Title: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: เซนต์ แมกนัส on January 22, 2009, 04:44:52 AM คลีนิกยอมชดใช้เหยื่อลูกเจ็บปากหมอขลิบจู๋แม่โร่ร้องสื่อ
21 มกราคม 2552 19:54 น. แม่โร่ร้องสื่อลูกชายวัย 12 ปีถูกหมอคลินิกดังผ่าตัดมั่ว เผยเป็นแผลในปากกลับจับขลิบอวัยะเพศ เด็กร้องทักแต่ไม่ฟัง ถามเจ้าของคลินิก ตอบหน้าตาเฉยผิดไปแล้วแก้ไขไม่ได้ ซ้ำไม่ยอมบอกชื่อหมอมือผ่า ล่าสุดผอ.คลีนิกยอมชดใช้ความผิดพลาดแล้ว เมื่อเวลา 13.30น. วันที่ 21 มกราคม นางรัตนาพร มนัสชื้น อายุ 45 ปี อาชีพแม่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 24/6 หมู่ 6 ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้พานายเศรษฐศิริ คู่โค อายุ 19 ปี และ ด.ช.ภานุมาศ คู่โค อายุ 12 ปี บุตรชายเดินทางมาร้องเรียนที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 กรณีที่บุตรชายเดินทางไปรักษาแผลในปากที่คลินิกในสังกัดโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่แพทย์ประจำคลีนิกได้รักษาผิดวัตถุประสงค์ของผู้ป่วย โดยได้ทำการขลิบที่อวัยะเพศแทนการรัษาแผลในปาก นางรัตนาพร เปิดเผยว่า ด.ช. ภานุมาศ บุตรชายคนเล็ก ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในพื้นที่อำเภอพระประแดง โดยเมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา บุตรชายได้เกิดเม็ดแข็งๆ คล้ายเม็ดถั่วเขียวขึ้นที่ริมฝีปากด้านในมุมซ้าย 1 เม็ด จึงพาไปพบแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นคลินิกในสังกัดหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคที่มีสิทธิอยู่ และแพทย์ได้นัดหมายให้มารับการผ่าตัดในเวลา 22.00 น.วันเดียวกัน เมื่อเดินทางมาตามเวลานัดหมาย ได้มีนายแพทย์ 1 คนและพยาบาล 2 คน ให้บุตรชายเข้าไปรักษาในห้องผ่าตัดโดยห้ามตนและบุตรชายคนโตเข้าไปด้วย "ระหว่างผ่าตัด ฉันได้ยินเสียงลูกร้องไห้ บอกว่าเจ็บมาก จึงเดินไปดูเห็นหมอกับพยาบาลกำลังช่วยกันใช้สำลีซับเลือดที่บริเวณอวัยวะเพศของลูก พอกลับมาบอกลูกคนโตให้ไปดูน้อง ปรากฎว่าพยาบาลรีบเดินมาปิดม่านบังตาทันที หลังจากผ่าตัดเสร็จได้ถามลูกว่าหมอผ่าตัดตรงไหน ลูกบอกว่าหมอขลิบอวัยวะเพศ ตนนั้นตกใจมาก" นางรัตนาพร กล่าวและว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ต.สายันต์ ภูพรรนา พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จากนั้นเดินทางไปพบแพทย์คลิกนิกดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงสาเหตุของความผิดพลาดและการรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้รับคำตอบว่า "ผิดพลาดไปแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้" เมื่อสอบถามถึงชื่อนามสกุลของแพทย์ที่ทำการผ่าตัด กลับได้รับการปฏิเสธ ไม่ยอมเปิดเผย รวมถึงพยาบาลที่เข้าเวรในคืนนั้นด้วย ด้าน ด.ช.