Title: อันตรายจากน้ำ(DANGEROUS WATER) Post by: PRINCE OF MICHAEL on January 31, 2009, 07:08:33 AM Dangerous water
พอดีเห็นพี่แชมป์ออกมาเตือนเรื่อง การต้มน้ำในไมโครเวฟ ประกอบกับพอดีผมได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของน้ำมา ก็เลยขอนำอันตรายที่มาจากน้ำมาฝากกัน ::001:: การต้มน้ำประปาหรือน้ำแร่ นอกจากจะไม่กำจัดฝุ่นผงหรือสารเคมีต่างๆแล้วการต้มน้ำยังจะทำให้น้ำจำนวนมากระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เหลือจึงมีปริมาณแร่ธาตุ ชนิดต่างๆ เข้มข้นขึ้นมาก และเกินมาตรฐานการบริโภค น้ำที่ต้มเดือดนานๆ ไอออนของซิลเวอร์ไนเตรทที่อยู่ในน้ำจะเปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ไนไตรท์ซึ่งเป็นสารที่ให้โทษแก่ร่างกาย และแร่ธาตุบางอย่างที่เป็นโทษต่อร่างกาย จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพราะการระเหยของน้ำและอาจมากจนเกินขีดจำกัด ความสามารถของร่างกายในการกำจัดขับถ่ายออกมาจึงไม่ควรดื่มน้ำที่ต้มแล้วไม่ว่าจะเป็นน้ำประปาหรือน้ำแร่ก็ตาม และเนื่องจาการบำบัดน้ำของการประปาไทยจะใช้สารคลอรีนด้วย โดยเมื่อคลอรีนโดนความร้อนจะเกิดเป็นคลอโรฟอร์มซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง(ตรงนี้สำคัญมากครับเพราะมะเร็งเป็นโรคที่คนไทยเป็นเยอะมากเป็นอันดับ 1-2 กินวันเดียวไม่เป็นหรอกครับแต่กินตลอดชีวิตไงครับถึงได้เป็นกัน) และยังเปลืองค่าใช้จ่ายอีกด้วย วิธีแก้ไขหากจำเป็นต้องต้มน้ำ 1.ต้มน้ำจนเดือดอย่างน้อย20นาที(นับเวลาที่เดือดปุดๆไม่ใช่เวลาที่เริ่มจุดไฟ)เพราะเชื้อโรคในน้ำจะตาย(จริงๆไม่ได้ตายแค่เป็นหมันแต่แค่มันเป็นหมันมันก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว) ::003:: 2.ไม่ควรต้มน้ำในไมโครเวฟด้วยเหตุผลที่พี่แชมป์ได้บอกไว้ในกระทู้ก่อน ::017:: ปล.หลายคนอาจสงสัยว่าสามารถเอาน้ำดื่มบรรจุขวดหรือน้ำจากเครื่องกรองน้ำมาต้มได้หรือไม่ ตรงนี้ขออธิบายเพิ่มในส่วนถัดไป น้ำดื่มบรรจุขวด ถึงเราจะมองข้ามในเรื่องราคาที่แพงเกินควร(อย่างมากถ้าเทียบกับต้นทุน)น้ำดื่มบรรจุขวดยังมีข้อเสียดังนี้ 1.น้ำดื่มบรรจุขวดทั่วไป(ที่ไม่ใช่น้ำแร่) จะบำบัดน้ำด้วยวิธีการRO(รีเวอร์สออสโมซิส) อธิบายคร่าวๆก็คือการอัดน้ำผ่านเยื่อหุ้มบางๆ ข้อดี ต้นทุนถูกถ้าผลิตในจำนวนมาก และบำบัดได้สะอาดปราศจากเชื้อโรค ไวรัสและสารเคมีต่างๆ(เพราะไม่สามารถลอดผ่านเยื่อหุ้มมาได้) ข้อเสีย ROจะกำจัดแร่ธาตุในน้ำไปด้วยซึ่งจะส่งผลให้การดื่มน้ำบรรจุขวดเป็นเวลานาน จะทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน(เหตุผลขอไม่กล่าวถึงเพราะมีหลายปัจจัย+ข้อมูลเยอะมาก) 2.