andisong At 12 Sp 4 Mp 4
Ability
 เมือ่Ericลงมาในสนามจากมือนำmerman1ใบจากกองขึ้นมือ
เมื่อEricต่อสู้ เทียบค่าพลังAtของEricกับDfของsealที่ต่อสู้ด้วยเสมอ
Skill
จ่าย 3 interfear ย้ายเป้าการโจมตี skillและmystic ไปที่mermanใบอื่น
เมื่อEricรวมร่าง

หุหุโหดดีไหม ปล.ใครเล่นmsnมั่งครับว่างก็ซิบมาคุยกะเราได้นะ
zalomcity@hotmail.com

ถ้ายังไม่เข้าใจล่ะก็ เด๋วเริ่มเรื่องสั้น ๆ ละกัน

ริวโกกับเรเวน เดิมเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นอัศวินแห่งฟิเลเซียทั้งคู่ได้ออกรบด้วยกันมาโดยตลอด โดยริวโกนั้นจะถนัดดาบสองคมที่เน้นความรุนแรงและแม่นยำ ส่วนเรเวนนั้นใช้ดาบคู่แบบความเร็วดั่งสายลม ในศึกแรกของระหว่างฟิเลเซียกับซาโลม ในศึกนั้นเรเวนหายสาปสูญไป หลังศึกนั้นริวโกได้เป็นดรากูนประจำการในเมืองฟรอเลนเซียร่วมกับชาร์ล คราแลนซ์ แม่ทัพฟิเลเซีย แต่หลังจากนั้นในศึกฟลอเรนเซียได้เจอกับซาโลมอีกครั้งแต่คราวนี้เป็นฝ่ายเสียเปรียบในการส่งกองทัพระลอกสองนั้นริวโกได้นำทัพมังกรไปสู้กับทหารผีดิบ และสิ่งที่เขาแปลกใจมากที่สุดเขาได้พบกับเรเวน แต่เขาไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว เขาคืออัศวินดำที่แข็งแกร่งกว่าริวโก ได้ทำลายกองทัพมังกรไปมาก ทางด้านริวโกพบเห็นเช่นนั้นได้ต่อสู้กับเรเวน แต่ริวโกเสียท่า ถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บพร้อมทั้งฝากรอยแผลไว้ที่หน้าอก หลังจากนั้น ริวโกได้ลาออกจากการเป็นทหาร เพื่อคิดบัญชีแค้นกับเรเวน ที่ทรยศต่อตัวเขาและสัญญาว่าจะจัดการเรเวนให้ได้

เรเวนชื่อเดิมชื่อว่า โรลัน แต่ให้ชื่อเรเวนนั้นกลัวจะสับสน

หายสงสัยแล้วสินะ อิอิ  ;D

ยังสงสัยอีกเรื่องอ่ะ...มาต่อวิธีจับกิเลนด้วยจิ....ม่ายงั้นเราก็นึกไม่ออกอ่ะ มันติดอยู่ตรงเนี่ยอ่ะ ไหน ๆ ก็คิดไม่ออกล่ะ คิด Seal ดีก่า

Haman, the Killer evil
Mp 3/1  Knight/Mage   Water  Lv.2

At 7
Df 7
Sp 3

(Light)         Holy Slash       At 9  Mp 2    
(Mage)        Holy Magical   All 8 Mp 4

ตราบเท่าที่ในสนามมี Evil อยู่ในสนาม Haman At+3
เมื่อ Evil ถูก Haman โจมตีสูญเสีย Ability จนจบการต่อสู้

ง่ะ ยังสงสัยอีกเรื่องรึ มะเปนไรกำลังคิดอยู่พอดี

วิธีจับกิเลนนั้นมันยากกว่ามังกรทั่ว ๆ ไป เนื่องจากกิเลนเป็นมังกรที่ฉลาด แข็งแกร่งกว่ามังกรทั่ว ๆ ไปซึ่ง แน่นอนว่ามันเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นวิธีจับที่ดีที่สุดและปลอดภัยคือการใช้แส้เทพตวัดตรงคอของมัน เนื่องด้วยเพราะกิเลนเป็นมังกรที่อยู่คอยรับใช้เทพอยู่แล้ว เพื่อมันนึกว่าเทพส่งคนมา มันจะตอบคำถามเพื่อลองเชิงจิตใจของคนที่จับ ถ้าตอบออกมาเชิงชั่วร้ายมันจะทำลายคนที่ตอบ ถ้าตอบมาเชิงที่ดีงาม มันจะคอยช่วยเหลือผู้จับเพียงแค่ออกคำสั่งเท่านั้น ผู้ที่ขี่กิเลนได้นั้นต้องเป็นคนที่มีเชื้อสายอัศวินมังกรกับคนฝึกมังกรเท่านั้น

หายสงสัยยัง อิอิ

เหอะ ๆ ๆ อุตส่าห์ดีจายนึกว่าจามีคนมาช่วยต่อ เหอะ ๆ ๆ ๆ ต่อเองก็ร่ายชิชะ...

ความเดิม หลังจากที่เรเว่นได้ยกกองทัพนับแสนบุกมาแล้ว ริวโก้ซึ่งมีความแค้นกับเรเว่นได้เข้าจู่โจมเรเว่นทันทีแต่ต้องเจอกับทาทารอส ทหารคนสนิทของเรเว่น ส่วนคนอื่น ๆ ก็พยายามต่อสู้กันอย่างเต็มที่ ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นเซเรสก็ได้พบกับอากูรัส กิเลนที่เค้าใฝ่ฝันว่าจะได้พบมาตลอด...

