Title: [ประกวด] (ความรักของนางเงือก) 2 คือว่าผมแก้ Post by: mastermermaid on August 19, 2007, 07:36:49 PM คือว่าผมแก้ตอนจบไปน่ะครับแต่มันโพสลงได้ไม่หมดไม่รู้ทำไมเลยย้ายมาใหม่ทีกระทู้นี้น่ะครับขอย้ายหน้านะครับ
ความรักของนางเงือก พื้นน้ำสดใสสีเขียวครามฟ้าที่แอนดิซองนั้นสวยงามหาที่ใดเทียมได้ยากยิ่ง ยิ่งในช่วงเที่ยงตรงของวันน้ำทะเลในมหาสมุทรยิ่งใสมากขึ้นราวกับกระจกหยกที่งดงามแต่แค่ชั่วพริบตากระจกหยกนั้นกลับแตกละเอียดลงพลัน เนื่องด้วยคลื่นน้ำขนาดมหึมาภายใต้พื้นน้ำก่อตัวขึ้นสูงเสียดแผ่นฟ้าจนเหมือนมีผู้จงใจทำมันเกิดขึ้น ทั้งยังมีแสงสีขาวแปลบปลาบเป็นระยะๆใต้ผิวน้ำชวนให้ผู้พบเห็นสะดุดตาและหวาดหวั่น แต่หาใช่การอาละวาดของมังกรยักษ์แห่งแอนดิซองไม่ หากแต่เป็นเวทย์แห่งอิสตรีสองนางที่สู้กันอย่างดุเดือดอยู่เบื้องล่างมหาสมุทรนี้ " คามีน่า( Kamena The Scarlet Mermaid ) เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก ความเคียดแค้นในการกระทำของเงือกสาวตนหนึ่งทำให้น้ำเสียงของ" ลินดา"( Lynda The Mermage ) ดังก้องไปทั่วท้องสมุทรอันกว้างใหญ่ที่เชื่อมต่อไปในทวีป เลอมูเรียของชาวเงือก "อะไรกันข้าทำอะไรผิดนักหนา ทำไมท่านถึงต้องตามเอาชีวิตข้าถึงขนาดนี้? เงือกสาวถามถึงสาเหตุที่นางถูกหมายเอาชีวิตอย่างไม่แน่ใจในความผิดของตน อีกทั้งผู้ตามล่านางในครั้งนี้คือ" ลินดา" เงือกสาวอีกตนในทวีปเลอมูเรียที่มีเวทย์อันแก่กล้าไม่เป็นรองใคร ทำให้นางยิ่งวิตกมากขึ้น หากคราวนี้ ลินดาคิดจะเอาชีวิตนางแล้ว คงมีแต่ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ช่วยนางได้ "เฮอะ เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าอีกรึ " ลินดากระแทกเสียงอย่างเย็นชาแฝงไปด้วยความรังเกียจในการกระทำของเงือกผู้น้อย "เจ้าเป็นเงือกแต่กลับไปพลอดรักกับมนุษย์ทำให้ชาวเงือกเราเสื่อมเสียเกรียติ ทั้งที่ชาวเงือกเรามีดีกว่ามนุษย์ทุกอย่างทั้งอาคมและอายุที่ยืนยาวแต่เจ้ากลับไปรักกับมนุษย์ ที่มีแต่ความโลภและตัณหาทำให้สายเลือดเงือกบริสุทธิ์นั้นต้องแปดเปื้อน เจ้า... และลูกในท้องของเจ้าที่มีสายเลือดของมนุษย์หน้าโง่สมควรตายแล้ว " งั้นข้าก็หามีความผิด" เงือกสาวอีกฝ่ายโต้กลับแทบจะทันทีด้วยน้ำเสียแฝงความโกรธ "เจ้าว่าอะไรนะ" ลินดาถามอย่างเย็นชาสายตาจิกหรี่คลื่นใต้น้ำรอบตัวนางเริ่มบังเกิดทีละน้อย " ท่านเป็นผู้พิภากษาของเลอมูเรียหรืออย่างไร ชาวเงือกเรานั้นไม่มีกฎข้อใดมาห้ามมิให้เงือกมีความรักกับมนุษย์แม้แต่ข้อเดียว ที่ท่านกล่าวว่าเสื่อมเสียเกรียตินั้นมันเป็นเพียงอคติที่ท่านมีต่อมนุษย์เท่านั้น มนุษย์ไม่ได้มีจิตใจทรามเหมือนกันเสียหมดทุกคน ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงได้จงเกลียดจงชังมนุษย์นักทั้งที่น้องสาวของท่านเองก็ร่วมทัพกับอาณาจักร "แอนดิซอง" อยู่บ่อยครั้ง นางได้ทั้งรับเกรียติจากมนุษย์และเป็นที่กล่าวขวัญของมนุษย์ผู้เดือดร้อนจากโจรสลัดที่ชั้วช้า แต่เหตุใดท่านจึงได้อคติต่อเผ่ามนุษย์นัก" คามีน่า กล่าวด้วยเหตุผลแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะยิ่งกลับฉุนเฉียวในคำพูดของนางมากขึ้นหลายเท่าตัว "เรื่องของข้าเจ้าไม่ต้องมาแส่ " ลินดาตวาด พร้อมร่ายพลังเวทย์มหาศาลใส่ เงือกสาวที่ทำให้นางโกรธ หมายจะเอาชีวิตให้ได้ " More Mirage พิษแห่งทะเล เงาลวงตามหาศาลแห่งมหาสมุทรนี้ จงกลืนกินศัตรูข้า" มนต์เวทย์ก่อตัวขึ้นเป็นคลื่นเงาสีน้ำเงินพุ่งใสเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เงือกสาวหลบสุดกำลังเท่าที่นางจะทำได้เพื่อรักษาชีวิตไว้ นางบิดตัวหลบด้วยกำลังและความเร็วสูงไปตามแนวปะการัง มนต์เวทย์ของลินดาพุ่งชนหน้าผาใต้ทะเลและแนวปะการังเป็นโพรงลึก เงือกสาวผู้ตกเป็นเป้าหมายตกใจกับมนต์บทนั้นจนเมื่อฝุ่นทรายค่อยๆจางลงนางจึงได้สติหากนางถูกมนต์นี้แม้ผิวเผินนางคงไม่มีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้เป็นแน่ ทะเลที่งดงามและเต็มไปด้วยปะกาลังผลึกแก้วล้ำค่าที่สะท้อนน้ำทะเลใสสะอาดสีเขียวครามฟ้าบัดนี้ได้ถูกทำลายลงด้วยความโกรธของเงือกสาวผู้มีเวทย์แก่กล้าเสียเกือบหมด " ข้าจะไม่มามัวนิ่งเฉยตายให้กับความอคติของท่านหรอกนะ" ข้ายังมีสามีและลูกในท้องที่ข้ายังต้องปกป้องอยู่ข้าจะไม่ยอมถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวเป็นแน่เมื่อได้สติ เงือกสาวก็หมายที่จะสู้สุดกำลังเพื่อมิให้ชีวิตของตนสังเวยให้กับความผิดที่เกิดจากความอคติของเงือกอีกตน