น้ำแร่บรรจุขวด ข้อดี มีแร่ธาตุที่ต้องการ(และไม่ต้องการ) ข้อเสีย ไม่ได้ผ่านการบำบัดใดๆมาเลยถึงจะมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติแต่น้ำในธรรมชาติแม้บนภูเขาสูงก็มีเชื้อโรคและสิ่งต่างๆเจือปนมาได้เช่นกันแต่ถ้าจะซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดดื่มแนะนำให้ซื้อน้ำแร่เพราะเชื้อโรคที่ปะปนมายังไม่เคยตรวจพบตัวไหนที่ทำให้ถึงตายได้(แค่ป่วย) ::010:: ปล.สรุปได้ว่าไม่ควรใช้น้ำบรรจุขวดมาต้ม ข้อควรรู้เกี่ยวกับน้ำ 1.น้ำดื่มยี่ห้อnes..tle ได้ผ่านมาตรฐานNSF(มาตรฐานน้ำดื่มที่สูงกว่าอย.ไทยอย่างมาก) ฟังแล้วเหมือนจะดี แต่ที่ผ่านนะแค่บรรจุภัณฑ์หรือแค่ขวดนั่นเอง ::019:: 2.น้ำดื่มทุกยี่ห้อที่บอกว่า น้ำดื่มจากฝรั่งเศสและอื่นๆ ผลิตในไทย(บริษัทแม่อยู่ต่างประเทศแต่ใช้แหล่งน้ำในไทยและผลิตในไทย) 3.น้ำที่บรรจุใส่ขวดขาวใหญ่ๆ(ที่พวกร้านอาหารชอบใช้)99%ไม่ได้บำบัดด้วยวิธีการใดเลย โดยมีเจ้าหนึ่งได้บอกว่าฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี แต่พอมีการตรวจสอบกับพบว่าเป็นเพียงการนำขวดน้ำไปวางตากแดดไว้(เค้าไม่ได้โกหกเพราะฆ่าแล้วจริงๆแค่เชื้อโรคมันไม่ตาย) ::015:: เครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองน้ำถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการบริโภคน้ำและยังราคาถูกกว่าวิธีอื่นในระยะยาว แต่ต้องเลือกเครื่องกรองน้ำที่ดีมีคุณภาพด้วย โดยควรเลือกเครื่องกรองน้ำที่มีคุณลักษณะดังนี้(ต้องมีครบทุกข้อ) 1.มีไส้กรองคาร์บอน โดยต้องเป็นคาร์บอนแท่งเดียวไม่ใช่ผงหรือหลายๆแท่งเพราะจะเกิดช่องว่างขณะน้ำแทรกผ่านทำให้มีสารปนเปื้อนและเชื้อโรคผ่านไปได้(เครื่องกรองน้ำแบบท่อในไทยเป็นแบบแท่งเล็กๆหลายแท่งซะเกือบหมด) และต้องมีขนาดรูของคาร์บอน0.2ไมครอนจึงเหมาะสมที่สุด(เล็กกว่า0.2แร่ธาตุที่จำเป็นผ่านไม่ได้ ใหญ่กว่า0.2สารปนเปื้อนที่มีผลเสียต่อร่างกายผ่านได้) 2.ต้องมีหลอดยูวี ที่มีความเข้มแสงตั้งแต่40nmขึ้นไป(เชื้อโรคตายที่10 แบคทีเรืย20 และไวรัส40) 3.