Summoner Master Forum

Summoner Master => SMN FanCard FanArt & FanFic => Topic started by: Nihil on September 12, 2005, 10:07:19 AM



Title: SYSTEM CODE [SMN] ตอน 2 มาแล้ว!!! ตอน พิธีกรรมเด็ค Loop
Post by: Nihil on September 12, 2005, 10:07:19 AM
fic. ใหม่ ที่ขอนำเสนอ ในแนวแบบแปลก ๆ อ่านจนจบแล้วจะ get เอง ~




SYSTEM CODE SMN
Episode I  La Praelusionis


[PROLOUGE]






เสียงของดาบ การต่อสู้ และการประหัตถ์ประหารกันในสมรภูมิเลือด
การต่อสู้เพื่อชัยชนะ เพื่อเกียรติยศ และแน่นอน เพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป

ผมมีนามว่า “โทไบแอส” (Tobias) ผมเป็น นักสู้ชาวฟูดินัน (Fudenun Battler)
นักสู้ นักรบ นักดาบ ผู้พิทักษ์ นักฆ่า หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่คุณจะเรียก และใช่มันไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก มันไม่สำคัญเท่ากับความจริงที่ว่าผมเกิดมาเพื่อรบ เพื่อต่อสู้ เพื่อสิ่งที่ล้ำค่าที่คู่ควรต่อการปกป้อง ทั้งเพื่อนพ้องร่วมเผ่า ทั้งดินแดนผืนดินนี้ และใช่
รวมถึง “ชีวิตของผมด้วย”

ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ใช่
ผมกำลังต่อสู้ สู้รบอยู่ในสมรภูมิเลือดแห่งนี้ ในสถานที่ที่ถูกเรียกว่าป่าทมิฬ (Black Wood)
และ ใช่ ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ผมยังมีเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่ร่วมเป็นร่วมตายสู้รบในศึกครั้งนี้ด้วย
เพื่อนผมที่ร่วมสู้รบที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขผมจนถึงเมื่อครู่นี้ ใช่ ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายของเขาจะขาดหายไป
จากฝีมือของ “ปีศาจ”

ใช่ คู่ต่อสู้ของผมไม่ใช่ มนุษย์ เซนทอร์ การูด้า หรือแม้แต่พวกเผ่าสมิงในป่าแห่งนี้
หากแต่เป็น “ปีศาจ”   ปีศาจจริง ๆ ตัวเป็น ๆ ที่มิมีผู้ใดรู้ว่ามันมาจากไหน หรือบุกมาที่ฟูดินันนี้ด้วยจุดประสงค์อันใด
แต่อย่างหนึ่งที่พวกเรารู้คือ
“ความมุ่งร้ายของพวกมัน”

ดาบสุดท้ายของผมฟันแหวกผ่าอากาศ ฉีกร่างของพวกมันเป็นชิ้น ๆ จนหมด
แต่ไม่ ฝันร้ายยังไม่จบ

เสียง
เสียงร้อง
เสียงโหยหวน
เสียงร้องโหยหวนที่กรีดร้องดังไปจนถึงจิตวิญญาณ

เสียงที่ดังมาจากส่วนอันมืดมิดของป่า
เสียง……ที่กรีดกระชากวิญญาณของพวกเราลงไปทีละคน

เกรย์ แลนด์ดัส ลูบิดัส จีออฟ และเพื่อน ๆ ผมอีกหลายคนที่ผมยังจำชื่อและใบหน้าของพวกเขาได้
ค่อย ๆ ล้มตายลงทีละคน ๆ ๆ จากเสียงกรัดร้องกระชากวิญญาณนั้น

และ ใช่ ผมก็เป็นอีกคนที่รู้ตัวดีว่าตัวเองก็ไม่อาจยืนยัดต่อต้านเสียงนั้นได้นานนัก
ดังนั้นก่อนที่พวกพ้องของผมจะตายหมด ซึ่งหมายถึงความพ่ายแพ้ของพวกเรา
ผมได้ตัดสินใจวิ่ง วิ่ง เข้าไปในมุมมืดของป่า
วิ่งเข้าไปหาต้นกำเนิดของเสียงกรีดร้องนั้น

ปีศาจ
ใช่ปีศาจ ไม่ซินางปีศาจมากกว่า
นางปีศาจอีกนางหนึ่ง รูปร่างซีดขาวซีดเซียว เสื้อผ้าฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ พริ้วตามลม ดวงตาอันไร้ซึ่งแววใด ๆ
ส่งเสียงกรีดร้องกระชากวิญญาณโหยหวนออกมา

ผมรู้ดีว่าวินาทีนั้นผมควรจะทำอย่างไร
ดาบของผมถูกฟาดฟันลงไปอีกครั้งหนึ่ง โดยมีเป้าหมายที่นางปีศาจตนนั้น

ดาบที่แหวกอากาศฟันออกไปและดูเหมือนมันจะได้ผล นางปีศาจท่าทางบาดเจ็บไม่น้อยแต่มันก็หาหยุดกรีดร้องไม่
กลับกันมันกรีดร้องดังขึ้นกว่าเดิมเสียอีก บางทีอาจเป็นความกรีดร้องที่รวมความแค้นและความเจ็บปวดเข้าด้วยกันไปด้วย
แต่ผมหยุดไม่ได้แล้ว เพราะถ้าผมยังมัวชักช้าอยู่ วิญญาณของผมคงลอยออกจากร่างไปเฉกเช่นคนอื่น ๆ ด้วย

ดาบของผมแหวกอากาศฟันซ้ำลงอีกครั้ง อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าการกระทำเช่นนั้นจะทำให้นางปีศาจหยุดกรีดร้องได้
แต่ก่อนที่ดาบของเขาจะปลิดชีวิตนางปีศาจได้ลง บางสิ่งบางอย่างได้เกิดขึ้น อย่างไม่มีใครคาดฝันมาก่อน
วงเวทย์ขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นล้อมรอบนางปีศาจนั้น และ… สูบวิญญาณของนางปีศาจนั้น !!!!!