นางเริ่มร่ายเวทย์ที่แปลกประหลาดขึ้น " Burning Water เพลิงริษยาจงเผาความเย็นชาให้เป็นดาบที่คมกริบทำลายอริข้า " ทันใดเพลิงที่ห่อหุ้มไปด้วยสายน้ำสีขาวหล่อหลอมด้วยไอร้อนก็ปรากฏขึ้น และพุ่งใส่ ลินดาด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กัน " หึพลังเวทย์แค่นี้ริอาจสู้กับข้ารึ!! นังเงือกหางแถว ลินดาเริ่มวาดมือร่ายเวทย์ตอบโต้ใส่ในทันที " Mine Mirage เงาพิษแห่งข้าจงพล่าพลาดลบล้างอริร้าย" ตูม!!! มนต์ทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงทั่วพื้นน้ำปรากฏแสงสีขาวส่องสว่างคลื่นน้ำพุ่งขึ้นเป็นเสาน้ำยักษ์สวยงามเหนือผิวน้ำ ผู้คนที่อยู่รายรอบชายหาดต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกรงว่ามังกรยักษ์จอร์มันการ์จจะอาละวาด จึงรีบหนีออกห่างจากบริเวณโดยเร็ว " สมแล้วที่เป็น Scarlet mermaid " ลินดาพูดด้วยความทึ่งในมนต์เวทย์ของอีกฝ่ายที่สามารถลบล้างเวทย์นางได้ " ใช่ข้านี่ล่ะ Scarlet mermaid เงือกเพียงเผ่าเดียวที่ใช้มนต์ไฟใต้น้ำได้ " คามีน่า ตอบกลับด้วยความไม่เต็มใจนักเพราะตอนนี้นางหมายที่จะสู้แลกชีวิตกับเงือกสาวอีกฝ่าย "ดีเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าจงภูมิใจได้ ที่ได้ตายด้วยมือข้า" ลินดารวบรวมมนต์ทั้งหมดที่มีแล้วร่ายมนต์บทเดียวกับตอนแรกแต่มีขนาดใหญ่กว่าผิดกับครั้งแรกหลายเท่า "หึ ครั้งนี้ล่ะเจ้าจะได้ตายอย่างทรมานให้สมกับความผิดที่ทำให้เงือกทั้งหลายทั้งมวลเสื่อมเสียเกียรติ์ยศ More Mirage !!!!! ลินดาปล่อยมนต์ออกมาอย่างเต็มกำลัง มนต์สีน้ำเงินม่วงเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นนางเงือกแววตาดุดันร่างกายใหญ่โตพุ่งใส่เงือกสาวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว คามีน่าตกตะลึงกับมนต์มหึมาที่พุ่งด้วยความเร็วสูงต่างจากคราแรกหลายสิบเท่าและขนาดของพลังเวทย์ก็ผิดกับคราแรกลิบลับมหาศาล ในความคิด นางพยายามที่จะหลบหลีกมนต์นั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่นางจะทำได้ แต่ร่ากายนางนั้นไม่สามารถขยับได้เหมือนถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนหลายร้อยเส้น วิ้ง!! ตูม!!!!!!!!!!!! ผืนน้ำสว่างไสววาบเป็นรัศมีวงกลมกระจายไกลกินระยะทางหลายสิบเมตร ใจกลางแสงนั้นสว่างไสวราวเพชรสีน้ำเงินแห่งท้องทะเลกลางแสงมีน้ำวนขนาดใหญ่เกิดขึ้นผู้คนโดยรอบพากันหนีและเริ่มขนของเพื่อที่จะอพยพเมื่อไม่แน่ใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพทุกอย่างดำสนิท ความตายหามีความเจ็บปวดไม่ คามีน่าบอกกับตัวเองทำไมความตายถึงได้ไร้ความเจ็บปวดเช่นนี้นี่หรือคือความตาย ท่านพี่ข้าขอโทษที่ไม่อาจปกป้องลูกในท้องของเราและไม่อาจไปหน้าพบท่านได้อีก ตอนนี้ข้าควรจะถูกนำตัวไปที่นรกหรือสวรรค์กัน....... "ลูเซียน่า" เจ้าทำอะไรน่ะ เสียของลินดาแผดก้องไปทั่วท้องมหาสมุทรเมื่อมนต์ของนางถูกลบล้างจนหมดสิ้น คามีน่าได้ยินเสียงของผู้ที่หมายเอาชีวิตตนจึงลืมตาขึ้นมองภาพเบื้องหน้า ในเบื้องหน้านางมีเงือกสาวอยู่สองตน ตนหนึ่งคือ"ลินดา" ผู้ที่จงเกลียดมนุษย์และหมายเอาชีวิตนาง ส่วนอีตนหนึ่งคือ เงือกสาวหน้าตางดงามผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ใช้มนต์เงือกอัจฉริยะในรอบหลายร้อยปี "ลูเซียน่า" ( Luciana The Mermage ) ท่านพี่ท่านทำอะไรน่ะ ลูเซียน่า กล่าวถามด้วยความสงสัยในการกระทำของพี่สาวตน แล้วเจ้าล่ะมาที่นี่ทำไม เวลานี้น่ะเจ้าน่าจะอยู่กับทัพมนุษย์ไร้สาระของเจ้าอยู่มิใช่รึ ? ลินดาถามแกมประชดเพราะไม่พอใจที่น้องสาวตนชอบไปคลุกคลีกับพวกมนุษย์ที่ตนเกลียดชัง ใช่เวลานี้ข้าควรจะอยู่ในทัพกับท่าน อีริค ถ้าหากไม่มีผู้มาแจ้ง ว่ามังกรจอร์มันการ์จเกิดหลุดออกจากมนต์สะกดของ องค์หญิงวิโอเรียและอาละวาดอย่างหนักในบริเวณนี้ทำให้ข้าต้องออกมาสังเกตการณ์ หากไม่มีผู้มาแจ้งแล้วข้าคงไม่ได้มาเห็นพฤติกรรมที่น่าละอายของพี่ที่นี่" ลูเซียน่ากล่าวเตือนลินดาในพฤติกรรมของพี่สาวตนอย่างยุติธรรมแต่ลินดาในตอนนี้กลับไม่มีสิ่งใดมาหยุดปราณโทสะของนางได้อีกแล้ว เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องมายุ่ง ฟังข้านะ นังเงือกที่เจ้าปกป้องอยู่ตอนนี้มันบังอาจตั้งท้องกับมนุษย์ ยังไงซะ สภาอาวุโสก็คงจะไม่เห็นชอบ และไม่ให้อภัยให้กับความผิดของนางแน่ ข้าเห็นแก่ที่นางเคยเป็นเงือกที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่เลอมูเรีย ยังไงซะให้นางตายด้วยมือข้า