ต้องมีระบบเซฟตี้กันฟ้าผ่า ไม่งั้นฟ้าผ่าทีได้ซื้อเครื่องใหม่แน่นอน ยี่ห้อที่แนะนำ เครื่องกรองน้ำที่ผ่านมาตรฐานNSFทั้ง3ข้อที่เกี่ยวกับน้ำที่ใช้ในการบริโภค ในโลกนี้มีแค่3ยี่ห้อ ซึ่งใช้วิธีการเดียวกันในการบำบัดน้ำ(ข้อ1-2ข้างต้น) แต่ในไทยมีการนำเข้ามาขายเพียงยี่ห้อเดียวคือ E-SPRING(จากที่ศึกษาด้านการตลาดมาที่ไม่นำมาขายเพราะราคาขายสูงกว่ายี่ห้อในไทยค่อนข้างมาก) โดยE-SPRINGเป็นเครื่องกรองน้ำที่นำเข้าโดยบริษัท แอมเวย์ ประเทศไทย(บอกไว้นิดนึงว่าผมไม่ได้ขายAMWAYนะ) โดยมีราคาเริ่มต้นที่27000บาท ซึ่งอาจดูสูง แต่เมื่อรวมการเปลี่ยนไส้กรอง+ค่าไฟแล้วเทียบระยะเวลา10ปีจะใช้ต้นทุนน้ำต่อลิตรประมาน1.35บาท ซึ่งถูกกว่าน้ำบรรจุขวดและเครื่องกรองน้ำแบบท่อที่แม้ราคาเริ่มต้นจะถูก แต่ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อย และยังได้ประสิทธิภาพการกรองไม่ดีเท่า ปล.ผมสรุปมาจากวิทยานิพนธ์ของผมครับอาจดูเละเทะไปบ้างต้องขออภัยด้วย ::005:: ปล.2อันนี้ไม่รู้ว่าผิดกฎบอร์ดรึเปล่า แต่ผมมีน้องอยู่คนนึงมันทำAMWAYอยู่ แต่ผมซื้อเครื่องกรองน้ำE-SPRINGไปนานแล้ว เลยไม่ได้ซื้อไรช่วยมันเลย ถ้าใครสนใจแล้วอาศัยหรือพักอยู่ในกรุงเทพ ปริมนฑล ก็ฝากอุดหนุนน้องเค้าหน่อยละกันครับ น้องเค้าชื่อไปป์เบอร์มือถือเค้า 087-5566009(เหนเค้าว่ามีผ่อนด้วยนะแต่ผมไม่ได้ถามมาว่าผ่อนเดือนเท่าไร) ::014:: ปล.3เดี๋ยววันอาทิตย์หรือจันทร์จะมาโพสเรื่อง แฉความจริงของคุณภาพสินค้าตามท้องตลาดกับสิ่งที่หลอกเรามานาน เพราะขณะโพสนี่ตี3กว่า ไม่ไหวแล้ว ::017:: Title: Re: อันตรายจากน้ำ(DANGEROUS WATER) Post by: the St. of Amara on January 31, 2009, 02:01:36 PM กระจ่างหลายอย่าง
น้ำดื่มบรรจุภัณฑ์ฆ่าด้วย UV เหอๆๆ Lae - Di - Loh ขอบคุณครับได้รับความรู้หลายอย่างเลย Title: Re: อันตรายจากน้ำ(DANGEROUS WATER) Post by: ~+*_KiTTy_AzAr_*+~ on February 05, 2009, 03:20:34 AM โอ๊ส
เซฟ Title: Re: อันตรายจากน้ำ(DANGEROUS WATER) Post by: [Dex]Deuce on February 07, 2009, 03:03:00 AM บทความดีจังเลย ขอบคุณครับ
Title: Re: อันตรายจากน้ำ(DANGEROUS WATER) Post by: Suchan.poloplow on February 22, 2009, 01:17:33 AM ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ครับ
ปล. ต่อไปผมจะขึ้นไปอยู่บนยอดดอย รองน้ำฝนกินละ ::010:: Title: Re: อันตรายจากน้ำ(DANGEROUS WATER) Post by: ~+*_KiTTy_AzAr_*+~ on February 22, 2009, 01:45:50 AM ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ครับ น้ำฝนเจือปนสารเคมีจากโรงงานที่ปล่อยควันล่องลอยในอากาศครับ ::008::ปล. ต่อไปผมจะขึ้นไปอยู่บนยอดดอย รองน้ำฝนกินละ ::010:: |