Title: Esta Side Story :1 ไม่มีชื่อตอนเหอะนะ ^^" Post by: the St. of Amara on June 21, 2008, 12:12:20 AM สายลมที่พัดผ่านเขตภูผาที่ตั้งตระหง่าน เหล่าต้นไม่ในพงพนาส่ายไปมา
ลู่ละลิ่วลอยตามสายลม เสียงซวบซาบที่ดังแทรกเป็นระยะๆของสิ่งมีชีวิตที่วิ่งผ่าน ป่าไม้ไป แต่ก็ยังมีบางผู้ตามไล่ล่ามันล้าหลังมาเป็นระยะระยะ " ทำไมข้าจะต้องวิ่งไล่ล่าเจ้าตัวนี้กลับไปให้แด่ท่านเอลิจาฮ์ ( Elijah ) ด้วยเล่า?" เสียงชายหนุ่มผู้มีหน้าตาคมเข้ม ผมสีดำสนิทเกล่าขึ้น "บัญชาของกษัตริย์คือสิ่งที่เราควรเทิดไว้เหนือเกล้า ธารัน งานของเราเป็นงาน ที่มีเกียรติ เราควรสนองพระเดชพระคุณแด่ท่านเอลิจาฮ์ให้มาก ท่านเป็นผู้ พระราชทานสกุลเอสต้า ( Esta) แด่เราทั้งมวล ในอาณาจักรมิราบิลิซ ( Mirabilis) นี้ยังมีสัตว์อีกมากมายที่เราต้องปราบปรามมิให้ก่อกวนแก่ราษฎรได้อีกนะ" กายลู่ตามไปกับสายลม พัดผ่านเส้นผมสีส้มทองที่สยายเป็นประกายเมื่อยาม ต้องแสงตะวัน ในมือจับคทาวิเศษไว้มั่น พร้อมที่จะร่ายเวทย์ได้ทุกครา "ข้าว่าเราก็น่าจะยืนอยู่ตรงนี้รอดักมันกลับได้แล้วนะ เบอร์เดทท์ เก็บออมกำลังกับพลังเวทย์ไว้รอสกัดจับมันดีกว่า ยังไงมันก็ต้องกลับมาทางนี้อยู่แล้ว" ธารัน ( Tharan Esta ,the Tamer) กล่าวพลางวิ่งไปด้วย " ไกโพส ( Gaipos ,Tharan Esta's Companian) ไม่ใช่สัตว์ที่โง่เขลานะ แม้เวลิก้าจะแม่นยำแค่ไหน ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน" เบอร์เดทท์ ( Berdette Esta ,Golden Bird Enchantress) พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบ แต่แล้วก็หยุดลงพร้อมกับสายลมที่พัดผ่าน ธารันที่พยายามวิ่งตามมาถึงกับต้องหอบรอ "ก็บอกว่าขอให้เอาเจ้าปุกปุยมาด้วยก็ไม่ฟัง ไม่งั้นก็คงไม่ต้องมาวิ่งขนาดนี้หรอก สบายกว่าต้องเยอะ แล้วนี่เจ้าหยุดทำไมกันละเนี่ย?" "เสียงขู่ก้องคำรามของไกโพสหยุดเหล่าสัตว์ประหลาดและสัตว์เลี้ยงของเจ้าได้ เกือบทุกชนิด ถึงจะเอามาก็ดีแต่จะเป็นตัวขวาง เกะกะเปล่าๆ แต่ก็อย่างที่เจ้าบอกแหละ เราอาจจะแค่รอก็ได้ มันเป็นความโชคร้ายของไกโพสเองด้วยแล้วล่ะ" "ตอนนี้มันวิ่งไปถึงไหนแล้วละ ถ้ามันออกบินแล้วเราตามมันไม่ทันแน่ๆนะ" "หยุดเอ่ยแล้วรอฟังเถอะ อีกสักพักไกโพสคงจะวิ่งไปถึงเขตตีนเขาแล้ว เวลิก้าคงจะดักซุ่มอยู่ที่ใดสักที่ รอให้เห็นสัญญาณก่อน เราก็รอได้เลย" เพียงไม่ถึงอึดใจ เสียงวิหคบินออกจากพุ่มไม้ เสียงกระพือลมที่กระจายออกไป เป็นวงกว้าง แต่แล้วก็เกิดเสียงคำรามที่แสนน่ากลัวขึ้น... "นั่นไม่ใช่เสียงคำรามของไกโพสซะเมื่อใด เบอร์เดทท์ ? หรือว่า!!?" ไม่ทันที่จะเอ่ยต่อไป สมองก็สั่งการให้มั้งสองคนออกวิ่งทันทีเมื่อเห็นประกาย สีทองระยิบระยับอยู่เบื้องบนท้องฟ้า มันคือลูกธนู !!! "เวลิก้าคงเจอเข้าแล้ว อย่างที่บอกนั่นแหละ มันคือความโชคร้ายของไกโพสเอง ถึงความเร็วจะไม่เร็วเท่าสัตว์ทั่วไป แต่กำลังปีกกระพือลมก็วิหคยักษ์ดีๆนี่เอง" "...มันเลยอาจจะปัดป้องลูกศรของเวลิก้าไปได้ แต่สิ่งที่มันเจอเข้าก็ดันเป็น สิงห์วิหคดินแดง ( Red Earth Leogriff - -*ฟังดูแปลกๆเลยเอาเป็นลีโอกริฟฟ์ละกันนะ ) เสียงคำรามของมันก็เลยสะกดไกโพสไว้ได้พักหนึ่ง ทำให้ไกโพสมึนไป พอล่อเป้าเวลืก้าได้ ถ้าอย่างนั้นก็เข้าแผนนะสิ" "สัตว์ประหลาดที่กำลังตกใจมันคุมสติมันไม่ได้หรอกนะ ระวังหน่อยละกัน" "อยู่แล้วล่ะน่า เรามีแผนสำรองไว้อยู่ตลอดนี่นา" "แผนสำรอง? นี่อย่าบอกนะว่าเจ้าเอามันมาด้วย ไอ้ตัว... มันมาแล้ว ระวัง!!!!" ไม่ทันสิ้นเสียง เสียงคำรามร้อง และกายของสัตว์ประหลาดที่วิ่งทะลุทะลวงผ่าน ต้นไม้แต่ละต้น ดังสนั่นลั่นไปทั้งป่าในละแวก พร้อมด้วยลูกธนูไม้สีทอง ที่ตามติดมาทันกับสัตว?ประหลาดไกโพสแม้ว่าจะไม่โดนก็ตาม "ชูตติ้ง แอรโรว์!!!!!! " เสียงสาวน้อยนักธนู เวลิก้า ( Velika Esta ,the Archer) ดังลั่นไปทั่ว "ธารัน เบอร์เดททททท์ สกัดไว้!!" "แชทเทอริ่ง เอิร์ธ!!!" ไม่ทันที่สัตว์ประหลาดจะได้หนีไป เสียงผืนปฐพีที่แตกดังดั่งเสียงระเบิด กับเศษดินหินทรายที่ถูกพลังหมัดอันทรงพลังทุบลงไปกระจายไปรอบๆ ขวางไกโพสที่กำลังจะหนีไป มันถึงกับคำรามร้องลั่นไปด้วยความตกใจ ที่เพิ่มขึ้นเป็นทวี แม้ฉะนั้นก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์สัตว์ประหลาด ด้วยพละกำลังที่มิน้อยไปกว่าสัตว์ที่ขนาดใหญ่กว่าชนิดอื่นๆเลย "โอโห เจ้าตัวนี้ตัวใหญ่กว่าไกโพสธรรมดานะเนี่ย มิน่าละ ท่านเอลิจาฮ์ถึงกับต้องสั่งให้เรามาจับเองเลย ตัวใหญ่จริงๆ" "โกลด์เด้น สปิริต" เสียงอันเรียบเชียบ พร้อมคทาวิเศษในมือ แสงสีทองเรืองรอง เป็นสายคลื่นเข้าพันรอบสกัดสัตว์ประหลาดไว้ แต่ก็ยังช้าไป สัตว์ประหลาดที่ยิ่งตกใจก็ยิ่งมีพละกำลังมากขึ้น สามารถดิ้นหลุด บ่วงพันธนาการสีทองเรืองรองไปได้ไม่ยากเย็น "ดูแล้วถ้าจะยากมั้ยน้อยเลยนะกับเจ้าตัวนี้ เวลิก้า เจ้าจะ หยุดพักก่อนหรือไม่ ? คันธนูนั่นอุตส่าห์วิ่งถือซ้ำยิงมาด้วย" "ข้าจะบอกว่าชินซะแล้วล่ะ เบอร์เดทท์ แต่ยังไงก็ต้อง จับมันกลับไปอยู่ดีนั่นแหละ เจ้าแค่สองคนคงไม่ไหวหรอกนะ" "งั้นจะรอช้าอยู่ใยเล่า? จะปล่อยให้ถึงเดือนมัทธิวก่อนหรือถึงจะ ไปตามจับมันกันได้? ไปกันเถอะ" สิ้นเสียงเพิ่มพลังใจ เสียงธนูที่แหวกลมออกไปเป็นระยะๆอย่างมั่นคงและ ค่อนข้างแน่นอน พุ่งเข้าใส่ ไกโพสทันที แม้ว่าจะไม่โดนอย่างเต็มที่ก็ตาม แต่ก็แค่เฉียดๆก็ยังดีที่จะทอนกำลังไกโพสไปได้ หญิงสาวงามในชุดสีทองที่พยายามโบกคทาเวทย์อย่างต่อเนื่อง ร่ายมนตร์ผนึกพันธนาการสีทองเรื่อยไป ความเร็วของเหล่านักสู้ยังช้าไป ดวงตาที่มุ่งมั่นหญิงสาวกวัดแกว่งคทาไป แสงระยิบระยับสีทอง เป็นประกายออกมาอย่างต่อเนื่อง วงรัศมีที่เริ่มขยายขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ "ข้าแต่เหล่าปวงผู้พิทักษ์แห่งวิหค ขออำนาจอันสว่างไสวนี้ โปรดอันเชิญวิหคทองคำแห่งข้า มาตามบัญชาด้วย! โกลเก้น เอวิส!!! " สิ้นเสียงคำรำพัน วงรัศมีที่แตกออกแผดแสงอันเรืองรองไปทั่ว พร้อมทั้งเสียงกู่ก้องของวิหคทองคำที่สยายปีกออกเป็นวงกว้าง "แชทเทอริ่ง เอิร์ธ!!" Title: Re: Esta Side Story :1 ไม่มีชื่อตอนเหอะนะ ^^" Post by: the St. of Amara on June 21, 2008, 12:55:13 AM เสียงพื้นดินที่แตกออกกระจายไปทั่วพอที่จะหยุด
สัตว์ประหลาดไกโพสไว้ได้ไม่ช้าก็นาน ธารันวิ่งมาดักหน้าของมันก่อน "คราวนี้เจ้าหนีไปไหนไม่ได้แล้วนะ ไกโพสเอ๋ย" เสียงคำรามของสัตว์ประหลาดมีปีกที่ยังหวาดหวั่นอยู่ยังคงดังกู่ก้องไปทั่ว และดูคล้ายกับพยายามจะหลบหลีกหนีไปให้ได้เสียด้วย "ตอนนี้แหละ สปี้กกี้!!" กระรอกตัวโตที่มีแผงหลังเป็นหนามขรุขระกระโดดลงมาจากบนยอดไม้ โดยมีเป้าหมายคือ ไกโพส นั่นเอง "วิหคทองคำ จงห่อหุ้มสัตว์ประหลาดด้วยปีกอันอร่ามแห่งเจ้า!!!" เสียงคำสั่งที่ดังมาข้างหลังของสัตว์ประหลาดลั่นวาจาขึ้น วิหคทองคำที่บินลู่ตามแนวยอดไม้โฉบลงมาหมายที่จะห่อหุ้ม สัตว์ประหลาดไว้เช่นกัน สัตว์ประหลาดที่ยืนตะลึงกับความงามของวิหคทองคำเหมือนถูกสะกด ให้หยุดนิ่งไม่ไปไหน และทำให้มันเป็นเป้าหมายโดนง่าย แต่ผู้ที่มีเป้าหมายไปยังไกโพสก็ไม่ได้มีตัวเดียว เมื่อวิหคทองคำกำลังร่อนลงมาด้วยความรวดเร็วซึ่งเป็นจังหวะ เดียวกันกับสปี้กกี้ ( Spiky