ก็ยังจะดีกว่าให้นางตายด้วยมังกรเลอมูเรีย เพราะฉะนั้น เจ้าอย่าสอดมือเข้ามายุ่งเป็นอันขาด ลินดายื่นคำขาดออกมาและพยายามรั้งโทสะของตนไว้อย่างที่สุด "เห็นทีจะไม่ได้" ลูเซียน่ากล่าวเสียงเรียบแววตาตั้งมั่นหมายจะช่วยเงือกสาวอีกตนที่อยู่เบื้องหลังนาง " นี่เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับพี่ อย่างนั้นรึ ลูเซียน่า" ลินดาเริ่มมองน้องสาวของตนอย่างไม่สบอารมณ์แต่หากนางยังคงไม่กล้าที่จะทำอะไรมากไปกว่าการพูดจาเพราะตอนนี้นางสิ้นเปลืองพลังเวทย์ไปมากกับการโจมตี คามีน่า เมื่อสักครู่ หากตอนนี้นางยังฝืนใช้พลังเวทย์อยู่อีกร่างกายของนางอาจรับไม่ไหวต่อแรงกดดันของสายน้ำมหาศาลในมหาสมุทรแห่งนี้ "พอทีเถอะ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง ความผิดที่ข้ารัก และมีอะไรกับมนุษย์ ข้ารู้แม้เผ่าเงือกของเรานั้นไม่มีกฎข้อห้ามไม่ให้เงือกรักกับมนุษย์ แต่สิ่งที่ข้าทำมันก็เป็นการไม่สมควร ข้าทำให้เผ่าเงือกของเราเสื่อมเสีย ข้าเห็นแก่ตัวเองมากจนเกินไป ข้าเห็นแก่ความรักของตัวจนทำให้เผ่าเงือกของเราต้องอับอายขายหน้า ข้าสมควรที่จะถูกกำจัดออกจากโลกนี้ไปซะ ท่านลินดาหากตอนนี้ท่านยังหมายที่จะเอาชีวิตข้าอยู่อีกล่ะก็... ข้าก็พร้อมที่จะตายด้วยน้ำมือของตัวเองเพื่อชดใช้ให้แก่ความอับอายของเผ่าเงือกของเรา " "ท่านพี่ถึงข้าจะรักท่านปานใด และคิดว่ารักที่จริงใจของเรานั้นหามีความผิดไม่ แต่ข้าก็ไม่อาจที่จะเห็นแก่ตัวได้อีกแล้วข้าไม่อาจเห็นแก่ความรักของเรา แล้วนำความอับอายมาสู่ชาวเงือกได้ และยิ่งไม่อาจให้ความรักของเรา ต้องเป็นสาเหตุที่ทำให้นางทั้งสองผู้เป็นบุคคลสำคัญแห่งเลอมูเรียต้องสู้กันได้ ลาก่อนท่านพี่หากข้าได้โบยบินสู่สรวงสวรรค์ข้าจะคอยปกป้องท่านและดูแลท่าน ไม่ให้ได้รับความอันตรายจากสิ่งใดข้าขอสัญญา นางคิดคำนึงถึงผู้เป็นที่รักครั้งสุดท้ายก่อนที่จะทำในสิ่งที่ ไม่มีผู้ใดคาดคิด คามีน่ากล่าวอย่างท้อแท้ที่นางคิดว่าความรักของนางนั้นยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ แต่มันกลับไม่ค่าอะไรในเลอมูเรียเลย ซ้ำร้ายความรักของนางยังเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ชาวเงือกอับอายเป็นที่สุด นางท้อแท้และสิ้นหวังกับการที่ต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะเป็นตราบาปของเหล่าชาวเงือก นางจึงตัดสินใจที่ตายเพื่อที่จะได้จบปัญหาในครั้งนี้ "ดีในเมื่อเจ้าคิดได้เช่นนั้นก็เตรียมตัวเตรียมใจชดใช้ความผิดของเจ้าซะ" ลินดากล่าวอย่างสาสมใจเมื่อนางได้ในสิ่งที่นางต้องการ "เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะอย่านะคามีน่า" ลูเซียน่ากล่าวห้ามอย่างทันทีเมื่อเห็นเงือกสาวที่ตนพยายามที่จะปกป้องร่ายมนต์เผาตัวเองอยู่ในขณะนี้ ก่อนที่ร่างของนางจะมอดไหม้ไปด้วยไฟเวทย์ แสงสว่างจากน่านฟ้าก็สาดส่องลงมาสู่มหาสมุทรแห่งนี้ เมฆบนท้องนภาแหวกออกเป็นวงกลมรัศมีกว้างไกลใจกลางแสงสว่างสีเงินที่สาดส่องลงมากระทบพื้นน้ำใสจนกลายเป็นสีทอง มีหญิงงามลอยอยู่ใจกลางแสงนั้นและค่อยๆลอยลงช้าๆสู้ผืนน้ำนั้น เพลิงเวทย์ของคามีน่าสลายลงอย่างสงบ คามีน่าแหงนมองขึ้นกับภาพเบื้องบนผิวน้ำนั้นอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง หญิงงามที่ลอยลงจากท้องนภานั้นคือ เทพี"เฮร่า" ( Hera ) เทพธิดาแห่งการสมรสและความรักอันบริสุทธิ์ เงือกสาวทั้งสามโค้งคำนับให้กับผู้ที่อยู่เบื้องบนผิวน้ำเหนือศรีษะของพวกนางอย่างนอบน้อม คามีน่ามองผ่านผิวน้ำขึ้นไป นางเห็นรอยยิ้มอันอ่อนโยนของเทพีเฮร่า นางรู้สึกอบอุ่นใจอย่างปะหลาดขึ้นมาทันที ทันใดภายใต้มหาสมุทรก็บังเกิดแสงสีฟ้าสดใสระหว่างกลางพวกนางทั้งสาม สิ้นแสงสีฟ้านั้นปรากฎร่างนางเงือกตนหนึ่งเส้นผมของนางมีสีฟ้าเงิน เกล็ดสะท้อนกับแสงสีเงินจากท้องฟ้าสว่างไสวนัก ลูเซียน่า และ ลินดา รู้สึกแปลกใจกับผู้ที่นางได้เห็น ซึ่งนางผู้นั้นก็คือต้นตระกูลอันยาวนานของตระกูล โอดิลอน แห่งราชอาณาจักร แอนดิซองนั่นเอง Title: Re: ประกวด (ความรักของนางเงือก) 2 คือว่าผมแก้ Post by: mastermermaid on August 19, 2007, 07:41:04 PM "เอววีร่า" ( Elvira Odilon ,The Mermaid ) ลูเซียน่ากล่าวออกไปอย่างลืมตัว