"กิเลน...นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย" เซเรสพยายามตบหน้าตัวเอง
"อ๊ะ...ไม่ได้แล้วต้องหาวิธีจับให้ได้ ทำยังไงดี ทำยังไงดี"
"อ้าว...มันกำลังจะไปแล้ว ไม่มีเวลามาคิดแล้ว ย้ากกกกกกก..." เซเรสรีบพุ่งเข้าหาอากรัสทันที
อากูรัสเห็นเซเรสพุ่งเข้ามาก็ตั้งท่าจะโจมตีทันที เซเรสเห็นอากูรัสตั้งท่าก็หยิบแส้เทพที่ได้จากมัลเทลลูม่าออกมาทันที อากูรัสเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนท่าทีเป็นดูเชิงเซเรสซึ่งได้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว
"เจ้ามนุษย์เจ้ามาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยเหตุอันใด"
"ข้ามาที่นี่เพื่อพบท่าน"
"พบข้าหยั่งงั้นหรือ"
"ใช่แล้ว มันเป็นความฝันของข้าที่จะได้เห็นกิเลนซักครั้ง"
"แต่ข้าว่าเจ้ามีความต้องการมากกว่านั้น ในมือของเจ้าถือแส้ของเทพมาด้วย เจ้าต้องการจะใช้พลังของข้าใช่หรือไม่"
"ใช่แล้วท่าน ความฝันของข้าอีกอย่างหนึ่งคือ การเป็นผู้ควบคุมกิเลนได้"
"ได้...ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะช่วยเจ้าในการเป็นเจ้าโลก"
"จริงหรือท่าน แต่..."
"แต่อะไรรึ เจ้ามนุษย์"
"แต่ข้าไม่ได้ต้องการจะเป็นเจ้าโลก ข้าต้องการเพียงแค่ ผู้ควบคุมมังกรที่เก่งกาจที่สุด"
"ได้ข้าช่วยเจ้าได้ แล้วหลังจากที่เจ้าเป็นผู้ควบคุมมังกรที่เก่งกาจที่สุดแล้วเจ้าจะทำอะไรต่อล่ะ"
"ตอนนี้พวกปีศาจกำลังจะทำให้โลกของเรากลายเป็นนรก ข้าอยากจะได้พลังไปช่วยองค์หญิงอลาน่า และเพื่อนของข้า แล้วท่านจะช่วยข้าได้หรือไม่"
อากูรัสได้มองเห็นจิตใจแห่งคุณธรรมในตัวของเซเรส ทำให้อากูรัสถึงกับอึ้งไป
"ท่าน ๆ "
"เจ้าจะมัวเรียกข้าทำไม เพื่อนของเจ้ากำลังรอเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ รีบขึ้นมาซิ"
ขณะนี้จิตใจของเซเรสเต็มเปี่ยมไปด้วยความปราบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถเอาชนะใจของอากูรัสได้
"เจ้าจะขึ้นมาได้หรือยัง หรือจะเปล่าให้เพื่อน ๆ ของเจ้าตายกันหมดก่อนล่ะ"
"ครับ ๆ"
"ข้า อากูรัส แล้วชื่อของเจ้าล่ะเจ้ามนุษย์"
"ข้าเซเรส"
"เป็นชื่อที่ดี เซเรสเราจะไปกันล่ะนะ จับดี ๆ ล่ะ"
"ครับ"
อากูรัสวิ่งด้วยความเร็วเหนือเสียง มุ่งหน้าไปยังสนามรบอย่างรวดเร็ว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสียงประดาบายังคงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างทุ่มกำลังเต็มที่เพื่อที่จะจัดการฝ่ายตรงข้ามให้เด็จขาด ฝ่ายริวโก้ยังไม่สามารถจะจัดการกับทาทารอสได้ จึงยังเข้าไม่ถึงตัวเรเว่น
"มีฝีมือเหมือนกันนิเจ้าหนู แต่แค่นี้ยังล้มข้าไม่ได้หลอกนะ" ทาทารอสชื่นชมในฝีมือของริวโก้
"เจ้าก็เช่นกัน แต่ก็ไม่เท่าไหร่หล๊อก คราวนี้แกไม่รอดแน่" ริวโก้โต้กลับไป
"เข้ามาเลย"
"ย้ากกกก"
"ย้ากกกก"
ทั้ง 2 เข้าฟาดฟันกันอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างใช้กระบวนท่าให้หลากหลายและรวดเร็วที่สุดเพื่อปลิดชีพฝ่ายตรงข้ามให้เร็วที่สุด ดาบแต่ละดาบเปี่ยมไปด้วยพลังทำลายมหาศาล ท่วงท่าที่งดงามของริวโก้ จู่โจมใส่ทาทารอสอย่างต่อเนื่อง เริ่มกดดันอย่างหนักทำให้ทาทารอส
เริ่มพลาดท่าแล้ว ริวโก้เห็นดังนั้นจึงเร่งโจมตีให้เร็วขึ้น และก็ได้ผล ทาทารอสเสียหลักแล้ว ริวโก้ก็ฟาดดาบลงมาหมายตัดศีรษะของทาทารอสทันที จังหวะนั้นเรเว่นพุ่งเข้ามาจากข้างหลังของริวโก้ทันที ริวโก้เหลือบไปเห็นแต่สายไปซะแล้ว...
"ตายซะเถอะริวโก้.."
"หนอยแกเรเว่นเล่นลอบกัดเหรอ"
"ริวโก้ข้ามาแล้ว...." เสียงที่ริวโก้ได้ยินนั้นได้ยินหลังจากที่ริวโก้เห็นเรเว่นกระเด็นลอยข้ามศีรษะเค้าไป
"เซเรส นายกลับมาแล้ว"
"ริวโก้ข้ากลับมาแล้ว"
สหายที่กลับมาได้ส่งยิ้มให้ สร้างกำลังใจให้กับริวโก้เป็นอย่างมาก...
to be continue

ยังงี้ต้องต่อแล้วล่ะ

แล้วเมื่อแหงนมองอยู่บนท้องฟ้าทำให้กองกำลังทั้ง 2 ฝ่ายต้องตะลึงเพราะมีฝูงกิเลนมากมายมาช่วยเหลือการรบครั้งนี้ด้วยโดยการจำกัดกองทัพสครีคที่อยู่เต็มท้องฟ้า ทำให้เรเวนไม่สบอารมณ์จึงได้ขึ้นไปขี่เวอเทบ้าดำเพื่อกำจัดพวกกิเลนแต่เรเวนยังไม่ทันขึ้น ริวโกได้เข้าฟันเวอเทบ้าดำจนคอขาดพร้อมพูดว่า
"เจ้าเคยเป็นฟิเลเซียมาก่อนน่าจะจำกฏการประลองได้ดี"ริวโกเตือนความจำให้เรเวน
"อย่าดีแต่ปากก็แล้วกัน"เรเวนพูดพลางชักดาบคู่โรนินเข้าใส่ริวโกโดยที่ริวโกเองได้ตั้งรับเอาไว้อยู่แล้ว ทั้งสองได้เข้าห้ำหั่นเข้าใส่กันชนิดเอาเป็นเอาตาย โดยเรเวนเข้ารุกอย่างรวดเร็วเพื่อปลิดชีพอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด ทางด้านริวโกได้ตั้งรับเพื่อหาจังหวะเข้าโจมตี
"หึ ดีแต่ตั้งรับอย่างเดียวก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก"เรเวนพูด
"ก็ยังดีกว่าพวกที่เข้าปะทะอย่างไร้สมองก็แล้วกัน"ริวโกย้อนทำให้เรเวนรู้สึกโมโหจึงเริ่มโจมตีหนักกว่าเดิม แต่ริวโกจับการเคลื่อนไหวของเรเวนไว้หมดแล้วเพียงแค่รอจังหวะบางอย่างเท่านั้นเอง
ทางด้าน ฟรอสและแอลฟาเรีย ได้เข้าไปอัดพวกทหารของเรเวน ส่วนไซโคด็อกเตอร์ไปรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งทั้งคู่เจอกับทาทารอสที่หลบหนีจากการปะทะของริวโกกับเรเวน เมื่อพบกันครั้งแรกก็รู้ได้ว่าทาทารอสตัวใหญ่กว่าทั้งคู่เท่าตัว
"นี่เราต้องเจอกับเจ้ายักษ์เหรอเนี่ย"ฟรอสพูดกับแอลฟาเรีย
"ถ้างั้นเราต้องเข้าโจมตีพร้อมกัน ก็น่าจะล้มเจ้านี่ได้"แอลฟาเรียเสนอ
"ก็ยังดีนะ"ฟรอสเห็นด้วย
ทั้งสองเข้าโจมตีใส่ทาทารอสด้วยเทคนิคหมัดมวยที่เรียนมาทำให้ทาทารอสเสียเปรียบอยู่บ้างทำได้แค่เหวี่ยงดาบเข้าปัดป้องทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างเข้าโจมีใส่กันจนกระทั่งดาบของทาทารอสหักทำให้ตัวเองเสียศูนย์
"ฟรอส ยังจำท่าคู่กันได้ไหม"แอลฟาเรียเสนอ
"อืม ยังจำได้"ฟรอสพูดพร้อมกับเตรียมใช้กระบวนท่าเผด็จศึก
"เอาละ พร้อมยังแอลฟี่"ฟรอสพูด
"พร้อมแล้ว"แอลฟาเรียตอบ แล้วทั้งคู่ได้ใช้พลังในการโจมตี
"เตรียมตัวเข้าสู่ยุคน้ำแข็งได้ หมัดคู่มังกรเยือกแข็ง ทะยานฟ้า "ทั้งคู่พูดพร้อมใช้กระบวนท่าเข้าใส่ทาทารอสอย่างจัง ทำให้ตัวทาทารอสกลายเป็นน้ำแข็งกลางอากาศและตกลงมาแตกกระจายดั่งน้ำแข็ง
"สำเร็จ"ทั้งคู่ดีใจอย่างมากเมื่อสำเร็จวิชานี้
"มัวแต่ดีใจอยู่ได้ ช่วยทางนี้บ้างสิ"ไซโคด็อกเตอร์ พูดตัดบท
ทางด้านพวกของซิกมันต์ ทั้งคู่ได้โจมตีกองทัพพร้อมทั้งเปิดทางให้อังเดรเข้าโจมตีพวกกองทัพปิศาจ ตอนนี้กองทัพเรเวนเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างหนักและส่วนหนึ่งได้หนีกระจายออกไปคนละทิศละทางเพราะต้านเอาไว้ไม่อยู่...