แม้ผมจะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนแต่ผมก็เคยได้ยินถึงปรากฏการณ์นี้มาจากผู้เฒ่าวูจิน (Woojin, the Elder)
สิ่งที่คนโบราณเคยทำเพื่อแลกกับพลังอันยิ่งใหญ่ที่มีค่าตอบแทนเหนือสิ่งที่สังเวยไป มันคือการ “บูชายัญ” (sacrifice)

ผมไม่รู้ว่าใครทำเช่นนี้กับนางปีศาจตนนั้น ผมควรจะขอบใจเขาที่ช่วยฆ่ามันให้ใช่ไหม ?
แต่เปล่าเลย ใครบางคนได้ใช้นางปีศาจตนนี้เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง
หมากที่เมื่อหมดประโยชน์ลงแล้วก็ถูกโยนทิ้งอย่างไร้ค่าราวกับเกลือที่ได้สูญเสียความเค็มไปแล้ว ก็ไม่มีค่าอันใดนอกจากจะถูกโยนทิ้งและเป็นที่ย่ำเหยียบ แต่หากจะมีสิ่งใดที่นางปีศาจตนนี้ได้กระทำก่อนจะตายไปละก็ ก็คงเป็นในแง่เหยื่อบูชายัญนั่นเอง

ฝันร้าย
ฝันร้ายที่น่ากลัวกว่าที่ผมเคยเจอมาทั้งหมด
ฝันร้ายที่ยิ่งกว่าสถานการณ์การบุกโจมตีของฝูงปีศาจ
ฝันร้ายที่น่าสยดสยองกว่าเสียงกรีดร้องของนางปีศาจตนนี้

ฝันร้ายที่ก่อตัวเป็นรูปร่างเหนือน่านฟ้าแห่งป่าทมิฬ
ฝันร้าย กับปีศาจขนาดยักษ์สีเขียวที่ผุดขึ้นมาจากนรกผ่านเครื่องสังเวยในการอัญเชิญ

ปีศาจสีเขียวขนาดยักษ์ นัยน์ตาแดง ปากเปิดกว้างกับเคี้ยวที่คมกริบ ขณะที่ร่างกายมีเพียงครึ่งท่อนและถูกพันธนการไว้ส่วนหนึ่งด้วยโซ่สีเงิน ราวกับถูกจองจำในนรกมาอย่างช้านาน และใช่บัดนี้มันได้รับการปลดปล่อยเข้ามาในมิติของโลก Terra ผ่านเครื่องสังเวยนั้นแล้ว

เจ้าปีศาจยักษ์ตัวนั้นขู่คำรามส่งเสียงคุกคามก้องไปทั่วพื้นที่ป่าทมิฬ และ ผืนป่าฟูดินันแห่งนี้
ก่อนจะเริ่มอาละวาดฟาดโซ่ และ แขนอันใหญ่โตของมันไปทั่วผืนป่าแห่งนี้
ผืนป่าทั้งหมดถึงกับสั่นสะเทือน ส่วนผืนดินถึงกับสั่นสะท้าน ราวกับเป็นบทโหมโรงให้กับจุดจบของดินแดนแห่งนี้

ตอนนี้เหลือผมเพียงคนเดียว…
ใช่ ผมรู้ตัวก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อน ๆ ของผมทุกคนได้จากไปหมดแล้ว
และผมเป็นนักรบคนสุดท้าย เป็นความหวังทั้งหมด
เพราะถ้าผมตายลงไปเมื่อไหร่ ย่อมหมายความถึงความพ่ายแพ้ของศึกในครั้งนี้ด้วย
ความพ่ายแพ้ของเผ่า ของเกียรติยศแห่งฟูดินัน และแน่นอนของตัวผมด้วย

ผม
ผม จะถอยไม่ได้แล้ว
ผมต้องไม่ทำให้ทุกสิ่งสูญเปล่าแม้จะเหลือเพียงตัวคนเดียวก็ตาม
ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ ของผมยังอยู่ ยังอยู่ในหัวใจผม และพร้อมที่จะส่งแรงใจให้ผมพิชิตเข้าปีศาจตัวนี้ให้ได้

เมื่อคิดได้ดังนี้ผมตัดสินใจขั้นเด็ดขาดด้วยการหยิบถุงอะไรบางอย่างออกมาจากกางเกง
ถุงที่บรรจุอาคมมนต์ดำที่ได้รับมาจากชาแมนของเผ่า (Fudenun Shaman) ก่อนที่จะมาร่วมรบในศึกครั้งนี้
ถุงที่เป็นความหวังสุดท้ายที่ได้รับกำชับมาว่าให้เปิดตอนวิกฤตจริง ๆ เท่านั้น และนั่นคือเวลานี้แล้ว

ทันทีที่ถุงนี้เปิดออก ก็ปรากฏวงเวทย์ขนาดใหญ่ขึ้นเหนือผม วงเวทย์สีม่วงดำที่หมุนวนไปมาค่อย ๆ กินท้องฟ้ารอบด้านเป็นสีดำพร้อม ๆ กับการปรากฏร่างของบุรุษผู้หนึ่ง ผู้สวมเกราะสีม่วงนั่งบนรถศึก คุมบังเหียนควบคุมม้าฝันร้าย (Nightmare) ให้ควบออกมาจากโลกอันมืดมิดเบื้องหลังนั้น บุรุษผู้นั้นควบรถศึกมุ่งไปข้างหน้า ควบไปบนท้องฟ้ายามราตรี ควบตรงไปหาเจ้าปีศาจยักษ์ตัวนั้น พร้อม ๆ กับได้นำพาแสงสีม่วงตามมาด้วย

แสงสีม่วงนั้นไม่ใช่แค่แสงธรรมดา
แต่เป็นแสงที่เป็นรูปร่างของคน !!!!!!
และรูปร่างของแสงพวกนั้นผมจำได้ดี
ริพอายส์ เลโอนัลด์ จิโอนอร์ส และอีกหลาย ๆ คน
เพื่อนร่วมรบได้เสียชีวิตไปแล้วทั้งหมดจากศึกครั้งนี้
เพื่อนของผมทั้งหมดกลับมาแล้ว กลับมาในรูปวิญญาณงั้นหรือ ?

แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เพื่อนของผมทั้งหมดในรูปของแสงสีม่วงนั้นได้เหาะตามบุรุษผู้ควบรถศึกไปเบื้องหน้า
มุ่งหน้าไปหาเจ้าปีศาจยักษ์ตัวนั้น และ รุมเกาะที่ตัวของมัน
เจ้าปีศาจยักษ์ตัวนั้นพยายามดิ้นพล่าน ฟาดแขนและโซ่ของมันใส่วิญญาณเหล่านั้น แต่กลับไร้ผลจนดูเหมือนว่าทั้งหมดเป็นการดิ้นรนที่เปล่าประโยชน์เสียมากกว่า

ผมเข้าใจดีว่านี่คือโอกาส
โอกาส ใช่ โอกาส
โอกาสแห่งปาฏิหารย์ที่เพื่อน ๆ ของผมสร้างให้กับผม
โอกาสที่ผมไม่มีวันปล่อยไปเฉย ๆ แน่

ผมวิ่ง
เริ่มต้นวิ่งขึ้นอีกครั้ง
วิ่งด้วยความหวังและหัวใจที่เต็มเปี่ยมจนล้นปรี่ราวกับจะบินได้
ขาที่ซอยยิกราวกับมีปีกเล็ก ๆ ติดอยู่
แขนที่เบาราวกับปุยนุ่นและยกดาบขนาดใหญ่ได้โดยไม่รู้สึกหนักอะไรเลย

และแล้วร่างกายที่ได้พลังใจมาเกินร้อยนั้นก็ลอยขึ้นไปในอากาศจากการถีบตัวสุดแรงเกิด
ดาบเหล็กกล้าที่ใหญ่โตที่ถูกยกขึ้นจนสุดแรง และ…….


ฟาดฟันแหวกอากาศลงไปเป็นครั้งสุดท้าย !!!!!!!!!!!!


ราวกับความเงียบก่อนพายุใหญ่ ทันทีที่เสียงแหวกอากาศของดาบที่ฟาดฟันลงไปจบลง
ก็มีเพียงเสียงตกกระทบพื้นของร่างของโทไบแอสเท่านั้น

แสง
แสง
แสงสีขาวกระจายไปทั่วจากร่างของเจ้าปีศาจตัวใหญ่นั้น
แสงที่ทะลุทะลวงออกมาจากทุกส่วนของร่างกายของมันที่กำลังแตกสลายเป็นชิ้น ๆ ราวกับกระจกที่แตกร้าวด้วยความเย็นจัดหลังเจอความร้อน แสงทะลุทะลวงออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดร่างของเจ้าปีศาจนั้นก็แตกสลายเป็นชิ้น ๆ จากการปะทุด้านในของแสงสว่าง และหายไปกับรัตติกาลของป่าทมิฬ

บุรุษเกราะสีม่วงควบม้าศึกกลับเข้าไปในมิติสีดำที่ถูกเปิดออกมาด้วยผลของวงเวทย์มนต์ดำ พร้อม ๆ กับลากพาวิญญาณทั้งหลายกลับไปด้วย  สีหน้าทั้งหมดของดวงวิญญาณเพื่อน ๆ ผมแจ่มชัดจนผมสามารถสัมผัสได้ และใช่ แม้จะไม่มีคำพูดใด  ๆ หลุดออกมาจากปาก แต่ทั้งหมดก็สามารถสื่อออกมาได้โดยไม่ต้องการคำพูดหรือคำบรรยายใด ๆ เลย

เพื่อนทุกคน ผมทำสำเร็จแล้ว ผมปกป้องดินแดนของเราจากพวกปีศาจไว้ได้แล้ว
การสูญเสียทั้งหมดที่ไม่สูญเปล่า เพราะผมผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากศึกในครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้แล้วถึงชัยชนะของพวกเราทุกคน ชัยชนะของชาวฟูดินัน และแน่นอนชัยชนะของผมด้วย !!!!

โทไบแอสถือดาบของเขาทอดไปทางด้านหลัง ก่อนจะค่อย ๆ เดินออกจากสมรภูมิเลือดแห่งนี้กลับไปยังหมู่บ้านของชาวฟูดินัน เพื่อประกาศถึงชัยชนะของทุกคน และแน่นอนต้องแวะขอบคุณแม่หมอชาแมนด้วยถึงของขลังที่เธอได้ให้มา




ไกลออกไป ไกลออกไป ไกลออกไป
ใครบางคนได้ Disconnected ออกจากระบบ ก่อนจะค่อย ๆ เอาร่างกายออกมาจากเครื่องมือกลไกที่รายล้อมรอบตัว
ในสถานที่ที่ดูไฮเทคและเต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย ในโลกที่เหนือกว่าจินตนการ ในยุคของอนาคตอันห่างไกลนั่นเอง ชายผู้นั้นได้หันไปมองยังหน้าจอ screen ที่ได้สรุปผลทั้งหมดออกมา




[Fudenun Battler VS Unholy Gargoyle]
[Fudenun Guard VS Screak]
[Fudenun Battler VS Screak]
Unholy Gargoyle Moved to Shrine
Fudenun Guard Moved to Shrine
Screak Moved to Shrine

Opponent cast [Black Wood Forest]
Unable to attack target in Df Line

[Benshee] combines with Unholy Gargoyle
[Benshee] uses skill [Death Curse]
target [Fudenun Battler] DEAD

Player cast [Holy Prayer] on [Tobias, the Fudenun Battler]
[Tobias] cancel [Death Curse]
[Tobias] attacks [Benshee]
Opponent command [Zophos] uses skill from hand
Sacrifice [Benshee] ; bring Zophos into Arena

Player cast [Hades]
[Player Shrine 14 ; number of seals in shrine = 9]
[Zophos] At – 9 [9 – 9 = 0 ]
[Zophos] At = 0

[Tobias] VS [Zophos]
[Zophos] was defeated…….!!!

YOU WIN !!!!