Squirry) ที่กระโดดลงมาหมายชนไกโพสเช่นกัน ก่อนที่ทั้งสองจะถึงตัวไกโพส ต่างฝ่ายต่างก็ต้องสังสรรค์กันเองเสียก่อน "ตูมมมมมมมมม!!!!" เสียงการปะทะกันของสัตว์สองชนิดทำให้กลุ่มควันทรายและดิน ฟุ้งกระจายขึ้นมา โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็งุนงงมิใช่น้อย "วิหคทองคำ!!!??? " "สปี้กกี้???!!!!" ไม่รอช้าที่ทั้งสองจะรีบรุดเข้าไปยังใจกลางควันฝุ่น "กวีสสสสสสสสส" วิหคทองคำที่ผงาดขึ้มาจากกองฝุ่นเป็นตัวแรกกระพือปีกปัดกระรอกตัวโต และฝุ่นควันออกไป เผยให้เห็น ไกโพสที่อยู่ในรัศมีพันธนาการทองคำ ตามบัญชาของผู้เป็นนายสั่งไว้ "โกลเด้น สปิริต!!" พันธนาการสีทองเป็นระลอกล้อมรอบไกโพสไว้อีกชั้นหนึ่ง อย่างหนาแน่นและทรงพลังเกินกว่าสัตว์ประหลาดจะดิ้นหลุดไปได้อีก "วิหคทองคำเอ๋ย หน้าที่ของเจ้าลุล่วงแล้ว ขอเจ้าจงกลับ ไปอยู่ในสถานแห่งเจ้าเถิด ขอโปรดดูแลคุ้มครองมวลเราอีก" สิ้นคำพรรณนา วิหคทองคำก็สยายปีกโผกลับขึ้นไปสู่ท้องนภา และหายลับไปท่ามกลางอสงตะวันที่สาดส่องไปสีทองอร่ามงามตายิ่ง "แชทเทอริ่ง เอิร์ธ!!! " ไม่รอที่จะให้เจ้าสัตว์ประหลาดไกโพสได้สติอีก เสียงแรงกระแทกของหมัดที่ทุบลงไปที่ไกโพสจนเกิดเสียง ดังกัมปนาท และพื้นดินในบริเวณนั้นถึงกับร้าวเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่พื่นดินแต่อำนาจมันยังทำให้พันธนาการสลายไปอีกด้วย ขณะนี้สัตว์ประหลาดสิ้นฤทธิ์ไม่มีแรงพละกำลังเหลือแม้แต่จะครวญคราง "ข้าบอกเจ้าแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเอาสปี้กกี้มาด้วย ธารัน" "ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าจะเชิญวิหคทองคำมาตอนไหน ข้าก็ต้องเตรียม แผนการรับมือของข้าไว้บ้างอยู่แล้วสิ อีกทั้งตอนนี้สปี้กกี้ก็ดูเจ็บมากเลยนะ" "อย่างไรก็ตาม ภารกิจครั้งนี้ก็ลุล่วงแล้ว ข้าก็คงจะต้องไปก่อนอีกเหมือนกัน สปี้กกี้ไม่น่าจะบาดเจ็บสาหัสมากนัก นำกลับไปดูแลสักพักก็น่าจะหาย" "ข้าขอบใจเจ้ามาก เวลิก้า หากมีกิจอันใดอีก เราจะขอความช่วยเหลือ จากเจ้าอีกเป็นแน่ ของให้จงเตรียมตัวไว้ด้วย ส่วนเรื่องไกโพสตัวนี้ เจ้าจะเอายังไง ธารัน?" "ก็เจ้าบอกเองไม่ใช่รึ ว่าต้องนำกลับไปให้ท่านเอลิจาฮ์?" "ข้าก็แค่คิดว่าเจ้าจะขอท่านเอลิจาฮ์เลี้ยงไว้เหมือนตัวก่อนๆซะอีก" "มีแค่เจ้าละ เบอร์เดทท์ที่รู้นิสัยข้าดี ^^" ยังไงก้คงต้องเยียวยากันนานละ" "กะไว้แล้วไม่ผิดเลย