To be Conclude...

อะไรจะปานนั้นคะ

ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เขียนเรื่องเลย ตอนนี้กำลังหมกมุ่นอยู่กับการทำ Sed 2 อยู่ค่ะ อิอิ ไว้เสร็จแล้วจะเอามาให้ดู

ท่าทางคงจะสวยแน่ ๆ เอาใจช่วยจ้า

จากนิยายเมื่อกี้ทำให้เราคิดเขาและเธอ อีกรูปแบบหนึ่ง

Frost,the Alana Follower
Mp 3/2 water Pugilist-Mage Lv.2
At 8
Df 8
Sp 4
+[water] Diamond Punch At 10 Mp 3
+n[Elfaria] Twin Icicle Dragon Strike At 12 Mp 3
เมื่อ Frost โจมตี Seal ที่ต่อสู้ด้วย ติด Freeze Curse 2 Turn และ ไม่สามารถ ยกเลิกได้
Seal ที่ติด Freeze Curse ไม่สามารถใช้สกิลเป้าหมายมายัง Frost ได้
ตราบเท่าที่ n[Elfaria] อยู่ในสนาม Frost ยกเลิก skill,mystic card,การโจมตี และ Frost At +2 Df+2 และสามารถโจมตี 2 ครั้งได้

Elfaria,the Alana Follower
Mp2/1 water Pugilist Lv.2
At 7
DF 7
Sp 4
+[water] Shiver Kick At 9 Mp 2
+n[Frost] Twin Icicle Dragon Strike At 12 Mp 3
เมื่อ Elfaria ต่อสู้ Seal ที่ต่อสู้ด้วย -Df ตามจำนวน Mp ค่าร่าย และLv. ของ Seal นั้น จากนั้น นำค่าพลังของ Elfaria มาเทียบกับ ค่า Df ของ Seal ที่ต่อสู้ด้วย
Elfaria มี Mp ค่าโจมตี -2 เมื่อมี Seal ที่ติด Freeze
ตราบเท่าที่ n[Frost] อยู่ในสนาม เมื่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม Elfaria Skill,Mystic card และ การโจมตี ที่มีเป้าหมายมายัง Elfaria ย้ายเป้าหมายมายัง n[Frost] แทน และสามารถโจมตี 2 ครั้งได้

To be conclude...

Weza The Undead of annedisonge
At 10 Df 11 Sp 3 Mp 4/4 Lv 4 ธาตุ นํา เผ่า Evil
+ นํา มืด Water Death Missily At 12 Df 10 Sp 5
+ นํา นํา Death Waterfall At 0 Df 13 Sp 0  ( ถึก )
+ นํา Water Missily At 11 Df 12 Sp 4
+ มืด Death Missily At 12 Df 10 Sp 4
+ Evil  Evil Missly At 12 Df 11 Sp 3
Ability - เมื่อการ์ดใบนี้เข้ามาในสนาม Seal ธาตุนํา หรือ เผ่า Evil ทุกใบในสนามฝ่ายเรา At + 5 Df + 5 Sp +1 ( ยกเว้นการ์ดใบนี้ )
- เมื่อการ์ดใบนี้เข้ามาในสนามสามารถเรียก Fsool จากในกองขึ้นมือได้
Skill ลงจากในมืออินเทอร์เฟียSealทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้ามติด Poision Curse 1 เทิร์น ( Mp x ) x = จํานวนการ์ดฝ่ายตรงข้าม
Growth Fsool The Wizard of Weza ( Growth นี้สามารถใช้ได้แม้ Fsool อยู่บนมือ )  
เมื่อเรียก Fsool ออกมาแล้วสามารถรวมร่างได้เลย ( Mp 0 ) ( Skill นี้สามารถใช้ได้แม้ Fsoolอยู่บนมือ )
เมื่อมีอันเดตก็ต้องมีคนที่ปลุกขึ้นนี่เลย
Fsool The Wizard of Weza
At 10 Df 9 Sp 5 Mp 3/2  Lv 3 ธาตุ นํา เผ่า Mage
+ นํา Water Sword At 11 Df 10
เดี๋ยวมาโพสต่อ

ฮึ่มทั้งเฟเลเชีย ฟูดินันมาบุกหมดเลย

Ocean Spirit
Lv.1  Mp1/1  Water  Divine
At 1
Df 3
Sp 5
+ any element     Ocean Anger     At 0 Mp 1

Skill - Freeze Curse 1 Seal (http:///images/sign_inty.gif) Mp 1
Ocean Spirit + At ตาม Df ของ Seal รองรวมร่างของ Ocean Spirit
Ocean Spirit cancel curse

ถ้ามีออกมาจริงๆคงจะดีมากเลย กัน curse อย่างร้ายแรง  

งั้นเราต้องป้องกันอย่างหนาแน่น (ริวโก ฟรอส ช่วยที)  ;D

ดูเหมือนมะมีใครมาเวียนเรื่องเลยนะ   ???

ติดใจ Icicle Hound มากอ่ะ เลยได้คิดตัวนี้มา

Emmanuel,Icicle Hound Tamer
Lv.2 Mp2/1 water tamer
At 6
Df 6
Sp 3
+water Call for Hound At 8 Mp 2
+n[Icicle Hound] All of Frozen Wolve At 9 Mp 3
นำ Icicle Hound จากกองการ์ด 1 ใบ ลงมายังสนาม (Mp 3)
ตราบเท่าที่ Emmanuel อยู่ในสนาม Icicle Hound ทุกใบในสนามสามารถใช้ Skill โดยไม่ต้องตรงตามเงื่อนไข alibity ของ Icicle Hound
เมื่อ Emmanuel ตก Shine จากกองการ์ด นำ Icicle Hound ทุกใบใน Shine กลับเข้าสนาม

to be conclude...