“เกือบไปเหมือนกัน แต่ดีที่มี Hades เลยผลิกเกมได้ ฟู่ แต่ก็สนุกไม่เลวแฮะรอบนี้ แบบนี้เนื้อเรื่องทางฝั่งฟูดินันก็น่าจะมีผลเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยทีเดียวซินะ หวังว่าอีกไม่นาน point เราคงจะมากพอจะ download Rare Card ใหม่ ๆ มาได้บ้างนะ
ตอนนี้คงไปเชื่อมต่อกับ Cybernetwork [WISER] เพื่อติดตามข่าวสารใหม่ ๆ และ download [Promo Card] ใหม่ ๆ มาก่อนดีกว่า”

ทันที่พูดจบ ชายผู้นั้นก็เดินออกจากห้องเชื่อมต่อ  ห้องที่เชื่อมเข้าสู่โลก [TERRA] ผ่านโปรแกรม [SYSTEM CODE SMN]
เข้าสู่โลกที่มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นจริง

ในโลกที่ข้อมูล DATA ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นตัวละคร คน สัตว์ พืช มังกร แมลง เทพ มาร ตลอดจนสถานที่ อุปกรณ์ เวทมนตร์ คาถา ปรากฏการณ์ทั้งหมดถูกเก็บไว้ในรูปแบบ file ข้อมูลในวัตถุแผ่นข้อมูลที่เรียกว่า [CARD] ผ่านผู้ควบคุมที่เรียกว่า [Player] ควบคุมข้อมูลแต่ละตัวในโลก Terra สร้างเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมาผ่านการดวลในแต่ละ match

นี่คือเรื่องราวของโลกอนาคต
โลกที่ผู้คนสร้างโลกอีกโลกหนึ่งขึ้นมาและควบคุมทั้งหมดในโลกนั้นผ่าน card ข้อมูล


คุณเคยคิดบ้างไหมว่าการเล่นการ์ดของคุณในแต่ละครั้งมีความหมายแค่ไหน
คุณเคยคิดบ้างไหมว่าการเล่นการ์ดของคุณแต่ละครั้งเป็นการสร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่เพียงใด
คุณเคยคิดบ้างไหมว่าชะตาชีวิตของพวกตัวละครในการืดแต่ละใบอยู่ในมือของคุณ
คุณเคยคิดบ้างไหมว่าคุณจะมีอิทธิพลต่อโลกโลกหนึ่งได้ราวกับเป็นพระเจ้า ที่กำหนดเรื่องราวความเป็นไปผ่านการเล่นการ์ดแต่ละครั้งของคุณได้

นี่คือโลกที่การเล่นการ์ดเป็นมากกว่าการเล่นการ์ดธรรมดา
โลกที่ชะตาชีวิต ชะตากรรมของอีกโลกหนึ่งอยู่ในมือของผู้เล่นแต่ละคน
โลกที่ความเป็นไปถูกควบคุมจากอีกโลกหนึ่ง
โลกที่ประวัติศาสตร์ถูกวาดขึ้นมาผ่านการ์ด


นี่คือโลกแห่งระบบ
[SYSTEM CODE SMN]
โลกที่เกิดมาจากการ์ด และทุกอย่างเป็นไปด้วยการ์ด !!!!!!




(http://i6.photobucket.com/albums/y216/Nihilna/systemsmn/systemsmn.jpg)

SYSTEM CODE SMN
Episode I  La Praelusionis



to be continued….





โปรดติดตาม Chapter 1 การเปิดตัวของตัวเอกหนึ่งในผู้สร้างประวัติศาสตร์แห่ง Merrisia ผ่านการเล่นการ์ด ได้เร็ว ๆ นี้



Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: ::Woratana:: The Novelist on September 20, 2005, 04:14:28 PM
หนุกดีนะครับ ชอบพลอต

...ภาพในลายเซ็นสวยอะ


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: - Man!aC - #39 on September 20, 2005, 04:22:03 PM
สนุกดีจิงๆ


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: -Sparrow- on September 20, 2005, 08:24:23 PM
เจ๋งไปเล้ยพี่ลิง ><


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: Nihil on September 21, 2005, 10:31:09 PM
ภาพประกอบบทนำ โดยบักโพล เอามาให้ แทงยู ๆ


(http://www.designparty.com/member/488109/images/TheSaint/st023.jpg)
พระเอกของบทนำ  ฟูดินัน แบ็ทเทิ้ลเลอร์

(http://www.santoninogame.com/yabb/attachments/ep10_1142.jpg)
เทพเจ้าฮาเดส ลาก Zophos ลงหลุมดำ !! จุดผลิกพันของเกม

(http://summoner.deckmagic.com/images2/d/017.jpg)
Holy Prayer ช่วยกู้วิกฤต

(http://summoner.deckmagic.com/images2/d/028.jpg)
เสียงกรีดร้องอันโหยหวน Benshee ที่คร่าชีวิตพวกของ โทไบแอส



ติดตาม chapter 1 ได้เร็ว ๆ นี้


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: ~MerShanDisE~ on September 22, 2005, 12:02:39 AM
แต่งสนุกมาก ๆ เลย ตอนนี้ก็ลุ้นอยู่ว่าเรื่องจะเป็นแนวแข่งการ์ดหรือว่าจะเป็นแนวบรรยายแบบนี้ ติดตามต่อไป :P

ขนาดบทนำก็รู้สึกยาว มาแต่ละบทจะยาวขนาดไหน เหอๆ


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: Moonshiny Doll on October 03, 2005, 03:25:47 PM
สนุกดีครับ เมื่อไหร่จะมาแต่งต่อครับ


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: hakonnen on October 03, 2005, 09:38:18 PM
โอ้วแนวคิด.......บรรเจิดมากครับ จะตามอ่านครับ ;D


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: Nihil on October 04, 2005, 05:36:59 AM
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ  :D
มต่อละ ต่อทีละนิด ลองติดตามกันดูนะครับ ตอนใหม่ขอจับกระแสหน่อย อิ ๆ  ;D

อนึ่งภาพประกอบตอนนี้คือภาพของ คาร์ท ตัวเอกของเรื่อง EP นี้นะครับ






(http://i6.photobucket.com/albums/y216/Nihilna/systemsmn/codesmn01.jpg)




SYSTEM CODE [SMN]
EPISODE PREALUSIONIS

Chapter 1  La Charta




เด็กหนุ่มวัยรุ่นหนึ่งผู้ ผู้มีผมสีทองทรงสั้นตั้ง  ในชุดสูทสีดำสนิท กับหน้าขาว ๆ ใส ๆ แลดูละอ่อนใสน่ารักยิ่งนัก

เด็กหนุ่มได้ล็อคอินเข้าสู่ระบบ [WISER] network… และได้ทำการ download ข้อมูลการ์ดล่าสุดออกมาในทันที

ในห้วงแห่งระบบ [WISER] networking ที่สภาพทัศน์แวดล้อมเป็นเพียงภาพเสมือนสีฟ้าขาวที่เกิดจากการจัดเรียงของข้อมูลได้สร้างภาพเสมือนภาพหนึ่งขึ้นมาบนจอ screen ที่ปรากฏ เผยให้เห็นถึงภาพของวงเวทย์อักขระโบราณขนาดใหญ่

วงเวทย์จากภาพเสมือน 2 วง ที่หมุนวนในรูปแบบลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
วงหนึ่งหมุนวนในสภาพ 2 มิติ แนวนอน อยู่ข้างใต้
ขณะที่อีกวงหนึ่งเป็นรูปแบบ 3 มิติหมุนวนไปมาในสภาพลูกทรงกลมที่ดูราวกับเป็นกรงขังทรงกลมแบบโปร่งแสง
ขณะที่ภายในมีร่างของสิ่งมีชีวิตหนึ่งอยู่
สิ่งมีชีวิตที่มีสีแดงสด รูปร่างเป็นนกที่แสนจะองอาจ ขณะที่ร่างกายกลับเป็นเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ตลอดเวลา

สิ่งมีชีวิตในตำนานที่ถูกเรียกว่า “Phoenix” นั้นปรากฏขึ้นใจกลางวงเวทย์ของภาพเสมือนจากระบบ [WISER] นั้น  และได้ทำการโอนผ่านข้อมูล [DATA] ทั้งหมดออกมาในรูปแบบการ์ด หายเข้าไปในการ์ดของเด็กหนุ่มคนนั้นในบันดล


[GET NEW DATA “CARD”]


Phoenix Sacrificial Circle Treasure 87
Place Mp 5 PA &#61605; Turn
เมื่อ N[Phoenix] เข้ามาในสนาม สามารถนำ Phoenix Sacrificial Circle เข้ามาในสนามจากมือเรา
เมื่อ Phoenix Sacrificial Circle เข้ามาในสนาม เลือกการ์ด 1 ใบในสนามหรือใน Shrine ตราบเท่าที่ Phoenix Sacrificial Circle อยู่ในสนาม ผู้เล่นไม่สามารถสั่งการการ์ดนั้นได้ การ์ดนั้นสูญเสีย Skill และ Ability (ผลจาก Ability นี้ไม่สามารถถูกยกเลิกได้)




เด็กหนุ่มค่อย ๆ Log Out ออกจาก [WISER] net work  กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
โลกแห่งการรับรู้ และ เข้าใจ ผ่านทางประสาทสัมผัส ที่จะว่าไปแล้วแทบจะหาความแตกต่างจากโลกเสมือนจริงใน network หรือใน SYSTEM CODE [SMN] ไม่ได้เลย  จนบางครั้งเด็กหนุ่มก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า

“จริง ๆ แล้ว โลกไหนกันแน่ที่เป็นโลกที่แท้จริง
ในเมื่อความแตกต่างในการรับรู้ของโลกจริงกับโลกเสมือนจริงนั้นมิมีเลย
บางทีโลกที่เขารับรู้นี้ก็อาจเป็นเพียงอีกชั้นหนึ่งของโลกเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นก็เป็นได้
เหมือนกับพวกข้อมูล [DATA] ในการ์ด ที่ไม่รู้ว่าโลกที่พวกตนรับรู้นั้นเป็นเพียงโลกที่ถูกสร้าง ควบคุม และ บงการอีกทีโดยพวกตน

เหมือนกับที่ตัวโปรแกรมไม่รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของโปรแกรมเมอร์
และมนุษย์ที่มิรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของ พระเจ้า”


เด็กหนุ่มตั้งใจจะคิดถึงประเด็นที่รบกวนจิตใจของเขา ณ เวลานี้ต่อ
แต่ทั้งหมดก็ถูกแทรกและรบกวนด้วยเสียงหวาน ๆ ไม่ซิเรียกว่าแจ๋น ๆ จะดีกว่า
เสียงแจ๋น ๆ  ของเด็กสาวผู้หนึ่ง ที่ร้องเรียกหาเขามาแต่ไกล


“คาร์ท คาร์ท เป็นไง download [Promotion DATA] ล่าสุดของเดือนนี้จาก [WISER] network แล้วใช่ไหมมมมม”
เสียงของเด็กสาวเรียกหาเด็กหนุ่ม พร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าของเสียง เด็กสาววัยรุ่นอีกคนที่แต่งกายดูใกล้เคียงกับเด็กหนุ่มนัก เด็กสาวผมสีแดง ในชุดสูท รี่วิ่งตรงเข้ามาหาเด็กหนุ่มที่เธอเรียกว่า “คาร์ท”  ก่อนจะหยิบแผ่นการ์ด [DATA] ข้อมูลในมือเด็กหนุ่มไปดูด้วยความตื่นเต้น และแน่นอนไม่ได้ขออนุญาติเด็กหนุ่มก่อนเลยแม้แต่น้อย

“ว้าวววว นี่มัน Mystic นี่นา เยี่ยมมากเลย ที่สำคัญเล่นกับ Phoenix ได้ด้วย กรี๊ดดดดดดด ดีใจ ดีใจ เข้ากับเด็คฉันได้พอดีเลย กรี๊ดดด!!!”

เด็กสาวแสดงสีหน้าดีใจที่มิอาจซ่อนเร้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนที่การ์ดข้อมูลใบนั้นจะถูกเด็กหนุ่มหยิบกลับไปด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย

“อย่าตื่นเต้นออกนอกหน้าไปซิ รูเซเลีย (Rucelia) ถ้าเธออยากได้ก็ไป download เอาเองซิ ค่าบริการแค่ 30 ออเรียส เอง อย่าบอกนะว่าเธอเอาไปซื้อของกุ๊กกิ๊กจนหมดอีกแล้ว  อ้อ แล้ว Point ของเธอเป็นยังไงบ้างละ เก็บพอจะแลกตัวละครระดับ [LEGEND] ที่เธออยากได้มาบ้างรึยังละ”
เด็กหนุ่มกล่าวกับเด็กสาวที่เขาเรียกชื่อว่า รูเซเลีย ก่อนที่เขาจะรีบเก็บการ์ดข้อมูลใบนั้นใส่ backpack เก็บข้อมูลการ์ด 4 มิติ ที่มีรูปหนูน่ารักน่าเอ็นดูติดประดับอยู่หน้า backpack นั้น