สปี้กกี้เดี๋ยวข้าจะขอให้แพทย์สัตว์หลวงช่วยรักษาให้เอง เข้าจงอย่าห่วง" "ข้าคงต้องขออภัยเจ้าสินะ ที่ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าทุกคราไป" "ก็คงจะอย่างนั้น ข้าก็ขออภัยเจ้าด้วยเช่นกันนะ ยังไงวันนี้ก็เหนื่อยมามากแล้ว กลับกันดีกว่า" "เวลาล่วงมามากแล้ว จะทำอย่างไรดี เบอร์เดทท์1!??? อาจจะมิทันกาลก็ได้ อีกสักพักก็จะสายันห์แล้ว" "แย่ละสิ ข้าลืมเสียสนิทเลย อีกสักพัก โฟร์แองจี้ก็มาแล้ว รีบไปกันเถอะ" "Hymn of Exodus ออกแล้ว เจ้าเปิดไปกี่ซองละเนี่ย" ธารันเอ่ยถามพลางวิ่งไปด้วยความเร่งรีบแม้ร่างกายจะเหนื่อยล้าแล้วก็ตาม "ข้าเองเปิดไป 2 บ๊อกซ์แนะ กะจะกา Deliver Band ให้ครบ จะจัดเดกใหม่ ข้าละเบื่อเพนกวินแล้ว สู้ใครเค้าไม่ได้" "ข้าไปซื้อแม่ชีโบสถ์เซซิเลียมาแนะ เอาไปเสริมอลาน่าได้นะ ยังไงพรุ่งนี้ลองเอาเด๊กมามั้ย ข้าจะจัดการกับ DB เจ้าเอง" "อลาน่าอย่างเจ้านะเรอะจะสู้ได้ แต่ถึงอย่างไรก็คงมิได้อยู่ดี จะไปสะพานเหล็กคงยากอยู่ เห็นมีการปะทะกันของพันธมิตรกับรัฐบาลด้วย" ทั้งสองกล่าวตอบกันพลางวิ่งไปในป่าลึก เร่งเข้าสู้ตัวอาณาจักรโดยเร็วที่สุด ตะวันลับขอบฟ้าไปเรื่อยๆ แสงสีทองสาดส่องมาเห็นเรืองรองช่างสวยงามเหลือเกิน เวลาของโฟร์ แองจี้เริ่มหมดไปทีละนิดทีละนิดแล้ว พวกเค้าจะกลับไปดูทันหรือไม่ แล้วแต่คนอ่านอะ คิดว่าทันปะละ ^^" Title: Re: Esta Side Story :1 ไม่มีชื่อตอนเหอะนะ ^^" Post by: Nihil on June 21, 2008, 02:12:06 AM โอ๊ะ มีคนสนใจ Esta จนแต่งออกมาด้วย
น่าสนใจมากครับ เดี๋ยวขอมีเวลาจะมาอ่านละเอียดอีกที ::015:: Title: Re: Esta Side Story :1 ไม่มีชื่อตอนเหอะนะ ^^" Post by: AbNolzMiC on June 21, 2008, 02:28:38 AM กำลังสงสัย
Tharan เกิดยุคเดียวกับ Berdette เหรอครับ เห็นว่า Berdette เป็นผู้บุกเบิกตระกูลที่สร้างชื่อเสียงนิ Title: Re: Esta Side Story :1 ไม่มีชื่อตอนเหอะนะ ^^" Post by: the St. of Amara on June 21, 2008, 01:28:46 PM ผมก็สงสัยอย่างนั้นแหละครับ
เพราะว่าในเนื้อเรื่องจริง เบอร์เดทท์เป็นถึงผู้ตั้งตระกูล ส่วน Lin Kun ( - - อ่านว่าไรกันอะ) ก็เป็นลูหลานที่สืบต่อกันมานานมากแล้ว ธารันกะเวลิก้าก็น่าจะเหมือนกันครับ แต่ในที่นี้ก็อ้างอิงให้ไม่เกิดยุคเดียวกันก็ใกล้เคียงเลยละกันนะ ^^" ป.ล.เรื่องของ Lin Kun อ้างอิงมาจากพี่ลิงแน่ะ |