เอววีร่าหยุดนิ่งก่อนกล่าวพลางสบตาของลินดาโดยตรงโดยไม่หากลัวเกรงความเกรี้ยวกราดของนางแม้แต่น้อย "องค์เทพีเฮร่าใช้ให้ข้ามาบอกกับพวกเจ้าในที่นี้ทั้งหมดโดยที่พระองค์จะร่วมฟังในสิ่งที่ข้าพูดอยู่บนผิวน้ำนี้ด้วย ฟังให้ดีนะ "ลินดา เจ้าบังอาจที่จะตัดสินชีวิตผู้อื่นโดยที่นางผู้นั้นหาได้มีความผิดอันใดไม่เจ้าใช้ความอคติของตนกับสภาอาวุโสเงือกเที่ยวตัดสินผู้อื่นอย่างไร้ความปราณีแต่ที่เจ้าทำลงไปนั้นเพราะเกรงกลัวว่าเผ่าเงือกจะได้รับความอับอาย องค์เทพีเฮร่าจึงจะลงโทษให้เจ้าไปดูแลวิหารขององค์เทพโพไซดอนในเวลากลางคืนเป็นเวลาร้อยปีหรือจนกว่าเจ้าจะมีความรักอันแท้จริงเจ้าจะยอมรับรึไม่" เอววีร่ากล่าวพลางมองสบตากับลินดาเพื่อรอคำตอบของนาง "ข้าขอยอมรับเพคะ" ลินดากล่าวอย่างนบนอบด้วยความเกรงกลัวในความผิดของตนและรู้สึกเสียใจในการกระทำของตัวเองเป็นที่สุดเพราะนางไม่คิดว่าความหวังดีต่อเผ่าเงือกของตัวนางเองนั้นจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนได้ถึงเพียงนี้ "ส่วนท่าน ลูเซียน่า ท่านเป็นเงือกสาวรุ่นเยาว์ที่มีความกล้าหาญและยุติธรรมกล้าที่จะเป็นอริแม้แต่กับพี่สาวตนเองเพื่อความยุติธรรมและความถูกต้องท่านจะได้รับการจารึกให้เป็นวีรสตรีแห่งเลอมูเรีย และยังจะได้รับการสร้างวิหารใต้ทะเลให้ เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนจากองค์เทพีเฮร่าและเทพโพไซดอน( Poseidon ) อีกด้วย" เอววีร่า กล่าวด้วยสายตาเชยชมในความดีของนางที่กล้าเผชิญหน้าแม้แต่กลับพี่สาวของตน "ข้าขอขอบพระทัยพระองค์เพคะ" ลูเซียน่ากล่าวอย่างปิติแต่ก็ยังเก็บความยินดีนั้นไว้อย่างสงบเสงี่ยม ส่วนเจ้า "คามีน่า" เจ้ามีรักแท้อันเสียสละที่แม้แต่เทพีเฮร่ายังสัมผัสได้ เจ้าไม่ยอมให้ความรักของตนเองเป็นสิ่งที่ทำลายชาวเลอมูเรียและผู้อื่นถึงกับยอมตายและไม่ได้เจอคนที่ตนรักเพื่อที่จะ ไม่ให้ชาวเงือกพบเจอกับความอัปยศ เมื่อเจ้าสิ้นอายุไขเทพีเฮร่าจะมารับเจ้าไปสู่สรวงสวรรค์และแต่งตั้งเจ้าเป็น เทพประจำตระกูลของเจ้า เพื่อให้เจ้าปกป้องคนในตระกูลของเจ้าดังที่เจ้าตั้งใจ เอววีร่ากล่าวอย่างเห็นใจในผู้ที่มีชะตากรรมเดียวกับตน "ข้าขอขอบพระทัยพระองค์เพคะ" คามีน่ากล่าวอย่างซาบซึ้งที่ความรักที่ด้อยค่าของนางในเลอมูเรียนั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าแก่เทพบนสรวงสวรรค์ เมื่อกล่าวจบแสงสีฟ้าก็เริ่มปรากฏขึ้นมาอีกครั้งทันใดแสงสีฟ้าก็ค่อยๆสว่างไสวและจางลงจนหายไป เอววีร่าเองก็หายไปพร้อมกับแสงประหลาดนั้นด้วย ทิ้งไว้แต่ปริศนาบนตัวนางว่าที่ผ่ามาหลายร้อยปีนางไปอยู่ที่ใด เนื่องจากไม่มีใครเคยพบเจอนางอีกเลยตั้งแต่คราวที่นางไปอยู่กินกับมนุษย์บนแอนดิซอง ส่วนแสงสีเงินบนน่านน้ำมหาสมุทรบัดนี้ค่อยๆจากลงหญิงงามกลางแสงเงินนั้นก็กลับค่อยๆลอยขึ้นสู้ชั้นเมฆสูงทะเลหมอกด้านบนเริ่มปิดตัวลงจนแสงเงินเริ่มจางไปรัศมีวงกลมที่เมฆแยกออกไปก็เริ่อมกลับมาเหมือนดังตอนแรกอีกครั้ง "คามีน่าข้าคิดว่าป่านนี้คนรักของเจ้าคงจะรอเจ้าอยู่ล่ะมั้งตอนนี้ก็หมดเรื่องลงไปแล้วเจ้าควรที่จะไปหาคนรักของตนเองได้แล้วนะ" ลูเซียน่ากล่าวอยางโล่งใจที่ทุอย่างจบลงได้อย่างดี "ข้าขอขอบคุณท่านมากท่านลูเซียน่าข้าไม่มีสิ่งใดตอบแทนความดีงามของท่านหากแต่มีเพียงคำสัญญาว่าหากข้าสิ้นอายุไขดังที่ท่านเอววีร่ากล่าวและได้รับแต่ตั้งเป็นเทพแล้วข้าจะปกป้องตระกูลของท่านเฉกเช่นเดียวกันกับตระกูลของข้าด้วยข้าขอสัญญา" คามีน่ากล่าวจบก็จากไปอย่างรีบร้อนเพื่อไปพบหน้ากับคนที่นางรักและคิดถึงมากที่สุดในเวลลานี้และเพื่อที่จะไม่ให้โอกาสที่จะได้อยู่กับคนที่ตนรักครั้งนี้สลายไปต่อหน้านางอีก "หึ" ข้าไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ข้าทำลงไปทั้งหมดนี้จะเป็นสิ่งที่น่าละอาย แม้แต่เทพก็ยังมองเป็นความผิดที่ร้ายแรง ชั่วชีวิตนี้ข้าทำทุกอย่างเพื่อเลอมูเรียมาโดยตลอด แต่ข้ากลับเป็นที่น่าหวาดกลัวทั้งบนแอนดิซอง หรือแม้แต่ในเลอมูเรียเอง ข้าไม่เคยได้รับสิ่งใดที่ดีเลยในชีวิตนี้ผิดกับเจ้านะ ลูเซียน่า ลินดากล่าวอยางท้อแท้และสิ้นหวังในโชคชะตาของตนเอง และรู้สึกเสียความรู้สึกในสิ่งที่ตนทุ่มเทมาทั้งชีวิต "แต่ว่าท่านพี่ท่านเองก็ยังเป็นพี่สาวที่ข้าเคารพรักอย่างมากที่สุด บางทีถ้าท่านได้มีความรักที่ยิ่งใหญ่อย่างพวกนางบ้างท่านอาจจะเข้าใจว่าเหตุใดพวกนางถึงได้เสียสละกันถึงเพียงนั้น หากท่านพี่ได้รู้สึกถึงความรักที่แท้จริงแล้ว ท่านอาจจะคิดว่าทุกสิ่งที่ท่านทุ่มเทลงไปในตอนนี้นั้นเป็นสิ่งที่น่าขันที่สุดสำหรับท่านในอนาคตก็เป็นได้......." ลูเซียน่ากล่าวก่อนที่จะจากไป และปล่อยให้ลินดาอยู่คนเดียวตามลำพัง................................ Title: Re: ประกวด (ความรักของนางเงือก) 2 คือว่าผมแก้ Post by: mastermermaid on August 19, 2007, 07:53:58 PM "สี่วันผ่านไปท่ามกลางมหาสมุทร อันเป็นที่ตั้งแห่งมหาวิหารเทพโพไซดอน