“ว้าา คาร์ทนี่งกจัง ยังดูไม่ทันสะจายยเลยย ชิ เดี๋ยวชั้นไป download เอาเองก็ได้ อยากติดตามเนื้อหาใน [WISER] network ใหม่ ๆ ด้วยละ    ส่วนเรื่อง point นะเหรอ ยังสะสมอยู่เลย  เมื่อเช้าก็เข้าไปสร้างเนื้อเรื่องฝั่งประเทศซาโลมโจมตีเขตชายแดนของฟีเลเซีย เนี่ยเก็บ Point ได้เยอะเลย !!! กะว่าเดี๋ยวบุกครั้งหน้าจะใช้การ์ดข้อมูลใบใหม่ Phoenix Sacrificial Circle นั้นดูแหละ กะจะเอาไปให้ Black Wiser ใช้เป็นแหล่งพลังงานอันไม่จำกัดก็คงไม่เลวนะ  อิ อิ อิ “

เด็กสาว หรือ  รูเซเลีย กล่าวตอบ ก่อนจะบิดตัวหมุนไปมาราวกับจะบอกทุกคนที่อยู่รอบข้างว่าเธอในเวลานี้มีความสุขมากเพียงใด ซึ่งนั่นก็ได้แต่ทำให้เด็กหนุ่มหรือ คาร์ท ถอนหายใจด้วยความหน่ายใจอีกครั้งหนึ่ง



“เออ นี่คาร์ทนายเคยได้ยินเรื่องการเล่นแปลก ๆ บ้างไหม
แปลก ๆ แบบเรื่อง การสร้างเนื้อเรื่องขึ้นมาในสภาพมิรู้จบ”

“มิรู้จบ เธอหมายถึงรูปแบบการเล่นกับข้อมูลในตำนาน ที่เรียกว่า [LOOP DATA] นะเหรอ “
คาร์ทตอบรูเซเลียด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นพอดีกับเรื่องที่เขากำลังสนใจไม่น้อยในช่วงนี้พอดี

“ใช่ รูปแบบการเล่นที่เล่นกับข้อมูลและเวลา
รูปแบบการเล่น Deck Loop ที่ว่ากันว่าชนะได้โดยฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ Input Data เลยแม้แต่ subturn เดียว !!!!!”




to be continued…






ตัวละครที่ปรากฏ


1. Nil de Charta   Fachartabulas
นิล เดอร์ คาร์ต้า   ฟาคาร์ทาบูลัส
อายุ 22 ปี
เด็กหนุ่มผู้เป็นหนึ่งในผู้เชื่อมต่อกับ SYSTEM CODE [SMN] และกำลังต่อเนื้อเรื่องในฝั่งประเทศฟูดินันอยู่ เขาชอบที่จะนำข้อมูล DATA ที่คนไม่ค่อยที่จะสนใจ  DATA ในระดับ UNCOMMON COMMON ที่ใช้ point น้อยในการแลก และมีจำนวนมาก ต่างกับพวก LEGEND ตัวละครหลักในเรื่องที่มีอยู่เพียง [1]  เป้าหมายของเขาตอนนี้คือการนำ DATA ที่คนเมินมาปั้นให้มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจน่าติดตามจนคนอื่นหันมาสนใจเนื้อเรื่องของตัวประกอบเหล่านั้นบ้าง ชื่อเต็ม ๆ ของเขาชื่อว่า นิล เดอร์ คาร์ต้า
แต่เพื่อน ๆ นิยมเรียกเขาว่า คาร์ท มากกว่า

2. Rucelia  Cerubustia
รูเซเลีย เซรูบัสเธียร์
20 ปี
เด็กสาวผู้ร่าเริงแจ่มใสอารมณ์ดีอยู่เสมอ ตัวเธอก็เป็นหนึ่งในผู้เชื่อมต่อ และชื่นชอบ DATA ที่มี Attribute เป็น [FIRE] มากที่สุด ตัวเธอชอบที่จะควบคุมตัวละครหายากระดับ RARE ทั้งหลาย เพราะเธอคิดว่าตัวละครที่โดดเด่น สง่างาม และมีบทบาทมีอิทธิพลอย่างมากต่อโลก TERRA นี่แหละน่าสนใจมากที่สุด ปัจจุบันกำลังเก็บ point เพื่อแลกตัวละครระดับ LEGEND ให้ได้ โดยเป้าหมายสูงสุดของเธอคือแลก LEGENDARY CHARACTER DATA  Nerimor มาให้ได้  (ตัวละครระดับ Legend นั้น สามารถถือครองได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะมีจำนวนจำกัดแค่ 1  ในขณะที่ตัวละครทั่วไปจะผลิตออกมาจำนวนมาก สามารถถือครองได้แทบทุกคน)  ล่าสุด พึ่งต่อเนื้อเรื่องฝั่งซาโลม แข่งการ์ดกับทางฝั่งฟีเลเซียจนชนะได้ พึ่งได้ point มาจำนวนมากจากชัยชนะดังกล่าว









Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: Ak@mu Inzu,The Pugilist on October 04, 2005, 01:28:12 PM
ยอดมากครับพี่ลิง >_<b

ว่าแต่ ถามนอกเรื่องหน่อยได้ป่าวครับว่ามีบอร์ดRPG ของ SMN จริงๆรึเปล่าครับ
(คล้ายFFGN อ่ะครับ)


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: Nihil on October 05, 2005, 08:33:54 PM
ยอดมากครับพี่ลิง >_<b

ว่าแต่ ถามนอกเรื่องหน่อยได้ป่าวครับว่ามีบอร์ดRPG ของ SMN จริงๆรึเปล่าครับ
(คล้ายFFGN อ่ะครับ)

ยังไม่มีอะครับ
หรือภาค 3 ทำเป็น SMGN ไปเลยดี  ;D


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: Nihil on October 09, 2005, 03:58:20 AM
ลืมลงไป ภาพประกอบการ์ดที่มีพูดถึงในตอนนี้ โดยบักโพล

(http://summoner.deckmagic.com/images2/d/092.jpg)
Legendary ในเนื้อเรื่อง Nerimor แห่ง Zalom

(http://summoner.deckmagic.com/images2/d/078.jpg)
นกไฟ Phoenix ที่จะถูกนำไปให้ Black Wiser ใน Zalom Sacrifice

(http://summoner.deckmagic.com/images2/d/041.jpg)
Black Wiser ที่จะจับ Phoenix บูชายัญตามเนื้อเรื่อง


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: NJ_kung on October 09, 2005, 06:52:53 AM
หุๆLoopที่ว่าคนเล่นคงขึ้นต้นด้วยLเปล่าหว่า
ป.ล.ลองพิมพ์Lเเบบไม่เปลี่ยนภาษาสิ