555+ชั้นไม่ยอมให้ตกง่ายๆหรอก
เอาหล่ะ ไหนๆก็มีอังเดรโปรโมสุดเก่งแล้ว เราจักสร้างจอร์มันการ์ดขึ้นมาใหม่ด้วยความที่ตัวเดิมแพ้ธาตุอย่างแรง(แง้ว)

Jormungand, The Royel Dragon Of Annedisonge
Dragon Lv.2 Mp 3/1 Water
At 7
Df 9
Sp 3
+ Any element     Ocean Anger     At 9 Mp 2
+ n(Alana) + n(Andre)     Super Tidal Wave     At 13 Mp 3

Skill - นำ Jormungand จากในมือ ลงมาในสนามที่ at line หลังจากนั้น seal ทุกใบที่มี at มากกว่า Jormungand ติด Freeze Curse 1 subturn (Int) Mp 3
ตราบเท่าที่มี n(Alana) อยู่ในสนามหรือเป็น seal รองรวมร่างให้ Jormungand Jormungand Cancel Curse

Growth - n(Jormungand)
เมื่อ Jormungand ตกเป็นเป้าหมายของ Skill seal 1 ใบ ฝ่ายตรงข้ามติด Freeze Curse Inf turn
ตราบเท่าที่มี n(Andre) อยู่ในสนามหรือเป็น seal รองรวมร่างให้ Jormungand Jormungand at+2 df+1 sp+1

อิอิ เป็นไงโหดมั๊ย

เก่งเวอร์ไปนิด แต่ก็สุดยอดดี กระทู้นี้ต้องอยู่ค้ำฟ้าไปอีกนาน 555++

ร่างแท้จริงของ Raven หลังจากพ้นคำสาป

Rolan,the Typhon Knight
Lv.2 Mp3/1 Wind Knight
At 7
Df 7
Sp 5
+[wind] Tornado Slash At 9 Mp 2
+[wind][any element] Strom Typhon Slash At 8 (2 Times) Mp 3
เมื่อ Rolan ต่อสู้กับ Seal ที่มี Mp ค่าโจมตีมากกว่า Rolan At+2
เมื่อ Rolan โจมตีไปยัง Df Line Rolan At+1
ตราบเท่าที่ Ryugoh อยู่ในสนาม หรือเป็น Seal รองรวมร่าง Rolan สามารถโจมตีจาก Df Lineไปยัง Df Line ได้

to be conclude...

ถ้าเป็นอันนี้ล่ะ หึๆๆ

Murrh,the Fortuneteller of Annedisonge  (Mage)
[Mp3/1] [Lv2] [Water]
At 2  Df 2  Sp 2
 
+ <Water>       Water-filled Heart     At7 Df4 Sp3   Mp3
+ <Merchant>  My Wealth!              At8 Df5 Sp4   Mp4

Ability : -เมื่อ Murrh ตก Shrine จากสนาม Seal ทุกใบในสนามผั่งตรงข้ามจะเป็น Inactive Seal  1 turnและฝึ่งตรงข้ามจั่วการ์ด3ใบใน turn ต่อไป ( Ability นี้ไม่สามารถถูกยกเลิกได้)
            -ถ้า Myrrh โจมตี ใส่ Seal ฝ่ายตรงข้าม Sealใบนั้น cancel Mystic Card ของตนเองทันที และหากโจมตีสำเร็จ Seal 1ใบฝ่ายตรงข้ามติด Freeze Curse 1 subturn

Skill   :  - ผู้ควบคุม Myrrh  Mp Cost ทุกอย่าง-1 / 3 turns  เมื่อรวมร่างกับ <Merchant>(Mp5)
            - Seal 1ใบฝ่ายตรงข้ามที่กำลังใช้Curse ใส่ Seal ฝ่ายเรา Seal นั้นเป็น Inactive  SealในSubturn ต่อไป และติด Curse ที่จะใช้เองด้วย  เมื่อ Myrrh รวมร่างอยู่  ยกเว้น Death Curse  (At line) (Mp4) ((http:///images/sign_inf.gif))  

ฮี่ๆๆ แน่จริงใช้Curseมาสิ  เหอๆๆๆๆ

เอาบู๊ตัวนึง ไม่บู๊ตัวนึงละกัน


Rishadah, The Chief of Annedisonge Knight

Mp 4/3 น้ำ Lv.3 Knight
At 7 Df 7 Sp 3

+ N[Annedisonge] Annedisonge Defense At 8 Df 9 Mp3
+ [Knight] Annedisonge Attack At 10 Sp 4 Mp4
+ [น้ำ] N[Annedisonge] Power of Annedisonge At 7 (All) Mp 5

- Rishadah +At ตามจำนวน [Knight] ใบอื่นในสนาม
- Rishadah +Df ตามจำนวน N[Annedisonge] ใบอื่นในสนาม
- Rishadah At+2 จากนั้นสั่ง Rishadah โจมตี Seal ที่ติด Curse 1 ใบในสนาม (Mp4)
- Rishadah ยกเลิก Curse เมื่อมี [Knight] และ/หรือ N[Annedisonge] ใบอื่นในสนาม



Annedisonge Merfolk Salesman

Mp 2/1 น้ำ Lv.1 Merchant
At 4 Df 3 Sp 2

+ N[Annedisonge] Selling At 7 Mp1

- เมื่อ Annedisonge Merfolk Salesman ลงมาในสนามจากกองการ์ด
+Mp ตามจำนวน Seal ที่รวมร่างทุกใบในสนาม
- Sacrifice 1 Seal : +Mp ตามค่าร่ายของ Seal นั้น (Mp1)
- Annedisonge Merfolk Salesman ป้องกันการโจมตีจาก Seal ที่ค่าร่ายต่ำกว่า Annedisonge Merfolk Salesman
เมื่อมี N[Annedisonge] ใบอื่นในสนาม

เมื่อมี Priest of Ferasia แล้ว เราก็ต้องมี

Sister of Annedisonge
Lv.1 Mp 2/1 water Mage
At 6
Df 6
Sp 3
+[water] Icicle word At 9 Mp 2
+[Light] Holy word At 10 Mp 3
เมื่อ Sister of Annedisonge ถูก Freeze Curse เลือก Seal 1 ใบ ในสนามฝ่ายตรงข้ามติด Freeze Curse 1 Turn
รักษา Freeze Curse ให้กับ Seal 1 ใบ ในสนาม เมื่อ Sister of Annedisonge รวมร่างกับ [Light] (mp 1)

ต่อไปก็เงือกบ้าง (ชอบเงือกเป็นกรณีพิเศษ อิอิ)

Cassandra,the Mermage
Lv.2 Mp 2/1 water Mage
At 7
Df 6
Sp 4
+[water] Wheel Wave At 9 Mp 2
+[water][water] Destruction Wave At 8 [All] Mp 4
เมื่อ Cassandra ถูกโจมตี Seal ที่โจมตี ติด Freeze Curse 1 Turn
เมื่อ Cassandra ตก Shine Seal 1 ใบในสนาม ติด Charm Curse 1 Subturn
เมื่อ Cassandra โจมตี ให้เทียบพลังของ Cassandra กับ ค่า Df ของ Seal ที่ต่อสู้ด้วย

ความเดิมตอนที่แล้ว ริวโก้กำลังประลองกับเรเวนอย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งริวโก้รอจังหวะที่จะใช้ท่าไม้ตายเพื่อที่จะเผด็จศึกในคราเดียว ในขณะที่ทาทารอสทหารคนสนิทของเรเว่นพ่ายแพ้ต่อฟรอส์ยและแอลฟาเรีย ส่วนกองทัพของเรเว่นซึ่งถูกอองเดรโจมตีต่างกระจัดกระจายหนีตายกันอย่างอลหม่าน...