นำตัวนางเข้ามา เสียงเงือกสาวผมสีม่วงอ่อน เอ่ยขึ้นเสียงนางใสราวแก้วที่กระทบกันในงานเลี้ยงรื่นเริงทั่วไปใน แอนดิซอง ริต้า( Rita The Mermaid ) มารีน่า ( Marina The Mermaid ) พวกเจ้าออกไปก่อน ค่ะ เงือกสาวทั้งสองขานรับ เสียงของพวกนางเอง ก็ไพเราะราวแก้วเช่นกัน ไง โรเวนน่า (Rowena , Mermage maiden )ไม่ได้เจอกันซะนานนะ ลินดาเอ่ยทักหญิงสาวผู้ที่อยู่เบื้องหน้าของตน ในวิหารเทพโพไซดอนอันงดงามและสวยหรู ที่ประดับไปด้วยอัญมณีสีฟ้าม่วง ชนิดต่างๆเป็นลวดลายสลักเสลาสวยงามยิ่งนัก ลินดาทักนางราวกับเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมานานนัก ใช่...ไม่ได้พบกันซะนาน จนข้าไม่คิดว่าจะได้มาพบเพื่อนของตัวเอง ในสภาพเช่นนี้ โรเวนน่ากล่าวอย่างผิดหวังที่นางต้องมาเป็นผู้ลงโทษเพื่อนของตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ข้าเป็นนักโทษ ต้องโทษแต่เฉพาะยามราตรี แต่ในยามปกติข้าก็ยังเป็นเพื่อนเจ้าอยู่มิเปลี่ยนแปลง ที่จะมีเปลี่ยนอยู่บ้าง ก็จะมีแค่เปลี่ยนมาอยู่ที่นี่ถาวรเท่านั้น ลินดากล่าวอย่างรู้สึกเฉยเมยต่อการถูกลงโทษในครั้งนี้ อย่างไรก็ดีนางก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดอะไรมากนัก ถึงเจ้าจะมาอยู่รับโทษด้วยการดูแลวิหารเฉพาะยามราตรีเท่านั้น แต่ยามกลางวันเงือกที่อาศัยอยู่ที่นี่จะต้องขึ้นไปข้างบน และเก็บดอกไม้ริมชายหาดต่างๆลงมาที่นี่ด้วย นี่เป็นกิจวัตรประจำวันของที่นี่ เจ้าเป็นเงือกบุคลสำคัญของเลอมูเรีย ให้เจ้ามาคอยต้องทำงานเช่นนี้ ช่างน่าขันนัก แต่มันก็เป็นหน้าที่ ข้าหวังว่าเจ้าคงจะเข้าใจนะลินดา โรเวนน่ากล่าวปลอบใจเพื่อนสนิทอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่นางจะทำได้เ พื่อไม่ให้มิตรสนิทต้องคิดมากกับงานที่ดูไร้สาระเพราะนางรู้ดีว่า ลินดาค่อนข้างมีนิสัยเย่อหยิ่ง นางอาจทนไม่ไหวกับงานเล็กๆน้อยๆแบบนี้ และอาจพลอยอาละวาดขึ้นมา ใส่เงือกตนอื่นที่อยู่ใกล้ๆได้ทุกเมื่อ "ข้าเข้าใจ" ลินดาตอบเสียงเรียบ ดวงตานางหมดความหวัง เมื่ออุดมการณ์ของนางนั้นกลายเป็นความผิด "เช่นนั้นข้าออกไปก่อนเจ้าเองก็เพิ่งจะมาถึง พักผ่อนซะล่ะ"โรเวนน่ากล่าวเพื่อขอปลีกตัวออกมา หวังให้นางได้พักบ้าง "ไม่...ตอนนี้ข้ารู้สึกสับสนข้าอยากทำงาน เผื่อจิตใจข้าอาจจะสงบลงบ้าง เจ้าไปตามนางทั้งสองเมื่อครู่มาหาข้าที ให้พวกนางช่วยพาข้าไปทำงานอะไรก็ได้ทีเถอะ" "เอาอย่างนั้นรึ" โรเวนน่าถามลินดาอย่างเป็นห่วง "ใช่" ลินดาตอบแต่นางหันมองออกไปทางหน้าต่างแทน "ตามใจเจ้า ริต้า มารีน่า เข้ามาหาข้าที" โรเวนน่ากล่าวเรียกเงือกสาวทั้งสองอย่างสุภาพแม้ชนชั้นของนางทั้งสองนั้นจะต่ำกว่า "ท่านโรเวนน่ามีสิ่งใดให้เรารับใช้หรือคะ?" ริต้าถามตามมารยาทที่นางสมควรถามกลับ "นี่คือลินดา แม้นางมาอยู่ใหม่ แต่ประสบการณ์ของนางนั้นเหนือกว่าพวกเจ้ามากนัก ตอนนี้พวกเจ้าช่วย พานางไปทำงานเก็บดอกไม้ข้างบนเพื่อมาสักการะ แด่องค์ โพไซดอนก่อน ส่วนงานอื่นๆ พวกเจ้าก็ค่อยๆสอนนางเอาทีหลังก็แล้วกัน เดี๋ยวข้าจะออกไปข้างนอกสักพัก" "ค่ะ"เงือกสาวทั้งสองขานรับคำสั่ง โรเวนน่ากล่าวคำสั่งต่อเงือกสาวทั้งสองเสร็จก็ หันหลังมามองลินดาที่มองออกไปนอกหน้าต่างอยู่ ก่อนที่จะหันกลับมาแล้วจากไป "พี่ลินดา ข้าชื่อริต้าส่วนนางชื่อ มารีน่า....เอ่อ... ตามพวกเรามาเดี๋ยวข้าจะพาท่านไปเก็บดอกไม้ข้างบน" ลินดาหันกลับมามองเงือกสาวก่อนกล่าวเสียงเรียบแววตาไร้ประกาย "ไปสิ" ลินดากล่าว ผิวน้ำกระจ่างใสใกล้ชายหาดยามนั้นไม่มีผู้คนอยู่แม้แต่ผู้เดียว ใต้ผิวน้ำนั้นแสงสีเขียวมรกตสว่างไสวขึ้น เงือกสาวทั้งสามลอยขึ้นเหนือน้ำอย่างช้าๆ และค่อยๆลอยลงบนพื้นทรายที่ขาวสะอาด ด้วยขาเฉกเช่นเดียวกับขาของมนุษย์ธรรมดา "เจ้าคือมารีน่างั้นสินะ" ลินดาถามเงือกสาวอีกตนด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งตามวิสัยของตน "ค่ะ" มารีน่ากล่าวตอบอย่างนอบน้อมด้วยนางรู้ถึงเกรียติศัพท์ ของเงือกสาวอีกฝ่ายดี "ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนนั้นเคยมีมนุษย์ชาวฟูดินัน มาทอดสมรเรือขวางทางเข้าถ้ำของเจ้า แต่ใยเจ้าถึงปล่อยพวกมันไปรึ ? " ลินดาถามด้วยความสงสัย ด้วยเข้าใจวิสัยเงือกด้วยกันหากเป็นตัวนางเองก็คงไม่ยอมง่ายๆเช่นกัน "เอ่อ.............