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN]
Post by: Hellish Dragon on October 11, 2005, 12:35:58 AM
พี่ลิงแต่งได้น่าสนใจดีครับ พยายามต่อไปนะครับ ;)


Title: SYSTEM CODE [SMN] ตอน : พิธีกรรมเด็ค Loop
Post by: Nihil on November 03, 2005, 01:39:28 AM
มาต่อตอนเด็ค Loop ตามที่บอกไว้แล้ว อ่านแล้วเดากันออกไหมว่าเป็นการ์ดใบไหนกันบ้าง
รูปประกอบตอนนี้เป็นวงเวทย์ซ้อนกันมิรู้จบสื่อถึงพิธีกรรม Loop ของตอนนี้นี่เอง



(http://i6.photobucket.com/albums/y216/Nihilna/systemsmn/codesmn02.jpg)






SYSTEM CODE [SMN]
EPISODE PREALUSIONIS



Chapter 2  La Sinus








หัวใจเต้นระรัวต่อการประจักษ์ต่อสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า

พิธีกรรมแห่งโบราณกาลอันไร้ขอบเขตที่จักตราตรึงในความทรงจำของผู้พบเห็นมิวางวาย
เพียงชั่วเวลาก่อนที่ตะวันจะเฉิดฉายในชั่วพริบตาของการดำรงหนึ่ง ที่ราวกับเป็นนิรันดรของอีกการดำรงหนึ่ง
การแสดงที่ไร้ที่สิ้นสุด ต่อเนื่อง และ ลื่นไหลราวกันเป็นอุปรากรแห่งทวยเทพที่ถูกรังสรรค์ขึ้นบนผืนโลก

ทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้น กับพิธีกรรมของผู้เชื่อมต่อในชุดดำผู้นี้



มังกร
มังกรแห่งนักบุญ ปรากฏรูปโฉมในมิติที่ 3 ด้วยร่างอันเปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เปล่งประกายรัศมีสีขาวเจิดจ้าไปทั่วโลก Terra
ก่อนที่จะ……….ร่วงโรย ร่วงโรยสาปสูญไปด้วยจุมพิตแห่งความตายกระชากวิญญาณ

ร่วงโรย มลายหายไปจนสิ้น กระจายออกซึ่งแก่นแห่งความศักดิ์สิทธิ์ แปรเปลี่ยนผันกลายเป็นพลังงานจำนวนมหาศาลจากการสังเวยร่างอันศักดิ์สิทธิ์และใหญ่โตมหึมาร่างนั้น



มัจจุราชสีดำโบยบินมาจากฟากฟ้าแห่งรัตติกาล ห่อหุ้มร่างกายด้วยเกราะเหล็กเยี่ยงนักรบ กรีดร้องโหยหวน และนำพาซึ่งจิตวิญญาณอันไกลโพ้น ร่วงหล่นลงกลางวิหารแห่งพิธีกรรม

จิตอันตกค้างของมังกรสำแดงเดช
จากเศษเสี้ยววิญญาณของมหามังกรแห่งนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ยังตกค้างอยู่ในวิหาร
แปรผันหมุนเวียน เปลี่ยนกลับกลายเป็นพลังงานนำพาวิญญาณมาสู่มิติที่ 3 เพิ่มอีก 5 ดวง


จาก 5 ดวงวิญญาณที่ปรากฏ
หนึ่งดวงวิญญาณของผู้หลับใหลในกรอบรูปอันนิทรามิรู้โรย ถูกโยน
โยน โยน….เข้าไปใจกลางวงเวทย์แห่งพิธีกรรม อันประกอบกิจด้วยเจตจำนงของผู้ใช้ความตายในชุดแห่งรัตติกาลสีดำ

สังเวยซึ่งดวงวิญญาณแห่งผู้หลับใหลในกรอบรูป
ชักนำดวงวิญญาณมาเพิ่มอีก 5 ดวง ต่อการสังเวย 1 ดวงวิญญาณของผู้หลับใหล
กับอีกหนึ่งจุมพิต ที่จูบมอบความตาย กระชากวิญญาณของอีกผู้หลับใหลจนมลายสิ้นเหลือไว้แต่เพียงพลังงานที่ตกค้าง
พลังงานอันถูกผู้ประกอบพิธีนำไปร่ายมนตราในพิธีกรรมบทต่อไป



ศพ และ วิญญาณจำนวนมากถูกสังเวยใจกลางวิหารแห่งพิธีกรรม
กับการมาถึงของมนตราโบราณที่ดึงพลังงานทั้งหมดจากศพ และ วิญญาณอันรู้ดับสูญเหล่านั้นมารวมตัวกัน

นางฟ้าตัวน้อยผู้เปียกปอนด้วยวิญญาณแห่งวารี สังเวยดวงวิญญาณแลกเปลี่ยนกับพลังมนตรา
เทวาผู้อำนวยพรชักนำพาดวงวิญญาณดวงใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ในทุกครั้งที่วิญญาณมีการดับสูญมลายหายไป

และพลังงานที่ถูกดึงมาทั้งหมดถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังอาคมในการประกอบพิธีกรรมต่อไปเรื่อย ๆ
พิธีกรรมที่ดูเหมือนจะยาวจนมิรู้จบ ที่ถูกชักนำพาโดย แมวดำต้องคำสาปที่เดินเป็นวงกลมอยู่รอบ ๆ แท่นพิธีกรรม



จนในที่สุดฟ้าสวรรค์มีอันเปิดออก
ทวยเทวดาผู้เยาว์วัยแสดงเจตจำนงโบยบินลงมาจากฟ้าสวรรค์ตามคำเชิญของพิธีกรรมอันมิรู้จบนี้
และราวกับเป็นการเก็บค่าแห่งการดำรงชีวา องค์เทวาน้อยนำหีบสีทองลงมาจากฟ้าสวรรค์ และ เปิดมันออก…..