"ตามไป...ฆ่าพวกมันให้หมดอย่าให้เหลือรอดไปทำร้ายชาวบ้านได้นะ" อองเดรสั่งการให้พวกฮิลเคเบี่ยนตามไปจัดการพวกปีศาจที่หนีกระจัดกระจายกันไป
"ดูเหมือนว่าพวกข้าจะชนะซะแล้วนะเรเว่น" ริวโก้เย้ย
"หนอย...ถึงกองทัพข้าจะแพ้แต่ข้าต้องเด็ดหัวเจ้าให้ได้"
"อย่าดีแต่ปากก็แล้วกันเข้ามาเลยเรเว่น"
"ไม่ต้องท้า...ย้ากกก"

ทั้ง 2 เข้าปะทะกันอีกครั้ง เรเว่นซึ่งตอนนี้จิตใจไม่เยือกเย็นดังเดิม เพราะกองทัพแตกพ่าย ทั้งยังเสียม้าและทหารคนสนิท จึงมีความโกรธแค้นเป็นอย่างมาก ฉะนั้นการบุกของเรเว่นจึงไม่อาจจะทำอันตรายใด ๆ แก่ริวโก้ซึ่งเยือกเย็นกว่าได้เลย

"เฮ่อ...ดูเหมือนเจ้าในตอนนี้จะไม่ใช่คู่มือของข้าซะแล้วนะเรเว่น"
"หนอย...เจ้าบังอาจดูถูกข้าเจ้าต้องตาย"
"ข้าเบื่อที่จะสู้กับเจ้าแล้ว ข้าจะจัดการกับเจ้าในดาบนี้ล่ะ" ริวโก้แยกขากว้างขึ้นพร้อมจับดาบ 2 มือระดับอก ปลายดาบหันไปข้างหน้า ด้วยท่าทางตั้งมั่นหมายใช้ท่าพิฆาต
เมื่อเรเว่นเห็นดังนั้นจึงพยายามสงบนิ่งเพื่อใช้ท่าพิฆาตเช่นกัน
"มาตัดสินกันเรเว่น"
"ต้องการอยู่แล้ว"
"ตายซะเถอะริวโก้....โรนิลสไตร์ค.." เรเว่นพุ่งเข้าหาจากได้บนอย่างรวดเร็ว
"หึ ๆ ๆ ข้าชนะแล้วเรเว่น....ดราโก้นิคบาลมุง กระบวนท่าพิฆาตมังกร..."
ตูม.....พริบตาเดียวเรเว่นก็ลงไปนอนกองกับพื้นทันที
ริวโก้ได้โอกาสเอาดาบจ่อไปที่คอของเรเว่น
"หึ ๆ ๆ ข้าพ่ายแพ้แก่เจ้าแล้ว จะฆ่าจะแกงก็เชิญ"
"ข้าไม่คิดจะฆ่าเจ้าแต่แรกแล้วเรเว่น"
"ทำไมกัน"
"ข้ารู้เจ้าโดนคำสาปของจักรพรรดิ์ปีศาจ ข้ารอวันที่จะได้พบกับเจ้าเพื่อถอนคำสาป ข้าพยายามหาวิธีจนรู้ว่า ดาบบาลมุงของข้าในตอนนี้สามารถถอนคำสาปให้กับเจ้าได้"
เรเว่นได้แต่เงียบ ริวโก้หลับตารวบรวมสมาธิและทันใดนั้นบาลมุงก็เปล่งแสงออกมา
"เอาละนะเรเว่น ข้าจะปลดปล่อยเจ้าเดี๋ยวนี้ล่ะ"
แสงที่เปล่งออกมาได้ห่อหุ้มตัวของเรเว่นไว้และได้ชำระความชั่วร้ายในใจของเรเว่นจนหมดสิ้น

Rolan,the Typhon Knight
Lv.2 Mp3/1 Wind Knight
At 7
Df 7
Sp 5
+[wind] Tornado Slash At 9 Mp 2
+[wind][any element] Strom Typhon Slash At 8 (2 Times) Mp 3
เมื่อ Rolan ต่อสู้กับ Seal ที่มี Mp ค่าโจมตีมากกว่า Rolan At+2
เมื่อ Rolan โจมตีไปยัง Df Line Rolan At+1
ตราบเท่าที่ Ryugoh อยู่ในสนาม หรือเป็น Seal รองรวมร่าง Rolan สามารถโจมตีจาก Df Lineไปยัง Df Line ได้

To be continue

มีตัวใหม่อื้อเลยจะแต่งยังไงไหวเนี่ย = =" แทบจะลืมเรื่องหมดแล้วนะเนี่ย ตัวเก่า ๆ จำแทบไม่ได้เยย เหอะ ๆ ๆ ๆ

The Grand Sword of Annedisonge
Ps  Mp 2  (http:///images/sign_inty.gif) turn  Rare

Water ที่ The Grand Sword of Annedisonge ติดอยู่ At+2
Seal ที่ต่อสู้กับ Seal ที่ The Grand Sword of Annedisonge ติดอยู่ เมื่อถูกโจมตีหรือต่อสู้ติด Freeze Curse 1 Turn   หาก Seal ที่ติดมี N(Annedisonge) At+1 Df+1 Sp+1 Mp-1 และป้องกัน Freeze Curse Poision Curse Charm Curse ด้วย
The Grand Sword of Annedisonge ไม่สามารถถูก Cancel จาก Seal ธาตุน้ำได้

โอ้ นี่มันดาบหรือเนี่ย ทำยังกะดาบประจำตระกูลซะได้  :o

มี Mermage แล้ว ต้องมี Merman ถึงจะดี

Dulan,the Merman Knight
Lv.2 Mp 3/2 water Knight
At 8
Df 7
Sp 4
+[water] Frimas Spear At 10 Mp 2
+[water][water] Icicle Trident At 11 Mp 3
Seal ฝ่ายตรงข้าม ที่มี Df น้อยกว่า Dulan Seal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้าม Df-2
เมื่อ Dulan ต่อสู้ สามารถเทียบค่าพลัง กับ ค่า Df ของฝ่ายตรงข้ามได้

ต่อไป Mermaid ( เงือกล้วน ๆ  ;D )

Odett,the Mermaid  ???
Lv.2 Mp2/1 water Mage
At 6
Df 7
Sp 3
+[water] Wheel Wave At 8 Mp 2
+[dark] Charming Song At 9 Mp 2
แสดง [water] หรือ [dark] X ใบ ในมือเรา Seal X ใบติด Charm Curse 2 Turn เมื่อ Odett รวมร่าง (Mp 3)
Seal ที่มี Df น้อยกว่า Odett ไม่สามารถโจมตีมายัง Odett ได้

แล้วตบท้ายด้วย Mystic ประเภท Place

Lemuria
Mp 3 [Place]
n[Mermage] ฝ่ายเรา Mp -1 และสามารถใช้ Skill ได้อีกครั้งแม้ว่าจะเป็น Inactive Seal
n[Mermaid] ฝ่ายเรา Df +1 และเมื่อโจมตีกับ Seal ที่มี Df น้อยกว่า At -2
n[Merman] ฝ่ายเรา At+1 และเมื่อต่อสู้ สามารถเทียบค่าพลัง กับ ค่า Df ของ Seal ที่ต่อสู้ด้วย
n[Lemuria] ฝ่ายเรา ยกเลิก Skill และ Ability ของฝ่ายตรงข้าม และ เมื่อมี n[Lemuria] Seal ทุกใบฝ่ายเรา ยกเลิก Curse และ Mystic Card ของฝ่ายตรงข้าม และฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถยกเลิก Freeze Curse ได้
(เมื่อไม่มี Seal ในสนามฝ่ายเรา ทำลาย Lemuria