ภานุมาศ กล่าวว่า "หมอให้ผมเข้าห้องผ่าตัด บอกให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วสั่งให้ถอดกางเกงออก ตอนนั้นผมทักท้วงหมอ บอกว่าเจ็บที่ปาก ไม่ใช่ที่อวัยวะเพศ แต่หมอกับพยาบาลไม่ฟัง ฉีดยาชาที่อวัยวะเพศแล้วผ่าตัดทันที ผมตกใจมาก พยายามบอกหมอให้หยุด แต่ไม่ได้ผล" ขณะที่ นายเศรษฐศิริ กล่าวว่า หลังจากน้องชายออกจากห้องผ่าตัดได้เข้าไปสอบถามแพทย์ว่า ทำไมไม่ผ่าตัดที่ปากตามที่วินิจฉัย แต่แพทย์กลับบ่ายเบี่ยงที่จะผ่าตัดที่ปากให้ จนกระทั่งแม่และตนไม่ยอม แพทย์จึงยอมผ่าตัดเม็ดที่ปากของน้องชายให้ตามวัตถุประสงค์ ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะที่จะเข้าไปรับการผ่าตัด มารดาได้เห็นประวัติคนไข้หรือไม่ นางรัตนาพร กล่าวว่า แพทย์และพยาบาลไม่ได้เรียกชื่อคนไข้แต่อย่างใด รวมทั้งไม่เห็นแพทย์มีประวัติคนไข้ด้วย เมื่อต้องการขอดูว่าประวัติในการรักษาถูกต้องหรือไม่ ทางเวชทะเบียนได้รีบซ่อนประวัติคนไข้ทันที โดยไม่ยอมให้ตรวจสอบ จึงรู้สึกเอะใจ แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เมื่อถามว่านางรัตนาพร ต้องการเรียกร้องให้สถานพยาบาลทำอย่างไร นางรัตนาพร กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตนเป็นคนจน ไม่ทราบว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนทั่วไป (http://news.sanook.com/story_picture/m/338093_002.jpg) ผอ.คลีนิคเวชกรรมมหาชน - ยอมชดใช้เหยื่อผ่าตัด ล่าสุดผู้อำนวยการคลีนิคดังกล่าว เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดนั้น มีสาเหตุมาจากการสื่อสาร ระหว่างเจ้าหน้าที่มีความผิดพลาดกันเอง โดยจะขอรับผิดชอบทุกอย่างในกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดปัญหาขึ้นมา ทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปร่วมทำการผ่าตัด ได้เกิดอาการเครียด จนถึงขั้นลาหยุดงานไปแล้ว ทั้งนี้ การผ่าตัดดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 19 ม.ค.2552 ซึ่งในช่วงนั้น คนไข้จะมีจำนวนน้อย ดังนั้น จึงได้ทำการผ่าตัดในช่วงเวลานั้น อย่างไรก็ตาม หากมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณะสุข เข้ามาตรวจสอบ ทางคลีนิค ก็จะทำการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ทางคลีนิค ก็ยินดีที่จะชดใช้กับความเสียหายที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ส่วนความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทางคลีนิคของแสดงความเสียใจด้วย และจากนี้ไปก็จะมีการเข้มงวดกันมากขึ้น http://www.komchadluek.net/2009/01/21/a001_333202.php?news_id=333202 Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ on January 22, 2009, 04:53:28 AM อยากจะหัวเราะ แต่ก็เห็นใจ
สื่อสารกันยังไง(วะ) คนละส่วนกันเห็นๆ หมอนี่ก็.....สุดจะเอ่ย Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: mr.Tu on January 22, 2009, 05:29:24 AM ได้ปริญญาบัตรมาได้ยังไง เสียเวลาร่ำเรียนมา 5-6 ปี
แค่ฟังยังไม่รู้เรื่องเฮ้อ ::016:: Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: Panther on January 22, 2009, 06:06:00 AM หมอมัน ปัญญา อ่อน
Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: ✖BookMan junior✖ on January 22, 2009, 10:26:43 PM เขาบอกว่าหมอฟังผิดเพราะใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษ ฟังเป็นตัด แต่ไม่ทราบว่า ปากกับ... มันคนละทิศเลยนะครับ
แล้วอีกอย่างเด็กก็แหกปากบอกไปแล้วด้วย งานนี้หมอไม่เมาก็ละเมอแหละครับ Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: ~NICO ROBIN~ on January 22, 2009, 10:28:47 PM หมออยากโซ้ย.. ::015::
Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: boy on January 23, 2009, 12:00:26 AM เอ๊า กลายเป็นงั้นไป ::006:: ปากกับ...คนละอย่างเลยนะนั่น ::006::
Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: tum_ja, the General of Zalom on January 23, 2009, 07:49:34 PM นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งว่าทำไมหมอถึงสอบเข้ากันยากนัก
เพราะเขารับคนที่ฉลาดและมีคุณสมบัติ(ในหลาย ๆ ด้าน) เวลาจบมาจะได้มีคุณภาพ แต่คนนี้ผมไม่ทราบ :P Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: Zenonymn on January 23, 2009, 08:34:23 PM สงสัยหมอฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ::019::
Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: เซนต์ แมกนัส on January 23, 2009, 09:34:17 PM แพทยสภาชี้ขลิบอวัยวะเพศ"หมอ"ไม่ผิดเหตุสื่อสารกันผิดพลาด
รักษาการนายกแพทยสภาชี้กรณีขริบจู๋เด็ก แพทย์ไม่ผิด ระบุปัญหาเกิดจาการสื่อสารที่ผิดพลาด ถือว่าไม่ได้เจตนา ส่งเรื่องเข้าอนุฯจริยธรรมสรุปผลอย่างเป็นทางการ จากกรณีที่นางรัตนาพร มนัสชื้น อายุ 45 ปี มารดา ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ได้เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เนื่องจากการพาด.ช.เอไปเข้ารับการรักษาอาการฝีในปากที่คลิกนิกเอกชนที่เข้าร่วมในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองแห่งหนึ่งในอ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ แต่การรักษากลับกลายเป็นการขริบอวัยวะเพศเด็ก และสธ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากกองการประกอบโรคศิลปะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)นั้น ล่าสุด ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่เลขา รักษาการนายกแพทยสภา กล่าวว่า จากการได้รับรายงานข้อมูลเบื้องต้น ปรากฏว่ากรณีนี้เกิดการผิดพลาดในการรักษาเนื่องจากการติดต่อสื่อสารผิดพลาดทั้งที่แพทย์ดำเนินการและเขียนสั่งถูกต้องทุกอย่าง โดยแพทย์เขียนคำวิธีการรักษาเป็นภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า ให้ตัดเอาออก ซึ่งหมายถึงให้ตัดเอาฝีในปากออก แต่เจ้าหน้าที่ที่รับหน้าที่ในการดำเนินการเข้าใจผิดว่าแพทย์สั่งให้ขริบอวัยวะเพศเด็ก เพราะโดยปกติการเป็นฝีที่ปากจะไม่มีใครตัดออกจะปล่อยให้แตกเอง กอรปกับเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดดูอวัยวะเพศเด็ก ปรากฏว่ามีปัญหาหนังหุ้มปลายรูดไม่สุด เจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่าแพทย์สั่งให้ขริบปลายอวัยวะเพศ และเมื่อดำเนินการแล้วเด็กร้องทัก ก็เข้าใจว่าเด็กอาย จึงพยาบาลบอกให้เด็กไม่ต้องอาย รักษาการนายกแพทยสภา กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ได้รับในขณะนี้เห็นว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ได้เจตนา แต่เป็นผลจากการติดต่อสื่อสารที่ผิดพลาด จึงสามารถบอกได้ในเบื้องต้นว่าแพทย์ไม่ผิด เพราะดำเนินการถูกต้องทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม แม้แพทย์จะไม่ผิดก็จำเป็นต้องจะส่งเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการจริยธรรมแพทยสภา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและสรุปผลอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง การผ่าตัดนี้ไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่แต่เป็นการผ่าตัดย่อย ที่แพทย์สามารถมอบหมายให้พยาบาลทำได้ โดยส่วนใหญ่การเย็บแผล ล้างแผล หรือตกแต่งแผลพยาบาลก็ทำทั้งนั้น หากให้แพทย์ทำหมดก็ไม่รู้จะมีผู้ช่วยไว้ทำไม ซึ่งในเรื่องเหล่านี้พยาบาลบางคนเก่งกว่าแพทย์ เพราะมีความชำนาญ ศ.นพ.สมศักดิ์กล่าว รักษาการนายกแพทยสภา กล่าวอีกว่า การขริบปลายอวัยวะเพศเด็กไม่มีข้อเสียแต่กลับเป็นประโยชน์ต่อเด็ก ทำให้โอกาสในการเป็นโรคมะเร็งและกามโรคน้อยลง ซึ่งหลายประเทศให้เด็กขริบหมด แต่ประเทศไทยไม่นิยม โดยเฉพาะเด็กรายนี้จะเป็นประโยชน์มาก เนื่องจากเด็กมีปัญหาหนังหุ้มปลายถลกไม่สุด หากปล่อยไว้จะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค จนอาจนำสู่การก่อมะเร็ง เพียงแต่กรณีนี้ผิดเจตนารมณ์ของผู้ป่วย ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การสื่อสารผิดพลาดในวงการแพทย์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทั้งการาหยิบยาผิด การฟังคำวินิจฉัยโรคผิดพลาด ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการใช้คำภาษาอังกฤษที่มีความใกล้เคียงกัน ซึ่งขณะนี้แพทยสภา สภาเภสัชกรรมและสภาการพยาบาล กำลังดำเนินการแก้ปัญหาร่วมกัน โดยการรวบรวมข้อมูลความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจากแพทย์ พยาบาล เภสัชกรทั่วประเทศ ก่อนนำมาจัดทำเป็นคู่มือส่งให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาวิชาชีพรับรู้ข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำไหนที่ห้ามพูดสื่อสารทางโทรศัพท์ และคำไหนที่ใกล้เคียงกันให้เขียนตัวใหญ่ในส่วนที่แตกต่างกัน เป็นต้น http://www.komchadluek.net/2009/01/23/x_edu_e001_333502.php?news_id=333502 Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: Kurei_[คุเร] on January 24, 2009, 05:06:44 AM มันเป็นที่การตีความไม่ใช่รึ
เท่าที่ดูข่าวนะครับ เป็นผมนะ บอกไปเลย "จู๋ใคร ใครก็หวง เกิดมามีอันเดียวนะคุณหมอ" เด็กคงตกใจน่าดู จู๋เราโดนขลิบก่อนวัยอันควร ::003:: Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: VanilaChoco on January 24, 2009, 11:06:58 PM ดวงจริงๆ ::010::
Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: Phenomenon Knight on January 25, 2009, 11:51:33 PM ทำไมคนไทยชอบทำเรื่องผิด ให้กลายเป็นเรื่องถูก ::010::
Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: Poranat on January 26, 2009, 01:43:23 AM มันเป็นที่การตีความไม่ใช่รึ เท่าที่ดูข่าวนะครับ เป็นผมนะ บอกไปเลย "จู๋ใคร ใครก็หวง เกิดมามีอันเดียวนะคุณหมอ" เด็กคงตกใจน่าดู จู๋เราโดนขลิบก่อนวัยอันควร ::003:: 12ปีนี่คิดว่าไม่ใช่ก่อนวัยอันควรนะฮะ พี่น้องมุสลิมเค้าขลิบกันตอนประมาณ9ขวบนิ Title: Re: +++แม่โวยหมอผ่าตัดมั่ว เด็กเจ็บปาก หมอดัน ขลิบจู๋+++ Post by: NoXMagiS on January 26, 2009, 02:38:40 AM หมอเกย์
อยากดูไอ้นั่นเด็ก ชิส์ |