ค่ะ" ตอนนั้นข้าร้องเพลงทำให้พวกลูกเรือของเขาผู้นั้นหลงใหลจนไม่ได้สตินานติดต่อกันหลายวัน แต่ภายหลังข้ากลับถูกจับได้ แต่เขากลับไม่ทำอันตรายอะไรข้าเลยแม้แต่น้อย ซ้ำเขากลับกล่าวขอโทษข้าอย่างจริงใจเมื่อเขารู้ว่าสมรเรือของเขาทอดลงมาขวางทางเข้าถ้ำของข้า นั่นทำให้ข้าประทับใจมนุษย์เป็นครั้งแรกเพราะนั่นเป็นคุณสมบัติที่หาไม่ได้ในมนุษย์ธรรมดาทั่วไป นางลังเลก่อนตอบโดยรู้ว่าผู้ฟังของนางมีนิสัยรังเกียจมนุษย์อยู่ แต่นางก็กล่าวพลางยิ้มอย่างมีความสุขที่ชีวิตนึงนางได้พบกับชายเยี่ยงนั้น "เขาก็คือเจ้าชายฮารีซันที่สถาปนากรุงมิราบาริสค่ะ" ริต้าตอบแกมแหย่เมื่อเห็นนัยน์ตาหยาดเยิ้มของเพื่อนสาวของตน "อืมชายเช่นนั้นมีอยู่จริงๆรึ" ลินดากล่าวเลื่อนลอยแต่ในความคิดนางกลับสงสัยและปราถนาที่จะได้พบชายแบบนั้นสักครั้งในชีวิต "แต่คราวหลังไม่ต้องเล่าไปพลาง ขวยเขินไปพลาง เช่นนี้อีกนะข้าสะอิดสะเอียน"ลินดากล่าวเพื่อรักษาการวางตัวของนางเมื่อสังเกตเห็นว่าเงือกสาวทั้งสองเริ่มมองกริยาที่เริ่มเปลี่ยนไปจากนัยน์ตาสีฟ้าใสของนาง "พวกเจ้าไปเก็ยดอกไม้เถอะเดี๋ยวข้าจะไปเก็บดอกไม้แถวๆ ชายป่าด้านนั้น" ลินดากล่าวเสร็จก็เลี่ยงตัวไปพลันโดยไม่สนใจเงือกสาวทั้งสอง "ระวังตัวด้วยนะคะหมู่นี้มีเงือกทหารลาดตระเวณ ( Mermaid Warrior ) มารายงานว่าแถวนี้มีสัตว์ร้ายออกมาอาละวาดอยู่บ่อยครั้งนะคะ" ริต้าตะโกนเสียงไล่ตามหลังของลินดาเรื่อยๆจนเสียงนั้นขาดหายไป ลินดาเดินมาถึงชายป่าอีกด้านหนึ่ง ดอกไม้ทะเลงามตามากมายขึ้นแซมกันอยู่สีสันสดใสงามตา ทั้งสีฟ้า ม่วงอมแดง เหลืองทอง และ ขาวบริสุทธิ์ ดูแล้วขวนให้จิตใจอันเย็นชาของนางนั้นเพลิดเพลินไปได้ชั่วขณะเลยทีเดียว บรรยากาศเงียบงันที่สงบนั้นทำให้จิตใจของนางสงบ จนไม่ทันได้สังเกตว่ามีบางอย่างกำลังจ้องมองนางอยู่ไม่ไกลจากตัวนางนัก ฟิ้ว ๆ ๆ ๆ!!!! เสียงพุ่มไม้ขยับไปมา ลินดาเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมานัยน์ตาของนางบัดนี้เต็มไปด้วยจิตสังหารพร้อมที่จะตอบโต้ทุกสิ่งหากนางคิดว่าเป็นศัตรู บรรยากาศสงบนิ่งอีกครั้ง แต่แววตาของลินดายังคงนิ่งดั่งน้ำทะเลในเขตลึกเช่นเดิม เวลาผ่าไปนานหลายอึดใจจนลินดาคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น คงจะเป็นนกกรือหนู อคาแรท ( Aqua Rat) แถวนี้ก็เป็นได้ แต่ฉับพลันที่นางละสายตาจากบรรยากาศโดยรอบ ร่างๆหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่นางอย่างรวดเร็ว จนลินดาไม่ทันได้ตั้งตัวตอนนี้นางกำลังจะเป็นเหยื่อของ งูทะเลที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ ( Aqua Tail Viper ) ในขณะที่เขี้ยวมรณะของงูพิษแห่งท้องทะเล กำลังจะฝังและฉีดพิษลงบนร่างของนาง ฉับพลันชายหนุ่มนิรนามกลับพุ่งเข้ามาขวาง ระหว่างนางกับงูร้ายนั้นอย่างฉิวเฉียด โดยไม่ทันที่นางจะคาดคิด "Mine Mirage!!!" ลินดาได้จังหวะ ในเวลานั้นนางรีบร่ายมนต์ใส่งูยักษ์ทันที มนต์สีม่วงพุ่งเข้าใส่ที่ส่วนหัวของงูยักษ์อย่างรุนแรง งูร้ายสิ้นลมทันทีที่สัมผัสถูกเวทย์ของเงือกสาวผู้มีมนต์แก่กล้า "กร็อบ ๆๆๆๆ" เสียงกระดูกแตกดังสนั่นไปทั่วป่า ทำให้เงือกสาวอีกสองคนที่อยู่บริเวณนั้นรีบมาที่เกิดเหตุโดยทันที "นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ? " มารีน่ากล่าวถามด้วยสีหน้าและแววตาตกใจ เมื่อเห็นงูยักษ์กะโหลกศรีษะบุบเข้าไปอย่างลึกนอนอยู่อย่างแน่นิ่ง ใกล้ๆกับชายรูปร่ากำยำใส่เสื้อสีน้ำตาลอีกคน "อย่าเพิ่งถาม" ลินดากล่าวอย่างร้อนรน " ไปเอาสมุนไพรน้ำทิพย์ ( Aqua Plant ) มารักษาชายผู้นี้เร็ว"ลินดากล่าวอย่างเรวดเร็วท่าทีของนางรีบร้อนเมื่อพบว่าผู้พระมีพระคุณของนางตอนนี้ถูกพิษร้ายจากงูยักษ์จนนอนแน่นิ่งอยู่ เงือกสาวทั้งสองขานรับและรีบไปนำสมุนไพรกลับมาจากบริเวณป่าลึกด้านข้างของชายหาด ลินดารู้สึกสงสัยในการกระทำของชายนิรนามเป็นที่สุด เหตุใดเขาจึงต้องเสี่ยงเพื่อช่วยหญิงที่เขาไม่รู้จักอย่างนาง ทันใดนั้นชายนิรนามก็ขยับร่างอันบอบช้ำทีละน้อย ลินดาเข้าไปประคองด้วยความเป็นห่วงชายผู้นั้นแทบจะทันที "ท่านเหตุใดจึงต้องช่วยข้า เราไม่รู้จักกันเสียด้วยซ้ำ" ลินดากล่าวถามอย่างสงสัยในวิสัยของชายนิรนาม "จะให้ข้า.....แค่ก ๆๆ ......ทนมองดูหญิงสาวต้องตาย...แค่ก ๆๆๆ....ไปต่อหน้าต่อตาข้าได้อย่างไร ข้าเป็นโรคร้ายร่างกายอ่อนแออีกไม่นานก็ตายอยู่ดี แค่ก ๆ.....การที่ข้าได้ช่วยท่านนั่นก็นับว่าข้าได้ทำในสิ่งที่ข้ต้องการเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว" ชายหนุมกล่าวเสียงเบา ปนกับการไออย่างหนัก อาการเขาหนักจนใกล้ที่จะหมดลมหายใจลงไปทุกทีเสียแล้ว "ท่านชื่ออะไร?" ลินดารีบถามชื่อของผู้มีพระคุณต่อนางอย่างร้อนใจ "ข้าชื่อ.... เฟต....