จุใจตามประสาคนรักเงือก อิอิ

เอาล่ะมาต่อกัน

หลังจากที่เรเวนพ้นจากคำสาป ทำให้ตัวเขาสลบไปครู่ใหญ่ เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาได้ไปอยู่ที่กระโจมพยาบาลแล้ว
"ขอต้อนรับการกลับมา โรลัน"เสียงที่อยู่ข้างเขาไม่ใช่ใครที่ไหน เสียงของริวโกที่เฝ้าเขาอยู่นั่นเอง
"ริว นายเอง แล้วที่นี่ที่ไหนกัน"โรลันถามอย่างสงสัย
"ที่นี่คือที่พักของเจ้าหญิงอลาน่า นางได้สั่งให้นำตัวนายมาที่นี่"ริวโกตอบกลับ
"ริว ข้าขอโทษที่ข้าได้..."โรลันพูดขอโทษแต่ริวโกตัดบท
"ไม่เป็นไร เพื่อน เรื่องที่มันแล้วไปแล้วก็อย่าไปถือสากับมัน"ริวโกปลอบใจเพื่อนเก่าของเขา
"ขอบใจ ริว"โรลันพูด
"ตอนนี้นายก็หายดีแล้ว ข้าว่าเราจะพานายไปเข้าพบเจ้าหญิงอลาน่าก็แล้วกัน"ริวโกพูดพร้อมกับนำโรลันไปเข้าพบเจ้าหญิง
ทางด้าน พระราชวัง เมื่อราชินีวิโอเรีย รู้ว่ากองทัพปิศาจแพ้อย่างไม่เป็นท่า นางจึงกราดอารมณ์ใส่พวก จตุรมารที่เหลือในตอนนี้
"พวกเจ้ามันงี่เง่าที่สุด กองทัพปิศาจที่แข็งแกร่งอย่างเจ้า ทำไมต้องพ่ายแพ้แก่พวกมดปลวกด้วย"วิโอเรียหัวเสียอย่างมาก
"เชอะ ก็เพราะเจ้าอ่อนแอยังไงล่ะถึงได้ ทำให้เราเกือบติดเชื้อความอ่อนแออย่างเจ้าด้วย"มาย่าเริ่มยียวน เพราะตอนนี้นางเก็บกดอย่างมาก
"สามหาว นี่เจ้ากล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าราชินีอย่างข้ารึ"วิโอเรียเริ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ก็ได้นำขวดไวน์ขว้างใส่มาย่า (คราวก่อนแก้วงานนี้ทั้งขวด) แต่แกรนซอนได้รับเอาไว้
"มันจบแล้วสำหรับเจ้า"แกรนซอนพูดต่อหน้าราชินี
"ว่าไงนะ นี่เจ้า"วิโอเรียเริ่มกระส่ำ
"ข้าได้รับสั่งจากองค์จักรพรรดิ์ ให้มากำจัดเจ้าแทน"แกรนซอนพูดพร้อมกับร่ายมนต์บางอย่างรอบตัวนาง
"เจ้าจะทำอะไรกับข้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ"วิโอเรียรู้สึกกลัวเมื่อมีแรงดันมาจากไหนไม่มีที่มากดนางเอาไว้
"ตัวเจ้า จบสิ้นซะ Dark Consume"แกรนซอนใช้เวทย์นี้กำจัดนาง
"ไม่นะ ปล่อยข้า ไม่"สิ้นเสียงของวิโอเรีย ตัวนางได้ถูกดูดเข้าไปยังตัวของแกรนซอน ทำให้ร่างกายของเขาตอนนี้ ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และพลังเวทย์ที่มากพอที่จะต่อกรกับเทพบนสวรรค์ได้
"เจ้ามันโง่ ที่เชื่อใจพวกข้า ตอนนี้อยู่อย่างทรมานในร่งข้าจะดีกว่า"แกรนซอนพูดจบ มาย่าได้เข้าไปถามเขา
"แล้วจะอย่างไรกับ เจ้าหญิงอลาน่าดี"มาย่าพูดกับเขา
"ให้พวกมันเข้ามายังที่นี่ ข้าจะจัดการพวกมันส่งไปยังนรกให้หมด ฮ่า ๆ ๆ ๆ"เมื่อเสียงหัวเราะของแกรนซอนและมาย่าออกมา ทำให้รู้สึกถึงความสยดสยองขึ้นมาทันทีทันใด

Neo Granson,the Prison King
Lv.4 Mp5/3 Dark Mage/Evil
At 10
Df 11
Sp 4
+[Dark] Darkness Smasher At 13 Mp 4
+[Dark][Dark] Gravity Blaster At 10[all] Mp 5
ทำลาย Seal 1 ใบในสนาม (MP 4)
Sacrifuce [Dark] 1 ใบ ทำลายSeal ทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้าม (Mp 5)
Neo Granson ยกเลิก SKill และ ALibity ของ Seal ทุกใบในสนาม

การ์ดที่ออกมามีแต่ หมวก ถุงมือ เสื้อคลุม ดาบ ไม่ยักกะมีเสื้อเกราะกับรองเท้าบ้างเลยแฮ่ะ

The Body Suit of Annedisonge
Mp 3 Ps  (http:///images/sign_inty.gif) Turn Relic

น้ำที่ติด The Body Suit of Annedisonge จะได้รับ Ability "เมื่อฝ่ายตรงข้ามโจมตีใส่ Seal ที่ติด The Body Suit of Annedisonge เราสามารถเลือกให้ค่า At  ของฝ่ายตรงข้ามลดตาม Mp ค่าร่าย ของ Seal ใบนั้น (Ability นี้เกิดขึ้นได้ 1 ครั้งใน 1 Subturn)"
หาก Seal ที่ติด The Body Suit of Annedisonge คือ N(Annedisonge) Df+3 Mp-1 และสามารถร่ายได้แบบ (http:///images/sign_inf.gif)
Except Evil Monster Beast

Armour of Speed (เกราะขา)
Mp 4 Ps (http:///images/sign_inf.gif) 0 Turn

Seal ที่ติด Armour of Speed สามารถหลบการโจมตี Skill และ Ability ได้ทุกชนิดใน Subturn นี้
Except พวกที่ไม่มีขา ^^"

ต่อเหอะอยากอ่านต่ออ่ะ

Goddes of Annedisonge
Devas inf Turn Mp4 PA
n[annedisonge]ทุกใบในสนามฝ่ายเรา ป้องกันจาก Mysitcard ฝ่ายตรงข้าม
เมื่อมี Mysitcrad ติดบน n[annedisonge]ในสนามฝ่ายเรา Mysitcard นั้นจะส่งผล inf Turn แทน

หลังจากที่วิโอเรียถูกแกรนซอนกลืนร่างเข้าไป อาณาจักรแอนดิซองค์ก็ตกอยู่ในความมืด ท้องฟ้ามีเมฆดำปกคลุมตลอดเวลา บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความชั่วร้าย ....

"ท้องฟ้ามืดมิด เป็นลางร้าย....." นางพยากรเฟรย่า พูดขึ้น
"จะมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นหรือจ๊ะ ท่านเฟรย่า" องค์หญิงอลาน่าถาม
"ความมืดกำลังจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง เมืองแอนดิซองค์ ไม่ซิทั้งทวีปเมอร์ลิเซียจะเกิดภัยพิบัติอันใหญ่หลวง"
"แล้วเราจะมีทางหยุดยั้งมันได้หรือไม่" องค์หญิงมีท่าทีกังวลมาก
"องค์หญิงไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ข้าอองเดรผู้นี้ยังอยู่ หม่อมฉันจะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้ององค์หญิงและชาวเมืองแอนดิซองค์ให้ได้พะยะค่ะ" อองเดรให้คำมั่น
"แม้ท่านอองเดรจะมีพลังมากมายแค่ไหน แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟคงไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้" เฟรย่าพูด
"ถ้าเช่นนั้นเราจะทำเช่นไรดีท่านเฟรย่า พอจะมีหนทางให้พวกเราบ้างหรือไม่" แฮริสันถาม
"ตอนนี้ข้าเองก็ยังไม่รู้ คงได้แต่สวดมนต์ภาวนากัน..."
"หากเป็นเช่นนั้นเราจะสวดมนต์ขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า ได้ทรงโปรดเมตตาแด่มวลมนุษย์ด้วยเถิด" องค์หญิงอลาน่ากล่าวด้วยสำเสียงวิงวอน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ท่านซิกมันต์....ท่านซิกมันต์...."
"มีเรื่องอะไรรึ ท่านแม๊กซิมอส"
"ของที่ท่านต้องการ ข้าทำเสร็จแล้ว นี่ไง" แม็กซิมอสยื่นของสิ่งหนึ่งให้กับซิกมันต์
"ดาบเล่มนี้ช่างงดงามยิ่งนัก ท่านแม็กซิมอส แถมยังมีน้ำหนักเบาและเหมาะมือข้ามาก" ซิกมันต์มีท่าทีพอใจอย่างมาก
"มันมีชื่อหรือไม่ท่านแม๊ก"
"อืม....ข้าเองก็ไม่ทันนึกซะด้วยซิ..."
"รูปร่างดาบค่อนข้างใหญ่ แต่ดูไม่เทอะทะ แถมเปี่ยมไปด้วยพลังทำลาย ให้ชื่อ .........น่าจะเหมาะนะพะยะค่ะ" ชาร์ลเดินเข้ามาทำความเคารพซิกมันต์ทันที
"เป็นชื่อที่ดีขอบใจเจ้ามากนะชาร์ล"
"กระหม่อมยินดีที่พระองค์พอพระทัย" ชาร์ลทำความเคารพอีกครั้ง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางด้านปราสาทแอนดิซองค์ แกรนซอนนั่งอยู่บนบัลลังก์ โดยมีมาย่าอยู่ข้าง ๆ
"มาย่า เจ้าเตรียมการไปถึงไหนแล้ว"
"การเตรียมพิธีกรรมใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วแกรนซอน"
"ดีมาก เมื่อทำพิธีสำเร็จแล้ว องค์จักรพรรดิ์จะได้เข้ามายังโลกนี้ได้"