แสงสีทองอร่ามกระจายไปทั่วท้องฟ้ารัตติกาล ราวกับถูกย้อมด้วยผ้าม่านแห่งสรวงสวรรค์
พลันพลังชีวิตทั้งหลายของผู้ดำรงอยู่โดยรอบนอกจากผู้ประกอบพิธีกรรม พลันถูกดูดหายเข้าไปในหีบนั้นอย่างช้า ๆ
ทีละน้อย อย่างช้า ๆ ทีละน้อย


ทีละครั้ง อย่างช้า ๆ
ทีละน้อย อย่างช้า ๆ


พิธีกรรมที่ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่ออัญเชิญองค์เทวาน้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งหามีพลังงานใดตกค้างหลงเหลืออยู่อีก
หีบสีทองพลันปิด โบยบินหายกลับสู่ฟ้าสวรรค์เบื้องบนพร้อม ๆ กับองค์เทวาน้อย ราวกับเป็นตอนจบของอุปรากรเรื่องนี้

ผู้ประกอบพิธีกรรมยิ้มกริ่มและแน่ใจว่าหามีชีวิตใดเหลือที่จะต่อต้านเขาผู้นั้นแล้วในอาณาบริเวณนั้น

พลังที่หายสาปสูญจนหมดสิ้น มิพอที่จะให้สรรพชีวิตใดดำรงอยู่
พลังชีวิตที่ค้ำจุนที่จางหายไปจนสิ้นนี้ทำให้การดำรงอยู่ที่เหลือหมดสิ้นลงไปด้วย

มิใช่การตาย การทำลาย หรือดับสูญ
หากแต่เป็นการลบเจตจำนงแห่งการดำรงอยู่ของชีวิตทั้งหมดนั้นลงไปกับพลังงานชีวิตที่จางหายไป






“และใช่ ทั้งหมดนั้นคือพิธีกรรมในตำนานที่ถูกเรียกว่า [Loop] พิธีกรรมที่ไร้การต่อต้านที่ชักพาดวงวิญญาณกลับสู่ถิ่นกำเนิด พร้อมทั้งตัดพลังชีวิตออกจากแหล่งพลังงานจนไม่เหลือแม้เศษเสี้ยวที่จะเรียกชีวิต หรือ DATA ใด ๆ ให้ดำรงใน Terra ได้เลย
ใช่ความน่ากลัว และ ความสิ้นหวังนั้นผมยังจำมันได้ดี ของแบบนี้ผมลืมมันไม่ลงหรอก !!!!”
นิล เดอ คาร์ต้า กล่าว พลางหวนคิดถึงความสิ้นหวังยามเผชิญหน้ากับพิธีกรรม Loop เมื่อครั้งกาลก่อน  และย้อนคิดไปถึงผู้เชื่อมต่อผู้หาญกล้าประกอบพิธีกรรมนั้นขึ้นมาในโลกของ Terra  ผู้เชื่อมต่อผู้มีนามเรียกขานว่า “มรดก”

“มันก็ไม่เชิงไร้ทางต่อต้านเอาเสียทีเดียวนะ”
รูเซเรีย พูดแทรกขึ้นมาทำลายห้วงความคิดของ คาร์ท ลงอย่างสิ้นเชิง
คาร์ทเงยหน้าจ้องมองไปยังรูเซเรียด้วยสีหน้าแปลกประหลาดใจ ดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอพูดจะทำให้เขาสนใจได้ไม่น้อยว่ามีวิธีต่อต้านพิธีกรรมโบราณที่ดูไร้เทียมทานและร้ายกาจเช่นนั้นได้ด้วยหรือ ?

“จอมมนต์เพลงนะ”
รูเซเรียกล่าว
“จอมมนต์เพลงศักดิ์สิทธิ์ เฟเร่  ฉันได้ยินมาว่าบทเพลงของเธอผู้นั้นมีอำนาจสยบพิธีกรรมเยี่ยงนั้นลงได้”










to be continued…









Title: Re:SYSTEM CODE [SMN] ตอน 2 มาแล้ว!!! ตอน พิธีกรรมเด็ค Loop
Post by: The Hermit on November 08, 2005, 01:56:41 PM
จากที่อ่านมานะครับ :)
น่าจะมี
- saint dragon
- scaret reaper ?
- seraph portrait
- dark destiny
- gloria

ขอลองอ่านละเอียดๆ+ดู encyclo อีกทีนะคับ  8)


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN] ตอน 2 มาแล้ว!!! ตอน พิธีกรรมเด็ค Loop
Post by: GiantPaladin on November 08, 2005, 04:26:53 PM
จากที่อ่านมานะครับ :)
น่าจะมี
- saint dragon
- scaret reaper ? >>Armored Gargoyle
- seraph portrait >>Portrait pf Sleeper
- dark destiny
- gloria >> Toll
แล้วก็มีใช้ Kiss of Death ด้วยครับ

ขอลองอ่านละเอียดๆ+ดู encyclo อีกทีนะคับ  8)


ตัวเอกอายุ 22 ยังเรียกเด็กหนุ่มอีกเรอะ มันเป็นชายหนุ่มแล้ว!!


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN] ตอน 2 มาแล้ว!!! ตอน พิธีกรรมเด็ค Loop
Post by: Nihil on November 08, 2005, 11:12:27 PM
จากที่อ่านมานะครับ :)
น่าจะมี
- saint dragon
- scaret reaper ? >>Armored Gargoyle
- seraph portrait >>Portrait pf Sleeper
- dark destiny
- gloria >> Toll
แล้วก็มีใช้ Kiss of Death ด้วยครับ

ขอลองอ่านละเอียดๆ+ดู encyclo อีกทีนะคับ  8)


ตัวเอกอายุ 22 ยังเรียกเด็กหนุ่มอีกเรอะ มันเป็นชายหนุ่มแล้ว!!

จะได้ให้ความรู้สึกว่าตัวเองก็ยังเด็กอยู่ด้วยไง  ;D


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN] ตอน 2 มาแล้ว!!! ตอน พิธีกรรมเด็ค Loop
Post by: - Cloudy Wolf - on November 09, 2005, 12:00:20 AM
ชอบมากเลยครับ เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆ สู้ๆนะครับ
 ป.ล.จะออกเปงการ์ตูนป่าวหว่า แอบเชียร์น้อยๆ ;D


Title: Re:SYSTEM CODE [SMN] ตอน 2 มาแล้ว!!! ตอน พิธีกรรมเด็ค Loop
Post by: The Hermit on November 09, 2005, 01:57:49 AM
ไม่เก็ทอ่ะคับ  ???

บางใบผมก็ไม่รู้จักอ่ะคับ >_<
เพราะ หลังๆหา wiser แถวบ้านมะได้ละ :-X
เลยไม่ค่อยรู้ข่าวอะไรเลย