เฟต... อาเวเทอลัง... แค่ก ๆ ๆ ๆ... ก่อนหน้านี้ข้าถูกพิษของแมงมุมแม่ม่ายดำ( Dark Widow ) ที่ป่า Black Wood ตอนที่ไปที่ค้าขายอยู่ที่ฟูดีนัน อยู่ก่อนแล้ว อีกไม่นานก็คงต้องตายอยู่ดีท่านไม่ต้องเสียแรงช่วยหรอกนะ แค่ก ๆๆๆๆ.... "แล้วท่านชื่ออะไรรึ? "ชายหนุ่มถามอย่างเหนื่อยอ่อน แต่เขาเองก็อยากรู้ชื่อหญิงเลอโฉมเช่นนางเหมือนกัน "ลินดาข้าชื่อลินดา" ลินดากล่าวเสียสั่นน้ำตาอุ่นๆของนางไหลรินลงบนใบหน้าของเขาอย่างไม่หยุด "อืม" ไพเราะไพเราะมาก........ ชายหนุ่มกล่าวเสียงแหบและเป็นเสียสุดท้ายที่เขาได้กล่าว เขาสิ้นใจลงทันทีอย่างสงบบนตักของเงือกสาวผู้เคยเกรี้ยวกราดต่อมนุษย์แต่บัดนี้นางจิตใจของนางกลับเปลี่ยนไปเปิดใจให้กับมนุษย์อยางเขาโดยไม่รู้ตัว ลินดาสัมผัสได้ถึงความเย็นบนร่างกายของชายหนุ่ม นางไม่รู้อะไรเลยนอกจากชื่อของเขาก่อนที่เขาจะตายลินดาร้องไห้และรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่สามารถช่วยชีวิตของ ชายหนุ่มบนตักของนางได้ บัดนี้นางรู้สึกและเข้าใจกับความเสียสละในความรักของคามีน่าแล้ว เงือกสาวทั้งสองกลับมาพร้อมสมุนไพรน้ำทิพย์แต่ไม่ทันการเสียแล้วชายหนุ่มไม่มีวันหายใจได้อีกตลอดกาล "น้ำตาของเจ้านั้นเป็นรักแท้ใช่หรือไม่ลินดา แม้เป็นรักแรกพบแต่เขาคงทำให้เจ้ารู้จักกับรักแท้ได้ใช่หรือไม่" ลินดาหันไปมองทางเสียงที่พูดสอดเสียดนาง เบื้องหน้านางคือ เอววีร่าในร่างมนุษย์เช่นเดียวกันกับนางไม่มีผิดเพี้ยน "ความรักรึ ?.... ไม่เป็นไปไม่ได้ข้าไม่ได้รักมนุษย์ข้าแค่เสียใจที่เขาต้องมาตายเพราะข้าก็แค่เท่านั้น"ลินดาปฏิเสธ นางยังคงคิดว่านางรู้ใจตัวเองดีเป็นที่สุด "อย่างนั้นรึถ้าข้าทำให้เขาฟื้นได้ แต่เจ้าต้องสละชีวิตของเจ้าเพื่อแลกกับการช่วยเขาเจ้าจะยินยอมรึไม่" เอววีร่าเอ่ยถามอย่างจงใจที่จะวัดความคิดในใจของเงือกสาวจ้าวลีลา แต่ผิดคาดเมื่อสิ่งที่ลินดาตอบนั้น มันผิดกับวิสัยของนาง "ตกลงข้ายินดี"ลินดาตอบอย่างมาดมั่นในทันที ฉับพลันชายหนุ่มกลับฟื้นสติอย่างรวดเร็ว บาดแผลต่างๆและอาการบาดเจ็บของเขา กลับหายอย่างสนิทฉับพลันอย่างน่าพิศวง ทั้งพิษ จากแมงมุมแม่ม่าดำก็กลับหายสลายไปด้วยจนหมดสิ้น แต่รอบตัวเขากลับไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่อีนอกจากงูพิษยักษ์ที่นอนตายอย่างทรมาน เป็นหลักฐานว่าเขาไม่ได้ฝันไปอย่างแน่นอน ณ วิหารเทพโพไซดอน ลินดากำลังจะถูกพิภากษาเนื่องจากนางได้สัญญาว่าจะช่วยมนุษย์หนุ่มโดยแลกชีวิตของนางกับเขา เอววีร่า โรเวนน่า ริต้า และมารีน่า พร้อมทั้ง เงือกพิทักษ์โพไซดอน( Guardain Mermaid Of Poseidon ) อีกแปดนางที่กำลังควบคุมตัวของลินดาอยู่ บัดนี้ทั้งหมดได้มาอยู่ต่อหน้าเทพ โพไซดอน และเทพีเฮร่า ที่อยู่ในกระจกเชื่อมภพบานใหญ่ในวิหาร อย่างพร้อมเพรียงเพื่อรอการตัดสินจากเทพทั้งสอง "ลินดา" เทพี เฮร่าเอ่ยเรียกนาง " ข้าประทับใจมากที่เจ้ามีความรักอันแท้จริงได้เจ้าจะหมดโทษหากว่าเจ้ายอมรับว่าครั้งนี้ว่าเจ้ารักชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตเจ้าไว้" เทพีเฮร่าเอ่ยถายพร้อมทั้งต้องการเปิดโอกาสทางรอดให้กับนาง "ไม่เพคะ" "ข้าไม่มีความรักใดๆต่อมนุษย์ผู้นั้นจะมีก็แต่ความซาบซึ้งในบุญคุณเท่านั้น" ลินดากล่าวตอบด้วยจิตใจที่สับสนจนนางไม่อาจมั่นใจได้ว่านั่นใช่ความรักหรือไม่ "ถ้าเช่นนั้นเจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าเจ้าจะต้องตายตามสัญญาที่เจ้าให้ไว้" องค์โพไซดอนกล่าวแต่แววตาเรียบเฉย " เพคะข้ารู้เพคะ" ลินดากล่าวอย่างหมดหวังในทางรอดแต่นางก็ไม่นึกเสียใจที่จะต้องตายเพื่อช่วยชีวิตของเขา "เช่นนั้นจับนางส่งให้มังกรเลอมูเรียประหารซะ"องค์โพไซดอนกล่าวด้วยสีหน้าคงเดิม "โปรดทรงรอก่อนเถิดเพคะพระองค์ทั้งสอง" ลอว์ร่า( Lorra The Mermage ) กล่าวในทันใดพร้อมกับเข้ามาในลานวิหารอย่างพละการ "บังอาจนัก"เงือกพิทักษ์โพไซดอนกล่าวพร้อมชี้ปลายหอกมาที่คอของเงือกสาวผู้เข้ามาใหม่ "หยุด" องค์โพไซดอนกล่าวปรามทันที เงือกพิทักษ์โพไซดอนนางนั้น จึงลดหอกลง "เจ้ามีธุระอะไรรึ?... รึว่า....ต้องการช่วยพี่สาวเจ้า" องค์เทพีเฮร่ากล่าวอย่างรู้ความต้องการของเงือกอีกฝ่าย "หากเจ้าต้องการเช่นนั้น เจ้าจะต้องแลกชีวิตกับนางนะ เจ้าจะยอมรึไม่" องค์โพไซดอนกล่าวก่อนมองไปที่ลินดา "เพคะ...ข้ายอม" ลอว์ร่า กล่าวออกมาด้วยนางวางแผนลับๆนี้ไว้กับ เอววีร่าและ โรเวนน่าอยู่ก่อนแล้ว "ลอว์ร่า..