Emperor of Evil
Mp 5/3  Dark  Evil  Lv. 5 Rare
At 10
Df 12
Sp 5

Ability  
เมื่อ Emperor of Evil  ถูกโจมตี At+ ตามจำนวน Evil ในสนาม และ Seal ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่  Df Line  
เมื่อ Emperor of Evil เข้ามาในสนามนำ Seal 5 ใบแรก จากกองการ์ดลงมาในสนาม หาก Seal นั้นเป็น Evil
เมื่อ Seal ฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยน Line  จาก  At Line ไป  Df Line  Emperor of Evil  At+ตามจำนวน Seal ที่เปลี่ยน Line  Infinite Turn
Emperor of Evil  At-  ตามจำนวน N(God)
Emperor of Evil Cancel Mystic Cancel Death Curse Poison Cure Last Dance Cure จาก Evil Cancel Skill  และ  Ability  ของ Seal ฝ่ายตรงข้าม ที่ไม่มี N(God)  Seal ที่มีเป้าหมายโจมตีมาที่ Emperor of Evil ที่ไม่มี N(God) สูญเสีย Ability จนจบการต่อสู้
Evil ใบอื่นทุกใบในสนาม At+2
ในสนามไม่สามารถมี Emperor of Evil เกิน 1 ใบได้

"และเมื่อถึงวันนั้นโลก terra จะต้องกลายเป็นนรก ฮ่า ๆ ๆ ๆ " มาย่าหัวเราะอย่างชอบใจ
"แต่ก่อนองค์จักรพรรดิ์จะมา เราต้องสะส้างเรื่องให้เสร็จเสียก่อน องค์หญิงอลาน่าจะต้องตาย"
"คราวนี้ข้าจะยกทัพไปเอง...."
"ไม่มาย่า...คราวนี้ข้าแกรนซอนจะไปด้วยตัวข้าเอง เพื่อความแน่นอนข้าจะกลืนร่างของพวกมันทุกคนมาอยู่ในร่างของข้า ฮ่า ๆ ๆ  ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ "
เสียงหัวเราะของมารร้ายดังกระหึ่มไปทั่วอาณาจักรแอนดิซองค์.......
To be continue........

..........., the sword of Zigmund
Mp 3 Ps (http:///images/sign_inty.gif) Turn Relic
Knight ที่ ..........., the sword of Zigmund ติดอยู่ At+2 Sp+1
หาก Seal ที่ติดคือ N(Zigmund) จะได้รับ เมื่อโจมตีสามารถทิ้งการ์ดบนมือ 2 ใบ และนำการ์ด 2 ใบจากกองการ์ดเข้ามาในสนาม โดยไม่ต้องจ่ายค่าร่ายด้วย
เมื่อ N(Zigmund) เข้ามาในสนาม สามารถนำ ..........., the sword of Zigmund จากมือหรือกองการ์ด 1 ใบมาติดที่ N(Zigmund)
Except Seal Lv. 2 ลงไป

เรานึกชื่อดาบที่เหมาะไม่ออกอ่ะ ไงก็ช่วย ๆ กันเสนอชื่อหน่อยนะครับ

เราก็ชอบเล่นธาตุน้ำโดยเรามองว่าน้ำน่าจะเน้นการป้องกันด้วยสกิล แล้วยกการป้องกันด้วยขนาดให้ดินไป แล้วยกจ่าย1 ตี9 ให้ไฟหน่ะ
 ชื่อตั้งมั่วๆอยากให้ดูความสามารถมากกว่า...นะ
bobo
2/1 Water monster Lv.1 uncom
At 5 Df 6Sp 2
+Water    bobo gaze  At7Mp 1
Skill  target seal cant attack or use skill until the end of subturn when bobo is in state of combination[At Line] [Mp 3](int)

yono
2/1 Water monster Lv.2 uncom
At 6Df 8Sp 3
+Water  yono screech At9Mp 2
Skill  target seal cant attack or use skill until the end of turn when yono is in state of combination[At Line] [Mp 2](

boroso
4/1 Water monster Lv.3 rare
At 7Df 10Sp 3
+Water    boroso roar A8Mp 3
+Water water  boroso echo A10Mp 4
Skill  target seal gain protection from being attack by seal with at of 9 or more until the end of turn when boroso is in state of combination (df line)[Mp 4)

bluemageoffmystique uncom
3/1 Water mage Lv.2
At 6Df 8Sp 3
+Water  mystique casting At9Mp 2
Skill  search you mystic library for a mystic card when bluemageoffmystique
is in state of combination[At Line] [Mp 3]

bluemageoffsperl uncom
3/1 Water mage Lv.2
At 7Df 8Sp 3
+Water  sperl casting At8Mp 2
Skill  remove a mystic card in your hand from the game, you may play it any time you could play an interfear this turn when bluemageoffsperl is in state of combination[At Line] [Mp 2](int)


mana famillier rare
2/1 Water beast Lv.1
At 4Df 4Sp 3
+Water  mana feather At7Mp 1
your mp max +2 as long as mana famillier is in state of combination


gabogo uncom
2/1 Water monster Lv.2
At 6Df7 Sp 2
+Water    gabogo horn At9Mp 2

Skill  all seal with curse get poision curse 1 turn when gabogo is in state of combination (at line)[Mp 3)

interoc common
2/1 Water monster Lv.1
At 4Df4 Sp 2
+Water  mist  At6Mp 1

Skill  target seal get freeze curse 1  subturn when interoc is in state of combination (at line)[Mp 3)(int)


outeroc common
1/1 Water monster Lv.1
At 4Df4 Sp 2
+Water  mist  At7Mp 1

Skill two target seal get freeze curse 2 turn when outeroc is in state of combination (at line)[Mp 2)

กลายเป็น โปเซดอน ตั้งโต๊ะเลยแฮะ
มีแบบนี้ 3ใบในสนาม กับ โปเซดอนอีก2ใบ
ยอมแพ้เลยดีกว่า