เจ้า.." ยังไม่ทันที่ลินดาจะพูดอะไรออกมา ลอว์ร่าก็ชิงพูดตัดหน้านางก่อน "ไม่เป็นไรหรอกท่านพี่ข้าพร้อมแลกชีวิตเพื่อท่าน ข้ามีพี่สาวเพียงผู้เดียวข้าไม่ยอมให้ท่านตายหรอก" ลอว์ร่ากล่าวจบก็หันไปสบตากับเงือกสาวทั้งสองผู้วางแผนไว้กับตน "แต่เจ้าเป็นน้องข้านะ ข้าจะให้เจ้ามาตายแทนได้อย่างไร"ลินดากล่าวพลางน้ำตาของนางก็รินไหล "ไม่เป็นไรถึงท่านไม่มีข้าอยู่ แต่ท่านก็มีลูเซียน่าอีกคนที่เป็นน้องสาวของท่าน แม้ท่านจะไม่ค่อยได้พูดจาดีกับนางเท่าไร แต่ข้าก็รู้ ว่าถ้านางรู้ว่าท่านถูกจับอยู่ขณะนี้ นางก็พร้อมที่จะสละชีวิต เพื่อพวกพ้องได้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อข้าทราบข่าวท่าน จากท่านโรเวนน่า ข้าจึงไม่บอกให้นางรู้เพื่อไม่ให้นางมาเสียสละช่วยชีวิตท่านและข้าอีก" ลอว์ร่ากล่าวอย่างน่าเศร้าตามแผนการที่วางเอาไว้อย่างแนบเนียนทุกประการ "ว่าอย่างไรเจ้าพร้อมจะตายแทนพี่สาวเจ้าแล้วใช่ไหม ลอว์ร่า ปล่อยมังกรเลอมูเรียได้" องค์โพไซดอนกล่าวด้วยสีหน้าเมินเฉย เพราะเทพชั้นสูงอย่างพระองค์นั้น ไม่ควรที่จะพูดธุระกับเหล่าเงือกชั้นผู้น้อยเป็นเวลานานเช่นนี้ "เดี๋ยวเพคะ" ลินดาพูดเสียงดังกึกก้องไปทั่ววิหาร "ว่าอย่างไรเจ้ามีอะไรจะพูดอำลากับน้องสาวเจ้ารึ ชีวิตเจ้าได้แลกให้ชายหนุ่มผู้นั้นไปแล้วแลกให้น้องเจ้าอีกไม่ได้เป็นครั้งที่สองหรอกนะ" องค์เฮร่า ทรงถามอย่างรู้ว่านางเงือกสาวจะพูดอะไรออกมา "ข้า......ข้า...ข้ารัก..รักชายผู้นั้นเพคะ" ลินดากล่าวอย่างหมดหนทางเมื่อนางถูกกดดันอย่างไม่มีทางเลือก น้ำตานางไหลราวน้ำตกบนแอนดิซอง "เจ้าว่า......เจ้ารักมนุษย์อย่างนั้นรึ ? " เทพีเฮร่าทรงถามอีกครั้ง "เพคะข้ารักเขาเพคะ" ลินดากล่าวทั้งน้ำตาแม้นางเสียใจที่นางคำพูดของนางนั้นผิดกับอุดมคติที่อยู่ในตัวของนางแต่ภายในใจลึกของเงือกสาวตอนนี้กลับรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด 14 วันผ่านไป ณ ตลาดเมืองท่าแห่งแอนดิซอง "พลั่ก" หญิงสาวผมสีน้ำเงินเข้มเดินชนชายหนุ่มผมดำสวมเสื้อสีน้ำตาลจนหกล้มลงไปกลางตลาดที่มีผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา "เอ่อ"...."ข้าขอโทษ ข้าซุ่มซ่ามเองที่ชนท่านทำให้เสื้อผ้าท่านเปรอะเปื้อนจนหมดข้อขอโทษ" ชายหนุ่มกล่าวขอโทษพร้อมยื่นมือออกไปดึงมืหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน "เจ้า....เอ่อ เจ้าชื่อ...เอ่อ ชื่อ........ ชายหนุ่มจำได้ว่าหญิงสาวนางนี้คือคนที่ให้เขาหนุนตักยามที่เขาไม่ได้สติและมั่นใจว่านางคือคนที่ช่วยชีวิตเขาอีกด้วย "ข้าชื่อลินดา"หญิงสาวตอบอย่างเขินอายเล็กน้อย "ลินดาใช่ลินดา" แล้วทำไมวันนั้นข้าตื่นขึ้นมา เจ้าถึงได้หายไป แล้วทำไมข้าถึงไม่เป็นอะไร แม้แต่บาดแผลก็ไม่มี รึว่าเจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ใช่หรือไม่ "นี่.........ท่านจะให้ข้าตอบท่าน กลางตลาดนี้น่ะรึ ?" หญิงสาวถามท่าทางซุกซนน่ารัก "ข้าว่าท่านพาข้าไปหาของกินกับเดินชมตลาดไปพลางดีกว่าแล้วข้าจะเล่นให้ท่านฟัง"หญิงสาวพูดเชิญชวน ชายหนุ่มรีบตอบรับอย่างดีใจ นัยน์ตาปลื้มปิติเมื่อเขาพบกับหญิงสาว ที่ช่วยชีวิตเขาไว้จริงๆ...ทั้งคู่เที่ยวชมตลาดอย่างสนุกสนานและพูดคุยกันอย่างลึกซึ้งจนถึงเย็น "ลูเซียน่าบัดนี้พี่เข้าใจตามที่เจ้าพูดแล้วว่าสิ่งที่พี่ทำ เหตุใด จึงเป็นสิ่งที่น่าขำสำหรับพี่ในอนาคต......................." Title: Re: [ประกวด] (ความรักของนางเงือก) 2 คือว่าผมแก้ Post by: mastermermaid on August 20, 2007, 03:24:42 AM เอ่อ.....เพิ่มเติมนิดนึงนะคับ
คือคามีน่านี่เป็นตัวละครที่ผมแต่งขึ้นมาเองนะครับไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องโดยตรงนะครับ และก็ไม่มีใน sommoner ด้วยนะครับ แต่เธอเป็น Scarlet Mermaid ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ามีตัวเดียวในโลกรึเปล่า แต่ถ้ามีตัวเดียวงั้นก็ติ๊ต่างให้เธอเป็นลูกพี่ลูกน้อง กับ Scarlet Mermaid ตัวจริงละกันเน้อ...แต่จำได้ว่าเคยอ่านกระทู้เกี่ยวกับ Blue Fin Mermage จำได้ว่าถ้าไม่ได้ระบุชื่อแปลว่าไม่ได้มีตัวเดียวใช่ไหมครับถ้างั้นผมก็โล่งใจ......ขอบคุณครับ (ผมแก้ใส่เนื้อเรื่องทั้งหมดใส่แล้วนะครับเดี๋ยวจะส่งทั้งหมดให้อีกทีนะครับขอบคุณครับ) ชื่อ.. นพรัฐ นามสกุล.. จิตภิรมย์ลาภ ชื่อเล่น.. บอนด์ อีเมล.. Anna-_-narak@hotmail.com Title: Re: [ประกวด] (ความรักของนางเงือก) 2 คือว่าผมแก้ Post by: Nihil on August 20, 2007, 07:56:09 PM โอเคครับ ใช้อันนี้นะ ::013::
|