อุอุ เพิ่งเข้ามาขอซักใบ
Hybornlear'the Annedisonge Hero
mp 3/1              water   lv.3
at 10   df 11  sp 3
+water wind    Thunter strom  at 13 mp 3
+water any    kasaruns kron killer   at 12 mp3
skill เมื่อ Hybornlear'the Annedisonge Hero โจมตี ต้องdis seal 1ใบ
เมื่อHybornlear'the Annedisonge Hero ถูกโจมตี Hybornlear'the Annedisonge Hero และseal ที่ต่อส่ด้วย ยกเลิก mystic card

ไม่มาตั้งนานคนเก่า ๆ หายไปไหนหมด อิอิ

รื้อฟื้นนิด ๆ กับดาบคู่ของโรลัน

Murasame&Masamune
Ps Mp2 Relic Inf Turn
Knight ที่ติด At+2 Sp+1
หาก Seal ที่ติดคือ Rolan,the Typhon Knight Mp ค่าร่าย-1 ได้รับ Alibity สามารถโจมตีข้ามไปยัง Df Line ได้ และ สามารถ เลือก 1 อย่าง
n[Rolan] Sp+2 ได้รับ Alibity เมื่อต่อสู้กับ Seal ที่มี Sp น้อยกว่า At+2  
n[Rolan] Sp-2 ได้รับ Alibity เมื่อต่อสู้กับ Seal ที่มี Sp มากกว่า At+2  

สร้างเล่นๆ
poring,the jelly
Mp1/1 Monster น้ำ Lv.1
at3  df3 sp3
+water roupe at6 mp1
-water water poringattact at9 mp2
skill-steal mystic card ประเภทliric1ใบในสนามเมื่อporingรวมร่าง(mp2)

คิดออกใบเดียวไวนหลังจะมาโพสใหม่
Msm anon_p1@hotmail.com

ทำไมไม่มีใครสนใจบอร์ดีนี้เลยอ่า

เหอ ๆ นาน ๆ ตอบที

ว่าแล้วก็

Kirara, the Water Magus
Lv.2 Mp2/1 water Mage
At 6
Df 8
Sp 4
+[Water] Frost Driver At 10 Mp 3
+[Water] [Water] Aqua Blast At 9(all) Mp 4
[Skill] Seal ที่มี Sp 2,3,4,5 ติด Freeze Curse X ตัว X Turn เมื่อ รวมร่าง [inf] (Mp 3)
Seal ที่ติด Freeze Curse At-2 Mpค่าโจมตี+2 (Mp 1)
Freeze Curse ไม่สามารถรักษาได้

chacha,the water mage of annedisonge
lv.2 water mage 2/1
at8 df9 sp4
+water  water bombard  at10 mp2
+water water   water world at10<all>mp5
<skill>freeze curse x เทิร์น<all><mp3+x>
(เมื่อ xคือจำนวน<mage>ธาตุน้ำใบอื่นในสนามฝ่ายเรา)
<annedisonge>ทุกใบในสนามยกเลิกcurseทุกชนิด
ตราบเท่าที่chacha,the water mage of annedisongeอยู่ในสนามซีลทุกใบในสนามฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถยกเลิกfreeze curseได้
(abilityนี้ไม่สามารถถูกยกเลิกได้)
โกงไปรึเปล่าเนี่ย

ค่าพลังโกงไปหน่อยงับ


น่าจะแค่นี้พอ เพราะ Skill กับ Ability กินขาด

chacha,the water mage of annedisonge
lv.2 water mage 3/1
at7 df8 sp4
+water  water bombard  at9 mp2
+water water  water world at8<all>mp4

บ้างดีกว่า

Lowel,The Annedisonge SwordsMagician
Lv.2 Mp3/1 water Knight Mage
At 7
Df 6
Sp 4
+[Water] Aqua Sword At 9 Mp 2
+[Water] [Water] Frost Weapon At 10 Mp 3
[Skill] นำ Lowel เข้ามายัง Atline จากมือ โดยไม่ต้องจ่าย Mp ค่าร่าย
Seal 1 ใบในสนามฝ่ายตรงข้ามติด Freeze Curse ตามจำนวน
N(Anndisonge) ในสนามฝ่ายเรา (int) (Mp4)
[Skill] Sacrifire [Water] Lv.X 1 ใบ; Seal 1 ใบติด Freeze Curse X Turn [int] [Atline] [MpX]
เมื่อเข้าสู่ Subturn ป้องกันเราหากมี N[Annedisonge] อยู่ในสนามตั้งแต่ 2 ใบขึ้นไป เราสามารถเลือก Seal 1 ใบ Seal นั้นติด Freeze Curse จนจบ Subturn เมื่อ Lowel รวมร่างกับ [Water] [Atline]
Lowel Cancel Freeze Curse และ Poison Curse

เจอธาตุน้ำที่abilityกับสกิลโกงๆหน่อยไม่ได้เลยนะเป็นอันต้องแก้

ขุดแล้วแถม

Elfaria,the Annedisonge Blue Mage
Lv.2 Mp3/1 water Mage
At 7
Df 7
Sp 4
+[water] Blue Sphere At 10 Mp 2
+[water][water] Water Field At 9 [all] Mp 5
Shade of Elfaria,the Annedisonge Fighter
[Skill] นำการ์ด 1 ใบในสนาม กลับขึ้นมือ Seal 1 ใบ ติด Freeze Curse,Poison Curse 2 turn เมื่อ รวมร่าง(Mp 3)
เมื่อ ตกเป็นเป้าหมายการโจมตี นำ Seal 1 ใบจากมือเข้ามาในสนาม จากนั้นย้ายเป้าหมายการโจมตี มายัง Seal นั้น

Frost,the Annedisonge Magician Fist
Lv.2 Mp3/2 water Pugilist Mage
At 8
Df 8
Sp 3
+[water] Glacier Pressure At 10 Mp 3
+[water][any element] Water Field At 9 (all) Mp 5
Shade of Frost,the Annedisonge Fighter
เมื่อ เข้ามายังสนามที่ไม่ใช่จากการร่าย +Mp ตามจำนวน water หรือ Pugilist ในสนาม
เมื่อ ตกเป็นเป้าหมายการโจมตี Seal ที่โจมตีกลายสภาพเป็น inactive seal แทน

Princess of Cup
Mage
Water
Mp 4/1
Lv 3
At 9
Df 10
Sp 3
+ [ Water ] Dimond Lips At 11Mp 2
+ [ Water ][Water ] Dimond Strom At 10[All]Mp 5
[Skill ] นำ Seal 1 ใบที่ติด Freeze Curse ออกจากเกมส์
จากนั้นเจ้าของ Seal นั้น หา Seal  ที่มี Lv = Sealนั้น
จากกองเข้ามาที่ Df line แต่ Seal ที่เข้ามากลายเป็น Inactive Seal

โทษทีล์มบอกไป [ At line ][Mp 3 ]  :P

Soilder mage of annedisonge : Almana
Lv 3 ธาตุ น้ำ เผ่า Mage,Soilder Mp 3/2
At 9 Df 5 Sp 4
+ น้ำ <Water ball> At 11 Df 6 Sp 3
+ น้ำ น้ำ <Super Water Ball> At 10 (All) Df 4 Sp 5
+ (n) Mage  <Double Magic Ball>At 9 ( 2 times )
Ability : เมื่อ Almana เข้ามาในสนาม Seal ทุกตัวที่เป็นธาตุน้ำที่ตก Shine กลับขึ้นมือ
Almana โจมตีฝ่ายศัตรูที่เป็นธาตุน้ำ ศัตรู At -2
Skill : สลับ At,Df ของศัตรูตัวใดตัวหนึ่งที่ At 5 ขึ้นไปโดยที่ไม่ใช่ธาตุ น้ำ  (Mp 3 )